ความคิดเห็นที่: 1

ไปหาเอกสารในนี้ก็ได้ครับ เผื่อใครสนใจอะไรเพิ่ม
url]http://www.venomdoc.com/publications.html[/url]

knotsnake [ 18 พ.ค. 2550 03:09:57 ]

ความคิดเห็นที่: 2

อุแหม....ไอ่เราก็นึกว่า สยาม สยาม

ไอ้ลูกทุ่ง [ 18 พ.ค. 2550 09:57:26 ]

ความคิดเห็นที่: 3

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ทำเนียบ
               ระดับพิษแรงใหมครับ

หลามหยก [ 18 พ.ค. 2550 10:01:58 ]

ความคิดเห็นที่: 4

much weaker than Boiga dendrophyla

waterpanda [ 18 พ.ค. 2550 10:57:05 ]

ความคิดเห็นที่: 5

จะพยายามศึกษาต่อไปครับ เผื่อจะรู้กับเขาบ้าง

jungle man [ 18 พ.ค. 2550 11:38:17 ]

ความคิดเห็นที่: 6

คอยๆ สะสมครับคุณคนป่า ใครมีรูปงูทางมะพร้าวก็รบกวนแปะรูปประกอบให้ด้วยนะครับ

knotsnake [ 18 พ.ค. 2550 13:36:44 ]

ความคิดเห็นที่: 7

ไม่มีรูปงู...แวะมาดูเฉยๆ

Montela_Hoya [ 18 พ.ค. 2550 15:20:17 ]

ความคิดเห็นที่: 8

ได้ยินมาบ่อยๆ ครับเรื่องนี้ แต่โดนกัดก้ไม่เป็นไรมากนี่นะ

Mr.prutodang [ 18 พ.ค. 2550 19:59:50 ]

ความคิดเห็นที่: 9

เปเปอร์จากท่าน knotsnake  เป็นการแยกโปรตีนองค์ประกอบของพิษงูทางมะพร้าว โดยใช้ LC-MS เครื่องมือที่ไฮโซ ( และเสียบ่อย)ที่สุดครับ เพื่อนที่นี่ก็เคยแยกองค์ประกอบของพิษงูเขียวหางใหม้ตาโตเหมือนกันครับ  แต่ไม่รู้มีเปเปอร์รึป่าว
เพิ่งรู้ว่าเจ้าทางมะพร้าวก็มีพิษกะเค้าด้วย
-..-

Darth Sidious [ 18 พ.ค. 2550 20:16:48 ]

ความคิดเห็นที่: 10

เป็นความรู้ใหม่เลยค่ะ

ยายอ้วน [ 18 พ.ค. 2550 22:37:25 ]

ความคิดเห็นที่: 11

มาเอาใจคุณเจ้าแม่โฮย่าหน่อย รูปงูทางมะพร้าวที่อ้างถึงครับ(ไปคุ้ยรูปเก่ามา อิ อิ)

knotsnake [ 18 พ.ค. 2550 23:41:07 ]

ความคิดเห็นที่: 12

ไม่ใช่ไอ้หัวงูนะ เพราะเป็นหัวของตัวเมีย

ถ้าจำไม่ผิด..งูตัวนี้เข้าไปในรังนกเพื่อหวังจะกินนกมาเป็นอาหารมาบำรุงไข่ที่กำลังมีพัฒนาในครรภ์ของเธอ เจ้าของนกเลยจับไว้ให้ครับ ซึ่ง เจ้าของนกตั้งกติกากับงูง่ายๆ คือ  ถ้ายังไม่กินนกก็รอด(เก็บไว้หรือปล่อยที่อื่นแล้ว แต่กรณี)  แต่ ถ้ากินหรือทำนกตายแล้วก็คือจับไปเลี้ยงกับพี่จง(จงอาง)ต่อไป

knotsnake [ 18 พ.ค. 2550 23:45:14 ]

ความคิดเห็นที่: 13

แล้วสำหรับกลุ่มงูปี่แก้ว-งอด ก็ยืนยันแล้วว่าเป็นงูพิษเป็นอันดับเพิ่มเติมต่อมาครับ(ยังหาเอกสารไม่เจอ) แล้วผมว่าพิษของมันจะแรงกว่างูทางมะพร้าวซะอีก เพราะมีการแสดงอาการจากผลของพิษด้วย

knotsnake [ 18 พ.ค. 2550 23:48:11 ]

ความคิดเห็นที่: 14

อ่า......

หัดเดิน [ 19 พ.ค. 2550 09:16:47 ]

ความคิดเห็นที่: 15

อุยน้องงอดมีพิษด้วยหรือ มิน่าหละเวลาโดนงับแล้วบวมทุกที

ฉันเอง [ 19 พ.ค. 2550 10:56:58 ]

ความคิดเห็นที่: 16

ผมเคยโดนงูปี่แก้วกัดครับ แผลหายช้ามาก ไม่รู้เกี่ยวกับพิษหรือเปล่าครับ

ม่านลาย [ 19 พ.ค. 2550 21:07:54 ]

ความคิดเห็นที่: 17

เอามาแปะตามคำขอ ๑ รูปครับผม  ฝีมืออาจจะไม่ค่อยดี (ยังไม่เข้าขั้นเท่าไหร่) นะครับ  พอดีว่ามือไม่ค่อยนิ่ง  ถ่ายมาจากที่แสงน้อย (ตู้งูที่เขาดิน)  ประกอบกับเจ้าทางมะพร้าวก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือเลย

แล้วอย่างนี้ งูในกลุ่ม Elaphe อื่นๆ  ที่มีอยู่ในเมืองไทยจะจัดเป็นงูพิษอ่อนด้วยหรือเปล่าครับ

ตะพากหน้าแดง [ 22 พ.ค. 2550 09:12:05 ]

ความคิดเห็นที่: 18

Elaphe อื่นๆ ของไทยที่น่ามีพิษด้วยก็เป็นกลุ่มที่แตกสกุลใหม่เป็น Coelognathus ครับ ได้แก่งูทางมะพร้าว(C. radiatus)  และงูทางมะพร้าวดำ(C. flavolineatus) ส่วนสกุลอื่นๆ ยังไม่ทราบครับ ที่น่าจะมีอีกสกุลคือ Oreophis หรือกลุ่มทางมะพร้าวแดง เพราะงูสกุลนี้กล้ามเนื้อในการรัดก็ไม่ได้แข็งแรงมากมายอะไร  แต่มันรัดแล้วเหยื่อตายง่ายไป ส่วนกาบหมากหางนิล(Orthriophis spp.)  และกลุ่มตัวเขียวๆ ในสกุล Gonyosoma นั้นกล้ามเนื้อแข็งแรงมาก อาจไม่จำเป็นต้องใช้พิษ อย่างไรก็ตามเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว อย่าเพิ่งเอาไปอ้างอิงนะครับ เพราะผมยังไม่มีอ้างอิงมาสนับสนุน

knotsnake [ 22 พ.ค. 2550 10:14:18 ]

ความคิดเห็นที่: 19

อ่อ ครับผม  ขอบคุณครับ คุณน็อต

คงไม่ใช้ในการอ้างอิงอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ  กะว่าจะเก็บไว้ใช้เป็นข้อมูลในการระมัดระวังในการเข้าใกล้งูกลุ่มนี้มากกว่าอ่ะครับ  เพราะถึงเป็นงูที่มีพิษอ่อนๆ    แต่ ถ้าถูกกัดแล้วแพ้พิษก็คงแย่เหมือนกันครับผม

ตะพากหน้าแดง [ 22 พ.ค. 2550 13:12:52 ]

ความคิดเห็นที่: 20

ไม่ว่างูมีพิษหรือไม่ ก็ไม่ควรให้โดนกัดอยู่แล้วครับ เพราเราอาจตายเพราะบาดทะยักได้

knotsnake [ 22 พ.ค. 2550 13:48:51 ]