ความคิดเห็นที่: 1

รายงานจากที่อื่นก็มีพบเกยอยู่บนหาดนะครับ เคยค้นข้อมูลเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่จำรายละเอียดไม่ได้หรอก

อำพันทอง หรือขี้ปลาวาฬ เกิดขึ้นภายในลำไส้ของพวกปลาวาฬหัวทุย มันก็คล้ายๆ  กับไข่มุกตรงที่เมื่อมีวัตถุที่ทำให้ตัวสัตว์เกิดความระคายเคือง มันจะขับสารบางอย่างออกมาหุ้ม ซึ่ง ในกรณีปลาวาฬจะใช้ไขมันมาหุ้มจนเป็นก้อน จะได้ไม่ระคายเคืองลำไส้ ส่วนใหญ่เขาว่าจะเกิดจากขากรรไกรของปลาหมึกตัวใหญ่ที่เป็นอาหารของมัน

เมื่อมันเป็นไขมัน มันจะลอยได้ก็ไม่เห็นแปลก (เพราะความหนาแน่นมันน้อยกว่าน้ำมั้ง ไม่ชำนาญฟิสิกส์/เคมี) แล้วเขาบอกว่าบางทีปลาวาฬก็สำรอกมันออกมา ซึ่ง  ถ้ามันสำรอกตอนที่สภาพยังเป็นขากรรไกรปลาหมึกอยู่คงจะทิ่มลำไส้ กระเพาะ คอหอยหลายรอบกว่าจะสำรอกได้  แต่พอหุ้มแล้วก็คงจะออกได้ลื่นไหล

นกกินเปี้ยว [ 01 ต.ค. 2552 08:36:22 ]

ความคิดเห็นที่: 2

 แต่ที่แน่ๆ  รวยละครับ สามารถนำไปใช้ในการทำน้ำหอม  แต่ต้องผ่านกระบวนการบางอย่างก่อน

ในเมืองไทยจะมีรับซื้อแถวไหนก็ไม่รู้ครับ

เสือหัวดำ [ 01 ต.ค. 2552 13:40:31 ]

ความคิดเห็นที่: 3

ชาวบ้านแตกตื่นเก็บอำพันปลาวาฬพ่อค้าต่างชาติให้กิโลละ7หมื่นบาท

ข่าววันที่ 1 ตุลาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ
 
 
 
                   ชาวบ้านบ้านหินลาด หมู่ที่ 3 ตำบลคุระ อำเภอคุระบุรี จำนวนมากแห่เก็บ “อำพัน” ที่ถูกคลื่นซัดเข้าชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าวมะพร้าว เกาะระ หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา จำนวนมาก  แต่ละก้อนมีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมากกว่า 5 กิโลกรัม โดยอำพันเหล่านี้ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นของมีค่ามา แต่โบราณมีการซื้อขายกันในราคาที่สูงมาก เป็นสารคล้ายก้อนไขมันที่ถูกขับถ่ายออกมาจากปลาวาฬชนิดหนึ่ง ซึ่ง มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมา แต่โบราณ เนื่องจากอำพันที่พบเหล่านี้ สามารถนำไปสกัดเป็นหัวน้ำหอมได้  เบื้องต้นมีพ่อค้าจากประเทศมาเลเซียติดต่อขอซื้อในราคากิโลกรัมละ 70,000 บาท ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังเก็บไว้ไม่ยอมขาย
         หลังจากทราบข่าวนายเยี่ยมสุริยา พาลุสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้นำ ดร.สุพจน์ จันทราภรณ์ศิลป์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ สถาบันวิจัย และพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่ง  และป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง  และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านหินลาด พบราษฎรหลายรายเก็บ “อำพัน” ที่เป็นก้อนขนาดใหญ่ได้จำนวนมาก น้ำหนักรวมประมาณ 300 กิโลกรัม
          นายเยี่ยมสุริยา พาลุสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่าการพบ “อำพัน” ของราษฎรในอำเภอคุระบุรีครั้งนี้ถือเป็นเรื่องดี เพราะแสดงให้เห็นว่าจังหวัดพังงายังมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เป็นแหล่งอาศัย และหากินของปลาวาฬ  และสัตว์ทะเลหายาก ซึ่ง ใกล้สูญพันธุ์อีกหลายชนิด นอกจากจะมีคุณค่าทางธรรมชาติแล้ว ยังจะก่อให้เกิดผลดีกับการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา ซึ่ง กำหนดจะเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ อำพัน คล้ายๆ ไขมันลักษณะก้อนสบู่ ถือว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวก่อนเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะมีขึ้นในอีกไม่นานนี้ เนื่องจากชาวบ้านเห็นปลาวาฬหัวทุยยาวประมาณ 20 เมตร ในทุกปี และปลาวาฬตัวดังกล่าวจะปล่อยไขมันภายในร่างกายซึ่ง ปีนี้ถือว่ามีปริมาณมากกว่าทุกปี ส่วนราคาพบว่ามีการต่อรองราคาใน กิโลกรัมละ 3,000 บาท ซึ่ง ชาวบ้านที่มีไว้ในครอบครองพยายามที่จะเพิ่มราคาให้มากขึ้นเนื่องจาก อำพัน มีปริมาณจำกัด และหาได้ยากในปัจจุบัน และมีสรรพคุณหลายอย่าง
        ดร.สุพจน์  จันทราภรณ์ศิลป์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ สถาบันวิจัย และพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่ง  และป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้น ยืนยันได้ว่าสิ่งที่ราษฎรในจังหวัดพังงาพบ และเก็บได้จากชายทะเล บริเวณเกาะระ ตำบลเกาะพระทอง เป็น “อำพัน” ที่เกิดมาจากการสะสมอาหารในรูปไขมันของปลาวาฬหัวทุย ซึ่ง กินปลาหมึกเป็นอาหาร โดยจะขับถ่ายออกมาพร้อมกับมูลปลาวาฬ สามารถนำไปสกัดเป็นหัวน้ำหอม  และผสมยาจีนสำหรับบำรุงกำลัง จึงทำให้มีมูลค่าสูงมาก เพราะหายาก ปกติจะพบเป็นเศษ  แต่ครั้งนี้พบเป็นก้อนขนาดใหญ่มีน้ำหนักมากกว่า 300 กิโลกรัม การพบ “อำพัน” ที่เป็นก้อนสมบูรณ์ขนาดใหญ่ถูกพัดเข้ามาบริเวณชายฝั่งทะเล ไม่ใช่เป็นรางบอกเหตุร้าย  และก็ไม่สามารถเชื่อมโยงได้ว่าจะเป็นรางไม่ดีอย่างที่ราษฎรบางรายเข้าใจผิดอยู่  แต่เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าชายทะเล และชายฝั่งของจังหวัดพังงา ยังมีความสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัย และหากินของสัตว์น้ำนานาชนิด ดูจากขนาด และความสมบูรณ์ของอำพันที่ราษฎรในพื้นที่เก็บได้นี้ น่าเชื่อว่าจะมาจากการขับถ่ายของปลาวาฬหัวทุย ขนาดใหญ่ความยาวไม่น้อยกว่า 20 เมตร น้ำหนักมากกว่า 15 ตัน ซึ่ง เข้ามาหากินบริเวณใกล้ชายฝั่งทะเลของจังหวัดพังงา” ดร.สุพจน์กล่าว
       นายนิรุตน์ นิเด ชาวประมงบ้านหินลาด เปิดเผยว่าตนเอง  และชาวประมงอีกหลายคนเคยพบเห็นปลาวาฬขนาดใหญ่บ่อยครั้งมาก บางครั้งก็ว่ายเข้ามาใกล้ๆ  กับเรือประมง โดยเฉพาะระหว่างเส้นทางเกาะสิมิลัน และเกาะสุรินทร์ ห่างฝั่งอำเภอคุระบุรีประมาณ 20 ไมล์ทะเล  และจะพบเห็นได้บ่อยเป็นพิเศษในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา ซึ่ง จะเริ่มตั้ง แต่เดือนพฤศจิกายนของทุกปี ชาวประมงบางคนก็ตกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากปลาวาฬในแถบฝั่งทะเลอำเภอคุระบุรี คุ้น และไม่ทำร้ายชาวประมง จึงมักจะโผล่มาให้เห็นใกล้ๆ  กับเรือประมง จนทำให้บางคนตกใจเพราะปลาวาฬมีขนาดใหญ่มาก มีความยาวมากกว่า 20 เมตร
   
 
http://www.siamrath.co.th/UIFont/NewsDetail.aspx?cid=108&nid=47542

ตะขาบยักษ์ [ 01 ต.ค. 2552 13:45:37 ]

ความคิดเห็นที่: 4

เพิ่งรู้ว่าตอนนี้ ในเมืองไทย พบปลาวาฬชนิดนี้บ่อยขึ้นกว่ารายงานเมื่อก่อน(ที่กล่าวไว้ในหนังสือภาพสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม) มาก

 แต่สงสัยเหมือนกันว่า ชื่อของ Sperm whales มีที่มายังไง? เป็นเพราะมันมีไขมันเหนียวๆ ในหัว คล้ายกับน้ำเสปิร์ม? หรือเพราะว่ามันมีหัวโตท้ายลีบ เหมือนตัวเสปิร์ม?

snakeeater [ 01 ต.ค. 2552 16:06:20 ]

ความคิดเห็นที่: 5

: snakeeater

หรือเพราะว่ามันมีหัวโตท้ายลีบ เหมือนตัวเสปิร์ม?

ผมได้ยินมาว่าเพราะแบบนี้ครับ

chai [ 01 ต.ค. 2552 20:53:43 ]

ความคิดเห็นที่: 6

ตามคห 4

หมอนี่คือ " โมบี้ดิ๊ก " รึเปล่าครับ

ถ้ไม่ใช่ โมบี้ดิก คือพันธุ์อะไร ขอดูรูปถ่ายหน่อยครับ ลำรึกถึงความหลังเมื่อเป็นเด็กหัดอ่านหนังสือ มันนานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นหนังสือเล่มนั้น[size=12pt][/size]

มะพร้าว [ 08 ต.ค. 2552 20:32:19 ]
maprow@hotmial.con