ความคิดเห็นที่: 1

อตาหิอตโนนาโถ (แปลว่า งานที่ท่านทำไม่อยู่ในกระแสที่ต้องจ่ายตังค์ครับ) ไม่รู้แปลถูกหรือเปล่า ฮิฮิ นี่แหละเมืองไทย

...แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 2552 21:09:20

noppadol [ 15 ต.ค. 2552 21:48:30 ]
noparnon@yahoo.co.th

ความคิดเห็นที่: 2

ดีใจด้วยครับกับความสำเร็จของงาน  แต่จนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าคุณ vvay ทำงานกับหน่วยงานไหนแน่ แหะ แหะ

สำหรับปลา ระวังเรื่องการด่วนสรุป หรือการจัดแบ่งกลุ่มสิ่งมีชีวิต อย่างง่ายจนเกินไปด้วยนะครับ งานวิจัยที่มีปัญหาในการนำไปปรับใช้ส่วนใหญ่มักจะมาจากการคิดที่ไม่เป็นกระบวนการมากพอ ไม่ซับซ้อนพอ ไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ

อีกเรื่องคือ  ถ้าจะถามผม ผมขอแนะนำให้ปล่อยธรรมชาติสร้างสมดุลย์ของเขาเอง โดยมีเราเป็นผู้คอยประคับประคองช่วยเหลือ  แต่อย่าไปตัดสินใจแทนธรรมชาติ ด้วยสมการที่ง่ายเกินไป (Overly simplified) ที่มนุษย์สร้างขึ้น แล้วก็คิดว่าต้องตัดนู้นเติมนี้ให้กับธรรมชาติ ของจริงมันซับซ้อน และยืดหยุ่นกว่าที่เราใช้ตัวเลขคำนวนเยอะเลยครับผม

นณณ์ [ 15 ต.ค. 2552 23:19:14 ]

ความคิดเห็นที่: 3

คุณvvay 8iy[

ท่านได้กรุณาบอกว่าไม่ควรเทียบกับเขื่อน  และแม่น้ำป่าสักเพราะเป็นแหล่งน้ำที่ลักษณะแตกต่างกันมากเกินไป ซึ่ง จะมีชนิด  และสัดส่วนปลาที่ต่างกัน อย่างไรก็ดีลองหางานที่ทำในลำน้ำเล็กๆ   มาเปรียบเทียบดู (หายากกว่าเดิมอีก)
ส่วนเรื่องการคำนวณต่างๆ   นั้นยังไม่ต้องดีกว่า   และ ( ถ้าเป็นไปได้)  ถ้ามีการวิจัยต่อยอดสามารถขอให้ประมงเป็นผู้ร่วมวิจัยได้เนื่องจากมีเครื่องมือ  และบุคลากรที่ชำนาญ (แหมพี่..แทนที่พี่จะเป็นหลักให้ผมร่วม)    และ ถ้าไม่มีงบประมาณ ( ซึ่ง ก็ไม่มีน่ะแหละ) จะได้เขียนเป็นโครงการขอทุนจากองค์กรต่างๆ   ที่ให้ทุน (อ้าว..ประมงก็ไม่มีงบเหรอครับ)
สรุป. ผมคงปิดงานเล็กๆ   นี่แค่นี้ครับ  ถ้ารูปเล่มผ่านการอนุมัติจากหัวหน้าฯ  จะเอามาเผยแพร่เป็นข้อมูลต่อไปครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือครับ
ตามกระทู้นี้ผมว่าคุณไปพบกับนักวิชาการประมงที่ทำงานในด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นส่วนใหญ่ คำจอบที่ได้จึงออกมาในลักษณะนี้ น่าจะเป็นผู้ที่ไม่เคยทำงานสำรวจทางด้านแหล่งน้ำหรือธรรมชาติวิทยาจึงไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้อย่างถูกต้องนัก สำรับที่ว่าไม่ควรเทียบกับเขื่อนนั้นผมไม่เห็นด้วยเพราะสระบุรีป็นจังหวัดที่อยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาเช่นเดียวกับป่าสักครับ ชนิดของพันธุ์ปลาไม่น่าจะแตกต่างกันมากนัก
ส่วนในเรื่องงบประมาณ  ถ้าเอาแบบเป็นงานเป็นการราชการก็ต้องขอวิจัยล่วงหน้า 2 ปีครับ คงไปว่าไม่ได้ แต่ ถ้าเป็นการเก็บตัวอย่างเล็กๆ แบบที่สมาชิกในบอร์ดนี้ทำกันก็ใช้อาศัยพ่วงไปกับงานอื่นๆ ด้วยซึ่ง มีประโยชน์มากเพราะปลาหลายๆ ชนิดสำรวจไม่พบ แต่จะพบในช่วงสั้นๆ บางเวลาเท่านั้นครับ ผมว่าอย่าเพิ่งปิดงานเลยครับเอาเป็นว่าปิดเป็นปีๆ ไปเพื่อสรุปจะดีกว่าแล้วก็ทำไปเรื่อยๆ ประโยชน์มีมากครับ
ลป. การสำรวจประชากรปลาในอ่างเก็บน้ำคลองเพรียว สระบุรีก็เคยทำกันมาหลายครั้งนะครับประมาณ 20-30ปีก่อนครับ เอกสารหาได้จากห้องสมุดกรมประมงเช่นกันครับ

ช้าง [ 16 ต.ค. 2552 09:42:11 ]

ความคิดเห็นที่: 4

ปัญหาน่าจะมีความคล้ายคลึงกันที่กรมประมงจะมีข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติน้อย  และกรมอุทยานฯ ก็ไม่ค่อยมีข้อมูลทรัพยากรในพื้นที่ ส่วนใหญ่จะบอกกว้างๆ   แต่ที่สองกรมนี้ต่างกันคือ เป้าหมายของกรมประมงจะอยู่ที่คน ผลผลิต การใช้ประโยชน์(อาหารเป็นหลัก) ข้อมูลทรัพยากรทางทะเลจะไปแน่นที่กรมทรัพยฯ ชายฝั่ง เพราะเดิมเป้าหมายหลักก่อนแยกกรม กระทรวงก็มุ่งไปที่ทรัพยากรโดยตรง ส่วนการสำรวจความหลากหลาย(น้ำจืด)ในกรมประมงจะเป็นกลุ่มเล็กๆ คนไม่กี่คน  ถ้ายังเป็นแบบนี้ทำงานอีก 200 ปีก็ยังสำรวจได้ไม่ครบครับ ส่วนกรมอุทยานฯ  รู้สึกว่าจะมีคนทำงานเชิงสำรวจความหลากหลายมากกว่า  แต่ส่วนใหญ่ไปกระจุกที่ส่วนกลาง คนในพื้นที่เองก็ต้องรับผิดชอบงานสารพัด สรุปว่าคนนอกควรเห็นใจกรมเหล่านี้ในสภาพโครงสร้างปัจจุบัน(แม้บางคนทำตัวน่าตำหนิเหมือนกัน) ข้อมูลที่แจ่มๆ มักจะอยู่ตามสถาบันการศึกษาที่มีข้อจำกัดเรื่องกรอบงาน  และความรับผิดชอบอื่นๆ น้อยกว่า เลยมีความคล่องตัวสูง กำลังพล(นักศึกษาตรึม) ลองไปหาอาจารย์ที่ทำด้านนี้เพิ่มเติมด้วยก็ดีครับ

knotsnake [ 16 ต.ค. 2552 10:13:24 ]

ความคิดเห็นที่: 5

คุณ นณณ์
ผมยังทำงานอยู่กับอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยครับ ได้ต่อสัญญาอีกปี
เรื่องสรุปปลาเป็นกลุ่มอย่างง่าย ผมทำเพราะจะเอาไปใช้ตอนทำค่ายเด็กรักน้ำ คือจะให้เด็กๆ  แบ่งปลาชนิดต่างๆ  ออกเป็นกลุ่มง่ายๆ   แต่เรื่องนี้โดนผู้เชี่ยวชาญติงมาแล้วผมเลยเอาภาคคำนวณออกจากรายงานทั้งกระบิครับ(หมดปัญหาปวดหัวไปเลยครับ 55+)
ส่วนเรื่องปล่อยปลานั้น เพราะพื้นที่แหล่งน้ำเรามีน้อย และเปิดให้นักท่องเที่ยวใช้ประโยชน์ทั้งหมด เลยคิดว่าจะเสนอให้ปิดบางส่วนแล้วปล่อยพันธุ์ปลาที่สำรวจพบเพิ่มเติมลงไปครับ จะได้เป็นทางเลือกให้คนที่เข้ามาขอปลูกป่าได้เปลี่ยนเป็นปล่อยพันธุ์ปลาแทนเพราะส่วนมากเขามี แต่งบปลูกไม่มีงบดูแลรักษา บางส่วนที่ปลูกก็เลยตายหมดครับ

คุณ ช้าง
เอ่อ.. ผมก็ไม่ทราบว่ายังไงถึงจะถูกต้อง เพราะเรื่องปลาผมเพิ่งหาความรู้มาไม่กี่เดือน ยังได้อ่านเอกสารน้อยมาก ขอเป็นผู้ฟังที่ดีไปพลางๆ  ก่อนครับ  และงานนี้ต้องปิดแล้วครับ เพราะรู้สึกว่าหนังสือโครงการน่าจะเขียนไปแค่ 6 เดือน(ผมไม่เห็นหนังสือเพราะมารับงานทีหลัง) ส่วนจะต่อยอดไปยังไงก็คงต้องขอเรียนปรึกษาหัวหน้าฯ ก่อน(คิดว่าอาจไม่ได้ต่อเร็วๆ  นี้เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ชนิดอื่นเราก็ยังไม่ได้ทำเหมือนกัน ตอนนี้มีแค่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกับนกที่ผมเคยมาทำให้เมื่อหลายปีก่อนครับ)

คุณ knotsnake
ผมไม่ทราบโครงสร้างของประมงเหมือนกัน แต่คิดว่าน่าจะเหมือนกรมอุทยานฯ ที่มีส่วนวิจัยอยู่ด้วย คือ ส่วนวิจัยก็ทำวิจัยไป คนอื่นก็ทำงานอื่นไป  แต่ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไรครับ เพราะส่วนวิจัยที่ไหนมันจะรู้เรื่องดีไปกว่าคนในพื้นที่ได้  แต่ก็นั่นแหละครับ เขาจัดมาอย่างนี้ เราก็ทำเท่าที่เราทำได้ไป

vvay [ 16 ต.ค. 2552 13:34:05 ]

ความคิดเห็นที่: 6

คุณvvay อ่านดูแล้วเหมือนกับคุณรู้สึกท้อ อย่าพึ่งท้อสิครับ การที่ทำอะไรยากๆ  มันเป็นสิ่งที่น่าท้าทายนะครับ คุณยังมีเรา(สยามเอนสิส)  ผมคิดว่า เพื่อนๆ ในบอร์ดนี้ สามารถช่วยคุณได้นะครับ ขอโทษครับใน คคห ที่ 1 ผมหยอกเล่นนะครับ  ถ้ามีอะไรที่ผมจะพอช่วยเหลือได้บอกเลยนะครับ (เราครอบครัวเดียวกัน ครอบครัวสยามเอนสิส) ขอโทษครับ ถ้าหยอกผิดกาละเทศะ ขอโทษจริงๆ

...แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 2552 21:08:49

noppadol [ 16 ต.ค. 2552 21:05:35 ]
noparnon@yahoo.co.th

ความคิดเห็นที่: 7

คุณ noppadol
ไม่ต้องขอโทษสิครับ ผมไม่ได้โกรธหรือน้อยใจอะไรนี่ครับ  แต่พูดตามตรงก็ท้อนิดหน่อย อาจเป็นเพราะผมเคยเป็น freelance ที่ทำอะไรได้หลายอย่างมากกว่า - หาข้อมูลเอง วางแผนเอง เก็บข้อมูลเอง ส่งเป็นข้อมูลดิบหรือเต็มที่ก็วิเคราะห์เบื้องต้นให้(อาจมีเขียนให้เป็นบางส่วน) งานไปได้ดี นายจ้าง happy เราก็ happy  และผมเป็นอย่างนั้นอยู่ตั้งเกือบ 10 ปีเลยค่อนข้างเอา แต่ใจครับ อิอิ.

เทียบกับตอนนี้ที่ต้องเก็บข้อมูลตามแบบซึ่ง บางครั้งก็ไม่เห็นด้วยหรือไม่พร้อม(เช่นงานนี้) ไม่มีเวลาหาเอกสาร และข้อมูลมาช่วยการวางแผน เพราะงานประจำก็ต้องทำ ไม่รวมงานอื่นที่เข้ามาประปราย และด่วน-ด่วนที่สุดทั้งนั้น(บางงานสั่งเย็นเอาพรุ่งนี้ก่อน 8 โมงก็มี) คนช่วยงานไม่มี ที่มีก็งานเต็มมือ จะจ้างเด็กมาช่วยก็ไม่มีเงินให้ อุปกรณ์บางอย่างก็ต้องออกเงินซื้อเองไม่งั้นงานก็ไม่ไปไหน คิดเรื่องวิเคราะห์น้ำได้ แต่ ถ้าจะทำก็ต้องออกเงินค่าวิเคราะห์เอง ฯ ลฯ

แหะ แหะ ..บ่นเยอะไปแล้วครับ ก็อย่างที่บอกน่ะครับ เราก็ทำเท่าที่ทำได้ ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น

ขอบคุณอีกครั้งที่ให้คำแนะนำครับ

...แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 2552 13:39:49

vvay [ 17 ต.ค. 2552 13:33:39 ]

ความคิดเห็นที่: 8

ผ่านไปทางนั้นเมื่อไหร่จะแวะไปเยี่ยมนะครับ น้ำใสหรือยังครับ ทางนู้น?  จะไปดำน้ำช่วยสำรวจให้ครับ!!!  

ปล. ฝากคุณ vvay อนุรักษ์ต้น Cryptocoryne crispatula var. balanceae ด้วยนะครับ มันเป็นไม้น้ำใบยาวๆ ครับ ถูกเก็บมาเลี้ยง/ตายในตู้ปลาเยอะมากครับ ลองใช่ชื่อวิทย์ที่ให้หาดูรูปนะครับ เกิดไอเดียเลยครับ พวกอยากทำกิจกรรมอนุรักษ์ คือแทนที่จะปลูกไม้บก ลองกันที่ส่วนหนึ่งของลำธารแล้วให้ปลูกไม้น้ำดูสิครับ เพราะตามแหล่งท่องเที่ยว มันโดนถกโดนย่ำตายหมดแล้ว ต้นนี้เวลาไปหา จะต้องไปตามรีสอร์ทเงียบๆ หน่อย ถึงจะพอเจอบ้าง  แต่ตามแหล่งน้ำตกดังๆ  หมดเกลี้ยงไปแล้ว  ถ้ากันพื้นที่ให้ปลูกก็น่าสนุกดีครับ

นณณ์ [ 17 ต.ค. 2552 23:41:09 ]

ความคิดเห็นที่: 9

กรมประมงมีกรอบที่แคบกว่า  แต่ระบบระเบียบเปิดกว้างกว่าครับ ดังนั้นข้อมูลสำคัญของกรมประมงที่กรมต้องการใช้จริงๆ ด้านทรัพยากรเลยหาไม่ยาก( ถ้าจะเอา)

ที่จริงผมชอบทำในสิ่งที่ยังไม่มีใครทำ แล้ว ถ้ามีคนทำตามในแนวเดียวกับผมเป๊ะ ผมก็พร้อมที่จะเปิดทางแล้วผมไปหาทางใหม่ต่อ หรือต่อยอดใหม่  สมมติว่าผมอยู่ในสถานการเดียวกับคุณ vvay ผมจะถือว่าเป็นโอกาส เพียง แต่ผู้ใหญ่จะสนับสนุนหรือเปล่านั่นก็เป็นอีกปัญหา ที่แก้ไม่ยาก แต่จะรำคาญใจนิดหน่อย การหาข้อมูลเบื้องต้นไม่ได้เพราะไม่มีนี่ผมว่าเป็นปัญหาที่เล็กมากๆ  โดยเฉพาะ ถ้าเรามีเครือข่ายในระนาบต่างๆ (ซึ่ง ในนี้ก็เป็นเครือข่ายที่มีครบแทบจะทุกมิติ) ข้อมูลแวดล้อม ใกล้เคียง ก็สามารถเอามาใช้เป็นแนวทางได้( แต่อย่าเพิ่งเชื่อมันก่อน) เรื่องภาระงานนั้นผมก็เข้าใจดี เพราะทุกวันนี้ผมไม่มีงานด่วนแล้ว มี แต่ด่วนที่สุดกับไม่ต้องรีบ แต่ขอตอนนี้เลย ทั้งๆ ที่ตอนของบเพื่อเตรียมข้อมูลเหล่านี้ ก็ไม่มีใครให้ บอกว่าไม่มีโครงการรองรับ หรือสิ่งที่ควรทำต่อเนื่อง แต่บอกว่าหมดโครงการแล้ว หลังจากนั้นก็มาถามหาข้อมูลที่ไม่จำเป็น(ตอนโน้น)ทุกทีสิน่า  ถ้าไม่มีให้ก็เป็นเรื่องอีก  แต่นั่นแหละ ประเด็นปลีกย่อยของทั้งสองกรมมันต่างกัน การเลือกวิชามารมาใช้ย่อมมีความต่างกันเสมอครับ

knotsnake [ 18 ต.ค. 2552 11:20:17 ]

ความคิดเห็นที่: 10

คุณ นณณ์
ดูรูปจากกระทู้เก่าแล้วไม่ค่อยคุ้นตาเลยครับ  แต่เป็นแนวคิดที่ดี เดี๋ยวผมลองหาดูก่อนนะครับ

คุณ knotsnake
...ไม่ได้อะไรตรงนั้นหรอกครับ ที่บอกเรื่องหาข้อมูลก็คือข้อมูลพื้นฐาน และพวกวิธีศึกษาในเรื่องใกล้เคียง เพราะสำรวจสัตว์น้ำเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับผม คือนอกจากหาปลามากินเป็นบางครั้งแล้วผมไม่รู้เรื่องเลย( ถ้าเป็นสัตว์อื่นก็ว่าไปอย่างเพราะเคยรู้หรือเคยอ่านบ้าง)
วิธีการใหม่ๆ   และทำให้งานง่ายขึ้นผมก็เคยทำนะครับ เช่นเมื่อก่อนจะดูการปกคลุมของเรือนยอดก็ต้องใช้ fisheye กับโปรแกรม..(เอ่อ..อะไรสักอย่าง) ซึ่ง เกินความจำเป็นสำหรับงานฐานทรัพยากรนันทนาการ(แหล่งท่องเที่ยวนั่นแหละครับ) ผมเลยใช้กล้องธรรมดากับ dt-scan แล้วเปรียบเทียบ ผลปรากฎว่ายอมรับได้ กลายเป็นวิธีการให้เด็กๆ  เก็บ thesis ทางนันทนาการอีกหลายเล่มมาจนทุกวันนี้ ( แต่ก็ยอมรับว่าบางวิธีที่ผมทำก็ขัดแย้งกับการเก็บข้อมูลแบบเก่า จนอาจารย์หลายๆ  ท่านคลางแคลงใจที่จะใช้มัน)

ปล.ฟังภาระงานแล้วเหนื่อยแทนครับ ผมเป็นลูกจ้างตัวเล็กๆ  ยังเหนื่อยขนาดนี้ ของคุณ knotsnake จะขนาดไหนเนี่ย
ปล2.เรื่องไม่ให้ทำ แต่มาขอข้อมูลทีหลังนี่ 2 ปีที่แล้วผมโดนหนักเลย

vvay [ 18 ต.ค. 2552 18:12:48 ]