ความคิดเห็นที่: 1

ผมว่ามันค่อนข้างแตกต่างกันอยู่พอสมควรนะครับ ตัวจืดสนิทจะเหลืองๆ หน่อย ลายจะเลอะนิดๆ

ที่พบในเมืองไทยสามชนิดประกอบไปด้วย:

Toxotes jaculatrix
Toxotes charecterus
Toxotes microlepis

การฝึก เริ่มจากกุ้งฝอยตาย หรือเนื้อสัตว์หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ น่าจะฝึกได้ง่ายกว่า แล้วค่อยฝึกให้อาหารสำเร็จรูปที่มีกลิ่นเเรงๆ ก็ช่วยได้เยอะครับ

Mb. [ 05 ก.ค. 2550 02:07:04 ]

ความคิดเห็นที่: 2

T. jaculatrix กับ T. microlepis เคยเห็นในบริเวณชายฝั่ง และน้ำกร่อย
ส่วน T. chatareus พบมาในเขตน้ำจืด ตามแม่น้ำ และอ่างเก็บน้ำ ที่อยู่นครสวรรค์น่าจะเป็นชนิดนี้แหล่ะครับ เมื่อก่อนเคยไปจับปลาแถว แม่น้ำน่าน บึงบอระเพ็ด ก็เจอ แต่ชนิดนี้

ส่วนวิธีการเลี้ยงคงต้องรบกวนผู้รู้ท่านอื่นครับ

kasoop [ 05 ก.ค. 2550 07:28:01 ]

ความคิดเห็นที่: 3

ตอนแรกก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามี 3 ชนิดครับ จนนายนณณ์นี่แหล่ะมาเขกกระโหลกไปสองทีเลยถึงบางอ้อ

ปลาที่เคยเลี้ยงแล้วไม่ยอมกินอาหารเม็ดนั้น ไอ้ลูกทุ่งจะใช้วิธีใส่"ปลานำ"ร่วมเลี้ยงในตู้ด้วย ปลานำนี่จะกินอาหารเม็ดเป็นตัวอย่างให้กับปลากินอาหารสดซึ่ง ในขณะนั้นก็ใส่อาหารสดให้ด้วยบ้างเล็กน้อย  เจ้าปลากินอาหารสดเห็นเข้าบ่อยๆ  ก็ลองกินดูบ้าง ต่อๆ  มาก็กินตลอดเลยทีนี้

ส่วนเสือพ่นน้ำที่ได้มานั้นได้มาตั้ง แต่เล็กเลยครับตัวแค่เซนเดียว มาเห็นเพื่อนๆ (หางนกยูง,สอด) กินอาหารเม็ดกัน เค้าก็ไม่รีรอเลยที่จะกิน

ไอ้ลูกทุ่ง [ 05 ก.ค. 2550 10:10:11 ]

ความคิดเห็นที่: 4

T. jaculatrix เท่าที่เคยเจอนี่อยู่น้ำกร่อยถึงทะเลเลยนะครับ เพราะพบอยู่กับลูกปลาสาก ปลากระบอกเลย ไม่เคยได้ยินว่า T. jaculatrix เข้ามาในน้ำจืดครับ เสือพ่นน้ำไทยที่เป็นน้ำจืดจริงๆ  คงจะมี T. microlepis ที่พบในเขตน้ำจืดสนิทส่วน T. chatareus ก็พบน้ำกร่อย  แต่สามารถปรับตัวเลี้ยงในน้ำจืดได้ครับ

จุดสังเกตเท่าที่ผมเข้าใจ T. microlepis จะมีจุดสีดำกระจัดกระจายไปทั่ว และส่วนท้องมีสีเหลือง ส่วน T. jaculatrix จะมีแต้ม แต่ด้านบนตัวพื้นเกล็ดสีเงินออกเหมือนโลหะ เจ้า T. chatareus ลอยประใกล้เคียงกับ T. jaculatrix แต่ว่าพื้นลำตัวจะเป็นสีเหลืองอ่อนมีรอยกระดำกระด่างนิดๆ ครับ อันนี้แยกตามตาเห็นนะครับ พวกนับเกล็ดนับครีบไม่รู้เลยครับ

ในภาพเป็น T. jaculatrix ถ่ายจากท่าเรือที่ภูเก็ตครับ




ลป. ตั้งกระทู้คราวหน้าเอาแบบให้ชื่อกระทู้สื่อหน่อยดีกว่าครับว่าอยากคุยเรื่องอะไร เช่น "รบกวนนิดหนึ่งครับ อยากรู้จักปลาเสือพ่นน้ำครับ" เป็นต้นครับ จะได้หาดูกันง่ายๆ ครับ

...แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 2550 10:55:02

นณณ์ [ 05 ก.ค. 2550 10:22:29 ]

ความคิดเห็นที่: 5

ขอบคุณทุกท่านมากครับ
รับทราบครับพี่นณณ์แก้ไขชื่อกระทู้เพื่อความสะดวกในการค้นหาแล้วครับ
ตกลงตัว
T. chatareus
ที่ คุณ kasoop บอกอยู่ นครสววรค์ ใช่น้ำจืดหรือน้ำกร่อยตามพี่นณณ์ ครับ

ขอบคุณครับ

...แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 2550 19:56:50

Revenge [ 05 ก.ค. 2550 19:51:58 ]

ความคิดเห็นที่: 6

 ถ้ามันอยู่นครสวรรค์ก็คงต้องน้ำจืดแน่นอน
ส่วนจะเป็นชนิดใดนั้นมีกล้าสรุปได้ เพราะไม่ได้เห็นตัวปลาหรือรูปถ่าย
ที่บอกไปคือตอนที่ผมไปสำรวจพบ  และก็สันนิษฐานตามความน่าจะเป็นน่ะครับ

สมัยเรียน เคยจำตำราว่า น้ำจืด5 น้ำกร่อย4 (ตัวเลขก็คือ ก้านครีบแข็งของครีบหลังของปลาเสือพ่นน้ำครับ)
ยังไงก็ลองจับมานับดูนะครับ ใช้แยกได้ในระดับหนึ่งเลยล่ะ
..ไม่รู้ว่าสูตรนี้ยังใช้ได้อยู่หรือป่าว..ตาม paper ไม่ทันแหล่ว...
เคยเห็นล่าสุดตีพิมพ์เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ที่พบชนิดใหม่แถวเกาะบอร์เนียว สิริรวมทั้งสกุลมี 7 ชนิด

...แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 2550 20:23:06

kasoop [ 05 ก.ค. 2550 20:21:51 ]

ความคิดเห็นที่: 7

 ถ้านครสวรรค์น่าจะเป็น T. microlepis ครับ

เสือพ่นน้ำตัวที่แจ่มสุดเป็นของพม่าครับ กระทู้ด้านบนนู้นอ่ะ

นณณ์ [ 05 ก.ค. 2550 21:24:15 ]

ความคิดเห็นที่: 8

T. microlepis? ตามความเข้าใจของผมนะครับ

Mb. [ 05 ก.ค. 2550 22:45:28 ]

ความคิดเห็นที่: 9

T. charareus?
ลองไปคุ้ยๆ คลังรูปตัวเองดูแล้วมีรูปอยู่บ้างเหมือนกันแฮะ

Mb. [ 05 ก.ค. 2550 22:46:44 ]

ความคิดเห็นที่: 10

งั้นไอ้ตัวที่ผมเจอในทะเลที่เกาะกูดก็น่าจะเป็น T. jaculatrix สิครับ ( แต่ตัวใหญ่ชะมัด)

คนริมรั้ว๒๕๓๔ [ 06 ก.ค. 2550 17:26:10 ]

ความคิดเห็นที่: 11

T. jaculatrix ตัวใหญ่มากครับ แม้ในธรรมชาติจะพบในเขตน้ำกร่อยยันหาดทราย สายลม สองเรา  แต่สามารถเลี้ยงในน้ำจืดสนิทได้สบายๆ ครับ แล้วตอนเล็กๆ  หลังของมันจะเป็นแพลตินัมเลย

knotsnake [ 09 ก.ค. 2550 14:51:32 ]