ความคิดเห็นที่: 1

เป็นทางเลือกที่น่าสนมากครับ  ว่า แต่พี่ท่านไปนอนทำไมโรงพยาบาลอ่ะ เป็นไรครับ

heterometrus_sp [ 15 ม.ค. 2553 17:32:47 ]

ความคิดเห็นที่: 2

: heterometrus_sp

เป็นทางเลือกที่น่าสนมากครับ  ว่า  แต่พี่ท่านไปนอนทำไมโรงพยาบาลอ่ะ เป็นไรครับ

สงสัยเข้าเว็บสยามเอ็นซีสไม่ได้ อิ อิ



ว่า แต่เป็นอะไรหรือครับ ถึงกับต้องได้นอนโรงพยาบาล

ลำพะเนียง [ 15 ม.ค. 2553 17:59:07 ]

ความคิดเห็นที่: 3

: ลำพะเนียง

: heterometrus_sp
เป็นทางเลือกที่น่าสนมากครับ  ว่า   แต่พี่ท่านไปนอนทำไมโรงพยาบาลอ่ะ เป็นไรครับ

สงสัยเข้าเว็บสยามเอ็นซีสไม่ได้ อิ อิ



ว่า  แต่เป็นอะไรหรือครับ ถึงกับต้องได้นอนโรงพยาบาล

ก็คุณริดซี่ดันมาเยือนโดยไม่บอกล่วงหน้าเลยต้องพึ่งหมอให้ผ่าออกน่ะครับ ขอบคุณครับ

...แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 2553 19:43:42

noppadol [ 15 ม.ค. 2553 19:42:07 ]
noparnon@yahoo.co.th

ความคิดเห็นที่: 4

นอน รพ. แล้วได้ประโยชน์ถือว่าคุ้มครับ  อิอิ :D

electron [ 15 ม.ค. 2553 23:50:18 ]

ความคิดเห็นที่: 5

โอ้ ขอบพระคุณเลยค่ะ
เพราะยายอ้วนก็กำลังนั่งคิดๆ  หาทางช่วยชาวบ้านแถวป่าตะวันตกจัดการช้างป่าได้ยังดี
จะลองเอาความคิดนี้ไปเล่าให้ชาวบ้านเค้าลองทำกันนะคะ

ยายอ้วน [ 16 ม.ค. 2553 00:56:08 ]

ความคิดเห็นที่: 6

: ยายอ้วน

โอ้ ขอบพระคุณเลยค่ะ
เพราะยายอ้วนก็กำลังนั่งคิดๆ   หาทางช่วยชาวบ้านแถวป่าตะวันตกจัดการช้างป่าได้ยังดี
จะลองเอาความคิดนี้ไปเล่าให้ชาวบ้านเค้าลองทำกันนะคะ

เอาฉิ่งไปตีดังๆ อาจะช่วยได้ครับพี่ยายอ้วน

ต้ล [ 16 ม.ค. 2553 10:27:24 ]

ความคิดเห็นที่: 7

: ต้ล

: ยายอ้วน
โอ้ ขอบพระคุณเลยค่ะ
เพราะยายอ้วนก็กำลังนั่งคิดๆ    หาทางช่วยชาวบ้านแถวป่าตะวันตกจัดการช้างป่าได้ยังดี
จะลองเอาความคิดนี้ไปเล่าให้ชาวบ้านเค้าลองทำกันนะคะ

เอาฉิ่งไปตีดังๆ  อาจะช่วยได้ครับพี่ยายอ้วน

น้องต้ลครับ ประทัดยังเอาไม่อยู่ ขืนไปนั่งตีฉิ่งให้เขาฟังมีหวัง.... ฉ.ฉิ่งตีดัง ช.ช้างวิ่งหนี  ถ้าใช้วิธีนี้ ทำประกันชีวิตเพิ่มได้เลยนะครับ คนรุ่นใหม่เขาท่องจำแบบนี้ครับ ฉ.ฉิ่งตีดังคนตีน่ะตาย แฮะๆๆๆ   ลืมบอกยายอ้วนไป เขาเอาขี้ช้างผสมกับพริกที่ตากแห้ง แล้วเอามาใส่ท่ออัดเป็นก้อนกลมๆ  ไปจุดไว้ตามทางที่คิดว่าช้างจะเข้ามา  แต่ส่วนผสมผมไม่รู้นะว่าเท่าไหร่ พิธีกรรายการบอกว่า สารบางอย่างของพริก  จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร มีผลต่องวง และระบบประสาทตาของช้าง ยังไงก็ลองไปเถอะครับดีกว่าไม่ทำอะไรเลย (ลืมไปช้างไทยชอบเผ็ดหรือเปล่าเนี่ย)

noppadol [ 16 ม.ค. 2553 14:40:13 ]
noparnon@yahoo.co.th

ความคิดเห็นที่: 8

: noppadol

หลังจากที่ไปนอนอยู่โรงพยาบาลสองวันหนึ่งคืน ไม่มีอะไรให้ทำ เปิดดูช่องเคเบิล เนชั่นแนลจีโอฯ  ประเทศในแอฟฟริกามีวิธีป้องกันช้างเข้ามาทำลายพืชไร่ โดยใช้พริกผสมกับขี้ช้างหรือขี้วัวตากแห้งแล้วจุดเหมือนยากันยุง ปรากฏว่าช้างไม่เข้าใกล้เลย ไม่รู้ว่าบ้านเราใช้ได้หรือเปล่า มีใครลองหรือยัง ผมว่าน่าจะเป็นทางเลือก ที่ทำให้ช้างป่ากับคน กระทบกระทั่งกันน้อยลงได้  (เป็นแค่ข้อคิดเห็นนะครับ เพื่อเป็นการอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข)

ตอนนี้หายหรือยังไงคะ หายไวๆ  นะคะ

callus [ 16 ม.ค. 2553 21:52:11 ]

ความคิดเห็นที่: 9

: callus

: noppadol
หลังจากที่ไปนอนอยู่โรงพยาบาลสองวันหนึ่งคืน ไม่มีอะไรให้ทำ เปิดดูช่องเคเบิล เนชั่นแนลจีโอฯ   ประเทศในแอฟฟริกามีวิธีป้องกันช้างเข้ามาทำลายพืชไร่ โดยใช้พริกผสมกับขี้ช้างหรือขี้วัวตากแห้งแล้วจุดเหมือนยากันยุง ปรากฏว่าช้างไม่เข้าใกล้เลย ไม่รู้ว่าบ้านเราใช้ได้หรือเปล่า มีใครลองหรือยัง ผมว่าน่าจะเป็นทางเลือก ที่ทำให้ช้างป่ากับคน กระทบกระทั่งกันน้อยลงได้  (เป็นแค่ข้อคิดเห็นนะครับ เพื่อเป็นการอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข)

ตอนนี้หายหรือยังไงคะ หายไวๆ   นะคะ

ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วครับ ขอบคุณมากครับ

noppadol [ 17 ม.ค. 2553 06:52:15 ]
noparnon@yahoo.co.th

ความคิดเห็นที่: 10

: noppadol

: ลำพะเนียง
: heterometrus_sp
เป็นทางเลือกที่น่าสนมากครับ  ว่า    แต่พี่ท่านไปนอนทำไมโรงพยาบาลอ่ะ เป็นไรครับ

สงสัยเข้าเว็บสยามเอ็นซีสไม่ได้ อิ อิ



ว่า   แต่เป็นอะไรหรือครับ ถึงกับต้องได้นอนโรงพยาบาลก็คุณริดซี่ดันมาเยือนโดยไม่บอกล่วงหน้าเลยต้องพึ่งหมอให้ผ่าออกน่ะครับ ขอบคุณครับ

เข้าเวปไม่ได้หลายวัน  ป่านนี้คุณnoppadolหายดีแล้วแน่เลย

mim [ 17 ม.ค. 2553 10:35:17 ]

ความคิดเห็นที่: 11

ขอบคุณ คุณมิ้มมากครับ ดีขึ้นมากแล้วครับ

noppadol [ 17 ม.ค. 2553 11:11:05 ]
noparnon@yahoo.co.th

ความคิดเห็นที่: 12

สงสัยนั่งรอของฝากจาก อ.ลำพะเนียง นาน ริดซี่เลยกำเริบ อิอิ หายไวๆ นะครับ ผ่าแล้วก็สบายขึ้น

ตะขาบยักษ์ [ 17 ม.ค. 2553 22:43:04 ]

ความคิดเห็นที่: 13

: ตะขาบยักษ์

สงสัยนั่งรอของฝากจาก อ.ลำพะเนียง นาน ริดซี่เลยกำเริบ อิอิ หายไวๆ  นะครับ ผ่าแล้วก็สบายขึ้น

คงใช่แฮะ อิ อิ อิ

ลป. ได้รับสารานุกรมสำหรับเด็ก 1 ชุดใหญ่ เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณมากครับคุณ noppadol

ลำพะเนียง [ 18 ม.ค. 2553 06:55:36 ]

ความคิดเห็นที่: 14

: ลำพะเนียง

: ตะขาบยักษ์
สงสัยนั่งรอของฝากจาก อ.ลำพะเนียง นาน ริดซี่เลยกำเริบ อิอิ หายไวๆ   นะครับ ผ่าแล้วก็สบายขึ้น

คงใช่แฮะ อิ อิ อิ

ลป. ได้รับสารานุกรมสำหรับเด็ก 1 ชุดใหญ่ เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณมากครับคุณ noppadol

 ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้บอกเลยนะครับ อาจารย์

noppadol [ 18 ม.ค. 2553 19:06:40 ]
noparnon@yahoo.co.th

ความคิดเห็นที่: 15

# 14 ขอบคุณครับ

ลำพะเนียง [ 19 ม.ค. 2553 00:01:22 ]

ความคิดเห็นที่: 16

วิธีการน่าสนใจครับ  แต่ผมยังไม่เห็นรายงานความสำเร็จของวิธีการนี้ว่าป้องกันช้างรุกพืชไร่ได้กี่เปอร์เซ็นต์ ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ทดลองแล้วครับ ทั้งพริก น้ำส้มสายชู น้ำมันเครื่อง  และสารระคายเคืองทั้งหมดที่คิดว่าน่าจะมีผล  แต่ผลสำเร็จของการใช้อยู่ในอัตราประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ช้างบางตัวยังเข้ามากินพริกที่ชาวบ้านปลูกไว้ด้วยครับ T_T อีกอย่างพริกมีราคาแพง ชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกไว้ขายครับ

จากประสบกาณ์นั่งเฝ้าสังเกตช้างเวลารุกพืชไร่ เขาปรับตัวได้ค่อนข้างเร็วต่อวิธีการป้องกัน ยิ่งเมื่อไม่มีคนเฝ้า แม้จะใช้รั้วไฟฟ้าป้องกัน ส่วนมากช้างก็ยังผ่านเข้ามาได้ด้วยการลองผิดลองถูกไม่กี่ครั้ง  และเมื่อช้างรู้ว่ามีคนอยู่ เขาจะเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง และเงียบที่สุด ตอนเห็นครั้งแรกยังทึ่งว่า โอ้วแม่เจ้า...ทำไมฉลาดจัง เช่น เขาค่อยๆ เดินแล้วหยุด เดินแล้วหยุด เพื่อฟังเสียงรอบๆ  ชูงวงดมกลิ่นคนก่อน เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครสังเกตเห็นจึงเข้ากินพืชไร่ของชาวบ้าน ในคืนเดือนมืดที่เรามองอะไรไม่ค่อยเห็น ช้างจะขึ้นมาเดินบนถนนรอบๆ ไร่ที่ไม่มีเสียงหญ้าเวลาเหยียบ เพิ่มความเงียบ  และความเร็วของการเปลี่ยนจุดเวลาเข้าจู่โจม  แต่พอช้างรู้ว่ามีคนเฝ้า เขาจะรอ รอ...จนกระทั่งทุกอย่างเงียบสนิทจึงเริ่มวงรอบใหม่ของการเข้าจู่โจม เมื่อเทียบวิธีการทั้งหมดที่ใช้ป้องกันแล้ว วิธีการที่มีคนปรากฏอยู่ด้วยจะให้ผลของความสำเร็จสูงกว่าวิธีการที่ไม่มีคนอยู่ เช่น คนเฝ้าพร้อมกับมีรั้ว ป้องกันได้ผลกว่ามีรั้วป้องกัน แต่ไม่มีคน

ดังนั้นคนจึงเป็นปัจจัยหลักในการป้องกันไม่ว่าจะป้องกันด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม เพราะช้างดูเหมือนจะเรียนรู้ว่า  ถ้ามีคนเขาจะได้รับอันตราย มีความเสี่ยงมากกว่าเวลาเข้ารุกพืชไร่ ช้างจึงระมัดระวังมากกว่า  และบางครั้งไม่กล้าเข้ารุกพืชไร่เพียงแค่ได้ยินเสียงคนตะโกนไล่ หรือจุดประทัดขู่

โดยสรุปวิธีการป้องกันแบบตั้งรับ เช่น ใช้พริก ประทัด รั้วไฟฟ้าพอจะช่วยป้องกัน และลดความสูญเสียพืชผลได้บ้างครับ ชาวบ้านบางส่วนก็พอใจ บางส่วนก็ไม่พอใจ คุณภาพสินค้า และบริการ เช่น วิธีการป้องกันแบบต่างๆ  จึงตัดสินโดยผู้บริโภค (ชาวบ้าน) จริงๆ ครับ

วิธีการที่ยั่งยืนกว่าจึงกำลังมีการขบคิดกันมากขึ้นทั้งในแอฟริกา และเอเชียเอง ทั้งการท่องเที่ยวให้คนอยู่กับช้าง เปลี่ยนรูปแบบการใช้พื้นที่ให้ช้างอยู่ด้วยได้ เพิ่มความสมบูรณ์ในป่าพร้อมกับป้องกันบริเวณไร่ สร้างแนวร่วมชาวบ้านให้หันมาร่วมวิจัย และอนุรักษ์ รวมถึงการดึงพลังของคนชนชั้นกลางในเมืองด้วยการสร้างแรงกระตุ้นด้านจิตสำนึก และอนุรักษ์ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ผ่านกิจกรรมต่างๆ  เช่น ดูช้างป่า สร้างโป่งเกลือให้ช้าง  และการท่องเที่ยวโดยร่วมกิจกรรมกับชาวบ้านในพื้นที่

บทสรุปมหากาพย์คนกับช้าง ดูแล้วผมว่าคล้ายๆ กับการแก้ปัญหาโลกร้อนยังไงไม่รู้ คือ ความสำเร็จ และความพอใจในการแก้ปัญหาขึ้นอยู่กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งชาวบ้าน อุทยาน เจ้าของที่ดิน นักวิชาการในพื้นที่พร้อมเปิดใจ จริงใจ  และจริงจังหรือไม่ในการลงมือแก้ปัญหา ในการรับฟังเสียงของทุกฝ่าย เพราะปัญหานี้คู่กรณีคือ คนกับช้าง ผมว่าช้างเราพอจะบอกเขาได้ด้วยภาษาการเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นไปในทางที่ดีของมนุษย์ ด้วยภาษาว่าพื้นที่นี้เปลี่ยนแปลงไปไม่มีอะไรให้หนูช้างกินนะ ด้วยภาษาว่าเราไม่คุกคามกันนะในพื้นที่นี้  แต่พื้นที่นี้ (บ้านคน) อย่าเข้ามานะ  แต่สำหรับคน ผมว่าเรามีภาษาเดียวกัน  แต่คุยกันยากเหลือเกิน - -"

อนาคตในการจัดการปัญหานี้ต่อไป เราคงต้องจัดการ species เดียวกันก่อน คนเราต้องคุยกันมากขึ้น เพื่อจัดการกับปัญหา ความต้องการ ความเหลื่อมล้ำของสิทธิ์ในการแก้ปัญหาของคนให้เหมาะเจาะลงตัวที่สุด คนอยู่ได้ช้างก็อยู่ได้ครับ ^_^

อ้อ แล้วตกลงคุณ Noppadol หายดีหรือยังครับ น้องริดชี่นี่ร้ายจริง กินผักเยอะๆ นะครับ....อิอิ

seek [ 20 ม.ค. 2553 12:18:33 ]

ความคิดเห็นที่: 17

ขอบคุณ คุณseekนะครับที่ให้ข้อคิดที่ดีมากๆ เลยครับ  ยังไงก็ขอเอาใจช่วยให้ผู้ที่ทำงานด้านนี้ทุกท่านนะครับ อยากเห็นช้างกับคนอยู่ร่วมกันได้โดยกระทบกระทั่งกันน้อยที่สุด (เห็นด้วยครับน้องริดซี่ร้ายจริงๆ  ขออย่าเป็นอีกเลยครับ ขอบคุณมากครับ)

...แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 2553 14:09:26

noppadol [ 20 ม.ค. 2553 14:07:54 ]
noparnon@yahoo.co.th