กระทู้-07721 : ถึงฤดู เจาะเปลือกไข่แล้ว....ทายสิ ชั้นเป็น ใคร?...

Home » Board » Test : Q&A

ถึงฤดู เจาะเปลือกไข่แล้ว....ทายสิ ชั้นเป็น ใคร?...

ออกตัวก่อนครับ...ว่าไม่ได้ซื้อหามาเลี้ยง....
genus approve [ 28 พ.ค. 2550 10:11:23 ]
Test_QA_reply_29484.jpg
ความคิดเห็นที่: 1
ไม่ได้ ปีนป่าย ไปเก็บมา....

แต่เค้ามาขออยู่ด้วย...
genus approve [ 28 พ.ค. 2550 10:12:46 ]
ความคิดเห็นที่: 2
นกกางเขนบ้าน
นณณ์ approve [ 28 พ.ค. 2550 10:21:52 ]
ความคิดเห็นที่: 3
ง่ะ....

ไม่ได้ลุ้น เลยเรา.....อิอิ..

ใช่แล้วครับ...เป็นกาเขนบ้าน....ที่ออกจะบ้านแท้ๆ  เลย...
คือมันมาทำรังที่ตู้รับจดหมายหน้าบ้านครับ...ตอนแรกก็คิดว่าใครมันพิเรน เราหญ้ามาใส่ในตู้จดหมายฟ่ะ...( แต่อีกใจคิดว่า หนูมันคาบมาทำรัง)  ผมก็เอาออก...
ทิ้งไว้อีกซัก 2-3 วัน มีอีกแล้ว......ก็จะเอาออกอีก... แต่ทีนี้ตอนดึงออกมา เป็นรูปรังแล้ว เลยคิดว่าต้องเป็นนกแน่... แต่ไม่ทราบชนิด ...ผมก็เลย เอ๊า...อยากอยู่ก็อยู่ไป
genus approve [ 28 พ.ค. 2550 11:05:32 ]
Test_QA_reply_29490.jpg
ความคิดเห็นที่: 4
 แต่ก็กลัวคนส่งจดหมาย มายัดโดนลูกนกเหมือนกันนะ..
genus approve [ 28 พ.ค. 2550 11:06:32 ]
Test_QA_reply_29491.jpg
ความคิดเห็นที่: 5
 และก็ไม่คิดว่า มันจะมีลูก ถึง 4 ตัวเลย....ทำให้อีกตัว โดนถีบออกมาข้างนอก...

เอ...หรือมันรู้มาก....ออกมาข้างนอก จะได้อาหารก่อน ตัวอื่นๆ
genus approve [ 28 พ.ค. 2550 11:08:26 ]
Test_QA_reply_29492.jpg
ความคิดเห็นที่: 6
เลี้ยงลูก ตั้ง 4 ตัว

พ่อแม่นก...หาแมลงให้กิน เรียกได้ว่า แทบจะทุก 5-10 นาที ทีเดียวครับ...เห็นแล้วเหนื่อยแทน...

ตอนนี้ ผมห่วงเจ้าตัวนอกรังเนี่ยแหล่ะ...จับใส่รังไป 2 ที ก็ออกมาอยู่ข้างนอกเหมือนเดิม ก็เลยช่างมัน....
แต่ก็กลัวว่าจะตกไปตายก่อน ตอนผมไม่อยู่บ้านเนี่ยแหละ... และดูเหมือน ขามันจะเก เอาได้นะเนี่ย เพราะว่ามันลื่น...



คิดว่าผมควรจะไปยุ่งเรื่องครอบครัวเขา ไหมครับ...หรือว่าปล่อยไปตามธรรมชาติดี...?
genus approve [ 28 พ.ค. 2550 11:15:24 ]
ความคิดเห็นที่: 7
 ถ้ายังไม่ถึงขั้นจำเป็นจริงๆ ก็ปล่อยตามนั้น  แต่ ถ้าคุณมีเวลามากพอลองเอามาอนุบาลยกครอกดู แล้วจะเนว่าแม่นกจะรีบออกไข่ชุดใหม่ในเวลาไม่นาน แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงลูกชุดใหม่

เรื่องเหล่านี้นักอนุรักษ์เขาไม่เคยเอามาคิดหรอกครับ  แต่ต้องพร้อมที่จะเลี้ยงจริงๆ นะ แล้วแยกมาหลังระยะขนเริ่มแตกแล้ว(ในส่วนของคนที่ชำนาญจะแยกตั้ง แต่ระยะในรูปเลย) ข้อมุลนี้เป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าการเลี้ยงกับการอนุรักษ์สามารถเป็นมิตรกันได้ สุดท้ายมันอยู่ที่คนต่างหากว่าจะจริงใจแค่ไหน ทั้งสองฝ่าย
knotsnake approve [ 28 พ.ค. 2550 11:42:04 ]
ความคิดเห็นที่: 8
ตัวในภาพนี่ ถ้าจะเลี้ยงก็เลี้ยงสบายครับ  แต่ลูกนกกินแมลงนี่จะเลี้ยงยากสักหน่อย อาจะต้องสับหนอนนก หากินไข่ หาปลวกให้กินบ้าง ดังนั้นไม่พร้อมอย่าดีกว่าครับ  ถ้านึกภาพตัวเองสับหนอนนกหรือสับไส้เดือนไม่ออก อย่าเลี้ยงลูกนกกินแมลงครับ!
นณณ์ approve [ 28 พ.ค. 2550 11:52:37 ]
ความคิดเห็นที่: 9
ว่า แต่กระทู้นั้น.....ที่พันทิพหายไปแล้วครับท่านผู้ชม!!
นณณ์ approve [ 28 พ.ค. 2550 11:53:16 ]
ความคิดเห็นที่: 10
มิน่า..สงสัยกระทู้ระเบิดแล้ว เหอๆๆๆๆ

เห็นด้วยที่โดนปิด เพราะกว่า 80 % เป็นการทะเลาะกันนอกประเด็น ทั้งๆ ที่ทั้งหมดเห็นด้วยว่าทั่นประธานควรแสดงสปิริต
knotsnake approve [ 28 พ.ค. 2550 11:56:54 ]
ความคิดเห็นที่: 11
เริ่มต้นที่การตั้งกระทู้ผิดที่?(หรือจงใจล่อเป้า?ก็ไม่แน่ใจนะ)
หัวกระทู้มันเป็นรูปนกหกห้อยหัวนอน คล้ายจะเอามาโชว์
ถ้ากระทู้อยู่ที่โต๊ะจตุจักร เรื่องคงจะเงียบ  ไม่กระโตกกระตากอะไร  เผอิญมันไปอยู่ห้องนักนิยมไพร  เลยโดนวิจารณ์แหลก  พวกนักนิยมไพรขวาจัดก็ผสมโรงด่ากราดเหมารวมไปด้วย
snakeeater approve [ 28 พ.ค. 2550 12:21:45 ]
ความคิดเห็นที่: 12
เอ๋อ......ใช่กระทู้ ร้านอาหาร นั่น หรือเปล่าครับ....

แบบว่า ไม่ได้ตามแล้ว....อิอิ

อันที่จริงผมก็ไม่ค่อยอยากไปยุ่งเกี่ยวกับธรรมชาติเท่าไหร่ครับ...ให้พ่อแม่มันเลี้ยงไป
 ถ้าเป็นสมัยยังไม่ได้ทำงาน คงเอาไปเลี้ยงแล้วครับ...เรื่องหาแมลง หั่นหนอน ไส้เดือน เรื่องเล็กครับ พี่นนณ์
 แต่ตอนนี้ แก่แล้ว..งานการมี ธุระมาก ไม่มีเวลาเลี้ยง...เลยไม่เอา...

 แต่พอมาอ่าน ที่พี่น๊อต ว่า พอลองเอามาอนุบาลยกครอกดู แล้วจะเห็นว่าแม่นกจะรีบออกไข่ชุดใหม่ในเวลาไม่นาน แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงลูกชุดใหม่
ผมเลยมาฉุกคิดว่า ที่ได้เอารังมันไปทิ้งตอนแรก ...ทำให้มันมีลูกถึง 4 ตัวหรือเปล่า (ปกติ น่าจะ 2 ตัว)

หรือว่า มันมี 4 ตัวเป็นปกติ....?

..
genus approve [ 28 พ.ค. 2550 13:21:30 ]
ความคิดเห็นที่: 13
เอาตัวที่ถูกถีบออกมาเลี้ยงได้แล้ว ก่อนที่มันจะตกมาตาย
ธรรมชาติจะกำจัดตัวที่อ่อนแอกว่าทิ้ง แล้วตัวีที่ออกมีนี่คือส่วนเกิน
ตัวที่แข็งแรงกว่าจะดันตัวที่อ่อนแอกว่า  และมากเกินไปให้ตอมาตายเอง เพื่อความอยู่รอดของส่วนรวมเสมอ
มันเป็นตัวที่แย่งอาหารกินได้น้อยที่สุด จะยิงอ่อนแอลงกว่านี้ เพราะพี่จะแย่งกินหมด
เพราะอาหารมีไม่พอสำหรับ 4 ตัว  ถ้าตองการให้รอดทั้ง 4 คุณก็ต้องเอาตัวนั้นมาอนุบาลก่อนให้มันแข็งแรง
กกไฟให้ความอบอุ่น ให้อาหารตามคำแนะนำของผู้มีประสบการณ์ ขุนมันให้โตจนใกล้จะบินได้เหมือนพี่พี่ของมัน ค่อยดูในกล่อง จม. ด้วยว่าใกล้เวลาที่พ่อแม่จะพาออกจากรังหรือยัง ประมาณอีก 7- 10  วันจากนี้ไป
ลองจับมันยัดใสกลับไปให้พ่อ แม่ เลี้ยงเอง เพื่อพาบินออกจากรังต่อไป ได้อานิสงแรงน๊ะ

ถ้าทำกรรมร่วมกันมา แต่ปางก่อน พ่อแม่ไม่รับส่วนเกิด คุณก็จำเป็นต้องเลี้ยงมันต่อไป
ปล. ระวังเรื่อง แมว หมา ไว้ด้วยตอนเลี้ยงมัน
ใบไม้ร่วง [ 28 พ.ค. 2550 13:49:45 ]
forest_mail@csloxinfo.com
ความคิดเห็นที่: 14
ขออนุญาตชี้อีกมุมตามประสาคนที่เห็นการเกิด แก่ เจ็บ ตายของสัตว์ และคนมาพอสมควร..

นกที่อ่อนแอจนถูกถีบตกลงมา อาจถูกคัดทิ้งตามธรรมชาติแล้ว(ประมาณว่าธรรมชาติไม่อยากให้มันทำหน้าที่สืบพันธุ์ได้ต่อไป) ธรรมชาติอาจทำโดยสุ่ม หรือจงใจก็ไม่ทราบได้ หากจงใจก็อาจเพราะยีนที่ซ่อนไว้ภายในนั้นมันเป็นส่วนที่จะทำให้เผ่าพันธุ์ด้อยลงจนอาจกระทบถึงภาพรวมทั้งหมด ดังนั้นการเอามาอนุบาลแล้วส่งคืนธรรมชาติก็อาจเกิดผลเสียมากกว่าก็ได้

ในทางกลับกัน นกตัวนี้อาจถูกสุ่ม ซึ่ง จริงๆ มันก็พร้อมที่จะส่งต่อพันธุกรรมที่ดีได้ต่อไป ซึ่ง หากอนุบาลแล้วส่งคืน ก็เป็นการรักษาเผ่าพันธุ์ได้อีกทางหนึ่ง หากไม่เหมาะจริงๆ  ธรรมชาติก็คัดทิ้งซ้ำได้อีกโดยการไม่ให้มีใครมาเลือกมันเป็นคู่

ยังมีอีกหลายมุมให้คิดครับ เอาแบบต่างขั้วไปดูเล่นๆ ก่อนแล้วกัน อ้อ..หากมองในมุมของคนที่อยากเลี้ยง แล้วพัฒนาจนเป็นสัตว์เลี้ยง ตัวที่ถูกธรรมชาติคัดทิ้งเป็นจุดเริ่มต้นที่ถือว่าน่าพอใจอยู่เหมือนกันครับ เพราะถึงอย่างไรคนทั่วไปก็อยากเพาะแล้วได้ลักษณะที่แตกต่างจากเดิมเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดูพิเศษกว่านกป่า หรือหน้าตาแบบเดิม  แต่มันไม่ต้องไปดิ้นรนต่อสู้กับโลกภายนอกเอง มันก็ยังริดต่อไปได้
knotsnake approve [ 28 พ.ค. 2550 14:37:12 ]
ความคิดเห็นที่: 15
จากข้อความนี้ แลที่ตามมาอื่นอีก
"ข้อมุลนี้เป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่าการเลี้ยงกับการอนุรักษ์สามารถเป็นมิตรกันได้ สุดท้ายมันอยู่ที่คนต่างหากว่าจะจริงใจแค่ไหน ทั้งสองฝ่าย"

เป็นแนวคิดในแง่ดีของนักวิชาการทั้งหลาย  แต่ก็ขอแสดงมุมมองบางอย่างไว้น๊ะ
การเลี้ยงสัตว์ป่า ขอมองในสองแง่สองง่ามดังนี้

การเลี้ยงเพราะ ความสงสาร ต้องการช่วยชีวิต (อย่าที่ จขกท กำลังจะทำ) ปกป้องเผ่าพันธ์ที่ไม่แข็งแรง แกรงจะสูญหายตายจากไปจากโลกที่กำลังจะต้องดับสูญไปเช่นกัน ซึ่ง จะไม่ขออธิบายต่อน๊ะ รู้เอง

การเลี้ยงเพราะหื่นกระหายทางอารมณ์ และเงินตรา

หื่นกระหายจนต้องอยากได้ใครมีไว้ในครอบครองสัตว์ ที่ไม่เหมือนคนอื่น แปลกใหม่ อวดบุญวาสนาบารมี ทั้งบารมีทางอำนาจ  และทางวิชาการ

หื่นกระหายที่จะได้ทดลองเลี้ยงสัตว์แปลกใหม่ก่อนใคร ขายสัตว์ที่ไม่มีในร้านอื่นๆ  ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ

หื่นกระหายที่จะได้เห็นสิ่งที่เคยเห็นในเอกสาร ในวีดิโอ ได้ iden. กับตา ของนักวิชาการร้อนวิชาทั้งหลาย จริงม๊ะ น้องๆ  ฝนแรก นณณ์ knotsnake nan ใครไม่เคยไปจตุจักร ยกมือขึ้นดิ ผมไม่ได้ไปนานมากแล้วไม่รู้มีอะไรใหม่บ้าง

หื่นกระหายเพราะหลงคิดว่าได้มีชส่วนในการอนุรักษ์  แต่แท้ที่จริงแล้วก็เพื่อการอยู่รอด และเติบโตต่อไปของธุรกิจ zoo , aquarium ของตนเอง และเครือข่าย แล้วเอามาเป็นข้ออ้างว่าตัวเองเพราะพันธ์ได้มาก จำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนสัตว์ระหว่างกันเพื่อประโยนช์ทางวิชาการ วิจัย แล้วผลักดันให้เกิดรูโหว่ทางกฏหมายระหว่างประเทศให้กระทำได้ จนนำไปสู่การได้สัตว์ป่าเข้า zoo โดยไม่สนใจว่า จะเป็นแมวสีขาวหรือสีดำ ของให้จับหนูได้เป็นพอ ก็เลยมีธุรกิจเครือข่ายสีดำที่มโหลาน ทำหน้าที่ลักลอบขนส่งสัตว์ป่าให้กับ zoo เหล่านี้ จำเรื่องราวของ exotic เหล่านี้ด้ไหม ปิรันญ่า NEMO กระซู่ นาคหญ้า อุรังอุตัง กิ้งก่าเขียว แฟรมมิงโก้ หรือแม้ แต่ ลิ่ม พิดจะริว งูสิงงูเห่าในกล่องตะพาบไต้หวัน อุ้งตีนหมีน้ำแดง มันมาจากการเพราะเลี้ยงที่เป็นมิตรกับสัตว์ป่ากะนั้นหรือ  ไม่อยากเล่าเรื่องตายหมู่ของแฟรมมิงโก้ ที่ไม่มีใครรู้มาก่อน ให้หดหู่ใจเลย อาจจะเกิดขึ้นสมัยที่คนที่ถูกกล่าวหาในพันทิพ เป็น ผอ.สวนสัตว์ ด้วย อยากรู้ก็แย้งมา

หื่นกระหายเพราะความไม่รู้  แต่มันแปลกดี น่ารัก เท่ คุกขุ อยากได้ ที่สุดก็ เขลา หลงซื้อไปเลี้ยง ทั้งๆ ที่ไม่เคยเลี้ยงแม้ แต่หมาแมวที่บ้านยังไมเคยเลี้ยงดูมันอย่างดีเลย สุดท้ายก็ ตายกับมือ หมาแมวฟัดตาย หลุดหนีไปได้ เบื่อแล้วแอบไปปล่อยทิ้งดีกว่า กว่าจะมาเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดที่เจ้าของภูมิอกภูมิใจอวดแท่กับคนอื่นได้ ต้องไปหามาเลี้ยงใหม่กี่ครั้งละ น้อง knotsnake ลองย้อนนึกถึงตอนเด็กให้ดีซิ ทำตายมากี่ตัวแล้ว ผมเป็นเด็กมาก่อนคุณแน่นอน  และก็เป็นนักวิชาการที่คิดแบบคุณมาก่อนเช่นกัน ฮึฮึ
ใบไม้ร่วง [ 28 พ.ค. 2550 17:56:04 ]
forest_mail@csloxinfo.com
ความคิดเห็นที่: 16
คุณ genus คะ  ถ้าสงสารก็เลี้ยงเค้าไว้เถอะค่ะ (เจ้าตัวนอกรังนั่น)
จะรอดหรือไม่รอด ก็แล้ว แต่บุญ แต่กรรมของมัน

ยายอ้วนตอนเด็กๆ  คนงานแถวบ้านไปเจอลูกนกเอี้ยงหงอนหล่นลงมาจากรัง
เค้าก็เอามาให้ ก็เลี้ยงมันมาจนตอนนี้มันอายุได้ 16 ปีแล้ว ยังแข็งแรงไม่เป็นอะไร

แล้วอย่าลืมมาเล่าความคืบหน้าให้ได้ทราบกันบ้างนะคะ
ยายอ้วน approve [ 28 พ.ค. 2550 18:32:28 ]
ความคิดเห็นที่: 17
ไม่ปฏิเสธหรอกครับ เรื่องความหื่นกระหาย อยากเห็นอยากลองของแปลกนี่มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์
มันมีเส้นบางๆ แบ่งอยู่นิดเดียวระหว่างการทำลายกับสร้างสรรค์ ผมว่าในที่สุดแล้วมันอยู่ที่ว่าใครสามารถ
ควบคุมความหื่นของตัวเองได้มากกว่ากัน ใครมีเหตุ มีผล มีความรู้ที่จะมาลองรับความหื่นได้มากกว่ากัน
ทุกอย่างอยู่ที่จิตสำนึก เป้าประสงค์ของการกระทำ ซึ่ง จุดแบ่งระหว่างการทำลายกับสร้างสรรค์นั้นมันบางแคบ จนสำหรับหลายๆ คนมันเหลือมจนข้ามไปข้ามมาอยู่บ่อยๆ
นณณ์ approve [ 28 พ.ค. 2550 20:28:49 ]
ความคิดเห็นที่: 18
ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธมุมมองของพี่ใบไม้ร่วง แต่อย่างใดครับ  และขอน้อมรับด้วยใจจริง  ในส่วนตัวผมเองผมก็พูดกับตัวเองหรือแม้ แต่คนอื่นๆ ที่ผมได้เกี่ยวข้องเสมอในมุมมองของพี่โดยเฉพาะในงานวิชาการที่ฝรั่งเข้ามาทำในเมืองไทย ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการเก็บตัวอย่างที่มากเกินความจำเป็นในสายตาของผม( และหลายๆ คน) โดยเขาอ้างความน่าเชื่อถือทางสถิติ  แต่พอผมมาดูเนื้องานจริงๆ  กับผลที่เขาเอามาใช้ สรุปว่าเกินความจำเป็น  แต่ ถ้าถามว่าการศึกษายังต้องมีต่อไปไหม ผมก็ขัดไม่ได้ที่จะต้องตอบว่ามี เพราะความรู้ต่างๆ ที่เราเอามาใช้ในการอนุรักษ์ในยุคปัจจุบันก็มาจากการทำลายชีวิตแทบทั้งสิ้น  การเลี้ยงสัตว์ของผมมีหลายวัตถุประสงค์ในเวลาเดียวกัน แน่นอน มีสัตว์ที่ต้องตายไป  แต่การตายของสัตว์ แต่ละตัวของผม มันก็จะมีหน้าที่ที่ต้องทำต่อไปเสมอตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ที่วางไว้ จากตอนเด็กๆ  ผมเลี้ยงเพราะอยากลอง  แต่จากจุดนั้นตอนนี้ก็มีงานที่ออกมาเพื่อเป็นแนวทางการอนุรักษ์ในมุมมองที่คนมองข้ามมาตลอด อย่างน้อยก็จนเกือบมาถึงช่วงชีวิตผมในปัจจุบัน โดยข้อมูลบางอย่างก็ได้จากคนที่ทำหน้าที่เสมือนทำลายนั่นแหละ หรือแม้ แต่ข้อมูล ความรู้ของพี่เอง ก็มีจุดกำเนิดจากจุดนี้เช่นกัน  ผมไม่ได้คิดย้อนรอยอดีตตรงนั้น อย่างน้อยก็ส่วนที่ผมทำ  แต่ผมก็ยังใช้ข้อมูลที่ได้มาจากการย้อนรอยนั้นมาประกอบ

ส่วนที่พี่ชี้ให้เห็นมุมมองสองแง่สองง่ามนั้น ผมก็มองเห็นเหมือนกับพี่นั่นแหละ แล้วตัวผมเองก็ไม่เคยป่าวประกาศว่าผมเป็นนักอนุรักษ์ เหรียญ..ดูเหมือนมี 2 ด้านที่อยู่ต่างขั้วกัน  แต่ที่จริงมันมีอย่างน้อย 3 ด้านครับ คือด้านที่เชื่อมต่อด้านทั้งสองไว้ด้วยกัน  แต่ด้านนี้จะอยู่ได้ก็ต้องอาศัยความสมดุลย์ของทั้งสองด้านจึ้งจะตั้งเหรียญนั้นอยู่ได้  แต่นั่นแหละ มันเป็นด้านที่เปราะบางที่สุดหากด้านทั้งสองไม่สมดุลย์กัน การจัดการทรัพยากรก็เช่นกัน..หากเราจัดการโดยไม่คำนึงถึงพฤติกรรมมนุษย์แล้ว ไม่มีทางแก้ไขปัญหาได้หรอกครับ แล้วยังเป็นการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งมากขึ้นตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไปด้วย เพราะต่างฝ่ายต่างจะเอาชนะในแนวคิดของตน สุดท้ายก็จบด้วยความพ่ายแพ้ทั้งสองฝ่าย หรือกว่านั้น
knotsnake approve [ 29 พ.ค. 2550 00:42:10 ]
ความคิดเห็นที่: 19
เส้นนั้นมันไม่มีหนามีบางหลอก นิวเคลียสที่ว่าเล็กกว่าเซลแล้วคนยังเอากล้องไปส่องถึงดีเอ็นเอ เลย
มันอยู่ที่ว่า ได้ตีเส้นนั้นไว้ แล้วขีดเขียนให้ตัวหนังสือนั้นอยู่ระหว่างเส้นบรรทับนั้หรือเปล่า

ไม่ได้สื่อความหมายไปถึงเรื่องอื่นเลย พูดถึงเลี้ยงสัตว์ป่า และค้าขายเท่านั้น อย่าอินไปทางอื่น
ใบไม้ร่วง [ 29 พ.ค. 2550 01:34:25 ]
forest_mail@csloxinfo.com
ความคิดเห็นที่: 20
เส้นบางๆ เส้นนี้มันไม่ได้มีเสถียรภาพในตัวมันเอง แล้วผมไม่สามารถบอกได้ว่าจุดสมดุลย์ที่แท้จริงอยู่ตรงไหน เพราะต่างก็บอกว่าเส้นมันอยู่ตรงนั้นตรงนี้ตามความคิดของคนๆ นั้น แล้วผมจะยินดีมากที่จะมีการเขียนกำกับเส้นบรรทัดฐานนี้ด้วยใจเป็นกลางครับ

คราวนี้ผมคงไม่ได้อินไปทางอื่นนะพี่ แล้วผมเองก็ไม่ได้มาหักล้างข้อความใดๆ ทั้งสิ้น ออกจะยินดีด้วยซ้ำที่มีแนวการมองลักษณะนี้ ทั้งนี้เพื่อถ่วงดุลย์กับการมองมุมตรงข้ามสุดโต่งกับพี่  และแลกเปลี่ยนมุมมองกับคนสีเทาอย่างผม

ด้วยความเคารพ

ปล. ผมกล่าวในฐานะคนที่มีสัตว์ที่มีชีวิตอยู่กับผม ส่วนในเรื่องการค้า(รวมซื้อ) ผมจัดเป็นลูกค้าชั้นเลวที่สุดคนหนึ่ง( แต่อาจเป็นลูกค้าชั้นดีสำหรับผู้ค้าสัตว์ป่าจะพวกปลาที่เป็นสัตว์ต่างถิ่นที่มาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองไทย)
...แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 2550 09:37:28
knotsnake approve [ 29 พ.ค. 2550 09:36:34 ]
ความคิดเห็นที่: 21
การเลี้ยงเพราะ ความสงสาร ต้องการช่วยชีวิต (อย่างที่ จขกท กำลังจะทำ) ปกป้องเผ่าพันธ์ที่ไม่แข็งแรง แกรงจะสูญหายตายจากไปจากโลกที่กำลังจะต้องดับสูญไปเช่นกัน ซึ่ง จะไม่ขออธิบายต่อน๊ะ รู้เอง
ที่ คุณใบไม้ร่วง กล่าวมา..

ผมก็ได้ออกตัวไปแล้ว ใน คห. 12 ว่า
"อันที่จริงผมก็ไม่ค่อยอยากไปยุ่งเกี่ยวกับธรรมชาติเท่าไหร่ครับ...ให้พ่อแม่มันเลี้ยงไป
 ถ้าเป็นสมัยยังไม่ได้ทำงาน คงเอาไปเลี้ยงแล้วครับ...เรื่องหาแมลง หั่นหนอน ไส้เดือน เรื่องเล็กครับ พี่นนณ์
 แต่ตอนนี้ แก่แล้ว..งานการมี ธุระมาก ไม่มีเวลาเลี้ยง...เลยไม่เอา..."

ผมเชื่อว่า  "ทุกชีวิต มีวิถีทางของมัน"   แต่มันจะเลือกเดินในทางที่ยาก หรือง่าย

หากเลือกทางที่ยาก เผ่าพันธุ์ของมัน ก็สูญสิ้น เท่านั้นเอง


การที่มีคนหลายๆ  คน หื่นกระหายที่อยากครอบครองสัตว์ ที่มันมีน้อย หายาก เป็นเรื่องปกติเลยครับ... ถ้ายังมีคนส่งมาป้อนความต้องการนั้นๆ   และมันก็จบลงด้วยชีวิตที่ไร้ค่า ไม่มีแม้ตัวอักษรบันทึกไว้เป็นหลักฐานทางวิชาการบ้าง

ผมมองว่า หากมีใครสักคน ที่ได้ครอบครองสัตว์นั้น  และศึกษา เลี้ยงดูอย่างถูกต้อง ถูกวิธี อาจจะไม่เป็นธรรมชาติ 100%  แต่มันก็ยังมีเอกสาร หลักฐาน บันทึกไว้ ให้คนรุ่นต่อๆ  ไปได้รับรู้ ก็ดีกว่านะครับ...
genus approve [ 29 พ.ค. 2550 10:44:52 ]
ความคิดเห็นที่: 22
ถึงจะเปนลูกนกกินแมลง แต่เลี้ยงไม่ยากหรอก หัดให้กินอาหารอื่นตอนเปนลูกนกก็ได้
เช่นอาหารหนูที่เปนเม็ดเขียวๆ  แล้วเอามาแช่น้ำให้นิ่มๆ  จับป้อนเค้า ก็กินเปนเองแหละ
เคยเลี้ยงมาแล้วตั้ง แต่ฟักออกมาจากไข่เลย จนโตเปนกางเขนเหมือนพ่อแม่อ่ะแหละ
ต้องมีที่ใส่น้ำให้เค้าด้วยนะเรพาะว่ากางเขนชอบลงเล่นน้ำ
abcandidus [ 29 พ.ค. 2550 21:07:14 ]
ความคิดเห็นที่: 23
คุณยายอ้วนครับ ผมเลี้ยงมา 15 ปีแล้วเหมือนกันครับ เจ้านกเอี้ยงของผมหัวโล้นไปหลายรอบแล้วครับ แบบว่าผลัดขน  และมีทะเบียนสัตว์ป่าคุ้มครองด้วยนะเท่ชะมัด เห็นนกกางเขนบ้านแล้วคิดถึงมันจังเลยครับ
นายแมลง approve [ 02 มิ.ย. 2550 08:49:21 ]

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org