ช่วยช้างด้วย.... ..เถอะนะ‏

ความคิดเห็นที่: 13

เมล์นี้ ยายอ้วนได้ตอบใครไปหลายคนแล้ว แต่ขอแสดงความคิดเห็นอีกสักครั้ง
เผื่อใครหลายคนที่ยังไม่ได้อ่าน

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า ยายอ้วนเป็นคนสุรินทร์ ที่นอกจากจะรักช้างที่สุดแล้ว
ยังติดตามข่าวคราวเรื่องช้างอยู่ตลอด

คลิป VDO อันนี้มีมานานมากแล้วค่ะ ประมาณเกือบ 10 ปีได้
ตอนที่ดูครั้งแรกเป็นภาพเคลื่อนไหว เห็นแล้วก็นั่งร้องไห้เลย
ทำไมเขาถึงทำกับช้างแบบนี้ แต่พอติดตามข่าว หาที่มาที่ไปเรื่อยๆ
ถึงได้รู้ว่ามันมีการ Make ขึ้นมา

ความจริง ตามจดหมายของคุณโซไรดา ฉบับนี้

หยุดส่งช้างไทยไปต่างแดน !

กรณีพิธีผ่าจ้าน และการส่งช้างไทยไปออสเตรเลีย

เรียน ประชาชนทุกท่านทราบ

ภาพที่ปรากฏในสื่อหลายสาขาในเดือนตุลาคม 2545 ทำให้รันทดใจเป็นที่สุด ภาพการทรมานลูกช้างที่กล่าวถึง เป็นภาพเกินจริงที่ถูกบุคคล และกลุ่มบุคคลพยายามสร้างให้เกิดภาพลบต่อประเทศ ไทยอย่างเด่นชัด

ในระหว่างการประชุมพระราชบัญญัติสัตว์ประจำชาติ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2545 ดิฉันได้รับทราบว่ามีองค์กรต่างประเทศส่งหนังสือถึงสถานทูตไทย พร้อมร่างกฎหมายสำหรับ “ช้างไทย” เป็นภาษาอังกฤษให้ด้วย ดิฉันก็แปลกใจแล้ว และยังแปลกใจมากขึ้นเมื่อได้เห็นภาพวีดีโอ ในวันที่ 20 ตุลาคม 2545 ซึ่ง เป็น VDO เผยแพร่ในประเทศออสเตรเลีย และในเว็บไซท์ไปทั่วโลกประณามประเทศไทย ดิฉันจึงได้ส่งแถลงการณ์ถึงสื่อมวลชน มีใจความสำคัญเป็น 4 ประเด็นดังนี้

เจตนาของการถ่ายทำพิธีฝึกลูกช้างดังกล่าว เพราะการฝึกลูกช้างที่ปรากฏในภาพวีดีทัศน์ (VDO) เป็นการฝึกลูกช้าง 3 เชือก ไม่ทราบว่าเป็นสถานที่ใด ต่างวัน และเวลากันหรือไม่ เพราะตามที่ปรากฏในภาพผู้ที่นำการฝึกเป็นบุคคลคนเดียวกัน มีคณะบุคคล และองค์กรที่ไม่หวังดีต่อประเทศไทย พยายามสกัดกั้นการเติบโตทางอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างเด่น ชัด ผู้ที่ดำเนินการดังกล่าวมีเจตนาประการใดต่อการช่วยเหลือช้างในประเทศไทย ถูกว่าจ้างมาจากผู้ใด องค์กรใดหรือไม่ เพราะผู้ทำทำงานต่อสู้เรื่องช้าง และผลักดันให้มีกฎหมายเฉพาะเรื่อง “ช้าง” คือมูลนิธิเพื่อนช้าง ซึ่ง ขณะนี้ภาครัฐ ได้ยกร่าง พรบ.ช้าง ขึ้นมาพิจารณาอยู่ และยังไม่ได้ข้อยุติ การกระทำทารุณกรรมสัตว์ทุกประเภท ไม่ แต่เฉพาะช้างเป็นเรื่องที่สมควรหยุดยั้งทั้งสิ้น

และเมื่อดิฉันส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปศึกษาข้อเท็จจริงในพื้นที่ในอีกไม่กี่ วันต่อมา ก็ปรากฏชัดเจนว่า มีบุคคลผู้หนึ่งได้ทำการนัดหมายชาวบ้านที่เป็นเจ้าของช้าง เพื่อทำพิธีผ่าจ้าน และบันทึกภาพ โดยมีการตะโกนบอกให้ตีช้างแรงๆ ด้วย การกระทำดังกล่าวของบุคคลผู้นี้เป็นเรื่องไม่เหมาะสม สมควรได้รับการตำหนิ และลงโทษ อย่างไรก็ตาม ดิฉันในนามมูลนิธิเพื่อนช้างพร้อมผู้ประกอบการปางช้างจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2545 ที่สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และลูกชายเจ้าของช้างที่ปรากฏในวีดีโอได้มาร่วมแถลงความจริงทั้งหมดด้วยแล้ว

พิธีผ่าจ้านเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อแยกลูกช้างออกจากแม่ตามประเพณี และทำการฝึกให้ลูกช้างรู้จักเชื่อฟังคำสั่งเพื่อความปลอดภัยของช้าง และคน แต่การฝึกเพื่อให้แสดงผาดโผน เป็นอันตราย และฝึกอย่างทรมานต่อช้าง ฯ ลฯ นั้นเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มูลนิธิเพื่อนช้างเรียกร้องให้ยุติ

พิธีผ่าจ้านนั้นเป็นประเพณี ใช้ไก่ในการเสี่ยงทาย ผู้ประกอบพิธีจะใช้ไม้ไผ่ตีเบาๆ ที่ตัวแม่ช้างหนึ่งที และตีเบาๆ ที่ลูกช้างอีกหนึ่งที หลังจากนั้นจะฉีกไม่ไผ่ออกเป็นสองซีก โยนแยกไปคนละทาง เป็นการเสร็จพิธีแยกลูกช้างออกจากแม่ช้าง หลังจากนั้นจะนำลูกช้างเดินแยกออกไปเพื่อไปพบกับควาญใหม่ที่จะดูแลลูกช้าง แทนแม่ช้าง และจะดำเนินการสอนลูกช้างให้เข้าใจคำสั่งซึ่ง มีเพียง 20 กว่าคำสั่ง อาทิ หยุด อย่า นอนลง เดิน ยกขา ถอยหลัง เป็นต้น การฝึกนี้เป็นการสอนลูกช้าง ไม่ให้ใช้งวงตีใคร หรือเตะใคร ซึ่ง จะเป็นอันตรายต่อคนเลี้ยง การแถลงข้อเท็จจริงทำให้ดิฉันถูกองค์กรต่างประเทศฟ้องคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาท ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ และต่อมาได้ถอนฟ้องเมื่อเดือนมิถุนายน 2547

นอกจากนี้มูลนิธิเพื่อนช้างยังต่อต้านการนำช้างไทยไปต่างแดนมาตั้ง แต่เริ่ม ก่อตั้งมูลนิธิฯ ในปี 2536 และการที่กลุ่มบุคคลบางกลุ่ม และภาครัฐยังคงเอื้อต่อการอนุญาตนำช้างไทยส่งไป ยังสวนสัตว์ต่างๆ นั้น จึงเป็นเรื่องน่าหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่ง ช้างบางส่วนยังถูกนำไปแสดงในละครสัตว์ในต่างประเทศด้วย ส่วนช้างในสวนสัตว์นั้น ถึงแม้จะมีการอวดอ้างว่าได้จัดสถานที่ และอาหารให้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากช้างเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ต้องการพื้นที่บริเวณกว้างในการอยู่อาศัย และอาหารของช้างตามธรรมชาตินั้นมีความหลากหลาย การกินอาหารอย่างเดียวกันเป็นระยะเวลานานนั้นเป็นผลต่อเสียต่อสุขภาพช้าง และสำคัญคือภูมิอากาศ และอุณหภูมิที่มีผลต่อสุขภาพช้างเป็นอย่างมาก และตลอดจนช้างแสดงที่เร่แสดงตามสถานที่ต่างๆ ซึ่ง เป็นการแสดงเพื่อให้ผู้ชมพึงพอใจนั้นส่วนมากจะเป็นอันตรายต่อร่างกายของ ช้าง เช่น การยกขาหน้าตีลังกา และการแสดงผาดโผนต่างๆ ก่อให้เกิดทุกขเวทนาต่อช้างไทยเป็นอย่างยิ่ง ดิฉันมั่นใจว่าเราชาวไทยนั้นมีเมตตาต่อช้างเป็นอย่างยิ่ง การเอื้อให้มีการนำช้างออกจากป่ามาจดทะเบียนเป็นช้างบ้านจึงเป็นเรื่องที่ สมควรได้รับการประณาม และเอาผิดทางกฎหมาย แต่ทางภาครัฐยังคงนิ่งเฉยต่อกระบวนการที่จะให้มีการตรวจสอบถึงแหล่งที่มาที่ แท้จริงของช้างทุกตัว ทั้งนี้มูลนิธิเพื่อนช้างยังเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียนช้าง ทั่วประเทศใหม่

อย่างไรก็ตาม ช้างไทยยังคงตกเป็นเหยื่อของคนบางกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง มูลนิธิเพื่อนช้างจึงขอเรียกร้องให้ภาครัฐยุติขบวนการค้าช้างเหล่านี้เสีย ให้จงได้ ยุติการนำช้างมาเร่ร่อนขอทาน ซึ่ง เป็นภัยต่อช้าง และต่อสาธารณะชนโดยรวม ยุติการส่งช้างไทยไปต่างแดนโดยเด็ดขาด

จึงเรียนมาเพื่อความเข้าใจอันดี และกรุณาเป็นกำลังใจแก่ “เพื่อนช้าง” ด้วยค่ะ

นางสาวโซไรดา ซาลวาลา

ผู้ก่อตั้ง/กรรมการ และเลขาธิการ

มูลนิธิเพื่อนช้าง

16 สิงหาคม 2549

...แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 2552 10:40:10

ยายอ้วน [ 28 ก.ค. 2552 10:35:16 ]

กระทู้-12700 : ช่วยช้างด้วย.... ..เถอะนะ‏

ช่วยช้างด้วย.... ..เถอะนะ‏

- ปิดกระทู้ -


	ช่วยช้างด้วย.... ..เถอะนะ‏ หลายวันก่อนรับเมลล์จากเพื่อนคนหนึ่งเห็นชื่อแล้วตกใจมากครับ อย่างไรก็ขออนุญาติท่านที่เป็นเจ้าของภาพด้วยนะครับ ถือว่าเอามาดูเป็นกรณีศึกษาก็แล้วกันนะครับ ลูกช้างไทยถูกทารุณกรรม เพื่อธุรกิจการท่องเที่ยว heterometrus_sp [ 27 ก.ค. 2552 23:07:21 ]


	ความคิดเห็นที่: 1 1. เหตุใดลูกช้างเชือกนี้ ส่งเสียงกรีดร้อง ?....... 2. ช้างพังเชือกนี้ มีอายุเพียง 3 ปีเท่านั้น แต่ถูกพรากมาจากแม่ของเธอ heterometrus_sp [ 27 ก.ค. 2552 23:09:11 ]


	ความคิดเห็นที่: 2 3. ชาวบ้านดึงลูกช้างที่กำลังดิ้นรนให้เข้าไปในลังไม้เล็กๆ ซึ่ง มีขนาดใหญ่กว่าตัวลูกช้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 4. ขาหน้า และขาหลังของเธอถูกมัดด้วยเชือกเพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนไหว heterometrus_sp [ 27 ก.ค. 2552 23:10:12 ]


	ความคิดเห็นที่: 3 5. ลังไม้มีขนาดเล็กมากเธอจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และเธอจะถูกขังอยู่ในลังไม้นี้เป็นเวลานานอีกหลายวัน โดยไม่ได้กินอาหาร ดื่มน้ำ หรือแม้ แต่นอนหลับ 6. ชาวบ้านผลัดเปลี่ยนกันเฆี่ยนตีเธอบนขาทั้งสองข้าง บนเนื้ออ่อนระหว่างเล็บเท้า และทั่วร่างกายอย่างไม่ปราณี heterometrus_sp [ 27 ก.ค. 2552 23:11:20 ]


	ความคิดเห็นที่: 4 7. ภาพนี้จะเห็นชายคนหนึ่งฟันคมตะขอจมลึกลงในศรีษะลูกช้างพัง ก่อนแทงไม้แหลมลงในบาดแผลนั้น 8. ความเจ็บปวดสุดที่เธอจะทนทานได้ เธอรู้สึกอ่อนเพลียอย่างที่สุด เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด และรู้สึกสับสน คุณเพิ่งได้เห็นพิธีกรรม " ผ่าจ้าน " ซึ่ง เป็นพิธีกรรมฝึกหัดช้างในประเทศไทย เพื่อที่จะนำช้างมาใช้ในธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย heterometrus_sp [ 27 ก.ค. 2552 23:13:21 ]


	ความคิดเห็นที่: 5 โดยปกติแล้ว พรานที่ล่าสัตว์อย่างผิดกฎหมายจะฆ่าแม่ช้างเพื่อขโมย และนำลูกช้างมาฝึกให้เชื่อง ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยว่า “ พรานล่าสัตว์อย่างผิดกฎหมายจำเป็นต้องฆ่าแม่ช้าง เพราะช้างมีความผูกพันทางจิตใจที่แน่นแฟ้น และไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ลูกของตน … ลูกช้างจะไม่ตามช้างอื่นๆ ไปกับฝูง แต่ยังคงดูดนมแม่ของตนที่ตายไปแล้ว ” ทารุณกรรมที่น่าสะพรึงกลัวที่กระทำกันอยู่เป็นประจำ และแพร่หลายใน ค่าย “ ฝึกหัด ” ลับต่างๆ ในประเทศไทย ลูกช้างที่ยังไม่อดนมแม่เหล่านี้ ได้ถูกลากไปจากแม่ของตน ซึ่ง ทำให้ต้องดิ้นรน และกรีดร้อง ลูกช้างได้ถูก นำมากักขังไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว ถูกเฆี่ยนตีอย่างเมามัน และถูกตอกด้วย ตะปูเป็นเวลาครั้งละหลายๆ วัน พิธีการ “ ฝึกหัด ” เหล่านี้ทำให้ลูกช้างได้ รับบาดเจ็บอย่างสาหัส รวมทั้งความชอกช้ำทางจิตใจ หรือบางครั้งทำให้ถึงแก่ความตาย heterometrus_sp [ 27 ก.ค. 2552 23:14:09 ]


	ความคิดเห็นที่: 6 ทำไมต้องล่าลูกช้างป่า ? ขบวนการล่าช้างป่าเริ่มต้นจากนายทุนมีใบสั่งซื้อไปยังพรานล่าช้าง ข้อมูลจากกองทุนสัตว์ป่าโลก รายได้จากการล่าลูกช้างป่าอยู่ที่ 20,000 บาทต่อตัว เพื่อนำมาขายในราคาตัวละ 100,000 - 150,000 บาท แล้ว แต่ความสดของลูกช้างป่าตัวนั้นๆ กรณีที่ช้างบาดเจ็บจะได้ราคาน้อยลงไปอีก เมื่อล่าได้แล้วก็นำมาขายต่อยังตลาดหลายๆ กลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มนายทุนเจ้าของปางช้าง โรงแรม หรือรีสอร์ท ซึ่ง ให้ราคาสูง และสั่งเป็นจำนวนมากกว่าตลาดกลุ่มอื่น heterometrus_sp [ 27 ก.ค. 2552 23:17:18 ]


	ความคิดเห็นที่: 7 ถ้ามีข้อมูลใดผิดพลาดไปหรือไม่เป็นความจริง ก็ขออภัยด้วยนะครับ เป็นแค่คนบางกลุ่มเท่านั้นมิได้จงใจที่จะพลาดพิงใครครับ เป็นความรู้สึกส่วนตัวครับที่ไม่อยากเห็นคชสารที่เคยเป็นที่ประทับของราชากลายเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ที่ถูกลากจูงเหมือน........ออกหากิน สงสารครับ......น้ำตาซึม ...แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 2552 23:22:33 heterometrus_sp [ 27 ก.ค. 2552 23:21:03 ]


	ความคิดเห็นที่: 8 ผมเคยดูสารคดีแล้วครับแบบนี้ การทำร้ายลูกช้างแบบนี้นี้ก็เพื่อให้มันยอมเชื่อฟังคน มีการร้องกรอกหูช้างข่มขวัญ ให้มันกลัว และการกระทำอีกสารพัดให้มันเจ็บเพื่อให้มันยอมเชื่อฟัง นับว่าเปนการกระทำที่โหดร้ายทารุณมากกกกก ไม่มีคำพูดมากกว่านี้ครับนอกจากคำเดียวที่พูดได้......สารเลววววววววววววววววว......มากๆ (ขอเหอะครับดูแล้วขึ้น) Slimjim [ 28 ก.ค. 2552 04:10:51 ] bugbee2008@windowslive.com


	ความคิดเห็นที่: 9 น่าสงสาร Y_Y ทำไมไม่ฝึกแบบการให้รางวัล แบบพอฝึกแล้วทำตามคำสั่งก็ให้กินกล้วยอะไรแบบเนี่ย mirror man [ 28 ก.ค. 2552 09:34:24 ]


	ความคิดเห็นที่: 10 เดี๋ยวจะยาวนะครับกระทู้นี้ เท่าที่อ่านมา การฝึกช้างต้องทำให้ช้างเจ็บ(มาก)+จำ จึงจะฝึกได้นะครับ ภาพจาก FW Mail มักเกินจริงเสมอครับ คำบรรยายกับภาพ มักไม่ตรงกันครับ ไม่ใช่อะไรก็ FW Mail conti [ 28 ก.ค. 2552 10:07:19 ]


	ความคิดเห็นที่: 11 จากเมลล์นี้ จากภาพที่เห็น เป็นใครก็อดที่จะสงสารช้าง หรือรู้สึกกับการกระทำแบบนี้ แต่ เราต้องรับฟังความคิดเห็นทั้ง 2 ฝ่าย ให้อีกฝ่ายมีสิทธิชี้แจงบ้าง มันอาจจะไม่โหดร้ายอย่างที่คิดก็ได้ พิธีผ่าจ้าน เป็นประเพณีตั้ง แต่โบร่ำ โบราณแล้ว มีหลายขั้นตอน คุณ และผมก็ยังไม่เคยเห็นพิธีกรรมนี้จริงๆ หรือท่านไหนเคยเห็นช่วยอธิบายหน่อยก็ดีครับ อีกอย่างเมลล์นี้เข้าใจว่าเป็น FW.mail ความเชื่อถือต่ำ อย่ามัว แต่มาประณามกันเลยครับ ยังไงก็ช้างไทย คนไทย เราควรจะหาทางช่วยเค้าต่างหาก หากเรื่องที่เกิดขึ้นมันทารุนมาก แบบนี้ไงผมถึงไม่ชอบ หมีแพนด้า (ยาวไปโน้น) เรื่องดีๆ ของช้างมีตั้งเยอะตั้งแยะ ไม่เห็นจะเป็นข่าวครึกโครมบ้าง ทีแบบนี้ เป็นข่าวดีกันจัง electron [ 28 ก.ค. 2552 10:11:37 ]


	ความคิดเห็นที่: 12 ผมเคยดูรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งนานแล้วจำไม่ได้ว่ารายการอะไร เคยไปถ่ายภาพพิธีผ่าจ้านมาให้ดูครับในหมู่บ้านช้างแถวๆ สุรินทร์นี่แหละก็ไม่ได้ดูน่ากลัวแบบนี้นะ เค้าก็ให้เหตุผลในการทำให้มันเจ็บว่ามันจะจำโดยเค้าก็จะมีหมอช้าง และควาญช้างที่จะดูแลช้างเชือกนั้นๆ เป็นผู้ทำเพื่อช้างจะได้จำเจ้าของได้ และเชื่อฟัง เมื่อช้างโตขึ้นจะได้ควบคุมได้ ส่วนช้างเจ็บมั้ย เค้าบอกว่าช้างมีผิวที่หนาการที่เค้าใช้ขอสับลงไปเราอาจเห็นช้างมีเลือดออก แต่เค้าบอกว่าช้างจะรู้สึกเจ็บเหมือนเราถูกมดกัดครับ แต่ภาพดูน่ากลัว ซึ่ง จริงๆ เราก็ไม่รู้ว่ามันเจ็บแค่นั้นจริงหรือเปล่า พิธีจริงๆ ผมก็ยังไม่เคยเห็น เคยเห็นผ่านรายการโทรทัศน์นี่แหละเลยเอามาเล่าให้ฟังครับ ช้างที่ผ่านพิธีนี้แล้วเมื่อโตขึ้นก็จะจำคำสั่งของควาญช้างได้ เมื่อโดนขอสับลงไปตำแหน่งใดก็จะรู้ทันทีว่าต้องทำอะไรครับ เหมือนการฝึกสุนัขที่ต้องให้เจ้าของไปร่วมสั่งสุนัขด้วย บางครั้งไม่ต้องใช้สัญญาณเสียงแค่กระตุกโซ่ที่ใช้คล้องคอสุนัขเมื่อสุนัขเจ็บก็จะรู้ว่าต้องทำอะไร ตำแหน่งที่ดึงโซ่ก็ต่างกันเมื่อสุนัขคุ้นกับโซ่แล้วถึงจะใช้สัญญาณเสียง และมือครับ อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเอาสุนัขไปฝึกับโรงเรียนสุนัขตำรวจครับ ตะขาบยักษ์ [ 28 ก.ค. 2552 10:27:41 ]


	ความคิดเห็นที่: 14 ข้อมูล "ผ่าจ้าน" เพิ่มเติม http://www.pantown.com/board.php?id=3854&area=1&name=board3&topic=1&action=view http://www.lannaworld.com/story/narrative/narrative34.php ยายอ้วน [ 28 ก.ค. 2552 10:37:57 ]


	ความคิดเห็นที่: 13 เมล์นี้ ยายอ้วนได้ตอบใครไปหลายคนแล้ว แต่ขอแสดงความคิดเห็นอีกสักครั้ง เผื่อใครหลายคนที่ยังไม่ได้อ่าน ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า ยายอ้วนเป็นคนสุรินทร์ ที่นอกจากจะรักช้างที่สุดแล้ว ยังติดตามข่าวคราวเรื่องช้างอยู่ตลอด คลิป VDO อันนี้มีมานานมากแล้วค่ะ ประมาณเกือบ 10 ปีได้ ตอนที่ดูครั้งแรกเป็นภาพเคลื่อนไหว เห็นแล้วก็นั่งร้องไห้เลย ทำไมเขาถึงทำกับช้างแบบนี้ แต่พอติดตามข่าว หาที่มาที่ไปเรื่อยๆ ถึงได้รู้ว่ามันมีการ Make ขึ้นมา ความจริง ตามจดหมายของคุณโซไรดา ฉบับนี้ หยุดส่งช้างไทยไปต่างแดน ! กรณีพิธีผ่าจ้าน และการส่งช้างไทยไปออสเตรเลีย เรียน ประชาชนทุกท่านทราบ ภาพที่ปรากฏในสื่อหลายสาขาในเดือนตุลาคม 2545 ทำให้รันทดใจเป็นที่สุด ภาพการทรมานลูกช้างที่กล่าวถึง เป็นภาพเกินจริงที่ถูกบุคคล และกลุ่มบุคคลพยายามสร้างให้เกิดภาพลบต่อประเทศ ไทยอย่างเด่นชัด ในระหว่างการประชุมพระราชบัญญัติสัตว์ประจำชาติ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2545 ดิฉันได้รับทราบว่ามีองค์กรต่างประเทศส่งหนังสือถึงสถานทูตไทย พร้อมร่างกฎหมายสำหรับ “ช้างไทย” เป็นภาษาอังกฤษให้ด้วย ดิฉันก็แปลกใจแล้ว และยังแปลกใจมากขึ้นเมื่อได้เห็นภาพวีดีโอ ในวันที่ 20 ตุลาคม 2545 ซึ่ง เป็น VDO เผยแพร่ในประเทศออสเตรเลีย และในเว็บไซท์ไปทั่วโลกประณามประเทศไทย ดิฉันจึงได้ส่งแถลงการณ์ถึงสื่อมวลชน มีใจความสำคัญเป็น 4 ประเด็นดังนี้ เจตนาของการถ่ายทำพิธีฝึกลูกช้างดังกล่าว เพราะการฝึกลูกช้างที่ปรากฏในภาพวีดีทัศน์ (VDO) เป็นการฝึกลูกช้าง 3 เชือก ไม่ทราบว่าเป็นสถานที่ใด ต่างวัน และเวลากันหรือไม่ เพราะตามที่ปรากฏในภาพผู้ที่นำการฝึกเป็นบุคคลคนเดียวกัน มีคณะบุคคล และองค์กรที่ไม่หวังดีต่อประเทศไทย พยายามสกัดกั้นการเติบโตทางอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างเด่น ชัด ผู้ที่ดำเนินการดังกล่าวมีเจตนาประการใดต่อการช่วยเหลือช้างในประเทศไทย ถูกว่าจ้างมาจากผู้ใด องค์กรใดหรือไม่ เพราะผู้ทำทำงานต่อสู้เรื่องช้าง และผลักดันให้มีกฎหมายเฉพาะเรื่อง “ช้าง” คือมูลนิธิเพื่อนช้าง ซึ่ง ขณะนี้ภาครัฐ ได้ยกร่าง พรบ.ช้าง ขึ้นมาพิจารณาอยู่ และยังไม่ได้ข้อยุติ การกระทำทารุณกรรมสัตว์ทุกประเภท ไม่ แต่เฉพาะช้างเป็นเรื่องที่สมควรหยุดยั้งทั้งสิ้น และเมื่อดิฉันส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปศึกษาข้อเท็จจริงในพื้นที่ในอีกไม่กี่ วันต่อมา ก็ปรากฏชัดเจนว่า มีบุคคลผู้หนึ่งได้ทำการนัดหมายชาวบ้านที่เป็นเจ้าของช้าง เพื่อทำพิธีผ่าจ้าน และบันทึกภาพ โดยมีการตะโกนบอกให้ตีช้างแรงๆ ด้วย การกระทำดังกล่าวของบุคคลผู้นี้เป็นเรื่องไม่เหมาะสม สมควรได้รับการตำหนิ และลงโทษ อย่างไรก็ตาม ดิฉันในนามมูลนิธิเพื่อนช้างพร้อมผู้ประกอบการปางช้างจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2545 ที่สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และลูกชายเจ้าของช้างที่ปรากฏในวีดีโอได้มาร่วมแถลงความจริงทั้งหมดด้วยแล้ว พิธีผ่าจ้านเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อแยกลูกช้างออกจากแม่ตามประเพณี และทำการฝึกให้ลูกช้างรู้จักเชื่อฟังคำสั่งเพื่อความปลอดภัยของช้าง และคน แต่การฝึกเพื่อให้แสดงผาดโผน เป็นอันตราย และฝึกอย่างทรมานต่อช้าง ฯ ลฯ นั้นเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มูลนิธิเพื่อนช้างเรียกร้องให้ยุติ พิธีผ่าจ้านนั้นเป็นประเพณี ใช้ไก่ในการเสี่ยงทาย ผู้ประกอบพิธีจะใช้ไม้ไผ่ตีเบาๆ ที่ตัวแม่ช้างหนึ่งที และตีเบาๆ ที่ลูกช้างอีกหนึ่งที หลังจากนั้นจะฉีกไม่ไผ่ออกเป็นสองซีก โยนแยกไปคนละทาง เป็นการเสร็จพิธีแยกลูกช้างออกจากแม่ช้าง หลังจากนั้นจะนำลูกช้างเดินแยกออกไปเพื่อไปพบกับควาญใหม่ที่จะดูแลลูกช้าง แทนแม่ช้าง และจะดำเนินการสอนลูกช้างให้เข้าใจคำสั่งซึ่ง มีเพียง 20 กว่าคำสั่ง อาทิ หยุด อย่า นอนลง เดิน ยกขา ถอยหลัง เป็นต้น การฝึกนี้เป็นการสอนลูกช้าง ไม่ให้ใช้งวงตีใคร หรือเตะใคร ซึ่ง จะเป็นอันตรายต่อคนเลี้ยง การแถลงข้อเท็จจริงทำให้ดิฉันถูกองค์กรต่างประเทศฟ้องคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาท ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ และต่อมาได้ถอนฟ้องเมื่อเดือนมิถุนายน 2547 นอกจากนี้มูลนิธิเพื่อนช้างยังต่อต้านการนำช้างไทยไปต่างแดนมาตั้ง แต่เริ่ม ก่อตั้งมูลนิธิฯ ในปี 2536 และการที่กลุ่มบุคคลบางกลุ่ม และภาครัฐยังคงเอื้อต่อการอนุญาตนำช้างไทยส่งไป ยังสวนสัตว์ต่างๆ นั้น จึงเป็นเรื่องน่าหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่ง ช้างบางส่วนยังถูกนำไปแสดงในละครสัตว์ในต่างประเทศด้วย ส่วนช้างในสวนสัตว์นั้น ถึงแม้จะมีการอวดอ้างว่าได้จัดสถานที่ และอาหารให้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากช้างเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ต้องการพื้นที่บริเวณกว้างในการอยู่อาศัย และอาหารของช้างตามธรรมชาตินั้นมีความหลากหลาย การกินอาหารอย่างเดียวกันเป็นระยะเวลานานนั้นเป็นผลต่อเสียต่อสุขภาพช้าง และสำคัญคือภูมิอากาศ และอุณหภูมิที่มีผลต่อสุขภาพช้างเป็นอย่างมาก และตลอดจนช้างแสดงที่เร่แสดงตามสถานที่ต่างๆ ซึ่ง เป็นการแสดงเพื่อให้ผู้ชมพึงพอใจนั้นส่วนมากจะเป็นอันตรายต่อร่างกายของ ช้าง เช่น การยกขาหน้าตีลังกา และการแสดงผาดโผนต่างๆ ก่อให้เกิดทุกขเวทนาต่อช้างไทยเป็นอย่างยิ่ง ดิฉันมั่นใจว่าเราชาวไทยนั้นมีเมตตาต่อช้างเป็นอย่างยิ่ง การเอื้อให้มีการนำช้างออกจากป่ามาจดทะเบียนเป็นช้างบ้านจึงเป็นเรื่องที่ สมควรได้รับการประณาม และเอาผิดทางกฎหมาย แต่ทางภาครัฐยังคงนิ่งเฉยต่อกระบวนการที่จะให้มีการตรวจสอบถึงแหล่งที่มาที่ แท้จริงของช้างทุกตัว ทั้งนี้มูลนิธิเพื่อนช้างยังเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียนช้าง ทั่วประเทศใหม่ อย่างไรก็ตาม ช้างไทยยังคงตกเป็นเหยื่อของคนบางกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง มูลนิธิเพื่อนช้างจึงขอเรียกร้องให้ภาครัฐยุติขบวนการค้าช้างเหล่านี้เสีย ให้จงได้ ยุติการนำช้างมาเร่ร่อนขอทาน ซึ่ง เป็นภัยต่อช้าง และต่อสาธารณะชนโดยรวม ยุติการส่งช้างไทยไปต่างแดนโดยเด็ดขาด จึงเรียนมาเพื่อความเข้าใจอันดี และกรุณาเป็นกำลังใจแก่ “เพื่อนช้าง” ด้วยค่ะ นางสาวโซไรดา ซาลวาลา ผู้ก่อตั้ง/กรรมการ และเลขาธิการ มูลนิธิเพื่อนช้าง 16 สิงหาคม 2549 ...แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 2552 10:40:10 ยายอ้วน [ 28 ก.ค. 2552 10:35:16 ]


	ความคิดเห็นที่: 15 กรณีคลิป VDO เรื่องนี้มีประเด็นที่พวกเราติดตามอยู่หลายประเด็นค่ะ (ยายอ้วนไม่ได้อยู่มูลนิธิเพื่อนช้าง) 1. คนสั่งการเป็นผู้หญิง NGO ไทยรายหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ) ได้ร่วมมือทำกับ NGO ของประเทศออสเตรเลีย ผลประโยชน์สำคัญที่จะได้รับคือ เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ (หลังจาก VDO นี้ออกไป องค์กรนี้มีรายได้เข้ามาเป็นจำนวนมาก และยังมีสารคดีชื่อดังจากต่างประเทศเข้ามาทำรายการ ทำให้ได้เงินสนับสนุนเพิ่มขึ้นมากในช่วงนั้น) 2. ออสเตรเลียเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย เนื่องจากต้องการดิสก์เครดิตประเทศไทย ในการเลี้ยงช้าง เพื่อความชอบธรรมของตนในการนำช้างจากประเทศไทยไปเลี้ยง (กรณีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก) 3. อาจมีนายทุนบางกลุ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากจะทำให้การส่งช้างไปต่างประเทศ เป็นเรื่องชอบธรรม (ช้าง 1 เชือก หากส่งไปต่างประเทศจะทำรายได้มากมายแก่เช้าของช้าง) พิธีผ่าจ้าน เป็นพิธีกรรมของคนทางเหนือ และชาวกะเหรี่ยง ส่วนการแยกลูกช้างของคนสุรินทร์ เขาก็มีวิธี วิถีที่แตกต่างกันไป คนกูย เลี้ยงช้างเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว คือเลี้ยงอยู่ในบ้าน ข้างเรือนบ้าน ดังนั้น ช้างก็คือ "คน" คนหนึ่งในครอบครัว เมื่อลูกช้างโต ถึงวัยที่จะฝึกได้ ควาญจะทำการแยกลูกช้าง โดยเริ่มที่การหาดอกไม้ ธูป เทียน มากราบขอขมาแม่ช้าง แล้วก็แยกลูกไปฝึก แต่ก็ให้อยู่ในสายตาของแม่ช้างด้วย ส่วนการฝึกไม่ได้ทำทารุณมากมายถึงขนาดนี้ การฝึกในช่วงแรกๆ จะใช้ขอกด หรือสับลงไปบนตัวช้างเพื่อให้รับคำสั่ง และฟังคำสั่งได้ แต่อย่างที่คุณตะขาบยักษ์บอกไว้ คือ ช้างมันจะเจ็บนิดเดียวเหมือนมดกัด คือ เจ็บแค่นี้ช้างก็แหยงแล้ว เพราะมันเป็นสัตว์ใจเสาะ เจ็บนิด เจ็บหน่อยก็จำได้ง่ายแล้ว แต่ต่อมาเมื่อฝึกได้ ควาญยังถือขอเอาไว้ เพราะขอเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ ในการมีอำนาจเหนือกว่าของควาญ ทำให้ช้างไม่กล้าลองภูมิ หรือเข้ามาทำร้ายควาญ เหมือนครูต้องมีไม้เรียว ทหาร-ตำรวจต้องพกปืน ช้างที่เลี้ยงเชื่องๆ หลายเชือก บางตัว ถ้าเห็นควาญไม่มีขอ ท่าทาอ่อนแอ ประมาท หรือเมาเข้ามา บางตัวถึงขั้นทำร้ายได้ ดังนั้น การจะฝึก จะควบคุมช้าง ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่อยู่ๆ จะเดินเข้าสั่งได้ แต่ต้องมีสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจของควาญ ช้างเป็นสัตว์ที่มีความจำเป็นเลิศ และมีการแบ่งลำดับในโขลง ควาญช้างก็เป็นอีกลำดับหนึ่งในโขลง หรือครอบครัว หากมีการแตกแถว ก็ต้องมีการปราม ถ้าลูกช้างที่ฝึกมาถูกฝึกมาอย่างผิดวิธี หรือถูกทำทารุณ มันจะไม่มีทางทำงานให้ควาญได้อย่างเต็มที่ เรื่องนี้ควาญช้างต่างรู้ดี อีกอย่างหากแม่ช้างรับรู้ว่าลูกถูกฝึกอย่างทารุณ ต่อไปหากมันตกลูกอีก มันจะไม่ยอมให้เอาลูกไปฝึกได้ง่ายๆ ยายอ้วน [ 28 ก.ค. 2552 11:02:19 ]


	ความคิดเห็นที่: 16 ส่วนกรณีส่งช้างไปต่างประเทศ ยายอ้วนไม่ได้เห็นว่าไม่ควรส่งไป แต่เราควรมีกฎ กติกา ที่ดีกว่านี้ แน่นอนว่าช้างที่ไปอยู่ที่นั่นอาจได้รับการเลี้ยงดูสุขสบาย แต่ช้างไทยก็คือช้างไทย เช่นเดียวกันกับแพนด้าก็ต้องเป็นของจีน เราควรมีข้อตกลงในการให้เงินบำรุงการอนุรักษ์ช้างในไทย การนำองค์ความรู้ ภูมิปัญญาการเลี้ยงช้างของไทยไปใช้ ศึกษา ฯ ลฯ ช้างไทยไปออสเตรเลีย บางคนอาจเห็นว่า ถ้าเลี้ยงดูดี ก็สมควรไป เค้าได้อยู่สบายๆ แต่ช้างไทยไปจีนล่ะ มีคนสนใจบ้างหรือเปล่า ช้างไปจีนตายไปหลายเชือกแล้ว ดังนั้น เราก็ควรมีกรอบ มีกฎ กติกา เอาไว้ ยายอ้วนมีความเห็นว่า (ซึ่ง ตรงกับควาญช้าง และคนรักช้างหลายกลุ่ม) "ใครอยากจะดู อยากจะเห็นช้างไทย ก็ต้องมาดูที่เมืองไทย มาจ่ายเงินให้ประเทศไทย ให้ควาญช้าง สร้างรายได้ให้ ไม่ใช่ไปนั่งดูที่อื่น หรือ ถ้าจะไปดูที่อื่น คนไทยก็ต้องได้รับการอุดหนุน เพราะ ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ต่อไปหากเมืองนอกสามารถมีช้างไทยได้มากๆ ควาญไทย คนไทย จะอยู่จะหากินอย่างไร?" เราได้แพนด้ามา เรายังต้องจ่ายเงินสนับสนุนการอนุรักษ์แพนด้าที่ประเทศจีน แต่ทำมป ออสเตรเลีย เอาช้างไทยไป ไม่ต้องจ่ายเงินอนุรักษ์ช้างที่ประเทศไทยบ้าง มันน่าน้อยใจจริงๆ ...แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 2552 12:23:15 ยายอ้วน [ 28 ก.ค. 2552 11:11:02 ]


	ความคิดเห็นที่: 17 ขอบคุณทุกท่านน่ะครับได้อะไรใหม่ๆๆ เยอะเลย ขอบคุณยายอ้วนนะครับ กระจ่างขึ้นมากเลย ตัวผมเองก็ไม่คิดว่ามันจะน่ากลัวขนาดนี้ ...แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 2552 11:37:16 heterometrus_sp [ 28 ก.ค. 2552 11:31:34 ]


	ความคิดเห็นที่: 18 ส่วนปัญหาช้างเร่ร่อน มันเป็นปัญหาที่คนข้างบน รัฐบาล ข้าราชการไม่คิดแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะพอทุกคนเห็นช้าง ก็นึกสงสาร แต่ช้างเห็นใจช้าง เห็นช้างเร่ร่อน ก็สงสารว่าช้างเหนื่อย ช้างหิว เราก็เลยคิดแก้ไขปัญหาแค่ที่ตรงนั้นคือ ผลักดันไม่ให้นำช้างเข้าพื้นที่เขตที่ห้าม หรือ รณรงค์ไม่ให้อาหารช้างเร่ร่อน แต่พวกเราลืมอะไรไป? ท่านๆ ผู้ใหญ่ทั้งหลายลืมอะไรไปหรือเปล่า? สิ่งสำคัญที่ทำให้ไทยเป็นเมืองช้างอยู่ทุกวันนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้ภูมิปัญญาที่สั่งสมมาหลายร้อยปี ทำให้เมืองไทยมีอัตลักษณ์ พวกเขาลืม "คนเลี้ยงช้าง" ลืม "ควาญช้าง" ไปเสมอ เวลานึกถึงปัญหาพวกนี้ เราลืมไปว่า " ถ้าไม่มีควาญ ก็ไม่มีช้าง" เดิมเขาเลี้ยงช้างเพื่อประเทศ เพื่อเป็นสัตว์ใช้แรงงาน เป็นนักรบ รายได้จากการลากซุง หรือข้าวประทังหิวจากเจ้าเมือง ค่าเลี้ยงดูช้าง พอสมัยเปลี่ยน พวกเขาก็ "ทำนา" เพื่อหาเลี้ยงท้อง ปล่อยช้างให้เดินกินหญ้า ผักป่าริมแม่น้ำมูล แต่สมัยนี้ แค่จะทำนาหาเลี้ยงตัว เลี้ยงท้องก็ไม่พออิ่ม หนี้สินกองทุน ธกส. หนี้นอกระบบก็เหมือนพยาธิคอยดูเลือดเนื้อพวกเขา ป่าริมน้ำ ป่าละเมาะ ที่จะให้ช้างได้กินก็ไม่เหลือ (เป็นป่ายูคาฯ เสียหมด) แล้วจะให้เขาหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีคนเลี้ยงช้าง แล้วอดตาย หรือนั่งมองดูช้างอดตายอย่างนั้นหรือ ช้างทุกตัว ควาญทุกคน อยากกลับบ้านเกิดของตนทั้งนั้นแหล่ะค่ะ แต่กลับไปจะมีอะไรให้พวกเขากินหรือเปล่า นี่แหล่ะคือปัญหา แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ดี ที่เดี๋ยวนี้มีการรวมตัวกันของช้างสุรินทร์ ที่อยากกลับถิ่นเกิด ต่อสู้เพื่อให้ได้ป่าชุมชนริมน้ำมูล เพื่อให้ช้างได้อาศัยหากิน พัฒนาหมู่บ้านช้าง เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวคนเลี้ยงช้าง ตอนนี้ได้ข่าวว่ามีควาญ และ ช้าง เต็มใจมาอยู่บ้านเกิดอย่างถาวรแล้วกว่า 60 เชือก อนาคต เรากำลังพยายามทำให้ได้มากกว่านี้ ให้ป่าชุมชนมีพื้นที่มากกว่านี้ "นี่คือการต่อสู้โดยชาวบ้าน ผู้สนับสนุนในท้องถิ่น เท่านั้น ถ้ามัวมารอการช่วยเหลือ การจัดการจากภาครัฐ คงอีกนานกว่าจะได้รับการเหลียวแล" ยายอ้วนเขียนซะยาว ก็แค่อยากให้ทุกคนมองปัญหาเรื่องช้างในหลากหลายมุม เพราะยายอ้วนก็ตามเรื่องนี้มาตลอด เมื่อสองเดือนก่อนก็ไปร่วมประชุมการแก้ไขปัญหาช้าง กับกรมอุทยานฯ มา แต่เรื่องก็ไม่มีทีท่าว่าจะคืบหน้าไปทางไหน รอ คนอื่นมาทำให้อย่างเดียวไม่ได้ ชาวบ้าน ก็ต้องสู้ด้วยแรงของพวกเค้าเอง ...แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 2552 12:25:22 ยายอ้วน [ 28 ก.ค. 2552 11:32:16 ]


	ความคิดเห็นที่: 19 ผมเองก็คิดเหมือนคุณ ยายอ้วนครับช้างไทยควรอยู่ในไทย แต่ ถ้าต้องไปอยู่เมืองนอกเราก็ควรต้องทำแบบจีนที่ส่งแพนด้าให้ประเทศอื่น จีนยังเห็นความสำคัญของแพนด้าแล้วทำไมคนไทยไม่ให้ความสำคัญกับช้างแบบนั้นบ้าง ไม่รู้เพื่อนๆ ยังจำโฆษณาอันหนึ่งที่เกี่ยวกับช้างเร่ร่อนที่มาเดินริมถนนแล้วมีหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ในร้านเหล้าแล้วมองเห็นช้างที่ถูกพามาเร่ร่อนแล้วสงสาร ก็เลยซื้อช้างเชือกนั้นไปปล่อยได้ไหม ตัวผมเองเคยมีความรู้สึกอยากทำแบบนั้นหลายครั้งเมื่อสมัยยังอยู่ที่กรุงเทพแล้วได้พบเห็นช้างเร่ร่อนบ่อยๆ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าทำแบบนั้นแล้วมันจะแก้ปัญหาได้จริงไหม เพราะปัญหาจริงๆ ยังไม่ได้ถูกแก้ มันก็เลยได้เป็นแค่ความคิดเท่านั้น แต่เห็นช้างเร่ร่อนทีไรก็อดสงสารไม่ได้ทุกที ลูกเคยถามว่าพ่อเค้าพาช้างมาทำอะไร ไม่รู้จะตอบว่าไง ได้ แต่สอนให้เค้ารักมันอย่ากลัวเพราะว่าช้างตัวใหญ่ แต่ให้รู้จักรัก และสงสารเค้ารวมถึงชีวิตทุกชีวิตด้วยครับ ตะขาบยักษ์ [ 28 ก.ค. 2552 12:01:18 ]


	ความคิดเห็นที่: 20 เหมือนรู้สึกเคยผ่านตา ในเนชั่นแนลจีโอ หรือเปล่าครับ ถ้าใช่ ! เป็นของพม่าครับ แต่ ถ้าเป็นของไทยอยู่นิ่งไม่ได้แล้วครับ ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลด่วน เพราะโดยปกติ ลูกช้างบ้านจะไม่ต้องทำกันถึงขนาดนี้ แต่เห็นแล้วน้ำตาไม่ซึมครับ ไหลเลย โหดร้ายมาก ถ้าเป็นลูกเขา เขาจะเจ็บปวดแค่ไหน noppadol [ 28 ก.ค. 2552 13:30:42 ] noparnon@yahoo.co.th


	ความคิดเห็นที่: 21 : noppadol เหมือนรู้สึกเคยผ่านตา ในเนชั่นแนลจีโอ หรือเปล่าครับ ถ้าใช่ ! เป็นของพม่าครับ แต่ ถ้าเป็นของไทยอยู่นิ่งไม่ได้แล้วครับ ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลด่วน เพราะโดยปกติ ลูกช้างบ้านจะไม่ต้องทำกันถึงขนาดนี้ แต่เห็นแล้วน้ำตาไม่ซึมครับ ไหลเลย โหดร้ายมาก ถ้าเป็นลูกเขา เขาจะเจ็บปวดแค่ไหน คลิปนี้ไม่เคยเอาลงเป็นสารคดีค่ะ เป็นคลิปดิสก์เครดิตที่ทำขึ้นแล้วเผยแพร่ตามทีวี อินเตอร์เน็ต เท่านั้น ส่วนการจัดฉาก ถ่ายทำที่ประเทศไทยจริง คนไทยเกี่ยวข้องด้วย ลองกลับไปอ่าน คห. ของยายอ้วนทั้งหมดดูนะคะ ...แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 2552 14:00:55 ยายอ้วน [ 28 ก.ค. 2552 13:58:12 ]


	ความคิดเห็นที่: 22 : ยายอ้วน : noppadol เหมือนรู้สึกเคยผ่านตา ในเนชั่นแนลจีโอ หรือเปล่าครับ ถ้าใช่ ! เป็นของพม่าครับ แต่ ถ้าเป็นของไทยอยู่นิ่งไม่ได้แล้วครับ ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลด่วน เพราะโดยปกติ ลูกช้างบ้านจะไม่ต้องทำกันถึงขนาดนี้ แต่เห็นแล้วน้ำตาไม่ซึมครับ ไหลเลย โหดร้ายมาก ถ้าเป็นลูกเขา เขาจะเจ็บปวดแค่ไหน คลิปนี้ไม่เคยเอาลงเป็นสารคดีค่ะ เป็นคลิปดิสก์เครดิตที่ทำขึ้นแล้วเผยแพร่ตามทีวี อินเตอร์เน็ต เท่านั้น ส่วนการจัดฉาก ถ่ายทำที่ประเทศไทยจริง คนไทยเกี่ยวข้องด้วย ลองกลับไปอ่าน คห. ของยายอ้วนทั้งหมดดูนะคะ ขอบคุณครับยายอ้วน ที่ให้ความกระจ่าง หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเราเป็นรองตลอดไม่ว่าจะเป็นกฏหมายที่เกี่ยวกับสัตว์ การใช้ประโยชน์ของความมีน้ำใจของคนไทย การที่เมืองไทยไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านี้คิดแล้วน้อยใจมากครับ ขอบุณครับ ...แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 2552 14:57:08 noppadol [ 28 ก.ค. 2552 14:55:26 ]


	ความคิดเห็นที่: 23 พิธีนี้มีน่าจะมากกว่าร้อยปีแ้ล้วหน่า.....ตั้ง แต่การจับช้างมาจากป่าเพื่อใช้งาน ผมก็ยังเคยเห็นอยู่สมัยเด็กๆ แต่ไม่ได้รุนแรงขนาดนี้หน่า......แค่จับมาอดข้าวอดน้ำ แล้วค่อยๆ ฝึกกันไป อยากที่พี่ยายอ้วนกล่าวมาข้างต้นหละครับ aqueous_andaman [ 28 ก.ค. 2552 22:26:22 ]


	ความคิดเห็นที่: 24 แม่ผมเคยเอากล้วยที่ซื้อมาเอง(จากตลาด) ยื่นให้ช้างที่ถูกจูงมาเดินตามถนน แล้วปรากฏว่าเจ้าของช้างมีท่าทีไม่ค่อยพอใจ? ถ้าเจ้าของช้าง(คนนั้น) รักช้างเหมือนคนในครอบครัวจริง ก็ไม่ควรจะมีท่าทีแบบนั้น... snakeeater [ 29 ก.ค. 2552 15:50:57 ]


	ความคิดเห็นที่: 25 : snakeeater แม่ผมเคยเอากล้วยที่ซื้อมาเอง(จากตลาด) ยื่นให้ช้างที่ถูกจูงมาเดินตามถนน แล้วปรากฏว่าเจ้าของช้างมีท่าทีไม่ค่อยพอใจ? ถ้าเจ้าของช้าง(คนนั้น) รักช้างเหมือนคนในครอบครัวจริง ก็ไม่ควรจะมีท่าทีแบบนั้น... บางทีเขาก็กลัวว่า ของที่เราให้กินอาจทำให้ช้างเขาไม่สบายก็ได้เคยโดนมาเหมือนกันครับ ถ้าเขาว่าทำไม เขาบอกว่าคนเลี้ยงช้างเป็นทุกคน ( แต่ผมว่าเขากลัวขายอ้อยไม่ได้ต่างหากท่อนขนาดหนึ่งคืบห้าท่อน ยี่สิบ โค ตะ ระ แพงเลย) noppadol [ 29 ก.ค. 2552 16:33:17 ] noparnon@yahoo.co.th


	ความคิดเห็นที่: 26 บางที ควาญช้างที่เห็นแก่ตัวก็ยังมีอยู่ค่ะ คือ ถ้าเราเอากล้วยให้ช้างกิน เค้าก็จะขายอ้อยไม่ได้ อย่างที่คุณ noppadol บอก แต่ที่บ้านที่สุรินทร์ เวลามีช้างเดินผ่าน พ่อมักจะตัดอ้อยที่ขึ้นอยู่ทั่วไปที่หลังบ้านมาใช้ช้างกิน เจ้าของช้างจะยินดีมาก เพราะที่นั่นหาหญ้า หาอ้อยให้ช้างกินได้ยาก ระหว่างช้างกินอ้อย เราก็คุยกับควาญช้างไป ให้เขานั่งพัก ได้กินน้ำ สนทนากันไปตามประสาชาวบ้าน ยายอ้วน [ 29 ก.ค. 2552 16:59:57 ]


	ความคิดเห็นที่: 27 : ยายอ้วน บางที ควาญช้างที่เห็นแก่ตัวก็ยังมีอยู่ค่ะ คือ ถ้าเราเอากล้วยให้ช้างกิน เค้าก็จะขายอ้อยไม่ได้ อย่างที่คุณ noppadol บอก แต่ที่บ้านที่สุรินทร์ เวลามีช้างเดินผ่าน พ่อมักจะตัดอ้อยที่ขึ้นอยู่ทั่วไปที่หลังบ้านมาใช้ช้างกิน เจ้าของช้างจะยินดีมาก เพราะที่นั่นหาหญ้า หาอ้อยให้ช้างกินได้ยาก ระหว่างช้างกินอ้อย เราก็คุยกับควาญช้างไป ให้เขานั่งพัก ได้กินน้ำ สนทนากันไปตามประสาชาวบ้าน ดูเป็นแบบวิถีชาวบ้านดีมากเลยครับ heterometrus_sp [ 29 ก.ค. 2552 17:08:46 ]


	ความคิดเห็นที่: 28 ที่กระโพ รึเปล่าครับคุณยายอ้วน ผมเคยไปที่นี่ครั้งหนึ่ง มีความเป็นอยู่แบบเรียบง่ายดี เข้าใจความรู้สึกคนเลี้ยงช้างที่นั่น ช้างกินเยอะมาก ต้องหาอาหารให้ตลอด คนเลี้ยงก็คงเหนื่อย ถ้าให้ผมไม่เลี้ยงคงไม่ไหวแน่ electron [ 29 ก.ค. 2552 23:13:44 ]