ความคิดเห็นที่: 20
ผมคลุกคลีอยู่กับงานพวกนี้อยู่บ้าง เพราะผลักดันให้เกิดงานพิพิธภัณฑ์ในโรงเรียน แต่ตัวอย่างในพิพิธภัณฑ์ได้จากรถชน, ไฟช็อต, หมา-แมวกัดตาย, ชาวบ้านทำให้ตายหรือตายธรรมชาติ เราก็เก็บมาสะสมตัวอย่างเป็นตัวแทนในท้องถิ่น ไม่ล่า และฆ่า ถ้าไม่ลงศึกษาจริงจังครับ
มองกรณีว่า การทำร้ายสัตว์ให้ตาย แลกกับคะแนนหรือแลกกับการยอมรับของครู-เพื่อนๆ น่ะ เจตนาไม่ค่อยโปร่งใสนะครับ (ผมมองผิดไปมั๊ย?)
พื้นฐานสัตว์ปีก เราคุ้นๆ กับไก่มากที่สุด แต่ก็ยากเอาการสำหรับคนไม่เคยทำ ถ้าไม่เคยต่อกระดูกไก่มาก่อน ตั้ง แต่การชำแหละ-ฟอกกระดูก-ทำแห้ง-ต่อกระดูก แล้ว
ความเห็นส่วนตัวมองว่า อย่าทำกระดูกนกนะ
ถ้าไม่เคยลองทำกระดูกไก่มาก่อน ไม่ง่ายเลยครับ กระดูกเล็กกว่า, เปราะกว่าแล้วเล็กกว่ามาก ยิ่ง ถ้าไม่มีประสบการณ์แล้วถอดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนหมด
ลงทุนทำให้สัตว์ตายแล้ว ต่อกระดูกไม่สำเร็จนี่ ผมว่า ผิดต่อหลักชีวจริยธรรมแน่ๆ ของพวกนี้ไม่ใช่ของทดลองเล่นด้วย เราควรเคารพต่อ "ชีวิต" ให้ทัดเทียมกับ "องค์ความรู้" ทางวิทยาศาสตร์ ถึงจะเป็นคนละมุมมอง แต่เป็นก็เป็น "ชีวิต" ทั้งสองทาง ทั้งทางรอด และตายเลยนะนั่นน่ะ
ผมก็สอนชีววิทยาให้เด็กๆ จะชอบใจกว่า ถ้ามีกระดูกไก่ - กระดูกเป็ด - กระดูกห่าน - กระดูกไก่แจ้ - กระดูกไก่เตี้ย วางเรียงต่อกัน ครูชีววิทยาก็เอาไปออกแบบการสอนเรื่องวิวัฒนาการสนุกไปเชียวครับ ^..^ ครูคนไหนหยิบมาใช้จัดกิจกรรม ก็อดระลึกถึงไอ้นักเรียนที่รัก ที่อุตส่าห์หลังขดหลังแข็งทำมาส่งนั่นเทียวครับ ส่วนไอ้กระดูกขึ้นหิ้งนี่ ตั้งหมก-ลืมไปสักร้อยปีถึงเพิ่งจะเห็น ก็น่าเสียดาย
แนะนำทางออกเป็น เป็ด กับ ห่าน ก็สนุกแล้ว แถมได้ประโยชน์ทำให้เค๊ามีชีวิตมาสอนรุ่นน้องของเรา ความรู้ยิ่งถูกต่อเติม-ไม่ต้องทะเลาะกับใคร วันไหนองค์ความรู้แก่กล้า ค่อยลงทำวิจัยเป็นล่ำเป็นสัน ฆ่าแบบนี้ สังคมวิทยาศสาตร์ชื่นชมคุณนะ
ถ้าคุณ ptyas ต่อรองกับคุณครูเรื่อง ทำชิ้นงานให้คุณครูไว้เป็นสื่อสอนวิวัฒนาการ แบบนี้ ผมก็ว่า ครูเค๊าก็อิ่มใจแล้วครับ ^..^
แล้วสิ่งดีๆ ที่ได้จากการต่อกระดูก รอให้เราค้นพบอยู่ครับ
...แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 2552 20:49:51
ครูนก..
[ 19 ก.ค. 2552 20:44:16 ]