ความคิดเห็นที่: 1

จุดที่สำรวจปลาได้เยอะที่สุดคือบริเวณลำน้ำจัน เป็นเขตอนุรักษ์ของชาวบ้านเกือบทั้งลำน้ำ ต้องออกห่างหมู่บ้านมากๆ ถึงจะหลุดเขต ปลาดีๆ เยอะแยะได้ใจ เราเก็บเท่าที่จำเป็นอย่างละตัวสองตัว เพื่อมาถ่ายภาพเท่านั้น

...แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 2553 23:55:22

นณณ์ [ 08 ก.พ. 2553 23:54:17 ]

ความคิดเห็นที่: 2

วิธีจับปลาแบบชาวเหนือ กั้นแบ่งลำน้ำแล้วดักให้น้ำไหลฟากเดียว แล้วจับปลาฟากน้ำแห้ง  แต่ก่อนต้องหาจุดที่ลำน้ำแบ่งเป็นสองฝั่งขนหินมาแบบแค่ทำมือ เดี๋ยวนี้มันส์จริงๆ  พวกเล่นเอาแบคโฮล ลงไปขุด แต่งไว้ทั้งลำธารเลยเชียว!!!!!!!!!!!  

ลำธารนี้ปลาน้อยได้ใจ....เช่นกัน

นณณ์ [ 08 ก.พ. 2553 23:58:09 ]

ความคิดเห็นที่: 3

ถึงดอยอินทนนท์คืนแรกก็ได้ร่วมสำรวจกับคณะจากองค์การสวนสัตว์ มาเก็บตัวอย่างเมือกสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกไปหาเชื้อรา  แต่ทริปนี้เจอน้อยมากๆ  คงเพราะอากาศทั้งแห้งทั้งหนาว

ไปรอบหน้าต้องไม่ลืมพกเครื่องวัดความชื้นไปด้วย เพราะรอบนี้ได้ แต่ใช้ความรู้สึก และความแห้งของหน้าแข้ง

...แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 2553 00:01:25

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:00:02 ]

ความคิดเห็นที่: 4

เช้าขึ้นมาสำรวจลำธารน้ำตกห้วยทรายเหลือง ลงจากรถลงไปเห็นสภาพลำธาร ถึงกับช๊อค ตะโกนลั่นว่า "เฮ้ยฝาย!" แล้วก็เห็นเงานกตัวสีขาวๆ ดำๆ บินหนีไปสองตัว คุณพี่ดูนกกันอยู่ข้างๆ  หันมามองตาเขียว...

ตกใจจริงๆ  ดูสภาพเปรียบเทียบปีนี้กับปีที่แล้วสิ....  

ปีที่แล้ว ผมกับบักท่อกดำสำรวจกันตั้ง แต่สะพานปูนถึงใต้น้ำตก เจอปลาค้างคาวอย่างน้อยๆ ก็ 20 ตัว ยังมีพวกที่ตักด้วยสวิงด้วยอะไรอีก รวมๆ แล้วต้องมี 30 ตัว ปีนี้ดำกับนายตุ้ย ปลาค้างคาวที่พบมีจำนวน 0 ตัว  และที่จำได้อีกอย่างคือเจอปูตัวเล็กตัวน้อยเยอะมาก เยอะจนมีความหวังว่าตอนกลางคืนจะต้องได้เจอเต่าปูลู ปีนี้เจอปู 0 ตัว เซ็งเป็ด

ดูสภาพพื้นลำธาร จากที่เคยเป็นหินก้อนๆ  กลายเป็นพื้นทราย จากที่น้ำเคยไหลแรงเป็นแก่งตลอดสาย กลายเป็นน้ำลึกผิวเรียบ จากที่เคยมีหินใหญ่วางกั้นเป็นแก่งเล็กแก่งน้อย หินถูกนำไปวางกั้นลำน้ำเป็นฝาย แถมไม้ที่ใช้ทำฝายยังเป็นไม้ที่ตัดจากไม้ยืนต้นอีก แล้วท่อนๆ หนึ่งเท่าแขนเท่าน่อง อายุคง 3-4 ปีเป็นอย่างน้อย

...แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 2553 01:15:31

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:04:33 ]

ความคิดเห็นที่: 5

หมายที่สอง อยู่เหนือน้ำตกวชิรธาร น้ำปีนี้มากกว่าปีที่แล้ว เจอปลาชนิดเท่าเดิม  แต่จำนวนปลาค้างคาวน้อยลงไปหน่อย ส่วนหนึ่งเพราะจุดที่สำรวจเจอปีที่แล้วน้ำยังแรงลงสำรวจไม่ได้

ใครไม่เคยดำลงไปดู อาจจะคิดว่ามีลำธารปลาก็อยู่ได้ไปทั่ว  แต่จริงๆ แล้วปลาค้างคาว มีถิ่นอาศัยที่จำเพาะของมัน อย่างในภาพจุดที่สำรวจเจอ จะอยู่ตรงลูกศรชี้ ต้องเป็นแก่งน้ำไหลแรงมาก ที่มีก้อนหินขนาดใหญ่เป็นซอกหลืบ ไม่ใช่มีน้ำปลาก็อยู่ได้อย่างที่หลายคนเข้าใจ มันต้องการนิเวศจำเพาะของมันมากๆ

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:11:30 ]

ความคิดเห็นที่: 6

ไม่ใช่มีแก่งน้ำแรงอย่างเดียวแล้วปลาค้างคาวจะอยู่ ตรงแก่งต้องมีหินก้อนใหญ่ๆ  ที่มีซอกเหลือบ มีมิติครบถ้วน ร้อยทั้งร้อย ปลาจะหลบอยู่ด้านใต้ก้อนหิน ไม่ได้เกาะเหน่งๆ แบบในภาพ ที่ถ่ายมานี่ คือเขี่ยมันออกมาถ่าย

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:15:07 ]

ความคิดเห็นที่: 7

ลองดูภาพนี้ เป็นภาพใต้น้ำของลูกศรสีชมพูด้านซ้ายมือในภาพคคห.ที่5 จุดที่น่าจะมีปลาอยู่ จะอยู่ด้านล่างของหินตามจุดที่ชี้ลูกศรไว้  ถ้ามีทรายมาทับถมเสีย ไม่มีด้านล่างให้ปลาหลบ ปลาก็ไม่อยู่  ถ้าไม่มีหินก้อนใหญ่ๆ ให้ปลาหลบ ปลาก็ไม่อยู่ จบข่าว

หมายนี้เจอปลาอย่างน้อย 3 ตัว

...แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 2553 01:16:32

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:20:46 ]

ความคิดเห็นที่: 8

เดี๋ยวลืมๆ  อันนี้ปูอะไรครับเนี๊ย?  เพศเมีย มีทั้งไข่มีทั้งลูกเล็กๆ เกาะอยู่ตามขา เปิดไปเจอทำคุณแม่ตกใจ เกรงใจมากๆ

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:21:41 ]

ความคิดเห็นที่: 9

ถ่ายได้ภาพนี้แล้วหายหนาวหายเหนื่อย เป็นภาพปลาค้างคาวที่ดีที่สุดที่ถ่ายมาหลายปี!!

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:26:39 ]

ความคิดเห็นที่: 10

มางานนับนก เอาภาพนกไปบ้าง...

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:28:42 ]

ความคิดเห็นที่: 11

กับตัวนี้

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:31:46 ]

ความคิดเห็นที่: 12

มันคงคิดกันแบบนี้...

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:36:45 ]

ความคิดเห็นที่: 13

แจ่ม มากมาย

แต่หนูสงสัยว่าทำมายต้องเป็นเพลงนี้อ่ะ

Trichoptera [ 09 ก.พ. 2553 00:37:58 ]

ความคิดเห็นที่: 14

นกมันว่านะ ผมไม่เกี่ยว...

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:43:33 ]

ความคิดเห็นที่: 15

ลงภาพประกอบให้นกมันหน่อย...

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:45:00 ]

ความคิดเห็นที่: 16

อีกสักภาพ

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:46:14 ]

ความคิดเห็นที่: 17

พวกนกปากมาก...

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:49:42 ]

ความคิดเห็นที่: 18

ภาพประกอบให้นกมัน

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:50:45 ]

ความคิดเห็นที่: 19

ตึกโป๊ะ!

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:55:23 ]

ความคิดเห็นที่: 20

นะ...

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 00:58:12 ]

ความคิดเห็นที่: 21

เพื่อนท่อกไม่ไปด้วยนี่ขาดคู่หูดำน้ำไปเลย  แต่ก็ยังได้ นายแมลง เสือหัวดำ กับนายมะเดี่ยวมาร่วมแจมเป็นช่วงๆ  ให้อุณหภูมิ 19C ไม่หนาวจนเกินไปนัก

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 01:00:15 ]

ความคิดเห็นที่: 22

เฟิร์นหิน...

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 01:01:06 ]

ความคิดเห็นที่: 23

ป้าดูแลบ้าน A-frame ปลูกผักผลไม้ไว้รอบๆ บ้าน สตรอเบอรี่ป้า ไร้สารพิษใดๆ  ไม่ใส่แม้กระทั่งปุ๋ย ป้าบอกว่ามีรสชาติดีหอมหวานกว่าพวกลูกใหญ่ๆ ที่เร่งปุ๋ยกันมา ลองซื้อมากินก็เป็นตามป้าว่า ของป้าหอมหวานอร่อยมาก  แต่พวกลูกใหญ่ๆ งามๆ  จืดชืดยังกับกินโฟม....

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 01:02:55 ]

ความคิดเห็นที่: 24

เป็นการเดินกลางคืนที่ครึกครื้นที่สุดตั้ง แต่เคยเดินมา

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 01:03:47 ]

ความคิดเห็นที่: 25

โผล่ออกมากันเห็นๆ ....

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 01:04:12 ]

ความคิดเห็นที่: 26

เด็กๆ ชาวบ้านจับได้แถวๆ  กม. 16 หำน้อยปลาจาด Poropuntius bantamensis แม่นบ่? ที่งงๆ เพราะมีความรู้สึกว่ามันยาวกว่า  และอีตัวเล็กๆ พวกนี้บางตัวทะลึ่งมีสิวขึ้นที่ปากซ่ะแล้ว

...แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 2553 01:06:15

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 01:05:37 ]

ความคิดเห็นที่: 27

ใครบางคนบอกว่าจะรีบออกไปเก็บ trapแมลงตอน 7.30 ภาพนี้ถ่ายตอน 9 โมงกว่า...

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 01:07:06 ]

ความคิดเห็นที่: 28

รักเราอยู่ท่ามกลางสายลมเหน็บหนาว
สองเราต่างมีทางห่างกันแสนไกล
รักเราก็คือรักเราเพียงเพราะรู้ใจ
แม้จะชิดใกล้  แต่ก็คงไม่นาน

สองคนต่างคงคิดเหมือนกัน และกัน
ฉันเธอต่างบอกกันแทนด้วยสายตา
รักเราก้คือรักเราเพียงแค่มองหา
รักของเราอาจ กลับมาพบ..พบกัน

สองเรานั้นมันเหมือนมี..มีกำแพงกั้น
แค่รักนั้นฝันของสองเรา..ไม่มีวัน
สุดแรงที่จะฝืนอยู่คนละปลายฟ้า
 แต่เรายังมีเวลาที่จะรอกัน

เพราะฉัน และเธออยู่เคียงข้างกัน
แม้จะเปรียบอยู่คนละหนทาง
จะไม่หวั่นหากฉัน และเธอมี..มีรักอยู่
ต่างยังรู้ว่าในหัวใจ แม้ว่าฟ้าสลายไป
จะรับรู้ไว้ว่าต่างยังมีกัน

มีฉัน และเธออยู่เคียงข้างกัน
แม้จะเปรียบอยู่คนละหนทาง
จะไม่หวั่นหากฉัน และเธอมี..มีรักอยู่
โปรดจงรู้ว่าในหัวใจ อยากจะบอกอยากให้รู้
แค่มีรักอยู่...เปรียบสองเราอยู่

เราจะสู้เพื่อคุณ

...แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 2553 01:20:16

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 01:11:29 ]

ความคิดเห็นที่: 29

โอ๊ย เลือดไหล............

Trichoptera [ 09 ก.พ. 2553 01:22:03 ]

ความคิดเห็นที่: 30

: Trichoptera

โอ๊ย เลือดไหล............

มุกไหนฟ่ะเนี๊ย?

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 01:23:12 ]

ความคิดเห็นที่: 31

โดนแทงเลือดสาดเลย ทำกันได้
(ก็อากาศมันหนาวนิน่า เลยนึกว่ายังเจ็ดโมงอยู่อ่ะดิ)
ก็ไอ้คุณเพื่อนตุ้ยช้าอ่ะดิ พี่นณณ์
ก็....
ก็.......

Trichoptera [ 09 ก.พ. 2553 01:26:08 ]

ความคิดเห็นที่: 32

เหตุเกิด ณ เวลาหลายทุ่ม

ป้าปลา ป้าแอ๋ว ป้าปอ  และลุงโจ ต่างพร้อมใจกันจะไปนอน บอกว่าต้องไปพักแหล่ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่น แต่เช้า ไปเก็บตัวอย่าง กลับไปก็ต้องกางแทรปดักแมลงอีกอะไรอีก เพราะงั้น จะไม่เดินกลางคืนต่อ เลยกลับไปถึงบ้านเวลาประมาณสามทุ่มนิดๆ   แต่กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ห้าทุ่มกว่า แทนที่จะไปนอน เรามาล้อมวงกินไก่รอบกองไฟกันซะงั้น !?!

ก่อนนอน ป้าแอ๋วบอกว่า เราจะตื่นมา แต่เช้า ราวเจ็ดโมงก่าๆ  ออกไปทำงานอย่างขยันขันแข็ง โดยการเก็บตัวอย่างที่อุตส่าต์เหนื่อยยากไปวางกับดักมา คาดว่าจะมีหนอนปลอกงามๆ ให้ชื่นชมหลายตัว ให้สมกับที่ตั้งใจบุกป่าฝ่าลำธารขึ้นมาถึงนี่ให้ได้ชื่นใจบ้าง จะไล่เก็บตั้ง แต่ข้างบนลงมาข้างล่าง ดูประชากรของแมลงน้ำที่พบในปีนี้ไว้เป็นข้อมูล แล้วสายๆ  จะได้ไปนั่งจิบกาแฟบนกิ่วแม่ปาน

ปรากฏว่าผมตื่นมาตอนเจ็ดโมงสี่สิบ บ้านเอเฟรมตกอยู่ในความเงียบสงัด ประหนึ่งไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตใดๆ กล้ำกรายเข้ามาก่อน นอนฟังไอพอดก็แล้ว อ่านหนังสือก็แล้ว แปดโมงก็แล้ว ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

จนกระทั่งเก้าโมงนั่นแล.... ถึงจะเริ่มมีคนลอกคราบออกมาจากปลอกดักแด้ แล้วสะโหลสะเหลเดินไปขึ้นรถท่อกๆ แท่กๆ ออกไปทำไอ้ที่ว่าจะทำตั้ง แต่เจ็ดโมงครึ่ง!

Mb. [ 09 ก.พ. 2553 02:19:43 ]

ความคิดเห็นที่: 33

โห ดูครึกครื้นดีจัง ... Alex ก็ทำเนียนไปกับเขาด้วย ฮ่าๆๆๆๆ

ก๊ง [ 09 ก.พ. 2553 08:56:04 ]

ความคิดเห็นที่: 34

: Mb.

เหตุเกิด ณ เวลาหลายทุ่ม

ป้าปลา ป้าแอ๋ว ป้าปอ   และลุงโจ ต่างพร้อมใจกันจะไปนอน บอกว่าต้องไปพักแหล่ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่น  แต่เช้า ไปเก็บตัวอย่าง กลับไปก็ต้องกางแทรปดักแมลงอีกอะไรอีก เพราะงั้น จะไม่เดินกลางคืนต่อ เลยกลับไปถึงบ้านเวลาประมาณสามทุ่มนิดๆ     แต่กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ห้าทุ่มกว่า แทนที่จะไปนอน เรามาล้อมวงกินไก่รอบกองไฟกันซะงั้น !?!

ก่อนนอน ป้าแอ๋วบอกว่า เราจะตื่นมา  แต่เช้า ราวเจ็ดโมงก่าๆ   ออกไปทำงานอย่างขยันขันแข็ง โดยการเก็บตัวอย่างที่อุตส่าต์เหนื่อยยากไปวางกับดักมา คาดว่าจะมีหนอนปลอกงามๆ  ให้ชื่นชมหลายตัว ให้สมกับที่ตั้งใจบุกป่าฝ่าลำธารขึ้นมาถึงนี่ให้ได้ชื่นใจบ้าง จะไล่เก็บตั้ง  แต่ข้างบนลงมาข้างล่าง ดูประชากรของแมลงน้ำที่พบในปีนี้ไว้เป็นข้อมูล แล้วสายๆ   จะได้ไปนั่งจิบกาแฟบนกิ่วแม่ปาน

ปรากฏว่าผมตื่นมาตอนเจ็ดโมงสี่สิบ บ้านเอเฟรมตกอยู่ในความเงียบสงัด ประหนึ่งไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตใดๆ  กล้ำกรายเข้ามาก่อน นอนฟังไอพอดก็แล้ว อ่านหนังสือก็แล้ว แปดโมงก็แล้ว ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

จนกระทั่งเก้าโมงนั่นแล.... ถึงจะเริ่มมีคนลอกคราบออกมาจากปลอกดักแด้ แล้วสะโหลสะเหลเดินไปขึ้นรถท่อกๆ  แท่กๆ  ออกไปทำไอ้ที่ว่าจะทำตั้ง  แต่เจ็ดโมงครึ่ง!

เผากันเห็นๆ  5555

กวิวัฏ [ 09 ก.พ. 2553 09:54:11 ]

ความคิดเห็นที่: 35

มาชมภาพสวยๆ ครับ

Paphmania [ 09 ก.พ. 2553 10:45:41 ]

ความคิดเห็นที่: 36

เห็นฝายแล้วเศร้าแทนสิ่งมีชีวิตทุกตัวบนดอยอินท์

ศาลพระภูมิสวยจริงๆ พี่

GreenEyes [ 09 ก.พ. 2553 11:33:23 ]

ความคิดเห็นที่: 37

ก็มันคือ ฝายเลว ไง ผลงาน รมต ที่หัวกลวง คิด แต่เรื่อง คอมมิสชั่น (Commission=Corruption in some context)

waterpanda [ 09 ก.พ. 2553 12:13:31 ]

ความคิดเห็นที่: 38

: Trichoptera

โดนแทงเลือดสาดเลย ทำกันได้
(ก็อากาศมันหนาวนิน่า เลยนึกว่ายังเจ็ดโมงอยู่อ่ะดิ)
ก็ไอ้คุณเพื่อนตุ้ยช้าอ่ะดิ พี่นณณ์
ก็....
ก็.......

เอ....  แต่คืนนั้นป้าบ่นร้อนทั้งคืนเลยนี่นา อิอิอิ

ยายอ้วน [ 09 ก.พ. 2553 15:05:37 ]

ความคิดเห็นที่: 39

: นณณ์

ป้าดูแลบ้าน A-frame ปลูกผักผลไม้ไว้รอบๆ  บ้าน สตรอเบอรี่ป้า ไร้สารพิษใดๆ   ไม่ใส่แม้กระทั่งปุ๋ย ป้าบอกว่ามีรสชาติดีหอมหวานกว่าพวกลูกใหญ่ๆ  ที่เร่งปุ๋ยกันมา ลองซื้อมากินก็เป็นตามป้าว่า ของป้าหอมหวานอร่อยมาก   แต่พวกลูกใหญ่ๆ  งามๆ   จืดชืดยังกับกินโฟม....

แจ่มจัง.....ได้บรรยากาศมาก...เก็บเสร็จ..เช็ดเสื้อ..แล้วก็ย่อนลงปาก ^.^

: นณณ์

โผล่ออกมากันเห็นๆ  ....

พี่น็อตเก็บด่วน หุหุ

: นณณ์

รักเราอยู่ท่ามกลางสายลมเหน็บหนาว
สองเราต่างมีทางห่างกันแสนไกล
รักเราก็คือรักเราเพียงเพราะรู้ใจ
แม้จะชิดใกล้   แต่ก็คงไม่นาน

สองคนต่างคงคิดเหมือนกัน  และกัน
ฉันเธอต่างบอกกันแทนด้วยสายตา
รักเราก้คือรักเราเพียงแค่มองหา
รักของเราอาจ กลับมาพบ..พบกัน

สองเรานั้นมันเหมือนมี..มีกำแพงกั้น
แค่รักนั้นฝันของสองเรา..ไม่มีวัน
สุดแรงที่จะฝืนอยู่คนละปลายฟ้า
  แต่เรายังมีเวลาที่จะรอกัน

เพราะฉัน  และเธออยู่เคียงข้างกัน
แม้จะเปรียบอยู่คนละหนทาง
จะไม่หวั่นหากฉัน  และเธอมี..มีรักอยู่
ต่างยังรู้ว่าในหัวใจ แม้ว่าฟ้าสลายไป
จะรับรู้ไว้ว่าต่างยังมีกัน

มีฉัน  และเธออยู่เคียงข้างกัน
แม้จะเปรียบอยู่คนละหนทาง
จะไม่หวั่นหากฉัน  และเธอมี..มีรักอยู่
โปรดจงรู้ว่าในหัวใจ อยากจะบอกอยากให้รู้
แค่มีรักอยู่...เปรียบสองเราอยู่

เราจะสู้เพื่อคุณ

ดอกอะไรคค่ะ...สวยจังอยกาทราบชื่อ...ใครทราบบ้างค่ะ

หมูตู้ [ 09 ก.พ. 2553 15:30:27 ]

ความคิดเห็นที่: 40

ทีมงานมากมายจริงๆ ครับ หนุกหนานน

ต้ล [ 09 ก.พ. 2553 15:32:46 ]

ความคิดเห็นที่: 41

: นณณ์

เป็นการเดินกลางคืนที่ครึกครื้นที่สุดตั้ง  แต่เคยเดินมา

ภาพนี้ผมไม่อยู่แฮะ หลงอยู่ในรูออกมาไม่เจอใครด้านนอกเลย ๕๕๕

Portrait [ 09 ก.พ. 2553 16:10:14 ]

ความคิดเห็นที่: 42

#8 ปูดูคล้ายๆ  กับตัวจากดอยสุเทพ (ดังในภาพนี้จากกระทู้เก่า) ซึ่ง อยู่ในพื้นที่ที่มีปูชนิด Doimon doisutep (Naiyanetr & Ng, 1990)

จึงอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นปูในสกุลเดียวกันเป็นอย่างน้อย โดยปูในสกุลนี้มีที่ค้นพบแล้วอยู่อีกสองชนิดคือ D. doichiangdao (Naiyanetr & Ng, 1990)  และ D. maehongsonense (Naiyanetr, 1992)

จากกระทู้
http://www.siamensis.org/board/12826.html

...แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 2553 17:09:45

นกกินเปี้ยว [ 09 ก.พ. 2553 17:09:03 ]

ความคิดเห็นที่: 43

มาฟังนกคุยกัน นกแถวนี้ฉลาดมากมองทะลุปรุโปร่งเลย

JJ [ 09 ก.พ. 2553 21:09:33 ]

ความคิดเห็นที่: 44

สร้างฝายในพื้นที่ต้นน้ำเพื่ออะไร พื้นที่ไหนควรสร้างหรือไม่ควรสร้างผู้ที่อยู่่ในพื้นที่น่าจะรู้ (ไม่ขอสาธยายต่อเพราะ ถ้าบอกตามความคิดผมแล้วแรงครับ ชอบอ้างกระแสพระราชดำรัสกันจัง) แต่เห็นแล้วหดหู่จริงๆ

noppadol [ 09 ก.พ. 2553 21:40:43 ]
noparnon@yahoo.co.th

ความคิดเห็นที่: 45

กระผมไม่ได้อยู่ในห้องประชุม  แต่อยากทราบข้อมูลที่ท่านหัวหน้าอุทยานใช้โต้แย้งพี่นณณ์ในประเด็นฝายที่ห้วยทรายเหลืองน่ะครับ พอมีใครเล่าให้ฟังได้บ้างมั๊ยครับ

Alakazum [ 09 ก.พ. 2553 22:31:25 ]

ความคิดเห็นที่: 46

พี่นณณ์ครับ ขออนุญาตินำข้อมูลในคห.ที่4  และข้อมูลแวดล้อมกรณีฝายต้นน้ำไปตีแผ่หรือกระทุ้งให้เหล่าบริษัท องกรณ์ ชมรม หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการจัดสร้างฝายต้นน้ำเหล่านั้นได้รู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ครับ

ปล.  ถ้าได้ อยากถามว่า ชุดข้อมูลของบริษัทใหญ่ๆ ที่เข้าไปสร้างฝายที่ห้วยทรายเหลืองนี้(เท่าที่สืบค้นได้มี2บริษัทใหญ่ๆ คือปริษัทประกันภัยชื่อดังแห่งหนึ่ง  และบริษัทผลิตไฟฟ้าชื่อดังแห่งหนึ่ง) ควรจะตีแผ่ข้อมูล ด้วย ไม้อ่อน หรือไม้แข็งดีครับ

ข้อดีของไม้อ่อนคือ บริษัทเหล่านั้นจะได้รับทราบด้วยข้อมูล และอาจมีการปรับปรุงในการสร้างอิมเมจให้องกรณ์ในด้านการใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมให้มากกว่านี้

สำหรับผม อยากใช้ไม้แข็ง เพื่อจุดประเด็นให้ผู้คนหันมาสนใจปัญหานี้อย่างจริงจัง เพราะหนึ่งในบริษัทนั้น มีข้อพิพาทกับชาวบ้าน และองกรณ์ด้านสิ่งแวดล้อมในเรื่องการสัมปทานผลิตพลังงานในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทยมากมาย  และพยายามสร้างอิมเมจของบริษัทในด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้คำนึงถึงมันจริงๆ อยู่ตลอดเวลา จนพักหลังๆ หันไปสัมปานการผลิตพลังงานบนพื้นที่ป่า และพื้นที่ชนกลุ่มน้อยของประเทศเพื่อนบ้านกันแล้ว เพราะทนแรงกดดันชาวบ้าน และNGOในหลายๆ พื้นที่ไม่ไหว

... ถ้าRep.นี้ไม่เหมาะสมทำการลบได้เลยนะครับ ^^'

...แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 2553 23:38:13

Alakazum [ 09 ก.พ. 2553 23:36:52 ]

ความคิดเห็นที่: 47

: Alakazum

กระผมไม่ได้อยู่ในห้องประชุม   แต่อยากทราบข้อมูลที่ท่านหัวหน้าอุทยานใช้โต้แย้งพี่นณณ์ในประเด็นฝายที่ห้วยทรายเหลืองน่ะครับ พอมีใครเล่าให้ฟังได้บ้างมั๊ยครับ

.

อย่าใช้คำว่าโต้แย้งเลยครับ เรียกว่าพูดคุยกันดีกว่า (ว่า แต่เจ็บใจจริงๆ ที่พวกเราเข้าไปฟังกันไม่ทัน ย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้มาฟังให้ทัน)  

คือพอผมรายงานจบเนี๊ย พิธีกรก็ให้เล่าให้ฟังเรื่องผลกระทบของฝายโดยรวมว่าเป็นอย่างไรบ้าง พอผมพูดจบ หมอหม่องก็ลุกขึ้นมาถามหัวหน้าอช.เลยว่า "รื้อได้ไหมครับฝายชุดนี้ ในเมื่อเห็นผลกระทบชัดเจน"

คำอธิบายของหัวหน้าคือ ฝายดังกล่าวถูกสร้างโดยองค์กรหนึ่ง ซึ่ง เข้ามาขอสร้าง ประมาณว่าสร้างจิตสำนึกที่ดีในการอนุรักษ์ ดังนั้นจะไปรื้อของเค้าก็เกรงใจ  และท่านมองว่าฝายดังกล่าวทำหน้าที่ดักตะกอนได้ดี  และเป็นการมองต่างมุมกัน

สำหรับองค์กรที่เข้ามาสร้างฝาย สืบทราบมาว่าเป็นมูลนิธิแห่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ป่า ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากบริษัทฯ ผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ชื่อย่อคล้ายไข่...ก็ได้คุยกับหมอหม่องไว้แล้วครับ ว่าจะจัดทำรายงานส่งให้ทั้งทางอุทยานฯ  มูลนิธิฯ   และบริษัทฯ ดังกล่าว เพื่อชี้แจงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากฝายชุดดังกล่าว เพื่อทำการขอรื้อถอนต่อไป

ปล.  ถ้าได้รื้อจริงๆ  จะไปรื้อด้วยตัวเอง สาบาน

นณณ์ [ 09 ก.พ. 2553 23:57:37 ]

ความคิดเห็นที่: 48

ผมยังยืนยันนะว่า พวกสร้างฝาย ยังน่าจะคุยกันรู้เรื่อง เพราะมีจิตใจที่จะอนุรักษ์ เพียง แต่ว่าฟังข้อมูล ฟังความแล้วยังขาดข้อมูลในการประมวลผล  และยังขาดความเข้าใจในระบบนิเวศที่ค่อนข้างเฉพาะของลำธารต้นน้ำ การมีกิจกรรมอนุรักษ์ เป็นเรื่องที่ดี  แต่อยากให้ทำด้วยความรู้ ความเข้าใจ  และ สติมากกว่าที่เป็นอยู่ ผมกำลังค้นคว้าหากิจกรรมอื่นๆ  ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ลำธารต้นน้ำ ปรับปรุงแหล่งน้ำให้มีระบบนิเวศที่ดีขึ้น เพื่อให้เป็นกิจกรรมทางเลือกแทนการสร้างฝาย ซึ่ง  ถ้าทำสำเร็จก็คงจะดีไม่น้อย ยืนยันว่าไม้อ่อนนะน้อง ค่อยๆ อธิบายทำให้เข้าใจ ดึงเขามาเป็นพวก อย่าทำพวกเดียวกันให้กลายเป็นศัตรู เหตุผลเรามี เหตุผลเค้ามี คิดดีเหมือนกัน  แต่อาจจะมองอยู่คนละมุม ค่อยๆ คุยกันแล้วจะดีเอง เรื่องชนตรงๆ  แล้วก่อศัตรู ทำแล้วอาจจะได้ผล แต่ไม่ได้เพื่อน

นณณ์ [ 10 ก.พ. 2553 00:02:16 ]

ความคิดเห็นที่: 49

ผมว่าใช้ไม้อ่อนก็ดีเหมือนกันนะครับ
เพื่อนๆ  หลายคนที่เคยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
บางทีเค้าก็มองในมุมกว้างๆ  ว่ามันเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ป่า ต้นไม้มากขึ้น สัตว์มากขึ้น ฯ ลฯ  
แต่อาจจะลืมมองถึงผลกระทบต่อ micro habitat ของสัตว์ แต่ละชนิดที่มีต่างกัน
การวิวัฒนาการทางสันฐานของสัตว์ แต่ละชนิด การปรับตัวให้เข้ากับสภาพพื้นที่ ที่จำเพาะ

คงต้องค่อยๆ  ทำความเข้าใจกันล่ะครับว่า แม้ แต่ทะเลทรายที่ว่าแห้งแล้ง
ก็ยังเป็นระบบนิเวศที่สมบูรณ์ได้ดีพอๆ  กับ นิเวศของป่าดิบ

ความยึดมั่นถือมั่นของคน มันมากน้อยต่างกันเยอะ
เค้าก็คงคิดว่าสิ่งที่เค้ารู้ ดีที่สุดแล้ว(รวมถึงตัวเราด้วย)
ใช้ไม้อ่อน ค่อยๆ  อธิบายแล้วดึงเค้ามาเป็นพวกก็น่าจะดี อย่างพี่นณณ์ ว่าไว้ครับ

...แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 2553 00:35:34

คนนั้น [ 10 ก.พ. 2553 00:34:29 ]

ความคิดเห็นที่: 50

ขอสมมุติเหตุการณ์สักเหตุการณ์นึงครับ

มีนักต้มตุ๋นรายหนึ่ง พยายาม แต่งตัวให้ดูดีที่สุดเพื่อไปหลอกตุ๋นชาวบ้านให้คล้อยตามตน

พยายามหาเสื้อสูทที่ดูสวยที่สุดมาใส่เพื่อเดินเข้าไปหาชาวบ้าน

สมมุติตัวเรา เป็นดั่งช่างเย็บผ้ามือหนึ่ง เรามองเห็น ว่าสูทตัวนั้นขาดรุ่งริ่ง ทั้งด้านหลัง  และภายใน

ถ้าสมมุติ เรารู้ตัวตน  และรู้เจตนาหลักๆ ของคนใส่สูทตัวนั้น

เราจะเลือก 1.กระชากสูทตัวนั้น ออกมาตีแผ่คนที่ใส่มันอยู่ข้างใน  หรือ

         2.ช่วยกันเย็บมัน เพื่อให้เขาใส่สูทที่สวยหรูขึ้น ไปหลอกชาวบ้านต่อ

......

ผมกลัวว่า วันนึงจุดที่เราชี้ให้เค้าเห็นเหล่านั้น จะย้อนไปเป็นเครื่องมือบางอย่างของบริษัทดังกล่าว ทำร้ายซ้ำเติมชาวบ้านน่ะครับ

Alakazum [ 10 ก.พ. 2553 02:16:06 ]

ความคิดเห็นที่: 51

ฝายมา หอยต้นน้ำหลายชนิดกระทบแหงมๆ ....

จอม [ 10 ก.พ. 2553 08:07:09 ]

ความคิดเห็นที่: 52

ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก Alakazum ผมบอกแล้วไง ว่าคนสร้างฝายส่วนใหญ่มีเจตนาดี ต้องการช่วยธรรมชาติ เค้าไม่ได้หลอกลวง และไม่ได้โดนหลอก เพียง แต่กำลังเข้าใจผิดกันอยู่ เราค่อยๆ ปล่อยข้อมูลออกไป สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง นำเสนอข้อมูลในทางลบ และทางที่มันควรจะเป็น มันจะดีกว่าไปลุยด่าเขา ที่เหนื่อยตอนนี้คือ เรามันเป็นเสียงที่เล็กน้อยเหลือเกิน เมื่อเทียบกับกระบอกเสียง "ฝายดี" บางทีก็ท้อเหมือนกัน  

การยกตัวอย่างชายในเสื้อสูทไม่ถูกเสียทีเดียวหลอก alakazum ช่วยพี่ลุยด้วย  แต่เราต้องไปด้วยสติ และหลักวิชาการที่อีกฝ่ายยอมรับ และไม่อาจเถียงได้ อารมณ์เย็นๆ  ฟังเพลงนี้ไปก่อน

http://www.youtube.com/watch?v=Q29YR5-t3gg

...แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 2553 11:22:01

นณณ์ [ 10 ก.พ. 2553 10:03:39 ]

ความคิดเห็นที่: 53

ถึงเวลารื้อ ขอผมเป็นคนชุดชนวนระเบิดนะ ฮี่ๆ  
(เอ๊ะ ใช้ระเบิดไม่ได้ดิเนี่ย อยู่ใน อช)

GreenEyes [ 10 ก.พ. 2553 11:41:43 ]

ความคิดเห็นที่: 54

เห็นด้วยกับคุณนณณ์ครับ ว่าเขามองโลกโดยความเชื่อ แต่ไม่มีเหตุผล เชื่อว่าสิ่งที่ทำนั้นดี โดยลืมมองไปว่าไอ้ที่เขาทำนั้นมันเกิดผลลบอย่างไรบ้าง ในความเห็นส่วนตัวผม พื้นที่อุทยานแห่งชาติตอยอินทนนท์ แห่งนี้มันมีฝายในตัวมันเอง อยู่อย่างสมบูรณ์ของมันอยู่ในตัวอยุ่แล้ว เพราะความชื้นในดิน ระดับน้ำใต้ดิน  และมีรากไม้มันช่วยอุ้มน้ำ  ทำให้สามารถปล่อยน้ำออกมาให้มีน้ำตลอดทั้งปี ลำธารในอุทยานแห่งนี้จึงไม่ได้ต้องการฝายมาเพื่อกักเก็บน้ำเพิ่ม  

ในทางกลับกันผมว่า ฝายเองก็ไม่ใช่ผู้ร้ายไปเสียทีเดียว พื้นที่หลายแห่งที่เป็นพื้นที่แห้งแล้ง และไม่มีน้ำในช่วงหน้าแล้ง กลับต้องการความชุ่มนี้ พื้นให้ต้นไม้แ และสัตว์น้ำหลายชนิดได้เติบโต กลับไม่ได้รับการเหลียวแล เพียงเพราะว่า มันไม่ได้เป็นอุทยานที่มีชื่อเสียงพอที่จะทำให้คนทั่วไปจดจำ (ซึ่ง หมายความว่าการประชาสัมพันธ์ของเขาไม่สัมฤทธิผลเท่าที่หวัง)

ผมยังเชื่อเหมือนคุณนณณ์อีกว่า การโน้มน้าวเพื่อทำให้คนอื่นมองเห็นเหมือนที่เราเห็น เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กว่าการไปสร้างความขุ่นเคืองอารมณ์ด้วยเหตุผลที่ว่าเราถูก

สมหมาย [ 10 ก.พ. 2553 12:31:44 ]

ความคิดเห็นที่: 55

ดอกในภาพคคห.ที่ 28 เป็นพวกกลุ่ม ซากุระ/พญาเสือโคร่ง แหล่ะครับ น่าจะเป็นพวกลูกท้อ หรืออะไรประมาณนั้น ไม่ใช่ไม้ป่าไทยครับ ปลูกอยู่หลังบ้านลุงแดง เห็นมันออกดอกสวยดี

นณณ์ [ 10 ก.พ. 2553 13:13:31 ]

ความคิดเห็นที่: 56

มายืนยันเรื่องปรับความคิด มุมมองให้เห็นหลายๆ มุม(ที่ต่างคนต่างมี)ให้รับรู้ด้วยกัน จะเป็นนวทางแก้ปัญหาได้ดีกว่าครับ ในส่วนของหัวหน้าอุทยานเองก็ได้รับรู้ถึงปัญหา  แต่ที่เป็นปัญหาจริงๆ มันอยู่อีกระดับหนึ่ง(หรือกว่านั้น) อุทยานทำหน้าที่เป็นแพะ  ส่วนองค์กร(ไม่ใช่ องกรณ์ นะ)ต่างๆ พี่ก็ยังเชื่อว่ามีเจตนาที่ดี เรื่องฝายนี่ ถ้าเปิดใจกันแล้วแก้ไขปรับปรุงไม่ยากหรอก  แต่ ถ้าใช้การชี้ว่ามีใครผิด ย่อมมีการตอบโต้ป้องกันตัวไว้ก่อนเสมอ ดังนั้นแทนที่จะให้เขาใช้งบในการป้องกันตัวมาเป็นปรับเข้าหาจุดที่เหมาะสมน่าจะดีกว่ามิใช่หรือ

ขอให้น้องใจเย็นๆ  ค่อยๆ คิด คิดแล้วก็ยังคิดทบทวนได้อีกครับ

knotsnake [ 10 ก.พ. 2553 15:09:23 ]

ความคิดเห็นที่: 57

การรื้อฝายห้วยทรายเหลือง  และฟื้นฟูระบบนิเวศเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง  แต่ต้องอยู่บนฐานของวิชาการ และมีการติดตามผลต่อเนื่อง
อาจเป็นกรณีศึกษา และกลายเป็นแผนแม่บทของการทบทวนก่อนสร้างฝายอื่นๆ ในกรณีจำเป็นก็ได้
ข้อสำคัญ คือ เจ้าของที่ และโตรงการ กล้าที่จะเสียหน้า(ในระยะสั้นๆ )หรือเปล่าเท่านั้น

waterpanda [ 10 ก.พ. 2553 21:06:24 ]

ความคิดเห็นที่: 58

quote author=นณณ์]ดอกในภาพคคห.ที่ 28 เป็นพวกกลุ่ม ซากุระ/พญาเสือโคร่ง แหล่ะครับ น่าจะเป็นพวกลูกท้อ หรืออะไรประมาณนั้น ไม่ใช่ไม้ป่าไทยครับ ปลูกอยู่หลังบ้านลุงแดง เห็นมันออกดอกสวยดี

ขอบคุณค่ะ....ของจริงคงสวยน่าดู ^^
ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา และผลกระทบจากการสร้างฝายธรรมชาติด้วยมุมมองของคนภายนอกนะค่ะ....คงจะเรียกว่าตัวเองเป็นคนที่อนุรักษ์ธรรมชาติได้ไม่เต็มปาก แต่ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบอยู่กับธรรมชาติจึงพยายามที่จะรักษาสถาพความเป็นธรรมชาติของป่าไม้ แม่น้ำไว้ซึ่ง นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก( แต่อย่างน้อยก็ไม่ทำลาย)เพราะมันไม่ได้เป็นเรื่องที่คนๆ  เดียวจะทำได้ แต่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายๆ  ฝ่ายเพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของธรรมชาติ แต่ธรรมชาติเป็นของทุกๆ  คน  ดิฉันคิดว่าคงมีอีกหลายคนที่รัก และเป็นห่วงธรรมชาติเพียง แต่พวกเขาไม่รู้ และไม่เข้าใจว่าบางครั้งสิ่งที่พวกเขาทำลงไปนั้นมันเป็นการช่วยเหลือหรือว่าซ้ำเติมธรรมชาติกันแน่(ส่วนพวกที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็ยังทำก็ให้รู้ตัวไว้ซะว่าคุณไม่ได้ทำร้ายแค่ตัวเอง).....จึงอยากให้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้รับการตีแผ่ออกสู่สาธารณชนให้พวกเขาได้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง และเป็นกลางให้ได้เห็นทั้งด้านบวก และด้านลบดิฉันเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากวางระเบิดเวลาบ้านตัวเอง....อย่างน้อยก็ดิฉันหนึ่งคน
 ถ้าข้อความในคอมเมนต์นี้ไม่เหมาะสมอย่างไรก็ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ

ความคิดเห็นที่: 59

ขอเอาโอวาทของผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในงาน แต่งงานมาให้อ่านนะ

" การอยู่ด้วยกันไม่ต้องใช้เหตุผล........อยู่ด้วยกันต้องใช้ความเข้าใจ"

"เพราะว่าเหตุผลของคนหนึ่งอาจจะไม่ใช่ของอีกคนหนึ่ง
          แต่ ถ้าเรามีความเข้าใจเราก็จะอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข "


ถ้อยความก็เป็นดังนี้แล....

tavon [ 11 ก.พ. 2553 02:46:34 ]

ความคิดเห็นที่: 60

ชอบมากครับพี่tavon สำหรับคนที่ แต่งงานมาหลายปี สองสามประโยคนี่ถูกต้องที่สุดเลย เหอ เหอ เหอ

นณณ์ [ 11 ก.พ. 2553 03:52:13 ]

ความคิดเห็นที่: 61

^
^
แต่บ่อยครั้งที่ภรรยาไม่เข้าใจ ใช่ป่ะ อิ อิ

knotsnake [ 11 ก.พ. 2553 04:00:10 ]

ความคิดเห็นที่: 62

ไม่ครับไม่....เธอแกล้งไม่เข้าใจ
ความจริงน่ะเธอเข้าใจมากกว่าใครทั้งหมดแหละ "เธอแกล้ง"



ส่วนเรื่องของธรรมชาตินั้น ต่างจากเรื่องของจิตใจ ต้องสร้างความเข้าใจอย่างยิ่ง

tavon [ 11 ก.พ. 2553 09:04:04 ]

ความคิดเห็นที่: 63

อยากเอาภาพนกคุยกันไปทำเป็นบอร์ดเล็กๆ  ไว้ให้หลายๆ  คนได้อ่านจังเลย

เก่ง_ดอยอินฯ [ 11 ก.พ. 2553 12:53:33 ]

ความคิดเห็นที่: 64

พี่นณณ์ ยายอ้วนขอเอารูปฝายไปใช้หน่อยนะคะ
จะเขียนบทความข่าว สั้นๆ  เกี่ยวกับฝายต้นน้ำน่ะค่ะ

ยายอ้วน [ 19 ก.พ. 2553 13:52:50 ]