ความคิดเห็นที่: 1

เจ้าหน้าที่ได้ดองน้ำแข็งไว้  รอเราเข้าไปทำกัน (ผมยังอยู่ที่ กทม.อยู่เลย)

สำหรับแม่เต่าตัวนี้   มีประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดาเลยครับ
http://tnews.teenee.com/weird/7374.html

ทางสถานีได้แจ้งให้ทราบว่า เต่าตัวนี้ได้หลุดจากที่เลี้ยง คราวน้ำท่วมใหญ่ ปี พ.ศ.2526 จนเมื่อ พ.ศ.2550 มีผู้พบที่ ตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา  และนำส่งกลับมาให้ทางสถานีที่จังหวัดสตูล โดยการตรวจจากชิพที่ฝังไว้ในตัวเต่า  และลักษณะกระดองที่เป็นเครื่องหมายของทางสถานี ดังภาพประกอบ


ทำให้เห็นเส้นทางการเดินทางของเต่าตัวนี้ ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา  จากสตูลจนไปถึงพังงา   และอายุของเต่าตัวนี้ก่อนที่จะหลุดไป  ก็ไม่น้อยแล้วด้วย  จะหาเต่ากระอานอายุยืนยาวขนาดนี้  นับว่า ยากแล้วนะครับ

ตอนที่เราผ่าเอาเนื้อออก – ยังไม่พบความผิดปกติในอวัยวะภายใน สีเนื้อเยื่อปกติ  แต่มีอาการบวมน้ำ คือ มีน้ำจำนวนมากภายในช่องท้อง ประกอบกับเจ้าหน้าที่แจ้งว่า เต่าตัวนี้ซึมๆ  ไปพักใหญ่แล้ว ที่น่าสนใจคือ ไม่พบไข่อยู่ในรังไข่เลย ทั้งที่เป็นฤดูกาลผสมพันธุ์ คงป่วยอยู่น่ะครับ

...แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 2552 21:25:08

ครูนก.. [ 17 พ.ย. 2552 20:38:46 ]

ความคิดเห็นที่: 2

ขออนุญาต  ฝากขั้นตอนการสตัฟฟ์ให้สมาชิกที่สนใจได้ลองชมกัน   เผื่อจะถึงคราวจำป็นต้องบรรเลงเองบ้างนะครับ  ...หน้าที่ของเราก็คือ  ถนอมซากไว้ให้เด็กรุ่นหลังได้เห็นกัน

ผมเคยมีประสบการณ์จากการสตัฟฟ์เต่าทะเลมาก่อน   ....หนนี้วางแผนแก้เกมหลายขุมเชียว  เช่น
- การกรีดเนื้อต้องไม่กรีดชิดกระดองเต่า มิฉะนั้นจะทำให้มีปัญหาในขั้นตอนการเย็บ  
- เลิกใช้เข็มเย็บแผลโรงพยาบาลหันมาใช้เข็มเย็บรองเท้าแทน
- เอาเนื้อออกโดยเปิดช่องเนื้อจาก 2 ทางคือ ช่องกระดองด้านหัว และด้านก้น
- ตอนตากแห้ง  จะเอาผ้านิ่มๆ ปิดกระดอง  ให้กระดองแห้งไปไล่เลี่ยกับเนื้อ  ไม่งั้นแผ่นกระดองจะล่อนออก
- ผึ่งลม ไม่ตากแดด
- สตัฟฟ์เสร็จ  แช่น้ำยาเลย  ไม่หวังพึ่งอัดน้ำยาจากเข็มฉีดยาอย่างเดียวแล้ว
- ใช้โฟม+ใยสังเคราะห์อัด   ไม่ใช้วัสดุที่อุ้มความชื้นแล้วครับ  ลูกเหม็นก็ไม่ขี้เหนียวแล้ว
ฯ ลฯ

ลองตามไปดูกันนะครับ ^..^

...แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 2552 21:26:12

ครูนก.. [ 17 พ.ย. 2552 20:47:59 ]

ความคิดเห็นที่: 3

เริ่มขั้นตอนการกรีดหนังกันก่อนครับ
การกรีดหนังให้หยิกหนังขึ้นมา ขวางกับแนวรอยกรีด แล้วกรีดเป็นแนวยาวๆ  เบาๆ  จนทะลุหนังลงไปเห็นเยื่อบางๆ  


เมื่อกรีดเป็นแนวยาวจนตลอดแล้ว ให้ใช้นิ้วค่อยๆ  แยกเยื่อที่อยู่ระหว่างหนังกับเนื้อ ไปตามรอยกรีด อาจใช้มีดช่วยกรีดลอกได้บ้าง ระมัดระวังอย่าให้หนังขาด หรือดึงหนังแรงมากเกินไป จะทำให้หนังยืดเสียรูปได้ ทำเช่นนี้ทั้งทางด้านส่วนหัว และส่วนหาง ในด้านส่วนหางระมัดระวังอย่าทำท่อขับถ่ายขาดก่อน ..จะเหม็นเอา ไปตัดเอาตอนใกล้ๆ  เลิกเหอะ (ฮา!!!…

ครูนก.. [ 17 พ.ย. 2552 20:55:54 ]

ความคิดเห็นที่: 4

เมื่อลอกหนังมาจนถึงรยางค์ขาแล้ว ให้พยายามล่อนหนังออกไปจนรอบโคนขา พยายามปลิ้นหนังที่โคนขาออก แบบเดียวกับกับเราปลิ้นถุงเท้าออก โดยใช้มือดันขาเต่าจากภายนอกเข้าไป จะช่วยให้ปลิ้นออกได้ง่ายขึ้น


เมื่อปลิ้นหนังจนไปถึงโคนอุ้งตีนด้านในแล้ว ส่วนนี้จะเป็นข้อต่อ และกระดูกอ่อนนุ่ม ก็ใช้มีดกรีดตัดออกให้ขาดจากกัน

ครูนก.. [ 17 พ.ย. 2552 20:57:28 ]

ความคิดเห็นที่: 5

ทำเช่นเดียวกันกับคอเต่า โดยลอกหนังจากด้านในให้รอบคอทุกด้าน จากนั้นปลิ้นคอเข้ามาด้านใน โดยใช้มืออีกข้างดันจมูกเต่าเข้าไป

เมื่อลอกหนังไปจนถึงต้นคอ ให้ใช้มีดกรีดตัดกระดูกต้นคอ ตรงตำแหน่งระหว่างกระดูกสันหลังข้อแรกกับกระโหลก ออกจากกัน พยายามเอาเนื้อจากส่วยหัวภายในออกให้มากที่สุด ตลอดจนกระเทาะฐานกระโหลก เพื่อเอาสมองออก


ถึงขั้นตอนนี้แล้ว ไม่ต้องปราณีกันแล้วครับ เริ่มดำเนินการตัดเนื้อเยื่อภายในออก ควักอวัยวะภายในออก


ควรเอากระดองเต่ากระอานมาศึกษาภายในด้วย จะได้รู้ตำแหน่งที่ตั้งของอวัยวะภายในกระดอง จะทำงานง่ายขึ้น  เพราะด้านในมีช่องที่เป็นที่ยึดกล้ามเนื้ออยู่  แถมกระดูกสันหลังที่ยึดติดกับกระดองส่วนบน   และกระดูกเชิงกราน  ชวนงงอยู่ไม่น้อย


จากนั้น ก็ควักลูกตาออก โดยใช้ปากคีบดึงลูกตาออก หากเบ้าตากว้างกว่าลูกแก้วหรือตาปลอมที่เราเตรียมไว้ ให้ใส่ดินน้ำมันอัดเข้าไปด้วย

งานนี้ไฟฉายติดหัวช่วยได้มากครับ ^..^

...แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 2552 21:02:59

ครูนก.. [ 17 พ.ย. 2552 21:00:56 ]

ความคิดเห็นที่: 6

เสร็จแล้วก็  ทำความสะอาดโดย  นำหนัง และกระดองเต่าไปฉีดน้ำ ล้างเลือด และเศษเนื้อเยื่อที่เหลืออยู่ออก หากมีเศษเนื้อเยื่อติดอยู่ให้ตัดออกให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้


เอาโครงลวดจำนวน 3 เส้น ที่เตรียมไว้ มาแทงทะลุรยางค์แขนซ้าย-ขวา ทั้งขาหน้า และขาหลัง ให้ลวดเหลือออกมาจากอุ้งตีนมากๆ หน่อย จะทำให้มาดัดจัดแสดงเต่าสตัฟฟ์ได้ง่าย


อีกเส้นที่เหลือแทงทะลุออกทางส่วนหัวไปออกทางส่วนหาง ผ่านด้านในกระดองที่เรายัดโฟมเอาไว้แล้ว


มัดจุดตัดของเส้นลวดทั้ง 2 จุดให้แน่นหนา เป็นอันเสร็จขั้นตอนนี้

ครูนก.. [ 17 พ.ย. 2552 21:06:53 ]

ความคิดเห็นที่: 7

จากนั้น เริ่มเย็บหนังเต่าเข้ามาจากมุมทั้งสองข้างเข้ามาบรรจบตรงกลาง ควรเย็บมาพร้อมๆ กันนะครับ เพราะเต่าตัวนี้ไม่ได้ทำดังนี้ ส่งผลให้เต่าคอเอียงไปด้านนึง (เฮ้ออ!! พลาดจนได้)  แต่ค่อยไปดัดเอาตอนผึ่งแห้งก็ได้น่ะ


การเย็บสัตว์สตัฟฟ์ ขอแนะนำเข็มเย็บแบบเดียวกับที่ช่างซ่อมรองเท้าใช้ ผมซื้อที่ร้านใต้สะพานลอยหาดใหญ่ อันละ 20 บาท ด้ายเย็บอีกใจหนึ่ง ใช้กันจนลืมไปเลย แถมงานนี้เด็กๆ  มาช่วยเย็บแล้ว ก็ได้ทักษะไปซ่อมรองเท้าด้วยนิ๊
…เย็บทั้งด้านส่วนหัว และด้านส่วนก้นให้เรียบร้อย


ใส่ลูกตาเทียมในเบ้าตานำ ลูกตาเทียมมายัดเข้าไปในเบ้าตา ขยับให้ดูดีหน่อย หากเบ้าตาหลวมไป อาจเอาดินน้ำมันอัดเข้าไปช่วยก็ได้

ลป. ขอขอบคุณสมาชิกสยามเอนซิสที่แสนดี๊ดี  ส่งตัวอย่างตาเทียมมาให้   และเสนอตัวจะติดต่อซื้อให้  ผมซาบซึ้งน้ำใจมากครับ   แต่เผลอแป๊บเดียวไม่รู้ผมไปวางลืมตรงไหน  หายทั้งซอง (ฮือ ฮือ)  จะติดต่อกลับไปก็ไม่รู้ว่า ที่อยู่คนส่งอยู่ที่ไหน  ขอโทษมากๆ ด้วยนะครับ
.... ถ้าอ่านเจอตรงนี้  โพสต์ตอบผมด้วยนะครับ ^..^

...แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 2552 21:37:24

ครูนก.. [ 17 พ.ย. 2552 21:11:32 ]

ความคิดเห็นที่: 8

มาเริ่มขั้นตอนการอัดน้ำยาฟอร์มาลีนกันต่อเลยครับ

นำหลอดฉีดยาพร้อมเข็มฉีด ฉีดน้ำยาฟอร์มาลีนเข้าไปตามเนื้อเยื่อที่ยังเหลืออยู่ ตามสูตรเดิมของเรานะครับ คือ เดินเข็มเข้าไปให้สุด ถอยเข็มนิดนึง เดินน้ำยา ถอยออกมา เดินอีกหน่อย ทำไปเรื่อยๆ  

.....ควรระมัดระวังเรื่อง เศษเนื้อเยื่อไปอุดในเข็ม ทำให้เข็มตัน ดังนั้นหากดันน้ำยาไม่ออก ก็อย่าไปฝืนเข้าไปเชียว ไม่อย่างนั้น แรงดันจะไปทำให้เข็มหลุดออกจากกระบอกฉีด ดีไม่ดีเข้าตาคนฉีดไป เป็นเรื่องใหญ่เอาเชียว หาแว่นตาใส่หน่อย ก็เซฟๆ  ดีครับ  หรือไม่ก็ ลูกกะตาคนฉีดน่ะ  อยู่ให้มันห่างๆ กระบอกฉีดหน่อยนะ (ฮาาาา...)

ครูนก.. [ 17 พ.ย. 2552 21:13:58 ]

ความคิดเห็นที่: 9

จากนั้น นำเต่าสตัฟฟ์แช่ในถังบรรจุฟอร์มาลีน สำหรับการสตัฟฟ์สัตว์มีขนไม่ต้องทำในขั้นตอนนี้  แต่สำหรับเต่ากระอน มีเกล็ดที่บางแนบไปกับกระดอง ซึ่ง อาจจะหลุดล่อนภายหลังได้ เอาให้ชัวร์ๆ  ดีกว่า แล้วหาอะไรมากดอย่าให้ลอยขึ้นมา สัก 12 ชั่วโมงค่อยพลิกกลับ แช่อีกด้าน

จากนั้น เอามาผึ่งลม ให้แห้ง ห้ามตากแดด ควรหาผ้ามาหุ้มที่เกล็ดด้วย จะได้แห้งไปไล่เลี่ยกัน เป็นอันเสร็จขั้นตอนการสตัฟฟ์ครับ

....ไว้เสร็จสมบูรณ์จะมาโพสต์ฝากกันอีกทีนะครับ

หวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับเพื่อนๆ    ชาวสยามเอนฯ ที่อยู่บนเส้นทางเดียวกันนะครับ   ...ผมเองก็หัดทำเอาเอง  ยังไม่ได้ร่ำเรียน  มีข้อเสนอแนะโปรดแนะนำด้วยครับ

หากสนใจขั้นตอนอย่างละเอียด  ผมทำสไลด์โชว์ให้เด็กๆ  ทางนี้ดูอยู่ครับ
http://www.krunok.net/index2.php/?p=1489

ครูนก.. [ 17 พ.ย. 2552 21:18:27 ]

ความคิดเห็นที่: 10

ขอบคุณมากครับที่เอามาให้ชมกัน

รอดูตั้ง แต่ยังโพสต์ไม่เสร็จ  แต่ไม่กล้าปาดหน้า

ขอบคุณมากครับ รอชมตอนเสร็จอีกทีนึงครับ

thenutro [ 17 พ.ย. 2552 21:20:47 ]

ความคิดเห็นที่: 11

ขอขอบคุณหัวหน้าสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดสตูล และทีมงาน  ที่อนุเคราะห์ข้าวปลา แลขนมนมเนย  ตลอดงาน
ขอบคุณนักเรียนทุกคนที่ไปร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ครับ  ไปสลึมสลือที่โรงเรียนกันหลายคน (ฮา..)
ครูเองก็โดนดักหน้าโรงเรียน  เฮ้ย เมื่อคืนเอ็งไปนอนคาราโอเกะไหนฟระ (ฮาาาา)   แถมบ่ายๆ หล่นอยู่ใต้โต๊ะ ค่าที่ว่า ต้องอยู่โยงตลอด  ลงรถทัวร์มาก็ต่อเลยนิ๊  ..เอ้อ ไม่อยากแก่เลย อิอิ   ...ท่านใดจะต้องทำสไตล์นี้  วางแผนทีมงานมาสลับผลัดเปลี่ยนให้ดีๆ   ของผมอุตส่าห์นัดแนะให้นอนตอนหัวค่ำก่อน  ...ดันไปติดละครน้ำเน่าเสียนี่

ขอบคุณคุณKnotsnake มากครับ  ต้องรับสายดึกๆ ดื่นๆ  อยู่หลายที อิอิ

ครูนก.. [ 17 พ.ย. 2552 21:23:59 ]

ความคิดเห็นที่: 12

ขอถามเอาความรู้ครับ กับปลา เราสามารถทำได้หรือไม่  หรือมีวีธีต้องดองเพียงอย่างเดียว

catfish [ 17 พ.ย. 2552 21:50:10 ]

ความคิดเห็นที่: 13

ขอใช้คำว่า "กราบขอบคุณ" ครับครูนก สำหรับความเป็นครูของครูนก
ที่เอาความรู้แบบเจาะลึกมาบอกเล่ากันที่นี่
เป็นวิทยาทานแท้ๆ ครับ ขอบคุณครับ! ในส่วนของความเป็นเพื่อน ผมขอมอบ "จุ๊บ จุ๊บ" ให้ด้วยใจ :-))

...แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 2552 22:04:49

จอม [ 17 พ.ย. 2552 22:03:48 ]

ความคิดเห็นที่: 14

ภาพตอนสตัฟฟ์ปลากระโทงร่ม  เสียไปกับฮาร์ดดิสก์ลูกก่อนครับ  เสียดายมากเลยครับ

วิธีการโดยย่อ  เลือกเอาด้านนึงที่จะโชว์  แล้วอีกด้านก็กรีดหนังจากครีบหุไปจนถึงครีบหาง  ลอกหนังเอาเนื้อออก  ตัดโฟมตามรูปเนื้อที่ได้มา  เย็บกลับครับ  อัดน้ำยา จัดท่าทาง-กางครีบ ผึ่งลม - พ่นแลกเกอร์ ประกอบกับแป้นไม้เป็นอันเสร็จพิธี  

เจ้าตัวในภาพนี้เป็นตัวแรกที่ทำกับปลากระโทงร่ม   แต่ตัวที่ 2 แก้ปัญหาเรื่องครีบหลังแตกได้แล้ว  โดยใช้แผ่นฟิวเจอร์บอร์ด  ดามส่วนครีบหลังมันไว้ตลอดเวลา แล้วเอาผ้ายางมาห่อหมักฟอร์มาลีนไว้สักวันนึง

....กำลังตั้งท่าจะสอนเด็กอีกรอบ  ไว้จะเอามาฝากกันนะครับ   แถมชาวประมงที่ออกหาปลาแถวนี้  บอกว่า  จะเอาตัวใหญ่ๆ   มาฝากสตัฟฟ์ด้วย  คงจะมีตัวอย่างดีๆ ไว้บันทึกขั้นตอนการสตัฟฟ์ครับ

# ท่านขรัวจอม  เล่นซอกหูอีกแล้ว  ชักเสียวๆ แฮะ  ฮาาาาา

...แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 2552 01:07:12

ครูนก.. [ 17 พ.ย. 2552 22:15:37 ]

ความคิดเห็นที่: 15

เยี่ยมไปเลยครับครูนก

กำลังหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนอีกครั้งครับ

เสือหัวดำ [ 17 พ.ย. 2552 23:53:32 ]

ความคิดเห็นที่: 16

ดูแล้วได้ความรู้  ได้กลิ่น  
แล้วก็ได้เห็นครูนกทำอะไรๆ เพื่อส่วนรวมบ้าง เพื่อเด็กนักเรียนบ้าง  ขอปรบมือให้ ชูสองนิ้วทั้งสองมือให้ (จะจุ๊บๆ คุณจอมก็ทำไปซะแล้ว)

mim [ 18 พ.ย. 2552 08:49:45 ]

ความคิดเห็นที่: 17

ชอบมากเลยครับครูนก ภาพดูแล้วไม่สยองขวัญจนเกินไป ดูแล้วได้ความรู้ด้วย ขอบคุณครับคุณครู

PaPaSEK [ 18 พ.ย. 2552 09:32:34 ]

ความคิดเห็นที่: 18

: เสือหัวดำ

เยี่ยมไปเลยครับครูนก

กำลังหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนอีกครั้งครับ

24-26 ธค. นี้ สนป่ะ จะได้หาเรื่องให้ครูนกฉกตัวมาจากภูผาเพชรสักคืน

knotsnake [ 18 พ.ย. 2552 11:08:46 ]

ความคิดเห็นที่: 19

: mim

ดูแล้วได้ความรู้  ได้กลิ่น  
แล้วก็ได้เห็นครูนกทำอะไรๆ  เพื่อส่วนรวมบ้าง เพื่อเด็กนักเรียนบ้าง  ขอปรบมือให้ ชูสองนิ้วทั้งสองมือให้ (จะจุ๊บๆ  คุณจอมก็ทำไปซะแล้ว)

55 จุ๊บซ้ำได้ครับ ครูนกชอบ บ บ บ บ  บ บ บบบบบบบบบบบ!

จอม [ 18 พ.ย. 2552 11:09:11 ]

ความคิดเห็นที่: 20

^
^
จะตามไปดูอะไรแดงๆ ด้วยหรือเปล่าครับ

knotsnake [ 18 พ.ย. 2552 11:19:46 ]

ความคิดเห็นที่: 21

สุดยอดเลยครับ กำลังกินข้าวอยู่ด้วย พะอืดพะอมยังไงไม่รู้แฮะ

เก่ง_ดอยอินฯ [ 18 พ.ย. 2552 18:20:03 ]

ความคิดเห็นที่: 22

ทริกเยอะดีจริงๆ  ครับครูนก  หาอ่านตามตำราไม่ได้เลย หุๆ
ขอบคุณสำหรับความเป็นครูครับ  ^^

ปล. รูปที่งานฟอสซิลยังไม่ได้ส่งให้เลยครับ แฮะๆ

aqueous_andaman [ 19 พ.ย. 2552 01:26:25 ]

ความคิดเห็นที่: 23

เนื้อหาดีๆ แบบนี้บอกได้สามคำว่า

ขอบคุณคร๊าบ....

noocloudy [ 19 พ.ย. 2552 16:33:02 ]

ความคิดเห็นที่: 24

ขอบคุณทุกท่านนะครับที่สนใจติดตามชม  บอกตามตรงกระทู้นี้  เสียวซอกคอชอบกล (ฮาาาาา.........)

# มาคุยเรื่องจัดท่าจัดทางกันต่อครับ
หลังจากแช่ฟอร์มาลีนกันจนหนำใจ (12ชั่วโมง)  พลิกคว่ำ-หงายให้น้ำยาเข้าไปทั้งด้านบน-ล่างแล้ว  

.
ก็มาถึงขั้นการจัดท่าทางกันครับ

..ก็ต้องดัดลวดในคอให้พยุงรูปร่าง  ให้เป็นธรรมชาติ   ค่าที่ว่า ตอนเย็บหนังที่คอ  คนเย็บด้านนึงดันเย็บเก่งกว่าอีกข้างนึง  

จากภาพหนังเหี่ยวๆ  เหมือนกับยัดใยสังเคราะห์ไม่ทั่วถึง   แต่ไม่กังวลใจ  เพราะได้บทเรียนมาจากการเอาใยสังเคราะห์มายัดใส่งูปล้องทอง  ...ตอนแห้งใยสังเคราะห์จะไม่เหมือนนุ่น  มันจะพองออกกว่าเดิมจนหนังตึง  ซึ่ง ในตอนสตัฟฟ์งูปล้องทอง  หนังขาดเลยครับ  งั้นหนนี้ก็ค่อยมาบีบๆ ขยับๆ ตอนแห้งๆ แล้ว  แล้วกันเหอะ

...แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 2552 01:25:05

ครูนก.. [ 23 พ.ย. 2552 01:23:37 ]

ความคิดเห็นที่: 25

ได้บทเรียนราคาแพงจากตอนสตัฟฟ์ปลาโลมาว่า  หากส่วนที่เป็น Flipper แห้งไปก่อน  มันจะบิดเบี้ยวเสียรูปหมด  แล้วแก้ไขไม่ได้เลย (ฮือ ฮือ)


หนนี้ ตะปูครับ  จับแผ่ขยายตอกอัดให้คงรูป อาจต้องดัดกระดูกนิ้วตีนมันสักหน่อย  ค่าที่มันหงิกงองุ้มอยู่ ...ผมคิดวิธีอื่นไม่ออก  เลยใช้วิธีการเดียวกับทำกุ้งมังกร  ที่ใช้เข็มหมุดช่วยแผ่ครีบหางครับ

...แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 2552 01:29:38

ครูนก.. [ 23 พ.ย. 2552 01:29:00 ]

ความคิดเห็นที่: 26

จัดท่าจัดทางให้เหมือนธรรมชาติ  แล้วก็หาที่ลับๆ ตาหน่อย  ผึ่งลมให้แห้ง  ...ช่วงนี้สำคัญมากครับ  เพราะมันเหม็นฟอร์มาลีนฟุ้งเชียว  

ตอนสตัฟฟ์งูจงอางตัวแรกสุด  ..ผมเองเคยโดนน้องๆ หมวดวิทย์  ให้นักเรียนพาไปเผาหลังเขาตอนเราเผลอๆ   โทษฐานไม่เกรงใจใคร (ฮือ ฮือ)   เดี๋ยวนี้ดีขึ้นเยอะ  เพราะทำห้องพิพิธภัณฑ์สำเร็จ  จุดประสงค์ชัดเจน  แถมเรามีถ้ำส่วนตัวไว้เก็บตัวอย่างผึ่งลม  จบเรื่องไป


แล้วก็ เอากระสอบมาปิดกระดองหลัง  อย่าให้เกล็ดแห้งไปก่อน  ไม่งั้นมันก้แตกร่อนหมด  ขณะที่ทำอยู่นี่  ก็ปูดๆ ขึ้นมาแล้วบ้าง  ไม่เป็นไร  เราก็กดๆ มันหน่อย  หยอดกาวช้างเข้าไปตรึงให้แนบเนียน  พอถึงขั้นลงแลกเกอรืก็จบเรื่องแล้วครับ


พรมน้ำอย่าให้แห้งเสียทีเดียว  หมั่นไปดูเป็นระยะ  พอฟอร์มาลีนเริ่มหายเหม็น  คราวนี้ก็ต้องระวังหนูกัดคอครับ  ...น่ากลัวจริงๆ   ทำมาเกือบตาย มาเสร็จตอนจบได้ไง  ลูกเหม็นมาตั้งไว้ข้างๆ   พอจะไล่หนู+แมลงไปได้กระมัง

...แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 2552 01:37:31

ครูนก.. [ 23 พ.ย. 2552 01:35:06 ]

ความคิดเห็นที่: 27

ขั้นสุดท้าย  ก็ถ่ายรูปกับทีมงานไว้ประกอบเบื้องหลังการถ่ายทำครับ

สักเดือนคงจะแห้งดี   ไว้โพสต์ต่อตอนลงแลกเกอร์ และจัดแป้นไม้ประกอบ  เพื่องานจัดแสดงต่อ นะครับ ^..^

ครูนก.. [ 23 พ.ย. 2552 01:39:16 ]

ความคิดเห็นที่: 28

สุดยอดเลยครับ บ้านญาติๆ  ผมอยู่บางปะกงทำอาชีพประมง  แต่ก่อนสมัยปู่ยังแข็งแรงออกเรือได้ท่านก็ได้เต่าติดอวนมาบ้าง คนแถวๆ  ท่าน้ำบางปะกงหลายๆ  บ้านจึงนิยมสตัฟท์เต่ากันครับ ทำกันได้สวยงามเชียว  แต่ไม่ดีหรอกเต่าเค้าไม่ได้ตายเอง....

ไอ้ลูกทุ่ง [ 23 พ.ย. 2552 09:21:12 ]

ความคิดเห็นที่: 29

: ครูนก..

ขั้นสุดท้าย  ก็ถ่ายรูปกับทีมงานไว้ประกอบเบื้องหลังการถ่ายทำครับ

สักเดือนคงจะแห้งดี   ไว้โพสต์ต่อตอนลงแลกเกอร์  และจัดแป้นไม้ประกอบ  เพื่องานจัดแสดงต่อ นะครับ ^..^

เอาหลักฐานมายืนยันเลยว่า ผอ.ยังไม่ย้าย อิ อิ แล้วบอกคนทางซ้ายมือ ผอ. ด้วยว่ามีพัฒนาการในอัตราที่ไม่ธรรมดาจริงๆ  พุงแซงผมไปแล้ว

ครูนกครับ ที่จริงก็พอดัดนิ้วไว้ได้เลยครับ (นึกออกตอนเห็นนี่แหละ) แล้วหาสำลีปั้นเป็นก้อนๆ รองใต้นิ้วที่จะโก่งขึ้นไว้เลย

knotsnake [ 23 พ.ย. 2552 16:11:11 ]

ความคิดเห็นที่: 30

ขอบคุณรอบสอง.....

คร้าบครู!!!!!

:-)

จอม [ 24 พ.ย. 2552 01:53:18 ]

ความคิดเห็นที่: 31

คือแบบว่า อยากสตัฟฟ์สัตว์เก่งเหมือนครูนกอะคับ
ที่บ้านพอผมเอาตัวไรที่ตายๆ  มาดองไว้ คนที่บ้านชอบหาว่าผมบ้ารึไม่ก็โรคจิตเรื่อยเลย 555+
อยากรบกวนครูนกรับผมเป็นศิษย์(เกินไปป่าววะ 555+)ด้วยคับ
อีกอย่างอยากรู้ว่า ไปเอาน้ำยาฟอร์มมาลีนจากที่ไหนมามากมายอะคับ ของผมหาย๊าก ยากแหละ

ไงๆ  ก็ ช่วยติดต่อผมด้วยนะคับ ที่เมลล์ aexy_sexy_29@hotmail.com คับ ขอบคุณคับ

แอค [ 26 พ.ย. 2552 21:09:56 ]
aexy_sexy_29@hotmail.com

ความคิดเห็นที่: 32

...ไม่ได้เก่งมากมายครับ  เขิลลล์.. ^..^!!

จุดสำคัญอยู่ที่ลองทำบ่อยๆ  สรุปข้อบกพร่อง แนวทางแก้ไข จนมีประสบการณ์ชำนาญขึ้น น่ะครับ  เจอะตัวแปลกๆ  ก็ใบ้เหมือนกัน ฮาาา

สนใจงานสตัฟฟ์ลองตามดูที่หน้านี้นะครับ
http://www.krunok.net/index2.php/?page_id=1422

จะพยายามเขียนทยอยลงให้เด็กๆ  ทางนี้อ่านกันครับ

ผมซื้อฟอร์มาลีนจาก 3 แหล่งคือ  ร้านอุปกรณ์จำหน่ายอุปกรณ์-วัสดุเลี้ยงกุ้ง, ปลา  กับร้านวิทยาศรม  หรืไม่ก้อุปกรณืวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน  เช่น ร้านศึกษาภัณฑ์ น่ะครับ

ครูนก.. [ 29 พ.ย. 2552 20:57:17 ]