จดหมายเหตุ : เมื่อหม้อข้าวหม้อแกงลิงสุราษฏร์ธานีจะไร้บ้าน
ดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์ เขียน
บทสรุปผู้ไม่อยากอ่านยาว
1. โครงการสร้างเรือนจำที่ จ.สุราษฏร์ธานี จะทำให้ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงสุราษฏร์ธานี (Nepenthes suratensis)สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ
2. การสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ ต้องมาอยู่ในที่เลี้ยง จะทำให้ชนิดพันธุ์นั้นๆเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางใดทางหนึ่ง เนื่องจากขาดแรงกดดันและส่งเสริมตามธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้สูญเสียความหลากหลายทางพันธุกรรมนั้นๆไป
3. การสูญเสียพันธุกรรมของชนิดพันธุ์แต่ละชนิด ทำให้ต้นทุนในการนำความหลากหลายทางชีวภาพของไทยมาใช้ลดลง
4. แบ่งที่ให้ชนิดอื่นๆอยู่บ้างเถอะนะ Homo sapiens
ข่าวโครงการสร้างเรือนจำที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจะทับพื้นที่อาศัยสุดท้ายของต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ผ่านเข้าสมองผมมาเมื่อต้นอาทิตย์ที่ผ่านมาจากบทความของ คุณเพชร มโนปวิตร คงจะไม่ได้เป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไร ถ้าต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ที่ว่าไม่ได้เป็น ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงสุราษฏร์ธานี (Nepenthes suratensis) ซึ่งเป็นชนิด (Species) เฉพาะถิ่นที่พบเฉพาะในพื้นที่ตรงนั้นเท่านั้น มีอยู่ไม่กี่ร้อยต้นในธรรมชาติและไม่มีที่อื่นในโลก ลองนึกว่าปัจจุบันมนุษย์อาศัยอยู่กันทั่วโลกและมีปริมาณกว่า 7,300,000,000 คน กับต้นไม้เฉพาะถิ่นชนิดนี้ที่มีสถานะเป็น ชนิด 1 ชนิดเหมือนกับ Homo sapiens แต่มีที่อยู่แค่ 400 กว่าไร่ ประชากรทั้งหมดแค่ประมาณ 250 ต้นและกำลังจะถูกไล่ที่ให้สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ (Extinct in the wild) จากบ้านที่วิวัฒนาการอาศัยอยู่มาเป็นล้านๆปี มาอยู่ในกระถางหรือหลอดทดลอง ถามว่าการสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ มีผลอย่างไรบ้าง? ในเมื่อเราก็ยังปลูกมันไว้ในกระถางได้ เพาะเมล็ดก็ได้ เพาะเนื้อเยื่อก็ได้ ปลูกที่อื่นก็ได้ จึงอยากอธิบายดังนี้
ในทางวิวัฒนาการแล้ว สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด เกิดมาเพื่อดิ้นรนและอยู่รอด ภายใต้แรงกดดัน การแข่งขัน และ ปัจจัยส่งเสริมที่แตกต่างกันออกไป ที่อ.กาญจนดิษฐ์ มีลักษณะดิน น้ำ ธาตุ และ แสงแดด แตกต่างไม่เหมือนกับที่ใดๆ แต่ละแห่ง แต่ละชนิดมีสภาวะที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ทุกชีวิตต้องปรับตัวเพื่ออยู่ให้รอดในสภาวะนั้นๆ ซึ่งทำให้เกิดการวิวัฒนาการจนสิ่งมีชีวิตมีลักษณะหรือคุณสมบัติเฉพาะที่ไม่เหมือนชนิดอื่นๆ ประชากรที่ยังมีชีวิตอยู่ยังขยายพันธุ์อยู่ ถูกเลือกแล้วว่าจะอยู่รอดอย่างเหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆที่สุดแล้ว ซึ่งก็แน่นอนว่าสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงเสมอ สิ่งมีชีวิตจึงต้องปรับตัวไปตามแรงกดดันนั้นๆ การสูญพันธุ์ไปจากถิ่นอาศัยดั้งเดิม ต้องมาอยู่ในกระถางภายใต้การดูแลของมนุษย์ จะทำให้ชนิดพันธุ์ สูญเสียปัจจัยจำกัดและเกื้อหนุนตามธรรมชาติเหล่านั้น และมีแนวโน้มที่จะสูญเสียคุณลักษณะเฉพาะของชนิดไปในที่สุดหรืออาจจะเลวร้ายกว่านั้น ถ้าหากเราเก็บพันธุกรรมไว้ไม่มากพอ เกิดการผสมพันธุ์แบบเลือดชิดก็จะทำให้สายพันธุ์อ่อนแอลงเรื่อยๆ อาจจะไม่ทนต่อโรคได้โรคหนึ่ง มีความบกพร่องในการผสมพันธุ์ ซึ่งจะทำให้การดูแลและขยายพันธุ์ยุ่งยากขึ้นไปจนอาจะถึงขั้นสูญพันธุ์ไปจากโรคเลยก็ได้
ในทางชีววิทยาแล้วยังมีคำจำกัดความเช่น keystone species หรือชนิดเสาหลัก ซึ่งค้ำจุนระบบนิเวศนั้นๆเอาไว้ ถ้าหากขาดสิ่งมีชีวิตนี้ไปก็อาจจะทำให้สมดุลของระบบสูญเสียจนระบบเปลี่ยนแปลงไป ในสภาพพื้นที่ทุ่งหญ้าน้ำแฉะ ดินมีความเป็นกรดสูง และมีธาตุอาหารต่ำ แบบพื้นที่ๆหม้อข้าวหม้อแกงอาศัยอยู่ เป็นสภาพพื้นที่ๆมีพืชปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก ซึ่งหม้อข้าวฯก็เป็นกลุ่มพืชที่สามารถปรับตัวได้เป็นอย่างดี วิวัฒนาการมาหาธาตุอาหารจากการย่อยสลายซากสัตว์ในหม้อด้วยน้ำย่อยได้ การสูญเสียพืชกลุ่มนี้ไปจากธรรมชาติ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะกระทบต่อระบบนิเวศโดยรวม
ในอีกมุมหนึ่ง เมื่อสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดในแต่ละถิ่นอาศัยมีความแตกต่างกัน การที่จะนำมาใช้ประโยชน์ก็แตกต่างกัน ยกตัวอย่างกล้วยแต่ละชนิดที่บางชนิดก็ใช้กินสุก ทอด ย่าง ใช้ใบตอง หรือ ใช้ปลูกดูสวยๆ ถึงแม้ว่าความแตกต่างของหม้อข้าวหม้อแกงลิงอาจจะไม่มากมายขนาดนั้น แต่ในระดับที่เล็กลงไป ในโมเลกุล ในสารเคมี อาจจะมีความแตกต่าง หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นๆที่อาศัยอยู่ร่วมกับชนิดนี้ทั้งเชื้อราและแบคทีเรีย ก็มีความแตกต่างจากชนิดอื่น ซึ่งเราอาจจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต จึงถือเป็นต้นทุนทางความหลากหลายทางชีวภาพที่ไม่ควรสูญเสียไป
ในปัจจุบันมีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่สูญพันธุ์ไปแล้วจากธรรมชาติแต่ยังเหลืออยู่ในที่เลี้ยง ซึ่งในที่สุดแล้ว ผลสูงสุดของนักอนุรักษ์ทุกคนคือการได้นำสัตว์ที่เคยสูญหายไปจากธรรมชาติ ปล่อยกลับคืนสู่ที่ๆพวกเค้าเคยอาศัยอยู่ ในไทยก็มีตัวอย่างเช่น การปล่อยเนื้อทราย ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจนได้รับการถอดชื่อออกจากสัตว์สงวน หรือในปัจจุบันก็มีการนกกระเรียนไทยซึ่งเคยสูญไปกลับคืนสู่ทุ่ง งานเหล่านี้ใช้ทุนสูง และใช้เวลามาก หรือการเพาะพันธุ์และดูแลสิ่งมีชีวิตสักชนิดในที่เลี้ยงก็ใช้เวลา งบประมาณ และความรู้มาก การเก็บรักษาประชากรดั้งเดิมไว้ตามธรรมชาติ จึงเป็นแนวทางที่ควรกระทำที่สุด โดยควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ในที่เลี้ยงอย่างถูกหลักอนุรักษ์พันธุกรรม
ด้วยเหตุนี้กระผมจึงใคร่ขอวิงวอนกรมราชทัณฑ์กรุณาพิจารณาเปลี่ยนสถานที่ก่อสร้าง หรือเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างเรือนจำที่อ.กาญจนดิษฐ์ ให้สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งได้มีโอกาสอาศัยอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีในถิ่นอาศัยดั้งเดิมของตัวเองด้วยเถิดครับครับ
กรุณาร่วมกันเข้าชื่อรณรงค์ให้มีการทบทวนการก่อสร้างเรื่องจำครับ
Comments
ความคิดเห็น
ความเห็นที่ 1