หนังสำหรับคนรักธรรมชาติ Avatar

ความคิดเห็นที่: 20

ผมเองหมดไปเกือบ 3000 ครับ 55555 ไปดูมาสองรอบ รอบแรกกะ”เผ่า”ครอบครัวผมเองกับเพื่อนชาวอังกฤษ รอบสองกับแฟนกับหลานสองคน (ไม่นับค่าอาหารอีก .....ฮือๆ )....

ชอบหนังเรื่องนี้มาก อยากขอชม “เจมส์ คาเมรอน” คนเขียนบท และผู้กำกับ ....ผู้ล้มเหลวไม่เป็นท่ามาจากหนัง Waterworld และประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายจากหนัง Titanic ….. ผู้เล่นเปรียบเทียบระหว่างอะไรอย่างหนึ่งที่มีทวิภาวะในตัวเองในหนัง Avatar ซึ่ง ความจริงก็มักมีอยู่ในทุกส่วนของธรรมชาติ เป็นหนังที่เชื่อมโยงประสานระหว่าง “หน้าที่กับความฝัน” “เหตุผลกับความรู้สึก” “การแสดงออกภายนอกกับจิตภายใน” “การเกิด และความตาย(ซึ่ง ในทางปรัชญาพุทธเชื่อมดยงเป็นสิ่งเดียวกัน)” “การทำลายล้างกับการถนอมรักษา” “ความรักกับความเกลียดชัง” “ฝีมือ และโชคชะตา” และแม้ แต่ “การสูญเสีย(สละชีพ)เพื่อให้ได้มา(ซึ่ง สานติ)”…. เล่นสนุก เล่นcontrastกันน่าดู

หลายครั้งเมื่อเข้าสู่สงคราม ความจริงอาจกลายเป็นเท็จ ความซื่อสัตย์ต่อความรักอาจกลายเป็นการทรยศต่อหน้าที่ และความถูกต้องชอบธรรมกับความฉ้อฉลกลโกงแยกกันแทบไม่ออก

ผู้สืบข่าวเพื่อมาสื่อสารกับกองทัพ(พระเอก) ก็ต้อง "อวตาร" (คือความหมายในเชิงการถ่ายโอนวิญญาณส่วนหนึ่งมา”กำเนิด”ในโลกอีกภพภูมิหนึ่ง โดยองค์เดิม(ร่างเดิม)ของจิตไม่ดับสูญไป เช่น องค์นารายณ์อวตารมาเป็นพระรามเพื่อปราบทุกข์เข็ญ ย่อมหมายถึงการโอนวิญญาณอันเป็นองค์ปรมาตมัน(ผู้สูงสุด)มาเกิดเป็น เทพในร่างมนุษย์ ซึ่ง อยู่ในอีกภพหนึ่ง โดยจิตองค์เดิมยังคงอยู่ไม่สูญสลาย.... โดยการอวตารนั้น "ต้องมีวัตถุประสงค์" อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ ต่างจากการ "จุติ(ซึ่ง แปลว่า ตาย เพื่อเปลี่ยนไปเป็นอีกสภาพหนึ่ง)" ซึ่ง เป็นการถ่ายโอนวิญญาณจากภพหนึ่ง มาสู่อีกภพหนึ่งอย่างสิ้นเชิง เป็นอีกร่างอีกชีวิตหนึ่ง( แต่มีจิตดวงเดิม)อย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นไปโดย”กรรม”กำหนด)

การสืบข่าวสงคราม ไม่ว่าในทางตรง(พระเอกเอง(Sam Worthington ในบทของ Jake Sully) หรือ นอมส์ เพื่อนผู้แปลสารเพื่อการโน้มน้าว) หรือทางอ้อม (Sigourney Weaver นางเอกเก่าเอเลี่ยนในบทนักชีววิทยาDr. Grace Augustine ซึ่ง เข้าหาเผ่านาวีในฐานะคุณครูภาษา "อังกฤษสำเนียงอเมริกัน" ของเด็กๆ ชาวนาวี) ก็ล้วนต้องแปลงมาในสภาพที่ดัดแปลงตัดต่อพันธุกรรมแล้วในร่างผสม..... (เห็นได้ว่า หลายๆ คนตั้งข้อสังเกตว่าพระเอกกับทีมจากโลกในกรอบร่างชาวนาวี หน้าตาดีกว่าชาวนาวี เพราะชาวนาวีเอาแบบกายภาพมาจากเผ่าของชาวมาไซ...นักรบผู้หาญกล้าแห่งทุ่งหญ้าลุ่มน้ำมารา ประเทศเคนยา และแทนซาเนีย... นักเลี้ยงวัว ร่างสูงชะลูด ผู้ล่าสิงโตที่เข้ามารุกล้ำในเขตของตนนั่นเอง..... แต่พวกพระเอกเป็นลูกผสม จึงมีความแตกต่างอยู่บ้างในโครงหน้า)

ผู้บุกรุก(ชาวเหมือง + ทหารชาวโลก - สำเนียงอเมริกันพันธุ์แท้) เป็นพวก "เนวี" คือทหารเรือ เป็นนักรบที่เดินทางมาเพื่อ "ล่า" ......... และเผ่าพันธุ์ท้องถิ่น ชาว "นาวี" เป็นเผ่านักรบที่ทำหน้าที่ "ปกป้อง และรักษา"

หนังมีการผสานภาพของสรรพชีวิตจากท้องทะเล เช่นเอาแมงกะพรุนมาเป็น เมล็ดพืชศักดิ์สิทธิ์ที่ล่องลอยได้ และมองเห็นจิตใจของสรรพชีวิต... เอาหนอนต้นคริสต์มาสจากแนวปะการังมาเป็นพืชยักษ์คล้ายเห็ดที่หุบได้ในฉากแรกที่พระเอกก้าวย่างเข้าสู่ป่าอันอุดมสัตว์ดุร้ายของชาวนาวี.... เอาดอกไม้ทะเลมาแปลงเป็นพืชคล้ายเห็ด และราเมือกที่ขึ้นตามต้นไม้ใหญ่ ฯ ลฯ ....

ชอบแนวคิดที่พืชที่นั่นมีจิตใจ เมล็ดล่องลอยเคลื่อนไหวได้ และสานต่อชีวิต (ฉากฝังศพคนแก่ มีการนำเมล็ดพืชศักดิ์สิทธิ์มาปล่อยลงบนร่างไร้วิญญาณก่อนกลบฝัง แปรเปลี่ยนร่างนาวีไร้ลมหายใจไปสู่ร่างไม้ยักษ์ใหญ่ผู้สร้างลมหายใจ!) และในความเป็นจริงเป็นเสมือนเทพเจ้าผู้ผสานโครงข่ายของชีวิตในป่าบนดวงดาวทั้งหมดเข้าด้วยกัน ในขณะที่ชาวโลกที่มาใหม่ซึ่ง โค่นไม้อันมีชีวิตลงเพื่อตักตวงของไม่มีชีวิต(แร่ธาตุ)ที่อยู่ภายใต้ผิวดิน (เปรียบได้กับยุคล่าอาณานิคมที่คนตาน้ำข้าวออกล่าดินแดนของผู้ที่ตนมองว่าด้อยกว่า หลายครั้งมองปรัชญาความคิดตะวันออก หรือของคนดำ คนเหลือง คนแดง เป็นของขบขัน กว่าจะเห็นจริงถึงความหมายก็เมื่อได้กลบดินฝังร่างเผ่าพันธุ์เจ้าของปรัชญาไปนักต่อนัก... ท้ายสุด ไม่ว่าผิวสีอะไร เมื่อมองผืนดินอื่นเป็นผลประโยชน์ตนก็ต่างรุกราน และฆ่าฟันกันไม่ต่างกัน)

ร่างของชาวโลกใน”คราบ”ชาวนาวีดูเป็นชาวนาวี และถูกยอมรับก็ต่อเมื่อ “รู้ และหยั่งถึง” คุณค่า และความหมายของชีวิต มากกว่ารูปกายภายนอกที่ถึงดูเหมือนก็เป็นเพียงเปลือกที่ไร้วิญญาณหากขาดความรัก และเข้าใจในชีวิตอื่น

มีการผสมรูปแบบนักรบอเมริกันอินเดียนซึ่ง รบจนคนสุดท้ายกับคนขาวเพื่อรักษาถิ่น(ซึ่ง บนโลกแห่งความจริง ท้ายสุดเนื้อหนัง และขวานคมๆ ย่อมพ่ายแพ้ต่อกระสุนปืนของคนจากโลกใหม่).... ยังมีประโยคเด็ดเลียนจากวาทะเซนโด่งดังประมาณ “ถ้วยที่มีน้ำอยู่เต็มแล้ว ถึงรินเพิ่มเท่าไหร่ย่อมล้นออก” จากปากหัวหน้าเผ่า พ่อของนางเอก พระเอกจึงจำเป็นต้องปล่อยวางจิตเดิมเพื่อให้ที่ว่างภายในถูกเติมเต็มด้วยความเข้าใจจากโลกใบใหม่

นางเอก(Neytiri แสดงร่างต้นของแบบกราฟฟิคโดย Zoe Saldana) จำยอมรับทำ”หน้าที่”ฝึกฝนพระเอก แต่นานวัน “ความรู้สึก”กลับเรียกรอยยิ้มออกจากใบหน้า และดวงตาทุกครั้งที่มองเห็นความสำเร็จของคนที่ตนรัก....

พระเอกถูกผู้พิการจากหน้าที่ทหารบนโลก กลับกลายมาเป็นคนสมบูรณ์บนโลกใบใหม่ ทำหน้าที่เจาะข่าว เพียงไม่พูดความจริงก็เป็นการโกหกกลายๆ (เหมือนนักการเมืองหลายๆ คนเลยวุ้ย!!) เพียงโกหกคนที่เรารักกลับกลายเป็นการหลอกตัวเองเสียอย่างจัง กว่าจะรู้ว่าตัวเองเหมาะสมกับอะไรก็เมื่อเห็น”ขาจริงๆ บนโลกใบใหม่” จริงยิ่งกว่า ”ขาใหม่บนโลกใบเก่า” ที่ยังมาไม่ถึง!

บางครั้งก็แอบคิดเปรียบเทียบไปว่า ขา และเท้าที่เรายืนอยู่ย่อมจริงกว่าขา และเท้าที่ใครๆ วาดให้เป็นความฝัน ลูกตะขบจิ้บจ้อยในโลกความจริงย่อมจริงเสียยิ่งกว่าแอปเปิลผลโตในโลกแห่งความฝัน คนเราจึงควรมีความฝันเพื่อเป็นแนวทาง แต่ต้องเดินอยู่บนหนทางที่มองเห็นได้ในความจริงเสมอจึงจะเข้าถึง และได้ในของจริง

เรามองเห็นบทบาทที่ชัดเจนระหว่าง นักรบจากโลกที่มาบนนกเหล็กเพื่อ “ล่า และล้าง” กับนักรบบนหลังม้าหลังมังกรที่ “ต่อต้าน และขัดขืน” เพียงเพื่อหยุดการทำลาย

เรามองเห็นการตี”มูลค่า”ของ”วัตถุ”ไร้ชีวิตบนโลกสีเขียวใบใหม่เพื่อนำกลับไปผลาญบนโลกใบเก่า ใบที่”ไม่มีสีเขียว”หลงเหลืออยู่ ....เรามองเห็นการมองข้าม “คุณค่า”ของ”ชีวิต” ในฉากเดียวกัน แบบภาพต่อภาพ แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน

เรามองเห็น “จิตใจอันสมบูรณ์” ใน ”ร่างพิการ” ของพระเอก และแบบเฟรมต่อเฟรม เรามองเห็น “จิตใจอันผิดเพี้ยน” ใน
”ร่างกายอันสมบูรณ์” ของผู้พันหน้าบากผู้ทำทุกอย่างให้ได้มาเพื่อสิ่งที่ตนต้องการ....

เรามองเห็น ”ฝีมือ” ของคู่หมั้นนางเอก(ต่อมาขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าหลังพ่อนางเอกตาย) ที่ท้ายสุดยังยอมก้มศรีษะให้แก่ Jake Sully ผู้ที่ท้ายสุดวัดกันแบบทุ่มหมดหน้าตักเมื่อต้อง “กลับมาใหม่” ในฐานะแห่ง ”โทรุค มัคโต - ผู้ขี่เงาสุดท้าย” (อัศวินขี่ม้าขาวมากอบกู้โลก) ผู้ที่ท้ายสุดเล่นเอาเถิดกับ “โชคชะตา”กับ “ใจ” ที่เหนือกว่าแค่ “ฝีมือ”ที่ฝึกฝนเอาได้

หากเราชมหนังจบแล้วลองหลับตามองย้อนเข้าไปภายในใจ เราอาจเห็นอะไรหลายอย่างในตัวเราที่เราไม่เคยสังเกตเห็น

เราอาจอวตารใจตัวเองให้เกิดใหม่ได้ในร่างเดิมร่างเดียวในทุกครั้งที่เราสัมผัสได้ถึงคุณค่าแห่งความจริงที่หลายครั้งหลับตานึกถึงกลับกระจ่างชัดเสียยิ่งกว่าภาพลวงที่สัมผัสเห็นด้วยตาเนื้อ ดมด้วยจมูก และฟังด้วยสองหู.... ใครยังไม่ได้ชม ไปชมเถอะครับ แต่ละคนดูก็ได้อะไรที่ไม่เหมือนกันครับ

หนังเอง สร้างมาสี่ปีกว่า เพื่อให้เป็นตำนานอภิมหาโครงการหนังสามมิติ ใครมีโอกาสดีๆ ลองหาแว่นตาแดง-น้ำเงิน ไปดูนะครับ ผมเองยังไม่ได้ลองจากทั้งสองรอบที่ดูมา แต่ทั้งโลกไซเบอร์ร่ำลือกันว่า แจ่มเสียยิ่งกว่าแจ่ม ลึกเสียยิ่งกว่าลึก และงามเสียยิ่งกว่างาม.... เด็กๆ ได้ดูเรื่องนี้แล้วหันมามองเห็นเสน่ห์ในธรรมชาติเพียงคนละนิดก็ “คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม” ครับ!!

...แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 2553 05:33:02

จอม [ 07 ม.ค. 2553 05:32:11 ]


	หนังสำหรับคนรักธรรมชาติ Avatar นานๆ จะได้เข้าโรงหนังสักที มีหนังดีๆ มาเชิญชวนให้ท่านๆ ไปชมค่ะ Avatar (ไม่ได้ค่าโฆษณานะ) หนังที่คนรักธรรมชาติอยู่แล้วจะหวงแหนธรรมชาติมากขึ้น และคนที่ไม่เคยใส่ใจธรรมชาติจะตระหนักถึงความสำคัญ ดูได้ทุกวัย มีสัตว์หน้าตาน่ารักหลายตัวให้มา ID กันด้วย 55 LittleIris [ 06 ม.ค. 2553 09:28:49 ]


	ความคิดเห็นที่: 1 ผมขนลุกตอนพระเอกพูดปลุกระดมให้ร่วมกันต่อสู้ ไร้ใบ [ 06 ม.ค. 2553 11:07:48 ] pairat@lpe.co.th


	ความคิดเห็นที่: 2 ยังหาคนไปดูด้วยกันไม่ได้เลยครับ เลยปล่อยผ่านดีกว่า Portrait [ 06 ม.ค. 2553 11:39:37 ]


	ความคิดเห็นที่: 3 : Portrait ยังหาคนไปดูด้วยกันไม่ได้เลยครับ เลยปล่อยผ่านดีกว่า ทีเข้าป่ายังไปกับเจ้าพรุฯ ก็ชวนมันไปดูด้วยกันเลยสิ อิ อิ knotsnake [ 06 ม.ค. 2553 11:46:04 ]


	ความคิดเห็นที่: 4 : knotsnake : Portrait ยังหาคนไปดูด้วยกันไม่ได้เลยครับ เลยปล่อยผ่านดีกว่า ทีเข้าป่ายังไปกับเจ้าพรุฯ ก็ชวนมันไปดูด้วยกันเลยสิ อิ อิ และแล้ว พรุก็เจอคนดามอก เสือหัวดำ [ 06 ม.ค. 2553 12:15:10 ]


	ความคิดเห็นที่: 5 ไม่ได้ดูหนังในโรงมา 5 ปี เพิ่งได้ไปดูเรื่องนี้แหล่ะ ไม่ผิดหวังจริงๆ สนุกมากๆ ว่าจะชวนไปเที่ยวดาวแพนดอร่ากัน ใครไปบ้าง? รับรองว่า new เพียบเลย!! นณณ์ [ 06 ม.ค. 2553 13:23:53 ]


	ความคิดเห็นที่: 6 ชอบเจ้ากิ้งก่าบิน สวยงามมาก สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลหลายยตัวเลยมาอยู่ในป่าน่าสนใจ ลงชื่อไปด้วยครับ ออกเดินทางวันไหนพี่ coneman [ 06 ม.ค. 2553 13:39:21 ]


	ความคิดเห็นที่: 7 เป็นหนังที่ดีที่สุดในปีนี้เลย ผมคิดแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเจมส์คาเมร่อนจะคิดอะไรแบบนี้ไว้ สิบกว่าปีมาแล้ว captainnova [ 06 ม.ค. 2553 13:39:47 ]


	ความคิดเห็นที่: 8 แหม บางคนหาคนไปดูด้วยไม่ได้ ชาวsiamensisบางคนโผล่มาบ่น บอกว่า หมดกับเรื่องนี้ไปพันหนึ่งแล้ว หลังจากพาสาวสองคน(สองครั้ง)ไปดู 3D นณณ์ [ 06 ม.ค. 2553 14:00:08 ]


	ความคิดเห็นที่: 9 : นณณ์ แหม บางคนหาคนไปดูด้วยไม่ได้ ชาวsiamensisบางคนโผล่มาบ่น บอกว่า หมดกับเรื่องนี้ไปพันหนึ่งแล้ว หลังจากพาสาวสองคน(สองครั้ง)ไปดู 3D อยากรู้จังสมาชิกท่านใดรือหมดเงิน 1000 อ่ะ : knotsnake : Portrait ยังหาคนไปดูด้วยกันไม่ได้เลยครับ เลยปล่อยผ่านดีกว่า ทีเข้าป่ายังไปกับเจ้าพรุฯ ก็ชวนมันไปดูด้วยกันเลยสิ อิ อิ พี่ knotsnake พูดถูก สัตว์หลายชนิดอิงลักษณะของสัตว์เลื้อยคลานทั้งนั้นเลย แต่มันมี 6 ขานะ มันสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามนุษย์นักทำลายล้างมีจำนวนมากขนาดไหน ส่วนคนที่จะเสียสละ รู้ผิดชอบชั่วดี เข้าใจธรรมชาติ มีน้อยเหลือเกิน ...แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 2553 14:49:32 LittleIris [ 06 ม.ค. 2553 14:47:44 ]


	ความคิดเห็นที่: 10 LittleIris อย่ารู้เลย เอาเป็นว่าไม่ใช่นาย coneman ก็แล้วกัน เหอ เหอ เหอ นณณ์ [ 06 ม.ค. 2553 15:00:48 ]


	ความคิดเห็นที่: 13 ป่า ที่แพนโดรา เดินกลางคืนนี่ ไม่ต้องใช้ไฟฉายด้วยดีจริง !! Leviathan [ 06 ม.ค. 2553 16:07:29 ]


	ความคิดเห็นที่: 14 : นณณ์ แล้วทำไมดูหนังต้องดูเป็นคู่หล่ะไม่เข้าใจ??? บ้านนอกอย่างผม กลัวหลงทางไงครับ 55 เสือหัวดำ [ 06 ม.ค. 2553 16:08:19 ]


	ความคิดเห็นที่: 15 : นณณ์ แล้วทำไมดูหนังต้องดูเป็นคู่หล่ะไม่เข้าใจ??? ^ ^ ^ ^ ก็ลองไปดูเดียวๆ ดูสิพี่ แล้วจะรู้ว่าอารมณ์ไปดูคนเดียวมันเป็นยังไง - -" - อารมณ์ตั้ง แต่ซื้อตั๋ว เหมือนพนักงานมันไม่ค่อยอยากจะขาย เพราะเท่ากับว่าเสียทีฟรีๆ อีกที - อารมณ์ตอนไปซื้อป๊อบคอนกับน้ำ มี แต่คนมอง ไม่เข้าใจเหมือนกัน - อารมณ์ตอนดู มองซ้าย มองขวา มากันเป็นคู่ทั้งนั้นเลย - อารมณ์สุดท้าย อารมณ์ตอนออกจากโรง เค้าเดินกันเป็นคู่ๆ เป็นกลุ่มเพื่อน เราเดินโดดๆ คนเดียว หุๆ aqueous_andaman [ 06 ม.ค. 2553 16:13:12 ]


	ความคิดเห็นที่: 11 อื่ม...คนที่ผมจะชวนไปดู ดันหนีไปดูกับคนอื่นแล้วสิ แล้วผมจะได้ดูไหมเนี่ย ...แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 2553 15:35:00 เสือหัวดำ [ 06 ม.ค. 2553 15:34:27 ]


	ความคิดเห็นที่: 12 แล้วทำไมดูหนังต้องดูเป็นคู่หล่ะไม่เข้าใจ??? นณณ์ [ 06 ม.ค. 2553 15:46:41 ]


	ความคิดเห็นที่: 16 #11 แล้วใช่คนเดียวกับที่ไปทุ่งสงหรือเปล่า.... (วางบอมบ์แล้วเราก็เผ่นนนนน) knotsnake [ 06 ม.ค. 2553 16:22:25 ]


	ความคิดเห็นที่: 17 : นณณ์ แล้วทำไมดูหนังต้องดูเป็นคู่หล่ะไม่เข้าใจ??? แล้วอยากจะเข้าใจจริงๆ ไหมหล่ะ? ไอ้ลูกทุ่ง [ 06 ม.ค. 2553 16:56:49 ]


	ความคิดเห็นที่: 18 ตอนดูแรกๆ ก็ชื่นชมหนังครับ หนังสวยมากกก พอตอนหลังๆ เริ่มก่นด่า(ในใจ)ผู้พันแทน มันช่างเหมือนสถานการณ์แถบบ้านเราจริงๆ เล้ยย (อินจัดไปไหมเนี่ยเรา -_-') ยิ่งมาดูหลังจากฟังเรื่องของ sparrow แล้ว ยิ่งอินหนัก ฮี่ๆ ป.ล. เห็นด้วยว่า คนดูหนังมักมาเป็นคู่ ... ...แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 2553 11:16:31 Due_n [ 06 ม.ค. 2553 17:41:18 ]


	ความคิดเห็นที่: 19 ไปดูมาแล้วเหมือนกันครับ พาลูกชายไปดู ไปดูแบบสามมิติด้วย ที่โรงภาพยนต์ กรุงศรี IMAX ที่สยามพารากอน ตั๋วค่อนข้างเต็มนะครับ ควรโทรจองล่วงหน้า asawin [ 07 ม.ค. 2553 01:34:09 ] asawin@cerasimply.com


	ความคิดเห็นที่: 20 ผมเองหมดไปเกือบ 3000 ครับ 55555 ไปดูมาสองรอบ รอบแรกกะ”เผ่า”ครอบครัวผมเองกับเพื่อนชาวอังกฤษ รอบสองกับแฟนกับหลานสองคน (ไม่นับค่าอาหารอีก .....ฮือๆ ).... ชอบหนังเรื่องนี้มาก อยากขอชม “เจมส์ คาเมรอน” คนเขียนบท และผู้กำกับ ....ผู้ล้มเหลวไม่เป็นท่ามาจากหนัง Waterworld และประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายจากหนัง Titanic ….. ผู้เล่นเปรียบเทียบระหว่างอะไรอย่างหนึ่งที่มีทวิภาวะในตัวเองในหนัง Avatar ซึ่ง ความจริงก็มักมีอยู่ในทุกส่วนของธรรมชาติ เป็นหนังที่เชื่อมโยงประสานระหว่าง “หน้าที่กับความฝัน” “เหตุผลกับความรู้สึก” “การแสดงออกภายนอกกับจิตภายใน” “การเกิด และความตาย(ซึ่ง ในทางปรัชญาพุทธเชื่อมดยงเป็นสิ่งเดียวกัน)” “การทำลายล้างกับการถนอมรักษา” “ความรักกับความเกลียดชัง” “ฝีมือ และโชคชะตา” และแม้ แต่ “การสูญเสีย(สละชีพ)เพื่อให้ได้มา(ซึ่ง สานติ)”…. เล่นสนุก เล่นcontrastกันน่าดู หลายครั้งเมื่อเข้าสู่สงคราม ความจริงอาจกลายเป็นเท็จ ความซื่อสัตย์ต่อความรักอาจกลายเป็นการทรยศต่อหน้าที่ และความถูกต้องชอบธรรมกับความฉ้อฉลกลโกงแยกกันแทบไม่ออก ผู้สืบข่าวเพื่อมาสื่อสารกับกองทัพ(พระเอก) ก็ต้อง "อวตาร" (คือความหมายในเชิงการถ่ายโอนวิญญาณส่วนหนึ่งมา”กำเนิด”ในโลกอีกภพภูมิหนึ่ง โดยองค์เดิม(ร่างเดิม)ของจิตไม่ดับสูญไป เช่น องค์นารายณ์อวตารมาเป็นพระรามเพื่อปราบทุกข์เข็ญ ย่อมหมายถึงการโอนวิญญาณอันเป็นองค์ปรมาตมัน(ผู้สูงสุด)มาเกิดเป็น เทพในร่างมนุษย์ ซึ่ง อยู่ในอีกภพหนึ่ง โดยจิตองค์เดิมยังคงอยู่ไม่สูญสลาย.... โดยการอวตารนั้น "ต้องมีวัตถุประสงค์" อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ ต่างจากการ "จุติ(ซึ่ง แปลว่า ตาย เพื่อเปลี่ยนไปเป็นอีกสภาพหนึ่ง)" ซึ่ง เป็นการถ่ายโอนวิญญาณจากภพหนึ่ง มาสู่อีกภพหนึ่งอย่างสิ้นเชิง เป็นอีกร่างอีกชีวิตหนึ่ง( แต่มีจิตดวงเดิม)อย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นไปโดย”กรรม”กำหนด) การสืบข่าวสงคราม ไม่ว่าในทางตรง(พระเอกเอง(Sam Worthington ในบทของ Jake Sully) หรือ นอมส์ เพื่อนผู้แปลสารเพื่อการโน้มน้าว) หรือทางอ้อม (Sigourney Weaver นางเอกเก่าเอเลี่ยนในบทนักชีววิทยาDr. Grace Augustine ซึ่ง เข้าหาเผ่านาวีในฐานะคุณครูภาษา "อังกฤษสำเนียงอเมริกัน" ของเด็กๆ ชาวนาวี) ก็ล้วนต้องแปลงมาในสภาพที่ดัดแปลงตัดต่อพันธุกรรมแล้วในร่างผสม..... (เห็นได้ว่า หลายๆ คนตั้งข้อสังเกตว่าพระเอกกับทีมจากโลกในกรอบร่างชาวนาวี หน้าตาดีกว่าชาวนาวี เพราะชาวนาวีเอาแบบกายภาพมาจากเผ่าของชาวมาไซ...นักรบผู้หาญกล้าแห่งทุ่งหญ้าลุ่มน้ำมารา ประเทศเคนยา และแทนซาเนีย... นักเลี้ยงวัว ร่างสูงชะลูด ผู้ล่าสิงโตที่เข้ามารุกล้ำในเขตของตนนั่นเอง..... แต่พวกพระเอกเป็นลูกผสม จึงมีความแตกต่างอยู่บ้างในโครงหน้า) ผู้บุกรุก(ชาวเหมือง + ทหารชาวโลก - สำเนียงอเมริกันพันธุ์แท้) เป็นพวก "เนวี" คือทหารเรือ เป็นนักรบที่เดินทางมาเพื่อ "ล่า" ......... และเผ่าพันธุ์ท้องถิ่น ชาว "นาวี" เป็นเผ่านักรบที่ทำหน้าที่ "ปกป้อง และรักษา" หนังมีการผสานภาพของสรรพชีวิตจากท้องทะเล เช่นเอาแมงกะพรุนมาเป็น เมล็ดพืชศักดิ์สิทธิ์ที่ล่องลอยได้ และมองเห็นจิตใจของสรรพชีวิต... เอาหนอนต้นคริสต์มาสจากแนวปะการังมาเป็นพืชยักษ์คล้ายเห็ดที่หุบได้ในฉากแรกที่พระเอกก้าวย่างเข้าสู่ป่าอันอุดมสัตว์ดุร้ายของชาวนาวี.... เอาดอกไม้ทะเลมาแปลงเป็นพืชคล้ายเห็ด และราเมือกที่ขึ้นตามต้นไม้ใหญ่ ฯ ลฯ .... ชอบแนวคิดที่พืชที่นั่นมีจิตใจ เมล็ดล่องลอยเคลื่อนไหวได้ และสานต่อชีวิต (ฉากฝังศพคนแก่ มีการนำเมล็ดพืชศักดิ์สิทธิ์มาปล่อยลงบนร่างไร้วิญญาณก่อนกลบฝัง แปรเปลี่ยนร่างนาวีไร้ลมหายใจไปสู่ร่างไม้ยักษ์ใหญ่ผู้สร้างลมหายใจ!) และในความเป็นจริงเป็นเสมือนเทพเจ้าผู้ผสานโครงข่ายของชีวิตในป่าบนดวงดาวทั้งหมดเข้าด้วยกัน ในขณะที่ชาวโลกที่มาใหม่ซึ่ง โค่นไม้อันมีชีวิตลงเพื่อตักตวงของไม่มีชีวิต(แร่ธาตุ)ที่อยู่ภายใต้ผิวดิน (เปรียบได้กับยุคล่าอาณานิคมที่คนตาน้ำข้าวออกล่าดินแดนของผู้ที่ตนมองว่าด้อยกว่า หลายครั้งมองปรัชญาความคิดตะวันออก หรือของคนดำ คนเหลือง คนแดง เป็นของขบขัน กว่าจะเห็นจริงถึงความหมายก็เมื่อได้กลบดินฝังร่างเผ่าพันธุ์เจ้าของปรัชญาไปนักต่อนัก... ท้ายสุด ไม่ว่าผิวสีอะไร เมื่อมองผืนดินอื่นเป็นผลประโยชน์ตนก็ต่างรุกราน และฆ่าฟันกันไม่ต่างกัน) ร่างของชาวโลกใน”คราบ”ชาวนาวีดูเป็นชาวนาวี และถูกยอมรับก็ต่อเมื่อ “รู้ และหยั่งถึง” คุณค่า และความหมายของชีวิต มากกว่ารูปกายภายนอกที่ถึงดูเหมือนก็เป็นเพียงเปลือกที่ไร้วิญญาณหากขาดความรัก และเข้าใจในชีวิตอื่น มีการผสมรูปแบบนักรบอเมริกันอินเดียนซึ่ง รบจนคนสุดท้ายกับคนขาวเพื่อรักษาถิ่น(ซึ่ง บนโลกแห่งความจริง ท้ายสุดเนื้อหนัง และขวานคมๆ ย่อมพ่ายแพ้ต่อกระสุนปืนของคนจากโลกใหม่).... ยังมีประโยคเด็ดเลียนจากวาทะเซนโด่งดังประมาณ “ถ้วยที่มีน้ำอยู่เต็มแล้ว ถึงรินเพิ่มเท่าไหร่ย่อมล้นออก” จากปากหัวหน้าเผ่า พ่อของนางเอก พระเอกจึงจำเป็นต้องปล่อยวางจิตเดิมเพื่อให้ที่ว่างภายในถูกเติมเต็มด้วยความเข้าใจจากโลกใบใหม่ นางเอก(Neytiri แสดงร่างต้นของแบบกราฟฟิคโดย Zoe Saldana) จำยอมรับทำ”หน้าที่”ฝึกฝนพระเอก แต่นานวัน “ความรู้สึก”กลับเรียกรอยยิ้มออกจากใบหน้า และดวงตาทุกครั้งที่มองเห็นความสำเร็จของคนที่ตนรัก.... พระเอกถูกผู้พิการจากหน้าที่ทหารบนโลก กลับกลายมาเป็นคนสมบูรณ์บนโลกใบใหม่ ทำหน้าที่เจาะข่าว เพียงไม่พูดความจริงก็เป็นการโกหกกลายๆ (เหมือนนักการเมืองหลายๆ คนเลยวุ้ย!!) เพียงโกหกคนที่เรารักกลับกลายเป็นการหลอกตัวเองเสียอย่างจัง กว่าจะรู้ว่าตัวเองเหมาะสมกับอะไรก็เมื่อเห็น”ขาจริงๆ บนโลกใบใหม่” จริงยิ่งกว่า ”ขาใหม่บนโลกใบเก่า” ที่ยังมาไม่ถึง! บางครั้งก็แอบคิดเปรียบเทียบไปว่า ขา และเท้าที่เรายืนอยู่ย่อมจริงกว่าขา และเท้าที่ใครๆ วาดให้เป็นความฝัน ลูกตะขบจิ้บจ้อยในโลกความจริงย่อมจริงเสียยิ่งกว่าแอปเปิลผลโตในโลกแห่งความฝัน คนเราจึงควรมีความฝันเพื่อเป็นแนวทาง แต่ต้องเดินอยู่บนหนทางที่มองเห็นได้ในความจริงเสมอจึงจะเข้าถึง และได้ในของจริง เรามองเห็นบทบาทที่ชัดเจนระหว่าง นักรบจากโลกที่มาบนนกเหล็กเพื่อ “ล่า และล้าง” กับนักรบบนหลังม้าหลังมังกรที่ “ต่อต้าน และขัดขืน” เพียงเพื่อหยุดการทำลาย เรามองเห็นการตี”มูลค่า”ของ”วัตถุ”ไร้ชีวิตบนโลกสีเขียวใบใหม่เพื่อนำกลับไปผลาญบนโลกใบเก่า ใบที่”ไม่มีสีเขียว”หลงเหลืออยู่ ....เรามองเห็นการมองข้าม “คุณค่า”ของ”ชีวิต” ในฉากเดียวกัน แบบภาพต่อภาพ แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เรามองเห็น “จิตใจอันสมบูรณ์” ใน ”ร่างพิการ” ของพระเอก และแบบเฟรมต่อเฟรม เรามองเห็น “จิตใจอันผิดเพี้ยน” ใน ”ร่างกายอันสมบูรณ์” ของผู้พันหน้าบากผู้ทำทุกอย่างให้ได้มาเพื่อสิ่งที่ตนต้องการ.... เรามองเห็น ”ฝีมือ” ของคู่หมั้นนางเอก(ต่อมาขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าหลังพ่อนางเอกตาย) ที่ท้ายสุดยังยอมก้มศรีษะให้แก่ Jake Sully ผู้ที่ท้ายสุดวัดกันแบบทุ่มหมดหน้าตักเมื่อต้อง “กลับมาใหม่” ในฐานะแห่ง ”โทรุค มัคโต - ผู้ขี่เงาสุดท้าย” (อัศวินขี่ม้าขาวมากอบกู้โลก) ผู้ที่ท้ายสุดเล่นเอาเถิดกับ “โชคชะตา”กับ “ใจ” ที่เหนือกว่าแค่ “ฝีมือ”ที่ฝึกฝนเอาได้ หากเราชมหนังจบแล้วลองหลับตามองย้อนเข้าไปภายในใจ เราอาจเห็นอะไรหลายอย่างในตัวเราที่เราไม่เคยสังเกตเห็น เราอาจอวตารใจตัวเองให้เกิดใหม่ได้ในร่างเดิมร่างเดียวในทุกครั้งที่เราสัมผัสได้ถึงคุณค่าแห่งความจริงที่หลายครั้งหลับตานึกถึงกลับกระจ่างชัดเสียยิ่งกว่าภาพลวงที่สัมผัสเห็นด้วยตาเนื้อ ดมด้วยจมูก และฟังด้วยสองหู.... ใครยังไม่ได้ชม ไปชมเถอะครับ แต่ละคนดูก็ได้อะไรที่ไม่เหมือนกันครับ หนังเอง สร้างมาสี่ปีกว่า เพื่อให้เป็นตำนานอภิมหาโครงการหนังสามมิติ ใครมีโอกาสดีๆ ลองหาแว่นตาแดง-น้ำเงิน ไปดูนะครับ ผมเองยังไม่ได้ลองจากทั้งสองรอบที่ดูมา แต่ทั้งโลกไซเบอร์ร่ำลือกันว่า แจ่มเสียยิ่งกว่าแจ่ม ลึกเสียยิ่งกว่าลึก และงามเสียยิ่งกว่างาม.... เด็กๆ ได้ดูเรื่องนี้แล้วหันมามองเห็นเสน่ห์ในธรรมชาติเพียงคนละนิดก็ “คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม” ครับ!! ...แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 2553 05:33:02 จอม [ 07 ม.ค. 2553 05:32:11 ]


	ความคิดเห็นที่: 21 วิจารณ์หนังอย่างกับมืออาชีพเลยครับจอม แต่วิจารณ์เล่าเรื่องแบบนี้ระวังคนยังไม่ได้ดูเคืองเอานะ อิ อิ !! นณณ์ [ 07 ม.ค. 2553 10:15:44 ]


	ความคิดเห็นที่: 22 พี่จอมเปลี่ยนอาชีพเลยดีป่ะท่าน 55++ ในอนาคตคงมีหนังเกี่ยวกับธรรมชาติแบบนี้อีกตรึม เรื่องนี้ไม่ผิดหวังจริงๆๆ อยากสื่อสารกับสัตว์ได้แบบในหนังจัง 555+ heterometrus_sp [ 07 ม.ค. 2553 11:12:05 ]


	ความคิดเห็นที่: 23 วิจารณ์หนังได้สุดยอดจริงๆ ครับ พี่จอม หนังแสดงให้เห็นอะไรเยอะจริงๆ ด้วยครับ Due_n [ 07 ม.ค. 2553 11:17:58 ]

กระทู้-13603 : หนังสำหรับคนรักธรรมชาติ Avatar

หนังสำหรับคนรักธรรมชาติ Avatar


	ความคิดเห็นที่: 24 ^ ^ ^ ^ ^ อู้ยๆๆๆ โทษทีครับ ลืมไปจริงๆ ... 55 แต่ก็นะ ไปดูเองก็ยังได้อะไรมากกว่าที่เล่าไว้นี้ครับ โดยเฉพาะความสมบูรณ์ของฉาก เห็นด้วยตาตัวเองมันมลังเมลืองยิ่งนักท่านๆๆๆๆๆ .... เห็นดาวโน้นแล้วย้อนนึกถึงดาวนี้ สุขใจยิ่งนักเมื่อคิดได้ว่าที่เขาเอาไปดัดแปลงทำเป็นตัวนั่นตัวนี่บนดาวโน้นยังแค่กระผีกเดียวของความมหัศจรรยืของชีวิตบนดาวดวงนี้ ในวันที่สีเขียว และ สีฟ้า ยังมีอยู่ ไปดูกันนะครับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จอม [ 07 ม.ค. 2553 12:51:38 ]


	ความคิดเห็นที่: 25 ยังไม่ได้ไปดู เพราะไม่มีเงิน+ไม่ว่าง+ไม่มีคนไปด้วย หุๆ ปล. ประเด็นหลักคือไม่มีเงินครับ เหอๆๆ - -" aqueous_andaman [ 07 ม.ค. 2553 14:58:45 ]


	ความคิดเห็นที่: 26 : จอม ^ ^ ^ ^ ^ อู้ยๆๆๆ โทษทีครับ ลืมไปจริงๆ ... 55 แต่ก็นะ ไปดูเองก็ยังได้อะไรมากกว่าที่เล่าไว้นี้ครับ โดยเฉพาะความสมบูรณ์ของฉาก เห็นด้วยตาตัวเองมันมลังเมลืองยิ่งนักท่านๆๆๆๆๆ .... เห็นดาวโน้นแล้วย้อนนึกถึงดาวนี้ สุขใจยิ่งนักเมื่อคิดได้ว่าที่เขาเอาไปดัดแปลงทำเป็นตัวนั่นตัวนี่บนดาวโน้นยังแค่กระผีกเดียวของความมหัศจรรยืของชีวิตบนดาวดวงนี้ ในวันที่สีเขียว และ สีฟ้า ยังมีอยู่ ไปดูกันนะครับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ท่านพี่จอมลึกซึ้งจริงๆ หนังทำดีจนอินเหมือนกัน เลยอยากให้ไปดู หวังว่าหนังทำให้ชาว siamensis มีความสุขในสิ่งที่ทำ ในขณะที่พื้นที่สีเขียวบนดาวดวงนี้มีน้อยลงทุกที ...แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 2553 15:33:57 LittleIris [ 07 ม.ค. 2553 15:32:20 ]


	ความคิดเห็นที่: 27 ไม่อ่านของคุณจอมล่ะ ยังไม่ได้ดูเลย เดี๋ยวไปดูก่อน แล้วจะย้อนกลับมาอ่านใหม่ เก่ง_ดอยอินฯ [ 07 ม.ค. 2553 17:28:18 ]


	ความคิดเห็นที่: 28 แวะกลับมาดูอีกรอบ โดนพี่เสือหัวดำจิ้มซะ ...แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 2553 18:52:46 Portrait [ 07 ม.ค. 2553 18:52:16 ]


	ความคิดเห็นที่: 29 พี่จอม 3D ของSF มาบุญครอง (ที่อื่นไม่รู้เป็นไงครับ) เดี๋ยวนี้เป็นแว่นใส แต่คล้ายๆ มีมุมมีเหลี่ยม พอดูกับภาพ 3D ถึงเห็นเป็นสามมิติ คล้ายๆ เทคโนโลยีจอสามมิติของพารากอนที่ใช้โฆษณาตามทางเดิน( แต่คนไม่อยากแหงนดู)น่ะ ถ้ามองผิดมุมจะไม่ชัด มึนๆ ถ้าจะดูสามดี เอาแว่นสายตาไปด้วยนะครับ ไม่งั้นดูไม่รู้เรือ่งเลย มันคล้ายๆ ว่าต้องโฟกัสลงตัวเป๊ะ GreenEyes [ 07 ม.ค. 2553 21:49:17 ]


	ความคิดเห็นที่: 30 โห กระทู้นี้เอาซะผมกลายเป็นเกย์เลย 55555 อยากไปดูเหมือนกันครับ คงต้องหาคนไปดูมั่งๆๆ Mr.prutodang [ 08 ม.ค. 2553 00:51:24 ]


	ความคิดเห็นที่: 31 : LittleIris : จอม ^ ^ ^ ^ ^ อู้ยๆๆๆ โทษทีครับ ลืมไปจริงๆ ... 55 แต่ก็นะ ไปดูเองก็ยังได้อะไรมากกว่าที่เล่าไว้นี้ครับ โดยเฉพาะความสมบูรณ์ของฉาก เห็นด้วยตาตัวเองมันมลังเมลืองยิ่งนักท่านๆๆๆๆๆ .... เห็นดาวโน้นแล้วย้อนนึกถึงดาวนี้ สุขใจยิ่งนักเมื่อคิดได้ว่าที่เขาเอาไปดัดแปลงทำเป็นตัวนั่นตัวนี่บนดาวโน้นยังแค่กระผีกเดียวของความมหัศจรรยืของชีวิตบนดาวดวงนี้ ในวันที่สีเขียว และ สีฟ้า ยังมีอยู่ ไปดูกันนะครับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ท่านพี่จอมลึกซึ้งจริงๆ หนังทำดีจนอินเหมือนกัน เลยอยากให้ไปดู หวังว่าหนังทำให้ชาว siamensis มีความสุขในสิ่งที่ทำ ในขณะที่พื้นที่สีเขียวบนดาวดวงนี้มีน้อยลงทุกที หนังมันดีจนอินเลยหละครับ อิอิอิ : aqueous_andaman ยังไม่ได้ไปดู เพราะไม่มีเงิน+ไม่ว่าง+ไม่มีคนไปด้วย หุๆ ปล. ประเด็นหลักคือไม่มีเงินครับ เหอๆๆ - -" มาดูภูเก็ตดิ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอ็ง ( แต่ค่ารถออกเองนาเฟร้ย 55555!) : เก่ง_ดอยอินฯ ไม่อ่านของคุณจอมล่ะ ยังไม่ได้ดูเลย เดี๋ยวไปดูก่อน แล้วจะย้อนกลับมาอ่านใหม่ 555 ครับ ครับ : GreenEyes พี่จอม 3D ของSF มาบุญครอง (ที่อื่นไม่รู้เป็นไงครับ) เดี๋ยวนี้เป็นแว่นใส แต่คล้ายๆ มีมุมมีเหลี่ยม พอดูกับภาพ 3D ถึงเห็นเป็นสามมิติ คล้ายๆ เทคโนโลยีจอสามมิติของพารากอนที่ใช้โฆษณาตามทางเดิน( แต่คนไม่อยากแหงนดู)น่ะ ถ้ามองผิดมุมจะไม่ชัด มึนๆ ถ้าจะดูสามดี เอาแว่นสายตาไปด้วยนะครับ ไม่งั้นดูไม่รู้เรือ่งเลย มันคล้ายๆ ว่าต้องโฟกัสลงตัวเป๊ะ โอ้ว ได้ความรู้ใหม่ วันก่อนไป กทม ว่าจะแวะไปดู ก็ไปได้วันเดียวกลับบ้าน เลยยังไม่ได้ลอง ใครได้ไปดูรูปแบบดังว่า มาเล่าสู่กันบ้างเด้อครับ จอม [ 08 ม.ค. 2553 00:55:45 ]


	ความคิดเห็นที่: 32 เอ่อ.....ขอช่วยเพิ่มเติมนิดหน่อย WATERWORLD หนังที่ลงทุนมหาศาล แต่ล้มเหลวด้านรายได้ และคำวิจารณ์ เป็นของ Kevin Kosner ครับ ส่วนหนังที่ James Cameron ล้มเหลวแบบเดียวกัน คือ Heaven's Gate ว่าที่จริงผมว่าหนังเรื่องนี้มีข้อคิดอะไรดีๆ อยู่หลายอย่าง เพียง แต่มันลงทุนมากเกินไปเท่านั้นเองสำหรับหนังที่มีพล็อตแบบนี้ ใครชอบ AVATAR ขอแนะนำให้ดู THE ABYSS หนังของ James Cameron อีกเรื่อง มีข้อคิดอีกแง่มุมหนึ่ง แถมหน่อย สำหรับคนรักฟอสซิล DVD สารคดี ของ National Geographic "Sea Monsters" ราคา 89 บาทเอง ( แต่ไม่เป็น 3D) ไม่ได้รับค่าโฆษณาให้นะเนี่ย เหอ เหอ.... สุขสันต์วันเด็กครับ InkFly [ 08 ม.ค. 2553 09:54:25 ]


	ความคิดเห็นที่: 33 : InkFly เอ่อ.....ขอช่วยเพิ่มเติมนิดหน่อย WATERWORLD หนังที่ลงทุนมหาศาล แต่ล้มเหลวด้านรายได้ และคำวิจารณ์ เป็นของ Kevin Kosner ครับ ส่วนหนังที่ James Cameron ล้มเหลวแบบเดียวกัน คือ Heaven's Gate ว่าที่จริงผมว่าหนังเรื่องนี้มีข้อคิดอะไรดีๆ อยู่หลายอย่าง เพียง แต่มันลงทุนมากเกินไปเท่านั้นเองสำหรับหนังที่มีพล็อตแบบนี้ ใครชอบ AVATAR ขอแนะนำให้ดู THE ABYSS หนังของ James Cameron อีกเรื่อง มีข้อคิดอีกแง่มุมหนึ่ง แถมหน่อย สำหรับคนรักฟอสซิล DVD สารคดี ของ National Geographic "Sea Monsters" ราคา 89 บาทเอง ( แต่ไม่เป็น 3D) ไม่ได้รับค่าโฆษณาให้นะเนี่ย เหอ เหอ.... สุขสันต์วันเด็กครับ อื้อ ผมว่าแล้ว ตะหงิดๆ เรื่อง WATERWORLD ....อ่านมาจากบทความที่เค้าแปลมาแบบผิดใจความนี่เอง โทษทีครับ แหะๆ .... ถูกต้องแล้วครับ Kevin Kosner ครับ..... :-) จอม [ 08 ม.ค. 2553 12:33:48 ]