กระทู้-07730 : รบกวนเซียนหอยบกหน่อยครับ

Home » Board » อื่นๆ

รบกวนเซียนหอยบกหน่อยครับ

รบกวนขอชนิดหอยในรูปหน่อยครับ พบที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ครับ ต้องขออภัยที่มีภาพมุมเดียวครับ ขอบคุณครับ
coneman approve [ 29 พ.ค. 2550 20:49:54 ]
ความคิดเห็นที่: 1
ไม่เซียนง่ะ ขอเดาว่าเป็น Dyakia salangana
 เหตุผล เพราะเปลือกเวียนซ้าย (ไม่ค่อยจะเป็นเหตุผลเท่าไหร่เนอะ)

แล้วเดี๋ยวจะเมลไปหาเซียนอีกทีนึง
นกกินเปี้ยว approve [ 29 พ.ค. 2550 20:58:15 ]
ความคิดเห็นที่: 2
เวลาบอกว่าเวียนซ้าย หมายถึงหันด้านบนขึ้นแล้วหมุนออกไปจากตรงกลางของหอย  ถ้าทวนเข็มนาฬิกาก็เวียนซ้าย ตามเข็มก็เวียนขวา ถูกไหมครับ
นณณ์ approve [ 29 พ.ค. 2550 21:04:25 ]
ความคิดเห็นที่: 3
ดูปากมันน่ะครับ ง่ายดี เวลาหันก้นหอย (เกลียว) ขึ้น หันปากมาหาตัวเรา  ถ้าปากเปิดอยู่ทางฝั่งใหนของเรา ก็เรียกว่าเวียนฝั่งนั้นแหละครับ
นกกินเปี้ยว approve [ 29 พ.ค. 2550 21:15:14 ]
ความคิดเห็นที่: 4
อา.......จริงโด้ย
นณณ์ approve [ 29 พ.ค. 2550 21:26:00 ]
ความคิดเห็นที่: 5
ขอบคุณสำหรับชนิดครับ เวียนซ้ายเวียนขวาก็ตามที่คุณนกกินเปรี้ยวบอกครับ  แต่มีเกร็ดความรู้มาเสริมนิดนึง ในพระราชพิธีสำคัญๆ ทางพราหมณ์ที่ใช้สังข์รดน้ำ(Turbinella pyrum)ประกอบพิธี พราหมณ์จะดูเวียนซ้ายเวียนขวาต่างกับเราครับ คือเค้าจะหันยอดเปลือก (apex)เข้าหาตัวหงายปากเปิดเปลือกขึ้น ปากเปิดอยู่ทางไหนก็เรียกเวียนทางนั้น ฉนั้นจะสลับกับที่เราเรียก คือหอยเวียนขวา(dextral) ของเรา พราหมณ์จะเรียกหอยเวียนซ้าย(อุตราวัฎ) ส่วนหอยเวียนซ้าย(sinistral)ของเรา พราหมณ์จะเรียกหอยเวียนขวา(ทักษิณาวัฎ) เนื่องจากใช้เกณฑ์การดูที่ต่างกันนั่นเอง ไม่งงนะครับ
coneman approve [ 30 พ.ค. 2550 00:26:01 ]
ความคิดเห็นที่: 6
ดับเบิ้ล สแตนดาร์ดเห็นๆ  เป็นแม้ แต่กการดูการเวียนของเปลือกหอย

ที่จริงผมไม่เห็นด้วยกับการเอาทิศการเวียนเปลือกหอยมาจำแนกชนิด เพราะหอยทุกชนิดมีโอกาสที่จะเวียนตรงข้ามกับหอยปกติในชนิดนั้นๆ  บางชนิดมีสัดส่วนเวียนซ้าย/ขวาที่เท่าๆ กัน ซึ่ง หากเจอเวียนผิดปกติก็จะมึนไม่น้อย นอกเสียจากว่ามีส่วนอื่นให้พิจารณาได้ชัดเจน
knotsnake approve [ 30 พ.ค. 2550 00:39:57 ]
ความคิดเห็นที่: 7
ถูกต้องนะครับ Dyakia salangana  เป็นหอยที่มีเปลือกเวียนซ้ายทั้งหมด เปลือกวงสุดท้ายทุกวัยจะขึ้นเป็นสัน  และมักมีเส้นสีน้ำตาลอมแดง บางคนบอกเข้ม แล้ว แต่ตานะครับ  ถ้าใครเจอเวียนขวาบอกผมด้วย จะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่เลยเชียว ห้ามทำเองนะครับ

สมศักดิ์
สมศักดิ์ ปัญหา [ 30 พ.ค. 2550 06:39:54 ]
somsak_panha@yahoo.com
ความคิดเห็นที่: 8
ลืมบอกไปครับว่า การเวียนซ้ายขวาของเปลือกไม่ได้เป็นลักษณะสำคัญในการบอกชนิดหรอกครับ เป็นลักษระประกอบเท่านั้น เรื่องการเวียนของเปลือกเป็นลักษณะที่สำคัญที่ถูกกำหนดโดยพันธูกรรม เพียงยีนตัวเดียวเท่านั้น  และกว่าจะเป็นเช่นนี้ใช้เวลาเป็นล้านๆ  ปี  ที่สำคัญคือหลายชนิดมักมีทั้งเวียนซ้ายเวียนขวา ที่ถือว่าเป็นความผันแปรทางธรรมชาติ  แต่ D. salangana มีเฉพาะเวียนซ้ายเท่านั้น มันต้องเกิดอะไรขึ้นในอดีต การวิจัยในหอยต้นไม้ Amphidromus พบว่าเป็นลักษณะที่สำคัญต่อการสืบพันธุ์ของหอยบก  และการหลบจากผู้ล่า น่าสนใจที่ขณะนี้ได้ตั้งสมมุติฐานว่า ผู้ล่าหอยได้แก่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กเช่นกระรอก กระแตมักจะกินหอยเฉพาะเปลือกเวียนขวาทำให้หอยเวียนซ้ายบางชนิดอยู่รอด ที่เป็นเช่นนี้เพราะ กระรอก กระแต ก็มีถนัดซ้าย ถนัดขวาเหมือนคนเรานะครับ...เจ้านาย

สมศักดิ์ ครับ
สมศักดิ์ ปัญหา [ 30 พ.ค. 2550 06:49:00 ]
somsak_panha@yahoo.com
ความคิดเห็นที่: 9
ท่านอาจารย์มาเองเลยเหรอครับ ศิษย์ขอคารวะ
นณณ์ approve [ 30 พ.ค. 2550 08:14:55 ]
ความคิดเห็นที่: 10
ขอน้อมคาราวะ  และขอขอบคุณมากครับ

ที่ผมชี้ตรงนั้นขึ้นมา ก็เพราะว่าไม่ต้องการให้เกิดการยึดติดตรงนั้น ขอให้เป็นลักษณะที่เป็นจุดสังเกตเบื้องต้นเท่านั้นครับ ซึ่ง อาจารย์ก็ได้ให้ความกระจ่างแล้ว

แต่ส่วนบรรทัดแรกใน คห.6 เป็นการหยอกเล่นครับ

อ่อ..รบกวนถามอาจารย์เพิ่มเติมเรื่องมือถนัดของกระรอก กระแต ว่า สัดส่วนของถนัดซ้าย-ขวามันต่างกันมากจนมีผลต่อการรอดของหอยขนาดนี้เลยหรือครับ

เกร็ดเพิ่มเติม..งูกินทาก ก็เป็นสัตว์ที่มีความถนัดซ้าย-ขวาเหมือนกัน  แต่การเวียนของเปลือกหอยกลับไม่มีผลต่อการเลือกจับเลย เพราะงูจะอ้อมไปจนมันสามารถใช้ด้านถนัดจนได้ครับ
knotsnake approve [ 30 พ.ค. 2550 08:58:40 ]
ความคิดเห็นที่: 11
คารวะด้วยคนครับ เอาซด 1 จอก (กาแฟ)

อย่างที่วงเล็บไว้ในคำตอบผมครับ เรื่องการเวียนซ้ายเฉยๆ  มันไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผลที่จะสรุปว่าเป็นชนิดนี้  แต่ดูรูปทรงประกอบกับที่พี่ Amphidromus เคยมาตอบชื่อหอยชนิดนี้ในเว็บ เลยคิดว่าเป็นชนิดนี้ครับ

แล้วจะรอดูแฟนพันธุ์แท้เรื่องหอยๆ  ต่อไป เดือนหน้าโน่นคงจะได้ออกอากาศ
นกกินเปี้ยว approve [ 30 พ.ค. 2550 09:01:52 ]
ความคิดเห็นที่: 12
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความกระจ่าง และความรู้เพิ่มเติมครับ ไม่เพียง แต่ทราบชนิดหอยยังได้ความรู้อื่นๆ เพิ่มเติมอีก
coneman approve [ 30 พ.ค. 2550 10:25:01 ]
ความคิดเห็นที่: 13
โห....กูรูหอยประทับทรงลงสยามเอนซิสแร้ววววว
tavon approve [ 30 พ.ค. 2550 10:29:00 ]
ความคิดเห็นที่: 14
........ตอนนี้ องค์ลงครับ
คุณ knotsnake เชี่ยวชาญเรื่องงู อาจจะให้ความกระจ่างในบางประเด็นกับ อ สมศักดิ์ ได้นะครับ หากมีเวลาได้คุยกันให้ละเอียด หรือแม้กระทั่งเกิดงานวิจัยได้นะครับ......หากท่านสนใจ
amphidromus [ 30 พ.ค. 2550 12:48:21 ]
ความคิดเห็นที่: 15
อยากทราบว่าอวัยวะแลกเปลี่ยนก๊าซของหอยบก(หอยทาก) กับหอยน้ำ ต่างกันมากไหม?
หรือว่าแค่เปลี่ยนฟังค์ชั่น  แต่โครงสร้างส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยน?
snakeeater approve [ 30 พ.ค. 2550 17:06:24 ]
ความคิดเห็นที่: 16
ชอบคำนี้จัง............"องค์ลง"...ทำให้ได้ความรู้อีกล่ะ
Montela_Hoya approve [ 30 พ.ค. 2550 22:18:14 ]
ความคิดเห็นที่: 17
ขอบคุณคุณ knotsnake มากๆ  ผมทราบแล้วว่าล้อเล่นกัน งูที่ว่าคือ Palias ใช่ไหมครับ ช่วยให้ผมทำการทดลองดูมันกินหอยได้ไหมครับ ผมอยากลองหลายๆ  ชนิด ทั้ง เวียนซ้าย และเวียนขวา ผมจะออกค่าใช้จ่ายครับ ตอบผมด้วยนะ

ตอบคำถามแลกเปลี่ยนก๊าชของหอยบกกับหอยน้ำ ต่างกันโดยสิ้นเชิง  ถ้าเป็นหอยทะเลเป็นเหงือก หอยบกเป็นปอด (ถือว่าเป็นสัตว์พวกแรกที่มีวิวัฒนาการการมีปอดเลยทีเดียว)  แต่หากเป็นหอยน้ำจืดทั่วๆ  ไปก็มีเหงือกเช่นกัน ยกเว้นหอยโข่งที่ดูความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการด้วยดีเอ็นเอแล้วเป็นพวกที่มีโครงสร้างเหงือกครึ่งหนึ่ง  และมีโครงสร้างคล้ายๆ  ถุงลม จะเห็นว่าสามารถลอยน้ำเปิดท่อหายใจเอาอากาศได้ด้วย เมื่อลงน้ำเหงือกรับออกชิเจนที่ละลายน้ำได้ด้วย

หากดูหอยคันในบ่อบัวเป็นพวกเดียวกับหอยบกนะครับ มีปอด (ถุงลม) มักจะลอยน้ำหายใจ  แต่บางครั้งดำน้ำนานๆ  จะใช้ส่วนแมนเทิลรับออกซิเจนละลายน้ำได้เช่นกัน

จะเห็นว่าเรื่องของวิวัฒนาการ ไม่มีลูกศรไปทางเดียว ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ประสบในอดีต ชนิดใดปรับตัวไม่ได้ก็สูญพันธุ์ไปแล้วจำนวนมาก ขอโทษที่ lecture เยอะไปหน่อย ติดมาจาดมหาลัยครับ หวังว่าอย่างน้อยทำให้กระจ่างขึ้น

สมศักดิ์
สมศักดิ์ ปัญหา [ 30 พ.ค. 2550 22:21:15 ]
somsak_panha@yahoo.com
ความคิดเห็นที่: 18
ผมเขียนขาดไปอีกแล้ว  หอยโข่งเมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการด้วยดีเอ็นเอแล้วใกล้ชิดกับหอยบกมากกว่าหอยขม หรือหอยจุ๊บ แสดงว่ามีการเปลี่ยนแปลงจากน้ำขึ้นบก  และจากบกอาจลงน้ำอีก เช่นวาฬ เลยนะครับ
สมศักดิ์ ปัญหา [ 30 พ.ค. 2550 22:28:54 ]
somsak_panha@yahoo.com
ความคิดเห็นที่: 19
ผมยินดีครับในส่วนงูกินหอย ปัญหาขั้นต้นคือ ตอนนี้ผมไม่มีงูกินทาก  แต่ดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่นักหากจะรบกวนเพื่อนในทุกวงการให้ช่วยอนุเคราะห์ เพราะว่าไปแล้วมันก็ไม่ใช่งูหายาก แต่ประการใด

งูกินหอยของไทยประกอบด้วย 3 สกุล  ชนิด ได้แก่
1. Aplopeltura boa (Boie, 1828)
ชนิดนี้เป็นชนิดเดียวที่ผมมีข้อมูลว่ากินหอยทากบกที่มีฝาปิด ซึ่ง มีภาพถ่ายยืนยันในหนังสือสัตว์สะเทิน และงูของบอร์เนียว
2. Asthenodipsas laevis (Boie, 1827)
3. Asthenodipsas malaccanus Peter, 1864
สำหรับ 2 ชนิดนี้ ผมไม่มีข้อมูลอะไรเลยด้านพฤติกรรม แล้วยังไม่เคยเจอด้วย
4. Pareas carinatus (Boie, 1828) ชนิดนี้เจอบ่อยที่สุดครับ
5. Pareas hamptoni (Boulenger, 1905) ยังไม่เจอเหมือนกัน  แต่นิสัยน่าใกล้เคียง P.carinatus
6. Pareas macularius Theobald, 1868 เคยเจอตัวเดียว รถทับตายบนถนน
7. Pareas margaritophorus (Jan, 1866) เจอเป็นอันดับ 2  สำหรับ 2 ชนิดสุดท้ายนี้คาดว่าจะกิน gastropod ที่เป็น ground dwelling  แต่ยังไม่เคยลองสักทีเหมือนกันครับ ระดับการเลี้ยงก็ถือว่าลำบาก เพราะตัวมันเล็กมาก จึงลำบากในการหาอาหารมาเลี้ยง ช่วงที่หาอาหารตัวเล็กๆ ได้ ผมก็ไม่มีโอกาสเจอมันเลยครับ
knotsnake approve [ 31 พ.ค. 2550 01:32:52 ]
OthersPics_reply_29775.jpg
ความคิดเห็นที่: 20
P. carinatus กับหอยทากยักษ์
knotsnake approve [ 31 พ.ค. 2550 01:44:10 ]
ความคิดเห็นที่: 21
มารับความรู้ครับ ^.^
นกกินเปี้ยว approve [ 31 พ.ค. 2550 09:03:07 ]
ความคิดเห็นที่: 22
สุดยอดคุณ Knot snake ทำไงเราจะเจอกันได้  จะได้ความรู้มาให้เรียนกันอีกเยอะเลย ประทับใจครับ
สมศักดิ์ ปัญหา [ 31 พ.ค. 2550 09:59:03 ]
somsak_panha@yahoo.com
ความคิดเห็นที่: 23
พี่น๊อตแกก็พอจะได้แวบๆ ไปแถวจุฬาอยู่บ้างครับอาจารย์
นกกินเปี้ยว approve [ 31 พ.ค. 2550 10:59:23 ]
ความคิดเห็นที่: 24
โหพี่น๊อต ผมอยู่ชนบทซะด้วยซิ เจองูบ่อยมากๆ  โดยเฉพาะไอ้เจ้างูเปาคอแดง  และอย่างอื่นอีกอาทิตย์ละ 2- 3 ตัว อยากจับไอ้งูที่กินทากไปให้ทดลองเลี้ยง แต่ไม่มีรูปเลยไม่รู้จะจับตัวไหน ยังไงเอารูปมาแปะด้วยซิ คนอื่นจะได้เห็นหน้าว่ามันเป็นไงด้วยคร๊าบ เผื่อจะได้ตัวอย่างงูมาทดลองเร็วขึ้น
ปล. ถ้ามันกินหอยทากแอฟริกันด้วยยิ่งดี



เออครับข้อสำคัญที่สุด     ถ้างูกินหอยทากมันกัดผมแล้วผมจะรอดไม๊คร๊าบ แหะ แหะ    ไม่รู้เรื่องงูซักนิด แต่อยากช่วยอ่ะ
นายแมลง approve [ 01 มิ.ย. 2550 07:54:08 ]
ความคิดเห็นที่: 25
^
^
^
หอยทากเยอะ ไมไม่เอาไปเลี้ยงหิ่งห้อยละคร้าบบบ นายแมลง
กวิวัฏ approve [ 01 มิ.ย. 2550 09:00:19 ]
ความคิดเห็นที่: 26
งูกินทากแปะภาพกันหลายครั้งแล้วครับ ลองใส่คำว่า "งูกินทาก" ลงในช่อง search ด้านบนที่หน้ากระทู้ จะได้กระทู้ที่เคยเขียนถึงหรือมีภาพงูกินทากหลายกระทู้เหมือนกันครับ เช่น ภาพนี้ จากกระทู้ "ช่างเยิน ที่ช่องเย็น"

อ้อ แล้วก็งูกินทากเป็นงูไม่พิษ และไม่ดุครับ เท่าที่สัมผัสมาไม่เคยขู่ไม่เคยพยายามที่จะกัดเลยด้วยซ้ำ

...แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 2550 09:53:31
นณณ์ approve [ 01 มิ.ย. 2550 09:52:45 ]
OthersPics_reply_29893.jpg
ความคิดเห็นที่: 27
ตัวนี้อีกชนิดรึเปล่าครับ?
นายกระแสน้ำ approve [ 01 มิ.ย. 2550 11:35:47 ]
ความคิดเห็นที่: 28
ตอบนายแมลง..
ก็ลองดู คห.24 สิครับว่ามันกำลังกินหอยอะไร  แต่ข้อจำกัดสำหรับงูกินทากกับหอยทากยักษ์แอฟริกันคือ ขนาดหอยต้องไม่ใหญ่กว่าหัวเกิน 3 เท่า ไม่งั้นงูสู้หอยไม่ได้ครับ(ข้อมูลจากการสังเกต)

สำหรับ คห.26 เป็นตัวที่คาใจมาจนถึงวันนี้ครับ  ถ้ามองโลกในแง่ดี ก็คือมันเป็นลูกเด็กอยู่  แต่ว่าไปแล้วผมก็เคยเห็นลูกงูกินทากเกล็ดสันมาแล้วนี่นา ก็ยังรู้สึกตะหงิดๆ

อยู่ระนอง ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องหาหอยให้หิ่งห้อย เพราะเท่าที่เลี้ยงๆ  มันไม่เกี่ยงขนาดหอยเลยครับ
knotsnake approve [ 01 มิ.ย. 2550 13:47:57 ]
ความคิดเห็นที่: 29
แอ๊ะๆ  พี่น๊อตสับสนอ๊ะป่าวครับ
นายแมลง approve [ 02 มิ.ย. 2550 11:28:25 ]
ความคิดเห็นที่: 30
คุณknotsnake
เจ้างูกินทางที่พบได้บ่อยเนี่ย เป็นพวกงูที่อยู่บนพื้นเป็นส่วนใหญ่หรือว่าบนต้นไม้เป็นส่วนใหญ่
แล้วคุณมี collection ส่วนตัวบ้างหรือปล่าวครับ
Amphidromus [ 02 มิ.ย. 2550 12:09:46 ]
ความคิดเห็นที่: 31
เวลาที่เดินป่ากลางคืนกันงูกินทากที่พบ 100% อยูบนต้นไม้ระดับความสูงไม่เกินเข่าครับ ส่วนประสบการณ์ของพี่น๊อตที่มากกว่านี้ไม่ทราบครับ
ไอ้ลูกทุ่ง approve [ 04 มิ.ย. 2550 11:24:45 ]
ความคิดเห็นที่: 32
ชนิดหลักที่เจอก็ตามที่ไอ้ลูกทุ่งบอกเลยครับ  แต่ ถ้าเจองูที่นอนรอลอกคราบก็จะอยู่สูงขึ้นไปถึงระดับ 2 เมตรกว่าๆ -3 เมตร(เท่าที่เจอ)  แต่งูกินทากบางชนิดจะอยู่ตามพื้นเป็นอาชีพหลักเลยครับ

ผมไม่มี collection ส่วนตัวครับ แล้วผมก็ไม่เคยมองว่าสัตว์ที่ผมเลี้ยงเป็น collection ใดๆ เลย

คุณ นายแมลงครับ..รบกวนบอกประเด็นที่คิดว่าผมสับสนให้ด้วยครับ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยในการทักเช่นนั้น  แต่ ถ้าให้ผมเดา ก็คงเรื่องขนาดหอยกับหิ่งห้อย ซึ่ง จากที่ผมเคยเลี้ยง เป็นเช่นนั้นจริงๆ   แต่การเลี้ยงของผมอาจไม่ครอบคลุมขนาดหอยที่จะหาช่วงขนาดหอยที่หิ่งห้อยจะเลือกกิน อย่างน้อยผมก็ยังไม่เคยเอาหอยทากยักษ์ตัวเต็มวัยให้หิ่งห้อยชนิดตัวจิ๋วๆ กินครับ เท่านี้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าประเด็นที่ถูกทักคือประเด็นไหน ครั้งต่อไปผมรบกวนช่วยบอกด้วยครับ
knotsnake approve [ 04 มิ.ย. 2550 14:04:03 ]
ความคิดเห็นที่: 33
คุณ knotsnake
อย่าเพิ่งฉุนเฉียว ผมถามแค่อยากจะทราบเฉย เพราะมันเกี่ยวข้องกับเรื่องที่กำลังสนใจ เพราะตัวอย่างดองอาจนำส่วนของอาหารที่เหลืออยู่ในลำไส้ของงูมาศึกษาดูว่างูตัวดังกล่าวได้กินหอยทากสกุลใดหรือวงศ์อะไร ได้ นอกจากนี้ยังมีการ exray ส่วนของหัวงู เพื่อดูว่าส่วนกรามของงูที่กินทากมีลักษณธที่สมมาตรหรือไม่ (symmetry or asymmetry) เพราะงูกินทากอาจเป็นปัจจัยสำคัญเกี่ยวกับการเวียนซ้ายหรือเวียนขวาของเปลือกหอยบางกลุ่มได้
ที่ถามไปมิได้มีเจตนาอื่นใด เพราะตัวผมเองก็เก็บตัวอย่างครับ
Amphidromus [ 04 มิ.ย. 2550 14:48:59 ]
ความคิดเห็นที่: 34
ไม่ได้ตอบด้วยความฉุนเฉียว แต่อย่างใดครับ ขออภัยหากทำให้คิดเช่นนั้น  ผมก็มีตัวอย่างดองอยู่บ้างครับ  แต่คงช่วยเรื่อง stomach content ไม่ได้  แต่เรื่องดูโครงสร้างแข็งต่างๆ ก็ใช้ได้ส่วนหนึ่ง เพราะบางตัวถูกรถทับหัวมาครับ
knotsnake approve [ 04 มิ.ย. 2550 15:59:57 ]
ความคิดเห็นที่: 35
พี่น๊อตอย่าโกรธผมเลยคับ พีพิมเลขผิดแค่นั้นเองคับผมแซวเล่น
นายแมลง [ 09 มิ.ย. 2550 19:50:56 ]
ความคิดเห็นที่: 36
เหะๆๆ  ขออภัยเช่นกัน แก้ 24 เป็น 20 ครับใน คห.28(จะพิมพ์เลขผิดอีกไหมเนี่ยตรู)
knotsnake approve [ 10 มิ.ย. 2550 00:21:00 ]
ความคิดเห็นที่: 37
Attention MR .  CONEMAN

           I am a sea food exporter from Chennai , South India. I have rare right coiled chank Taksinawat  conch or Maha sang. It is considered as one of the eight auspicious symbol of Lord Buddha and Vishnu. It is Used for religious ceremonies to pour sacred water ,as a royal jewel and for amulet purpose. The conch is decorated with gold enamel work for use by thai royal family members and rich noble men.It is also given to them as souvenir. we can supply with or without gold work. This royal maha sang conch is extremely rare and is believed to bring prosperity and good fortune.This maha sang is said to have the fingerprint of lord Vishnu as ridges in its body. I have sold few maha sang conches to my Thailand friend in chiang Mai ,who has written a book in Thai on Maha sang conches(The Legend of Shankha). He has mentioned me as his friend from south India who sold him his first taksinawat maha sang conch. This rare conch is in the Thailand Royal Chaipattana foundation’s Emblem and  a model of it is in the new Swarnaboomi airport in Bangkok with water flowing from it. If interested contact me for details. I can deliver the conch in Bangkok. It is decorated with gold work in Thailand.

I am attaching information about this sacred chank which is found in Royal Thai Embassy website Denmark.

ในวโรกาสพิเศษนี้ คนะอนุกรรมการฝ่ายจัดทำของที่ระลึกสำหรับรัฐบาลทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ตกลงกันว่าจะทูลเกล้าฯ ถวาย “สังข์ขร” หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Sacred Chank สังข์มี 2 แบบคือ สังข์ที่ก้นหอยเป็นสังข์นครเวียนซ้าย ใช้พิธีรดน้ำศีรษะเอกอัครราชทูตไทย พิธีสมรสพระราชทานเรียกว่า “สังข์อุตราวัตร” อีกชนิดหนึ่งเป็นมหาสังข์เวียนขวา เรียกว่า “สังข์ทักษิณาวัตร” ใช้ในรัฐพิธีของราชนิกูล โดยสังข์ที่ไทยต้องการใช้มีลักษณะเรียวบางยาว ผิวสีสวย ยาว 1 คืบ ภายในมีสังข์ 2 ชั้น ภายนอกสังข์มีลักษณะมีลักษณะเหมือนรอยหัตถ์ของพระนารายณ์ ขอบสังข์หุ้มด้วยทองลงยา ประดับบนสังข์ด้วยนพรัตน์ นอกเหนือจากนี้ จะมีมังสีถมปะทองหรือลงยาราชาวดีประกอบด้วย  และจะทูลเกล้าฯ  ถวายเงินเป็นจำนวน 1 พันล้านบาท เพื่อสนับสนุนงานการศึกษาของ มูลนิธิอานันทมหิดลอีกด้วย
สำหรับประชาชน ก็จะมีการจัดกิจกรรมให้มีส่วนร่วมในการทูลเกล้าฯ ถวายเงินสมทบในโครงการพระราชดำริต่างๆ
นั่นเป็นกิจกรรมในส่วนของไทย จัดขึ้นที่บ้านเรา แต่คนที่อยู่ไกลบ้านอย่างคนไทยอีกหลายๆ คนที่คิดอยากมีส่วนร่วมในงานเฉลิมพระเกียรติ เช่นชาวไทยที่เดนมาร์กนี้จะทำอย่างไร
สอท. ณ กรุงโคเปนเฮเกน จะนิมนต์พระจากวัด 3 แห่งในเดนมาร์กคือ วัดไทยเดนมาร์กพรหมวิหาร วัดป่าโคเปนเฮเกน  และวัดพุทธเดนมาร์ก มาสวดมนต์ถวายพระพรชัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประมาณเดือนมิถุนายน ในฐานะที่ศาสนาพุทธเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ

URL : http://www.thaiembassy.dk/king_60.htm

 

 

Thanks.

 

Best Regards,

 

Ramnath.

OMEGAA  ENTERPRISES

KODAMBAKKAM,

CHENNAI 600024,

INDIA.

TEL/FAX: 91 44 2375 1624

MOB       : 91 94440 65647

EMAIL    :  johnramnath@gmail.com

                  johnramnath@hotmail.com
RAMNATH [ 17 มิ.ย. 2550 03:51:20 ]
johnramnath@gmail.com
ความคิดเห็นที่: 38
ได้อ่านความเห็นมาเรื่อยๆ  จนถึงสุดท้าย เลยขออนุญาตเพิ่มเติมสักนิดนึงขอรับ ว่าทำไมต้องใช้สังข์หลั่งน้ำในงานมงคลต่างๆ  เช่น งาน แต่งงาน หรือแม้กระทั่งงานพระราชพิธี เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก หรือเข้าประกอบในงานมงคลต่างๆ  นั้น เช่น สังข์ทักษิณาวัตร จัดเป็น 1 ในของมงคล 8 ประการ สำหรับพระมหากษัตริย์ เรื่องนี้มีที่มาขอรับ เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อครั้งพระอิศวรสร้างเขาพระสุเมรุแล้ว พระองค์ก็มีประกาศิตให้พระพรหมธาดาขึ้นไปอยู่ในพรหมโลก ให้เป็นใหญ่กว่าพรหมทั้งหลาย ในครั้งนั้นบรรดาพรหมที่มีจิตใจริษยาต่างก็ไม่พอใจ ก็เลยจุติลงมาเป็นสังข์อสูรอยู่ใต้เขาพระสุเมรุ ครั้งนั้นพระพรหมธาดาได้นำเอาคัมภีร์มาถวายพระอิศวร เมื่อมาถึงที่อยู่ของสังข์อสูรก็เกิดอาการร้อนรุ่มอยากสรงน้ำ จึงได้วางคัมภีร์ไว้ริมฝั่งแล้วเสด็จลงน้ำ ฝ่ายสังข์อสูรเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงได้ให้ผีเสื้อน้ำไปลักเอาคัมภีร์นั้นมา แล้วก็กลืนเข้าไว้ในท้องทั้งหมด ฝ่ายองค์พรหมเมื่อขึ้นมาจากน้ำไม่เห็นคัมภีร์ จึงรีบไปเข้าเฝ้าพระอิศวรทูลเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทรงทราบ เมื่อพระศิวะเจ้าเข้าฌานก็ทราบถึงสาเหตุ จึงได้เชิญพระนารายณ์มา  และให้เป็นธุระในการนำเอาพระคัมภีร์กลับมา พระนารายณ์จึงได้แปลงกายเป็นปลากรายทอง นามว่า มัจฉาวตาร ไล่ล่าสังหารผีเสื้อน้ำ  และเข้าโรมรันกับสังข์อสูรเป็นสามารถ ในที่สุดก็เอาชนะสังข์อสูรได้ แล้วสำแดงองค์คืนร่างเป็นพระสี่กร ยื่นพระหัตถ์เข้าไปในปากสังข์อสูร เพื่อหยิบเอาพระคัมภีร์ บางตำนานก็ว่า ทรงแหวกปากของสังข์อสูรออก ทำให้หอยสังข์ในปัจจุบันมีรอยนิ้วของพระนารายณ์ปรากฏอยู่จนทุกวันนี้ จากนั้นพระสี่กรจึงสาปสังข์อสูรว่า สังข์อสูรเป็นพรหมมาจุติ  และกลืนคัมภีร์พระเวทย์เข้าไว้ อีกทั้งยังมีรอยนิ้วพระหัตถ์แห่งพระองค์ปรากฏอยู่ด้วย นับว่าเป็นมงคล ดังนั้น ถ้าผู้ใดจะทำการมงคลพิธีในภายภาคหน้าก็จงเอาสังข์เข้าอยู่ในพิธีนั้น ผู้ใดรดน้ำในอุทรสังข์ก็ให้เป็นมงคลกันอุบาทว์เสนียดจัญไร หรือเป่าก็ให้เป็นมงคลไปจนสุดเสียงสังข์ ครั้นสาปแล้วพระนารายณ์ก็นำคัมภีร์ไปถวายพระอิศวร  และเสด็จกลับเกษียรสมุทร ตั้ง แต่นั้นเป็นต้นมา พราหมณ์จึงถือว่าหอยสังข์ที่ปากมีริ้ว 2-4 ริ้ว อันเกิดจากนิ้วพระหัตถ์ของพระสี่กรปรากฏอยู่นั้นเป็นสังข์สำคัญ
   ในพระบรมมหาราชวังได้เก็บรักษาพระมหาสังข์ และพระสังข์สำคัญสำหรับใช้ในงานพระราชพิธีต่างๆ  เอาไว้ตลอดมา ในปัจจุบันมีจำนวน 16 องค์ ในจำนวนนี้มี 7 องค์ที่เป็นพระมหาสังข์ทักขิณาวัฎขอรับ ว่าจะเขียนบอกว่ามีชื่ออะไรบ้างก็กลัวจะเบื่อ  ถ้าอยากทราบไว้จะบอกคราวหน้าแล้วกันขอรับ ขอบคุณที่ทนอ่านขอรับ
หอยทากชรา [ 23 มิ.ย. 2550 08:06:13 ]
ความคิดเห็นที่: 39
เป็นความรู้ที่หาได้ยากนัก ขอบขอคุณเป็นอย่างสูงครับ  ถ้าไม่รบกวนจนเกินไปก็ขอชื่อ และคำแปลของสังข์ รวมถึงคำแปลต่างๆ จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ
นณณ์ [ 05 ก.ค. 2550 23:33:17 ]
ความคิดเห็นที่: 40
คุณหอยทากชราเนี่ย ไปแข่งแฟนพันธุ์แท้หอยกับเขาด้วยหรือเปล่าครับเนี่ย..
นกกินเปี้ยว approve [ 05 ก.ค. 2550 23:40:23 ]
ความคิดเห็นที่: 41
ไว้จะตั้งเป็นกระทู้ต่างหากแล้วกันครับ
หอยทากชรา approve [ 19 ก.ค. 2550 07:05:52 ]
ความคิดเห็นที่: 42
เรียนทุกท่านครับ
                 ผมนายไพฑูรย์ เตชะรุ่งโรจน์  ผู้ แต่งหนังสือตำนานแห่งมหาสังข์  เนื่องด้วยมีแขกอินเดียรายหนึ่งซึ่ง ท่านคงได้อ่านกระทู้ที่เขาโพสเป็นภาษาอังกฤษไว้แล้ว  ได้แอบอ้างชื่อผม และเสนอขายมหาสังข์ไปยังบุคคลต่างๆ หลายท่าน  ซึ่ง หลายท่านได้สอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก  ผมข้อชี้แจงว่า ผมไม่มีนโยบายในการเสนอขายมหาสังข์ และผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลรายนี้ แต่อย่างใด หากเกิดความเสียหายใดๆ ไม่ว่าจะเป็นสังข์ปลอมหรือสังข์ชำรุดอุดซ่อม ผมไม่เกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น  เพราะบุคคลคนนี้ผมเคยติดต่อด้วยในครั้งแรกๆ   และมักจะขายของมีปัญหาให้เสมอ ผมจึงได้เลิกติดต่อไปด้วยนายแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบ  และโปรดไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ก่อนทำการใดๆ

ไพฑูรย์ เตชะรุ่งโรจน์
patioon7@yahoo.com
ไพฑูรย์ เตชะรุ่งโรจน์ [ 04 ต.ค. 2550 13:17:20 ]
paitoon7@yahoo.com

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org