กระทู้-12993 : ขอเรื่องจระเข้ที่เขาใหญ่ อีกสักครั้ง.....

Home » Board » เลื้อยคลาน

ขอเรื่องจระเข้ที่เขาใหญ่ อีกสักครั้ง.....

ก็เป็นข่าวกันเกรียวกราวในช่วงนี้ สำหรับเรื่องจระเข้
 ซึ่งผมก็ต้องขออนุญาตตั้งกระทู้ใหม่ เพราะกระทู้เก่านั้นยาวเหยียดไปเสียแล้ว
http://www.siamensis.org/board/12967.html#58
ก็มีเรื่องราวผ่านมาอีกมากมาย เป็นข่าวดังครึกโครม
ผมคงจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านๆ ไปเสีย หากมันไม่มีผลกระทบอะไรมากมาย

แต่เนื่องจากผมคิดดูแล้ว มันก็ออกจะไม่ได้ประโยชน์มากมายนัก กับการไล่ล่าในครั้งนี้
จะทำเพื่ออะไร?...ในเมื่อเราก็พอจะทราบกันอยู่แล้ว ว่านั่นเป็นจระเข้น้ำจืด......

       แม้ในบางครั้งทางกรมอุทยานฯอาจมีเจตนาที่ดี แต่ผมเห็นด้วยกับหลายๆ ท่านว่า ที่ตรงนั้นเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ มันคงไม่มีปัญหาอะไรมากมาย กับจระเข้ไม่กี่ตัว บางครั้งหากมองประโยชน์จริงๆ แค่เรื่องอยากรู้ว่าเป็นจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยแท้แค่นั้น เลยต้องพยายามพิสูจน์ DNA ของจระเข้กันแต่บางครั้งอาจจะยังไม่เหมาะสม ในใจผมอยากให้หยุดปฏิบัติการครั้งนี้ไว้ก่อนเนื่องจากเหตุผลดังนี้

1 ต้องยอมรับนะขอรับ ว่าในคณะปฏิบัติงาน ยังไม่มีผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับสัตว์พวกนี้อย่างเพียงพอ เห็นได้ชัดในเรื่องของไข่ปริศนา ที่ทางคณะทำงานยังไม่ทราบ ว่าไข่ใบนั้นไม่ใช่ไข่ของสัตว์เลื้อยคลานอย่างจระเข้  เนื่องจากมีลักษณะรูปทรงที่แตกต่างจากสัตว์เลื้อยคลาน  และที่สำคัญ จระเข้ต้องสร้างรังเพื่อวางไข่ ไม่ใช่ไข่ทิ้งเรี่ยราด  และจากที่เห็นการไปจับไข่อย่างพละการหากเป็นไข่จระเข้ขึ้นมา แน่นอนว่าจะเกิดความเสียหายต่อไข่ใบนั้นไม่มากก็น้อย ไข่ในนั้นน่าจะเป็นไข่ของสัตว์ปีก

2  มันจะเกิดประโยชน์อันใด หากจับจระเข้พิสูจน์ DNA ได้ ในเมื่อทางกรมอุทยานฯไม่มีฐานข้อมูลDNAของพวกมันอยู่เลย

3 ต้องคิดถึงผลกระทบต่อพวกมัน ว่าหลังจากการไล่ล่ามันจะเป็นอย่างไร ลืมไม่ได้เลยนะขอรับ ว่าหากมันเป็นจระเข้น้ำจืด Crocodylus siamensis มันก็คือสัตว์คุ้มครองสัตว์คุ้มครอง เป็นสัตว์ป่าจำพวกเลื้อยคลาน ลำดับที่ 35 นะขอรับ

 4 ก็พึ่งทราบได้ไม่นานว่าทางกรมอุทยานไม่ได้มีอำนาจเกี่ยวกับสัตว์ชนิดนี้ ความจริงอำนาจเป็นของคนอื่น

    ทั้งหมดทั้งปวงก็อยากให้ทุกอย่างมันออกมาดีกว่านี้ บางครั้งปฏิบัติการครั้งนี้อาจทำด้วยเจตนา เพื่อการศึกษา เพียงแต่เวลาอาจกระชั้นชิดเกินไป อย่างไรก็ตามก็ต้องขออภัยพี่บางท่านที่ทำงานอยู่ในกรมอุทยานฯนะขอรับ ผมรู้จักคนดีๆ หลายๆ คนที่ทำงานอยู่ในกรม ก็ขอพูดแค่ในกรณีการไล่ล่าจระเข้นี้แค่นั้น ว่าเป็นไปได้อยากให้หยุดวางแผนให้ดีก่อน  และน่าจะขอความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย เพื่อให้ทุกอย่างมีผลกระทบน้อยที่สุด เพราะบางครั้งหลายๆ ท่านก็ยังงงอยู่ ว่าเหตุใดจระเข้จึงต้องเดือดร้อน......
...แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 2552 04:32:08
corwin approve [ 07 ก.ย. 2552 23:44:30 ]
ความคิดเห็นที่: 1
ส่วนตัวผมคิดว่า  หลายๆ  คนหรือสื่อ  ต้องการจะทำให้เรื่องมันเป็นจระเข้หลุด ปล่อยหรืออะไรก็แล้ว แต่ที่เป็นเอเลี่ยนสปีชี่   และก็เอามันออก  เพราะแถวนั้นมันเป็นแหล่งท่องเที่ยว????  มันไม่ควรมีสัตว์ที่มีโอกาส(ไม่ถึง 1%)ที่จะทำร้ายคนอาศัยอยู่

เอาแบบดิบๆ  หน่อยก็ปิดทางเดินป่าเส้นนั้นซะ  คนไม่โดนงาบ  แถมจระเข้ไม่โดนกวนด้วย win - win

แล้ว ถ้ามีคนอยากดูจริงๆ  ให้มีเจ้าหน้าที่พาเดินเข้าไป  เหมือนเขตป่าปิดบนภูกระดึงหรือที่อื่น  ผมว่าน่าจะ OK นะครับ

ปล...แถวนั้นมีปลาตัวเขื่องให้มันกินตั้งมากมาย  มีเหตุอะไรที่มันจะมาทำร้ายคน....เฮ้อ
chai approve [ 07 ก.ย. 2552 23:56:17 ]
ความคิดเห็นที่: 2
: corwin
...พึ่งทราบได้ไม่นานว่าทางกรมอุทยานไม่ได้มีอำนาจเกี่ยวกับสัตว์ชนิดนี้ ความจริงอำนาจเป็นของคนอื่น...quote]

จระเข้อยู่ในความคุ้มครองของกฎหมายฯ สัตว์ป่า 2535  และกฎหมายอุทยานแห่งชาติ 2504 เพียง แต่ในทางปฏิบัติ(สมัยท่านปลอดประสพฯ เป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ) กรมอุทยานฯ กับกรมประมงตกลงกันว่าการอนุญาตต่างๆ เกี่ยวกับจระเข้ ให้เป็นหน้าที่ของกรมประมง เพราะถือว่าจระเข้เป็นสัตว์น้ำ
ธนพล สาระนาค [ 08 ก.ย. 2552 06:00:34 ]
ความคิดเห็นที่: 3
ขอคำปรึกษานะครับว่าเป็นไปได้ไหม ถ้าพวกเราจะรวมชื่อทำหนังสือเสนอต่ออธิบดีอุทยานแห่งชาติให้หยุดดำเนินการต่อ  แต่ว่าเรื่องนี้มันก็มีหลายเสียงเหมือนกันนะครับ ขนาดข่าวช่องเดียวกันยังนำเสนอตาสงกันเมื่อคืนผมดูเจาะประเด็นข่าวช่อง 7 เค้าว่าเป็นผลดีกับเขาใหญ่ทำให้นักท่องเที่ยวมากันเยอะขึ้นมาดูจระเข้ในธรรมชาติขนาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังมาดูกันเลย แต่ไม่เห็น พอเช้านี้ช่อง 7 เหมือนเดิมรายการเช้านี้ที่หมอชิตบอกจระเข้ทำพิษนักท่องเที่ยวหายไม่ไปเที่ยวเขาใหญ่เพราะกลัวจระเข้ ผมว่าดีป่าจะได้สงบ แฟนผมว่าน่าจะจับมันออกมาเพราะเป็นที่ท่องเที่ยว คราวนี้ในบ้านเลยเสียงแตกกันซะแล้ว ยังกะข่าวการเมืองเลย ผมเลยต้องให้ความคิดกับแฟนผมซะใหม่ว่าที่นั่นเป็นป่า เป็นอุทยานแห่งชาต เป็นป่าสงวน ป่าไม่ใช่ที่อยู่ของมนุษย์มันเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า มนุษย์เป็นแค่แขก แต่ดันจะไปไล่เจ้าบ้าน สัตว์ไม่ควรมาอยู่ แต่ในสวนสัตว์มันควรที่จะได้อยู่อย่างอิสระบ้าง เพราะป่าเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าไม่ได้มีเอาไว้ให้ตัดไม้มาทำฟืนอย่างเดียว จะว่าไปเรื่องจระเข้นี่มันก็อยู่ที่สื่อด้วยนะครับว่าสื่อจะเสนอข่าวไปในทิศทางใด
ตะขาบยักษ์ approve [ 08 ก.ย. 2552 08:43:18 ]
ความคิดเห็นที่: 4
จระเข้อยู่ในความคุ้มครองของกฎหมายฯ  สัตว์ป่า 2535   และกฎหมายอุทยานแห่งชาติ 2504 เพียง  แต่ในทางปฏิบัติ(สมัยท่านปลอดประสพฯ  เป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ) กรมอุทยานฯ  กับกรมประมงตกลงกันว่าการอนุญาตต่างๆ  เกี่ยวกับจระเข้ ให้เป็นหน้าที่ของกรมประมง เพราะถือว่าจระเข้เป็นสัตว์น้ำ

เป็นไปตามอารมณ์ และธุรกิจของท่านปรูด ที่มักอ้างความใกล้ชิดกระทำความผิดต่างๆ  เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
กรณีเสือ และซาฟารีก็เหมือนกัน
vvay approve [ 08 ก.ย. 2552 09:02:45 ]
ความคิดเห็นที่: 5
ผู้ใหญ่ไร้ความรู้  คนมีความรู้เป็นผู้ไม่เกี่ยวข้อง


บรรลัยจักรกันไปข้างหนึ่งแน่นอน
conti approve [ 08 ก.ย. 2552 11:33:30 ]
ความคิดเห็นที่: 6
ที่คนกลัว เพราะสื่อภาพยนตร์ ด้วยครับ นำเสนอภาพลักษณ์ของสัตว์ชนิดนี้ในเชิงอันตรายมากจนเกินไป
สื่อมวลชนน่าจะให้ข้อมูล และข้อเท็จจริงที่เป็นกลาง นำเสนอสู่ประชาชนนะครับ
นกแสกสีเพลิง approve [ 08 ก.ย. 2552 11:39:15 ]
ความคิดเห็นที่: 7
ผมว่าพวกผู้ใหญ่หลายๆ  คนก็เล่นไปตามกระแสข่าวนะครับ คงจะใช้กระแสสร้างผลงานให้ตัวเอง


ซึ่ง  ถ้าลองคิดดูดีๆ  แบบมีเหตุผล (ประกอบความรู้) แล้วจะเห็นว่าทุกอย่างนั้นทำไปอย่างไร้เหตุผลโดยทั้งสิ้น


อย่างไข่ที่จับขึ้นมา แค่จับขึ้นมาก็ผิดแล้ว แล้วยังสันนิษฐานว่าเป็นไข่จระเข้อีก นี่ยิ่งหนักมาก แสดงให้เห็นว่าในทีมนั้นไม่มีใครที่มีความรู้เลย ดีไม่ดีก็นั่งเรือไปอาหน้ากันทุกคน



ผมเห็นแล้วอนาถใจ จะไปยุ่งอะไรกับมันกันนักหนา

แต่ก็ทำให้รู้ว่ามันดึงกระแสแพนด้าได้นะ
PaPaSEK approve [ 08 ก.ย. 2552 12:09:18 ]
ความคิดเห็นที่: 8
แล้วไอ้หมีควาย ที่ถูกยิงตายที่ พัทลุง เมื่อ หลายเดือนก่อน มีใครไปตรวจดูหรือยังครับ ว่า เป็น หมีบ้าน หมีป่า หมีปล่อย     แล้วไอ้คนยิง ได้รับการสอบสวนไหม  

ผมว่าดีไม่ดี ตอนไปจับ จระเข้ ตัวนี้  ถ้ามันเกิดสู้ขึ้นมา อาจโดนเจ้าหน้าที่ทำปืนลั่นใส่ สัก 20 นัด  ก็ได้ครับ แล้วก็ให้เหตุผลเดียวกับหมี ว่าเป็นภัย ต่อมนุษย์ ขัดขวางการจับกุม    ทั้งๆ ที่ไปจับ ในป่า ในบ้านของจระเข้
Tony approve [ 08 ก.ย. 2552 12:38:40 ]
ความคิดเห็นที่: 9
เป็นเรื่องของอีกสายพันธ์หนึ่งที่กำลังจะทำลายอีกสายพันธ์หนึ่ง   และเมื่ออีกหลายสายพันธ์ที่ไม่เหมือนตัวเองถูกทำลายหมด ก็คงจะหันมาทำร้ายสายพันธ์เดียวกันเองกันเอง
ต้อง [ 08 ก.ย. 2552 13:04:34 ]
tiger8860@hotmail.com
ความคิดเห็นที่: 10
ในเมื่อเป็นความรับผิดชอบของกรมประมง แล้ว จนท.ฝ่ายอุทยาน ไปยุ่งอะไรด้วย?
...แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 2552 13:30:02
snakeeater approve [ 08 ก.ย. 2552 13:19:46 ]
ความคิดเห็นที่: 11
ใช่ครับ  มันเป็นเรื่องน่าแปลกมากผมไม่รู้ว่าประเทศอื่นๆ เขาเป็นเหมือนอย่าง   -พี่ไทย-ของเราหรือเปล่า    บางทีอธิบดี กรมต่างๆ หน่วยต่าง  ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับหน่วยงานที่ท่านไปสิงสถิตอยู่เลย   (มีตัวอย่างให้เห็นกันเยอะแยะ)
เพียงเพราะท่านๆ นั้นเขาเรียนสูงมีพวกพ้องเลยได้เป็นหัวหน้าหน่วยนั้นหน่วยนี้   แต่ความรู้จริงๆ ไม่มี(หมายถึงงานที่หน่วยที่ท่านอยู่อะนะ)   ท่านอาจจะมีความรู้ในด้านอื่น แต่กลับมาอยู่ในหน่วยที่ไม่มีความรู้    มันน่าแปลกมากๆ เลย  บางที่ลูกน้องในหน่วยมีความรู้เยอะซะกว่าอีก  เพราะต้องลงไปทำงานด้วยมือ    แต่ท่านๆ เขาทำงานด้วยปากสั่งอย่างเดียว            บางครั้งต้องลงไปทำงาน  เราก็จะทำในสิ่งที่เรามีความรู้ว่าต้องทำตามกระบวนการนั้นกระบวนการนี้เปแนขึ้นตอนไป    แต่ท่านๆ มักจะสั่งให้ทำตามที่ท่านสั่ง  ทั้งๆ ที่ผมรู้สึกว่ามันผิดขึ้นผิดตอนไป   แต่ก็เถียงไม่ได้  เพราะเดี๋ยวชีวิตจะไม่สงบ                   จริงๆ  ถ้าท่านๆ เข้ามาในเวปสยามเอสซิสผมเชื่อว่าจะทำให้ท่านๆ มอง ธรรมชาติด้วยความเข้าใจธรรมชาติมากขึ้น
บีลีฟ [ 08 ก.ย. 2552 15:45:49 ]
ความคิดเห็นที่: 12
ส่วนเรื่องดูจระเข้    ผมคิดว่าน่าจะมีการติดกล้องส่องทางำกลเอาไว้ดีกว่า   เหมือนดูกระทิงอ่ะ   ดูจากห่างๆ น่าจะดีกว่า  ทางตรงนั้นก็ผิดไปเลย   จริงๆ ผมไม่รู้ว่าการดูเพศจระเข้นั้นดูจากภายนอกได้หรือไม่    จริงๆ เราน่าจะรู้เพศที่แน่นอนของมันนะครับ   ผมคิดว่า   ถ้ามันมค1เพศจริงๆ มันจะมีลูกแล้วนะ    ผมว่าน่าจะมีการตรวจสอบเพสให้แน่  แล้วหาพันธุ์ไทยในเพศที่ยังขาดลงไปปล่อยสัก1ตัวน่าจะดีนะครับ   ไม่เช่นนั้น ถ้ามันมีเพศด้วย  มันคงหมดลมหายใจไปพร้อมๆ กับได้ชื่อว่าจระเข้2ตัวสุดท้ายแห่งเขาใหญ่       แต่ดูข่าวทีวีบางสายก็ว่ามี3ตัวนะ งงๆ
บีลีฟ [ 08 ก.ย. 2552 15:51:20 ]
ความคิดเห็นที่: 13
เยี่ยมครับแจ่มเลย    คุณธนพล สาระนาค    ยกย่อง    เรื่องที่พี่ๆ ส่งไปตรงใจผมเลย
บีลีฟ [ 08 ก.ย. 2552 15:59:44 ]
ความคิดเห็นที่: 14
ฐานข้อมูล DNA ว่าชนิดใดเป็นอะไรประเทศไทยมีแล้วนะครับ ผู้เชี่ยวชาญพร้อมดำเนินการครับ วันก่อนยังคุยๆ กันอยู่ว่ากรมฯ  ไม่เห็นติดต่อมา  แต่ออกข่าวว่าจะตรวจ DNA เย้วๆ  คือจะจับมาตรวจเพื่อความสบายใจก็ไม่ว่ากัน  แต่คำถามมันยังมีอีกมาก เช่น

1. จับมาแล้ว ระหว่างรอตรวจว่าเป็นชนิดไหน จะเอาจระเข้ไว้ที่ไหน
2. จับมาแล้ว ทำมันตื่นแล้ว สมมุติว่าเป็น C. siamensis จริง ปล่อยกลับไปแล้วมันจะยังยอมอยู่ที่เดิมไหม
3.  ถ้าเป็น C. siamensis แล้วจะทำยังไงต่อ?  สมมุติรู้เพศด้วย จะปล่อยอีกตัวไปเป็นคู่มันไหม? หรือว่าจะปล่อยให้อยู่ตัวเดียวไป หรือว่า?  


นี่เป็นอีกกรณีที่ชัดเจน และน่าหดหู่มาก ของปัญหาการผสมข้ามสายพันธุ์ คนจะอนุรักษ์ ก็อนุรักษ์ไม่ถูก ไม่รู้ตัวจริงตัวปลอม เวรจริงๆ  
นณณ์ approve [ 08 ก.ย. 2552 16:05:38 ]
ความคิดเห็นที่: 15
ผมได้ข้อมูลล่าสุดมารู้สึกเจอไข่ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นของจระเข้หรือป่าวแล้วเมื่อวานเขาเจอสองตัวบริเวณเดียวกับที่พบตัวใหญ่ แต่สองตัวหลังที่พบตัวเล็กกว่าเป็นไปได้ว่ามีหลายตัวคับผมไม่เห็นด้วยกับการไปจับมาสักเท่าไหร่คับเพราะ ถ้าสัตว์รู้สึกว่ามันถูกคุกคามมันจะย้ายที่อยู่คับ และก้จะทำให้มันดุขึ้นด้วยเนื่องจากเห็นว่าเราเป็นศัตรู
niroottiwat approve [ 08 ก.ย. 2552 16:14:47 ]
ความคิดเห็นที่: 16
สงสัย จระเข้ จะแย่งที่หาปลา แย่ง ปลาช่อน เจ้าหน้าที่บนเขาใหญ่กิน อิอิ
Fog approve [ 08 ก.ย. 2552 16:28:54 ]
ความคิดเห็นที่: 17
นึกขึ้นได้ว่ากรณีจับแล้วย้ายที่อยู่ มีกรณีของจระเข้น้ำเค็มในออสเตรเลีย ที่มีขนาดใหญ่ และอาศัยอยู่ใกล้คนเกินไป ก็มีการจับออกไปปล่อยที่ห่างออกไป แล้วมันก็ว่ายน้ำกลับมาถิ่นของมันได้ ยังคุ้นๆ ว่าเคยเห็นงานวิจัยที่พัฒนาอุปกรณ์อะไรสักอย่างไปรบกวนจุดรับคลื่นแม่เหล็กของจระเข้ให้มันหลงทิศหลงทาง จะได้กลับบ้านไม่ถูก

เป็นข้อมูลเพิ่มเติมครับ
นณณ์ approve [ 08 ก.ย. 2552 16:36:24 ]
ความคิดเห็นที่: 18
ปัญหาหลักมาจากการผสมข้ามพันธุ์(ของฟาร์มเอกชน) หรือความไม่เอาไหนของ จนท.กรมอุทยาน?
ผมว่าอย่างหลังมากกว่า...
แนวคิดเรื่อง กลัวเป็นพันทาง นั่น ผมว่าเป็นแค่ข้ออ้าง ที่พวกนี้ใช้คุยประกอบมากกว่า
เรื่องของเรื่องคือ กรูอยากจะตีปี๊บ มากกว่า
จริงๆ  ถ้ามันคิดจะตรวจเลือดเพื่อพิสูจน์ เอาแค่จับล็อก หรือทำให้สลบ แล้วเจาะเลือดเอามาเฉยๆ ก็ได้ ทางออกมีถมไป โดยไม่จำเป็นต้องอุ้มมันออกมา

อีกอย่าง ถ้าห่วงเรื่อง"ความเป็นเอเลี่ยน"จริงๆ  ...ทำไม อิกัวน่า ที่เคยเจอในเขาใหญ่เมื่อหลายเดือนก่อน จึงไม่โดนตีปี๊บแบบนี้บ้าง?
http://www.siamensis.org/board/11764.html
...แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 2552 16:46:46
snakeeater approve [ 08 ก.ย. 2552 16:41:53 ]
ความคิดเห็นที่: 19
 ถ้าลงข่าวว่าเจอ"อีกัวน่า"ที่เขาใหญ่  มันไม่น่าสนใจหรือข่าวมันขายไม่ได้เท่าเจอ"จระเข้"หน่ะสิครับ

แต่ทางสื่อพยายามหาความชอบธรรมในการจับหรือหิ้วมันออกมาว่าเพราะมันเป็น"เอเลี่ยน"  เพราะ ถ้าไม่ทำยังงั้น  มันก็ถือว่าเป็นจระเข้ถิ่นหรือสัตว์ป่า มีสิทธิหรือเหตุผลอะไรที่จะต้องไปจับมันออกมาละครับ

เรื่องเอเลี่ยนมันแค่ข้ออ้างเดียวที่จะพอเอามาอ้างได้เพื่อนำมันออกมาหน่ะครับ

ส่วนเรื่องไข่ล่าสุดบอกเน่าไปแล้ว  เวรกรรม   แต่ที่ผมสงสัยคือ  จระเข้(น้ำจืด)มันผสมพันธ์  แล้วก็วางไข่ช่วงหน้าหนาว  หรือต้นปี อย่างช้าก็ก่อนหน้าร้อน  แล้วป่านนี้มันจะมีไข่จระเข้ออกมาได้ยังไง  แถมทางเจ้าหน้าที่ก็บอกแล้วว่าจระเข้มันอายุประมาณ 5 ปี(เท่าที่เค้าตามดูมันมา) ก็แปลว่ามันยังไม่ถึงวัยเจริญพันธ์  แล้วทำไมสื่อถึงว่ามันเป็นไข่จระเข้ไปได้...

ขนาดบอกว่าจะเอาไข่ที่เจอไปให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์  ยังต้องใช้เวลาตั้ง 2 วัน(พิสูจน์อะไรบ้างเนี้ย)  มีไข่อยู่ในมือ  ใน อช. แห่งชาติมันจะไม่มีคนดูออกโดยใช้เวลาน้อยกว่า 2 วันเลย?

ผมว่าตัวปัญหาจริงๆ  มันคือสื่อนี่แหละครับ  พอประโคมข่าว  พวกผู้มีอำนาจ และห่วงหน้าตาก็เลยต้องออกมาทำอะไร(ที่บ่อยครั้งมันไม่เข้าท่า)บ้าง   ผมว่าจริงๆ  แล้วคนที่ปกติเคยเดินผ่านเส้นทางนั้น  หรือเจ้าหน้าที่  เค้าไม่ได้อยากไปยุ่งกะมันหรอกนะครับ
chai approve [ 08 ก.ย. 2552 18:55:07 ]
ความคิดเห็นที่: 20
หุๆ
aqueous_andaman approve [ 08 ก.ย. 2552 19:08:21 ]
ความคิดเห็นที่: 21
สงสัยจะได้เวลาล้างบางเขาใหญ่
ไอ้ลูกทุ่ง approve [ 08 ก.ย. 2552 19:27:32 ]
ความคิดเห็นที่: 22
ทีสวนสัตว์เขาเขียวปล่อยอีกัวน่า หลุดไปทั้งกรงล่ะ ปิดข่าวกันเงียบกริ๊บเลย เดินเพ่นพ่านบนถนน รถที่ขับมาหลบกันวุ่นวายเกือบชนกัน (รวมผมด้วย) ไม่เห็นมีใครออกไปไล่จับเลย ไม่ใช่ตัวเล็กๆ นะครับยาวเป็นเมตร สีสวยด้วย ยังนึกว่า ถ้ามาคันเดียวคงวิ่งไล่จับแล้ว อันนี้เอเลี่ยนของแท้ยังเฉยๆ เลย
noppadol approve [ 08 ก.ย. 2552 19:41:52 ]
noparnon@yahoo.co.th
ความคิดเห็นที่: 23
อ่านดูแล้วพาลฉุกคิด นี้หนามนุษย์ หุๆๆ    
ทำอะไรก็โดน ถึงไม่ทำก็โดน  
เออ แล้วโพสอย่างงี้จะโดนไหมครับ

ปล จะดีกว่านี้แน่  ถ้ารวมความคิดตามหลักวิชาการ แล้วเสนอว่าควรแก้ไขอย่างไร ดีกว่า ครับ ด่าเอามันครับ
sd [ 08 ก.ย. 2552 22:39:47 ]
ความคิดเห็นที่: 24
: sd
อ่านดูแล้วพาลฉุกคิด นี้หนามนุษย์ หุๆๆ     
ทำอะไรก็โดน ถึงไม่ทำก็โดน  
เออ แล้วโพสอย่างงี้จะโดนไหมครับ

ปล จะดีกว่านี้แน่   ถ้ารวมความคิดตามหลักวิชาการ แล้วเสนอว่าควรแก้ไขอย่างไร ดีกว่า ครับ ด่าเอามันครับ

ผมเข้าใจในเรื่องนี้ขอรับ ไม่มีใครที่ทำถูกใจคนได้ทั้งหมดหรอกขอรับ .....
ผมเข้าใจว่าทุกท่านที่ปฏิบัติงาน ต่างทำหน้าที่อย่างเต็มที่ทั้งแรงกายแรงใจ  และมีเจตนาสร้างสรรค์
เพียง แต่ว่าบางครั้งมันก็มีข้อผิดพลาด ซึ่ง ทุกๆ คนผิดพลาดได้ทั้งนั้น
 และหากทางกรมอุทยานฯ มีความประสงค์จะรับฟังข้อคิดเห็นจากภายนอก

ผมอยากจะเสนอให้ยุติปฏิบัติการจับจระเข้ไว้ก่อน แล้ววางแผนกันใหม่
สมควรอย่างยิ่งที่จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ชำนาญการในด้านนี้โดยเฉพาะ
มาปรึกษาหารือกันว่า ควรจะมีวิธีการอย่างไรที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของมันให้น้อยที่สุด
ควรจะมีเป้าหมายที่แน่นอนว่าทำไปเพื่ออะไร มีขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน
 และเมื่อตรวจสอบจนทราบแล้วว่าเป็นชนิดไหน จะมีแนวทางอย่างไรกับจระเข้พวกนี้

 และที่สำคัญควรที่จะปฏิบัติงานให้สำเร็จลุล่วงเสียก่อน ค่อยให้ข่าวต่อสื่อ
เพราะนอกจากสื่อจะสร้างความยุ่งยากในการปฏิบัติหน้าที่แล้ว หากประเด็นข่าวนั้นยังเป็นที่คลุมเครือ
การรูปแบบนำเสนอข่าวของสื่อบางสำนัก อาจทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดได้

ก็เป็นแค่ความคิดเห็นของผมเบื้องต้นแค่นั้นขอรับ.............
...แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 2552 00:06:42
corwin approve [ 09 ก.ย. 2552 00:05:29 ]
ความคิดเห็นที่: 25
: sd
อ่านดูแล้วพาลฉุกคิด นี้หนามนุษย์ หุๆๆ     
ทำอะไรก็โดน ถึงไม่ทำก็โดน  
เออ แล้วโพสอย่างงี้จะโดนไหมครับ

ปล จะดีกว่านี้แน่   ถ้ารวมความคิดตามหลักวิชาการ แล้วเสนอว่าควรแก้ไขอย่างไร ดีกว่า ครับ ด่าเอามันครับ


อยากงี่เง่าตีปี๊บเอง
 ถ้าไม่ตีปี๊บก็ไม่โดนเท่าไหร่หรอกครับ  พอตีปี๊บขึ้นมาสู่กระแสสังคมแล้ว มันก็ย่อมโดนกระแสสองด้านตีเข้ามาอยู่แล้ว

ปล.แนวทางแก้ปัญหา ผมเสนอไปใน คห.18 แล้ว
...แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 2552 16:00:41
snakeeater approve [ 09 ก.ย. 2552 08:50:45 ]
ความคิดเห็นที่: 26
รบกวนแนะนำด้วยครับ  ไม่ทราบจะเข้าใจถูกหรือเปล่า
 
เวลาเห็นข่าวจระเข้หลุด ผมมักจะไม่ค่อยห่วงเรื่องเอเลี่ยน  และคิดว่ามันคือจระเข้น้ำจืดไทยแน่นอน

เพราะผมเข้าใจว่าจระเข้ที่เลี้ยงกัน แต่ดั้งเดิมจนปัจุบัน  และมีจำนวนมากสุด คือจระเข้น้ำจืดไทยแท้

ส่วนจระเข้น้ำเค็มไทย  และลูกผสม(น้ำจืด + น้ำเค็ม)จะมีเฉพาะฟาร์มใหญ่ๆ  ไม่ถึงมือเกษตรกร

 และจระเข้นอกพันธุ์เคแมน นำเข้ามาเลี้ยงเป็นจระเข้เนื้อ ก็ตัวเล็กไม่น่าจะผสมข้ามพันธุ์ได้


-ไม่ทราบว่าปัจจุบันวงการจระเข้มีการปรับปรุงสายพันธุ์อื่นๆ นอกจาก น้ำจืดไทย+น้ำเค็มไทย  หรือไม่

-ผู้เลี้ยงระดับเกษตรกร มีโอกาสได้เลี้ยงจระเข้อื่นๆ  นอกจากน้ำจืดไทยแท้บ้างหรือยัง

-แล้วจระเข้ลูกผสมน้ำจืดไทย+น้ำเค็มไทย  จัดเป็นเอเลี่ยนหรือไม่  เพราะก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นเองในธรรมชาติ ในสมัยโบราณอาจมีมาแล้วก็ได้
...แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 2552 20:29:21
alian approve [ 09 ก.ย. 2552 09:49:40 ]
ความคิดเห็นที่: 27
บทความนี้เลย โดนใจ โดยคุณ วินิจ รังผึ้ง

http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000104081
นณณ์ approve [ 09 ก.ย. 2552 15:30:43 ]
ความคิดเห็นที่: 28
เคแมนผสมข้ามไม่ได้ครับ  หรือสมมติ ถ้าเคแมนแท้ๆ หลุดออกมาในธรรมชาติ ก็จำง่าย เพราะหน้าตาต่างกับจระเข้ไทย(ทั้งน้ำจืด และน้ำเค็ม)อย่างเห็นได้ชัด
ส่วนสายพันธุ์อื่น(เช่น นิวกินี ไนล์ ฯ ลฯ ) ส่วนมากเอาเข้ามาเลี้ยงโชว์เฉยๆ ครับ  ไม่คุ้ม ถ้าจะเลี้ยงเป็นอุตสาหกรรม เพราะมีจำนวนน้อย ราคาสูง หนังก็ไม่ได้ดีไปกว่าจระเข้ไทย

ส่วน ถ้าจระเข้น้ำเค็ม หรือลูกครึ่ง ไปอยู่ที่เขาใหญ่   ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ  ก็จัดเป็น Alien เหมือนกันครับ
เพราะจระเข้น้ำเค็มโดยปกติไม่อาศัยลึกเข้ามาในแผ่นดินใหญ่  นอกจากปากแม่น้ำหรือชายเลน
เหมือน ถ้ามีคนเอางูหลามปากเป็ดไปปล่อยในเขาใหญ่  ก็ถือเป็นชนิดต่างถิ่นเช่นกัน
...แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 2552 16:06:45
snakeeater approve [ 09 ก.ย. 2552 15:31:56 ]
ความคิดเห็นที่: 29
ไอ้ด่างเกย์ชัย    เขาว่ามันเป็นจระเข้ ลูกครึ่งน้ำเค็มน้ำจืด   ซึ่ง สมัยนั้นคงยังเพาะจระเข้กันไมได้หรอกมั้ง
บีลีฟ [ 09 ก.ย. 2552 19:15:58 ]
ความคิดเห็นที่: 30
: บีลีฟ
ไอ้ด่างเกย์ชัย    เขาว่ามันเป็นจระเข้ ลูกครึ่งน้ำเค็มน้ำจืด   ซึ่ง  สมัยนั้นคงยังเพาะจระเข้กันไมได้หรอกมั้ง

สมัยนั้นไอ้เข้มันคงเยอะครับ  จระเข้น้ำจืดกับน้ำเค็มคงไปเจอกันแถวๆ  ปากแม่น้ำหรือแถวไหนแล้วผสมกันเองตามธรรมชาติได้ครับ

สมัยนี้แค่หาไอ้เข้ด้วยกันให้เจอในธรรมชาติยังยากเลยครับ

สัตว์ที่ผสมต่างสายพันธ์กันตามธรรมชาติเองก็มีไม่น้อยครับ  กรณีไอ้ด่างผมว่ามันก็น่าจะมีโอกาสที่จะเกิดได้สูงนะครับ

 ถ้าจำไม่ผิด  หมีขั้วโลกผสมกับหมีสีน้ำตาลยังเคยมีเลยนะครับ (จำข้อมูลชัดๆ ไม่ได้ครับ   แต่เหมือนจะมีพรานยิงลูกหมีที่เป็นลูกผสมได้)
chai approve [ 09 ก.ย. 2552 19:47:35 ]
ความคิดเห็นที่: 31
เหตุผลสนับสนุนเรื่องไอ้ด่างคือ จระเข้น้ำ+น้ำเค็ม จะตัวใหญ่มาก  และดุร้ายกว่าพันธุ์น้ำเค็มมาก
alian approve [ 09 ก.ย. 2552 20:03:05 ]
ความคิดเห็นที่: 32
ไอ้ด่างเกยไชย ที่กล่่าวถึง น่าจะเป็นไอ้ด่างบางมุดนะครับ เกยไชยอยู่นครสวรรค์ บางมุดอยู่ชุมพร เป็นลูกผสมครับ
noppadol approve [ 09 ก.ย. 2552 20:12:46 ]
noparnon@yahoo.co.th
ความคิดเห็นที่: 33
: alian
เหตุผลสนับสนุนเรื่องไอ้ด่างคือ จระเข้น้ำจืด+น้ำเค็ม จะตัวใหญ่มาก   และดุร้ายกว่าพันธุ์น้ำเค็มมาก


ข้อสังเกต > ไอ้ใหญ่มีเกล็ดสร้อยสังวาลย์ตรงสีข้าง แบบเดียวกับจระเข้น้ำจืดด้วยแฮะ(น้ำเค็มแท้จะไม่มี)

ปล.#29  ไอ้ด่างไม่ได้เป็นโฮโมเซ็กฌ่วลครับ อิอิอิ
...แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 2552 21:27:55
snakeeater approve [ 09 ก.ย. 2552 20:27:59 ]
ความคิดเห็นที่: 34
ฐานข้อมูลดีเอ็นเอในไมโทคอนเดรียของจระเข้ไทยสามารถค้นได้นะครับจากธนาคารยีนซึ่ง เปิดเป็นเสรี ตามนี้ครับ
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/nuccore/EF581859?ordinalpos=1&itool=EntrezSystem2.PEntrez.Sequence.Sequence_ResultsPanel.Sequence_RVDocSum
kman [ 09 ก.ย. 2552 21:23:20 ]
ความคิดเห็นที่: 35
ล่าสุดจากรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ อธิบดีฯ  จะให้ปล่อยไว้ศึกษาผลกระทบสักสองปี

แต่แนวคิดที่น่าเป็นห่วงคือ จะสร้างท่าหรือชานริมน้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวชมจระเข้

..คิดได้ไงเนี่ย
...แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 2552 13:33:58
alian approve [ 10 ก.ย. 2552 09:57:06 ]
ความคิดเห็นที่: 36
: alian
แนวคิดที่น่าเป็นห่วงคือ จะสร้างท่าหรือชานริมน้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวชมจระเข้


เห็นด้วยว่างี่เง่ามาก
vvay approve [ 10 ก.ย. 2552 13:29:11 ]
ความคิดเห็นที่: 37
: vvay
: alian
แนวคิดที่น่าเป็นห่วงคือ จะสร้างท่าหรือชานริมน้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวชมจระเข้

เห็นด้วยว่างี่เง่ามาก
น่าเห็นใจเขาครับ ก็สมองเขามีอยู่นิดเดียวเท่ากับเด็กสี่ขวบ จะคิดอะไรได้ครับ
noppadol approve [ 10 ก.ย. 2552 15:06:52 ]
noparnon@yahoo.co.th
ความคิดเห็นที่: 38
เพิ่งได้รับข่าวว่าจะทำการศึกษา 2 ปี

ทำไปเผื่ออะไรกันหรอ...

(ศึกษา หรือ ทำลาย)
Moo_mAi [ 10 ก.ย. 2552 15:43:24 ]
ความคิดเห็นที่: 39
ขอบคุณ คุณ corwin มากที่มาช่วยกันเปิดกระทู้ เรื่องจระเข้นั้นเปิดให้เปนแหล่งท่องเที่ยวไปเลยครับ อย่าง ดงเสือผ่าน โป่งกระทิง  อะไรปานนี้ครับ เข้าเขาใหญ่มาก็หลายปีแล้วเจอ แต่ป้าย !!

... แต่เนี่ยเห็นตัวเห็นๆ  ตั้งชื่อไปเลยว่า วังจระเข้ !!!   ครับพี่น้อง..
แมงระงำ approve [ 10 ก.ย. 2552 17:07:09 ]
ความคิดเห็นที่: 40
ผมว่าไปสร้างชานหรือแพริมน้ำผมว่ามันใกล้เกินไปนะ       อย่างการดูกระทิงเขายังดูแบบห่างๆ (เป็นกิโลเมตร)    ส่วนเรื่องที่เขาบอกขอดูผลกระทบสัก2ปี  ผมคิดว่ามันเหมือนคนละครึ่งทางนะครับ        ลำพังจะไปจับออกท่าเดียวก็โดนด่าไม่น้อย     แต่ ถ้าเอาไว้ก็มีบางคนด่า    เลยบอกขอไว้ดูสักสองปีแล้วทำเป็นที่ท่องเที่ยวซึ่ง แน่นอน อุทยานได้ประโยชน์         แต่ผมเชื่อว่ามีความเป้นไปได้ว่าเมื่อถึงเวลาสองปีเรื่งอนี้ก็คงไม่ดังพุดขึ้นมาก็คงเงียบๆ กันไปมากกว่า
บีลีฟ [ 10 ก.ย. 2552 20:06:40 ]
ความคิดเห็นที่: 41
: noppadol
ไอ้ด่างเกยไชย ที่กล่่าวถึง น่าจะเป็นไอ้ด่างบางมุดนะครับ เกยไชยอยู่นครสวรรค์ บางมุดอยู่ชุมพร เป็นลูกผสมครับ

 ถ้าข้อมูลผิดพลาดต้องขออภัยครับ   เรื่อง ไอด่างบางมุด  กับไอด่างเกยไชย  ผมอ่านมานานมากพอสมควร   ก็เลอะเลือนนิดหน่อยอาจผสมกันไปบ้างครับ  แฮะๆ
บีลีฟ [ 10 ก.ย. 2552 20:09:59 ]
ความคิดเห็นที่: 42
อีกอย่างที่ควรศึกษาไปพร้อมกันคือ

เขาใหญ่เคยมี หรือเป็นไปได้ที่จะมีจระเข้ตามชาติได้หรือไม่

 ถ้าไม่มีการตั้งทีมงาน กรรมการศึกษา คงไม่สำเร็จแน่
...แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 2552 20:37:50
alian approve [ 10 ก.ย. 2552 20:14:50 ]
ความคิดเห็นที่: 43
ต้องเปิด เป็นการท่องเที่ยวแนวใหม่ ให้ นักท่องเที่ยวลงไปว่ายน้ำกับจระเข้
ไงที่สปา ยังเอาเท้าลงไปให้ปลา ตอดเล่นแล้ว นี้มันก็แค่ ชิ้มเฉยๆ
catfish approve [ 10 ก.ย. 2552 22:06:17 ]
ReptilesPics_reply_138404.jpg
ความคิดเห็นที่: 44
: noppadol
ไอ้ด่างเกยไชย ที่กล่่าวถึง น่าจะเป็นไอ้ด่างบางมุดนะครับ เกยไชยอยู่นครสวรรค์ บางมุดอยู่ชุมพร เป็นลูกผสมครับ
ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ตรงนั้นเป็นที่แม่น้ำสองสายมารวมกัน คือ แม่น้ำยม กับ แม่น้ำน่าน เป็นเรื่องเล่ามาช้านาน ด่างเป็นจระเข้กินคนที่มีขนาดใหญ่โตกว่าจระเข้น้ำจืดทั่วไป อาจผ่าเหล่า อาจเป็นคำล่ำลือ อาจเป็นลูกผสม หรืออาจเพราะความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร ทำให้ใหญ่โตขนาดนั้น ที่สำคัญหน้ามันด่างขาว เมื่อตายเค้าว่ากะโหลกมันพาดถึงขื่อศาล ที่ทำไว้ริมน้ำเลย ค่ะ ต่อมามี ขุนนางท่านนึงผ่านมาแวะเอา กะโหลกนั้นไปเสีย นัยว่ายกให้ฝรั่งไปเสียแล้ว ปัจจุบันมีกะโหลกจระเข้ขนาดเล็กอยู่ในศาลแทน
"เรื่องราวของไอ้ด่างเกยชัย มีบันทึกอยู่ในสมุดบันทึกของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อคราวที่ท่านเสด็จไปตรวจราชการที่เมืองเหนือ ได้บันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวของไอ้ด่างเกยชัยไว้สั้นๆ  2 บรรทัด มีใจความว่า ที่นี่มีศีรษะของจระเข้ใหญ่ เป็นจระเข้กินคน ชาวบ้านเล่าลือกันว่าเป็นจระเข้เจ้า มีพระยาคนหนึ่งได้นำเอาศีรษะจระเข้นี้เข้ากรุงเทพ ฯ   และได้ขายต่อให้ชาวต่างชาติไป เป็นอันจบกันสำหรับเรื่องราวของศีรษะจระเข้ใหญ่"

ปัจจุบัน บันทึกของท่านตอนนี้ สามารถสืบค้นได้ที่หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี

ที่พิษณุโลก เมื่อ 50-60 ปีก่อน มีลูกจระเข้ลอยมากับกอสวะในลำน้ำน่าน  และยังเคยมีคนเล่าขานถึงจระเข้ใน ลำน้ำเข็ก ซึ่ง มีสภาพเป็น น้ำตก สลับกับวังน้ำนิ่งลึก  และ หาดทรายเป็นช่วงๆ คล้ายๆ ลำน้ำบนเขาใหญ่ อีกทั้งในแม่น้ำ วังทอง ก็เคยมีคนพบเห็นจระเข้  ทำไมหนอ บนเขาใหญ่ เค้าถึงว่า มันไม่เคยมีจระเข้อยู่มาก่อนเลย
...แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 2552 16:22:41
Fog approve [ 11 ก.ย. 2552 00:21:04 ]
ความคิดเห็นที่: 45
: Fog
: noppadol
ไอ้ด่างเกยไชย ที่กล่่าวถึง น่าจะเป็นไอ้ด่างบางมุดนะครับ เกยไชยอยู่นครสวรรค์ บางมุดอยู่ชุมพร เป็นลูกผสมครับต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ตรงนั้นเป็นที่แม่น้ำสองสายมารวมกัน คือ แม่น้ำยม กับ แม่น้ำน่าน เป็นเรื่องเล่ามาช้านาน ด่างเป็นจระเข้กินคนที่มีขนาดใหญ่โตกว่าจระเข้น้ำจืดทั่วไป อาจผ่าเหล่า อาจเป็นคำล่ำลือ อาจเป็นลูกผสม หรืออาจเพราะความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร ทำให้ใหญ่โตขนาดนั้น ที่สำคัญหน้ามันด่างขาว เมื่อตายเค้าว่ากะโหลกมันพาดถึงขื่อศาล ที่ทำไว้ริมน้ำเลย ค่ะ ต่อมามี ขุนนางท่านนึงผ่านมาแวะเอา กะโหลกนั้นไปเสีย นัยว่ายกให้ฝรั่งไปเสียแล้ว ปัจจุบันมีกะโหลกจระเข้ขนาดเล็กอยู่ในศาลแทน
"เรื่องราวของไอ้ด่างเกยชัย มีบันทึกอยู่ในสมุดบันทึกของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อคราวที่ท่านเสด็จไปตรวจราชการที่เมืองเหนือ ได้บันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวของไอ้ด่างเกยชัยไว้สั้นๆ   2 บรรทัด มีใจความว่า ที่นี่มีศีรษะของจระเข้ใหญ่ เป็นจระเข้กินคน ชาวบ้านเล่าลือกันว่าเป็นจระเข้เจ้า มีพระยาคนหนึ่งได้นำเอาศีรษะจระเข้นี้เข้ากรุงเทพ ฯ     และได้ขายต่อให้ชาวต่างชาติไป เป็นอันจบกันสำหรับเรื่องราวของศีรษะจระเข้ใหญ่"

ปัจจุบัน บันทึกของท่านตอนนี้ สามารถสืบค้นได้ที่หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี

ที่พิษณุโลก เมื่อ 50-60 ปีก่อน มีลูกจระเข้ลอยมากับกอสวะในลำน้ำน่าน   และยังเคยมีคนเล่าขานถึงจระเข้ใน ลำน้ำเข็ก ซึ่ง  มีสภาพเป็น น้ำตก สลับกับวังน้ำนิ่งลึก   และ หาดทรายเป็นช่วงๆ  คล้ายๆ  ลำน้ำบนเขาใหญ่ อีกทั้งในแม่น้ำ วังทอง ก็เคยมีคนพบเห็นจระเข้  ทำไมหนอ บนเขาใหญ่ เค้าถึงว่า มันไม่เคยมีจระเข้อยู่มาก่อนเลย


ปู่ที่เคยเป็นชาวเรือ(เดินเรือขนข้าวจากภาคเหนือ ลงไปส่งกรุงเทพ) เล่าไว้เมื่อนานแล้ว ถึงเรื่องด่างเกยไชย ถูกยิง และนำหัวมาตั้งไว้เป็นศาลเจ้า จำรายละเอียดความโหดร้ายไม่ได้รู้ แต่ว่าตื่นเต้น  อ้อรู้สึกว่ามีหนังด้วยนะครับ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สร้างภาพความหวาดกลัวจระเข้ไว้ในใจคนไทย
เสือหัวดำ [ 11 ก.ย. 2552 09:23:54 ]
ความคิดเห็นที่: 46
แสดงความคิดเห็นนะครับท่าน ด่าอย่างเดียวไม่เอาครับ ไม่ดี ไม่ดี
นณณ์ approve [ 11 ก.ย. 2552 10:50:13 ]
ความคิดเห็นที่: 47
...ไม่เห็นด้วยกับท่านอธิบดี เอา แต่ตังค์อย่างเดียว อย่าลืมนะครับ เขาใหญ่ คือมรดกโลกทางธรรมชาติ สิทธิประโยชน์ต่างๆ  ควรคำนึงถึงเจ้าของพื้นที่เป็นหลัก ( ก็คือ สัตว์ป่า ต่างๆ  แหละครับ ) วิที่ดีที่สุดคือ ปล่อยให้เขาอยู่อย่างนั้น  ถ้าอยากทำจริงๆ  ก็ ทำเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ โดยต้อง ให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทางทุกครั้ง  ถ้าจะทำกันจริงๆ  กรุณาทำให้เข้มข้นเหมือน ภูเขาคินาบาลู ไปเลย ไม่ว่าคุณจะเคยมากี่ครั้ง คุณก็ต้องจ้าง เจ้าหน้าที่นำทาง
....แล้วไม่ต้องไปสร้างอะไรเพิ่มเลยครับ ขอให้ธรรมชาติ เป็นธรรมชาติตลอดไป  ถ้าอยากดูจระเข้แบบสบายๆ  นู้นเลยครับ ฟาร์มจระเข้ ดีกว่า
hume approve [ 11 ก.ย. 2552 11:45:40 ]
ความคิดเห็นที่: 48
: hume
; ถ้าอยากดูจระเข้แบบสบายๆ   นู้นเลยครับ ฟาร์มจระเข้ ดีกว่า


เห็นด้วยเต็มๆ ครับ การไปเฝ้าดูระยะเผาขนแบบนั้น   ถ้าจระเข้ไม่หนีไปที่อื่น ..ก็อาจเสียพฤติกรรมสัตว์ป่าไป เช่น เดินออกมาขออาหาร แบบเดียวกับลิงหรือจระเข้ฟาร์ม
snakeeater approve [ 11 ก.ย. 2552 14:28:58 ]
ความคิดเห็นที่: 49
: snakeeater
: hume;  ถ้าอยากดูจระเข้แบบสบายๆ    นู้นเลยครับ ฟาร์มจระเข้ ดีกว่า

เห็นด้วยเต็มๆ  ครับ การไปเฝ้าดูระยะเผาขนแบบนั้น    ถ้าจระเข้ไม่หนีไปที่อื่น ..ก็อาจเสียพฤติกรรมสัตว์ป่าไป เช่น เดินออกมาขออาหาร แบบเดียวกับลิงหรือจระเข้ฟาร์ม


เกรงว่ามันจะมาขอนักท่องเที่ยวไปเป็นอาหารมากกว่า 55
(ผมล้อเล่นนะครับ เรื่องจริงคงเหมือนสัตว์อื่นๆ  คือ ไปก็หนี รบกวนมากๆ  ก็หายไปเลย)
vvay approve [ 11 ก.ย. 2552 19:18:28 ]
ReptilesPics_reply_139523.jpg
ความคิดเห็นที่: 50
จระเข้น้ำเค็มแท้(แบบสีเข้ม)

หมายเหตุ > รูปใน คห.44 เป็นลูกจระเข้เคแมน ครับ
...แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 2552 15:09:40
snakeeater approve [ 20 ก.ย. 2552 15:08:40 ]
ความคิดเห็นที่: 51
หว๊าด ดี คร๊าบบๆๆ  เด๊ก ท่าม๊ายๆๆ  วะๆๆๆ  55++
thamainet2009 [ 04 ต.ค. 2552 15:26:03 ]
iopxa@lovedog.com
ความคิดเห็นที่: 52
ควe55+++
iopxa2009 [ 04 ต.ค. 2552 15:26:51 ]
iopxza@tyi.com
ReptilesPics_reply_141838.jpg
ความคิดเห็นที่: 53
จระเข้น้ำเค็มแท้ ชนิดสีอ่อน
snakeeater approve [ 13 ต.ค. 2552 22:22:52 ]
ReptilesPics_reply_141840.jpg
ความคิดเห็นที่: 54
จระเข้น้ำจืด จากสวนสัตว์โคราช ตัวนี้เกล็ดท้ายทอยไม่ชัด  แต่เกล็ดสีข้างชัดเจน
snakeeater approve [ 13 ต.ค. 2552 22:24:25 ]

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org