กระทู้-13460 : ชื่อวิทยาศาสตร์ดี หรือ ชื่อตั้งขึ้นเองดี !!!

Home » Board » หอย

ชื่อวิทยาศาสตร์ดี หรือ ชื่อตั้งขึ้นเองดี !!!

หายไปนาน ขอออกความเห็นสักนิดน๊ะครับ
  คือมีหลายท่านถกกันถึงชื่อวิทยาศาสตร์  (Scientific Name)  กับ ชื่อท้องถิ่น  (Common Name)   (ผมไม่ทราบว่าจะแปล Common Name ว่าอะไร เลยเอาเป็นว่า แปลว่า “ชื่อท้องถิ่น” ไปก่อนครับ)
  จริงๆ  ชื่อวิทยาศาสตร์ที่นำมาใช้เรียกสัตว์ในแต่ละสายพันธ์นั้น นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้ภาษาลาติน ซึ่งเป็นถาษาที่ตายแล้วมาตั้งชื่อ มาใช้อ้างอิงกันตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๗๕๘  ซึ่งคำแปลของชื่อนั้น จะตรงกับลักษณะของสัตว์บ้าง หรือไม่ตรงเลยก็มีครับ  (การใช้ภาษาที่ตายแล้ว จะได้แปลกันไม่ออก แล้วไว้ใช้อ้างอิงกันเป็นหลักเท่านั้น เช่นเดียวกับบทสวดมนต์ที่ใช้ภาษาบาลี)
  จริงๆ  ผู้ที่ศึกษาเรื่องสัตว์อย่างจริงจังรวมถึงพวกเราที่ศึกษาเรื่องหอยหรือเปลือกหอยนั้น จะใช้ชื่อวิทยาศาสตร์เป็นหลัก คือเรียกปุ๊บจะนึกภาพออกทันที หรืออย่างน้อย หากนึกภาพตามชื่อ species ไม่ออก แต่เมื่อกล่าวถึง Genus หรือ Family ก็ยังจะนึกภาพออกว่ารูปร่างลักษณะคร่าวๆ  เป็นอย่างไร
  ชื่อวิทยาศาสตร์สำหรับสัตว์หนึ่งสายพันธุ์จะมีเพียงชื่อเดียว ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ในบางกระทู้ที่บอกว่าอาจปลี่ยนได้นั้น อาจจะเป็น Genus  ซึ่งเมื่อศึกษาสัตว์หรือหอยพันธุ์นั้นลึกลงไป มีอวัยวะหรือโครงสร้างอวัยวะภายในที่ไม่ตรงกับส่วนใหญ่ เป็นต้น ก็ต้องจัดเข้ากลุ่มใหม่ หรืออาจเป็น Genus ใหม่ จึงเปลี่ยนไป แต่ชื่อ  (species)  นั้นยังคงเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะกรณีใด
  บางครั้ง บางท่านอาจสงสัยว่า หอยตัวเดียวกันอาจเปลี่ยนชื่อนั้น จริงๆ  แล้วคือว่า อาจมีการค้นพบหอยพันธุ์ใหม่ชนิดเดียวกันโดยบุคคล ๒ คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันเลย แล้วต่างคนต่างตั้งชื่อ  และเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน  (เป็นคนละกลุ่มหรือคนละซีกโลก !! )  หรือมีอาจรูปร่างลักษณะต่างกันเล็กน้อย แต่ต่อมาพิสูจน์ได้ว่าเป็นพันธุ์เดียวกัน จะเห็นได้ว่า เอกสารอ้างอิงบางเล่มก็ชื่อหนึ่ง บางเล่มตัวเดียวกันก็เรียกอีกชื่อหนึ่ง แต่ในเวลาต่อมา ๒ กลุ่มได้มา intersect กัน แล้วรู้ว่าเป็นตัวเดียวกัน โดยทางหลักการแล้ว ๒ ชื่อที่เรียกหอยพันธุ์เดียวกัน จะใช้ชื่อที่ได้ describe ก่อน คือการประกาศหรือตีพิมพ์บทความก่อน ดังนั้นตัวที่ประกาศการตั้งชื่อที่หลัง  (กลายเป็นชื่อซ้ำ)  จึงเป็น synonym ไป เป็นต้น
  บางคนอาจมีเอกสารที่เรียกชื่อหอยพันธุ์เดียวกันต่างกัน จึงเกิดการสับสน เช่นหอย Oliva pacifica ค้นพบโดย F.P. Marrat, เมื่อปี 1870 เป็นตัวเดียวกับ Oliva zeigleri  ซึ่งตั้งชื่อโดย A.J. da Motta, เมื่อปี 1981 ตัวนี้จึงใช้ชื่อ pacifica ส่วน zeigleri เป็น synonym  (ตัวนี้เป็นหอยไทย หาดูได้ง่ายครับ มีถิ่นอาศัยในทะเลอันดามัน)  
  หันกลับมาเรื่องชื่อวิทยาศาสตร์  (Scientific Name)  กับ ชื่อท้องถิ่น  (Common Name)  
โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าการใช้ชื่อวิทยาศาสตร์น่าจะดีกว่าน๊ะครับ พูดปั๊บจะนึกภาพเปลือกหอยออก แต่ถ้าใช้ชื่อท้องถิ่น หอยตัวเดียวจะถูกเรียกได้เป็นหลายชื่อ เช่น Cypraea tigris  (Scientific Name)  หากเป็นภาษาท้องถิ่น ก็อาจเรียกว่า หอยเบี้ยโป่ง, หอยเบี้ยโป่งลายเสือ, Tiger Cowrie หรือ Common Black Spot Cowrie หรือผมอาจตั้งเองเดี๋ยวนี้ก็ได้ว่า หอยเบี้ยจุดดำ หรือท่านผู้อ่านก็อาจตั้งเดี๋ยวนี้ตามใจชอบว่า ................. หากไม่รู้กันจริง ก็จะนึกภาพไม่ออก หากเราไปคุยกับนักวิทยาศาสตร์ต่างชาติหรือนักสะสมผู้เชี่ยวชาญ โดยเรียก Cypraea tigris ว่า หอยเบี้ยโป่ง คงต้องอธิบายกันยาว แต่หากเรียกว่า Cypraea tigris ก็จะนึกภาพออกทันที
  คือนักวิทยาศาสตร์เขาตั้งกันมาดีแล้วอย่างเป็นระบบ แต่หากเราจะตั้งแบบไทยๆ  โดยใช้ภาษาบาลีก็น่าจะดี แต่คงต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะทำได้ครบอย่างเป็นระบบ เพราะต้องทำกับหอยทั้งโลก และ Systematic ทั้งระบบ
  บางท่านอาจจะว่า เดี๋ยวใช้ชื่อไทยไปนานๆ  ก็จะชินเอง แต่หากท่านจะ inter แล้วไปใช้ชื่อ common name กัน ก็น่าจะคุยกับวงการต่างประเทศไม่รู้เรื่อง  และไหนๆ  ต้องจำชื่อ ก็จำชื่อลาตินชื่อเดียวไปเลยดีกว่า เพราะหากมีใครถามมาเป็นชื่อไทย เราก็คงต้องขอดูรูป  ซึ่งหากถามกันเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ บางทีก็ไม่ต้องมีรูปหรืออธิบายกันมากมายก็ตอบปัญหาได้ครับ
  แล้วนี่ก็เป็นเหตุผลประกอบข้อมูลดดยสรุปมากๆ  ให้ท่านทราบพอเป็นสังเขป ว่าทำไมบางท่านตอบกระทู้เป็น Scientific Name ครับ
  แล้วก็พิจารณากันเองน๊ะครับว่าใช้ ชื่อวิทยาศาสตร์ดี หรือ ชื่อตั้งขึ้นเองดี !!!!!!

Tom
...แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 2552 00:56:39
Tom approve [ 02 ธ.ค. 2552 00:46:38 ]
ความคิดเห็นที่: 1
ผมเลือกใช้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่เราสื่อสารด้วยครับ
knotsnake approve [ 02 ธ.ค. 2552 01:01:56 ]
ความคิดเห็นที่: 2
Common Name คือ ชื่อสามัญครับ โดยคำนิยาม Common Name เป็นชื่อที่เรียกโดยคนทั่วไป (เช่นคนไทยทั่วๆ  ไป) มักจะมาจากชื่อท้องถิ่น (Vernacular name) ที่ได้รับการยอมรับว่าสื่อถึงสิ่งมีชีวิตที่กำลังเอ่ยถึง  แต่ Common Name ของสัตว์หลายชนิดไม่ได้มาจากชื่อท้องถิ่น เช่น ในสัตว์กลุ่มที่คนให้ความสนใจน้อยหรือเกี่ยวข้องกับชีวิตของคนน้อย จึงมีการตั้งกันขึ้นมา เราเรียกกรณีนี้ว่า Nominated name ครับ ซึ่ง จะเห็นได้ว่าชื่อทั้งหลายที่กล่าวข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง มีมากกว่าหนึ่งชื่อสำหรับสัตว์หนึ่งชนิด หรือซ้ำกันระหว่างชนิด ดังนั้น ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) จึงเป็นสื่อกลางที่ดี โดยเฉพาะสำหรับนักวิทยาศาสตร์ และนักธรรมชาติวิทยา เนื่องจากสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์เพียงชื่อเดียว แม้ว่าในบางชนิดยังมีความสับสนว่าจะใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ใด เนื่องจากยังมีความสับสนในการจำแนกชนิดอยู่  แต่ก็ยอมรับครับว่าบางครั้งชื่อวิทยาศาสตร์เข้าไม่ถึงคนทั่วๆ  ไปที่มีความสนใจ และใฝ่รู้ในเรื่องของสิ่งมีชีวิตต่างๆ
Bibliophile approve [ 02 ธ.ค. 2552 08:16:37 ]
ความคิดเห็นที่: 3
ตามพี่น้อทค่ะ
เพราะบางทีเดินเข้าบ้านกะเหรี่ยง ใช้ศัพท์อย่างเราเค้าคงไม่เข้าใจ
ยายอ้วน approve [ 02 ธ.ค. 2552 14:20:25 ]
ความคิดเห็นที่: 4
ผมไม่มีความรู้ด้านชีววิทยา ไม่เคยเรียนมาก่อน  

 แต่พอมาเข้ากลุ่มคุยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ  

เช่นเว็บเกี่ยวกับเฟินแห่งหนึ่ง ที่นั่นเค้าเรียกเฟินเป็นชื่อวิทย์เกือบทั้งเว็บ

ผมก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนๆ นะ ซึ่ง มันก็ยากอยู่เหมือนกัน

เพราะส่วนใหญ่ผมมักจะออกเสียงไม่ค่อยถูก อย่างดีก็แค่พิมพ์ตาม   และอายที่จะออกเสียงเพราะกลัวผิด

อาจเพราะผมไม่มีพื้นฐานเลยก็ได้ (ไม่เคยเรียน)  

 ถ้าใครมีตัวช่วยก็แนะนำด้วยนะครับ
...แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 2552 16:12:41
alian approve [ 02 ธ.ค. 2552 16:07:46 ]
ความคิดเห็นที่: 5
ฮิ ฮิ ...
เป็นความเห็นส่วนตัวครับ !!!
การเลือกภาษาให้ถูกกลุ่มเป้าหมายคามที่คุณ knotsnake กล่าวผมก็เห็นด้วยครับ  และก็เห็นด้วยกับทุกท่านครับ เพราะขนาดภาษาอังกฤษกลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มก็ยังไม่เข้าใจเลย
แต่ที่ผมหมายถึงคือ เราคุยกันใน board นี้ ไม่ได้หมายถึงข้างนอก ถามคำถามกัน บอกชื่อสามัญมาแล้วถามว่าชื่อวิทยาศาสตร์คืออะไร คงตอบได้ยากหากไม่มีรูป และสถานที่พบประกอบ อีกประเด็นหนึ่ง หากเรามีศักยภาพที่จะเรียกชื่อวิทยาศาสตร์แล้วคุยกัน บางทีจะได้ข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น อ้างอืงได้มากขึ้น  และข้อมูลก็จะมาก และถูกต้องขึ้นครับ
อันนี้ก็แล้ว แต่สังคมของ board นี้ คือนานๆ  ผมก็เข้ามาทีเหมือนกัน ในวงการนี้ผมก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากเท่าใด ก็ต้องขอคำชี้แนะจากเพื่อนผู้เชี่ยวชาญร่วมเว็บแหละครับ  แต่ที่กล่าวมา ก็เป็นความเห็นส่วนตัวในอีกรูปแบบหนึ่งน๊ะครับ
อย่างตอนนี้ ผมสงสัยว่า หอยเกลียวใส ชื่อวิทยาศาสตร์ เรียกว่าอะไรครับ ???
ขอบคุณครับ

bye :)
ิัำ
Tom [ 02 ธ.ค. 2552 17:39:31 ]
ความคิดเห็นที่: 6
เกลียวใส ก็ ไกลเสียว ไงคร้าบ อิอิอิอิ  (มาเอาฮาครับ เอาฮา)
ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับพี่
จอม approve [ 03 ธ.ค. 2552 00:01:40 ]
ความคิดเห็นที่: 7
ในความเห็นของผม ทั้งชื่อวิทยาศาสตร์ และชื่อสามัญ มันเป็นผลผลิตที่เกิดจากกระบวนการทางภาษาของมนุษย์เพื่อสืือสาร เมื่อคนเป็นผู้ผลิต ก็ต้องมีคนเป็นผู้ใช้........... ดังนั้นคนเองก็มีสิทธิ์จะเลือกตกลงกันว่าจะใช้อย่างใด หรือจะใช้ทั้งสองอย่าง การใช้ก็เป็นการตกลงร่วมกัน

คุณเจ้าของกระทู้ก็บอกเองแล้วนี่ว่า ชื่อวิทยาศาสตร์เป็นข้อตกลงร่วมระหว่างนานาชาติในการใช้  และกลุ่มที่ใช้เองก็ค่อนข้างจำกัดอยุ่ในแวดลงคนที่ทำวิจัย หรือว่าคนที่สนใจอย่างจริงจังเกี่ยวกับกลุ่มสิ่งมีชีวิตกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง  แต่มันไม่ได้จำกัดอยู่เท่านั้นนี่ครับ ในการประชุมนานาชาติหลายๆ ครั้ง นอกจากจะสื่อกันด้วยชื่อวิทยาศาสตร์แล้ว บางครั้งเขาก็สื่อกันด้วยชื่อสามัญ หรือว่าชื่อสามัญตามด้วยชื่อวิทยาศาสตร์ มันไม่ได้เฉพาะเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง มันขึ้นอยู่กับว่าคนทีี่เข้าประชุมจะเข้าใจสิ่งที่เขาสือได้มากน้อยเท่าใด

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบอร์ดนี้เป็นของสาธารณะมีบุคคลที่ไ่ม่ได้มี แต่คนเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น บ่อยครั้งมีคนนอกวงการ หรือพวกที่เริ่มสนใจศึุกษา หรือแม้ แต่พวกนัก taxo ฝึกหัด เข้ามาโพสต์ถา่ม หาชื่อวิทยาศาสตร์ในนี้ ผมว่าการถามชื่อวิทย์ฯ  นี้เป็นประเด็นยอดนิยมอันหนึ่งในบอร์ดแห่งนี้เลยก็ว่าได้  และหลายๆ ครั้งก็มีคนเอาชื่อสามัญมาโพสต์ถามชื่อวิทยาศาสตร์ โดยไม่มีรูป ซึ่ง คำตอบที่ได้มันจะเหมือนๆ  กันคือ ถ้ามันไม่ได้เป็นสัตว์ที่พบง่ายๆ  ส่วนมากจะถูกไล่ให้ไปหาภาพมาประกอบคำถาม..........

เรื่องนี้มันก็วกกลับมาประเด็นที่ว่าเราควรจะใช้ชื่ออะไรในบอร์ดนี้ดี ผมค่อนข้างเห็นด้วยกัน คุณ knotsnake คุณยายอ้วน  และหลายคนที่ว่า ใช้ตามสถานการณ์  ในบอร์ดนี่้ไม่ใช่สถาบันการศึกษาเฉพาะทางที่เราจะต้องไปกำหนดอะไรๆ  ให้มันตายตัว (เฉพาะเรื่องชื่ิอวิทยาศาสตร์เท่านั้นนะครับ) ในเมื่อมันมีผู้ใช้ที่หลากหลาย  และผู้ใช้ แต่ละคนก็มีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป
สมหมาย approve [ 03 ธ.ค. 2552 03:28:14 ]
ความคิดเห็นที่: 8
: จอม
เกลียวใส ก็ ไกลเสียว ไงคร้าบ อิอิอิอิ  (มาเอาฮาครับ เอาฮา)
ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับพี่


ของจริงครับคุณจอม (เพิ่งรู้ว่าผวนได้...ต้องขอโทษทีครับ) เป็นหอยทากบก ขนาด ๑.๕ ซม. ทรงเจดีย์สีชาอ่อน แล้วใส ด้วย ....
Tom [ 03 ธ.ค. 2552 13:11:08 ]
ความคิดเห็นที่: 9
: Tom
: จอม
เกลียวใส ก็ ไกลเสียว ไงคร้าบ อิอิอิอิ  (มาเอาฮาครับ เอาฮา)
ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับพี่

ของจริงครับคุณจอม (เพิ่งรู้ว่าผวนได้...ต้องขอโทษทีครับ) เป็นหอยทากบก ขนาด ๑.๕ ซม. ทรงเจดีย์สีชาอ่อน แล้วใส ด้วย ....


อ้าว เหรอพี่? อิอิ...... :-)
...แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 2552 14:38:41
จอม approve [ 03 ธ.ค. 2552 14:38:24 ]
Mollusc__reply_147384.jpg
ความคิดเห็นที่: 10
ขอบคุณจอมที่ยินดีพี่กลับบ้าน

กลับมาก็โชคดีได้เปลือกหอยติดไม้ติดมือมาบ้างสำหรับผมที่มีประสบการณ์ในวงการน้อยหน่อย  แต่ที่เด่นก็คือ Patella (Patella) vulgata vulgata Linnaeus, C., 1758 (ตัวที่แสดงในภาพ) ตัวนี้ได้มาตอนขับรถไปเที่ยว Scotland ปรากฎว่าเห็นหาดหินอยู่หาดหนึ่งก็เลยแวะจอดแล้วลงเดินเผื่อมีเปลือกหอยบ้าง อากาศก็หนาวเหน็บ  แต่ด้วยความอยากรู้ ก็เลยเดินลงไปลานหิน ปรากฎว่า เห็น Patella (Patella) vulgata vulgata อยู่เต็มไปหมดเลย เลยไปดูใกล้ๆ  เห็นแล้วไม่ธรรมดา ตื่นเต้นเพราะตัวใหญ่มากๆ  (ในใจคิด จากประสบการณ์อันน้อยนิดว่า ต้องใกล้เคียงกับสถิติโลกแน่ๆ ) จึงเก็บตัวอย่างมา พอกลับมาลอนดอน ตรวจสอบ ... OH WOW !!! ใหญ่กว่าสถิติโลกเสียอีก เตรียมจดทะเบียนอยู่ … Ha Ha
...แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 2552 11:28:11
Tom approve [ 05 ธ.ค. 2552 11:20:33 ]
Mollusc__reply_147385.jpg
ความคิดเห็นที่: 11
ตัวที่สอง Lutraria lutraria Linnaeus, C., 1758 (ตัวที่แสดงในภาพ) ตัวนี้ได้มาตอนไปจ่ายกับข้าว ทุกครั้งที่ไปจ่ายร้านนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว ก็จะแวะไปแผงที่ขายอาหารทะเล พอเห็นเข้าแล้วก็ เอะ...ไม่ธรรมดา ตัวใหญ่จัง ก็เลยซื้อมา ... พอกลับมาบ้าน ตรวจสอบ ... OH WOW !!! ใหญ่กว่าสถิติโลกอีก เตรียมจดทะเบียนอยู่

จริงๆ  ตัวนี้เป็นตัวที่สามของพันธ์นี้ที่ได้ สองตัวแรกก็ทำลายอยู่แล้ว  แต่ตัวนี้ใหญ่กว่าอีก ฮิ ฮิ

แสดงให้เห็นว่า คงมีเปลือกหอยที่ใหญ่กว่าสถิติโลกอีกมากที่อยู่ในกองขยะของผู้บริโภค หรือตามสวนหลังบ้าน ตู้ปลา ....
...แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 2552 11:28:51
Tom approve [ 05 ธ.ค. 2552 11:21:31 ]
ความคิดเห็นที่: 12
ฺButter Clam อร่อยมั๊ย รสชาติเหมือนหอยแมลงภู่บ้านเรามั๊ยครับ
mirror man approve [ 05 ธ.ค. 2552 18:46:53 ]
ความคิดเห็นที่: 13
เรียนคุณ mirror man ครับ
Butter Clam ผมเคยทานครั้งเดียวครับ ตัวก่อนไม่ใช่ตัวนี้ คือรสชาดมันคล้ายๆ  หอยหวาน จืดๆ   แต่เหนียวน่าดูครับ คงต้องมีกรรมวิธีสักอย่างทำให้มันเปื่อย  แต่ผมทำไม่เป็นครับ บางส่วนเหมือนเคี้ยวยางหนังสติกครับ มันต่างจากหอยแมลงภู่บ้านเราลิบลับ ของเราอร่อยกว่าครับ  และหากคุณ mirror man เคยทานหองแมลงภู่ New Zealand ผมว่ามันตัวใหญ่ก็จริง แต่ของไทยก็ยังอร่อยกว่าอยู่ดีครับ ... เสียดายไม่ได้ทานสถิติโลกตัวนี้ครับ
Tom [ 05 ธ.ค. 2552 20:52:30 ]
ความคิดเห็นที่: 14
: Tom
ตัวที่สอง Lutraria lutraria Linnaeus, C., 1758 (ตัวที่แสดงในภาพ) ตัวนี้ได้มาตอนไปจ่ายกับข้าว ทุกครั้งที่ไปจ่ายร้านนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว ก็จะแวะไปแผงที่ขายอาหารทะเล พอเห็นเข้าแล้วก็ เอะ...ไม่ธรรมดา ตัวใหญ่จัง ก็เลยซื้อมา ... พอกลับมาบ้าน ตรวจสอบ ... OH WOW !!! ใหญ่กว่าสถิติโลกอีก เตรียมจดทะเบียนอยู่

จริงๆ   ตัวนี้เป็นตัวที่สามของพันธ์นี้ที่ได้ สองตัวแรกก็ทำลายอยู่แล้ว   แต่ตัวนี้ใหญ่กว่าอีก ฮิ ฮิ

แสดงให้เห็นว่า คงมีเปลือกหอยที่ใหญ่กว่าสถิติโลกอีกมากที่อยู่ในกองขยะของผู้บริโภค หรือตามสวนหลังบ้าน ตู้ปลา ....


จริงๆ ครับพี่ หลายครั้งของดีๆ ก็พบอยู่ในกองที่เค้าทิ้งแล้วจริงๆ  :-)
จอม approve [ 08 ธ.ค. 2552 17:17:07 ]
Mollusc__reply_148236.jpg
ความคิดเห็นที่: 15
พบแล้วครับ หอยเกลียวใส ของจริงครับ หาใน collection อยู่หลายวัน เดี๋ยวจะหาว่า make ขึ้นมาครับ
...แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 2552 07:37:26
Tom approve [ 15 ธ.ค. 2552 07:36:38 ]
ความคิดเห็นที่: 16
: Tom
พบแล้วครับ หอยเกลียวใส ของจริงครับ หาใน collection อยู่หลายวัน เดี๋ยวจะหาว่า make ขึ้นมาครับ



มันคือ Subulina octona (Bruguière, 1798) ครับ
Tom [ 15 ธ.ค. 2552 22:16:41 ]

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org