กระทู้-12967 : ขอความคิดเห็นเรื่อง การล่าจระเข้ที่เขาใหญ่ครับ

Home » Board » อื่นๆ

ขอความคิดเห็นเรื่อง การล่าจระเข้ที่เขาใหญ่ครับ

คือว่าผมมีความเห็นว่า ถ้าเขาเกิดจากธรรมชาติก็น่าจะปล่อยให้เขาอยู่ต่อนะครับ
หรือถ้าคิดว่าเขาเป็นสัตว์ร้ายต้องจัดการเขา เขาก็อยู่มานานแล้วเพราะป่าเป็นที่ของเขา เราต่างหากที่เข้าไปบุกรุกเขาเอง...
แมงระงำ approve [ 04 ก.ย. 2552 14:37:54 ]
ความคิดเห็นที่: 1
.....ผมว่าไม่ว่าจะเป็นจระเข้าที่มาจากธรรมชาติปรือมีคนแอบปล่อยก็ควรให้เขาอยู่ที่นั่นต่อไป แม้ว่าจะมีไม่คู่ให้เชยชม ก็ขอให้เขามีโอกาสหมดลมหายใจในธรรมชาติดีกว่าครับ
.....เราเองก็รุกพื้นที่เขามามาก ยอมสละพื้นที่ให้เขาอยู่สบายซักนิด  + ระมัดระวังกันให้มากขึ้น อีกทั้งต้องเตือนนักท่องเที่ยวเสมอว่า ที่นี่ มรดกโลก ไม่ใช่ที่ที่เปลี่ยนที่กินเหล้า
.....กรณีเดียวที่ควรจับ คือ  ถ้าเขาไม่ใช่จระเข้น้ำจืดสายพันธูไทยครับ
.....อีกอย่าง เขาเจอกันมานานมากแล้วนี่เนาะ
hume approve [ 04 ก.ย. 2552 14:43:07 ]
ความคิดเห็นที่: 2
นั่นสิครับปล่อยให้อยู่อย่างนั้นดีกว่า รู้สึกว่า ถ้าจำไม่ผิดมีกระทู้จระเข้ที่เขาใหญ่แล้ว เห็นในไทยรัฐลงว่าอธิบดีอุทยานแห่งชาติสั่งให้ล่าตัวมาพิสูจน์ว่าเป็นจระเข้ปล่อยหรือมีเอง น่ากลัวว่า ถ้าจับได้แล้วจะได้กลับมาอยู่เขาใหญ่หรือจะไปเป็นกระเป๋าก็ไม่รู้ ไม่น่าจะไปจับอีก แค่ทำป้ายเตือนก็พอแล้ว
ตะขาบยักษ์ approve [ 04 ก.ย. 2552 14:55:59 ]
ความคิดเห็นที่: 3
ดูจากลักษณะภายนอกมันก็เหมือน จระเข้น้ำจืดแท้ๆ อยู่นะครับ เคยให้ผู้เชี่ยวชาญดูแล้วท่านก็ยืนยันตามนั้น ซึ่ง  ถ้าเป็นน้ำจืดจริงมันก็ไม่ดุร้ายอะไร หรือ ถ้าจะหวงนักท่องเที่ยว ก็คืออย่าเล่นน้ำ ไปเล่นที่จุดอื่น หรือไม่ต้องเล่นเลยก็ได้ครับ ดูเฉยๆ  

คือ ถ้าจะล่า ก็ล่าด้วยสาเหตุเดียวคือเอามาตรวจ dna ว่าเป็นไทยแท้หรือเปล่า หรือไม่ก็แถมเช็คเพศเสียหน่อย แค่นั้นแหล่ะ  แต่ที่มีข่าวว่าจะจับออกไปอยู่ที่อื่นผมไม่เห็นด้วย จะเป็นจระเข้ปล่อยหรือธรรมชาติเดิม มันอุตสาห์อยู่ของมันได้แล้ว ก็ปล่อยให้มันอยู่เถิด จริงๆ แล้วควรปล่อยเพิ่มด้วยซ้ำไป ดูเพศเสร็จก็หาคู่มาปล่อย เผื่อมันจะแพร่พันธุ์

เก๋ดีออก

ปล. เมื่อกี้ nation chanel เพิ่งโทรมาสัมภาษณ์ เห็นว่าคืนนี้จะออกเรื่องนี้นะครับ
...แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 2552 15:11:57
นณณ์ approve [ 04 ก.ย. 2552 15:06:09 ]
ความคิดเห็นที่: 4
ขอโทษนะครับ...เป็นข่าวที่บ้าบอมาก
ถ้าสัตว์มันอยู่ในพื้นที่อุทยานแล้วกลัวคนจะเป็นอันตราย
ก็ประกาศให้เขาใหญ่เป็นสวนสาธารณะไปซะ...จบเรื่อง
ปีย์ approve [ 04 ก.ย. 2552 15:14:27 ]
ความคิดเห็นที่: 5
: ปีย์
ขอโทษนะครับ...เป็นข่าวที่บ้าบอมาก
ถ้าสัตว์มันอยู่ในพื้นที่อุทยานแล้วกลัวคนจะเป็นอันตราย
ก็ประกาศให้เขาใหญ่เป็นสวนสาธารณะไปซะ...จบเรื่อง


ถูกต้องนะคร๊าบบบบบบบ
นณณ์ approve [ 04 ก.ย. 2552 15:45:09 ]
ความคิดเห็นที่: 6
: ปีย์
ขอโทษนะครับ...เป็นข่าวที่บ้าบอมาก
ถ้าสัตว์มันอยู่ในพื้นที่อุทยานแล้วกลัวคนจะเป็นอันตราย
ก็ประกาศให้เขาใหญ่เป็นสวนสาธารณะไปซะ...จบเรื่อง


ประชดได้โดนใจ  ชอบๆ

เรื่องที่กินเหล้า ที่สังสรรค์  ได้มีการเตรียมพื้นที่ป่าสำหรับเรื่องแบบนี้ แก่งเจ็ดคด โป่งก้อนเส้า ใกล้กว่าเขาใหญ่  แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม สงสัยไม่มีกวาง มีลิงให้ดู ตอนเมา

น่าเห็นใจท่านผู้ใหญ่ๆ  เวลามันเป็นกระแส คงต้องทำไรซักอย่าง ขึ้นอยู่กับว่าอย่างไหน ถูกใจใคร
....นักอนุรักษ์เขียวๆ ...
....นักท่องเที่ยวเขียวจางๆ ....
....นักกินเหล้า หลากหลายสี.....
....นักถ่ายรูป....
.....นักข่าว.....
....นัก ฯ ลฯ .....

 แต่ส่วนตัว นักท่องเทียว สีเขียวอมเทา   ถ้ามันเป็น siamensis แล้วอยู่ได้มานาน ลองตรวจสอบซักนิด มีผลกระทบอะไรบ้าง   และก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ ตื่นเต้นดี 555

ปล. ทำไมไปหา ไม่เคยเจอ
...แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 2552 16:05:26
เสือหัวดำ approve [ 04 ก.ย. 2552 16:03:06 ]
ความคิดเห็นที่: 7
ผมเห็นด้วยกับทุกท่านมากๆ เลยครับ ...ผมเองอยู่ใกล้เขาใหญ่ และเดินป่าเขาใหญ่มาหลายปี เจอจระเข้ ดีใจมากๆ เลย.. แต่ว่า ???ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ที่ประเทศไทยที่เดียว  ถ้าย้ายอธิบดีกรมฯ  ไปอยู่ ซาฟารี สงสัยต้องฆ่าสิงโต ฆ่าเสือทิ้งหมด คงเหลือไว้ แต่กวางเท่านั้น..

...ยิ่งโตยิ่งคิดน้อยครับพี่น้อง.....
แมงระงำ approve [ 04 ก.ย. 2552 16:20:34 ]
ความคิดเห็นที่: 8
คนก็แค่ระวัง คนที่กลัวก็ไม่ต้องไปตรงนั้น ลานกางเต้นท์ก็ไกล แม้ในทางทฤษฎีมันเดินมาถึงได้  แต่จระเข้ไม่มาเพื่อล่าเหยื่อแน่ จะกัดคนแถวนั้นก็เมื่อคนไปจับมันนั่นแหละ ทำไมออสซี่เขายังอยู่ด้วยกันได้เลย จระเข้ก็ดุกว่าของเราด้วยซ้ำ
knotsnake approve [ 04 ก.ย. 2552 16:44:29 ]
ความคิดเห็นที่: 9
อ่านจากไทยรัฐฉบับวันนี้ ได้ยินว่ามี จนท.ที่เกี่ยวข้องคนนึง  เสนอมาว่าไม่อยากให้ใครทำอันตรายจระเข้เหมือนกัน   แต่เค้าเสนอว่าให้ประกาศแจ้งนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวัง  เพื่อป้องกันอันตราย

ผมว่าแนวทางแบบนี้น่าจะแฟร์ที่สุดแล้วล่ะ
แต่ข่าวจากแหล่งอื่นยังไม่ได้อ่าน เลยไม่รู้ว่ามันนำเสนอแบบไหนบ้าง

ปล.ผมว่า ถ้าผลตรวจออกมาเป็น จระเข้น้ำจืดแท้ (หรืออาจจะไม่แท้ แต่มีเลือดน้ำจืดเกิน 87%)  ก็ไม่ควรไปเอามันออกแล้วล่ะ ปล่อยให้มันอยู่ในธรรมชาติบ้าง
...แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 2552 18:39:04
snakeeater approve [ 04 ก.ย. 2552 18:38:45 ]
ความคิดเห็นที่: 10
ผมว่า ถ้ามันเป็นจระเข้น้ำจืดแท้ก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้นดีที่สุดครับทำป้ายเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวัง และอย่าฝ่าฝืนข้อบังคับก็พอ  มนุษย์ขึ้นชื่อว่าฉลาดที่สุดบนโลกแป้นๆ ใบนี้  ถ้าเขาเตือนแล้วยังฝ่าฝืน จะมาโทษสัตว์ที่ฉลาดน้อยกว่าไม่ได้ โดนกัดตายก็สมควรเป็นอาหารจระเข้แล้วครับ
desperado approve [ 04 ก.ย. 2552 19:03:36 ]
ความคิดเห็นที่: 11
เห็นด้วยกับทุกท่านใครทำร้ายมันจะประณามให้ได้อาย
noppadol approve [ 04 ก.ย. 2552 19:52:10 ]
noparnon@yahoo.co.th
ความคิดเห็นที่: 12
คนต่างหากไปบุกรุกเขา

น่าจับตีซะให้เข็ด...ชิ
Chao approve [ 04 ก.ย. 2552 19:58:28 ]
ความคิดเห็นที่: 13
แล้ว ถ้าเค้าจะจับไปปล่อยที่อื่นจริงๆ  เราจะทำยังไงกันครับ?
นณณ์ approve [ 04 ก.ย. 2552 21:58:51 ]
ความคิดเห็นที่: 14
: นณณ์
แล้ว  ถ้าเค้าจะจับไปปล่อยที่อื่นจริงๆ   เราจะทำยังไงกันครับ?


เราคงทำได้แค่นั่งเสียดายกระมัง

ยิ่ง ถ้าเป็นน้ำจืดแท้แล้วด้วย
Portrait approve [ 04 ก.ย. 2552 22:11:21 ]
ความคิดเห็นที่: 15
ผมว่าเราวาดภาพจระเข้ให้มันน่ากลัวกันเิกินไปหรือเปล่า (หมายถึงคนทั่วไป  และสื่อต่างๆ ) ผมเคยไปเที่ยวบึง Everglade ของฟลอริดา เขามี trail ให้ไปเดินดูป่าพรุ ซึ่ง เป็นพ้ื้นที่ที่เขาอนุรักษ์อัลลิเกเตอร์ (alligator) เขาก็ทำทางเดินเรียบน้ำเป็นปกติ  แต่เขาห้ามไม่ให้เราออกนอกเส้นทาง เพราะว่าพวกเกตอร์มันจะนอนกันข้างทางยั๊วเยี๊ยะไปหมด เขามีป้ายบอกเป็นระยะว่าห้ามแหย่ ห้ามให้อาหาร  และห้ามเข้าเดินหลัง 6 โมงเพราะว่าเป็นเวลาหาอาหารของเจ้าเกเตอร์พวกนี้  ดูคนเดินเที่ยวเขาไม่ได้หวาดระแวงอะไรมากมายเลย เพราะว่าเขามีข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าตัวนี้อย่างดี

แต่ว่าบ้านเราสอนให้กลัว เคยอ่านเจอเกี่ยวกับประวัติของบึงบอระเพ็ด ชาวประมงสมัยก่อนเวลาเขาจะจับกู้ปลาจากอวนในบึง ซึ่ง ขณะนั้นมีจระเข้อยู่มากมาย เขาก็เตรียมไม้ยาวๆ  ไปด้วยเอาไว้ไล่จระเข้ เพราะมันจะมากินแย่งปลาที่ติดอยู่ในอวน ผมว่าชีวิตชาวประมงเขาก็มีการเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งแวดล้อมอย่างสันติสุข  แต่ว่าเราสอนถูกสอนให้กลัวจระเข้ตั้ง แต่เด็กๆ  เช่นมีนิทานเรื่องชาละวัน ซึ่ง คิดว่าหลอกให้เด็กกลัวไม่ลงเล่นน้ำกันตามลงพังลับหลังผู้ใหญ่

ที่พูดมานี่ไม่ใช่เป็นการบอกว่าไม่ให้กลัวนะครับ  แต่จะบอกว่าเราคงต้องเรียนรู้ที่จะจัดการให้มันอยู่อย่างไร  แต่ประเด็นที่น่าเป็นห่วงก็คือ เอามันไปปล่อยนั้นถูกที่ถูกทางหรือเปล่า เพราะมันเป็นผู้ล่า  และแหล่งน้ำที่มันอยู่จะมีอาหารให้มันกินพอเพียงหรือเปล่า ถ้าไม่พอ มันคงต้องหันมาล่าคนบ้างเพราะว่าท้องมันหิว
สมหมาย approve [ 04 ก.ย. 2552 22:28:51 ]
ความคิดเห็นที่: 16
เพิ่งดูข่าวช่อง 7 มาครับ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่บอกว่าจะจัดทีมเค้าไปตรวจสอบ DNA จระเข้ ถ้าเป็นสายพันธุ์ไทยก็จะปล่อยไว้ แต่ ถ้าไม่ใช่ก็จะจับออกมา  แต่นายสัตวแพทย์ปานเทพ  รัตนากร บอกว่าควรจะจับออกมาอย่างรีบด่วนเพราะไม่เคยมีประวัติว่าบนเขาใหญ่มีจระเข้กลัวว่าจะทำให้ระบบนิเวศน์เสียหายครับ หัวหน้า อช.ว่าเป็นข่าวดี  แต่ทำไมหมอว่าไม่ดีน้อ
ตะขาบยักษ์ approve [ 04 ก.ย. 2552 22:39:18 ]
ความคิดเห็นที่: 17
ดงพญาเย็นไม่เคยมีจระเข้????????!!!!!
นณณ์ approve [ 04 ก.ย. 2552 22:54:39 ]
ความคิดเห็นที่: 18
จระเข้แค่ตัวสองตัวคงไม่ทำให้ระบบนิเวศน์เสียหายกระมัง

อีกอย่างอาหารก็สมบูรณ์ดี คงไม่ต้องถึงขนาดถ่อสังขารขึ้นมาหาคนที่กางเตนท์อยู่หรอกนะ

กลัวกันไปมากเกิน  ถ้าตรวจ DNA จริงๆ แล้วพันธุ์แท้หวังว่ามันคงจะอยู่ต่อที่เดิมนะครับ
Portrait approve [ 04 ก.ย. 2552 22:59:00 ]
ความคิดเห็นที่: 19
ทีวี ไทย pbs ตอนนี้หมอ ปานเทพ กำลังคุยเรื่องสุนัข..สุนัข ....กับเจ้าของสุนัขพันธ์ นักบุญ ของเจ้ไม่รู้ชื่อ  ที่บอกว่าเพิ่งพา สุนัขไปเที่ยวเขาใหญ่มา ...โอ พระเจ้าเปิดเป็นสวนสนุกเลยดีกว่า..
แมงระงำ approve [ 04 ก.ย. 2552 23:16:26 ]
ความคิดเห็นที่: 20
: แมงระงำ
ทีวี ไทย pbs ตอนนี้หมอ ปานเทพ กำลังคุยเรื่องสุนัข..สุนัข ....กับเจ้าของสุนัขพันธ์ นักบุญ ของเจ้ไม่รู้ชื่อ  ที่บอกว่าเพิ่งพา สุนัขไปเที่ยวเขาใหญ่มา ...โอ พระเจ้าเปิดเป็นสวนสนุกเลยดีกว่า..
อุทยานแห่งชาติเค้าห้ามเอาสัตว์เลี้ยงเข้าไปนิครับ....  แล้วพันธ์ที่ว่า จะแอบเอาเข้าไปได้มันก็ฟังดูแปลกๆ  นะครับ

ปล...ไป อช. ยอดนิยมทั้งหลาย  เจอคนเอาหมาไปเที่ยวด้วยประจำ....   แต่สัตว์ที่มันควรจะอยู่ในนั้นกลับหายจ้อย...
chai approve [ 05 ก.ย. 2552 00:53:05 ]
ความคิดเห็นที่: 21
เคยเห็นรูปถ่ายครั้งหลังดูภายนอกเป็นพันธุ์น้ำจืดแน่ๆ   แต่ตรวจ DNA ก็ดี ค่ะ เวลาจับต้องระวังมากๆ อาจทำให้สัตว์เจ็บหรือตายได้ (อย่างกระทิง)  ถ้าใช่ก็ปล่อยเค้าอยู่ที่เดิมต่อไปจะดีมาก หากมีการย้ายที่เกรงจะปรับตัวยากกับที่ใหม่ หรือไม่ก็บอบช้ำ อาจตายได้
Fog approve [ 05 ก.ย. 2552 09:11:02 ]
ความคิดเห็นที่: 22
เมื่อวานดูข่าวช่อง3ตอนเที่ยงๆ หน่อยเรื่องจระเข้นี้ล่ะ   ที่เขาใหญ่  แล้วก็มี ข่าวตอนท้ายอีกนิดนึงว่าพบไข่จระเข้ที่แก่งกระจานครับ  ทางนั้นเขาจึงพาทีมงานไปตรวจสอบแล้วขุดไข่จระเข้ขึ้นมาเพื่อเอามาฟัก.....(ผมได้ยินครึ่งแรกก็นึกว่ามีฝีมือออกคงจะเพาะกันได้)..... แต่ติดปัญหามีความยากลำบาก(พูดเหมือนจะเพาะไม่ได้)เพราะไข่จระเข้ในธรรมชาติจะมีตัวผู้ช่วยฝักไข่....(พอฟังครึ่งหลังจบผมงงมากเลย   ยากลำบากขนาดนั้นแล้วเอาขึ้นมาทำไมว่ะเมิงก็ปล่อยให้มันฟักเองธรรมชาติซิ )   ผมล่ะเซงมากๆ เลยกับประเทศไทย  ฟังข่าวบอกตอนนี้ผิดเขาใหย่ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าเพราะกลัวจระเข้จะตื่นตกใจ ( เออผมนึกก็ดีใจที่ยังห่วงจระเข้)  เพราะจะทำให้มีความยากลำบากในการจับ    บ้าบอที่สุดประเทศไทย   เคยฟังข่าวที่ออสเตเลีย  จระเข้กินคนจระเข้ยังไม่ผิดเลยไม่ใช่หรอ   เพราะกฏหมายเขาคุ้มครองจระเข้     ไทยไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก   แต่ไม่ต้องไปยุ่งกันมันก็พอแล้ว เซง  จริงๆ   ประเทศไทย   อะไรที่ได้หน้ากระโดดลงไปตะครุบกันใหญ่เลย    จริงๆ ตรวจดีเอ็นเอก็ดีจะได้รู้แน่ๆ ว่าพันธุ์อะไร   ต่อให้มันไม่ใช่พันธุ์ไทยก็ควรให้มันอยู่ตรงนั้นนะดีแล้ว
บีลีฟ [ 05 ก.ย. 2552 10:43:58 ]
ความคิดเห็นที่: 23
ขอให้เป็นข่าวดีทีเถอะครับ เบื่อกระแสจากสื่อจริงๆ

ถ้าเป็นเข้ไทยแท้ก็ดี ปล่อยให้เขาอยู่ คุ้มครองเขา จะได้มีเข้ไทยแท้น้ำจืดได้ดูกันในธรรมชาติ ดีกว่าดู แต่เหี้ยที่นับวันจะเพิ่มขึ้นๆ  นะครับ
ไอ้ลูกทุ่ง approve [ 05 ก.ย. 2552 11:35:07 ]
ความคิดเห็นที่: 24
ผมไม่ชอบกระแสเลยจริงๆ ขอรับ......
มันก็มองได้หลายมุมมอง  แต่กระแสข่าวเนี่ย ทำให้คนเดือดร้อนมานักต่อนักแล้ว
ความจริงเจ้าของพื้นที่ และระบบนิเวศบริเวณนั้น คงไม่เดือดร้อนอะไรมากกับจระเข้ 2 ตัว
เนื่องจากมันไม่มีจระเข้ในท้องถิ่นนั้น  และมันก็ไม่ได้มากมายอะไรนักหนา
แต่พอมันเป็นข่าว เลยต้องเดือดร้อนกันมากหน่อย เพราะปัญหาเรื่องคนเส้นตื้น.....
ความจริงผมมองว่า มันเกิดจากความอยากของเรามากกว่า อยากรู้ อยากเห็น
แน่นอนขอรับ หากต้องการพิสูจน์ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะหากมันเกิดประโยชน์ก็จะดีมากๆ
แต่บางครั้งการอ้างอิงเหตุผล ก็ไม่ควรเอาความอยากของเราไปสนับสนุน จนประเด็นเปลี่ยนแปลง
คำว่าความสมดุลของระบบนิเวศ ก็ไม่ควรใช้มากไป เพราะคำนี้ปัจจุบันมันกลายเป็นคำอ้างเสียแล้ว
เอาเถอะขอรับ ใครจะทำอะไรก็ทำไป อย่าไปใส่ใจมากเลย ขอให้มันออกมาดีที่สุดแล้วกันขอรับ.....
corwin approve [ 05 ก.ย. 2552 11:56:04 ]
ความคิดเห็นที่: 25
: ไอ้ลูกทุ่ง
ขอให้เป็นข่าวดีทีเถอะครับ เบื่อกระแสจากสื่อจริงๆ  

ถ้าเป็นเข้ไทยแท้ก็ดี ปล่อยให้เขาอยู่ คุ้มครองเขา จะได้มีเข้ไทยแท้น้ำจืดได้ดูกันในธรรมชาติ ดีกว่าดู  แต่เหี้ยที่นับวันจะเพิ่มขึ้นๆ   นะครับ

ไม่ได้ลอกนาท่านไอ้ลูกทุ่ง ผมพิมพ์ช้า  และยาวกว่า เลยตอบช้า..... แต่ใจดันมาตรงกันเลยนะขอรับ อิอิ
กระแสแค่ข่าวลือ  แต่สื่อแหละตัวดี (ผมเรียนโดยตรงมาทางสื่อ  แต่ขอพูดความเป็นจริงนะขอรับ)
...แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 2552 12:01:46
corwin approve [ 05 ก.ย. 2552 12:00:34 ]
ความคิดเห็นที่: 26
อยากเจอจังเลยครับ  เคยเดินผ่านบริเวณนั้น  แต่ไม่เจอ  ยอมรับว่าเสียวสันหลังเหมือนกัน เหอๆ   เจอ แต่ขี้ช้าง
electron approve [ 05 ก.ย. 2552 14:11:36 ]
ความคิดเห็นที่: 27
"จะได้มีเข้ไทยแท้น้ำจืดได้ดูกันในธรรมชาติ ดีกว่าดู  แต่ เหี้ย ที่นับวันจะเพิ่มขึ้นๆ " ชอบจัง ค่ะ ประโยคนี้
Fog approve [ 05 ก.ย. 2552 15:04:25 ]
ความคิดเห็นที่: 28
เมื่อเดือนที่แล้วเพื่อนดิฉันก้อไปเที่ยวค่ะที่เขาใหญ่พวกเค้าเลือกเส้นทางที่ต้องทางเข้าไปที่น้ำตกก้อไกลเหมือนกัน

พวกเพื่อนดิฉันก้อเจอจระเข้เหมือนกันก่อนที่จะมีข่าวออกมา

แล้วได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย นอนตากแดดอยู่ข้างริมน้ำ บริเวณเส้นทางที่จะไปน้ำตก เพื่อนเล่าให้ฟังว่า

มีป้ายเตือนว่า  ระวังจระเข้  ก้อมะคิดจะเจอ แล้วดันไปเจอจริงๆ

แต่จระเข้ก้ออยู่ส่วนของเค้าไปมะด้ายทำอะไร  แต่การที่จะจับจระเข้

ก้อถือเป็นการดี เพราะวันข้างหน้าอาจเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวได้

ไม่งั้นก้อกันพื้นที่ส่วนนั้นไว้ให้ขระเข้ได้อยู่อาศัย  และเน้นให้เป็นธรรมชาติมากที่สุดนะค่ะ
+++++ [ 05 ก.ย. 2552 20:46:58 ]
p_lonepair_ka@hotmail.com
ความคิดเห็นที่: 29
: ตะขาบยักษ์
เพิ่งดูข่าวช่อง 7 มาครับ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่บอกว่าจะจัดทีมเค้าไปตรวจสอบ DNA จระเข้  ถ้าเป็นสายพันธุ์ไทยก็จะปล่อยไว้  แต่  ถ้าไม่ใช่ก็จะจับออกมา   แต่นายสัตวแพทย์ปานเทพ  รัตนากร บอกว่าควรจะจับออกมาอย่างรีบด่วนเพราะไม่เคยมีประวัติว่าบนเขาใหญ่มีจระเข้กลัวว่าจะทำให้ระบบนิเวศน์เสียหายครับ หัวหน้า อช.ว่าเป็นข่าวดี   แต่ทำไมหมอว่าไม่ดีน้อ


หุหุ แล้วนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยว เอารถขึ้นไปเที่ยว กี่คนต่อกี่คน..เทียบกับจระเข้แค่สองตัวแล้ว อย่างไหนกระทบมากกว่ากัน?!?
จบสัตวแพทย์ซะเปล่า มีมุมมองตื้นเขินแค่นี้ หมดศรัทธาจริงๆ ฟ่ะ( ถ้าสิ่งที่เขาให้สัมภาษณ์เป็นอย่างนั้นจริงๆ น่ะ)

อันที่จริง คนในเวบทโมนทัวร์ เค้ารู้มาตั้งนานแล้ว ถ่ายรูปเจ๋งๆ มาให้ดูก็แล้ว(จากกระทู้เก่าที่มีคนทำลิงค์มาโพส)   แต่ทำไมเพิ่งมาจุดกระแสตามล่ากันตอนนี้
...แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 2552 21:19:41
snakeeater approve [ 05 ก.ย. 2552 21:15:23 ]
ความคิดเห็นที่: 30
จระเข้ ไม่น่ากลัวเท่า กระต่าย หรอก
snakeeater approve [ 05 ก.ย. 2552 21:20:50 ]
ความคิดเห็นที่: 31
: snakeeater
จระเข้ ไม่น่ากลัวเท่า กระต่าย หรอก


ทั้งภาพทั้งความเห็นโดนเลย
Portrait approve [ 05 ก.ย. 2552 22:00:34 ]
ความคิดเห็นที่: 32
1. ผมเป็นลูกลำตะคอง ตั้ง แต่ถนนมิตรภาพยังไม่ตัด ยังไม่มีอุทยานฯ เขาใหญ่...ผู้ใหญ่สมัยนั้นบอกลูกหลาน อย่าไปเล่นน้ำตามวังน้ำเพราะมันมีจระเข้ ... คำว่า ตะคอง ก็มาจากคำว่า ตะเข้-ตะโขง หรือจระเข้

2. ในอดีตตามวังน้ำต่างๆ ตลอดลำตะคองเป็นแหล่งอาศัยของจระเข้  แต่เมื่อธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปเพราะความเจริญ จึงมีจระเข้ส่วนหนึ่งหลงเหลืออยู่เพียงบนเขาใหญ่ ช่วงตั้ง แต่น้ำตกเหวสุวัต - น้ำตกผากล้วยไม้ เพราะเป็นวังน้ำตลอดปี เงียบสงบ มีป่าล้อมรอบ  และมีอาหารอุดมสมบูรณ์พอสมควร  และที่สำคัญคือมีความปลอดภัย จากการดูแลของเจ้าหน้าที่อุทยาน

3. การมีจระเข้บนเขาใหญ่แสดงถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศอย่างครบวงจรในบริเวณนั้น จระเข้ทำหน้าที่ควบคุมปลา งู ลิง หรือแม้กระทั่งกวางป่าไม่ให้มีจำนวนมากเกินไป โดยการกินเป็นอาหารเสียบ้าง

4. การย้ายจระเข้ที่พบออกไปจะเป็นการทำลายระบบนิเวศ มิใช่รักษาระบบนิเวศแบบที่หมอหมาแกว่า (หมอหมาแกรู้ทุกเรื่อง  แต่ไม่น่าจะเก่งทุกเรื่อง) ตราบใดที่จระเข้บนเขาใหญ่มิได้ over population จะไปจัดการโยกย้ายมันทำไมหมอ ?

5. การรบกวนจระเข้ + การจับจระเข้มาตรวจดีเอ็นเอ. หรือย้ายจระเข้ออกไปไว้ที่อุทยานอื่นจะทำให้บรรดาจระเข้รู้สึกว่ามันถูกมนุษย์บุกรุก + ทำร้ายมัน...ในที่สุดมันก็จะเปลี่ยนพฤติกรรมจากน่ารักเป็นดุร้าย มันจะเกลียด และกัดกินมนุษย์ทุกคนที่มันเห็น...ทีนี้ละก็ตัวใครตัวมัน...ในที่สุดก็จะมีหนังเรื่อง "Jawระเข้" ให้ดูบนเขาใหญ่อย่างแน่นอน

6. จระเข้ทุกตัวบนเขาใหญ่คือบริวารของเจ้าพ่อเขาใหญ่ ใครไปทำร้ายมันจะต้องมีอันเป็นไป ขอเจ้าพ่อเขาใหญ่ช่วยปกป้องจระเข้ทุกตัวให้รอดพ้นจากมนุษย์ที่ไปรบกวนการดำรงชีวิตของจระเข้ ด้วยการนำเรือติดเครื่องยนต์เข้าไปก็ดี หรือการจับมาตรวจดีเอ็นเอก็ดี...ด้วยเทอญ

7. ทางที่ดี กรมอุทยานฯ ควรกำหนดพื้นที่สองฝั่งลำตะคองตั้ง แต่น้ำตกผากล้วยไม้ไปจนถึงน้ำตกเหวสุวัตให้เป็นเขตแหล่งอาศัยของจระเข้ ยกเลิกเส้นทางศึกษาธรรมชาติสายนั้นเสียได้ก็น่าจะเป็นการสมควร.

ธนพล สาระนาค : ประธานชมรมมิตรหมอบุญส่ง เลขะกุล www.friendsofdrboonsong.org/
ธนพล สาระนาค [ 05 ก.ย. 2552 23:54:14 ]
ความคิดเห็นที่: 33
เห็นด้วยกับทุกความเห็น  แต่ ถ้าเป็นจระเข้ไทยแท้ กรุณาอย่าแตะต้อง  แต่ ถ้าเป็นลูกผสมหรือพันธุ์อื่นแน่นอนครับย่อมส่งผลกระทบแน่นอน ปลายทางของน้ำตกเหวสุวัฒน์ คือเขื่อนขุนด่านปราการชลครับ
noppadol approve [ 06 ก.ย. 2552 00:34:00 ]
noparnon@yahoo.co.th
ความคิดเห็นที่: 34
(เพิ่มเติม)

8. การใช้เรือยางติดเครื่องยนต์สำรวจจระเข้ตามลำตะคองบริเวณนั้น ไม่ใช่วิธีการที่ดี เพราะเมื่อจระเข้ได้ยินเสียงจากเครื่องยนต์ก็จะเผ่นหนีไปก่อนที่จะให้คนสำรวจได้พบตัว  และตามลำตะคองบริเวณนั้นก็มิได้กว้างขวางใหญ่โตแบบบึงบอระเพ็ด มีต้นไม้ล้มขวางคลองอยู่ทั่วไป แทนที่เรือยางจะแบกคน คนจะแบกเรือยางเสียละมากกว่า ทางที่ดีควรเดินสำรวจตามสองข้างตลิ่ง เพราะระยะทางก็มิได้ไกลมากมาย เพียงแค่ 2-3 กิโลเมตร เท่านั้น

9. ทำไมชอบกันนักหนากะเรื่องตรวจดีเอ็นเอ มันเท่ห์ดี ?  ถ้าสงสัยจะเป็นจระเข้พันธุ์ไหน สังเกตลักษณะภายนอกก็ได้ จระเข้ในโลกมีไม่กี่พันธุ์  และลักษณะภายนอกก็แตกต่างกันอย่างชัดเจน

10. ความจริงจระเข้นี้ พบกันมานานหลายปีแล้ว เคยฮือฮาไปถกกันในห้องสัมมนาสัตว์ป่าเมืองไทยที่คณะวนศาสตร์ด้วยซ้ำไป เพียง แต่สมัยนั้นหัวหน้าอุทยานฯ เขาใหญ่ และอธิบดีคนก่อนๆ  ไม่ชอบตีปี๊บ
ธนพล สาระนาค [ 06 ก.ย. 2552 07:31:15 ]
thanapol_pvt@hotmail.com
ความคิดเห็นที่: 35
(แถมหน่อย)

noppadol : ปลายทางของน้ำตกเหวสุวัฒน์ คือ เขื่อนขุนด่านปราการชล ครับ

ธนพล : น้ำจากบริเวณน้ำตกเหวสุวัตไหลลงอ่างเก็บน้ำลำตะคอง จ.นครราชสีมา / น้ำจากบริเวณน้ำตกเหวนรกไหลลงเขื่อนท่าด่าน จ.นครนายก ครับ.
ธนพล สาระนาค [ 06 ก.ย. 2552 07:38:56 ]
ความคิดเห็นที่: 36
 ถ้าเรา ใช้รูปถ่ายแบบชัดเจน ดูจากลักษณะภายนอกโดย ผู้ชำนาญเรื่องจระเข้ สามารถบอกได้ไหม คะ ว่าเป็น พันธุ์ไหน จะได้ไม่ต้องไปรบกวนมัน  ถ้ามันเป็นพันธุ์น้ำจืดแท้ๆ  คงไม่ต้องจับมาครวจ DNA ให้ป่าแตกรบกวนสัตว์อื่นๆ ด้วย
Fog approve [ 06 ก.ย. 2552 09:25:46 ]
ความคิดเห็นที่: 37
ดูจากภายนอก ก็เป็นน้ำจืดครับ มีเกล็ดท้ายทอยชัดเจน(จากกระทู้ในเวบทโมนทัวร์)
 แต่พวกเลือดผสมน้ำจืด 75%  ขึ้นไป(มีเลือดน้ำเค็มไม่เกิน 25%) ก็จะมีลักษณะภายนอกที่ใกล้เคียงน้ำจืดแท้ได้
 แต่ไม่มีทางเป็นพันธุ์อื่น เคแมนก็ไม่ใช่แน่นอน โครงร่างผิดกันมาก
ส่วนจระเข้แขก จระเข้แม่น้ำไนล์ ฯ ลฯ  แทบไม่มีคนเอามาเลี้ยงในเมืองไทย มีก็น้อยมาก
...แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 2552 11:40:33
snakeeater approve [ 06 ก.ย. 2552 11:38:20 ]
ความคิดเห็นที่: 38
ผมลงภาพจระเข้น้ำจืด Siamese Crocodile (Crocodylus siamensis) ของคุณหมอบุญส่ง ชนิดที่พบบนเขาใหญ่ ในบอร์ดนี้ไม่เป็น ท่านที่สนใจกรุณาตามไปดูที่ www.friendsofdrboonsong.org นะครับ
ธนพล สาระนาค [ 06 ก.ย. 2552 14:20:04 ]
ความคิดเห็นที่: 39
นี่เป็นอีกครั้งที่ผมยังไม่ได้ยินกระแสต่อต้าน"การล่าจระเข้ออกมาจากเขาใหญ่"
จากพวกที่ชอบกล่าวว่า สัตว์ป่าต้องอยู่ในป่า!!!

ยังเชื่ออีกด้วยว่า สมมติ ถ้ามีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้น เช่น มีเสือโคร่งมาหากินใกล้แหล่งที่พักนักท่องเที่ยว  แล้วเจ้าหน้าที่ๆ เกี่ยวข้อง เสนอแนวทางให้ล่าเสือโคร่ง หรือแม้ แต่เบาะๆ  คือเอาเสือโคร่งตัวนั้นออกจากพื้นที่

พวกที่ชอบพ่นว่า สัตว์ป่าต้องอยู่ในป่า ก็คงไม่สนใจจะออกมาพ่นอะไรด้วยเช่นกัน!?!
...แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 2552 14:46:59
snakeeater approve [ 06 ก.ย. 2552 14:42:16 ]
ความคิดเห็นที่: 40
1. ผมเป็นลูกลำตะคอง ตั้ง  แต่ถนนมิตรภาพยังไม่ตัด ยังไม่มีอุทยานฯ  เขาใหญ่...ผู้ใหญ่สมัยนั้นบอกลูกหลาน อย่าไปเล่นน้ำตามวังน้ำเพราะมันมีจระเข้ ... คำว่า ตะคอง ก็มาจากคำว่า ตะเข้-ตะโขง หรือจระเข้

^
^
มีความเป็นไปได้ครับ   เพราะสมัยก่อนคลองที่มีจระเข้เขามักจะเรียกชื่อคลองนั้นเกี่ยวกับจระเข้    
1.ดาวคะนอง   จริงๆ เพี้ยนมาจาก  ด่างคะนอง  คำว่าด่างคนสมัยก่อนไม่ได้เรียกหมานะครับเรียกจระเข้
2.คลองจระเข้สามพัน     พอจะรู้ที่มา แต่จำไม่ค่อยได้  ไม่เล่าดีกว่าเดี๋ยวเพื้ยน
3.วัดห้วยจระเข้    ด้านหน้าของวัดเป็นคลอง  ในอตีดสัก40-50ปีก่อนมีจระเข้ชุมเลยเรียกห้วยจระเข้  แม้กระทั้งหน้าวัดยังมีรูปปั้นนู้นต่ำรูปจระเข้แปะอยู่ที่ประตูวัดเลยทีเดียว
 คำว่าตะคองผมว่ามีสิทธิ์เป็นไปได้ และ  สมัยก่อนที่ยังไม่กั้นเขื่อน  น้ำมันก็ไปถึงกันได้หมด  แล้วทำไมจะมีจระเข้ไมได้  
ถ้ามันเป็นจระเข้พันธุ์ไทยแท้ผมอยากจะดูหน้า  หมอปานเทพจัง  ว่าจะหน้าแหก หรือว่าจะหุบหน้าหายไปในกลีบเมฆ
บีลีฟ [ 06 ก.ย. 2552 17:36:19 ]
OthersPics_reply_137851.jpg
ความคิดเห็นที่: 41
รูปจากเวบนี้ครับ
http://www.triton4x4club.com/webboard/index.php?topic=4348.0

http://www.siamensis.org/board/11577.html

ปล.  ถ้าเจ้าของบอร์ดเห็นว่าไม่เหมาะสมก็ลบได้ครับ
snakeeater approve [ 06 ก.ย. 2552 18:48:40 ]
ความคิดเห็นที่: 42
ตัวอย่างจระเข้เลือดผสม(50%) จากสมุทรปราการ

snakeeater approve [ 06 ก.ย. 2552 18:54:06 ]
ความคิดเห็นที่: 43
 ถ้าไม่ใช่พันธุ์ไทยแท้    แล้วปล่อยให้อยู่ ก็เหมือนกับสัตว์ต่างถิ่นอื่นๆ  ที่เรียกว่า"เอเลี่ยน"    
แล้วสัตว์ต่างถิ่นอย่างอื่นเรายังไม่อยากให้อยู่ในแหล่งธรรมชาติของไทยเลยครับ  Ex. อีกัวน่า, ซัคเกอร์, ฯ ลฯ
นั้นก็หมายความว่า เราควรพามันออกไปจากพื้นที่    จริงอยู่ที่มันไม่ส่งผลมากมายต่อ   ระบบนิเวศ  หากมรดกโลกของไทย  แต่มีสัตว์ต่างถิ่น  มันก็กะไรอยู่    


 ถ้าพันธุ์ไทยแท้ อาจจะมาจากการคนเอาไปปล่อยหรือมีอยู่เองนานแล้ว ควรจะเค้าให้อยู่ตามธรรมชาติอย่างนั้น
อย่าไปรบกวนเค้าเลย
electron approve [ 07 ก.ย. 2552 00:03:58 ]
ความคิดเห็นที่: 44
ผมว่าเกล้ดท้ายทอยมันค่อนข้างชัดมากๆ เลยนะครับ
บีลีฟ [ 07 ก.ย. 2552 01:54:53 ]
ความคิดเห็นที่: 45
: บีลีฟ
เกล็ดท้ายทอยมันค่อนข้างชัดมากๆ


ชัด บ่งชี้ว่า ? (ช่วยขยายความด้วย ขอบคุณครับ)
ธนพล สาระนาค [ 07 ก.ย. 2552 05:33:36 ]
ความคิดเห็นที่: 46
: ธนพล สาระนาค
: บีลีฟเกล็ดท้ายทอยมันค่อนข้างชัดมากๆ  

ชัด บ่งชี้ว่า ? (ช่วยขยายความด้วย ขอบคุณครับ)

ตามลิงค์นี้เลยครับ
http://www.siamensis.org/board/11577.html
เป้ approve [ 07 ก.ย. 2552 09:55:53 ]
ความคิดเห็นที่: 47
: ธนพล สาระนาค
: บีลีฟ
เกล็ดท้ายทอยมันค่อนข้างชัดมากๆ  

ชัด บ่งชี้ว่า ? (ช่วยขยายความด้วย ขอบคุณครับ)


บ่งชี้ว่า มีโอกาสเป็น C.siamensis พันธุ์แท้  สูงครับ
http://www.siamensis.org/board/11577.html
snakeeater approve [ 07 ก.ย. 2552 10:28:26 ]
ความคิดเห็นที่: 48
แปลกดีนะ เค้าเจอกันมาตั้งนานแล้วนี่ ทำไมเพิ่งเป็นข่าว

เจ้าหน้าที่บอกว่าแถวนั้นมีน้ำป่ารุนแรงทุกปี  แต่จระเข้ก็ยังอยู่ที่เดิม

ผมเองไม่อยากให้เริ่มจากการจับจระเข้ เพราะกลัวจะกระทบ จนมันหลบซ่อน ย้ายแหล่ง  ใช้รูปถ่ายก็น่าจะพอ



ปล.  เจ้าหน้าที่ให้สัมภาษณ์ในทีวี ว่ามีคนกล่าวว่าเขาใหญ่เคยเป็นวังตะโขง อันนี้มีความเป็นไปได้ไหมครับ?
alian approve [ 07 ก.ย. 2552 10:54:12 ]
ความคิดเห็นที่: 49
เท่าที่ทราบมาหลายปี

จระเข้ที่นิยมเลี้ยงกันมาตลอด  และมีจำนวนมากที่สุด โดยเฉพาะในเกษตรกรท่วไป จะเป็นพันธุ์ไทยน้ำจืด

จระเข้ไทยน้ำเค็มมีเฉพาะฟาร์มแม่ใหญ่ๆ  ไม่ถึงมือเกษตรกร (แพง หนังสวย)

จระเข้ลูกผสม(น้ำจืดไทย+น้ำเค็มไทย) มีเฉพาะฟาร์มสมุทรปราการ ไม่ถึงมือเกษตรกร

จระเข้ต่างประเทศที่นำเข้ามาเลี้ยงเพื่อการค้าคือเคแมน ไม่แน่ใจว่าถึงมีเกษตรกรหรือไม่

ที่ผมเอ่ยมาหมายถึงว่า จระเข้น้ำเค็มมีโอกาสหลุดน้อยมาก

และถึง ถ้าเคแมนจะหลุดสู่ธรรมชาติ ก็ไม่น่าจะผสมกับจระเข้ไทยได้ เพราะมันตัวเล็ก

จระเข้ที่มีข่าวหลุดจากผู้เลี้ยงทั่วไป จึงมีโอกาสเป็นไทยแท้สูง

ผิดถูกชี้แนะด้วยนะครับ ผมก็ไม่ทราบว่าภายหลังมีการพัฒนาสายพันธุ์กันหรือเปล่า
...แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 2552 12:36:15
alian approve [ 07 ก.ย. 2552 11:08:12 ]
ความคิดเห็นที่: 50
: alian

1. แปลกดีนะ เค้าเจอกันมาตั้งนานแล้ว ทำไมเพิ่งเป็นข่าว
2. เจ้าหน้าที่บอกว่า "แถวนั้นมีน้ำป่ารุนแรงทุกปี  แต่จระเข้ก็ยังอยู่ที่เดิม"
3. เจ้าหน้าที่ให้สัมภาษณ์ในทีวี ว่ามีคนกล่าวว่า "เขาใหญ่เคยเป็นวังตะโขง" อันนี้มีความเป็นไปได้ไหมครับ?


1. สุดแท้ แต่หัวหน้าอุทยานฯ  + อธิบดีคนไหนชอบทำงานแบบตีปี๊บหรือไม่ !
2. จระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลาน มีเท้าวิ่งหนีน้ำได้ หรือไม่ก็กบดานเป็นเรือดำน้ำ มันจึงไม่กลัวน้ำป่า
3. ในอดีตแทบทุกวังหรือบริเวณแอ่งห้วยลำตะคองที่มีน้ำลึก + นิ่ง จะเป็นแหล่งอาศัยของจระเข้  แต่เมื่อบ้านเมืองมีความเจริญอย่างในปัจจุบัน  จระเข้ก็ต้องถอยร่นเข้าป่า(อุทยานเขาใหญ่)ไปเป็นธรรมดา (ผมเกิดปากช่อง ได้ยินผู้ใหญ่เขาเล่าให้ฟัง  และสอนไม่ให้เด็กๆ  ไปเล่นน้ำตามวังน้ำ + ชื่อลำตะคองก็พอจะมีเค้าว่าเป็นลำห้วยที่มีตะเข้ + ตะโขง)
4. ติดตามเรื่อง เหล่าจระเข้ ของคุณหมอส่งฯ   ซึ่ง เขียนไว้เมื่อปี 2514 ได้ที่ http://www.friendsofdrboonsong.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538990182
ธนพล สาระนาค [ 07 ก.ย. 2552 11:20:32 ]
ความคิดเห็นที่: 51
 ถ้าถึงขนาดที่ว่า 'ลำตะคอง' อาจเพี้ยนมาจาก 'ตะเข้'หรือ'ตะโขง' ก็น่าสนใจมากนะครับ

หลายปีก่อนที่ได้ยินข่าวจระเข้เขาใหญ่ ก็ยังนึกห่วงว่า มันจะอยุ่ผิดที่ผิดทางหรือเปล่า

คือก็ไม่คิดว่าป่าแถบนั้นจะมีจระเข้มา แต่ดั้งเดิม

ส่วนที่ถามเรื่องวังตะโขงเพราะ ผมเข้าใจว่าตะโขงจะมีเฉพาะปากแม่น้ำ(น้ำกร่อย)

ที่แปลกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทำไมสัตว์พวกจระเข้ถึงสุญพันธุ์ได้ง่ายจัง  

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่างๆ ก็ถูกไล่ล่าจากคน  แต่ก็มีหลงเหลืออยู่พอสมควร

แต่จระเข้น้ำจืด น้ำเค็ม ตะโขง นี่เรียกว่าล่าจนหมดจากธรรมชาติเกือบจะสิ้นเชิงในช่วงเวลาอันสั้นเลยทีเดียว
alian approve [ 07 ก.ย. 2552 12:28:29 ]
ความคิดเห็นที่: 52
จระเข้มันมีที่ซ่อนน้อยมั้งครับ  ลอยคอตามลำคลองแปบเดี๋ยวโดนหิ้วแล้ว  แถมต้องขึ้นมาอาบแดดด้วย  คนเจอตัวแล้วเก็บง่ายกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เข้าป่า  หรือมีที่ซ่อนมากกว่ามั้งครับ  แถมมันถูกมองว่าอันตราย  ใครเจอก็จ้องจะเก็บหมด

ขนาดมันอยู่ในป่าดีๆ  คนยังจะไปหิ้วมันออกมาเลยครับ

ปล...จริงๆ  แล้วสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ตามทุ่งแถวบ้านเราก็หมดเกลี้ยงไม่มีเหลือแล้วนิครับ
chai approve [ 07 ก.ย. 2552 12:57:31 ]
ความคิดเห็นที่: 53
ผมได้ยินมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านจระเข้ท่านหนึ่งในเมืองไทย....ท่านสันณิษฐาน....( แต่ยังไม่มีหลักฐานออกมาชัดเจนที่จะใช้ยืนยันได้ครับ)  จากสาเหตุบางประการที่ท่านประสบมาในอดีต.......ว่าเป็นการปล่อยลงไปในธรรมชาติ....เมื่อราวๆ ...ปี 47 ซึ่ง ระยะเวลาใกล้เคียงกับที่ปล่อย....ใน อช.ปางสีดา (ประมาณ 10 กว่าตัว) โดยถูกต้อง..มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร... แต่ที่ทาง อช.เขาใหญ่...ไม่มีเอกสารขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร.....เพื่อวัตถุประสงค์ของการศึกษาวิจัยในแง่การ Reintroduce ของจรเข้สายพันธุ์ไทย.....โดยร่วมเป็นการศึกษาของนักศึกษา ป.เอก ชาวไทย.....กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน USA

ปล...หรือจระเข้จากปางสีดาที่ปล่อยเอาไว้...มันเดินข้ามมายังเขาใหญ่...??....
       แต่คิดกันเล่นๆ ....ว่า....แล้วทำไม...มันไม่หยุดที่ทับลานบ้างล่ะครับ...??
heinetonk approve [ 07 ก.ย. 2552 14:08:32 ]
ความคิดเห็นที่: 54
: alian
ทำไมสัตว์พวกจระเข้ถึงสูญพันธุ์ได้ง่ายจัง


[color=Blue]คุณหมอบุญส่งฯ เคยตอบไว้[/color] ---> http://www.friendsofdrboonsong.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538990182
ธนพล สาระนาค [ 07 ก.ย. 2552 14:12:42 ]
ความคิดเห็นที่: 55
: heinetonk

1. ผู้เชี่ยวชาญจระเข้ท่านหนึ่งสันณิษฐานว่า เป็นการปล่อยลงไปในธรรมชาติ เมื่อราวๆ ปี 47 ประมาณ 10 กว่าตัวโดยถูกต้อง มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อวัตถุประสงค์ของการศึกษาวิจัยในแง่การ Reintroduce จระเข้สายพันธุ์ไทย
2. จระเข้จากปางสีดาที่ปล่อยเอาไว้ มันเดินข้ามมายังเขาใหญ่  แต่คิดกันเล่นๆ ว่า ทำไมมันไม่หยุดที่ทับลาน ?


ผมสอบถามคุณชัยยุทธ คุณชมภู อดีตหัวหน้าอุทยานฯ ปางสีดาในช่วงนั้นทราบว่า
1. หลังจากพบจระเข้ป่าในปางสีดาแล้ว ทางกรมอุทยานฯ สมัยท่านปลอดประสพฯ เป็นอธิบดี ได้ร่วมกับฟาร์มจระเข้หลายแห่งหาจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยแท้(จากการตรวจ DNA 100 %) จำนวน 10 ตัวไปปล่อยในป่าปางสีดา เพื่อเสริมจำนวนจระเข้ป่าปางสีดา
2. เรื่องที่จระเข้ปางสีดามาทัศนาจรเขาใหญ่นั้น น่าจะเป็นเรื่องโจ๊ก เพราะระยะทางไม่ใช่ใกล้ กว่าจะมาถึงน้ำตกเหวสุวัติ ผมก็คิดเล่นๆ ว่าจระเข้ปางสีดาจะลงกระทะผัดกระเพราะหรือลงหม้อแกงเสียละมากกว่าครับ.
ธนพล สาระนาค [ 07 ก.ย. 2552 17:32:21 ]
ความคิดเห็นที่: 56
: alian
  ถ้าถึงขนาดที่ว่า 'ลำตะคอง' อาจเพี้ยนมาจาก 'ตะเข้'หรือ'ตะโขง' ก็น่าสนใจมากนะครับ

หลายปีก่อนที่ได้ยินข่าวจระเข้เขาใหญ่ ก็ยังนึกห่วงว่า มันจะอยุ่ผิดที่ผิดทางหรือเปล่า

คือก็ไม่คิดว่าป่าแถบนั้นจะมีจระเข้มา  แต่ดั้งเดิม

ส่วนที่ถามเรื่องวังตะโขงเพราะ ผมเข้าใจว่าตะโขงจะมีเฉพาะปากแม่น้ำ(น้ำกร่อย)

ที่แปลกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทำไมสัตว์พวกจระเข้ถึงสุญพันธุ์ได้ง่ายจัง  



อย่าลืมว่า มันเคยรอดจากเหตุการสูญพันธุ์ครั้งมโหฬารที่สุดในปฏพี เมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว มาได้!
มันคือญาติอีกตัวของไดโนซอร์ ที่ยังเหลืออยู่  นอกเหนือจากนก
หมายเหตุ > ผมเคยนึกว่า ลำตะคอง มีที่มาจากคำว่า ตะกอง ???

...แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 2552 18:30:06
snakeeater approve [ 07 ก.ย. 2552 18:25:36 ]
ความคิดเห็นที่: 57
คำว่า"ลำ"มันคงหมายถึงลำน้ำนะครับ  คำว่าลำน้ำที่มีตะกอง  หรือ "ลำตะกอง" ผมว่ามันแปลกๆ  นะครับ(เพราะตะกองมันไม่ได้อยู่ในน้ำเป็นหลัก)  ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมาจากตะของ  หรือตะโขงที่หมายถึงจระเข้เหมือนที่บางท่านว่าไว้หน่ะครับ  

จริงๆ  ผมก็อยากรู้นะครับ ว่าพื้นที่เขาใหญ่เคยมีจระเข้อยู่แน่นอนหรือไม่ (ส่วนตัวเชื่อว่าเคยมีครับ)   แต่ ถ้ามีผู้รู้จริง  ช่วยยืนยันเป็นวิทยาทานก็จะดีมากเลยครับ

ส่วน2ตัวที่เจอ  ก็แล้ว แต่ท่านผู้มีอำนาจแหละครับ
chai approve [ 07 ก.ย. 2552 18:49:25 ]
ความคิดเห็นที่: 58
เขาใหญ่ที่มี คือปางสีดาคับมีหนังสือลงไว้ และก้ที่ทีมsiamensis ไปที่คลองชมพูพิษณุโลกไม่ทราบข่าวตัวนี้เหมือนกัน และลำน้ำเพชรแถวต้นน้ำหน่อยคับ
niroottiwat approve [ 07 ก.ย. 2552 19:25:28 ]
ความคิดเห็นที่: 59
: ธนพล สาระนาค
: บีลีฟ
เกล็ดท้ายทอยมันค่อนข้างชัดมากๆ  

ชัด บ่งชี้ว่า ? (ช่วยขยายความด้วย ขอบคุณครับ)

บ่งชี้ตามอย่างที่พี่ๆ เขาบอกครับผมคิดว่ามันน่าจะเป็นพันธุ์ไทย     จริงๆ ก้คิดว่ามันน่าจะเป็นพันธุ์ไทยตั้ง แต่ดูคลิปตอนที่มันกำลังกินปลาช่อนตัวเคื่องๆ    นั้นแล้วล่ะครับ
บีลีฟ [ 07 ก.ย. 2552 19:57:16 ]
ความคิดเห็นที่: 60
ตอนเด็กๆ ไปอยู่ในไร่แถวบ้านคลองรั้ง อำเภอศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีน ตอนนั้น ในเขต บ้านอุดรู บ้านระบม บ้านสียัด เป็นป่าในพื้นที่สีแดง ปัจจุบันก็คืออ่างฤาไน ผู้เฒ่าผู้แก่ บอกว่ามีจระเข้อยู่เยอะเอามากินกันหลายตัวแล้วผมว่ามันน่าจะเป็นพันธุ์ไทยแท้นะครับ ไม่กล้าเจาะจง เพราะแค่ได้ยินจากคำบอกเล่า
...แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 2552 21:19:13
noppadol approve [ 07 ก.ย. 2552 21:17:55 ]
noparnon@yahoo.co.th
ความคิดเห็นที่: 61
วันนี้มีข่าว เจอไข่ฟองหนึ่ง สีขาวรีๆ  ขนาดประมาณไข่เป็ด ใครเห็นบ้างครับ?  ไม่ทราบว่าจะเป็นไข่จระเข้ได้ไหม?
นณณ์ approve [ 07 ก.ย. 2552 22:03:48 ]
ความคิดเห็นที่: 62
เห็นไม่ชัดในหน้าหนังสือพิมพ์ครับ  ผมว่ามันกลมๆ  เกินกว่าจะเป็นไข่จระเข้นะครับ

แต่รู้สึกว่าคนที่เข้าไปสำรวจจะมีหมอล็อตด้วย  แกน่าจะบอกได้นะครับว่าใช่หรือไม่ใช่   ถ้าสื่อไม่ได้ลงข่าวให้คนแตกตื่นกัน  เหมือนข่าวที่ว่าปิดผากล้วยไม้อะครับ  จนท. บอกไม่จริง ไม่ได้ปิด นสพ. เอาที่ไหนไปเขียนไม่รู้...
chai approve [ 07 ก.ย. 2552 22:43:11 ]
ความคิดเห็นที่: 63
: noppadol
ตอนเด็กๆ อยู่ไร่แถวบ้านคลองรั้ง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีน เขต บานอุดรู บ้านระบม บ้านสียัด ในพื้นที่สีแดง ปัจจุบันคืออ่างฤาไน ผู้เฒ่าผู้แก่ บอกว่ามีจระเข้อยู่เยอะเอามากินกันหลายตัวแล้ว ผมว่ามันน่าจะเป็นพันธุ์ไทย


ข้อมูลตรงกันครับ ผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม เล่าให้ผมฟังว่า "สมัยที่ป่าแถวสนามชัยเขต ท่าตะเกียบ เขาอ่างฤาไน ยังอุดมสมบูรณ์ ได้พบเห็นชาวบ้านจับลูกจระเข้ตามลำห้วยแถวนั้นมาวางขายตามตลาด"
ธนพล สาระนาค [ 08 ก.ย. 2552 05:05:59 ]
ความคิดเห็นที่: 64
: นณณ์
วันนี้มีข่าวเจอไข่ฟองหนึ่ง สีขาวรีๆ  ขนาดประมาณไข่เป็ด ใครเห็นบ้างครับ? ไม่ทราบว่าจะเป็นไข่จระเข้ได้ไหม?


1. คุณหมอบุญส่ง เลขะกุล (2450-2535) ท่านเขียนไว้เมื่อปี 2514 ว่า "...จระเข้ผสมพันธุ์ในฤดูหนาว ในฤดูนี้จระเข้ตัวผู้แย่งตัวเมียกันเสียงดังเอ็ดอึงมาก ออกไข่ในราวมีนาคมหรือเมษายน ก่อนที่จะวางไข่ 3-4 วัน มันจะขึ้นเที่ยวหาที่วางไข่ เตรียมตัวล่วงหน้าตามใต้ต้นไม้ที่เป็นดินทราย พอถึงวันวางไข่ มันจะใช้หางกวาดใบไม้ให้พื้นเตียน แล้วจึงใช้เท้าหลังขุดหลุมลึกลงไปราวสัก 1 คืบกว่าๆ  แล้วจึงวางไข่ จระเข้น้ำจืดไข่ครั้งหนึ่งราว 20-40 ฟอง จระเข้น้ำเค็มอาจไข่ถึง 50 ฟอง..." ---> http://www.friendsofdrboonsong.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538990182

2. จระเข้น้ำจืดเขาใหญ่ หน้าตาเหมือนกับจระเข้น้ำจืดที่คุณหมอบุญส่งฯ เขียนเล่าไว้ไหมครับ ? --->http://www.friendsofdrboonsong.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538990033
ธนพล สาระนาค [ 08 ก.ย. 2552 05:16:25 ]
ความคิดเห็นที่: 65
: chai
... ถ้าสื่อไม่ได้ลงข่าวให้คนแตกตื่นกันเหมือนข่าวที่ว่าปิดผากล้วยไม้ จนท.บอกไม่จริง ไม่ได้ปิด นสพ. เอาที่ไหนไปเขียนไม่รู้...


อธิบดีกรม No-work-to-doแกไม่เคยเรียนป่าไม้ วนศาสตร์ วิชาสัตว์ป่าหรือการอนุรักษ์ธรรมชาติ จึงชอบศึกษาจระเข้แบบไล่ล่าซาดิสม์ ประหนึ่งว่าจระเข้เป็นโจรผู้ร้ายทั้งๆ ที่มันไม่เคยทำร้ายคน กลับนอนตากแดดให้คนดูอย่างน่ารัก การที่อธิบดีคนนี้จัดเรียลลิตี้โชว์แบบนี้เท่ากับสอนให้เด็กๆ เกลียดจระเข้เขาใหญ่ว่าเป็นผู้ร้าย ช่างไม่เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของเดรัจฉาน ซึ่ง เป็นทรัพยากร และสิ่งที่มีคุณค่าของอุทยานเอาเสียเลย ไม่มีการศึกษาวิจัยที่ไหนในโลกเขาทำกันแบบนี้ งานที่แกควรจะทำเช่น ปัญหาลิงเขาใหญ่ ปัญหากวางป่าเปลี่ยนพฤติกรรมมากินข้าวกับนักท่องเที่ยวที่ไปพักแรม...กลับไม่สนใจ อีกหน่อยแกคงจับลิง เสือ ช้าง แม้กระทั่งมดแมงบนเขาใหญ่ตรวจ DNA ไปเสียหมด...อย่างนี้ควรจับแกมาตรวจ DNA แล้วย้ายแกไปอยู่กรม DSI เอ๊ย...กรม DNA.

2. ส่วนหมอล็อต ฮีโร่กาแฟกระป๋อง คนหนุ่ม ไฟแรง อนาคตไกล...นายสั่งก็ต้องไป  แต่ก็ควรจับแกตรวจ DNA แล้วส่งไปอยู่เขมร.
ธนพล สาระนาค [ 08 ก.ย. 2552 05:41:44 ]
ความคิดเห็นที่: 66
: นณณ์
วันนี้มีข่าว เจอไข่ฟองหนึ่ง สีขาวรีๆ   ขนาดประมาณไข่เป็ด ใครเห็นบ้างครับ?  ไม่ทราบว่าจะเป็นไข่จระเข้ได้ไหม?


ไม่น่าจะใช่ขอรับ เหตุผลผมยกไว้ในอีกกระทู้
http://www.siamensis.org/board/12993.html

คือ ถ้าตั้งใจมองดีๆ  ก็อาจพอรู้ได้บ้าง  แต่่ในตอนหลังรู้สึกว่าไข่จะแตกเสียแล้ว

อีกเรื่อง หมอบุญส่ง ทำให้ผมมีวันนี้ ผมจำคุณหมอได้ดี อาจจะเพราะผมเกิดวันเดียวกับคุณหมอ
 และที่สำคัญหนังสือเล่มแรกในชีวิตที่ผมตั้งใจอ่านตอน เล็กๆ (ประมาณ8-9ขวบ)
ชีวิตของฉัน....ลูกกระทิง  และเล่มต่อมาก็คือผลงานประพันธุ์ของคุณหมอทั้งนั้น คิดถึงหมอบุญส่งจังขอรับ
...แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 2552 05:49:54
corwin approve [ 08 ก.ย. 2552 05:49:02 ]
ความคิดเห็นที่: 67
: snakeeater
ผมเคยนึกว่า ลำตะคอง มีที่มาจากคำว่า ตะกอง

ภาษาพื้นบ้านก็แค่เป็นเค้ามูลในการสืบค้นอย่างหนึ่ง จะให้เป็นข้อยุติ หรือ accurate หรือ scienctific เต็มร้อย ก็คงจะไม่ได้ครับ.
ธนพล สาระนาค [ 08 ก.ย. 2552 05:52:10 ]
ความคิดเห็นที่: 68
ชมรมเพื่อนมรดกโลกขอให้ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ พิจารณาให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ยุติการไล่ล่าจระเข้เขาใหญ่ ---> http://www.friendsofdrboonsong.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538991158
ธนพล สาระนาค [ 08 ก.ย. 2552 12:33:24 ]
OthersPics_reply_138182.jpg
ความคิดเห็นที่: 69
เพิ่งสังเกตจากรูปเก่าๆ ที่เคยถ่ายมา ว่า จระเข้น้ำจืดแท้ๆ จะมีเกล็ดสร้อยสังวาลย์ตรงสีข้าง ซึ่ง จระเข้น้ำเค็มแท้ๆ ไม่มี
(รอยสีแดงๆ  ผม marked ไว้เอง)
...แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 2552 22:17:23
snakeeater approve [ 08 ก.ย. 2552 20:47:46 ]
ความคิดเห็นที่: 70
จระเข้น้ำเค็มแท้ สีข้างเรียบสนิท มี แต่เกล็ดเล็กๆ


ส่วนลูกผสมเท่าที่ดูมา บางตัวก็มีเกล็ดสังวาลย์ บางตัวก้ไม่มี
snakeeater approve [ 08 ก.ย. 2552 22:20:16 ]
ความคิดเห็นที่: 71
สัตว์ป่าเจออยู่ในป่าก็จะไปจับมันไประรานมันทำไมล่ะครับ
อย่างนี้เจอช้างป่าที่สุรินทร์ก็ต้องจัดทีมไปล่ามาให้หมดเลยงั้นหรอครับ คิดอะไรประหลาดๆ ?!!
ต้ล [ 08 ก.ย. 2552 22:40:27 ]
ความคิดเห็นที่: 72
: ต้ล
สัตว์ป่าเจออยู่ในป่าก็จะไปจับมันไประรานมันทำไมล่ะครับ
อย่างนี้เจอช้างป่าที่สุรินทร์ก็ต้องจัดทีมไปล่ามาให้หมดเลยงั้นหรอครับ คิดอะไรประหลาดๆ  ?!!

กรม varanus น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น กรม no-work-to-do
ธนพล สาระนาค [ 08 ก.ย. 2552 23:30:49 ]
OthersPics_reply_138222.jpg
ความคิดเห็นที่: 73
คนนอกวงการอย่าง บก.การ์ตูนวิบูลย์กิจ กลุ่มนึง  ยังมีความคิดความอ่านเข้าท่ากว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในกรมฯ  รวมทั้งนายสัตวแพทย์บางคนด้วย
snakeeater approve [ 09 ก.ย. 2552 09:51:11 ]
ความคิดเห็นที่: 74
กรมบริการอุทยานแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ให้นิยามคำว่า ชนิดพันธุ์ต่างถิ่น  และ ชนิดพันธุ์พื้นเมือง ไว้ในนโยบายการจัดการอุทยานแห่งชาติ(management policy) ว่า

ชนิดพันธุ์พื้นเมือง (Native species) หมายถึง ชนิดพันธุ์ที่เคยปรากฏ, ยังปรากฏอยู่ในปัจจุบัน, หรือปรากฏขึ้นจากกระบวนการธรรมชาติบนพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ. ชนิดพันธุ์พื้นเมืองเป็นชนิดพันธุ์ที่กำลังวิวัฒนาการร่วมกันกับชนิดพันธุ์อื่น.

ชนิดพันธุ์ต่างถิ่น (Exotic Species) หมายถึง ชนิดพันธุ์ที่ครอบครองหรือสามารถครอบครองพื้นที่อุทยานทั้งโดยทางตรง และทางอ้อมอันเป็นผลจากกิจกรรมมนุษย์อย่างจงใจหรือเกิดขึ้นโดยบังเอิญ.  และยังหมายถึง ชนิดพันธุ์ที่มิใช่ชนิดพันธุ์พื้นเมือง(nonnative species), ชนิดพันธุ์ที่แปลกปลอม(alien species), หรือชนิดพันธุ์ที่บุกรุก(invasive species). เพราะว่าชนิดพันธุ์ต่างถิ่นไม่ได้วิวัฒนาการร่วมกับชนิดพันธุ์ที่มีมา แต่กำเนิดในพื้นที่, ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นจึงมิได้เป็นส่วนประกอบทางธรรมชาติของระบบนิเวศ ณ พื้นที่นั้น. สิ่งมีชีวิตที่ถูกดัดแปลงทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมมนุษย์จะได้รับการจัดการในฐานะที่เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในอุทยาน.

ที่มา : www.nps.org / เว็บไซต์กรมบริการอุทยานแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา
------------------------------------------------------------------------------------------
กรมอุทยานฯ เมืองไทย
1. อย่าว่า แต่นิยามคำว่า ชนิดพันธุ์ต่างถิ่น  และ ชนิดพันธุ์พื้นเมือง เลย นโยบายการจัดการอุทยานแห่งชาติก็ยังไม่มีสักบรรทัดเดียว เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่หัวหน้าอุทยานต่างๆ จึงทำงานแบบตัวใครตัวมัน ยกตัวอย่างเรื่องจระเข้เขาใหญ่ หัวหน้าคนก่อนไม่ตีปี๊บ เรื่องไม่ดัง หัวหน้าคนนี้แกชอบตีปี๊บ เลยเป็นเรื่องอย่างที่เห็น เชื่อเถอะพอเปลี่ยนหัวหน้า/เปลี่ยนอธิบดี จระเข้เขาใหญ่ก็โลกลืม (แล้วลิงขอทานบนเขาใหญ่จะได้ออกจอกับเขาไหมนะชาตินี้ ?)

2. ผมไม่เคยเห็นอุทยานไหนให้ความรู้เกี่ยวกับชนิดพันธุ์ต่างถิ่นแก่ผู้ไปเยือนเลย แม้ แต่นิทรรศการที่ศูนย์บริการผู้มาเยือน(visitor center)ของเขาใหญ่ ผมเคยเห็นอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งที่ฮาวาย เขาปั้นรูปหมูบ้านที่หลงเข้าป่าเป็นหมูเพลาะ(feral)ไว้ให้ผู้ไปเยือนทราบว่าตัวนี้แหละคือหมูบ้านที่พลัดหลงเข้าป่าไปเที่ยวขุดคุ้นกินยอดเฟินโบราณชนิดหนึ่งจนจะสูญพันธุ์ ทางอุทยานได้จัดเจ้าหน้าที่คอยติดตามกำจัดหมูที่ว่า  แต่ก็ไม่หมดสักที ผมบอกเจ้าหน้าที่อุทยานที่พาผมไปดูดงเฟินโบราณว่า " ถ้าเป็นเมืองไทยก็หมูป่าเจ้าปัญหาอย่างนี้ลงหม้อแกงหมดแล้ว ไม่เหลือให้คุณกำจัดหรอก"

3. นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การตีความหมายอุทยาน (park interpretation) ในเมืองไทยยังอ่อนอยู่มาก ในอุทยานฯ เขาใหญ่ ไม่มีเจ้าหน้าที่ตีความหมายประจำอุทยาน (park interpreter) อย่างเป็นทางการเลย ที่มีอยู่ก็แค่ลูกจ้าง อยู่แบบซังกะตาย ผมเคยถามพนักงานหน้าเดิมๆ  ที่เฝ้าห้องประชุมที่ศูนย์บริการว่า "ทำไมสไลด์ที่ฉายจึงซ้ำซากจนขึ้นรา ไม่เคยเปลี่ยนเลย" เขาตอบว่า "กล้องถ่ายรูปสักตัวอย่างไม่มีใช้เลยพี่" ผมได้ฟังแล้วปลงสังเวทนา นี่แหละหรือมรดกโลก พวกที่ชอบทำบุญเอาหน้าไม่เห็นสนใจจะซื้อให้บ้างเลยหรือ ? แล้วเงินค่าผ่านประตูที่เก็บได้ปีละหลายร้อยล้านมันหายไปไหนหมด ?...ผมไม่อยากจะพูดมากไปกว่านี้ เดี๋ยวผีเข้า !
ธนพล สาระนาค [ 10 ก.ย. 2552 07:13:36 ]
ความคิดเห็นที่: 75
ล่าสุดจากรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ อธิบดีฯ   จะให้ปล่อยไว้ศึกษาผลกระทบสักสองปี

แต่แนวคิดที่น่าเป็นห่วงคือ จะสร้างท่าหรือชานริมน้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวชมจระเข้

..คิดได้ไงเนี่ย
...แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 2552 13:35:05
alian approve [ 10 ก.ย. 2552 09:57:31 ]
ความคิดเห็นที่: 76
เหอๆ  ท่านอธิบดียกหยอกเล่น รักจริงต้องหยอกกลับ
ต้ล [ 10 ก.ย. 2552 14:30:50 ]
ความคิดเห็นที่: 77
: alian
ล่าสุดจากรายการเรื่องเด่นเย็นนี้...แนวคิดที่น่าเป็นห่วงคือ(อธิบดีกรมอุทยานฯ )จะสร้างท่าหรือชานริมน้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวชมจระเข้...คิดได้ไงเนี่ย[/size]

1. เห็นด้วยที่จะมีการติดตามศึกษาเสียก่อนที่จะตัดสินใจต่อไป ไม่ใช่เจอที่ไหนจับที่นั่นแบบป่าแตกอย่างที่เป็นข่าวในตอนแรก
2. เห็นด้วยกับอธิบดี เพราะบริเวณนั้นเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ(nature trail)อยู่แล้ว  ถ้าทำ board walk หรือ platform ก็เป็นการดีกว่าไม่มี จะช่วยรักษาสภาพธรรมชาติจากการเหยียบย่ำ และผู้ไปเยือนจะมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะตลิ่งแถวนั้นสูงชัน  ถ้าหล่นลงไป ดี/ไม่ดีจะเป็นอาหารอันโอชะของจระเข้ได้
ธนพล สาระนาค [ 10 ก.ย. 2552 17:54:24 ]
ความคิดเห็นที่: 78
#77

1. ท่านก็อาจจะโยนหินถามทาง หรือไม่ก็ประเมินกระแสสังคมไปแล้วว่าคงโดนไม่ใช่น้อย  แต่ก็ดีครับที่ได้แก้ไข

2. ฟังจากท่านสัมภาษณ์ แล้วมันไม่ลึกซึ้งอย่างคุณธนพลคิดหน่ะสิ่ครับ ท่านจะเอาไวคนชมจระเข้นอนอาบแดด
    ผมว่าให้สังเกตุการณ์ไกลๆ  แบบเดิมน่าจะเหมาะแล้ว อาจกั้นแนวทางเดินตรงจุดอันตราย (ผมเองยังไม่เคยเดินเส้นทางนั้น)


ปล.เห็นท่านว่า พบมันกินชะนี  และงูเหลือมสะด้วย
alian approve [ 10 ก.ย. 2552 18:27:47 ]
ความคิดเห็นที่: 79
: alian
#77

1. ท่านก็อาจจะโยนหินถามทาง หรือไม่ก็ประเมินกระแสสังคมไปแล้วว่าคงโดนไม่ใช่น้อย   แต่ก็ดีครับที่ได้แก้ไข

2. ฟังจากท่านสัมภาษณ์ แล้วมันไม่ลึกซึ้งอย่างคุณธนพลคิดหน่ะสิ่ครับ ท่านจะเอาไวคนชมจระเข้นอนอาบแดด
    ผมว่าให้สังเกตุการณ์ไกลๆ   แบบเดิมน่าจะเหมาะแล้ว อาจกั้นแนวทางเดินตรงจุดอันตราย (ผมเองยังไม่เคยเดินเส้นทางนั้น)


ปล.เห็นท่านว่า พบมันกินชะนี   และงูเหลือมสะด้วย


ผมว่าโม้ครับ ที่ว่ากินชะนีน่ะ(นอกจากจะเป็นชะนีอย่างอื่นที่ไม่ใช่สัตว์ป่า ^^)
 แต่ ถ้าเป็นซากชะนีที่ตายด้วยสาเหตุอื่นล่ะเป็นไปได้
ปกติชะนีป่าแทบจะไม่ลงมาบนพื้นดินอยู่แล้ว  แล้วจระเข้จะปีนต้นไม้ไปจับชะนีได้เหรอ?
ถึงต่อให้มันจับกินได้จริงๆ   ต่อไปชะนีตัวอื่นก็เรียนรู้ของมันเอง  ว่าไม่ควรลงไปตรงนั้น
เพราะจระเข้ไม่ได้มีขนมเอามาล่อชะนี  เหมือนนักท่องเที่ยวบางคน หุหุ
ส่วนเรื่องกินงูเหลือม  ถ้ามีจริงๆ ก็เป็นการล่าเหยื่อของสัตว์ป่าตามห่วงโซ่อาหาร ก็เท่านั้น ไม่เห็นจะน่าห่วง
งูเหลือมไม่ใช่สัตว์ที่แพร่พันธุ์ช้า หรืออยู่ในบัญชีวิกฤติเท่าจระเข้ด้วยซ้ำ
...แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 2552 18:57:36
snakeeater approve [ 10 ก.ย. 2552 18:56:53 ]
ความคิดเห็นที่: 80
: alian

1. ผมว่าให้สังเกตการณ์ไกลๆ  แบบเดิมน่าจะเหมาะแล้ว อาจกั้นแนวทางเดินตรงจุดอันตราย
2. เห็นท่านว่าพบมันกินชะนี  และงูเหลือม

1. board walk ก็แบบที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนหลายแห่ง / platform ก็แบบที่น้ำตกเหวสุวัต ให้ผู้ไปเยือนได้ชะโงกดูน้ำตกไกลๆ  (จะทำใกล้/ไกลจระเข้แค่ไหนเพียงไร เป็นเรื่องรายละเอียดตามความเหมาะสม)
2. เรื่องจระเข้กินลิง ชะนี  และงูเหลือมนี่จริงครับ มันเป็นไปตามกฎธรรมชาติ หรือห่วงโซ่อาหาร หรือสมดุลธรรมชาติสัตว์ป่าต้องพึ่งพาตามธรรมชาติ กินกันเองบ้าง ไม่กินบ้าง จระเข้เองก็โดนสัตว์อื่นกิน(ไข่)ด้วยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจระเข้ก็จะล้นป่า
ธนพล สาระนาค [ 10 ก.ย. 2552 20:32:27 ]
ความคิดเห็นที่: 81
1. งานที่รมว.สุวิทย์ควรทำ คือ จ้ำจี้จ้ำไชให้อธิบดีกรมอุทยานฯ  (1) วางนโยบายการจัดการอุทยานแห่งชาติของประเทศ (national parks management policies)  และ (2) จัดทำแผนการจัดการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (management plan of Khaoyai NP) ไม่ใช่จัดทัวร์จระเข้ ทัวร์ลิงขอทาน ทัวร์กวางฟาสฟู๊ดให้นายกฯ
2. งานที่อธิบดีกรมอุทยานฯ ควรทำ คือ (1) วางนโยบายการจัดการอุทยานแห่งชาติ (2) ให้เจ้าหน้าที่เขียนแผนการจัดการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (3) ตั้งส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่กรมอุทยานฯ  (4) ให้มีฝ่ายจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่เขาใหญ่ (5) ให้มีเจ้าหน้าที่ตีความหมายประจำอุทยาน (park interpreter) ทำหน้าที่ให้ความรู้ทางธรรมชาติ ตลอดจนเรื่องชนิดพันธุ์พืช และสัตว์ต่างถิ่นแก่ผู้ไปเยือน(visitor) (6) ให้มีนักธรรมชาติวิทยาประจำอุทยาน (park naturalist) ทำหน้าที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพืช สัตว์ แมลง กรวดหินดินทราย ในอุทยาน เพื่อนำผลมาประกอบการวางแผนจัดการหรือให้ความรู้แก่ผู้ไปเยือนเขาใหญ่ (ปัจจุบันเขาใหญ่ไม่มีเจ้าหน้าที่แบบนี้เลย แม้ แต่คนเดียว)  และ (7) จัดบุคคลากรที่มีความรู้ทางธรรมชาติวิทยาไปทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานฯ เขาใหญ่ มิใช่ใครก็เป็นได้ แม้ แต่จบช่างก่อสร้างแบบนี้ ไม่ใช่ไปช่วยหัวหน้าอุทยานฯ จับจระเข้หรือเขียนแผนงานประจำวัน (action plan)
3. งานที่หัวหน้าอุทยานฯ เขาใหญ่ควรทำคือ แผนงานจัดการทรัพยากรธรรมชาติ (natural resources management program) รวมถึงทรัพยากรสัตว์ป่า เช่น จระเข้ ลิง ช้าง ตามที่แผนจัดการฯ กำหนดไว้  และเขียนแผนงานประจำวัน (action plan หรือ day plan) ไม่ใช่ตีปี๊บ ชวนนายมาจับจระเข้ !
เอ้า ! กระทรวงทรัพยากรฯ  - กรมอุทยานฯ  - เขาใหญ่ สนุกกันใหญ่...นี่แหละเขาเรียกกันว่า ทำงานแบบลิง...เอ๊ย...จระเข้หลอกเจ้าของ หรือ เจ้าของหลอกลิง !
ธนพล สาระนาค [ 10 ก.ย. 2552 21:36:49 ]
ความคิดเห็นที่: 82
ชมรมเพื่อนมรดกโลกเสนอแนะ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ   ให้เอาใจใส่ นโยบาย แผน  และบุคลากรด้านการจัดการอุทยานแห่งชาติ ---> http://www.friendsofdrboonsong.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538994949
ธนพล สาระนาค [ 13 ก.ย. 2552 15:08:18 ]

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org