ความคิดเห็นที่: 1

เป็นข่าวที่ทำให้ผมมีความสุขเหลือเกิน

นณณ์ [ 24 เม.ย. 2550 18:01:30 ]

ความคิดเห็นที่: 2

เราไม่ได้บ้าต่อต้านการสร้างเขื่อนทุกรูปแบบ  แต่เขื่อนคลองชมพู จากข้อมูลที่เรามีอยู่ ดันทุรังสร้างไปมี แต่เสียกับเสีย ผลงานของเราครั้งนี้คงทำให้คนกลุ่มใหญ่ได้รับรู้ถึงข้อมูลในพื้นที่มากขึ้น

นณณ์ [ 24 เม.ย. 2550 18:02:52 ]

ความคิดเห็นที่: 3

เป็นข่าวแบบนี้แล้ว คงไม่ได้สร้างง่ายๆ  ผมว่าเราทำสำเร็จไปส่วนหนึ่งแล้ว
ได้เก็บปลาถ้ำ  และจระเข้ให้ลูกดู
ได้ประหยัดงบประมาณชาติในการสร้างสิ่งปลูกสร้างที่ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน  และได้ช่วยแผ่นดินไทยจากการถูกรดด้วยน้ำเค็มทุกวันโดยไม่มีน้ำท่วมล้างไปบ้าง

นณณ์ [ 24 เม.ย. 2550 18:05:42 ]

ความคิดเห็นที่: 4

ไม่ได้เอ่ยชื่อพวกเราก็ไม่เป็นไร ไม่ได้เอ่ยชื่อคนถ่ายภาพก็ไม่เป็นไร  แต่สิ่งที่เราได้ทำไว้ ก็ได้ทำหน้าที่ของมันแล้วอย่างสมบูรณ์ ดีใจครับ ตามเรื่องเขื่อนนี้มานาน ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ
จนงานนี้แหล่ะ ถึงจบได้ลงสักที ก็คงทำงานต่อเนื่องครับ จระเข้ชุดนี้ คงต้องหาทางหางใครสักคนเข้าไปศึกษาต่อไป ขืนปล่อยไว้ตามมีตามเกิดแบบนี้ อีกไม่นานอาจจะหมดจริงๆ ก็ได้

ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ ช่วยกันครับ

ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว!

นณณ์ [ 24 เม.ย. 2550 18:07:54 ]

ความคิดเห็นที่: 5

คนเล็กๆ กลุ่มนี่แหล่ะเน๊อะที่ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้น

นณณ์ [ 24 เม.ย. 2550 18:08:50 ]

ความคิดเห็นที่: 6

สภาพป่าในพื้นที่

นณณ์ [ 24 เม.ย. 2550 18:09:14 ]

ความคิดเห็นที่: 7

ไม้เด่นในพื้นที่ มะเค็ด วงศ์ Rubiaceae นะจ๊ะ

นณณ์ [ 24 เม.ย. 2550 18:09:54 ]

ความคิดเห็นที่: 8

น้องชายเขียนไว้ตั้ง แต่ก่อนออกจากบ้าน แล้วประโยคนี่มันก็เลยติดรถมาจนถึงพิษณุโลก

นณณ์ [ 24 เม.ย. 2550 18:11:24 ]

ความคิดเห็นที่: 9

ต้นนี้ขึ้นอยู่ใกล้ๆ ที่พัก พลับพลึงแคระ Crinum wattii

นณณ์ [ 24 เม.ย. 2550 18:32:36 ]

ความคิดเห็นที่: 10

เย้ๆ    ร่วมชื่นชมอีกหนึ่งความพยายาม ยืดอายุป่าธรรมชาติของเมืองไทยออกไปอีก ก่อนที่มันจะหมด (ก็มันคงหมดแน่นอน)   สู้ๆ  ครับทุกท่าน คาดหวังเหมือนกันว่าวันหนึ่งจะตอบแทนธรรมชาติที่ผมซอกแซกเข้าไปรบกวนได้แบบพี่ๆ  บ้าง

เสือหัวดำ [ 24 เม.ย. 2550 20:19:58 ]

ความคิดเห็นที่: 11

เย้ๆ  ในที่สุดปี๊บก็ตีดังปังๆ  ไม่ แป๊กๆ  

เพิ่งรู้ว่าที่ออฟฟิศรับมติชนด้วยต้องไปค้นหาด่วน ไอ้ที่ไม่ใส่ชื่อกลุ่มหรือชื่อคนถ่ายหรือชื่อทีมงานว่าไปมันก็ดีอย่าง นอกจากเสียวพี่เข้กัดแล้วยังเสียวพี่ตะกั่วอีก ngo พูดให้ฟังซะเสียวเลยว่ารับประทานไป 2 ท่านแล้ว

ปล. ตกลงรถล้างหรือยังครับคุณนณณ์ ตั้งกะไปอุบลฯ  ยังไม่โดนน้ำเลยนิ

ไอ้ลูกทุ่ง [ 24 เม.ย. 2550 20:29:08 ]

ความคิดเห็นที่: 12

ติดตามเป็นกำลังใจให้ครับ

Plateen [ 24 เม.ย. 2550 23:00:32 ]

ความคิดเห็นที่: 13

ตกลงมีทีมงานตรวจจระเข้หรือยังครับ ทีมเจาะเลือดไม่น่ามีปัญหา  แต่ทีมจับที่ไว้ใจได้นี่แหละ ยังไงหากตำแหน่งนี้ยังว่างก็บอกผมอีกทีแล้วกันครับ

knotsnake [ 25 เม.ย. 2550 00:18:33 ]

ความคิดเห็นที่: 14

ขอเป็นหนึ่งแรงในการต่อต้านครับ
มีอะไรที่คนตัวเล็กๆ  คนนี้พอช่วยได้ ยินดีช่วยสุดกำลังความสามารถครับผม

Bigy [ 25 เม.ย. 2550 00:34:23 ]

ความคิดเห็นที่: 15

การคัดค้านต่อต้านที่มีข้อมูลสนับสนุนที่เพียงพอ
น่าจะได้รับความสนใจมากกว่าการค้านแบบปากเปล่าหัวชนฝา
ดีค่ะ ดี
เป็นกำลังใจให้นะคะ

Trichoptera [ 25 เม.ย. 2550 01:07:55 ]

ความคิดเห็นที่: 16

เยี่ยมที่สุด

ฝนแรก [ 25 เม.ย. 2550 04:26:41 ]

ความคิดเห็นที่: 17

คุณนณณ์ฮะ  วันศุกร์นี้จะพานิสิตสาขาพัฒนาสังคมไปสัมภาษณ์ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าอาวาส ชาวบ้าน เรื่องผลกระทบการสร้างเขื่อนที่คลองชมพู  จะเข้าไปตรงหน่วยแสลงหลวงที่ 5 นี่แหละ   และจะขออนุญาติให้นิสิตนำข้อมูลบางส่วนจากเวปสยาม  มาประกอบรายงานด้วย

mim4042 [ 25 เม.ย. 2550 08:16:52 ]

ความคิดเห็นที่: 18

เป้าหมายต่อไป ที่ใหนอีกพี่

นกกินเปี้ยว [ 25 เม.ย. 2550 08:56:52 ]

ความคิดเห็นที่: 19

"การคัดค้านต่อต้านที่มีข้อมูลสนับสนุนที่เพียงพอ
น่าจะได้รับความสนใจมากกว่าการค้านแบบปากเปล่าหัวชนฝา"

ใช่ครับ ทางชาวบ้านใช้เสียงร้อยๆ  เสียง ตาเป็นพันคู่ ก็ไม่อาจหยุดเขื่อนใต้ ต้องมีหลักฐาน ภาพถ่าย วิดีโอ สื่อ  และข้อมูลเอาไปพิสูจน์  แต่ว่า....โครงการมันมีแล้วตอนนี้อาจจะยังไม่เกิด แต่อนาคตก็ไม่แน่เพียงแค่ชลอหรือว่าพับไปเลยก็สุดจะเดา

ไอ้ลูกทุ่ง [ 25 เม.ย. 2550 09:25:07 ]

ความคิดเห็นที่: 20

 ถ้าดันเป็นมรดกโลก เขื่อนต้องพับแน่นอน  แต่ต้องแน่ใจว่าการเป็นมรดกโลกจะไม่กระทบคนท้องถิ่น

knotsnake [ 25 เม.ย. 2550 09:43:52 ]

ความคิดเห็นที่: 21

เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิด ที่ ngo ในพื้นที่โดนไข้โป้งไปนี่เป็น เรื่องคัดค้านการสร้างโรงโม่หินในพื้นที่นะครับ ไม่ใช่โครงการเขื่อนนี่

คุณมิ้ม ตามสบายเลยครับ ต้องการข้อมูลอะไรก็เอาไปโร้ด จะขอเพิ่มเติมก็บอก ให้ช่วยอะไรก็ว่ามาเลย แล้วได้ข้อมูลมายังไงก็แบ่งผมบ้างนะครับ

ผู้ใหญ่บ้านชมพู ผมจำชื่อได้แม่น เพราะชื่อของแกไปไม่ถึงที่หมายสักที "ผู้ใหญ่แวะ"  ถ้าไปเจอ คงจำพวกผมได้ ไปฝากท้องกับแกหลายมื้อ อีกคนที่คุยกันนานมาก เพราะนั่งเฝ้าหน้าถ้ำจระเข้ด้วยกันทั้งคืน ชื่อพี่เต้อ  ถ้าได้คุยกับคนนี้จะได้อะไรอีกเยอะเหมือนกันครับ

พี่น๊อท ที่จะจับจระเข้ มาตรวจ DNA ทีมจับเห็นว่าจะมาจากหน่วยที่บึงบอระเพ็ดที่คุ้นเคยกับจระเข้พอสมควร ตรงเรื่องเก็บตัวอย่างเลือกจะได้หมอต้นจากที่เชียงใหม่ลงมาจัดการให้  และกรมประมงรับจะเป็นเจ้าภาพในการตรวจ dna เอง  แต่ทุกวันนี้ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเพราะเฮียเข้ก็ยังอยู่ในถ้ำไม่ออกมา หรือออกมาแล้วไปแล้วก็ไม่รู้เหมือนกัน

จริงๆ  เรื่องจับมาตรวจ DNA นี่ผมสองจิตสองใจ ใจจริงๆ คือไม่อยากให้ไปจับไปยุ่งกับมัน เพราะเท่าที่ฟังมา ถ้ำตรงนั้นวังตรงนั้นเป็นบ้านของจระเข้ตัวนี้ที่อยู่มานานมาก ชาวบ้านบางคนเล่าให้ฟังว่าเห็นตัวนี้ตั้ง แต่ตัวเล็กๆ  ตั้ง แต่ยังไม่มีลูก จนลูกเข้าชั้นประถม มันก็อยู่วังนี้ไม่เคยไปไหน ที่กลัวที่สุดคือกลัวมันตื่นคน กลัวมันจะเห็นว่าตรงนี้ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว แล้วหนีไปที่อื่น ซึ่ง จริงๆ ก็คือไม่เหลือที่ปลอดภัยให้มันอีกแล้วนอกจากตรงนี้

ส่วนเรื่องตรวจ dna เข้าใจว่าจะเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อเป็นฐานข้อมูล ๑. คือให้แน่ใจว่าเป็น Crocodylus siamensis แน่ๆ ซึ่ง จริงๆ แล้ว ถ้าได้เห็นทั้งตัวก็น่าจะดูออก ๒. ในกรณีถูกกล่าวหาว่าเป็นจระเข้เลี้ยงเอามาปล่อย จะได้มี dna ยืนยันระดับความเป็นญาติว่า ไม่ได้เป็นญาติกับจระเข้ในที่เลี้ยง ซึ่ง ก็ไม่รู้ว่าข้อมูลพื้นฐานของ dna ของจระเข้ในที่เลี้ยงมีอยู่แค่ไหน คือผมมองว่า คนจะเชื่อ บอกทางโทรศัพท์มันก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าตามไปดูแล้ว คนจะไม่เชื่อเอาจระเข้ไปขี่คอมันยังไม่เชื่อ นับภาษาอะไรกับแค่ dna  ถ้ามันจะไม่เชื่อก็หาว่า แต่งข้อมูลอยู่ดี

ย้ำกับชาวบ้านไปหลายครั้ง ว่าการจับมาตรวจก็เป็นเรื่องดี  แต่ต้องอย่าลืมเป้าหมายหลักว่าเราต้องการอนุรักษ์จระเข้  ถ้าการจับจะเป็นการรบกวนหรือเสี่ยงต่อตัวจระเข้ ก็อย่าทำดีกว่า ใครจะเชื่อก็ช่างเขา จะไม่เชื่อก็ช่างเขา เรารู้ของเรา เรารักของเรา เราปกป้องของเราก็พอ

ดีใจที่เรื่องนี้ถึงกรมชลประทานในที่สุดครับ

...แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 2550 10:04:53

นณณ์ [ 25 เม.ย. 2550 10:03:50 ]

ความคิดเห็นที่: 22

ใช่แล้วผู้ใหญ่บ้านชื่อ"แวะ"นี่แหละ  หัวหน้าหน่วยแสลงหลวงที่ 5 คนใหม่ก็จำกลุ่มคุณนณณ์ได้

...แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 2550 13:02:32

mim4042 [ 25 เม.ย. 2550 13:00:11 ]

ความคิดเห็นที่: 23

 แต่ที่จริง  ถ้าไม่มีจระเข้ ความสำคัญในส่วนอื่นๆ   และผลทางลบหากมีเขื่อนก็น่าจะเพียงพอครับ

knotsnake [ 25 เม.ย. 2550 13:16:51 ]

ความคิดเห็นที่: 24

เพียง แต่ จระเข้จะเป็นตัวตีปี๊บที่ดังง่ายกว่าประเด็นอื่นๆ น่ะ

knotsnake [ 25 เม.ย. 2550 13:17:28 ]

ความคิดเห็นที่: 25

เยี่ยมเลยครับ :-)

ต้ล [ 25 เม.ย. 2550 13:31:23 ]

ความคิดเห็นที่: 26

 ถ้าทำแบบนี้กับแม่น้ำสาละวินได้จะดีมากๆ ครับ
รู้กันรึยังเอ่ย ว่าตอนนี้พม่าเริ่มสร้างเขื่อนกั้นแห่งที่1แล้ว

pe_cu [ 25 เม.ย. 2550 13:37:44 ]

ความคิดเห็นที่: 27

ยินดีด้วย

จุ่มพรวด [ 25 เม.ย. 2550 16:25:03 ]

ความคิดเห็นที่: 28

That is FLAGSHIP SPECIES, although Croc. it not endemic, and still have many ex situ population, but draw/attract awareness much more attention from people than cavefishes, which more vulnerable to Globally Extinction than Croc.

waterpanda [ 25 เม.ย. 2550 17:31:14 ]

ความคิดเห็นที่: 29

เย้ๆ   ขอบคุณพลังทุกพลัง ที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นนะคะ

ยายอ้วน [ 25 เม.ย. 2550 20:47:23 ]