ความคิดเห็นที่: 1

เขี้ยวยาวมากเลย พับได้

เสือหัวดำ [ 12 เม.ย. 2550 17:14:07 ]

ความคิดเห็นที่: 2

เต็มตัว

เสือหัวดำ [ 12 เม.ย. 2550 17:14:38 ]

ความคิดเห็นที่: 3

หาง ก้น   ตัวเมียใช่ไหมครับ

เสือหัวดำ [ 12 เม.ย. 2550 17:15:25 ]

ความคิดเห็นที่: 4

เกล็ด   ถ่ายไม่ดีเลย ขอโทษด้วยนะครับ

เสือหัวดำ [ 12 เม.ย. 2550 17:16:10 ]

ความคิดเห็นที่: 5

นี่มัน กะปะ ไม่ใช่หรอครับ ไหงหมอบอก แมวเซา หรือว่าแมวเซา หรือเราไปจำสับกับสามเหลี่ยม งง ตกลงยังไงเนี่ย

ปล.วันนี้มาววว อิๆ

conti [ 12 เม.ย. 2550 19:46:35 ]

ความคิดเห็นที่: 6

โรงพยาบาลอะไรครับ หมอชื่ออะไร ขนาดคนไข้เอาซากงูที่กัดมาแบบสมบูรณ์ชัดเจน หมอยังบอกชนิดผิดเลย แย่มากครับ ผมว่าควรแจ้งไปทางผอ.โรงพยาบาลนั้นๆ นะครับ ชีวิตของคนไข้ต้องมาฝากไว้กับคนไม่รู้จริง ผมจำได้ว่าเคยเข้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแถวบ้าน เค้าจะมีรูปงูพิษในประเทศไทยชัดๆๆ ให้ดูหรือเปรียบเทียบ  แต่กรณีนี้ผมไม่รู้ว่ายังไง แต่อ่านแล้วรู้สึกแย่กับหมอมากครับ ไม่อยากให้ปล่อยผ่าน ถึงงูกะปะกับแมวเซามันจะเป็นพวกViperก็เหอะ  แต่เค้าก็มีเซรุ่มแยกไว้ให้แล้ว  ถ้าหมอยังดูซากงูชัดๆ แบบนี้ไม่ออกผมว่าคนไข้ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากเป็นเท่าตัวครับ อ่านแล้วรู้สึกแย่มากๆ

หัดเดิน [ 13 เม.ย. 2550 01:22:32 ]

ความคิดเห็นที่: 7

ขอโทษด้วยครับ ความจริงไม่อยากให้เกิดการตำหนิเกิดขึ้นเลยครับ ผมเห็นความสำคัญของชีวิตคนไข้ และความถูกต้องในการรักษาเช่นกันครับ  แต่อีกทางหนึ่งก็เห็นใจแพทย์ ที่นานๆ  ครั้งจะเจองูสักครั้ง และมองดูตัวป้อมๆ  ลายคล้ายกันอีกด้วย   รูปงูพิษในประเทศไทยชัดๆ  นั้นหาได้ที่ไหนหรอครับ น่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่พอจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้
ตอนนี้อยากลองเก็บข้อมูลงูที่กัดคนไข้มาโรงพยาบาลครับ ว่าเป็นงูพิษจริงกี่ตัว เป็นงูที่ไม่มีพิษกี่ตัว เพราะส่วนใหญ่แล้วคนไข้ที่ถูกกัดมามักจะต้องนอนพักเพื่อติดตามการแข็งตัวของเลือด ซึ่ง ค่าใช้จ่ายในการนอนโรงพยาบาลจะสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับการเป็นผู้ป่วยนอก   ถ้ามีรูปงูที่ถ่ายมารบกวนช่วยระบุชนิดให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

เสือหัวดำ [ 13 เม.ย. 2550 06:46:04 ]

ความคิดเห็นที่: 8

แยกกันยังไงครับระหว่างแมวเซากับกะปะโดยส่วนใหญ่ทางภาคกลางถึงเหนือตอนล่างจะเจอเป็นแมวเซาอะครับ  คือจะอาศัยข้อมูลการกระจายที่พบได้ร่วมกับสถิติของงูที่พบบ่อยๆ ครับ ยอมรับจริงๆ ครับว่าหมอไม่สามารถบอกชนิดงุได้แม่นยำเท่าชาวบ้านที่นำงูมาให้ดูหรอกครับ

หมอชนบทครับ [ 13 เม.ย. 2550 15:36:43 ]

ความคิดเห็นที่: 9

ลวดลาย และสีสันมันก็ต่างกันเยอะแล้วครับ

cheetah [ 13 เม.ย. 2550 22:43:59 ]

ความคิดเห็นที่: 10

เรียนคุณหมอชนบท

ผมขอกล่าวกลางๆ สำหรับปัญหาการจำแนกชนิดงูแล้วกันนะครับ ต้นตอของปัญหาจริงๆ คือคนที่เรียนหมอ น้อยคนนักที่สนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับงู(ข้อสรุปจากประสบการณ์ผมนะครับ)  แต่ในความไม่สนใจเดิมเลยทำให้จำแนกไม่ได้ แล้วอาศัยข้อมูลการแพร่กระจายในสมัยไหนก็ไม่รู้ก็เลยทำให้มการตัดชนิดที่คิดว่าไม่มีในท้องที่ออกไป บ่อยครั้งคือความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง  แต่สิ่งที่ผมเห็นทุกโรงพยาบาลของรัฐคือ แผ่นภาพงูพิษที่มีรูปที่พอใช้ดูเป็นแนวทางได้ด้วยที่ ER  ซึ่ง ไม่น่าเชื่อ ที่มันมีงูที่ผมไม่คิดว่าจะมีรูปซะด้วย(ซึ่ง ถูกต้องที่มีรูปงูชนิดนั้น คือ งูลายสาบคอแดง) ก่อนที่จะร่ายยาว ขอตอบก่อนว่าเป็นงูกะปะนะครับ ตัวในรูป เผื่อยังต้องการการยืนยันเพื่อรักษา แล้วผมจะต่อ คห. ต่อไป

knotsnake [ 13 เม.ย. 2550 23:32:42 ]

ความคิดเห็นที่: 11

ต่อๆๆๆๆ

การไม่รู้จักงูของหมอ ผมไม่ถือว่าเป็นความผิดอะไรหรอก  แต่..ในพื้นที่ที่มีเคสผู้ป่วยถูกงูกัดอยู่เนืองๆ นี่ ผมถือว่าเป็นความจำเป็นของหมอที่จะต้องหาทางที่จะรู้จักงู แม้ว่าหมอจะแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองก็ตาม โดยการทำความรู้จักง่ายๆ ก็คือ จำงูในโปสเตอร์ แผ่นภาพ หรือสื่อต่างๆ ที่พอจะเห็นได้ใน รพ.ให้ได้ เพราะงูพิษที่มีผลทางการแพทย์มีไม่กี่ชนิดหรอกในเมืองไทย อย่างน้อยหมออาจคาดเดากลุ่มชนิดงูคร่าวๆ ได้บ้าง(แม้ยังไม่ถูกก็ตาม  แต่ก็เป็นการดีที่มีการเริ่มต้น)  แล้วตัวอย่างงูที่คนไข้เอามาก็ห้ามทิ้ง ให้เก็บตัวอย่างที่ รพ. นั่นแหละ(หลายๆ  รพ. ก็มี  แต่หมอก็ไม่ดู)  แต่ก่อนที่จะดองก็ขอให้ถ่ายรูปในทุกแง่มุม(จะช่วยให้หมอจำได้งัย) แล้วตรวจสอบชนิดด้วยวิธีต่างๆ  โดยยึดหลักเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง  แต่ต้องรู้ว่าเราจะถามเรื่องนั้นๆ จากใคร แม้ แต่เรื่องการรักษา เพราะจากประสบการณ์ผมเอง(อีกแล้ว) หมอหลายๆ คนมักมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง  แต่สูงเกินไปจกลายเป็น ego ปิดใจไม่ยอมรับฟังความเห็นของคนอื่นที่ไม่ใช่หมอด้วยกัน พอแนะไป ยังมามองหน้าว่า คุณเป็นใครถึงมาแนะกรู ประมาณนี้ ทั้งๆ ที่เขาไม่รู้อย่างแท้จริง  แต่คนที่จะรู้จริงๆ ก็เป็นสัตวแพทย์ ซึ่ง คลุกคลีกับงูพิษมากกว่า ก็ไม่ค่อยฟัง ผมรู้จักชนิดงู มันก็ไม่เชื่อ ผมก็เข้าใจหลักที่ว่าอย่าเชื่อในทันที เพราะอาจมีการตีผิดตัว ผู้ป่วยจำแนกชนิดผิด ฯ ลฯ   แต่ไม่ใช่ไม่เชื่ออย่างไร้วิจารณญาณ เอา แต่รอดูอาการตามตำรา ซึ่ง หลายๆ กรณีที่พิษแสดงผลเต็มที่ก็ไม่อาจรักษาได้ทันแล้ว  ที่เลวร้ายกว่านั้น บาง รพ.รู้ว่าไม่มีเซรุ่ม  แต่ก็ยังกักผู้ป่วยเพื่อรอดูอาการ ก็ไม่รู้ว่าทำเพื่ออะไร (ในกรณีนี้ หมอรู้แน่ชัดว่าเป็นงูพิษร้ายแรง  และระบุชนิดได้ คืองูจงอาง) พออาการทรุดก็เลยส่งต่อไป รพ.จังหวัด ซึ่ง ไม่มีเซรุ่มงูจงอางเช่นกัน (ซึ่ง หากส่ง รพ.ใกล้เคียง  และเดินทางใกล้กว่า ก็มีเซรุ่มแน่ๆ   แต่อาจรักษาไม่ทันอยู่ดี)

knotsnake [ 13 เม.ย. 2550 23:57:43 ]

ความคิดเห็นที่: 12

สิ่งที่หมอต้องทำ คือ การเปิดใจให้มากๆ  รับฟังคนอื่นบ้าง  แต่ก็ไห้ฟังหูไว้หู เพราะชาวบ้านเองก็มีการจำแนกผิดได้เหมือนกัน  แต่อย่าตัดข้อมูลนั้นทิ้งเลย เพื่อหมอจะได้เตรียมการอะไรได้บ้าง แล้วต้องยอมรับว่าหมอไม่รู้ชนิดงู เพื่อที่ไม่ต้องตัดสินใจให้เซรุ่มทันที  แต่ต้องตรวจสอบให้เร็วที่สุด อย่าพึ่ง แต่ผลแล็บฯ  แล้วดูกลุ่มอาการ ซึ่ง ในเคสของกระทู้นี้ก็ถือว่าหมอมาไม่ผิดทาง(แม้จะผิดชนิดราวฟ้ากับเหว  ถ้าหมออยู่ทางใต้จะปวดหัวกว่านี้เยอะสำหรับกรณีงูกะปะ) แล้ว ถ้ามีความเป็นไปได้ 2-3 ชนิด ก็ต้องมีแผนอย่างน้อย 2-3 แผนการรักษา ยิ่งมีงูมาด้วย ยิ่งดี หากในพื้นที่มีคนที่รู้จักงูเป็นอย่างดี  และเชื่อถือได้ ก็ขอให้หาทางติดต่อไว้เลย หรือ ถ้าไม่มีก็อาศัยสถานเสาวภาก็ได้ ไม่ต้องระบุว่าขอสายใคร  แต่ให้บอกว่าต้องการคุยกับคนที่จำแนกงูได้ดีจากการบอกลักษณะ หรือจะถามผมก็ได้(โดยการโพสตามเวบนี่แหละ แล้วจะมีคนติดต่อผมได้  ถ้าไม่ไปอยู่ตรงที่ติดต่อไม่ได้จริงๆ   แต่นอกจากผมก็ยังมีอีกหลายคนท่ช่วยได้อยู่ดี) แล้วหากไม่มีเซรุ่มงูต้องสงสัย ให้ปฐมพยาบาลแล้วกรุณาส่งต่อไปยัง รพ.ที่คาดว่ามีเซรุ่มงูเป้าหมาย(กรุณาติดต่อก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเขามีจริงๆ ) แล้วควรตรวจสอบว่าผู้ป่วยแพ้เซรุ่มหรือเปล่าเสีย แต่เนิ่นๆ  เพราะอาจมีกรณีที่ต้องดูอาการถึงที่สุด จะได้มีโอกาสรักษาทันมากขึ้น เพราะหากไม่ทำไว้ก่อน แล้วมีรู้ว่าผู้ป่วยแพ้เซรุ่มตอนต้องรีบรักษาก็จะไม่ทันการ  ถ้ารู้ว่าแพ้ซะก่อน จะได้หาทางรักษาวิธีอื่นต่อไปได้ทันท่วงที

knotsnake [ 14 เม.ย. 2550 00:13:45 ]

ความคิดเห็นที่: 13

กลับมาที่คำถามของคุณหมอฯ

งูกะปะ..ต่างจาก            แมวเซา          ชัดๆ คือ
-ลายดูเป็นเหลี่ยมๆ  vs ลายกลมๆ หรือรีๆ
-หลังยกเป็นสันสามเหลี่ยม vs ตัวออกกลมๆ
-เกล็ดเรียบ  vs เกล็ดเป็นสันที่ชัดเจนมากๆ
-เกล็ดหัวเป็นเผ่นใหญ่เรียบๆ   vs เกล็ดเล็กๆ ยาวๆ เป็นสัน
-ปลายหัวถึงตา จะมีรู 2 รู( แต่ละข้าง) คือรูจมูก  และรูรับความร้อน vs มีรูจมูกเท่านั้น
-ไปหารูปงูแมวเซามาเปรียบเทียบด้วย

ข้อควรจำ..งูกะปะ มีการแพร่กระจายทั่วประเทศไทย ไม่ใช่แค่ภาคใต้ และชายฝั่งครับ    เขตที่ผมไม่เคยมีข้อมูลเลยคือ กทม. และปริมณฑล  และพื้นที่ที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา(ยึดพื้นที่นะครับ ไม่ใช่ยึดตามจังหวัด) ส่วนงูแมวเซา ยังไม่มีรายงานที่เชื่อถือได้ในเขตจังหวัดภาคใต้เลย ซึ่ง อาจพบใน จ.ชุมพร ตอนบนได้                      

หวังว่าคงช่วยหมอได้นะครับ

knotsnake [ 14 เม.ย. 2550 00:23:09 ]

ความคิดเห็นที่: 14

ตอนนี้กำลังดำเนินการ (แบบส่วนตัว) ว่าจะดองงูพิษไว้ให้ ER ดูน่ะครับ  แต่มักไม่ค่อยได้ตัวอย่างหรอก คนงานเอาไปกินกันก่อน 555   case นี้ดำเนินการแจ้งพยาบาลว่าเป็นงูกะปะตั้ง แต่ต้นแล้วครับ

เสือหัวดำ [ 14 เม.ย. 2550 19:57:28 ]

ความคิดเห็นที่: 15

ขอบคุณมากครับ  สำหรับคำตอบ และคำแนะนำต่างๆ   ผมอยากจำแนกให้ได้ครับ แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยากพอสมควรครับ  แต่จะพยายามทำให้ได้ครับ

หมอชนบทครับ [ 14 เม.ย. 2550 20:55:10 ]

ความคิดเห็นที่: 16

โปรเตอร์รูปงูพิษชัดๆ  ติดไว้ที่แผนกPRแผนกฉุกเฉิน ผมว่าช่วยได้เยอะครับ

หัดเดิน [ 14 เม.ย. 2550 21:11:24 ]

ความคิดเห็นที่: 17

เอ่อ    - - '   ถ้าเป็นแผนก PR  ฉุกเฉิน ไม่น่า จะมีคนไข้ถูกงูกัดมานะครับ : )



แซวเล่นนะครับ ใจร่มๆ นะครับ

j... [ 15 เม.ย. 2550 09:49:30 ]

ความคิดเห็นที่: 18

PR อิๆ  สาวสวยแหงๆ เลย ใจร่มๆ ครับ (เลียนแบบ)
  แต่ผมเจอนะ  แต่เป็นหมอหมา เห็นหมาพันธุ์ค็อกเกอร์มีอาการใบหูเน่า(เหม็นเลย)มาหาหมอ พอดีผมเอาหมาน้อยไปตัดหางพอดี เห็นปุ๊บหมอบอกว่า สงสัยติดเชื้อในเลือดชัวร์ ผมก็เลยถามหมอ(พอดีซี้ เพราะเคยยิงปืนด้วยกัน) หมอๆ มันมีอะไรรัดหูป่าวเห็นเน่าแค่ครึ่งใบหูเอง หมอมองหน้า แล้วลองเอามือจับๆ ดู ก็อุทาน ไอ้เ!ย  หมาโดนหนังยางรัดหูหรอวะเนี่ย  

  กำของหมา

conti [ 15 เม.ย. 2550 18:53:39 ]

ความคิดเห็นที่: 19

คุณหมอชนบทลองดูกระทู้นี้ครับ
รูป \"งู\" ดูเล่นๆ ....# Deja Vu งูไทย

ขออภัยที่รูปไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เดี๋ยวจะพยายามหาถ่ายใหม่.....ที่จริงไม่ยากนะ แต่ขี้เกียจ แหะๆ

...แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 2550 20:46:03

คนนั้น [ 15 เม.ย. 2550 20:45:17 ]

ความคิดเห็นที่: 20

อ่านกระทู้นี้แล้ว ไว้จะหาแผนที่ไปวัดพรหมคีรี ที่คุณลงสมนึกอยู่ติดตัวไว้ดีกว่า (เผอิญอยู่.ในจ.นคร คงไปรักษาทัน  ถ้าโดน..)

นกกินเปี้ยว [ 16 เม.ย. 2550 17:16:16 ]

ความคิดเห็นที่: 21

คุณ knotsnake ครับในฐานะที่คุณน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของงู คุณน่าจะตอบแบบให้ความรู้กับผู้อ่านที่เข้ามาหาความรู้ในเวปนี้ นะครับ ไม่ใช่ตอบแบบต่อว่าหรือมีอคติกับคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มของคุณ เพราะคนเราอาจผิดพลาดได้ (สังเกตุหลายครั้งแล้ว) ส่วนตัวเข้ามาศึกษาในเวปนี้แล้วได้ความรู้ดีครับ  แต่อ่านข้อความที่ไปว่าผู้อื่นแล้วมันรู้สึกไม่ดี

สมบัติ [ 16 เม.ย. 2550 21:00:12 ]

ความคิดเห็นที่: 22

ขออภัยคุณสมบัติครับที่ทำให้เข้าใจเช่นนั้น แล้วต้องขออภัยอย่างยิ่งหากทำให้เข้าใจว่าผมว่าหมอทุกคน ที่ผมเล่ามานั้นเป็นประสบการณ์ตรงของผมกับหมอครับ ในส่วนของหมอที่ดีก็มีมาก(น่าจะมากกว่า) ที่ไม่รู้จักงูแล้วพยายามเอาคำอธิบายของผมไปค้นหาข้อมูลแล้วหาบุคคลอ้างอิงมายืนยัน

อ้อ..ในส่วนตัวของผม ผมไม่ได้มีอคติต่อคนนอกกลุ่ม(ผมก็ไม่ได้แยกตัวตนออกมาจากคนอื่นด้วยซ้ำ) เพียงแค่เป็นสไตล์หนึ่งของคนที่จะสื่อสารครับ ผมไม่ได้คาดหวังให้ใครมารู้สึกดีกับผม  แต่อยากให้เอาสาระตรงนั้นไปใช้ประโยชน์มากกว่าเก็บมาเป็นอารมณ์ ก็ขอขอบคุณในความปราถนาดีครับ

อ้อ..(อีกที) ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่อย่างใด เพียงแค่ผมรู้จักสัตว์กลุ่มดังกล่าวในแง่มุมที่คนอื่นมองข้ามเท่านั้นเองครับ

knotsnake [ 17 เม.ย. 2550 00:12:55 ]

ความคิดเห็นที่: 23

อีกครั้ง..ในกระทู้ที่ผ่านๆ มา คุณสมบัติอาจเห็นข้อความที่ผมมักสื่อกับคุณพรุโต๊ะแดงด้วยข้อความที่ขัดลูกตา  แต่นั่นเป็นข้อความที่ใช้สื่อสารที่รู้กันระหว่างผมกับน้องเขาครับ  แต่ ถ้ากับคนอื่นๆ ก็จะมีกรณีที่แตกต่างกัน

knotsnake [ 17 เม.ย. 2550 00:19:38 ]

ความคิดเห็นที่: 24

ไม่เคยคิดอะไรเลยนี่ครับ..พี่น็อทเป็นคนพูดตรงๆ เลยดูเหมือนเป็นคนขวานผ่าซาก(จริงๆ ก้เป็น)
สำหรับผมนั้นเป็นคำสอนที่ดีมากเลยครับ ผมชอบในแบบๆ นั้น
ปล.หาจุดแยกได้แล้วนะครับพี่น็อทระหว่างเหี้ยกะตะกวดประเดี๋ยวส่งให้ทางเมล์ซะละกัน

Mr.prutodang [ 17 เม.ย. 2550 21:05:40 ]

ความคิดเห็นที่: 25

จะกะปะก็ดี หรือแมวเซาก็ช่าง ขออย่าได้เจอะได้เจอเลย สาธุ.....เห็นเขี้ยวแล้วสยอง

kasoop [ 17 เม.ย. 2550 21:44:23 ]

ความคิดเห็นที่: 26

- ผู้ป่วยที่ถูกงูกัดไม่ได้ให้ antivenom(เซรุ่ม) ทุกราย    ต้องดูข้อบ่งชี้ก่อน   ซึ่ง ข้อบ่งชี้จะแตกต่างกันไปในงู แต่ละประเภท     ถ้าแน่ใจว่าเป็นงูกลุ่ม viper กัด   ก็ต้องเฝ้าระวังภาวะเลือดออกง่าย และตรวจดูการแข็งตัวของเลือดก่อนอยู่แล้ว    ถ้า bleed มาก, VCT prolong, เกร็ดเลือดต่ำถึงค่อยให้
- คนที่ถูกงูพิษกัดมีประมาณหนึ่งในสามเท่านั้นที่จะได้รับพิษถึงขั้นแสดงอาการ    คนไข้ที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นต้องให้เซรุ่มก็น้อยลงไปอีก
-โรงพยาบาลหลายแห่งต้องพยายามลดรายจ่าย   ดังนั้นจึงไม่มีการสำรอง antivenom เก็บไว้   โดยเฉพาะ รพ.ชุมชน ถือว่าค่อยส่งต่อไป รพ. อื่นก็ยังไม่สายเกินไป     ยกตัวอย่างภาคใต้ซึ่ง มีการสำรวจพบว่าคนไข้งูกัด 80% เป็นงูกะปะ   การซื้อเซรุ่มงูอื่นๆ เก็บไว้มากๆ จะไม่คุ้ม

บุหงาตันหยง [ 19 เม.ย. 2550 00:10:32 ]

ความคิดเห็นที่: 27

กระทู้นี้ได้ความรู้เยอะมากค่ะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ และผู้ตอบทุกคนด้วยนะคะ ดูภาพแล้วก็กลัวเหมือนกัน

kanok [ 19 เม.ย. 2550 21:40:10 ]

ความคิดเห็นที่: 28

เข้ามาช่วยยืนยันข้อมูลของคุณบุหงาตันหยงครับ

knotsnake [ 20 เม.ย. 2550 16:11:18 ]

ความคิดเห็นที่: 29

วันนี้ได้กะปะมาอีก 1 ซากแล้วครับ

เสือหัวดำ [ 21 เม.ย. 2550 00:03:58 ]

ความคิดเห็นที่: 30

ได้ความรู้ไว้ใช้ในภายภาคหน้า(หากมีโอกาส) เพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ

ยายอ้วน [ 21 เม.ย. 2550 18:02:53 ]

ความคิดเห็นที่: 31

งูกะปะเป็นงูที่มีพิษมากกว่างูต่างๆ     แต่มีคนเข้าไจว่างูจวอางมีพิษมากกกกกกกกกกก     ครับ

                                        (คนคิคว่างูจวอางมีพิษมากที่สุดอะฉลาลมากกกกกกกกกๆๆๆๆๆ )
                                                                                        แบบตรงข้ามนะ

อตอม [ 23 ต.ค. 2550 20:38:05 ]
boat_z_aaa@hotmail.com

ความคิดเห็นที่: 32

พอใจมากกับความรู้ที่ได้รับ  พอดีว่าอยู่บ้านพักครูแล้วเจองูบ่อยมาก แต่ไม่ทราบว่าเป็นพันธ์ไหนไม่แน่ใจว่างูมีพิษจะออกมาตอนกลางวันด้วยรึเปล่า  ช่วยตอบด้วยนะครับ  งูสิงมีพิษไหมครับ  ขอบคุณครับ

ครูบ้านนอก [ 14 พ.ย. 2550 22:03:48 ]