ความคิดเห็นที่: 2
1.พื้นที่สัมปทานตัดไม้(ซึ่ง ไม่มีมานานแล้ว) และการทำเหมือง นอกจากค่าธรรมเนียม ค่าภาคหลวงต่างๆ ยังมีข้อกำหนดให้จ่ายชดเชย และปลูกฟื้นฟูทดแทนให้กลับเป็นป่าอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงหลังสิ้นสุดสัมปทานได้มีการบุกรุกครอบครองจากชาวบ้านที่ตามเข้าไปอยู่อาศัย บางพื้นที่จึงมีการโอนสิทธิ์กลายเป็นหมู่บ้านป่าไม้ หมู่บ้านตามพระราชดำริ สปก. ฯ ลฯ (ที่ผ่อนผัน)
2.การปรับนี้ใช้เฉพาะการบุกรุกพื้นที่ป่า(ที่หลวง)ซึ่ง ไม่ใช่ที่ดินที่ใครจะสามารถเอาไปใช้ส่วนตัวได้อยู่แล้ว ไม่ได้บังคับใช้กับที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์(ที่ส่วนบุคคล)หรือที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำกินอย่างถูกต้อง(ที่ผ่อนผัน)
3.คนทั่วไปมักคิดว่าพื้นที่ป่าไม้คือ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์ หรือพื้นที่อนุรักษ์ตามประกาศ(ซึ่ง ก็ยังบุกรุกกันอยู่ดี) และไม่ได้คิดว่าพื้นที่อื่นๆ เป็นพื้นที่อนุรักษ์ตามกฎหมายด้วย(พ.ร.บ.2484, ป่าตามมติ ครม., ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมายอื่น(พื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่สงวนทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ฯ ลฯ เยอะมาก จำได้ไม่หมด)) ซึ่ง หมายความว่า ถ้าไม่ได้แจ้งครอบครองมาก่อนปี.... (จำปีไม่ได้-นานแล้ว) พื้นที่นั้นย่อมเป็นพื้นที่อนุรักษ์ ไม่สามารถยึดถือครอบครองหรือทำกินได้
4.ค่าปรับในการกระทำผิดตามกฎหมายป่าไม้/สิ่งแวดล้อมทุกฉบับน้อยมาก เมื่อเทียบกับความหลากหลายที่สูญเสียไป
เรื่องอื่นที่นอกจากนี้ ขอไม่วิจารณ์แล้วกัน
vvay
[ 01 ต.ค. 2552 13:56:32 ]