ความคิดเห็นที่: 1

อืมมมม เค้าถ่ายได้ยังไงกันนี่

นณณ์ [ 14 มิ.ย. 2550 14:27:07 ]

ความคิดเห็นที่: 2

ราที่เห็นในคลิป เป็นราในกลุ่มเดียวกับราที่ทำให้เกิดถั่งเช่า  แต่ว่าถั่งเช่านี้เชื้อราจะทำลายหนอนผีเสื้อกลางคืนในวงศ์ Uraniidae หรือกลุ่มผีเสื้อเสื้อค้างคาวครับ

ความจริงในปัจจุบัน เชื้อราที่ก่อโรคกับแมลงถูกนำมาใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูอย่างกว้างขวาง อันได้แก่
Matarrhizium anisopiliae ราเขียวถูกนำมาใช้กำจัดหนอนในกลุ่มหนอนด้วง(Order Coleoptera) รวมทั้ง
Beauveria bassiana  และ Nomuraea rileyi เชื้อราที่นำมาใช้กำจัดหนอนในกลุ่มหนอนผีเสื้อ(Order Lepidoptera)
เชื้อราEntomophthora grylli ทำลายแมลงในกลุ่มตั๊กแตน(Order Orthoptera)
เชื้อรา Massospora spp. กำจัดแมลงในกลุ่มเพลี้ย( Order Homoptera)  และ
เชื้อรา Paecilomyces fumosoroseus ที่ทำลายแมลงในกลุ่ม เพลี้ยไฟ (Order Thysanoptera) ครับ

...แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 2550 21:29:10

กวิวัฏ [ 14 มิ.ย. 2550 21:28:23 ]

ความคิดเห็นที่: 3

แล้วมันมีโอกาศเกิดขึ้นกันคนไหม๊ค่ะ

FloridaZa [ 15 มิ.ย. 2550 01:02:18 ]

ความคิดเห็นที่: 4

ไม่ครับ เพระมันมีความจำเพาะเจาะจงสูงมาก แม้ แต่ในกลุ่มแมลงด้วยกันเอง ยังมีน้อยที่ข้ามอันดับ ดังนั้นมันไม่สามารถข้ามมา infect คนได้เลยครับ

กวิวัฏ [ 15 มิ.ย. 2550 01:22:15 ]

ความคิดเห็นที่: 5

เสียงเหมือนคนบรรยาย PlanetEart เลยครับ

Revenge [ 15 มิ.ย. 2550 01:29:26 ]

ความคิดเห็นที่: 6

คุณกวิวัฏเจ๋งหว่ะ....

ในหนังสือเห็ดราของศจ. ดร. มรกต ยังบอกอีกว่ามีการนำราเบียนของหนอนด้วงมาเป็นส่วนผสมของยาจีนด้วย เป็นประเภทยาชูกำลังที่เรียกว่า "ถั่งเฉ้า"

เค้าถ่ายได้ยังไงก็ยังสัยสัยอยู่ สงสัยว่ารานั้นจะไปเบียนมดตัวนั้นได้อย่างไรนี่สิ...เอ..หรือว่าเขาเอามดตัวนั้นไปคลุกกับรา???

ไอ้ลูกทุ่ง [ 15 มิ.ย. 2550 09:52:31 ]

ความคิดเห็นที่: 7

สปอร์ของเชื้อราจะปลิวมาตกบนตัวของแมลงครับ แล้วมันจะค่อยๆ งอกเส้นใยแทงผ่ารูพรุ่นเล็กบนแผ่นคิวติเคิลของผนังลำตัวแมลง บางชนิดเส้นใยจะแทงผ่านเยื่อบางๆ ที่เชื่อมแผ่นแข็ง แต่ละชิ้น

มีการข้อมูลที่น่าสนใจว่า ในแมลง และเชื้อราบางชนิด เมื่อแมลงได้รับเชื้อแล้ว เมื่อใกล้ตายแมลงได้ถูกโปรแกรมให้ใต่ขึ้นสู่ที่สูง ให้สูงที่สุด ก่อนที่จะตายแน่นิ่ง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการแพร่กระจายของสปอร์เชื้อรา ซึ่ง พฤติกรรมแบบนี้พบในแมลงที่ตายด้วยไวรัสเช่นกัน (โดยเฉพาะ NPVเห็นบ่อยมาก)

...แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 2550 10:27:44

กวิวัฏ [ 15 มิ.ย. 2550 10:26:42 ]

ความคิดเห็นที่: 8

สงสัยครับ.........แล้วเวลาเราเจอแมลงที่มีรางอกออกมาในป่าเนี่ย
เราจะรู้ได้ยังไงครับว่าราที่เกิด.....เกิดจากการเบียนหรือเกิดหลังจากแมลงตายแล้ว

พอจะมีวิธีดูได้มั้ยครับ.........


แล้วก็เจ้าตัวนี้....ตายด้วยไวรัสหรือแบคทีเรียอะครับ.....มีวิธีจำแนกมั้ยเนี่ย

หมักดอง [ 15 มิ.ย. 2550 12:33:10 ]

ความคิดเห็นที่: 9

แบคทีเรียชัวครับ...เพราะเกิดการเน่าเละ.. ถ้าหากเป็นสาเหตุที่เกิดจากพวกราจะมีลักษณะของเส้นใยคลุมครับ... แต่ ถ้าเกิดจากการถูกเบียนจะมีการแห้งเหี่ยวหรือพบกลุ่มดักแด้ตัวเบียนอยู่นอกตัวหนอน.ครับ

kunl_bur [ 15 มิ.ย. 2550 17:37:06 ]

ความคิดเห็นที่: 10

ลักษณะของการถูกแตนเบียน  อันนี้แตนเบียนหนอนครับ

kunl_bur [ 15 มิ.ย. 2550 17:50:06 ]

ความคิดเห็นที่: 11

หนอนที่ถูกเบียนแล้ว

kunl_bur [ 15 มิ.ย. 2550 18:02:27 ]

ความคิดเห็นที่: 12

คุณกวิวัฏ ครับ ช่วยอธิบาย Paratiod กับ Parasite หน่อยครับแบบลืมๆๆ แล้ว แฮะๆ  ต้องการทบทวนจั๊กหน่อย

kunl_bur [ 15 มิ.ย. 2550 18:04:55 ]

ความคิดเห็นที่: 13

งงอยู่ตั้งนาน ว่า ราเบียน คืออะไร จากที่อ่านมาพอจะจับความได้
คำว่า "เบียน" เป็นคำคำเดียวกับ "เบียฬ" หรือป่าว
ที่เจอคู่กันก็ "ตัวห้ำ ตัวเบียฬ" หรือว่าเขาเปลี่ยนมาใช้คำว่า เบียน แล้ว ( ถ้าอิงจากคำว่าห้ำหั่น  และเบียดเบียน)

kasoop [ 15 มิ.ย. 2550 19:33:40 ]

ความคิดเห็นที่: 14

ถูกต้อง  .......

ตัวห้ำ ( Prerator)

ตัวเบียน ( Parasitiod)

kunl_bur [ 15 มิ.ย. 2550 20:20:11 ]

ความคิดเห็นที่: 15

คคหที่ 8 ตายแล้วมันยังเกาะห้อยหัวอยู่ได้ พวกหนอนใช้กลไกในการเกาะแบบไหนครับ? เป็น suction หรือ เป็นการเกาะด้วยอวัยวะเกาะเกี่ยว หรือ เป็น satae แบบพวกตุ๊กแก?

นณณ์ [ 15 มิ.ย. 2550 21:14:13 ]

ความคิดเห็นที่: 16

ให้เดาเล่นครับ ห้อยหัวเหมือน หนอนผีเสื้อเหยี่ยวของพี่หมักดอง เลยครับ

เจ้าเป็นอะไรตาย เอ่ยเจ้าหนอนน้อย

นายแมลง [ 16 มิ.ย. 2550 01:21:21 ]

ความคิดเห็นที่: 17

# 8 ผมกลับคิดว่าเป็นการตายจากไวรัสนะครับ เพราะหนอนมีอาการของเลือดเป็นพิษ (septicemia) ลำตัวมีสีดำคล้ำ หากว่า ถ้าเกิดการเน่าจากแบคทีเรีย หนอนจะเน่าเละมีของเหลวสีขาวขุ่นไหลเยิ้มมากกว่านะครับ ที่สำคัญคืออาการเกาะห้อยหัวด้วยเท้าเทียม มันเป็นลักษณะของการตายด้วยไวรัสครับ

ตอบพี่นณณ์ครับ หนอนที่ตายห้อยนั้นจะเกาะด้วยเท้าเทียม (prolegs) ซึ่ง เท้าเทียมนี้จะประกอบด้วยตะขอ(crochet)เล็กจำนวนมากเรียงตัวเป็นวงกลมยื่นปลายเข้าสู่จุดศูนย์กลางครับ มันจึงทำหน้าที่ยึดเกาะได้ดี

Parasitoid, Predator  และ Parasite (True Parasite) สามคำนี้มีความแตกต่างกันครับ

Parasitoid กับ Predator ต่างกันตรงที่ Parasitoidจะทำลายแมลงเฉพาะช่วงเวลาที่ตัวมันเองเป็นตัวอ่อน นั่นหมายความว่าในวงจรชีวิตของมัน จะมีเพียงระยะหนอนเท่านั้นที่กินแมลงอื่นเมื่อเป็นตัวเต็มจะดำรงชีพด้วยการกินน้ำหวานจากดอกไม้ หรือผลไม้ ในขณะที่ตัวห้ำชั่วชีวิตของมันตั้ง แต่ระยะตัวอ่อนถึงตัวเต็มวัย จะกินแมลงอื่นเป็นอาหาร ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า Parasitoid จะทำลายแมลงเพียง 1 ตัว ในขณะที่Predator สามารถทำลายแมลงได้มากกว่า 1 ตัวตลอดชีวิตของมัน *มีกรณียกเว้นในแมลงบางชนิด ในวงศ์ Scoliidae ที่ตัวอ่อนจะเป็นตัวเบียนหนอนด้วงในอันดับ Coleoptera เมื่อเป็นตัวเต็มวัย มันสามารถเป็นตัวห้ำกินแมลงอื่นๆ ได้อีก  แต่ชนิดนี้ไม่มีพบในเมืองไทย

นอกจากนี้เรื่องของขนาด Parasitoid จะมีขนาดเล็กกว่า host เสมอ ในขณะที่ Predator อาจจะมีขนาดเล็กว่าหรือใหญ่กว่า Prey ก็ได้  และอาจกล่าวได้ว่า host ของ Parasitoid นั้นนอกจากจะเป็นอาหารของมันแล้ว ยังจัดเป็น Habitat ของมันอีกด้วย หมายความว่า Parasitoid (ตัวอ่อน)จะไม่สามรถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจาก host เมื่อใดก็ตามที่ host ตาย ก่อนที่จะเป็นตัวเต็มวัย มันก็จะตายด้วย ในhost หนึ่งๆ  อาจจะพบParasitoid มากกว่า 1 ตัว ในชนิดเดียวกัน หรือต่างชนิดกัน  และมีParasitoid อีกกลุ่ม ที่จะพบเพียง 1 ตัว ต่อ host 1 ตัว ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า Parasitoid ตัวนั้น มีพฤติกรรมเป็น Canibalism คือกินกันเอง จะมีเพียงตัวที่แข็งแรงที่สุดเท่านั้นที่จะสามารถเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยได้

ทีนี้มาดูความแตกต่างระหว่าง Parasitoid  และ Parasite ข้อแตกของมันมีเพียงนิดเดียวเท่านั้นคือ Parasitoid จะทำให้ host เมื่อมันเป็นตัวเต็มวัย ในขณะที่ Parasite เพียง แต่ทำให้ host อ่อนแอเท่านั้น ที่สำคัญคือ Parasite อาศัยอยู่กับ host ตั้ง แต่ระยะไข่จนถึงตัวเต็มวัย  และสามารถย้าย host ได้ เช่น เมื่อหมัดตกจากตัวหมาตัวที่ 1 มันก็สามารถเข้าไปอาศัยในหมาตัวที่ 2 ได้  แต่Parasitoid ทำเยี่ยงนั้นไม่ได้

 แต่เดิมParasitoid  และ Parasite ถูกเรียกรวมกันว่า Parasite  แต่จากพฤติกรรมข้างต้น จึงมีการเปลี่ยนเป็น Parasite (กลุ่มแตนเบียน แมลงวันเบียน) และ True Parasite (หมัด เหา ไร)  แต่เนื่องจากอาจจะเกิดความสับสนได้ ต่อมาจึงมีการบัญญัติศัพท์ คำว่า Parasitoid ขึ้นมาใช้ คู่กับ Parasite

ในภาษาไทย คัวว่า ตัวเบียน  และตัวเบียฬ ก็มีความหมายต่างกัน "ตัวเบียน" จะหมายถึงParasitoid (กลุ่มแตนเบียน แมลงวันเบียน) ส่วน "ตัวเบียฬ"จะหมายถึง Parasite หรือTrue Parasite (หมัด เหา ไร) ครับ

กวิวัฏ [ 16 มิ.ย. 2550 12:22:03 ]

ความคิดเห็นที่: 18

^
^
^ # 16 ไม่เน่า แต่เหี่ยว โดนทิ่มดูดมาแหง๋ๆ

กวิวัฏ [ 16 มิ.ย. 2550 12:49:59 ]

ความคิดเห็นที่: 19

แจ่มแจ้งครับคุณกวิวัฏ เป็นทานความรู้อันประเสริฐ

นณณ์ [ 17 มิ.ย. 2550 20:06:33 ]

ความคิดเห็นที่: 20

# 17 ย่อหน้าที่ 6 ขอแก้ไขครับ

...ทีนี้มาดูความแตกต่างระหว่าง Parasitoid  และ Parasite ข้อแตกของมันมีเพียงนิดเดียวเท่านั้นคือ Parasitoid จะทำให้ host ตายเมื่อมันเป็นตัวเต็มวัยหรือออกมาเข้าดักแด้เพื่อเป็นตัวเต็มวัย ในขณะที่ Parasite เพียง แต่ทำให้ host อ่อนแอเท่านั้น ที่สำคัญคือ Parasite อาศัยอยู่กับ host ตั้ง แต่ระยะไข่จนถึงตัวเต็มวัย  และสามารถย้าย host ได้ เช่น เมื่อหมัดตกจากตัวหมาตัวที่ 1 มันก็สามารถเข้าไปอาศัยในหมาตัวที่ 2 ได้  แต่Parasitoid ทำเยี่ยงนั้นไม่ได้

กวิวัฏ [ 18 มิ.ย. 2550 10:57:11 ]

ความคิดเห็นที่: 21

ยอดเยี่ยมกระเทียมโทน กระทู้นี้ทำให้รู้อะไรๆ  ขึ้นอีกเยอะเลย ขอบคุณครับ
Parasite
True Parasite
Parasitoid
Predator
ห้ำ
เบียน
เบียฬ

ไอ้ลูกทุ่ง [ 18 มิ.ย. 2550 13:08:36 ]

ความคิดเห็นที่: 22

ผมว่าผมเคยดูคลิปนี้ของ BBC นะครับ แต่พวกราเบียนเหล่านี้บ้านเราไม่มีไม่ใช่หรือครับ....หรืออาจมี แต่ยังไม่ค้นพบ... แต่ ถ้ามีคงเป็นประโยชชยในทางการเกษตร และทางด้านกำจัดแมลงศัตรูมากเลยนะครับ

kunl_bur [ 18 มิ.ย. 2550 16:28:52 ]