กระทู้-12857 : สัมมนา: การคิดค่าเสียหายจากการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน

Home » Board » สิ่งแวดล้อม

สัมมนา: การคิดค่าเสียหายจากการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน

http://www.prachatai.com/journal/2009/08/25492

เป็นข่าวจากเว็บไซต์หนึ่งที่ผมอ่านดูแล้วรู้สึกตะหงิดๆ  ใจ

ทั้งๆ ที่เรื่องโลกร้อนอาจเป็นเพียงสมมติฐานที่ยังไม่อาจหาข้อสรุปได้อย่างแท้จริง  และเป็นประเด็นมาจากเรื่องการเมืองในUSA

แต่บัดนี้ในเมืองไทยมีเกษตรกร 7ราย ถูกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช  (อส.)  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม  (ทส.)  แจ้งความดำเนินคดี  และเรียกค่าเสียหายกว่า 20.3 ล้านบาท ด้วยข้อหาว่า พวกเขาทำให้"โลกร้อน"

ชาวสยามเอ็นสิสมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างกับตัวบทกฎหมายนี้  และคิดว่าสามารถแก้ปัญหาที่มีคนนิยามว่า"โลกร้อน" ได้หรือไม่

หรือสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงละครตลกร้ายของเมืองไทย ที่ไล่เบี้ย และยัดเยียดข้อหานี้เอากับเกษตรกรผู้ยากจน
...แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 2552 19:13:18
Alakazum approve [ 19 ส.ค. 2552 18:06:41 ]
ความคิดเห็นที่: 1
ต้องคิดค่าเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร้ประสิทธิภาพ ทำให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าได้ ในฐานะเจ้าของเงินภาษีที่จ่ายเป็นเงินเดือนพวกนี้ก็ต้องมีสิทธิ์ฟ้องแพ่ง จนท. เหล่านี้ได้เหมือนกัน
knotsnake approve [ 19 ส.ค. 2552 19:01:14 ]
ความคิดเห็นที่: 2
ไม่รบนาย ไม่หายจน  และ กบฎ คือความชอบธรรม (Mao Tze Dong)
ยังใช้ได้กับกรณีนี้
waterpanda approve [ 19 ส.ค. 2552 19:15:45 ]
ความคิดเห็นที่: 3
ผมว่าแล้วมันต้องเกิดขึ้นจริงๆ  ไอ้การเอาเปรียบประเทศที่เล็กกว่า มันเป็นเรื่องที่ พี่ท่านชอบมาก ได้รู้ข่าวสารมานานพอสมควร ว่าประเทศที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน คือประเทศที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการเกษตร เราไม่ได้โดนประเทศเดียวหรอกครับ เลี้ยงวัวมากวัวถ่ายออกมาก็มีก๊าซมีเทน ปลูกข้าวแล้วเผาซังข้าวก็ทำให้เกิดมลพิษที่ส่งผลกระทบกับภาวะโลกร้อน ห้ามประเทศเล็กๆ ใช้สาร CFC ( แตู่ ไม่ลงสัตยบรรณ) กำหนดกฏเกณฑ์เพื่อให้คนอื่นทำตามที่ตัวเองคิด ( แตุ่ไม่ทำ) เห็นมีประเทศเดียวที่ยืนสู้(ม ง ทำได้ ู กีทำได้)รัฐบาลไทยคิดอย่างไรครับท่าน
...แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 2552 20:56:30
noppadol approve [ 19 ส.ค. 2552 20:53:54 ]
noparnon@yahoo.co.th
ความคิดเห็นที่: 4
เอ่อ.. ในฐานะป่าไม้ ขอตอบบางประเด็นนะครับ

#0 ... และยัดเยียดข้อหานี้เอากับเกษตรกรผู้ยากจน.
เกษตรกรที่โดนจับ บางคนมีที่ดินให้เช่าอยู่ข้างนอก บางคนมีสวนปาล์มหลายสิบไร่ คิดว่าคงไม่ยากจนแล้ว

#1 ...ค่าเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร้ประสิทธิภาพ ทำให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าได้.
เจ้าหน้าที่ที่นั่นมีกี่คนรับผิดชอบพื้นที่เท่าไรผมไม่ทราบ  แต่อุทยานฯ เล็กๆ  ที่ผมอยู่ เรามีข้าราชการ 1 คน เจ้าหน้าที่ 38 คน รับผิดชอบพื้นที่ 26,000 ไร่(โดยประมาณ) นักท่องเที่ยวย้อนหลัง 10 ปีเฉลี่ย 858,293 คน

ใน 1 ปีเจ้าหน้าที่ 1 คน ต้องดูแลพื้นที่เกือบ 700 ไร่ ดูแลนักท่องเที่ยว 13,992 คน โดยไม่รวมงานอื่นๆ  เช่น งานวิจัย ..เราทำเต็มที่แล้วครับ  ถ้าเพียงรับข่าวจากสื่อโดยไม่ทราบปัจจัยทั้งหมด ผมยังไม่อยากให้วิจารณ์ รอรายละเอียดอื่นๆ  แล้วค่อยวิจารณ์ดีกว่าครับ

ส่วนเรื่องข้อหาโลกร้อน แม้ผมเป็นป่าไม้ แต่ก็เห็นด้วยว่าเป็นข้อหาที่ไม่ได้เรื่อง  แต่เรื่องกฎหมายผมไม่ค่อยมีความรู้ ขอเป็นหน้าที่ของฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วกัน(ในความเห็นผมว่าน่าจะเป็นข้อหาทำลายความหลากหลายทางชีวภาพมากกว่า..ไม่รู้มีข้อหานี้รึเปล่า)
vvay approve [ 20 ส.ค. 2552 08:11:29 ]
ความคิดเห็นที่: 5
มีเครื่องมือวัดซะด้วย สุดยอดเลยครับ
ถ้าเอาไปใช้กับพวกที่เป็นนายทุนที่บุกรุกป่าจริงๆ ก็จะดีมาก  แต่ ถ้าเอามาใช้กับชาวบ้านตาดำๆ  ก็คงไม่ดี
แต่ดูท่าแล้วน่าจะเป็นเครื่องมือที่ดีมากเลย( ถ้าเอามาใช้ให้ดีนะ  แต่จะโดนต่างชาติตามมาทับซ้ำรึเปล่าอันนี้ต้องระวัง ทำเขาไว้เดี๋ยวจะโดนเข้าเองสักวัน หุหุ)
ต้ล approve [ 20 ส.ค. 2552 09:37:07 ]
ความคิดเห็นที่: 6
หายใจออกจะโดนจับปรับข้อหาปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือเปล่าเนี่ย
Ammie approve [ 20 ส.ค. 2552 09:56:11 ]
ความคิดเห็นที่: 7
อยากให้เริ่มจากการปลูกฝังจิตสำนึกในการแยกแยะขยะก็ไม่เลวนะครับ แยกแล้วก็เอามาใส่ถุงกองกัน เป็นวันๆ ไป ประมาณ เศษอาหารวันจันทร์ ขยะเผาได้วันอังคาร ขยะรีไซเคิลวันพุธ ขยะอันตราย วันอาทิตย์
เพราะ ถ้าจะเล่นกันจริงๆ ทุกคนเป็นผู้ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน แค่มากน้อยต่างกัน...อย่าบอกนะครับว่าไม่มีไครไม่ใช้วัสดุพลาสติก.แอร์..รถยนต์..ฯ ลฯ  ... และแน่นอนครับผมก็ใช้
noocloudy approve [ 20 ส.ค. 2552 13:39:13 ]
ความคิดเห็นที่: 8
เฮ้อ คนหนอคน ได้ชื่อว่าคน มักมีกิเลศพรั่งพรู แย่ๆ
เก่ง_ดอยอินฯ approve [ 21 ส.ค. 2552 16:28:21 ]
ความคิดเห็นที่: 9
ผมควรจัดการด้วยข้อหา บุกรุกป่า ไม่ก็อะไรอื่นๆ น่ะครับ แล้วก็จับปรับไล่ออกไป ก็พอ

ค่าทำให้โลกร้อน  ถ้าจะคิด ควรมาคิดที่ภาคอุตสาหกรรม กับการใช้น้ำมันเหมาะกว่า
GreenEyes approve [ 21 ส.ค. 2552 19:14:49 ]
ความคิดเห็นที่: 10
ตัวดีเลยครับ มาพิสูจน์ได้ ที่มาบตาพุด

กทม.ว่าร้อน มาเจอที่นี่รับรองประทับใจมิรู้ลืม
ไอ้ลูกทุ่ง approve [ 21 ส.ค. 2552 20:54:25 ]
ความคิดเห็นที่: 11
: ไอ้ลูกทุ่ง
ตัวดีเลยครับ มาพิสูจน์ได้ ที่มาบตาพุด

กทม.ว่าร้อน มาเจอที่นี่รับรองประทับใจมิรู้ลืม
ไอ้ผมก็อยู่ไม่ไกลจากคุณไอ้ลูกทุ่งนะครับ   แต่ผมรับรองครับ เมืองไทยยังมีสามฤดูครับ (ร้อนนิดหน่อย ร้อนลิ้นห้อย ร้อนอิ๋บอ๋าย)
noppadol approve [ 21 ส.ค. 2552 22:30:03 ]
noparnon@yahoo.co.th
ความคิดเห็นที่: 12
: vvay
เอ่อ.. ในฐานะป่าไม้ ขอตอบบางประเด็นนะครับ

#0 ...  และยัดเยียดข้อหานี้เอากับเกษตรกรผู้ยากจน.
เกษตรกรที่โดนจับ บางคนมีที่ดินให้เช่าอยู่ข้างนอก บางคนมีสวนปาล์มหลายสิบไร่ คิดว่าคงไม่ยากจนแล้ว

#1 ...ค่าเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร้ประสิทธิภาพ ทำให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าได้.
เจ้าหน้าที่ที่นั่นมีกี่คนรับผิดชอบพื้นที่เท่าไรผมไม่ทราบ   แต่อุทยานฯ  เล็กๆ   ที่ผมอยู่ เรามีข้าราชการ 1 คน เจ้าหน้าที่ 38 คน รับผิดชอบพื้นที่ 26,000 ไร่(โดยประมาณ) นักท่องเที่ยวย้อนหลัง 10 ปีเฉลี่ย 858,293 คน

ใน 1 ปีเจ้าหน้าที่ 1 คน ต้องดูแลพื้นที่เกือบ 700 ไร่ ดูแลนักท่องเที่ยว 13,992 คน โดยไม่รวมงานอื่นๆ   เช่น งานวิจัย ..เราทำเต็มที่แล้วครับ   ถ้าเพียงรับข่าวจากสื่อโดยไม่ทราบปัจจัยทั้งหมด ผมยังไม่อยากให้วิจารณ์ รอรายละเอียดอื่นๆ   แล้วค่อยวิจารณ์ดีกว่าครับ

ส่วนเรื่องข้อหาโลกร้อน แม้ผมเป็นป่าไม้  แต่ก็เห็นด้วยว่าเป็นข้อหาที่ไม่ได้เรื่อง   แต่เรื่องกฎหมายผมไม่ค่อยมีความรู้ ขอเป็นหน้าที่ของฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วกัน(ในความเห็นผมว่าน่าจะเป็นข้อหาทำลายความหลากหลายทางชีวภาพมากกว่า..ไม่รู้มีข้อหานี้รึเปล่า)


ครับ จริงๆ ไม่ได้มุ่งประเด็นไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้หรือการทำงาน ซึ่ง กำลังคนอันน้อยนิด กับงบประมาณอีกนิดหน่อยที่ตกไปถึง จะกินจะอยู่ยังยากลำบาก พี่ๆ ป่าไม้ก็เปรัยบเหมือนเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากภาครัฐเช่นกัน สวัสดิการยังไม่ดีเท่าสาวโรงงานเลยด้วยซ้ำ แถมยังต้องทำงานที่เสี่ยงชีวิตอีก

กระผมอยากให้มุ่งไปในประเด็นเชิงนโยบายน่ะครับ ของคนที่เรียกว่า"เบื้องบน"  และผู้ที่มีอำนาจในการกำหนดนโยบายต่างๆ  เพราะ ถ้านโยบายดี  แต่แนวทางการนำมาใช้ไม่ถูกวัตถุประสงค์ กฎหมายตัวนั้นก็จะด้อยค่าลงไป  ถ้าสมมุติชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรโดนเรียกค่าปรับเป็นล้านๆ  แล้วนายทุนล่ะ โรงไฟฟ้าถ่านหินล่ะ โรงงานอุตสาหกรรมล่ะ อยู่กันได้ลอยหน้าลอยตาในสังคมอย่างสบายใจเฉิบ

 ถ้าจำเลยของคดีสมมุติว่าโลกร้อนนี้ เป็นชาวบ้านที่เสาะหาที่ดินทำกิน โดยส่วนตัวคิดว่ายังไงก็ไม่เรียกว่ายุติธรรม

ปัญหาที่ดินทำกินของชาวบ้าน แก้ได้ ด้วยการปฏิรูปที่ดิน ในเมืองไทยมีที่ดินมากมาย  แต่ส่วนมากตกไปอยู่กับนายทุนเจ้าขุนมูลนาย  ถ้าจัดสรรแบ่งปันกันอย่างเท่าเทียมแล้ว ชาวบ้านก็คงไม่ต้องเข้าไปบุกรุกป่า หรือบางคนอยู่ที่นั่นมาก่อน  แต่ทางการประกาศเขตอนุรักษ์ทับที่อยุ่เดิมเขา ทางการก็ต้องจัดสรรที่ดินทำกินที่ทัดเทียมกันให้

 และที่สงสัยคือ โลกร้อนจริงหรือ? หรือมันแค่เป็นไปตามวัฏจักรของโลก?  หรือเป็นแค่เกมการเมืองของประเทศมหาอำนาจใช้กดขี่ทางการค้าประเทศที่ด้อยกว่า? ที่USAต้นกำเนิดเรื่องนี้มีหน่วยวัดค่าเสียหายของการทำให้โลกร้อนขึ้นแล้วหรือ? แล้ววัดจากอะไร? มันวัดได้จริง และตีมูลค่าเป็นเงินได้จริงตามกฎหมายของไทยนี้มั๊ย?

 และ ถ้าคำถามเหล่านี้ยังไม่ถูกตอบให้เป็นเรื่องที่กระจ่างทั้งหมด ก็ไม่สมควรที่ชาวบ้านทั้งเจ็ดคนจะโดนค่าปรับในข้อหา"ทำให้โลกร้อน" ถึง 20.3 ล้านบาทในกรณีที่ยกมาให้อ่านนี้
...แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 2552 06:07:22
Alakazum approve [ 22 ส.ค. 2552 06:04:19 ]

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org