ความคิดเห็นที่: 3
รับนิมนต์ตามคำขอของน้อง ampelisciphotis น้องท่าน
หมึกงวงช้าง (Nautilus) : ต้นแบบเรือดำน้ำ
ถ้าพูดถึงชื่อ นอร์ติลุส (Nautilus) ขึ้นมานี่ กระผมคิดว่า หลายท่านคงจะเดาออกว่า กระผมจะเล่าเรื่องอะไรให้ฟัง เรื่องทูน่ากระป๋องเหรอขอรับ ถูกต้องขอรับ เอ๊ย ไม่ใช่ กระผมจะเล่าเรื่องของเรือดำน้ำให้ฟังขอรับ เกือบหลงประเด็นไปแล้วเชียว อย่าถือสาคนแก่เลย แก่แล้วก็อย่างนี้แหละ มีหลงๆ ลืมๆ บ้าง เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า ไอ้เจ้านอร์ติลุสนี่ บางคนก็เรียกว่าหอยงวงช้าง บ้างก็เรียกหมึกงวงช้าง จัดว่าเป็นสัตว์ในกลุ่มหมึก แต่ส่วนตัวชอบเรียก "ปลาหมึก" มากกว่า เพราะว่าคนโบราณนักจะเรียกอะไรก็ได้ที่ว่ายน้ำได้ว่า "ปลา" อย่างเช่น ปลาวาฬ ปลาโลมา แต่คาดว่าคงมิได้หมายรวมถึง "ปลาท่องโก๋" อันนี้ก็มีที่มา ไว้ค่อยเล่าให้ฟัง หุ หุ
คำว่า "Nautilus" ตามรากศัพท์คำว่า "nautilos ซึ่ง แปลว่า ปลาหมึก (cephalopod : cephalos = หัว + podos = เท้า รวมความได้ว่า ผู้มีเท้าอยู่ที่หัว) ตรงตัวดีขอรับ ซึ่ง ถ้าจะถามกันว่าเจ้าหอยชนิดนี้ได้รับความสนใจตั้ง แต่เมื่อใด อืม.... เท่าที่มีหลักฐานบันทึกนะขอรับ เขาว่ากันว่า อริตโตเติลเป็นคนแรกที่สนใจที่จะศึกษามัน อาจจะเนื่องจากความสวยงาม และพฤติกรรมบางประการของมันบางประการของมัน ทำให้เขาเก็บตัวอย่างนอร์ติลุสกลับมาจดบันทึกข้อมูล และรายละเอียดเอาไว้ เจ้านอร์ติลุสนี่นับได้ว่า เป็นตัวอย่างหนึ่งของความน่าทึ่งของธรรมชาติที่ได้รังสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ออกมาให้เราได้ยลชมกันขอรับ เจ้าหมึกชนิดนี้มีเปลือกที่ภายในแบ่งออกเป็นห้องๆ มีรูเล็กๆ ทะลุถึงกันจากห้องด้านนอกจนถึงห้องในสุด บางคนคงสงสัยว่าห้องเหล่านี้มีไว้ทำไม ห้องเหล่านี้มีไว้เพื่อช่วยในการลอยหรือจมตัวของเจ้านอร์ติลุสขอรับ กล่าวคือ เมื่อมันต้องการทำให้ตัวเองจมลึกตัวเองลงไปในทะเล มันก็จะดูดน้ำทะเลเข้าไปให้เต็มห้องต่างๆ ในเปลือก ทำให้ตัวมันหนัก มันก็จมลงสู้ท้องทะเลได้ แต่ ถ้ามันอยากจะลอยตัวขึ้นมา ก็จะปล่อยน้ำออกจากช่องในเปลือกของมัน ทำให้ตัวมันเบาก็จะลอยขึ้นได้ ซึ่ง หลักการอันนี้แหละขอรับ ที่คนเราเอามาใช้กับเรือดำน้ำ กล่าวคือ ในเรือดำน้ำจะมีห้องที่เรียกว่า ห้องอับเฉา ใช้สำหรับสูบน้ำเข้า-ออกจากตัวเรือ ทำให้เรือสามารถดำน้ำหรือลอยน้ำได้ตามต้องการ ซึ่ง คำว่าว่า อับเฉานี้หลายคนอาจจะนึกถึง "ตุ๊กตาอับเฉา" ซึ่ง เป็นตุ๊กตาหินแกะสลักเป็นรูปคนบ้าง สัตว์บ้าง เอามาประดับสวนหรือบ้าน เห็นได้บ่อยๆ ก็ในวัดพระแก้วนั่นแหละขอรับ ที่เรียกตุ๊กตาพวกนี้ว่า ตุ๊กตาอับเฉา ก็เพราะว่า ในอดีตคนไทย แต่งเรือสำเภาไปค้าขายกับคนจีน ขาไปสินค้ามากเรือก็หนัก ทำให้ไปได้ง่าย แต่พอขากลับขายของหมด เรือก็เบา ก็มีการนำเอาหินมาถ่วงให้เรือหนัก ต่อมาชะรอยจะเห็นว่า เอาก้อนหินมาใส่นั้นก็เหนื่อยเปล่ามิได้อันใด ก็เลยดัดแปลง เปลี่ยนก้อนหินให้กลายเป็นตุ๊กตาหิน บรรทุกมาในห้องอับเฉาเรือ ทำให้เรือหนัก และสามารถเอามาขายต่อเงินได้อีกด้วย นี่แหละภูมิปัญญาคนโบราณ หุ หุ โอ๊ะนอกเรื่องอีกแล้ว กลับมาเข้าเรื่องดีกว่าขอรับ นอกจากจะเป็นต้นแบบของเรือดำน้ำอย่างที่กล่าวแล้วนะ นักคณิตศาสตร์จังค้นพบอีกว่า ค่าอัตราส่วนระหว่างเส้นผ่านศูนย์กลางของวงเปลือกหอยวงในต่อวงนอกของนอร์ติลุส มีค่าเท่ากับ 1 : 1.618 เสมอ ซึ่ง หลายท่านอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไรใช่ไหมล่ะขอรับ ค่าอัตราส่วนอันนี้เป็น สัดส่วนที่เรียกว่า สัดส่วนทองคำ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า โกลเด้น เรโช (golden ratio) ขอรับ ค่าสัดส่วนทองคำนี้ ไม่น่าเชื่อนะขอรับว่า พบได้มากมายในสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะพืชหรือสัตว์ ที่มาของอัตราส่วนนี้มาจากลำดับอนุกรมทางคณิตศาสตร์ชุดหนึ่ง ที่เรียกว่า ลำดับฟิโบนักชี (Fibonacci sequence) เลขลำดับชุดนี้มีตัวเลขดังนี้ขอรับ 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21,
เราจะเห็นว่าตัวเลขลำดับถัดมา แต่ละลำดับนั้นมาจากตัวเลข 2 ตัวหน้าบวกกัน เช่น 2 มาจาก 1+1, 3 มาจาก 1+2 อย่างนี้เป็นต้น ขอรับ เมื่อนำเอาตัวเลข แต่ละลำดับมาหาอัตราส่วน จะพบว่า ค่าที่ได้เมื่อจำนวนพจน์มากขึ้น จะมีค่าเข้าใกล้ 1 : 1.618 ซึ่ง เราเรียกค่านี้ว่า ค่าฟี (PHI) หรือสัดส่วนทองคำ แต่อย่าสับสนกับค่า ไพ (PI) ซึ่ง มีค่า 3.14 นะขอรับ อันว่าค่าสัดส่วนทองคำนี้จัดได้ว่าเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาให้มนุษย์เราฉงนเล่น เพราะปัจจุบันนี้เราพบว่าสิ่งมีชีวิตมากมายไม่ว่าจะพืชหรือสัตว์ ที่มีสัดส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นสัดส่วนทองคำ ไม่ว่าจะเป็นอัตราส่วนระหว่างเส้นผ่านศูนย์กลางของ แต่ละวงเทียบกับเกลียวถัดไปของนอร์ติลุส หรือแม้ แต่ตัวเราเองก็เหมือนกันขอรับ ไม่เชื่อท่านลองดูก็ได้ ลองหาเชือกสักเส้นมาวัดความสูงของท่านจากกระหม่อมจนถึงส้นเท้า แล้วแบ่งเชือกออกเป็น 8 ส่วนจากนั้นก็นำปลายเชือกด้านหนึ่งมาวัดความสูงจากระดับสะดือจนถึงส้นเท้า แล้วเทียบกับความยาวเชือกทั้งหมด เชื่อหรือไม่ขอรับว่า ไม่ว่าท่านทั้งหลายจะสูงต่ำแค่ไหนจะได้อัตราส่วนเป็น 8 : 5 เสมอ หรือสัดส่วนระหว่างระยะจากไหล่ถึงปลายนิ้วมือต่อระยะจากข้อศอกถึงปลายนิ้วมือจะเป็น 3: 2 เสมอขอรับ ซึ่ง ตัวเลขเหล่านี้ต่างก็เป็นตัวเลขในลำดับฟิโบนักชีทั้งสิ้น อื่นๆ ก็เช่น กราฟอัตราการเต้นของหัวใจคนเราก็เป็นไปตามสัดส่วนทองคำด้วยเช่นกัน ส่วนสิ่งของรอบๆ ตัวเราก็มีมากมายขอรับที่เป็นสัดส่วนทองคำ ไม่ว่าจะเป็นขนาดของรูปที่เราอัดจากร้านถ่ายรูป ถ้าขนาดธรรมดา หรือที่เรียกว่า 3R ก็มีขนาด 3x5 นิ้ว ในขณะที่ขนาดจัมโบ้ หรือ 4R ก็มีขนาด 4x6 นิ้ว ซึ่ง เมื่อทำเป็นสัดส่วนอย่างต่ำก็จะได้เป็น 2 : 3 ตัวเลขเหล่านี้คุ้นๆ ไหมเอ่ย หึ หึ เอาล่ะยกตัวอย่างเพียงเล็กน้อยพอเป็นพิธีขอรับ ในความเห็นส่วนตัวของคนแก่อย่างกระผมนี่ ไม่ได้สนใจหรอกขอรับว่ามีอะไรบ้างที่เป็นสัดส่วนทองคำ แต่สนใจในแง่ที่ว่า ทำไมธรรมชาติถึงได้คงสัดส่วนนี้เอาไว้มากกว่าขอรับ
หอยทากชรา
[ 20 ก.ค. 2550 18:10:36 ]