ความคิดเห็นที่: 1

 และที่นั่นเอง น้ำตกหมันแดงชั้นที่ 5 เป็นไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมาดูด้วยตาตัวเองให้ได้

ดอกลิ้นมังกรสีชมพู บนก้อนหินหน้าน้ำตก ดังถูกจัด แต่งไว้อย่างลงตัว ด้วยสถาปนิกขั้นเทพ ที่มีชื่อว่า "ธรรมชาติ"

aimbryo [ 02 ส.ค. 2552 14:01:28 ]

ความคิดเห็นที่: 2

ขอยืมภาพของเพื่อนที่ไปด้วยกัน เอามาให้ดูว่า เค้ามีเยอะเพียงใด

aimbryo [ 02 ส.ค. 2552 14:03:12 ]

ความคิดเห็นที่: 3

ระหว่างทางลงน้ำตก ยังพบกับดอกเทียนชนิดนี้ (ไม่รู้ว่าชื่ออะไรครับ)  แต่ยังไม่บานเต็มที่ครับ

ก็ขอยืมภาพน้องที่ไปด้วยกัน เอามาให้ชมอีกภาพ

aimbryo [ 02 ส.ค. 2552 14:05:28 ]

ความคิดเห็นที่: 4

มีแมลงปอมาฝากคุณดิวด้วยครับ

แต่มีแค่ตัวเดียวนะครับ ฝีมือน้องชายตัวแสบอีกเช่นเคย

aimbryo [ 02 ส.ค. 2552 14:06:44 ]

ความคิดเห็นที่: 5

 และบนภูหินตั้ง แต่ทางเข้าสำนักอำนาจรัฐ ไปจนทั่วบริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติลานหินปุ่ม

ก็พบกับดงลิ้นมังกรสีส้ม ที่แข่งกันชูช่อเต็มภู จนดอกเปราะภูต้องเก็บตัว รอบานหลังจากเจ้าสีส้มหมดอำนาจลง

ที่ผมสงสัยก็คือ เจ้าสีชมพูที่หมันแดง กับสีส้มที่ลานหินปุ่มนี่ เป็นชนิดเดียวกันจริงๆ  หรือนี่?

ถ้าเป็นเช่นนั้น ความแปรผันนี่สุดๆ  มากเลย สวยมีเสน่ห์ต่างกันจริงๆ

แล้วยังได้ข่าวมาว่า มีสีแดง อีกตะหาก!!!

ใครเคยเจอ หรือทราบข้อมูลเรื่องนี้ ช่วยอธิบายเป็นวิทยาทานให้หน่อยนะครับ

aimbryo [ 02 ส.ค. 2552 14:13:06 ]

ความคิดเห็นที่: 6

 และที่เส้นทางลานหินปุ่มก็พบกับดอกเทียนดอกจิ๋วอีกเยอะเลย (ไม่ทราบชื่อเช่นเคย แฮ่ะๆ )

aimbryo [ 02 ส.ค. 2552 14:15:20 ]

ความคิดเห็นที่: 7

สุดท้ายครับ

ฝากน้ำตกหมันแดง ที่ต้องเดินฝ่าดงทากดูดเลือด  และความลื่น ชัน ของเส้นทางกว่า 3.5 กิโลเมตรนี้
ไว้ในใจของผู้รักธรรมชาติทุกคนนะครับ

ปล.ถึงทุกคนที่จะไปชมด้วยนะครับ ช่วยรักษาเจ้าลิ้นมังกรสีชมพู  และธรรมชาติทั้งมวลของที่นั่นเอาไว้นานๆ  ด้วยนะครับ เพราะระหว่างทางยังพบเห็นการทิ้งขยะของคนที่ชอบเข้าป่า ( ถ้าไม่ชอบคงไม่ดั้นด้นมาถึงได้) ไม่รู้ว่าแค่เศษขยะมันหนักกว่าตอนแบกมันลงมายังไง ถึงเอากลับไปด้วยไม่ได้ พวกผมก็เก็บไปเช่งไปตามเคย หุหุ

เผื่อตอนแก่ๆ   แต่แรงยังเหลือ จะได้พาลูกมาดูบ้าง......

aimbryo [ 02 ส.ค. 2552 14:26:51 ]

ความคิดเห็นที่: 8

ภาพน้ำตกสวยมากๆ  เห็นแล้วนึกถึงหนังกำลังภายในที่พระเอกไปนั่งฝึกวิชาใต้น้ำตก

ตะขาบยักษ์ [ 02 ส.ค. 2552 14:28:46 ]

ความคิดเห็นที่: 9

กลุ่มไหนกันเนี่ย ผมเข้าเสาร์ที 25 เข้าวันเดียวกันหรือเปล่า?

เรื่องขยะ แบบว่าผมไปถึงน้ำตกชั้นสองได้กลิ่นมาม่าแห้งแบบว่ายังใหม่ๆ  มองลงไปที่พื้น อ้าว....ใครทิ้งซองมาม่าไว้ฟระ? ผมว่าเรื่องนี้พูดกันยาวครับ ต้องฝากเจ้าหน้าที่หรือที่เรียกว่าตัวแทนของเราคอยดูแล และตักเตือนด้วยครับ

ไอ้ลูกทุ่ง [ 02 ส.ค. 2552 18:37:55 ]

ความคิดเห็นที่: 10

ไปแล้วเจอของเด็ดๆ  นี่น่าอิจฉานะครับ ท่านเอม ฮี่ๆๆๆ    ว่า แต่ได้เดินกลางฝนด้วยหรือเปล่า? ดูสภาพมันชื้นเหมือนระหว่างหรือหลังฝนตกเลย
 
#4 แมลงปอเข็มท้องยาวชนิดหนึ่ง Coeliccia sp. ตัวเมีย สุดจะเดาได้ว่าตัวไหน... มีโอกาสจะเป็นสองตัวคือ C. chromothorax กะ C. loogali

ขอบคุณสำหรับของฝาก และภาพงามๆ  เด้ออ

...แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 2552 19:03:56

Due_n [ 02 ส.ค. 2552 19:03:00 ]

ความคิดเห็นที่: 11

: ไอ้ลูกทุ่ง

กลุ่มไหนกันเนี่ย ผมเข้าเสาร์ที 25 เข้าวันเดียวกันหรือเปล่า?

เรื่องขยะ แบบว่าผมไปถึงน้ำตกชั้นสองได้กลิ่นมาม่าแห้งแบบว่ายังใหม่ๆ   มองลงไปที่พื้น อ้าว....ใครทิ้งซองมาม่าไว้ฟระ? ผมว่าเรื่องนี้พูดกันยาวครับ ต้องฝากเจ้าหน้าที่หรือที่เรียกว่าตัวแทนของเราคอยดูแล  และตักเตือนด้วยครับ

น้ำตกสวยเหลือเกิน

ทีแรก นึกว่าไปกลุ่มเดียวกับคุณท่อก

mim [ 03 ส.ค. 2552 09:25:44 ]

ความคิดเห็นที่: 12

: ตะขาบยักษ์

ภาพน้ำตกสวยมากๆ   เห็นแล้วนึกถึงหนังกำลังภายในที่พระเอกไปนั่งฝึกวิชาใต้น้ำตก

น้ำตกสวยกว่าที่ผมถ่ายมาเยอะครับ ลองไปดูสิครับ

: ไอ้ลูกทุ่ง

กลุ่มไหนกันเนี่ย ผมเข้าเสาร์ที 25 เข้าวันเดียวกันหรือเปล่า?

เรื่องขยะ แบบว่าผมไปถึงน้ำตกชั้นสองได้กลิ่นมาม่าแห้งแบบว่ายังใหม่ๆ   มองลงไปที่พื้น อ้าว....ใครทิ้งซองมาม่าไว้ฟระ? ผมว่าเรื่องนี้พูดกันยาวครับ ต้องฝากเจ้าหน้าที่หรือที่เรียกว่าตัวแทนของเราคอยดูแล  และตักเตือนด้วยครับ

 ถ้าคุณไอ้ลูกทุ่งเป็นกลุ่มที่ใจดีรับเด็กหลงทางกลับจากน้ำตกไปที่อุทยานฯ  ละก็ ใช่แล้วล่ะครับ พวกผมเอง  ถ้าใช่ก็ขอขอบพระคุณอย่างสูงอีกครั้งครับ บังเอิญจริงๆ

: Due_n

ไปแล้วเจอของเด็ดๆ   นี่น่าอิจฉานะครับ ท่านเอม ฮี่ๆๆๆ     ว่า  แต่ได้เดินกลางฝนด้วยหรือเปล่า? ดูสภาพมันชื้นเหมือนระหว่างหรือหลังฝนตกเลย
 
#4 แมลงปอเข็มท้องยาวชนิดหนึ่ง Coeliccia sp. ตัวเมีย สุดจะเดาได้ว่าตัวไหน... มีโอกาสจะเป็นสองตัวคือ C. chromothorax กะ C. loogali

ขอบคุณสำหรับของฝาก  และภาพงามๆ   เด้ออ

ขากลับก็ตากฝนมาเชียวล่ะครับคุณดิว  แต่ก็มีความสุขมากกว่าฝนตก รถติดในเมืองเยอะเลยล่ะครับ
ส่วนแมลงปอต้องขอประธานอภัยจริงๆ  ครับ ไม่รู้มีน้อย หรือว่าผมตาไม่ดี? ถึงเจอมาแค่ตัวเดียวเอง แถมไม่ได้ถ่ายเองอีก (ถูกบังคับให้ถ่ายภาพนางแบบที่ไปด้วยกันอยู่น่ะครับ T T )


น้ำตกสวยเหลือเกิน

ทีแรก นึกว่าไปกลุ่มเดียวกับคุณท่อก

ขอบคุณมากครับ อ.มิ้ม ก็อย่างที่บอกครับ มีมุมที่สวยกว่านี้มากมายเลยสำหรับหมันแดง  และ ถ้าดูด้วยตาตัวเองแล้วละก็ >>อลังการ

ความคิดเห็นที่: 13

ภาพเปิด - ปิดกระทู้

แสงมันต่ำอยู่แล้ว หรือว่าใช้ ND ช่วยกระชากครับ
รูปสวยมากๆ  อยากไปดูด้วยตาตัวเอง

แต่ผมกลัวทากครับ -.-"

ตุ้ม [ 03 ส.ค. 2552 15:58:16 ]

ความคิดเห็นที่: 14

 ถ้าเป็นวันเสาร์วันเดียวกัน ไม่ใช่กลุ่มผมหรอกครับที่รับกลับ เป้าหมายของกลุ่มผมคือน้ำตกชั้นที่ 5 ชั้นเดียว ชั้นที่เหลือต่อจากนี้คิดว่ามีโอกาสจะพาเพื่อนๆ  ไปลุยกันเอง ไม่ต้องรีบร้อนไม่ต้องเกรงใจใคร ไม่ต้องพึ่งจนท. เข้าใจว่าวันนั้นผมกลับออกมาเป็นกลุ่มที่ 2 น่าจะเห็นหน้ากันแหล่ะ กลุ่มผมไปกัน 4 ชายสองหญิงสองนั่งปักหลักอยู่ตรงหินก้อนใหญ่หน้าน้ำตกชั้น 5 ตอนกำลังกินข้าวจะหมดก็มีคนหลายกลุ่มทยอยๆ  กันมาจนเต็มลานน้ำตก หามุมถ่ายกันสนุกสนาน ผมแอบเก็บรูปสาวๆ  ตั้งใจถ่ายภาพกันมากมาด้วย

อ้อ มีเรื่องนึงผมเห็นแล้วตะหงิดๆ  คือเรื่องการถ่ายภาพ หลายคนมัว แต่สนใจต้นลิ้นมังกรที่อยู่บนโขดไม่ได้สังเกตหรือระวังต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ด้านล่างรอบหินโดนเหยียบย่ำซะหมอบไปเลยครับ ไม่รู้สังกตเหมือนผมหรือเปล่า จนท. ก็บ้าใบ้เหลือเกินสงสัยจะเหนื่อยจัด

ปล.อย่าเข้าใจผิดบุคคลในภาพนะครับ นี่คือภาพบรรยากาศการเก็บภาพน้ำตก+ลิ้นมังกร

ไอ้ลูกทุ่ง [ 03 ส.ค. 2552 21:27:17 ]

ความคิดเห็นที่: 15

: ตุ้ม

ภาพเปิด - ปิดกระทู้

แสงมันต่ำอยู่แล้ว หรือว่าใช้ ND ช่วยกระชากครับ
รูปสวยมากๆ   อยากไปดูด้วยตาตัวเอง

แต่ผมกลัวทากครับ -.-"

เข้าเว็บไม่ได้ซะสองวัน (?) เลยไม่มีโอกาสตอบคุณตุ้ม
เป็นรูปของน้ำตกชั้น 8 ครับ ตอนผมถ่ายแสงน้อยมากครับ เพราะฝนกำลังจะตกแล้ว ต้องเอาตัวพิงต้นไม้ถ่ายน่ะครับ ถึงได้รูปนี้มา
 และผมก็ใช้กล้องคอมแพคป๊อกแป๊กน่ะครับ (ขออนุญาตปล่อยไก่หน่อยว่า ND คืออะไรครับ)
 และต้องมาดูเองครับ (หรอกให้ไปออกกำลังกาย+ใจซะหน่อย) ถึงจะสวยกว่าในรูปเป็นร้อยเท่า

: ไอ้ลูกทุ่ง

  ถ้าเป็นวันเสาร์วันเดียวกัน ไม่ใช่กลุ่มผมหรอกครับที่รับกลับ เป้าหมายของกลุ่มผมคือน้ำตกชั้นที่ 5 ชั้นเดียว ชั้นที่เหลือต่อจากนี้คิดว่ามีโอกาสจะพาเพื่อนๆ   ไปลุยกันเอง ไม่ต้องรีบร้อนไม่ต้องเกรงใจใคร ไม่ต้องพึ่งจนท. เข้าใจว่าวันนั้นผมกลับออกมาเป็นกลุ่มที่ 2 น่าจะเห็นหน้ากันแหล่ะ กลุ่มผมไปกัน 4 ชายสองหญิงสองนั่งปักหลักอยู่ตรงหินก้อนใหญ่หน้าน้ำตกชั้น 5 ตอนกำลังกินข้าวจะหมดก็มีคนหลายกลุ่มทยอยๆ   กันมาจนเต็มลานน้ำตก หามุมถ่ายกันสนุกสนาน ผมแอบเก็บรูปสาวๆ   ตั้งใจถ่ายภาพกันมากมาด้วย

อ้อ มีเรื่องนึงผมเห็นแล้วตะหงิดๆ   คือเรื่องการถ่ายภาพ หลายคนมัว  แต่สนใจต้นลิ้นมังกรที่อยู่บนโขดไม่ได้สังเกตหรือระวังต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ด้านล่างรอบหินโดนเหยียบย่ำซะหมอบไปเลยครับ ไม่รู้สังกตเหมือนผมหรือเปล่า จนท. ก็บ้าใบ้เหลือเกินสงสัยจะเหนื่อยจัด

ปล.อย่าเข้าใจผิดบุคคลในภาพนะครับ นี่คือภาพบรรยากาศการเก็บภาพน้ำตก+ลิ้นมังกร

งั้นคงสวนกันน่ะครับ (แอบยิ้มให้กันไปแล้วล่ะ ^_^! )
กลุ่มผมชะโงกหน้าไปดูชั้น 5 แค่อึดใจ แล้วก็ตัดสินใจไปต่อทันที (หิวข้าวมากๆ  เลยรีบลงไปนั่งกินข้าวที่ชั้น 7 ก่อน)
แล้วคนชั้น 5 ตอนแรกก็เยอะมากจริงๆ  จึงไปหามุมสงบละเมียดแทะไก่ทอดภูหินฯ  อย่างสำราญ
พอกลับมาชั้น 5 อีกทีก็ไม่มีใครอยู่ซะแล้ว งงกันเลย ว่าหายไปไหนกันหมด พวกเราจึงได้รูปชั้น 5 แบบไร้ผู้คนมา ( แต่ถ่ายยังไงก็ไม่แหล่มเหมือนที่โปรฯ เค้าถ่ายกันเลยแฮะ : )
อย่าว่า แต่ต้นไม้น้อยๆ  ต้นอื่นเลยครับ ขนาดต้นลิ้นมังกรสีชมพูที่ยังไม่ออกดอกก็โดนทับซะแบนเลย คงหมดโอกาสโชว์ดอกแล้วล่ะปีนี้ แล้ว ถ้าโดนทับบ่อยๆ  คงหมดชีวิตไปด้วยแน่ๆ  เศร้าครับ T_T )
เช่นเดียวกับที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติลานหินปุ่ม ที่ระหว่างทางมีกอเปราะภูสีขาวกอใหญ่  ถ้าออกดอกเต็มที่จะสวยมากจน "นายแบบนางแบบ" ทั้งหลายอดใจไม่ไหวฝ่าเข้าไปอยู่กลางกอ เพื่อให้ได้ภาพที่ตัวเองอยู่ท่ามกลางดอกไม้ดุจภาพฝัน (ฮ่วย!!) ดูรูปกันครับ

aimbryo [ 06 ส.ค. 2552 15:40:47 ]

ความคิดเห็นที่: 16

ลืมรูปครับ หุหุ

aimbryo [ 06 ส.ค. 2552 15:44:21 ]

ความคิดเห็นที่: 17

แถมภาพน้ำตกชั้น 5 ไฮไลท์ของหมันแดงอีกรูปครับ
ฝีมือของน้องชายตัวแสบครับ (ของตัวเอง ดูไม่ได้เลย เบลอ+จตุคามเต็มภาพเชียว)

...แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 2552 15:59:18

aimbryo [ 06 ส.ค. 2552 15:56:26 ]

ความคิดเห็นที่: 18

: aimbryo

ระหว่างทางลงน้ำตก ยังพบกับดอกเทียนชนิดนี้ (ไม่รู้ว่าชื่ออะไรครับ)   แต่ยังไม่บานเต็มที่ครับ

ก็ขอยืมภาพน้องที่ไปด้วยกัน เอามาให้ชมอีกภาพ

บานเต็มที่แค่นี้แหละครับ  แต่ว่ามีภาพอื่นอีกหรือปล่าว เจอตรงช่วงไหนครับ รบกวนข้อมูลนิดนึงครับ กำลังจะเข้าสู่ฤดูล่าเทียนอีกแล้ว...

jungle man [ 06 ส.ค. 2552 21:30:38 ]

ความคิดเห็นที่: 19

ตรงริมทางเดินซ้ายมือก่อนถึงน้ำตกชั้นหนึ่งเลยครับเฮียจังเกิลแมน

ไอ้ลูกทุ่ง [ 06 ส.ค. 2552 22:16:44 ]

ความคิดเห็นที่: 20

ปัจจุบัน ลิ้นมังกรที่พบในไทยนั้น จะสีอะไรก็ยังคงใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Habenaria rhodocheila ครับ ทราบมาว่า กำลังทบทวนด้วยการศึกษาตัวอย่างจากหลายๆ ที่เพื่อยืนยันว่า ควรจะแยกsubsp. หรือ ไม่แยกอยู่ครับ  แต่ ณ ข้อมูลปัจจุบันที่ได้มีการศึกษา ยังคงให้เป็นตัวเดียวกันอยู่ ถึงแม้สีสัน  และรูปร่างต่างกันก็ตาม

ส่วนที่บางคนเรียกลิ้นมังกรสีชมพูว่า Habenaria erichmichelii  และในรายชื่อของ KEW เป็นชื่อที่ถูกใช้อย่างต้องก็ตาม  แต่ภายใน KEW เองก็มีปัญหาว่า ตัวอย่างที่KEW ได้ระบุชนิดดังกล่าวนั้นไว้นั้น หาไม่พบ มีเพียงภาพถ่าย ซึ่ง ดูจากภาพถ่ายแล้ว ไม่สามารถแยกความแตกต่างจาก Habenaria rhodocheila ได้ จึงเป็นปัญหาว่า ชื่อที่ตั้งจากตัวอย่างนั้น แท้ที่จริงแล้ว อาจจะตั้งจาก Habenaria rhodocheila ก็เป็นได้

แมคไกเวอร์ [ 07 ส.ค. 2552 14:36:21 ]

ความคิดเห็นที่: 21

: jungle man

: aimbryo
ระหว่างทางลงน้ำตก ยังพบกับดอกเทียนชนิดนี้ (ไม่รู้ว่าชื่ออะไรครับ)    แต่ยังไม่บานเต็มที่ครับ

ก็ขอยืมภาพน้องที่ไปด้วยกัน เอามาให้ชมอีกภาพ

บานเต็มที่แค่นี้แหละครับ   แต่ว่ามีภาพอื่นอีกหรือปล่าว เจอตรงช่วงไหนครับ รบกวนข้อมูลนิดนึงครับ กำลังจะเข้าสู่ฤดูล่าเทียนอีกแล้ว...

: ไอ้ลูกทุ่ง

ตรงริมทางเดินซ้ายมือก่อนถึงน้ำตกชั้นหนึ่งเลยครับเฮียจังเกิลแมน

ตามหมายของคุณไอ้ลูกทุ่งเลยครับ

อีกภาพเป็นหน้าตรงครับ (มีแค่สองภาพที่พอดูได้ครับ ขาสั่น ทำให้มือสั่นไปด้วย เลยถ่ายมาแค่สามสี่ภาพเองครับ)

aimbryo [ 07 ส.ค. 2552 15:41:45 ]

ความคิดเห็นที่: 22

: แมคไกเวอร์

ปัจจุบัน ลิ้นมังกรที่พบในไทยนั้น จะสีอะไรก็ยังคงใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Habenaria rhodocheila ครับ ทราบมาว่า กำลังทบทวนด้วยการศึกษาตัวอย่างจากหลายๆ  ที่เพื่อยืนยันว่า ควรจะแยกsubsp. หรือ ไม่แยกอยู่ครับ   แต่ ณ ข้อมูลปัจจุบันที่ได้มีการศึกษา ยังคงให้เป็นตัวเดียวกันอยู่ ถึงแม้สีสัน   และรูปร่างต่างกันก็ตาม

ส่วนที่บางคนเรียกลิ้นมังกรสีชมพูว่า Habenaria erichmichelii   และในรายชื่อของ KEW เป็นชื่อที่ถูกใช้อย่างต้องก็ตาม   แต่ภายใน KEW เองก็มีปัญหาว่า ตัวอย่างที่KEW ได้ระบุชนิดดังกล่าวนั้นไว้นั้น หาไม่พบ มีเพียงภาพถ่าย ซึ่ง  ดูจากภาพถ่ายแล้ว ไม่สามารถแยกความแตกต่างจาก Habenaria rhodocheila ได้ จึงเป็นปัญหาว่า ชื่อที่ตั้งจากตัวอย่างนั้น แท้ที่จริงแล้ว อาจจะตั้งจาก Habenaria rhodocheila ก็เป็นได้

ขอบคุณมากๆ  ครับคุณแมคไกเวอร์ ผมลองเอารูปมาเทียบกันระหว่างสีชมพูกะสีแดงแล้ว มันไม่น่าเป็นชนิดเดียวกันได้  และดูแล้วสภาพถิ่นอาศัยก็ดูแตกต่างกันอย่างมากอีกด้วย  แต่ก็คงมีลักษณะสำคัญอะไรบางอย่างที่ทำให้ทั้งสองยังคงเป็นชนิดเดียวกันอยู่แน่ๆ  (ไม่สงสัยล่ะ เอาเป็นว่า สวยเหมือนๆ  กันก็พอครับ)

aimbryo [ 07 ส.ค. 2552 15:47:43 ]

ความคิดเห็นที่: 23

: aimbryo

: แมคไกเวอร์
ปัจจุบัน ลิ้นมังกรที่พบในไทยนั้น จะสีอะไรก็ยังคงใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Habenaria rhodocheila ครับ ทราบมาว่า กำลังทบทวนด้วยการศึกษาตัวอย่างจากหลายๆ   ที่เพื่อยืนยันว่า ควรจะแยกsubsp. หรือ ไม่แยกอยู่ครับ    แต่ ณ ข้อมูลปัจจุบันที่ได้มีการศึกษา ยังคงให้เป็นตัวเดียวกันอยู่ ถึงแม้สีสัน    และรูปร่างต่างกันก็ตาม

ส่วนที่บางคนเรียกลิ้นมังกรสีชมพูว่า Habenaria erichmichelii    และในรายชื่อของ KEW เป็นชื่อที่ถูกใช้อย่างต้องก็ตาม    แต่ภายใน KEW เองก็มีปัญหาว่า ตัวอย่างที่KEW ได้ระบุชนิดดังกล่าวนั้นไว้นั้น หาไม่พบ มีเพียงภาพถ่าย ซึ่ง   ดูจากภาพถ่ายแล้ว ไม่สามารถแยกความแตกต่างจาก Habenaria rhodocheila ได้ จึงเป็นปัญหาว่า ชื่อที่ตั้งจากตัวอย่างนั้น แท้ที่จริงแล้ว อาจจะตั้งจาก Habenaria rhodocheila ก็เป็นได้

ขอบคุณมากๆ   ครับคุณแมคไกเวอร์ ผมลองเอารูปมาเทียบกันระหว่างสีชมพูกะสีแดงแล้ว มันไม่น่าเป็นชนิดเดียวกันได้   และดูแล้วสภาพถิ่นอาศัยก็ดูแตกต่างกันอย่างมากอีกด้วย   แต่ก็คงมีลักษณะสำคัญอะไรบางอย่างที่ทำให้ทั้งสองยังคงเป็นชนิดเดียวกันอยู่แน่ๆ   (ไม่สงสัยล่ะ เอาเป็นว่า สวยเหมือนๆ   กันก็พอครับ)

จริงๆ แล้วเรื่องถิ่นที่อยู่ของลิ้นมังกรนั้น ส่วนใหญ่ที่พบก็จะพบใกล้เคียงกับบริเวณน้ำตก หรือไม่ก็บริเวณที่มีความชื้นสูงที่อาจไม่ใช่ใกล้น้ำตกได้ครับ อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่ทำให้เกิดการจำแนกแยกออกมานั้น บางครั้งเขาก็ดูลักษณะของหัว ที่เป็นแบบมันฝรั่ง หรือแบบกระชายด้วยครับ  แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มักนำมาแยกก็คือ ส่วนที่เป็นดอก ที่ผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ความต่างที่เห็นได้ชัดขนาดนี้กลับยังคงไม่นำมาแยก ทั้งๆ ที่บางชนิดต่างกันเพียงนิดเดียว กับแยกเป็นคนละชนิด.. ก็คงต้องรอดูความคืบหน้าครับ

แมคไกเวอร์ [ 07 ส.ค. 2552 17:05:26 ]

ความคิดเห็นที่: 24

ขอบคุณสำหรับวิทยาทานที่คุณแมคไกเวอร์เอื้อเฟื้อให้ครับ

ขอรอความคืบหน้าด้วยคนครับ

aimbryo [ 07 ส.ค. 2552 17:12:33 ]

ความคิดเห็นที่: 25

เหอ เหอ เทียนดอกเหลืองนี่ ที่เราขึ้นเขาหากันแทบตายไม่ใช่รึท่าน jungleman!!!

นณณ์ [ 09 ส.ค. 2552 00:13:34 ]

ความคิดเห็นที่: 26

ภาพแรกก็ทำเอาผมอึ้งนะครับ งาม และสงบเย็น.... นึกถึงภาพนินจาทำสมาธิในสายน้ำตกเย็นยะเยือก!
ชอบมากครับ

จอม [ 09 ส.ค. 2552 02:17:43 ]

ความคิดเห็นที่: 27

: นณณ์

เหอ เหอ เทียนดอกเหลืองนี่ ที่เราขึ้นเขาหากันแทบตายไม่ใช่รึท่าน jungleman!!!

แสดงว่าผมเจอของดี โดยไม่รู้ตัวน่ะสิครับ ว้าววว

: จอม

ภาพแรกก็ทำเอาผมอึ้งนะครับ งาม  และสงบเย็น.... นึกถึงภาพนินจาทำสมาธิในสายน้ำตกเย็นยะเยือก!
ชอบมากครับ

ตอนถ่ายมาก็รู้สึกอย่างนั้นเลยครับ  แต่เป็นหลวงจีนที่นั่งทำสมาธิอยู่ในนั้นแทนครับ
ขอบคุณมากครับ

aimbryo [ 12 ส.ค. 2552 20:38:30 ]

ความคิดเห็นที่: 28

.หูยยย... เสียดาย...ไปไม่ถึง..
..เห็นเพื่อนๆ  บอกมาว่า..ที่สกลนครมีอีกที่ที่ลิ้นมังกรเป็นสีชมพู.. มีใครพอทราบไหมครับ..ว่าเป็นสถานที่ใด..
..
...ขอบคุณครับ..

: aimbryo

แถมภาพน้ำตกชั้น 5 ไฮไลท์ของหมันแดงอีกรูปครับ
ฝีมือของน้องชายตัวแสบครับ (ของตัวเอง ดูไม่ได้เลย เบลอ+จตุคามเต็มภาพเชียว)

รูปนี้โดนใจเลยครับ...

mou [ 13 ส.ค. 2552 02:27:05 ]
narashethe-t@hotmail.com

ความคิดเห็นที่: 29

ที่สกลนคร? อยู่รู้เหมือนกันครับ แล้วเค้าก็ว่า (ใคร?) มีสีแดง กะสีเหลืองด้วยครับ เท็จจริงอย่างไรก็ไม่ทราบ

ขอบคุณครับ คุณ mou ภาพนี้น้องชายเป็นคนถ่ายครับ ของตัวเองดูไม่ได้เลย (กล้องเปียกเลยอ่ะ)

aimbryo [ 13 ส.ค. 2552 18:27:58 ]

ความคิดเห็นที่: 30

เห็น#2  และ #14 แล้วนึกถึงภาพที่คุณคนป่าถ่ายไว้เลย ซึ่ง รูปของคุณคนป่านั้นมีสิ่งแปลกปลอมอยู่จนเป็น new record ของงูที่เป็นหนึ่งในตำนาน

knotsnake [ 17 ส.ค. 2552 12:27:32 ]