ความคิดเห็นที่: 1

Betta smaragdina  short  body

electron [ 21 เม.ย. 2553 22:22:48 ]

ความคิดเห็นที่: 2

อีกลักษณะ

electron [ 21 เม.ย. 2553 22:23:32 ]

ความคิดเห็นที่: 3

ตัวแรกแถมหางหนามเตยซะด้วย   ต้นกำเนิดคราวเทลมาจากแนวนี้ไหมนะ


จึงเกิดคำถามขึ้นมา ว่าความผิดปกติดังที่เห็นเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างครับ
โอกาสที่จะเป็นเลือดชิดน้อยมาก เพราะว่าพ่อ/แม่ ช้อนจากแหล่งธรรมชาติ





ขอบคุณล่วงหน้าครับผม

...แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 2553 22:27:39

electron [ 21 เม.ย. 2553 22:26:32 ]

ความคิดเห็นที่: 4

จับมาจากธรรมชาติก็เป็นไปได้ที่เกิดเลือดชิดครับ  ถ้าแหล่งที่จับมามีปัญหาเลือดชิดอยู่แล้วตั้ง แต่ต้น ไม่ทราบว่าแหล่งที่ช้อนมามีสภาพพื้นที่เป็นอย่างไรครับ?  เดี๋ยวนี้น้ำมันไม่ท่วมหลากเหมือน แต่ก่อน พวกปลาที่อยู่ตามหนองน้ำเดี่ยวๆ  ไม่มีโอกาสเปลี่ยนถ่าย gene กันมีโอกาสเลือดชิดสูงมากครับ

...แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 2553 11:03:25

นณณ์ [ 22 เม.ย. 2553 11:02:31 ]

ความคิดเห็นที่: 5

เป็นทุ่งนา ติดๆ กันหลายร้อยไร่ครับ พบปลากัดได้ทั้งในนา และร่องน้ำ บางบริเวณมีน้ำไหลช้าๆ  
ช่วงที่ไปช้อน ชาวนากำลังเริ่มดำนาพอดี
ตอนที่ช้อนมาก็หลายตัวอยู่ ก็ไม่เห็นมีปลาผิดปกติตามลักษณะดังกล่าวในแหล่งน้ำนั่นซักตัว


* ลักษณะสถานที่เพาะเลี้ยง
ทำการเพาะเลี้ยงในกล่องพลาสติดเอนกประสงค์  
อาหารในการอนุบาลแรกเกิด >> ไข่แดง,ไรแดง
โตมาหน่อยหลักๆ  ก็จะให้ >> ไส้เดือนน้ำ, ไรแดง,ลูกน้ำ(บ้าง) ตามลำดับ
ไม่ค่อยได้เปลี่ยนน้ำบ่อยเท่าไหร่

electron [ 22 เม.ย. 2553 13:39:01 ]

ความคิดเห็นที่: 6

อา.......

เคยได้ยินว่าสารเคมีที่ใช้ในนาข้าวบางชนิดจะทำให้ปลาพิการได้ ไม่แน่ใจว่า ถ้าพ่อ/แม่มีการสะสมมาจะก่อให้เกิดปัญหานี่หรือไม่ ส่วนการไม่เจอปลาพิการในธรรมชาติ ก็ไม่แปลกอะไรเพราะในธรรมชาติพวกพิการพวกนี้คงถูกคัดออกไปอยู่แล้ว ไม่เหมือนในที่เลี้ยง ที่มันจะสามารถอาศัยอยู่ได้

นณณ์ [ 22 เม.ย. 2553 13:52:06 ]

ความคิดเห็นที่: 7

น่าจะเกิดจากความผิดปกติสองประการ
ก)  ถ้ามองในแง่ชองพันธุกรรม ยีนที่แสดงลักษณะนี้มันมีอยู่แล้วในธรรมชาติ (ซึ่ง อาจเกิดเนื่องจากการผ่าเหล่าก็ได้)  แต่ปลาที่มันมียีนนี้จะถูกกำจัดโดยผู้ล่า เพราะลักษณะแบบนี้มีผลทำให้มันหลบหนีผู่ล่าได้ไม่ได้เท่าปลาปกติ  และผลของการล่าจะทำให้มันไม่มีโอกาสถ่ายทอดยีนนี้ไปยังลูกหลานได้  แต่โอกาสที่จะเกิดจากปัจจัยนี้มีน้อยมากครับ
ข) ประเด็นนี้เกี่ยวกับภาวะโภชนาการ เพราะว่าอาหารที่เราเลี้ยง เคยอ่านเอกสารพบว่า การที่อาหารมีวิตามินซีในปริมาณที่ไม่พอเพียงจะทำให้เกิดภาวะตัวคดได้ในปลาดุกได้  แต่ยังไม่มีการยืนยันการพบในปลาชนิดอื่น ประเด็นนี้น่าจะเป็นประเด็นหลัก เพราะว่า ปลาที่เรานำมาเลี้ยงในที่กักขังนั้น เราให้กินอาหารซ้ำๆ  กัน ซึ่ง อาจทำให้เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งได้ง่าย วิธีแก้ลองไปเอาน้ำละลายวิตามินซีแช่ลูกไร ก่อนนำไปให้ปลา อาจจะช่วยได้ (วิตามินซีที่คนกินก็น่าจะใช้ได้  แต่ว่าจะให้ดีต้องซื้อแบบบริสุทธิ์ที่เป็นผงขาวๆ )

...แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 2553 14:51:27

สมหมาย [ 22 เม.ย. 2553 14:48:51 ]

ความคิดเห็นที่: 8

- ตอนที่ไปช้อนปลา ผมรู้สึกดีใจที่พบปลากัดในแหล่งนาข้าว คิดในใจอยู่เลยว่าแถวนี้เค้าไม่ได้ใช้สารเคมีแน่ๆ  ถึงทำให้ปลาอยู่ได้     (แสดงว่ามันก็ไม่แน่เสมอไป อาจมีสารเคมีอยู่ก็ได้)


- ปลาที่มีรูปร่างผิดปกติใช่ว่าจะอ่อนแอทุกตัวหนิครับ  ผมคิดบางตัวก็สามารถดำรงชีวิตในธรรมชาติได้ มีสัญชาติญาณของสัตว์ตามปกติ  ฉะนั้นการคัดสายพันธุ์โดยผู้ล่า ก็น่าจะรอดมีให้เห็นตามแหล่งธรรมชาติบ้าง  รึว่า เราช้อนไม่เจอเอง


- เรื่องวิตามินซี ถามแบบไม่มีความรู้เลยนะครับ  ปลากัดในแหล่งธรรมชาติจะได้รับวิตามินซีจากอะไรได้บ้างครับ



ขอบคุณครับ

electron [ 22 เม.ย. 2553 15:14:11 ]

ความคิดเห็นที่: 9

- ปลาที่มีรูปร่างผิดปกติใช่ว่าจะอ่อนแอทุกตัวหนิครับ  ผมคิดบางตัวก็สามารถดำรงชีวิตในธรรมชาติได้ มีสัญชาติญาณของสัตว์ตามปกติ  ฉะนั้นการคัดสายพันธุ์โดยผู้ล่า ก็น่าจะรอดมีให้เห็นตามแหล่งธรรมชาติบ้าง  รึว่า เราช้อนไม่เจอเอง
ทำความเข้าใจกันก่อนครับ คือผมเขียนว่า "เพราะลักษณะแบบนี้มีผลทำให้มันหลบหนีผู่ล่าได้ไม่ได้เท่าปลาปกติ" มีตรงไหนที่บอกว่ามันอ่อนแอบ้างครับ ผมแค่บอกว่ามันมีโอกาสถูกล่าได้ง่ายกว่าปลาปกติ เพราะว่ารูปร่างที่ผิดแปลกออกไปจะทำให้ผู้ล่าสามารถจดจำ และเป็นที่หมายตาได้ง่าย  และความพิการทำให้การเคลื่อนที่หลบศัตรูเป็นไปได้ยากกว่าปลาที่มีลักษณะปกติ ปลากัดสองหางก็จัดเป็นลักษณะที่พิการอย่างหนึ่งที่เราเอามาเลี้ยงกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน



- เรื่องวิตามินซี ถามแบบไม่มีความรู้เลยนะครับ  ปลากัดในแหล่งธรรมชาติจะได้รับวิตามินซีจากอะไรได้บ้างครับ
อันนี้กูเกิ้ลน่าจะช่วยได้นะครับ  แต่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมันก็มีวิตรมินซีเป็นองค์ประกอบเหมือนกัน แต่ว่าอาหารที่คุณเอามาเลี้ยงนั้น  ถ้าเป็นไรสด  ถ้าคุณช้อนจากธรรมชาติแล้วให้เลยมันจะไม่มีปัญหา  แต่ว่าปกติเรามักเอามาขังไว้ก่อน สิ่งมีชีวิตมันก็ต้องใช้สารพวกนี้ทำให้ปริมาณมันลดลง แล้ววิตามินซีมันเปลี่ยนสภาพ และสูญหายได้ง่ายมาก เมื่อโดนความร้อน แสงแดด อีกอย่างการแช่แข็ง (กรณีอาหารแช่แข็ง ก็จะทำให้ปริมาณวิตามินซีลดลงอย่างมากเช่นกัน

สมหมาย [ 23 เม.ย. 2553 11:47:22 ]

ความคิดเห็นที่: 10

อ่อ   ด้วยประการฉะนี้นี่เองเข้าใจแล้วครับ  


ขอบคุณมากๆ ครับ

electron [ 23 เม.ย. 2553 15:05:36 ]

ความคิดเห็นที่: 11

มีใครเคยพบ B.splenden ในแหล่งน้ำธรรมชาติทางภาคอิสาน บ้างไหมครับ?
คือผมตั้งข้อสังเกตว่า B.splenden ถูกคนเลี้ยงอย่างแพร่หลาย มาช้านาน
ดังนั้นน่าจะมีความเป็นไปได้ ที่มันจะหลุดไปอาศัยตามแหล่งน้ำส่วนต่างๆ ของประเทศ

แต่เรื่องผสมข้ามกับ B.smaragdina คงยากมาก เพราะขนาดคนจับมาผสมเอง  ยังไม่ค่อยรอดเลย แถมตัวที่รอดก็มักเป็นหมัน(ได้ยินคนอื่นเล่าให้ฟังอีกทีนะ)

snakeeater [ 23 เม.ย. 2553 21:16:49 ]

ความคิดเห็นที่: 12

: snakeeater

มีใครเคยพบ B.splenden ในแหล่งน้ำธรรมชาติทางภาคอิสาน บ้างไหมครับ?
คือผมตั้งข้อสังเกตว่า B.splenden ถูกคนเลี้ยงอย่างแพร่หลาย มาช้านาน
ดังนั้นน่าจะมีความเป็นไปได้ ที่มันจะหลุดไปอาศัยตามแหล่งน้ำส่วนต่างๆ  ของประเทศ

 แต่เรื่องผสมข้ามกับ B.smaragdina คงยากมาก เพราะขนาดคนจับมาผสมเอง  ยังไม่ค่อยรอดเลย แถมตัวที่รอดก็มักเป็นหมัน(ได้ยินคนอื่นเล่าให้ฟังอีกทีนะ)

เห็นมีรายงานว่าพบsmaragdina ที่ลาดกระบัง ช้อนมาแล้วโพสขาย

เดี๋ยวนี้ที่เห็นมี smaragdina สายกัดจำนวนมาก(ตามร้านขายปลา) ก็คือผสมข้ามกับsplenden
ผสมหลายๆ ครั้ง ทำจนได้จำนวนครับ    
 มีอยู่เจ้านึงเพาะสายกัดแปดริ้วในนาข้าวทางภาคอีสาน เวลาจะจับปลามาขายก็เปิดน้ำออกจากนาแล้วใช้ผ้าเขียวรอง  ผมคิดว่าบริเวณนั้นน่าจะมีsmaragdinaอยู่ในแหล่งธรรมชาติเหมือนกัน ผมยังหวั่นๆ เลย ชี้แจงให้เค้าทราบแล้ว  แต่รู้สึกว่าเค้าไม่ให้ความร่วมมือเท่าไร

electron [ 23 เม.ย. 2553 22:17:57 ]