ขอคำแนะนำ ธนาคารปูม้า ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัย ขอให้เข้ามาช่วยโครงการธนาคารปูม้า (ผู้บริหารทำโครงการแต่ไม่สะดวกออกพื้นที่ ) รบกวนสมาชิกท่านใด พอมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว กรุณาแนะนำหน่อยครับขอบคุณครับ ypun [ 27 มี.ค. 2553 17:57:09 ]
ความคิดเห็นที่: 1 เมื่อเร็วๆ นี้ได้ดูรายการทุ่งแสงตะวัน เรื่องธนาคารปูม้า ยังไงลองใช้บริการของอากู๋ คิดว่าคงมีอยู่บ้างนะครับ ...แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 2553 18:36:56 noppadol [ 27 มี.ค. 2553 18:36:00 ] noparnon@yahoo.co.th
ความคิดเห็นที่: 2 ถ้าทำเป็นคอกขนาดใหญ่ ให้เลือกพื้นที่ที่เป็นทรายปนเลน เพราะปูม้าจะชอบหมกทราย บริเวณหลัง มอ. จะไม่เหมาะนักเพราะเป็นเลนจัดเกินไป ถ้าจำพื้นที่ไม่ผิด ถ้าพื้นที่อยู่ใต้ปากแม่น้ำปัตตานีลงไป ฝั่งแหลมน่าจะมีทรายมากกว่า อวนล้อมคอกส่วนล่างใช้ตาถี่ให้สูงพ้นดินสักคืบสองคืบ ข้างบนเป็นอวนตาห่างเพื่อลดการต้านกระแสน้ำ ลำพังปูม้าเองก็ไม่ค่อยปีนออกด้วย ( ถ้าเป็นปูทะเล กั้นคอกยังไงก็ไม่อยู่) อย่างที่ระนองจะเป็นกระชังเพราะน้ำลึกมากพอ และทำคอกยากด้วยเนื่องจากความต่างระดับน้ำขึ้นลงต่างกันมากสุดราว 4.5 เมตร โอกาสคอกพังสูงมาก (มีคนทำแล้วพังเรียบร้อย) รายละเอียดอื่นๆ ลองคุยกันได้ครับ ถ้าพิมพ์ทั้งหมดก็จะได้เปเปอร์ฉบับนึงเลย แล้วจะสแกนเปเปอร์ที่เน้นเรื่องนี้โดยเฉพาะเลยให้นะครับ ส่วนของผมจะเน้นการติดตาม และประเมิน กับข้อมูลจากประสบการณ์ knotsnake [ 27 มี.ค. 2553 18:45:18 ]
ความคิดเห็นที่: 3 เรียนคุณ knotsnake พื้นที่ดำเนินการที่เลือกไว้มี 2 ที่ คือ อ.ปานาเระ และ อ.หนองจิก ครับ พื้นทะเลเป็นทรายครับ และน้ำก็ไม่ขุ่น ตอนนี้ผม และทีมงานต้องเข้าหมู่บ้านอยู่บ่อย เพื่ออธิบายชี้ให้เห็นซึ่ง ปัญหาว่าทำไมปูม้าหายไป และให้ชาวบ้านคิดว่าจะต้องทำอย่างไรดี ให้ปูม้ากลับมาชุกชุมเหมือนเดิน ผม และทีมงานซึ่ง มี อ.นุกูล เป็นหัวหน้าทีม คอยให้คำแนะนำส่วนการดำเนินการให้ชาวบ้านประชุม และคิดหาวิธีกันเองครับ ถ้าชาวบ้านคิดแล้วน่าจะทำไม่ได้พวกเราคอย ตั้งคำถาม และให้ชาวบ้านช่วยกันหาคำตอบ ท่านหัวหน้าทีมให้พวกเราทำงานแบบให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมครับ ให้เขาตระหนักในเรื่องทรัพยากรหน้าบ้านของเขาเอง ถ้าเขาไม่ช่วยกันผลกระทบก็จะกลับมาคือเขาเดือดร้อนเอง คือจับปูได้น้อยลง เป็นต้น ypun [ 28 มี.ค. 2553 06:10:31 ]
ความคิดเห็นที่: 4 : ypunเรียนคุณ knotsnake พื้นที่ดำเนินการที่เลือกไว้มี 2 ที่ คือ อ.ปานาเระ และ อ.หนองจิก ครับ พื้นทะเลเป็นทรายครับ และน้ำก็ไม่ขุ่น ตอนนี้ผม และทีมงานต้องเข้าหมู่บ้านอยู่บ่อย เพื่ออธิบายชี้ให้เห็นซึ่ง ปัญหาว่าทำไมปูม้าหายไป และให้ชาวบ้านคิดว่าจะต้องทำอย่างไรดี ให้ปูม้ากลับมาชุกชุมเหมือนเดิน ผม และทีมงานซึ่ง มี อ.นุกูล เป็นหัวหน้าทีม คอยให้คำแนะนำส่วนการดำเนินการให้ชาวบ้านประชุม และคิดหาวิธีกันเองครับ ถ้าชาวบ้านคิดแล้วน่าจะทำไม่ได้พวกเราคอย ตั้งคำถาม และให้ชาวบ้านช่วยกันหาคำตอบ ท่านหัวหน้าทีมให้พวกเราทำงานแบบให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมครับ ให้เขาตระหนักในเรื่องทรัพยากรหน้าบ้านของเขาเอง ถ้าเขาไม่ช่วยกันผลกระทบก็จะกลับมาคือเขาเดือดร้อนเอง คือจับปูได้น้อยลง เป็นต้นเป็นพี่เลี้ยงวิธีนี้ดีมากเลยครับเลยครับ เห็นด้วยมากไม่แน่นะครับว่าชาวบ้านเขาก็รู้คำตอบอยู่แล้ว แต่บางทีทำอะไรไม่ได้ หรือไม่ได้ใส่ใจก็ปล่อยเลยตามเลยมีพี่ๆ นักวิชาการเข้าไปช่วยเป็นตัวกลางให้ชาวบ้านทำอะไรจะได้สะดวกขึ้นอย่างน้อยในขั้นต้นก็จะได้เป็นแรงใจให้รู้ว่าสังคมไม่ได้ทอดทิ้งเขาเป็นกำลังใจให้ครับกับภารกิจอนุรักษ์ปูม้า ที่ไม่เพียง แต่เพาะพันธุ์ปูม้า แต่ได้เพาะเมล็ดพันธุ์ของวิถีชีวิต และวัฒนธรรมชุมชนให้เติบโตต่อเนื่องไปสู่รุ่นหลานเหลนโหลนได้ในภายหน้าอีกด้วย ต้ล [ 28 มี.ค. 2553 07:55:57 ]
ความคิดเห็นที่: 5 เคยเห็นของ ศูนย์วิจัยที่บางเบิด ใช้วิธีให้ชาวบ้านนำปูม้าที่ท้องแก่แล้วติดอวนขึ้นมา นำมาให้ศูนย์เพื่อเพาะตัวอ่อน แล้วปล่อยกลับสู่ทะเล นณณ์ [ 29 มี.ค. 2553 10:08:04 ]
ความคิดเห็นที่: 6 เคยดูทีวีของบางเบิดแบบพี่นณณ์ว่า ดีมากเลยครับพอทำไปทำมาชาวบ้านเค้าจะเอามาให้ศูนย์อัตโนมัติเลย แต่คงต้องทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่มองเห็นทิศทางในอนาคต และมีกระบวนการคิดต่อยอดด้วยตนเองให้ได้ ไม่ใช่ต่อยอดเรื่องสินค้านะครับ เป็นการต่อยอดความคิด และสมารถปรับวิธีปฏิบัติให้เหมาะกับบริบทพื้นที่ของตนเองไม่งั้นพอชุดโครงการหมดชาวบ้านก็มักจะไม่ทำต่อครับอันนี้ฟันธงครับ ปีย์ [ 29 มี.ค. 2553 17:43:31 ]
ความคิดเห็นที่: 7 เรียนคุณปีย์ที่เคารพ พื้นที่ ที่ทำโครงการเป็นพื้นที่พิเศษ(ตามที่ทราบกันอยู๋)ชาวบ้านมีความเดือดร้อนกันมากครับ ภาครัฐไม่ค่อยกล้าเข้าไป เรามีอะไรที่พอพูดคุยปลอบขวัญให้กำลังใจ( ดังพระราชดำรัส เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ) โครงการดังกล่าวถือว่าภาครัฐได้เข้าไปหาพวกเขา ช่วยปลอบขวัญให้กำลังใจพวกเขา เป็นการทำภาระกิจช่วยบ้านเมืองอีกทางหนึ่งครับ ด้วยความเคารพครับ ypun [ 30 มี.ค. 2553 06:31:41 ]
ความคิดเห็นที่: 8 ขอให้กำลังใจ และขอขอบคุณที่รับฟังความคิดผม ผมเพียงแค่ต้องการแชร์ความคิดตามประสบการณ์ที่เคยพบมาครับ เนื่องจากเจอเข้ากับตัวแล้วค่อนข้างท้อใจเมื่อชาวบ้านมักหยุดกิจกรรมไปพร้อมๆ กับการหยุดโครงการ แม้เราจะอยากให้มันเกิดอย่างยั่งยืนตามที่ควรจะเป็น และที่สำคัญที่สุดหากเขาทำต่อด้วยตนเองไม่ได้ ชาวบ้านบางกลุ่มจะเริ่มเคยชินกับการเป็นผู้รอคอยความช่วยเหลือ มากกว่าจะคิดพึ่งพาตนเอง เป็นปัญหาที่ซ่อนเร้นแบบหนึ่งซึ่ง แก้ไขได้ยาก และอาจจะขยายไปสู่ปัญหาอื่นอีกมากมายการทำโครงการต่างๆ เพื่อบรรเทาปัญหาในพื้นที่เสี่ยงเป็นทางเยียวยาที่เยี่ยมที่สุดแล้วครับ อันนี้เห็นด้วยเต็มที่ โดยส่วนตัวมีเพื่อนปฎิบัติการที่ปัตตานีทั้งตำรวจ และหมอทหาร จึงพอจะเข้าใจว่าปัญหานั้นมีหลายมิติ และซับซ้อนมาก คนทำงานก็ต้องใช้พลังงานมากเช่นกัน ขอให้ดำเนินการได้อย่างราบรื่นครับ ปีย์ [ 30 มี.ค. 2553 13:03:43 ]