กระทู้-08031 : จารุจินต์ นภีตะภัฏ เอนไซโคลพีเดียหนึ่งเดียว ธรรมชาติวิทยาเมืองไทย

Home » Board » เลื้อยคลาน

จารุจินต์ นภีตะภัฏ เอนไซโคลพีเดียหนึ่งเดียว ธรรมชาติวิทยาเมืองไทย

ทันทีที่บรรดาสัตว์เลื้อยคลานสี่ขาที่เรียกว่า "เหี้ย" ออกมาเพ่นพ่านทั่วเมืองกรุง โทรศัพท์บนโต๊ะในห้องทำงานของ "จารุจินต์ นภีตะภัฏ" ก็ดังรัวขึ้นทันที

ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของ "เหี้ย" แต่ทั้ง "มะขามยักษ์" หรือพืชประหลาดชนิดต่างๆ  ที่อุบัติขึ้นในแผ่นดินบ้านนี้เมืองนี้ ชายผู้นี้ต้องรับหน้าที่ตอบคำถามเกี่ยวเรื่องราวเหล่านี้ทุกๆ  เรื่อง

หากฟ้าให้พืช สัตว์  และแมลงมาเกิดในโลกนี้ ก็เป็นการถูกต้องแล้วที่ฟ้าส่งให้ "จารุจินต์ นภีตะภัฏ" มาเกิดด้วย

เพราะตั้งแต่ลืมตาดูโลก กระทั่งรู้ภาษา ชีวิตของชายผู้นี้ผูกพันอยู่กับพืช สัตว์ และแมลงมาตลอด

เขาเกิดที่บ้านริมคลองบางซื่อ กทม. ตอนอายุห้าขวบลากเอางูสามเหลี่ยมสีเหลืองสลับดำ ตัวยาวเป็นวา มานั่งพิศ เพราะเห็นเกล็ดสีสวย พี่น้องคนอื่นๆ  เล่นตุ๊กตา หม้อข้าวหม้อแกง แต่เขาชอบลงไปช็อร์ตปลาในคลอง เอาบ่วงคล้องคอจับงูงวงช้างขึ้นมาดูเล่น จึงไม่พ้นโดนงูกัดแขนห้อยสะพาย เลือดไหลโกรก

โตขึ้นมาหน่อย จับหนู คางคก จิ้งจก ตุ๊กแก มาผ่าท้องดูเพราะอยากรู้ว่าข้างในมันเป็นอย่างไร?

มาถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอยู่ เพราะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ  ซึ่งตั้งอยู่ที่คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

- เรียกเขาอีกอย่างว่า "นักอนุกรมวิธาน" จำแนกชนิดพันธุ์พืช สัตว์ แมลง เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลทางการศึกษาธรรมชาติวิทยาของเมืองไทย-

ใครที่เคยรู้จักเขามาแล้ว จะรู้ว่าเขา "บ้า" ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มนิสิตเกษตรศาสตร์ ถึงเป็นผู้อำนวยการสถานบันระดับชาติ เขาก็ยัง "บ้า" ไม่เปลี่ยนแปลง

จารุจินต์บอกว่า หน้าที่การงานแบบเขา... "หากไม่พิสดารจริง หรือบ้ามากๆ  ทำไม่ได้หรอก..."

- จริงเท็จอย่างไร เรื่องราวต่อไปนี้คือข้อพิสูจน์
หนานโตน approve [ 22 ก.ค. 2550 13:54:51 ]
ความคิดเห็นที่: 1
- เริ่มสนใจศึกษาพวกสัตว์-พืชมาตั้ง แต่เมื่อไหร่?

ตั้ง แต่เด็กแล้ว พอเริ่มเดินได้ก็จับสัตว์มาเล่นทุกชนิดทุกตัวที่ขวางหน้า อย่างตัวเหี้ยผมก็โดนกัดบ่อยๆ  คือผมเป็นคนเล่นไม่ปกติ (หัวเราะ)

ตอนเด็กๆ  ผมไม่เล่นของเล่น  แต่จะจับแมลง ตุ๊กแก จิ้งเหลน กิ้งก่า ใส่กล่องใส่ขวดนั่งดูทุกวัน เท่านั้นยังไม่พอผ่าท้องมันดูเลย เพราะอยากรู้ว่าข้างในมันเป็นยังไง อยากรู้มันเดินได้ยังไง จับมันผ่าดูจนพอใจ

งูเงอหนูเหนอโดนกัดเลือดสาดมาหมดแล้ว พ่อแม่นี่ร้องจ๊าก ก่อนเข้าบ้าน แต่ละครั้งพ่อกับแม่ต้องมาล้วงกระเป๋าเอากิ้งกือ เอาอะไรต่ออะไรออกจากกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงทิ้ง

ผมเป็นคนรักสัตว์ ตัวอะไรผมว่าดีหมด ยุงยังดีเลย สัตว์ทุกตัวในโลกมันก็มีทั้งดี และเลว ดีหมดไม่มี เลวหมดก็ไม่มี คนเราก็เหมือนกัน ไม่ใช่ดีทุกอย่าง  ถ้าดีมากๆ  หรือเลวพอรับได้ก็ค่อยยังชั่ว

- ทำไมถึงชอบทางด้านนี้?

ไม่รู้สิ พระพรหมสั่งมา พรหมท่านลิขิตให้ไปอยู่กับสัตว์ ทุกวันนี้ผมจึงอยู่กับสัตว์ คุมสัตว์ให้กับชาติ เมื่อก่อนพ่อแม่หนักใจมากว่าลูกจะทำอะไรกิน ทุกวันนี้ผมหาเลี้ยงพ่อแม่ได้เพราะเรื่องดูสัตว์ ดูพืช นี่แหละ

หน้าที่ผมคือ ให้ความรู้วิทยาศาสตร์แก่ประชาชน ให้คนเชื่อเรื่องไสยศาสตร์น้อยลง  แต่ไม่ได้ผลครับ ยังปิดทองขอหวยกันเป็นแถว...(หัวเราะดัง)

- แสดงว่าตอนเด็กชอบเรียนชีววิทยา

ชอบมาก ที่บ้านจะให้ไปสอบแพทย์ จะไปสอบก็ได้เพราะคะแนนดี  แต่ผมไม่เรียน ไม่เอา เพราะผมไม่ชอบเรื่องคน อาจเพราะว่าเรื่องคนมีคนรู้เรื่องเยอะแล้วมั้ง  แต่สัตว์ไม่ค่อยมีคนรู้ ยังมีอะไรที่ยังไม่รู้อีกเยอะแยะ


- เรียนชั้นมัธยมที่ไหน

โรงเรียนวชิราวุธ สมัยเมื่อ 30-40 ปีโน่น โอ้โฮ...สัตว์จมเลยในโรงเรียน เพราะข้างหลังเป็นป่า แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว โอ้ย...มีสัตว์สารพัด ผมไปจับงูเหลือมมาเล่น เอาสวิงไล่จับผีเสื้อ วันๆ  ไม่ไปไหนช้อนปลาจับเต่าจับตะพาบในโรงเรียนนั่นแหละ จับเอามาเล่นใส่กล่อง ใส่บ่อเลี้ยงไว้ดูด้วย เลี้ยงปลากัดกัดกันบ้าง สนุกสนาน

พอจบจากวชิราวุธก็สอบเข้าเรียนคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เลือกอันดับ 1 เลยนะ ขณะที่เพื่อนๆ  ผมเขาสมัครอันดับ 5-6 กัน

อาจารย์ถามว่ามาสมัครเกษตรอันดับ 1 ทำไมคะแนนก็ตั้งเยอะแยะ ผมบอกว่าอยากเรียนกีฏะ อาจารย์ถามรู้จักกีฏะด้วยเหรอ ผมบอกรู้จักสิ อธิบายให้ฟังเสร็จสรรพเพราะผมอ่านมาหมดแล้ว อาจารย์บอกเออ...ใช้ได้นี่

- จบเกษตรแล้วไปต่อไหน

เรียนต่อโท สาขาอนุกรมวิธานที่เกษตรฯ นั่นแหละ ระหว่างเรียนโทได้รู้จักคุณหมอบุญส่ง เลขะกุล ท่านชวนให้ไปทำงานด้วย เพราะตอนนั้นกำลังรวบรวมข้อมูลทำหนังสือผีเสื้อในเมืองไทย และคู่มือดูนกเมืองไทย ผมไปเป็นมือซ้าย ส่วนคุณกิตติ ทองลงยา ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้วเป็นมือขวา

คุณหมอบุญส่งบอกกับผมว่า "ตอนนี้ฉันเหลือ แต่มือซ้าย ฉะนั้นห้ามตายเด็ดขาด"

- สมัยเรียนค้นพบอะไรใหม่ๆ  บ้าง

ตอนที่จบมหาวิทยาลัยแล้วมาอยู่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ ผมอยู่ตั้ง 21 ปีแน่ะ ตั้งชื่อสัตว์ใหม่ๆ  จมเลย กิ้งก่า จิ้งเหลน กบ เยอะแยะ ทั้งที่ผมค้นพบเองแล้วตั้งชื่อเอง  และที่คนอื่นค้นพบแล้วตั้งชื่อให้ผมเพื่อเป็นเกียรติ โดยมารยาทของนักตั้งชื่อจะตั้งชื่อให้ใครก็ได้ ยกเว้นตัวเอง ตั้งให้ภรรยา ลูก เมียคนที่ 5 ก็ได้ทั้งนั้น

ที่เป็นชื่อผมก็มีนับไม่ถ้วน ตุ๊กแกจารุจินต์ก็มี ปูจารุจินต์ก็มี แมงมุมจารุจินต์ ฯ ลฯ  เยอะแยะ
หนานโตน approve [ 22 ก.ค. 2550 13:55:21 ]
ReptilesPics_reply_36449.jpg
ความคิดเห็นที่: 2
- อยากให้เล่าตอนออกภาคสนาม

คือการสำรวจทรัพยากรบ้านเรายังไม่รู้เรื่องดีเลยทั้งเรื่องพืช เรื่องสัตว์ เราจะรู้แค่หางอึ่ง

เวลาออกไปสำรวจ ผมจะเริ่มจากต้องดูก่อนว่าตรงไหนมีอะไร อย่างไร แล้วออกสำรวจเป็นเขตๆ  ไปใน แต่ละภาค ไล่ไปเรื่อยๆ  ให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ ผมจะไปหากบที่ดอยอินทนนท์ กบที่นั่นดีมาก และมีเยอะมาก มีทั้งกบทั้งอึ่ง ตั้ง แต่ที่ราบต่ำไปจนถึงยอดเขา ดอยอินทนนท์เป็นที่ที่มีสัตว์ตั้ง แต่ 200 เมตร ไปจนถึง 2,500 เมตร ถึงยอดเลย

- ใช้เวลานานมาก

นานสิ ผมคลานอยู่ในป่าทั้งวันทั้งคืน กว่าจะออกมาก็เช้า เดินในป่าทั้งคืนเห็นอะไรใหม่เก็บใส่ถุง พอเช้าก็มานั่งดูทีละตัวๆ

ผมจับสัตว์ได้ทุกรูปแบบ มือเปล่าก็จับได้ ไม่กลัว เจอปุ๊บ เขี่ยๆ  บางตัวดุต้องเอาไม้จับก่อนเพราะไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไร ตัวไหนแปลกจับใส่ถุง...เออ...แกตายแน่ตัวนี้เพราะไม่รู้จัก เอากลับไปผ่า ตัวไหนรู้จักก็จับถ่ายรูปแล้วปล่อยไป

- กลัวผีในป่า

ไม่กลัว ใครมาเป็นลูกน้องผมกลัวผีจะบอกเลยว่าไม่ต้องมา เลิกกันเลยนะทั้งกลัวผีกลัวเสือ ที่จริงเสือมันกลัวคนจะตาย ผมเองเฉียดกันไปเฉียดกันมากับเสือ

ในป่ามีที่น่ากลัวมากอย่างเดียว คือ ยุง อันตรายที่สุด แล้วอีกอย่างก็โจร

- อยู่ในป่าทำอะไรบ้าง

คลานหาสัตว์ไปเรื่อย ดึกๆ  ดื่นๆ  ง่วงก็นั่งพิงหินหลับ พอตื่นก็หาต่อ ผมเจอตุ๊กแกดีๆ  เยอะ สวยๆ  หน้าตาแปลกๆ  มีอยู่ตัวเจอที่หนองคาย ผมได้ชื่อตุ๊กแกจารุจินต์จากตัวนี้

- พื้นที่ป่า แต่ละแห่งต่างกัน?

ต่าง หากบต้องไปอินทนนท์ ตุ๊กแกไปอีสาน ภูวัว ภูกระดึงมีสารพัดสัตว์ ที่ภาคเหนือ และภาคอีสานบางส่วนก็คล้ายกัน บางส่วนก็ต่างกัน มีสัตว์คล้ายกัน

ผมเข้าป่าเหมือนผมเข้าห้องสมุดไปเปิดหนังสืออ่าน เวลาเข้าป่าผมก็คุ้ยหาอะไรของผมไปเรื่อย ขุดต้นหมากรากไม้ ใบไม้ เปิดท่อนไม้ดู

ผมเจอสัตว์ชนิดใหม่ๆ  5 ชนิดที่ภูวัว พวกกิ้งก่า จิ้งเหลน กิ้งก่าตัวหนึ่งหายากมาก แปลกมาก เป็นกิ้งก่าที่หน้าตาเหมือนตุ๊กแก ครึ่งกิ้งก่าครึ่งตุ๊กแก ผมประกาศตั้ง แต่อยู่ในถ้ำว่าตัวนี้ใหม่แน่ๆ  ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมกลับมาศึกษาใหญ่ก็เป๊ะเป็นชนิดใหม่จริงๆ
หนานโตน approve [ 22 ก.ค. 2550 13:55:41 ]
ความคิดเห็นที่: 3
- เคยไปป่าภาคใต้ไหม?

ไปมาหมดแล้ว สมัยก่อนภาคใต้น่ากลัวเป็นพื้นที่สีแดง กรุงชิง บ้านซ่อง เวียงสระ สหายทั้งนั้น สหายชอบ สหายเลิศ เพื่อนกันไปนั่งกินเหล้า พอน้องๆ  มาก็แจกถุง คืนนี้ใครเจออะไรจับให้อาจารย์หน่อย พอเช้าเดินมากันเป็นแถวเอาถุงมาวางให้ บนยอดเขาจะเป็นพวก ผกค.อยู่ ส่วนเชิงเขาจะเป็นพวกโจรปล้นรถทัวร์ ผมเป็นคนเดียวที่จะเข้าป่าภาคใต้เมื่อไหร่ก็ได้ เพราะกรีดเลือดสาบานเป็นพี่น้องกับโจรหน้าน้ำตก ใช้มีดกรีดเลือดหยดลงแก้วเหล้าสาบานเป็นพี่น้องกัน กินคนละครึ่งแก้ว

เคยไปบ้านโจร ในบ้านกล้องถ่ายรูปเต็มไปหมด กองพะเนินเทินทึก เขาบอกอาจารย์เลือกเอาสิผมให้

เลือกเอาเลย...เหอ...ผมไม่กล้าหรอก..ใครจะกล้า..

- แล้วสัตว์ในป่าภาคใต้

จะไปเหมือนพวกสัตว์ในมลายู มีพวกเห่าช้าง ตุ๊ดตู่ ทางใต้มีเยอะเลย ภาคอื่นไม่ค่อยมี อย่างตุ๊ดตู่ขึ้นมาถึงแค่เมืองกาญจน์ก็ไม่มีแล้ว  แต่เห่าช้างขึ้นไปถึงอุ้มผาง มันเลาะขึ้นไปทางตะวันตก

- เขียนหนังสือเล่มแรกเรื่องอะไร?

น่าจะเป็น "ผีเสื้อเมืองไทย" เวลานี้กลายเป็นหนังสือหายากไปแล้ว เขียนตอนที่ผมยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยเลย

- หนักใจไหมที่รู้สึกว่าตัวเองประหลาด

ไม่เลย ภรรยาผมยังชินผมแล้ว

- มีภรรยาด้วย

เออ...สิ ยังหาเมียได้ทำเล่นไป...(หัวเราะชอบใจ) แล้วลูกผมนะไม่มีใครมาทางผมเลยสักคน ไปทางแม่หมด ทำธุรกิจแบบแม่หมด

- ล่าสุดกำลังศึกษาอะไรอยู่?

ผมทำเรื่องแมลง มด ผีเสื้อ ค้นพบใหม่ๆ  อยู่เรื่อย  แต่ยังไม่แน่ใจเลยยังไม่นำเสนอ ที่พบเป็นผีเสื้อกลางวัน  แต่ยังไม่สำรวจละเอียด

พวกนี้ถือเป็นทรัพยากรของชาติ  ถ้าเราไม่รู้จักมันเราไม่มีทางรู้ว่ามันมีประโยชน์ยังไง ผมจับสัตว์มาหลายอย่างแล้วมีประโยชน์ทั้งนั้น อย่างเจอคางคกตัวหนึ่งที่ดอยอินทนนท์ เป็นคางคกใหม่ยังไม่มีในที่อื่นสีแดงแป๊ด ผมไปกับฝรั่งผู้เชี่ยวชาญคางคกระดับโลก พอจับได้ให้เขาดู และบอกเขาว่ามีอัลคารอยด์ เขามองๆ  เสร็จแล้วแลบลิ้นเอาคางคกทาลิ้น สักพักบอกเออ..มีสิทธิ เพราะลิ้นจะชา

นั่นแหละสามารถนำมาทำยาใหม่ของโลกได้หลายตัว เป็นสารอัลคารอยด์ในตัวคางคก ฝรั่งที่มาเขาศึกษาเรื่องพิษจากสัตว์ มาขอผมเพราะผมรู้ว่าจะหาได้จากที่ไหน ซึ่ง มีเยอะมาก  แต่ผมบอกว่าให้ 3 ตัวพอนะ ผมไม่หวงหรอก เพราะเราก็ได้จากเขาเยอะ

สัตว์ทุกอย่าง พืชทุกชนิดมีประโยชน์หมด เพียง แต่ว่าเรายังไม่รู้เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น เราต้องรู้จักเสียก่อนจึงจะรู้ว่ามันมีประโยชน์อย่างไร

- ขั้นตอนการตั้งชื่อสัตว์ที่พบใหม่

ถ้าเราพบก็จะศึกษารายละเอียด อย่างคางคกศึกษาแล้วก็ส่งไปให้นักคางคกโลกดู ซึ่ง มีหลายคนเราจะรู้จักกัน ต้องส่งให้หมดทุกคน เมื่อทุกคนดูแล้วบอกว่าใหม่ สมมุติตั้งชื่อ "คางคกอินทนนท์" จากนั้นก็ตีพิมพ์ในเอกสารเผยแพร่ ถือว่าสมบูรณ์แล้ว-แล้วเราก็เก็บตัวอย่างไว้ตัวสองตัว

นักจิ้งเหลนโลกก็มี นักเหี้ยโลกก็มี-อันนี้อยู่ที่อเมริกา 2 คน ที่ออสเตรเลียคนหนึ่ง พวกนี้เขาเก่งจริงๆ  นะ แค่เห็นมันเดิน เห็นแวบเดียวบอกได้เลยว่าใหม่ หรือเป็นพันธุ์อะไร ชนิดไหน

ที่นี่มีลูกน้องผมอยู่คน เห็นมดเดินเขาบอกได้เลยว่านี่มดอเมริกาไม่ใช่มดบ้านเรา แล้ววันไหน ถ้าเห็นมันดิ้นพั่บๆๆๆ  อยู่บนพื้นนะ แสดงว่ามันเจอมดดี ผมเคยเห็นตอนแรกนึกว่าถูกงูกัด บอกไม่ใช่หรอกเขาเจอมดดีมดใหม่น่ะ คือพวกลูกน้องที่จะมาอยู่กับผมได้มันต้องบ้าถึงขั้น 3 แล้ว (หัวเราะ)

ผมกำลังเขียนพจนานุกรมชื่อสัตว์อยู่ เป็นชื่อไทย  และชื่อภาษาอังกฤษ ต่อไปคุณจะรู้ว่าตัวนี้มีชื่อไทยอะไร ชื่อภาษาอังกฤษว่าอะไร
หนานโตน approve [ 22 ก.ค. 2550 13:56:02 ]
ความคิดเห็นที่: 4
- ทุกวันนี้ทำงานเฉพาะที่พิพิธภัณฑ์"

ทุกวันนี้ผมทำงาน 3 อย่าง เป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ทำงานวิจัย  และเป็นอาจารย์สอนหนังสือ มีอีกอย่างคือเป็นที่ปรึกษาสนามบินทุกสนามบินของไทย

เพราะต้องทำหน้าที่ปราบนกที่มาชนเครื่องบิน ผมไปสอนพวกนักบินว่านกอะไร  และจะปราบยังไง อย่างสนามบินสุวรรณภูมิ มีนกปากห่างเยอะมาก ผมต้องไปหาวิธีย้ายนกให้เขา ต้องใช้วิธีทำให้นกไปโดยไม่ต้องยิง คือใช้ระบบนิเวศควบคุม

สนามบินเชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ ภูเก็ต นกมาลง แต่ละชนิดไม่เหมือนกัน ผมไปจัดการให้หมด พวกโรงงานก็ด้วย ไปช่วยป้องกันไม่ให้แมลงเข้า หนู งู ตุ๊กแกเข้าโรงงาน

เพราะผมรู้นิสัยมันผมถึงรู้ว่าจะทำอย่างไร จะปราบสัตว์พวกนี้อย่างไร อย่างแมวที่มันมาเคล้าแข้งเคล้าขาเรา ไม่ใช่เพราะมันรักหรือประจบเรา  แต่มันเอากลิ่นมาทาขาเราไว้ ให้รู้ว่าเราเป็นของมัน ตู้ เตียง เอากลิ่นที่คางไปทาไว้หมด ที่จริงแมวมันไม่รักเราหรอก  แต่มันว่าเราเป็นสมบัติของมัน

หรือเวลาที่ลิงทำปากจู๋ คือมันมีความสุขที่สุด อย่างหมา ถ้าหูลู่ไปข้างหลังแสดงว่ามันมีความสุข  แต่ ถ้าหูลู่ไปข้างหน้าแยกเขี้ยว แผ่นได้เลย

- ใกล้จะเกษียณ?

เหลืออีก 2 ปี  แต่ผมคงทำงานนี้ต่อไปจนกว่าจะตาย เพราะเป็นงานที่รัก และชอบ คนอื่นเขาจะเชี่ยวชาญอย่างใดอย่างหนึ่ง  แต่ผมได้ทั้งพืช และสัตว์ ใครสงสัยอะไรมาถามจากผมทั้งนั้น

ที่ผมทำพจนานุกรมชื่อสัตว์ ผมทำตามที่รับปากไว้กับหมอบุญส่งตั้ง แต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ผมรับปากไว้ 3 อย่าง "นายต้องทำให้ฉัน 3 อย่างที่ฉันยังไม่ได้ทำ"

หนึ่งต้องสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ท่านอยากได้มาก  แต่สมัยท่านท่านทำไม่ได้เพราะไม่มีโอกาสทำ ผมได้สร้างให้ท่านแล้ว วันเปิดพิพิธภัณฑ์มีพายุแรงมาก พัดเต๊นท์ปลิวกระจายเลย สอง ขอให้ทำหนังสือนกภาษาไทย นี่ก็ทำแล้ว เหลืออย่างเดียว คือ พจนานุกรม ซึ่ง กำลังทำอยู่  ถ้าทำเสร็จผมก็หมดพันธะ

- แล้วจะเสร็จหรือยัง?

ใกล้แล้วครับ ปีหน้าคงเสร็จเรียบร้อย เวลานี้รวบรวมชื่อนกได้ 8,000 กว่าชื่อแล้ว สัตว์ต่างๆ   แต่ละตัวเรียกไม่เหมือนกัน ใน แต่ละภาคก็เรียกไม่เหมือนกัน ผมพยายามรวบรวมไว้เพราะถือว่าเป็นสมบัติของชาติ เป็นประโยชน์ของชาติ

อีกหน่อยสัตว์ทั้งโลกนี้จะมีชื่อเป็นภาษาไทยหมด
หนานโตน approve [ 22 ก.ค. 2550 13:56:19 ]
ความคิดเห็นที่: 5
โดย สกุณา ประยูรศุข

หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10725

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01fun01220750&day=2007/07/22§ionid=0140
หนานโตน approve [ 22 ก.ค. 2550 13:57:31 ]
ความคิดเห็นที่: 6
สุดยอด  เก่งจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
electron [ 22 ก.ค. 2550 19:35:19 ]
ความคิดเห็นที่: 7
คนยังงี้แหละที่โลกต้องการ สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ฉลามเสือ approve [ 22 ก.ค. 2550 21:03:53 ]
ความคิดเห็นที่: 8
ผมขนลุกตรงคำว่า "3 พันธะจากหมอบุญส่ง"
อ.จารุจินต์ เป็นอีกปรมจารย์ด้านธรรมชาติคนหนึ่งที่ผมนับถือมากๆ ครับ
Alakazum approve [ 22 ก.ค. 2550 21:52:27 ]
ความคิดเห็นที่: 9
ขอกราบครับ.............
เสือหัวดำ approve [ 23 ก.ค. 2550 08:04:07 ]
ความคิดเห็นที่: 10
หุ หุ ด้วยความเคารพครับ ที่จริงก็อยากช่วยท่านในเรื่องที่ช่วยได้เหมือนกัน  แต่..ผมมันคนนอกสายตา
knotsnake approve [ 23 ก.ค. 2550 09:17:19 ]
ความคิดเห็นที่: 11
เหอ เหอ
นกกินเปี้ยว approve [ 23 ก.ค. 2550 09:19:16 ]
ความคิดเห็นที่: 12
ขอบคุณที่นำมาให้อ่านกันนะคะ นับถือค่ะ
kanok approve [ 23 ก.ค. 2550 17:03:01 ]

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org