ความคิดเห็นที่: 1

ประเทศเรามันอะไรกันนักหนาอ่ะ งมงาย ลุ่มหลง ไม่เข้าเรื่อง กะอีแค่สิ่งที่เอามาห้อยคอ ผมถามหน่อย หนักคอมั้ย ?????
ผมรู้คุณศรัทธา  แต่คุณเชื่อมั่นในอะไรอ่ะ กระแสเหรอครับ แล้วตอนนี้ก็คุณต้องเบียดเบียนเพื่อนร่วมโลกอีก
ถุย แล้วเชื่อในศาสนา นอกรีดแล้วอ่ะ ทุเรศจริงๆ  ไร้สาระสิ้นดี  

"คนอย่างกูขอสาปแช่งพวกเมิงที่ทำจตุครามรุ่นนี้ ขอให้พวกเมิ งโดนล่าโดนล้างเหมือนที่เมิ งทำกับสัตว์"

...แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 2550 19:23:16

ฉลามเสือ [ 17 ก.ค. 2550 19:20:54 ]

ความคิดเห็นที่: 2

สังคมแย่จนไม่มีคำบรรยาย

conti อย่าลืมอ้างอิงที่มาด้วย ก๊อปของเขามาน่ะ

นกกินเปี้ยว [ 17 ก.ค. 2550 19:25:33 ]

ความคิดเห็นที่: 3

แย่จนต้องแก้ไขด้วยความรุนแรง แล้วครับ เจรจาไปก็ไร้ประโยชน์สมัยนี้ ต้องเด็ดขาด...

ฉลามเสือ [ 17 ก.ค. 2550 19:32:53 ]

ความคิดเห็นที่: 4

อาจาย์ของผมแกเล่นพระ  แกยังไม่เล่นจตุคามเลย  จตุคามรุ่นแรกเป็น จตุคามพิธีแตกครับ ขัดแย้งผลประโยชน์กัน  บางคนห้อยที่คอ ยังไม่รู้เลยว่า ประวัติที่มาที่ไปเป็นอย่างไร

electron [ 17 ก.ค. 2550 20:05:33 ]

ความคิดเห็นที่: 5

อนาจสังคมไทย ทำไมเป็นได้เพียงนี้

เนตรนภิศ [ 17 ก.ค. 2550 20:27:48 ]

ความคิดเห็นที่: 6

ถ้ำหลายแห่งก็โดนบุกโดนเผาเพื่อหาธาตุ เมื่อสองสามเดือนก่อนที่มีเณรหลงในถ้ำวังแดงก็หาธาตุ ทั้งหมดก็เพื่อสิ่งเดียว ไม่ใช่ศรัทธา ไม่ใช่ศาสนา ไม่ใช่สิ่งน่านับถือ
















เงิน

นณณ์ [ 17 ก.ค. 2550 22:22:21 ]

ความคิดเห็นที่: 7

ดักดานมาเป็นพันๆ ปี  ก็ยังดักดานต่อไป
น่าเบื่อ.....

PaRk. [ 17 ก.ค. 2550 22:27:21 ]

ความคิดเห็นที่: 8

ฮ้อย...   -__-

aqueous_andaman [ 17 ก.ค. 2550 23:05:23 ]

ความคิดเห็นที่: 9

เคยได้ยินคำร่ำลือกันมานานแล้วว่า  เขี้ยวพะยูนเป็นของวิเศษ   ถ้าเอามาทำปลอกมีดหรือเครื่องรางของขลังแล้ว  จะทำให้ผู้ครอบครองแคล้วคลาดจากภยันตราย  เรื่องนี้  ผมได้ยินแล้วก็นึกสงสัยมาตลอดว่า  ขนาดเจ้าของเขี้ยวเอง  เขี้ยวนั้นยังคุ้มครองไม่ได้  แล้วจะป้องกันอันตรายให้ผู้ครอบครองได้ยังไง   แต่เรื่องน้ำตาพะยูนนี่  เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละครับ

เฮ่อ  นี่แหละหนา  สัตว์โลกผู้เจริญ  - -!

ตะพากหน้าแดง [ 17 ก.ค. 2550 23:21:41 ]

ความคิดเห็นที่: 10

เป็นธุรกิจ ครับ   บางรุ่น ยังไม่ทำเลย   สั่งจองกันละ    บางรุ่นเสกแค่กล่องเปล่า   ส่วนองค์จตุคามที่ปั๊มมาอยู่บนรถสิบล้อโน้น     ค่าโฆษาณาก็หมดหลายล้านแล้วครับ   ต้นทุนไม่เท่าไหรหรอกครับต่อองค์   จะศรัทธาอะไรก็ดูให้เหมาะบ้างก็ดี   คนไทยทั้งหลาย

electron [ 18 ก.ค. 2550 03:55:12 ]

ความคิดเห็นที่: 11

พูดโดนใจมากครับคุณ อีเลคตรอน โดนผมสุดๆ  ............................. พ่อผมเป็นคนเล่นพระสะสมพระคนนึง  แต่ผมไม่เคยห้อยพระเลยสักองค์ ผมมีความมั่นใจ  และ ศรัทธาอยู่แล้ว จะห้อยไปเพื่ออะไรอ่ะครับ หายมาก็โอดครวนเสียดายเสียใจ เฮ้อ.........คนไทยมีศาสนาเป็นที่พึ่งหรือความงมงายว่ะเนี้ยกูหล่ะหน่ายกับประเทศนี้จริงๆ  ว่าทำไมมันไม่เจริญสักที แย่ๆ  แล้วจะทำไรกันแดกว้า

ฉลามเสือ [ 18 ก.ค. 2550 04:12:18 ]

ความคิดเห็นที่: 12

แถวๆ บ้านมีพิธีปลุกเสกจตุคามบนเรือรบ อีกหน่อยคงจะมีปลุกเสกจตุคามบนเครื่งบิน หรืไม่ก็บนยานอวกาศแน่ๆ  ทำกันไปเพื่อดึงเงินออกจากระเป๋าของคนที่งมงายกับพวกอวิชชาทั้งหลาย

สมัยพุทธกาลมีประชาชนแห่กันไปอาบน้ำกันในแม่น้ำที่คิดว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ อาบแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสเตือนว่า หากการอาบน้ำในแม่น้ำนี้ทำให้ได้ขึ้นสวรรค์จริงๆ  ปลา ปู เต่า หอย สัตว์น้ำที่แหวกว่ายอยู่ในแม่น้ำก็คงได้ไปสวรรค์ด้วยเช่นกัน

เสือข้างลาย [ 18 ก.ค. 2550 08:19:50 ]

ความคิดเห็นที่: 13

ผมขออนุญาตผู้ดูแลเวปนะครับ


                            ----------------------"  ไ  อ้  เ  ล  ว  เ  อ้  ย  "------------------------

จุ่มพรวด [ 18 ก.ค. 2550 10:18:43 ]

ความคิดเห็นที่: 14

มีมิตรรักรู้จักชอบพอกันกับอิฉัน เล่าเรื่องคนห้อยจตุคาม ด้วยว่าตะแกก็คลั่งไคล้ไหลหลงในจตุคามมิน้อย ห้อยเอาไว้สามสี่องค์เทียวค่ะ แลตะแกต้องกระโดดข้ามคู จตุคามทั้งสามสี่องค์ที่ห้อยเอาไว้ ก็แกว่งกลับขึ้นมาตีหัว แลต้องไปให้หลวงแพทย์เย็บเสียตั้งสามสี่เข็ม เปนที่น่าเวทนา อิฉันเลยบอกเขาไปว่าท่านให้คุณเรื่องโชคลาภ  แต่ลืมให้คุ้มครองให้แคล้วคลาด

เล่าเรื่องนี้เพื่อจักผ่อนบรรยากาศมหามาคุ  แต่อิฉันก็มิได้ชื่นชมรื่นรมย์กับเรื่องนี้เลยแม้ แต่น้อย แลอิฉันว่าแม้น แต่ตัวท่านจตุคามเอง ท่านก็คงรังเกียจเดียดฉันท์วิธีอันใจบาปหยาบช้าเยี่ยงนี้เช่นกัน

ใครห้อยจตุคามรุ่นนี้ คงมิใช่แค่หัวแตกแน่นอนเจ้าค่ะ

ampelisciphotis [ 18 ก.ค. 2550 11:55:51 ]

ความคิดเห็นที่: 15

ใจเย็นๆ  ครับ พี่น้องครับ...

kasoop [ 18 ก.ค. 2550 13:15:46 ]

ความคิดเห็นที่: 16

ขออนุญาติบ้างสิครับอีกสักรอบยิ่งเข้ามายิ่งทนไม่ไหว

"ไปฆ่าแม้งกันเลยดีกว่า ไอ้พวกนี้รกโกไม่สนบาปกับการฆ่ามนุษย์แล้วว้อยเพื่อสัตว์โลก(ที่ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้เรามี แต่ทำให้โลกนั่นสวยงาม และมีค่ามากมาย"

...แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 2550 13:34:44

ฉลามเสือ [ 18 ก.ค. 2550 13:34:21 ]

ความคิดเห็นที่: 17

พี่น้องครับ สงบสติอารมณ์กันบ้างสิครับ การว่ากล่าวไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดรุนแรงก็ได้นี่ครับ เดี๋ยวมันจะเป็นการระบายอารมณ์เสียมากกว่า ผิดกฏจนต้องแบนกระทู้ไป ออกความคิดเห็นกันแบบน่าชวนคิดดีกว่านะครับพี่น้อง

ไอ้ลูกทุ่ง [ 18 ก.ค. 2550 17:14:39 ]

ความคิดเห็นที่: 18

ข่าวต่อครับ ใจเย็นๆ ครับแสดงความคิดเห็นอย่าใช้คำหยาบ อย่าใช้อารมณ์ครับ ประชดประชันหน่อยไม่ว่ากัน

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000084015

นณณ์ [ 19 ก.ค. 2550 00:51:14 ]

ความคิดเห็นที่: 19

อ่านข่าวยังพอเบาใจได้บาง  แต่พอไปอ่านความเห็น แต่ละอันในข่าวก็หวัวกันขรม คิดอ่านกันไปได้เรื่อยเปื่อย โดยเฉพาะ #2 กับ #5 คิดกันไปได้


ความคิดเห็นที่ 2   คนคิดก็แปลกจริงๆ  น้ำตาพะยูน มันศักดิ์สิทธิ์ตรงไหน??ไม่ลองขี้ตาแมวบ้างหรือ?? หาง่าย ไม่ผิดกฏหมายด้วย!!! เป็นงง

ความคิดเห็นที่ 5   นี่ ถ้าหากเจ้าของซ่อง เจ้าของโรงอาบ อบ นวดจะจัดทำจตุคามขึ้นมา......อื๋ยยยยย ...ไม่อยากพูดเลย .................(เขาร่ายเอาไว้ยาวเจ้าค่ะ ไปอ่านเอาเองเถิด)......
ไม่แน่อาจจะเปลี่ยนชื่อเป็นจตุกามไปเลยก็ได้

ว่า แต่หากมีจตุกามขึ้นมาจริงๆ  ก็น่าสนใจนะเจ้าคะ เผื่อจะรับมาบูชาสักองค์

ampelisciphotis [ 19 ก.ค. 2550 01:06:25 ]

ความคิดเห็นที่: 20

เฝ้าติดตามอยู่หลายเดือน
นับวันจะหนักข้อขึ้น
สรรหาสาระพัดวิธีที่จะโน้มน้าวให้คนคิดว่า ศักดิ์สิทธิ์
นิมนต์เถรเจ้าที่ว่าขลังเอย  ปลุกเสกบนเครื่องบินเลย
นี่ยังทะลึ่งไปเอาน้ำตาพยูน  ไขปลาวาฬอีก
เสกสรรปั้น แต่งกันเข้าไป

ดูๆ แล้วไม่ต่างไปจาก ศาสนายุคโบราณ ในกรีก หรืออินเดียเลย
สมัยนั้นก็แบบนี้
คิดมันสาระพัดวิธีที่จะเอาอกเอาใจ ประจบประแจงเทพเจ้า
เน้นให้มันแปลก ประหลาด  และดูอลังการเข้าไว้
ตาม แต่ว่าจะพิเรนคิดได้ว่ายังไง

ผ่านมา 2-3 พันปี
ก็ยังบ้าบอกันแบบเดิม
มันน่าอนาถนัก

PaRk. [ 19 ก.ค. 2550 01:49:56 ]

ความคิดเห็นที่: 21

อ่านข่าวนี้แล้วเศร้าใจคนไทย นี่หรือเมืองพุทธ

ยายอ้วน [ 19 ก.ค. 2550 11:58:09 ]

ความคิดเห็นที่: 22

ที่ศาสนาพุทธในชวาพ่ายต่อการเข้ามาของศาสนาอื่น ก็เพราะพุทธมหายานยุคนั้น ส่งเสริม แต่การสร้างรูปเคารพพระโพธิสัตว์ เพื่อแข่งกับศาสนาฮินดูที่ชอบสร้างเทวรูป จนห่างจากการเทศนาธรรมสั่งสอนแก่ชาวบ้าน พออิสลามเข้ามา เขารับได้ พุทธที่นั่นเลยเสื่อมสลายไป

นกกินเปี้ยว [ 19 ก.ค. 2550 13:16:58 ]

ความคิดเห็นที่: 23

#22 ใครดีใครอยู่ครับ เป็นสัจธรรม  ถ้าชาวพุทธทำศาสนาพุทธเสื่อมเองไปโทษศาสนาไหนเขาไม่ได้หรอกครับ
ปล.ผมไม่อยากใช้คำว่าเมืองพุทธนะครับ ดูกีดกันศาสนาอื่นไงไม่รู้อ่ะ

Alakazum [ 19 ก.ค. 2550 16:40:13 ]

ความคิดเห็นที่: 24

ขอโทษทุกท่านที่ใช้คำไม่สุภาพ  แต่เนื่องจาก ทั้งพระผู้ควรรู้ อาจารย์ที่ต้องถ่ายทอด ผู้ว่าฯ ที่ต้องปกครอง ทหาร ตำรวจ แม่ค้า คนธรรมดา คนไม่ธรรมดา เป็นไปกันหมด ผมไม่ได้แย้งเรื่องความเชื่อ  แต่กำลังเซ็งกับมโนสำนึกของคนที่กำลังแห่ตามกันโดยไม่มีจุดหมาย ห้อยแล้วไม่ตาย ห้อยแล้วค่าเงินไม่แข็ง ห้อยแล้วระเบิดด้าน ก็มัว แต่เอาเวลาทั้งช่วงชีวิตไปหมกมุ่นกับเรื่องแบบนี้ ที่สำคัญ บุคคลข้างต้นควรจะเป็นผู้ปราม เตือนสติ ให้ความคิดแก่คนส่วนใหญ่ กลับถือโอกาสตักตวงหาผลประโยชน์จากกระแส  ถ้าเรื่องพยูนไม่เป็นความจริงก็เอาคนที่โฆษณามาประนามสิ ไม่ใช่แค่ว่าหลอกว่าใส่หรือไม่ใส่น้ำตาพยูน  แต่คนที่ไม่ได้มีคอมพ์ อินเตอร์เนต อ่านหนังสือพิมพ์เป็นประจำ ฟังแล้วก็เชื่อมันหัวปักหัวปำมีอยู่เต็มไปหมด เพราะเขาคือคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ความรู้ ความเข้าใจ เข้าไปไม่ถึง คุณเปิดประเด็นมา มีคนพร้อมทำตามหรือพัฒนาความหลงเพิ่มเติ่มเข้าไปอีก ....................นี่คือคำอธิบายของวลีที่ผมขออนุญาตผู้ดูแลเวป
ขอโทษอีกครั้ง

จุ่มพรวด [ 20 ก.ค. 2550 09:27:40 ]

ความคิดเห็นที่: 25

คนไทยเราขาดวิจารณ์ญาณคับ
การศึกษาเปนสิ่งสำคัญจริงๆ

ขอยกตัวอย่างจาก พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี เคยกล่าวไว้

ผมจำคำพูดโดยละเอียดไม่ได้ เอาเนื้อหาคร่าวๆ นะครับ เกี่ยวกับเรื่องจตุคามนี่หละ

"ปัจจุบัน ศาสนาพุทธของเราเสื่อม กระแสการนับถือ ผีสาง เทวดา กลับรุ่งเรือง เพราะอะไร
เพราะเราเอง เพราะการศึกษา ความรู้ ของเราเอง
เมื่อเราไปยกย่องให้พระรูปหนึ่ง เปนผู้ถ่ายทอดศาสนา เป็นผู้นำทางจิตใจ โดยไม่ได้ใช้ความคิดเพียงพอ แล้ววันหนึ่ง พระรูปนี้กลับนี้กลับสอน แต่เรื่องงมงาย เวทมนตร์คาถา เครื่องรางศักสิทธิ์ ชาวบ้านก็เชื่อถือไปโดยง่าย สุดท้ายทำให้สังคมนั้นกลายเปนสังคมที่มี แต่ความงมงาย
ต่อมา ผู้ที่มีความคิด ความรู้ ก็เลยต่อว่า ว่า พระรูปนั้นผิด
จริงๆ แล้วจะโทษอย่างนั้นก็ไม่ถูก  พระรูปนั้น จบแค่ป.สี่ ความรู้มีแค่นั้น ไม่ได้หาความรู้เพิ่มเติม แล้วก็บวช แล้วก็แก่พรรษา ชาวบ้านมาถึงก็กราบไหว้บูชา
ก็คือ เราไปยกย่องเขาเอง ไปเชื่อเขาเอง ทำไมผู้ที่ควรให้ความรู้ถึงไม่ไปให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่พระ แก่ชาวบ้านพวกนั้น เพราะการศึกษานี่แหละ ที่ยังไม่ดี"

ประมาณเนี้ยคับ จิงๆ  ท่านเทศได้เข้าใจกว่านี้ ผมไม่สามารถสื่อออกมาได้

GreenEyes [ 20 ก.ค. 2550 21:10:00 ]

ความคิดเห็นที่: 26

ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น จตุคุกคาม แล้วกระมัง

ระวังไพร [ 20 ก.ค. 2550 23:35:29 ]

ความคิดเห็นที่: 27

อ้อ..แสดงว่าถ้ำที่ลูกผมอยู่ถูกเผานี่ก็..ไอ่พวกนี้นี่เอง

knotsnake [ 24 ก.ค. 2550 11:36:00 ]

ความคิดเห็นที่: 28

ไม่พลาดหรอกพี่ แถวสระบุรีก็โดน พิษณุโลกก็โดน.....

นณณ์ [ 24 ก.ค. 2550 14:34:54 ]

ความคิดเห็นที่: 29

น่าจับพวกนี้มาลน...(เติมเอาเอง) มาทำมวลสารซะให้เข็ด

knotsnake [ 25 ก.ค. 2550 00:36:15 ]

ความคิดเห็นที่: 30

ตามมาดูต่อ

นกกินเปี้ยว [ 25 ก.ค. 2550 13:28:08 ]