นกแสก...ก่อนจะที่มันจะเหลือเพียงร่างไร้วิญญาณ (เขียนความคิดเห็นเรื่องนกแสกผีมาครับ)
นกแสก
ก่อนที่มันจะเหลือเพียงร่างไร้วิญญาณ
อุเทน ภุมรินทร์
ในช่วงนี้ ข่าวคาวความน่าสนใจ เกี่ยวกับเรื่องสัตว์นั้น สื่อมวลชนเมืองไทย มีมานำเสนอกันอย่างไม่ขาดสาย ไหลไปเรื่อยไม่ต่างกับสายฝนในช่วงฤดูกาลนี้ทีเดียวครับ เริ่มกันตั้งแต่ช่วงแรกที่กระแส แพนด้าฟีเว่อร์ (เว่อร์ ไปจริงๆ ) แล้วต่อจากนั้น ก็ตามมาด้วยข่าว จระเข้ที่ป่าเขาใหญ่ สดร้อนๆ ที่ทำเอาแพนด้า เงียบไปชั่วขณะ ตามมาติดๆ ในช่วงสัปดาห์นี้ คือ ข่าว นกแสกผี ที่ค่อนข้าง คึกโคม อีกเช่นเคย
ฟัง และอ่านสื่อฯ เรื่องข่าว นกแสกผี ยังคิดเลยว่า ถ้าเกิดตัวเองไม่ได้ร่ำได้เรียน เกี่ยวกับเรื่องธรรมชาติ และสัตว์ป่า คง เคลิ้มเชื่อ ไปกับเขาเช่นกันเป็นแน่ ในข่าวนำเสนอว่า พระรองเจ้าอาวาส วัดบ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวโดยสรุป ได้ใจความว่า ท่านเชื่อว่า นกแสกที่อาศัยอยู่ในวัดดังกล่าว ซึ่งเท่าที่พระท่านสังเกตมีอยู่ 4 ตัวนั้น เป็นตัวแทนของภูตผี ตัวแทนแห่งความตาย ประมาณนั้น เพราะพระท่านยังกล่าวอีกว่า หากวันใดได้ยินเสียงนกแสก ร้องแผดดัง ผิดปกติ ในไม่ช้าไม่เกิน 2 วัน จะมีศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด โดยเดือนนี้ ปาเข้าไป 6 ศพ แล้วท่านว่า ตั้งแต่ท่านอยู่มา ก็เกือบ 100 ศพไปแล้ว (อยากรู้ไหมครับว่า ท่านบวชมากี่ปี โธ่! อ่านข่าวมาถึงตรงนี้ ผมอุทาน และหัวเราะออกมาเลย ท่านบวชอยู่ที่นั่น มา 31 กว่าปี จะไม่ให้100 ศพได้ยังไงล่ะครับ จริงไหม?)
ยิ่งติดตามอ่านข่าวในวันนี้ มันกลายเป็น มหกรรมความเชื่อ ไปแล้ว หลายคนออกมายืนยันว่า เคยพบเคยเจอ เหตุการณ์อาถรรพ์กันยกใหญ่ เป็นต้นว่า เชื่อว่า วิญญาณพี่สาวของตนที่ตายไปสิงสถิตอยู่กับนกแสก แล้วคงไม่ต้องเดาเลยกับประชาชนไทย ถึงคุณเดาผมก็คงต้องเตรียมทำท่าทำทางแล้วพูดว่า ถู่
ถูกๆ ต้องนะครับ แบบอาปัญญา รายการแฟนพันธุ์แท้ ได้เลย ก็ ขอหวย นะสิครับ จะเป็นเรื่องอะไรอย่างอื่นไปได้ ศพที่นอนตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่กลางศาลาวัดดังกล่าว ( ซึ่งในขณะนี้ มีศพตั้งอยู่ด้วยพอดิบพอดี เข้ากับสถานการณ์ข่าวได้อย่างเหมาะเจาะ) ก็เลยถูกเปิดฝาโลงขอหวย ถู ฝาโลงกันให้วุ่น
อย่างที่กล่าวมานั่นแหละครับ ถ้าไม่ได้กำลังร่ำเรียนอยู่ด้านนี้โดยตรง คงเชื่อกับข่าวที่สื่อ แค่ ขาย แต่ที่นี้ ถ้าคิดกันง่ายๆ ในกรณีนี้ เบื้องต้นก่อน นกแสกมันจะร้องทำไมไปให้เมื่อยตุ้ม (นกแสกคงเป็นเมื่อย อุ้งปาก) เพราะถ้า มันร้องแล้ว ต้องมีคนตาย แล้วนำมาทำพิธีที่ศาลาวัด อย่างนั้นล่ะก็ คิดตรองดู นกแสกมันไม่เห็นได้อะไรจากการทำอย่างนั้นเลย ไม่ว่าจะค่าทำศพหรือค่าศาลาวัด
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า เรามาดูกันทีละเรื่อง เรื่องแรก เริ่มต้นเลย เชื่อว่า ในความทรงจำวันวัยเด็กของใครหลายๆ คน คงได้ยินหรือฝังใจกับเรื่องราวคล้ายๆ กัน กับที่ข่าวนำเสนอ อย่างที่ว่า หากนกแสกบินผ่านหรือเกาะร้องบนหลังคาบ้านใครแล้วล่ะก็ จะมีคนในบ้านเจ็บป่วย หรือล้มตายลงไป ห้ามไปทักเด็ดขาด ด้วยเชื่อว่า มันจะมานำเอาวิญญาณของผู้นั้นไป หรือมันเป็นตัวแทนของภูตผี และสัญลักษณ์แห่งความตาย ความเชื่อส่วนใหญ่ โดยรวมแล้วไม่ทิ้งห่างไปจากแนวนี้
พูดในเรื่องความเชื่อ ไม่ใช่เพียงประเทศไทยเท่านั้น ที่มีความเชื่อในเรื่องนี้ ในต่างประเทศที่มีนกแสกกระจายเผ่าพันธุ์ไปถึง ก็มีความเชื่อในทำนองเดียวกัน เช่น ในอิตาลี บนเกาะซิซิลี (Sicily) หากนกแสกร้องใกล้ๆ บ้าน หากมีคนป่วยนอนอยู่ คนนอนป่วยในบ้านหลังนั้น จะตายภายใน 3 วัน แต่หากบ้านหลังนั้น ไม่มีคนป่วยอยู่ ก็จะมีคนในบ้าน มีอาการเจ็บป่วยเป็นโรคต่อมทอนซิล (tonsil) อักเสบ แล้วความเชื่อนี้ ยังสืบทอดกันในอังกฤษ และชาวยุโรปชาติอื่นๆ ด้วย
แต่ก็ไม่ทั้งหมด ที่ไหนที่มีนกแสก แล้วมันจะกลายเป็นตัวแทนแห่ง ความเลวร้าย เสมอไป ในประเทศฝรั่งเศสทางตอนใต้ นกแสกกลับกลายเป็นนกที่บอกลางดีเช่นกัน เพราะชาวบ้านนั้น เชื่อกันว่า หากมีนกแสกมาส่งเสียงร้องอยู่ที่ปล่องไฟของบ้านหลังใด หากบ้านหลังนั้นมีหญิงกำลังตั้งครรภ์ จะให้กำเนิดทารกเป็นเด็กหญิง แต่ถ้าหากโยนเกลือเข้าไปในกองไฟในเตาผิง หญิงคนนั้น จะให้กำเนิดทารกเป็นเด็กชาย เช่นเดียวกับที่อินเดีย ที่มีความเชื่อว่า นกแสกเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ พื้นที่ใด มีนกแสก ที่นั่นพืชผลอุดม (อันหลังนี้ เข้าท่าสุด เพราะนกแสกเป็นผู้ช่วยกำจัดศัตรูพืช โดยเฉพาะหนูที่มาทำลายพืชผลทางการเกษตร)
ที่นี้ ที่สำคัญ คือ สำหรับความเชื่อในบ้านเราเองนั้น ทำให้ชีวิตนกแสก และผองพวกนกเค้า นกหากินกลางคืนหน้าตาคล้ายกัน ต้องโบกมือบายๆ โลกนี้ไปก่อนวัยอันควร มามากแล้ว ก็ใครเหล่า อย่างให้ นกผี อยู่ใกล้ๆ หรืออาศัยอยู่ร่วมชายคาบ้านกับตัวเองบ้าง
ในประเด็นขั้นต้น มาช่วยกันคิดดูหน่อยว่า เอ้ ทำไม นกแสกที่เกิดมามีหน้าที่อย่างชัดเจน เพื่อช่วยกำจัดหนู อันเป็นศัตรูพืชผลทางการเกษตรตัวฉกาจ และพาหะนำโรคต่างๆ สู่มนุษย์ จึงถูกผู้คน ตีตราในแง่ชั่วร้ายไปเสีย เท่าที่ผมมองหาเหตุผล ก็ได้ดังนี้ครับ ในเรื่องที่เชื่อว่า มันเป็นวิญญาณ สัญลักษณ์แห่งความตาย น่าจะมาจาก ที่นกแสกเป็นนกที่มีสีลำตัว เกือบทั้งตัว มองผ่านๆ เป็นสีขาว แล้วด้วยขนาดตัวที่ใหญ่เทียบเลยไม้บรรทัด คือ ประมาณ 36- 38 เซนติเมตร เมื่อกางปีกขณะบิน ความยาวของปีกทั้งสองข้าง ก็กว้างเกือบหนึ่งเมตร และด้วยการที่เป็นนกนักล่า หากินยามกลางคืนมืดมิด ทำให้มีขนคลุมใต้ปีกบินได้เงียบกริบ เพื่อประโยชน์ในการออกล่าเหยื่ออย่างมีประสิทธิภาพ ลองนึกดูสิครับ ตัวก็ใหญ่ บินก็เงียบ แถมสีขาวโพน ใครเห็นอะไร ทำนองนี้ ในยามค่ำคืน จะพาลนึกถึง นก อยู่ได้อย่างไร
แล้วเท่านั้น ยังไม่พอ มันยังมีดวงตากลมโต (ที่ในข่าวบอกว่า ส่องไฟไปกระทบตามันแล้ว เป็นสีแดง น่ากลัวอย่างยิ่ง) จะไม่ให้แดง ได้อย่างไร เมื่อส่องไฟไปกระทบกับดวงตานกกลางคืนพวกนี้ ซึ่งในดวงตามีเซลล์ที่เป็นรูปแท่ง อยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อช่วยในการมองเห็นได้ดี ในยามกลางคืน เวลาทำมาหากินของมันอีกนั่นแหละ ไม่ได้มีไว้ให้ เราตกใจหรือจะบอกว่า มีวิญญาณสิงอยู่หรอก แล้วเวลาที่นกแสก พบคนหรือศัตรูอะไรก็แล้วแต่ มันจะขู่ ด้วยการที่โยกหัวไปมา บวกกับหน้าที่บานคล้ายจานรับคลื่นยูบีซี รูปหัวใจกลมๆ ไว้ช่วยในการรับเสียงได้ดีขึ้นเอาสิครับ คนจะคิดอะไรไปอีก นอกจากเชื่อว่า ต้องเป็น นกผี แน่ๆ มาหลอกหลอนโยกหัวไปมาอย่างนี้
อีกทั้งเสียงร้องของมัน ทีเด็ดเลย เสียงเหมือนชื่อของมันไม่มีผิด ดัง แสกๆ แต่เพิ่มความแหลมดัง และวังเวง (ถ้าคนที่ไม่รู้มาก่อนว่า เป็นเสียงนกแสก แต่คนที่รู้ก็ยืนยันไม่ได้ว่า เขาจะไม่วังเวง) โธ่! ยิ่งในวัดตามข่าวนั้น ที่พระรูปดังกล่าวว่า หากวันไหน มันร้องเสียงดังผิดปกติ อีกไม่ถึง 2 วัน จะมีคนตาย มันจะไม่ให้ดังได้ไงล่ะครับ ถ้าวัดนั่น ไม่ดันมีผับหรือร้านเหล้าทะลึ่งมาเปิดอยู่ใกล้ๆ เพราะวัดย่อมเงียบสงัดอยู่แล้วไง เสียงร้องย่อมดังกว่าปกติเป็นแน่
แล้วที่นี้ ลองมารับฟังกันดู ว่า ความจริงเป็นเช่นไร นกแสกเกิดมา เพียงเพื่อเป็นตัวแทนของภูตผีวิญญาณเท่านั้นเองเหรอไม่ใช่ อย่างจริงแท้แน่นอน ผมกล้าที่จะยืนยัน นอนยันเลยทีเดียว เพราะไม่มีสัตว์ป่า (คือ สัตว์ที่เกิดขึ้นเอง และดำรงชีวิตอยู่ได้เองตามธรรมชาติ, ไม่จำเป็นต้องอยู่ในป่าเสมอไป) ชนิดใดหรอก ที่เกิดมา โดยไม่มีหน้าที่ตามธรรมชาติ อย่างเช่น นกแสกนี้ อาหารหลัก ของมันเป็นสัตว์จำพวกฟันแทะ อย่าง หนู ซึ่งเป็นศัตรูพืชผลทางการเกษตร โดยนกแสก 1 ตัว จะช่วยกำจัดหนู วันละ 2 ตัวคิดเป็นปี ก็ปาเข้าไปเกือบปีละ 600-700 ตัวเลยทีเดียว
ซึ่งมีบริษัท อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ที่มีสวนปาล์มเป็นจำนวนหลายหมื่นไร่ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดชุมพร ใช้วิธีแบบชีววิถี คือ นำนกแสกไปใช้ในการกำจัดหนูในสวนปาล์มที่ทำลายทะลายปาล์มจำนวนเกือบ 700 ร้อยตัว ในขณะนี้ และเท่าที่ทราบ สวนกาแฟทางภาคเหนือก็จะนำไปใช้เช่นกัน โดยความคิดเริ่มต้น จากคุณเกรียงศักดิ์ หามะฤทธิ์ นักวิจัยผู้ริเริ่มโครงการ คิดเอาง่ายๆ อีกทีครับ คนทั้งหลายเหล่านี้ ที่ผมกล่าวถึง ไม่ว่า จะเจ้าของสวน นักวิจัยที่จับนกแสกมานักต่อนัก กลับไม่มีใครตาย ยิ่งเจ้าของสวนซิ ลดต้นทุนการดูแลสวนไปตั้งเท่าไหร่ ก็เงินค่ายาฆ่าหนูนั้นไม่ต้องเสียแล้วนี่
ผมกล่าวมาถึงตรงนี้ หวังเป็นอย่างมากว่า เราคงมีมุมมอง และฟังเรื่องราวของ นกแสกด้วยความเชื่อที่ เปลี่ยนไป บ้าง มาช่วยกันบอกกล่าวเรื่องจริงเหล่านี้กับคนรอบตัวเราว่า พวกมันเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ที่ธรรมชาติมอบให้ อย่างเต็มกำลังสามารถ เป็นผู้ช่วยเราที่ดีเสียด้วยซ้ำไป และท้ายที่สุด ต่อจากนี้ไป คงไม่มี นกแสกตัวใดที่จะต้องเหลือเพียงร่างไร้วิญญาณ เพราะความไม่เข้าใจของมนุษย์อีก
forest72
[ 17 ก.ย. 2552 12:04:07 ]