กระทู้-08038 : ข่าว: มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ปิดชั่วคราว

Home » Board » อื่นๆ

ข่าว: มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ปิดชั่วคราว

มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ปิดชั่วคราว อ้างเงินหมด-จนท.ฉะ"พิสิษฐ์"ต้นตอ

 
โดย ผู้จัดการรายวัน 21 กรกฎาคม 2550 00:31 น.
 
 
 
มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า และพรรณพืชแห่งประเทศไทยร่อนหนังสือแจงสื่อต้องปิดตัวเองชั่วคราว เหตุเงินมูลนิธิหมดเกลี้ยง “พิสิษฐ์” เผยปิดเพียงชั่วคราว ยันเปิดอีกครั้งแน่นอน แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ขณะที่ “หาญณรงค์” ชี้สาเหตุมาจากปัญหาประธาน ไม่สามารถเคลียร์ปัญหาเรื่องการเปิดบริษัทเพื่อนเดรัจฉาน และการเป็นที่ปรึกษาองค์กรด้านสัตว์ที่มิชอบ เตรียมนัดถกครั้งใหญ่อาทิตย์หน้าเพื่อหาทางออก ขณะที่ “โซไรดา” ซัดต้องการถ่ายเลือดเก่าโละเจ้าหน้าที่ที่ไม่เห็นด้วยออก
       
       วานนี้  ( 20 ก.ค.)  นายพิสิษฐ์ ณ พัทลุง ประธานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า และพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้ออกแถลงการณ์คณะกรรมการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า และพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เรื่องการยุติการดำเนินงานมูลนิธิฯ เป็นการชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากมูลนิธิฯ ประสบปัญหาวิกฤติทางการเงิน  และปัญหาการบริการงานที่ทำให้เงินทุนในการดำเนินงานหมดลง
       
       แถลงการณ์ระบุด้วยว่า นับแต่ปี 2543  ซึ่งได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับปฏิบัติการเป็นต้นมา ปรากฏว่าเงินทุนสำรองที่ใช้หมุนเวียนในการบริหารงานลดลงเป็นลำดับ จนกระทั่งกลางปีพ.ศ.2549 คณะกรรมการมูลนิธิได้ตรวจพบว่าการเงินของมูลนิธิฯ เข้าขั้นวิกฤติ มีการใช้จ่ายเงินทุนสำรองที่ไม่สมดุลกับรายรับ ประกอบกับการบริหารงานในระดับปฏิบัติการไม่เป็นไปตามกฎข้อบังคับ และนโยบายที่กำหนดไว้ จึงมีมติปรับโครงสร้างองค์กรใหม่เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2550 เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่มีผู้ไม่หวังดีสร้างกระแสข่าวที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อมูลนิธิเป็นอย่างมาก ประกอบกับการแก้ปัญหาวิกฤติทางการเงินของมูลนิธิฯ เป็นเหตุให้การปรับโครงสร้างของมูลนิธิไม่อาจดำเนินการอย่างได้ผล
       
       ดังนั้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2550 คณะกรรมการมูลนิธิฯ จึงได้ประชุมพิจารณาปัญหาอย่างรอบคอบแล้ว ได้มีมติให้ยุติการดำเนินงานของมูลนิธิเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติที่เกิดขึ้นให้คลี่คลาย  และให้ยุติค่าใช้จ่ายของมูลนิธิฯ โดยทำการเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด  ซึ่งมูลนิธิ ฯ จะยุติดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป
       
       ด้านนายพิสิษฐ์ เปิดเผยถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า มีการหยุดการดำเนินงาน และปิดมูลนิธิฯจริง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเป็นการปิดชั่วคราวเท่านั้น  และจะมีการเปิดดำเนินงานใหม่อีกแน่นอน
       
       “ถามว่าจะเปิดใหม่ไหม เปิดดำเนินงานใหม่แน่นอน แต่ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้เงินหมด เดือนหนึ่งๆ  มีรายจ่ายเดือนละ 4-5 แสน พอไม่มีเงินก็เลยมีปัญหา ทำงานต่อไม่ได้ ส่วนลูกจ้างของมูลนิธิเราก็จำต้องเลิกจ้าง และชดเชยผลประโยชน์ให้เขามากที่สุด”
       
       ต่อข้อซักถามที่ว่ามีกระแสจากพนักงาน เจ้าหน้าที่ ตลอดจนลูกจ้างของมูลนิธิถึงการปิดตัวชั่วคราว และเลิกจ้างในครั้งนี้หรือไม่ นายพิสิษฐ์ ตอบว่า ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีก็ไม่มีผลอะไรในเมื่อเงินหมด  และทำงานต่อไปไม่ได้แล้ว
       
       ขณะที่นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการฝ่ายวิชาการ มูลนิธิฯ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดสืบเนื่องมาจากข้อครหาที่สังคม เจ้าหน้าที่ และองค์กรอนุรักษ์ตั้งคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่ชอบของตัวนายพิสิษฐ์ เอง โดยที่ไม่สามารถชี้แจงให้เป็นที่ยุติได้
       
       ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่นายพิสิษฐ์ ใช้ตำแหน่งประธานไปเป็นที่ปรึกษาให้กับ บ.สยามโอเชี่ยนเวิลด์ ที่สยามพารากอน  ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจเอกชนแสวงหาผลกำไรจากนำสัตว์น้ำจากท้องทะเลที่หายากมาจัดแสดง  และการตั้งบริษัท เอเชี่ยน ไวด์ไลฟ์ คอนซัลแตนซี  (Asian Wildlife Consultancy)   ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งช้างไทย 8 เชือกไปออสเตรเลียร่วมกับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ รวมทั้งการจัดหาสัตว์ป่าที่หายากทั้งใน และต่างประเทศให้กับโครงการสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี  และการที่ตัวประธานได้จัดตั้งบริษัท บ้านเพื่อนเดรัจฉาน จำกัด มีการเปิดร้านขายอาหาร และเครื่องดื่ม  และการจัดแสดงสัตว์ป่าที่หายาก
       
       ดังนั้น เมื่อเคลียร์ไม่จบจึงได้ตัดสินใจโดยอาศัยอำนาจของประธาน และกรรมการ ซึ่งเป็นพวกพ้องเดียวกันออกคำสั่งดังกล่าว
       
       นายหาญณรงค์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงินนั้น คงต้องอธิบายว่าเป็นเพราะนายพิสิษฐ์ ได้ออกคำสั่งที่ทำให้มูลนิธิฯ ไม่สามารถขอทุนเหมือนดังเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต คือออกคำสั่งให้การขอทุนทุกครั้งต้องทำผ่านคณะกรรมการมูลนิธิฯ เพราะปกติแล้วคณะกรรมการจะมีวาระการประชุมเพียงแค่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ทำให้มูลนิธิฯ ขาดสภาพคล่องในการดำเนินงาน ดังนั้น ตลอดระยะเวลา 6-7 เดือนที่ผ่านมา มูลนิธิฯ จึงไม่มีแหล่งทุนเข้ามาเพิ่มเติมในการทำงานเลย  ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงตัดสินใจเช่นนั้น
       
       อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มูลนิธิฯ ยังคงมีเงินส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถเบิกออกมาใช้ได้ 3 ส่วนด้วยคือ 1.เงินฝากธนาคารจำนวน 4 ล้านบาท 2.พันธบัตรรัฐบาลจำนวน 4 ล้านบาท  และ 3.เงินทุนที่ได้รับมาแล้วแต่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้อีกจำนวน 4 ล้านบาท
       
       “ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ประมาณ 40 คนยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรกันต่อไป แต่เท่าที่ได้คุยๆ  กันคงจะมีการนัดหารือกันอีกครั้งเพื่อหาทางออกประมาณวันจันทร์หรือวันอังคารหน้า จริงๆ  แล้วผมมั่นใจว่า เรื่องการเงินไม่น่าจะใช้ปัญหา เพราะตอนที่เกิดวิกฤติปี 40 เราก็ยังอยู่กันได้ โดยลดเงินเดือนตัวเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ บอกได้ว่าประธานมูลนิธิฯคนปัจจุบัน บริหารงานล้มเหลว”นายหาญณรงค์ กล่าวย้ำ
       
       ส่วน น.ส.โซไรดา ซาลวาลา ในฐานะเลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง ที่เคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านนายพิสิษฐ์ กล่าวว่า การปิดมูลนิธิฯชั่วคราวในครั้งนี้อาจจะมีวาระซ่อนเร้นหลายประการ ทั้งเรื่องกระแสการส่งหนังสือเรียกร้องจากมูลนิธิ และองค์กรต่างๆ  ให้นายพิสิษฐ์ ลาออก ตลอดจนเรียกร้องให้คณะกรรมการบังคับ "ให้ออก" เนื่องจากเห็นว่านายพิสิษฐ์ สวมหมวกสองใบ คือใบหนึ่งทำงานด้านคุ้มครองสัตว์  และอีกใบเป็นพ่อค้า  ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสม ดังนั้นการประกาศยุติชั่วคราวนี้อาจจะเป็นการกลบกระแสการเรียกร้องให้ลาออกจากมูลนิธิก็เป็นได้
       
       อย่างไรก็ตาม นอกจากกระแสกดดันจากภายนอก และมูลนิธิต่างๆ  ที่ไม่เห็นด้วยกับการบริหารงานของประธานมูลนิธิฯ แล้ว ภายในมูลนิธิฯเองก็มีเจ้าหน้าที่ที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นการยุติการทำงานชั่วคราว และเลิกจ้างเจ้าหน้าที่อาจจะเป็นวิธีการถ่ายเลือดเก่าเพื่อแก้ปัญหาการไม่เห็นด้วยกับการบริหารภายในองค์กร
       
       “เวลานี้ มีกระแสออกมาเหมือนกันว่านายพิสิษฐ์ จะยกเลิก และขายทิ้งอาคารที่ทำการของมูลนิธิ  ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวดิฉันเองเป็นคนช่วยหาเงินมาใช้หนี้ตึกนี้ที่ซื้อมากว่า 6 ล้านบาท ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน แต่ถ้าจริงก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเมื่อขายแล้วเงินที่ได้นายพิสิษฐ์ จะเอาไปทำอะไร  และจะไปเปิดที่ทำการใหม่ที่ใด”น.ส.โซไรดา ทิ้งท้าย
 
 
ที่มา: www.manager.co.th
นกกินเปี้ยว approve [ 23 ก.ค. 2550 17:19:18 ]
ความคิดเห็นที่: 1
เอามาลงช้าไปหน่อย  แต่ไม่อยากปล่อยให้ผ่านเลยครับ
นกกินเปี้ยว approve [ 23 ก.ค. 2550 17:19:54 ]
ความคิดเห็นที่: 2
คนนี้ นี่พ่อของ พิตต้า ดาราที่เป็นแฟนเก่าของแทค ภรัญญู(ที่ออกเทป) รึป่าวครับ
โมท [ 23 ก.ค. 2550 18:03:21 ]
ความคิดเห็นที่: 3
แม่นแล้วครับ คนๆ เดียว เพื่อตนเอง ปิดองค์กรเฉยเลยนิ
นณณ์ approve [ 23 ก.ค. 2550 18:22:29 ]
ความคิดเห็นที่: 4
แย่กันใหญ่แล้ว..    พิตต้า=pitta=นกแต้วแล้ว    เกี่ยวกันหรือเปล่าครับ
เสือหัวดำ approve [ 23 ก.ค. 2550 18:39:15 ]
ความคิดเห็นที่: 5
ขอบคุณพี่"นกกินเปี้ยว"สำหรับบริการตัดข่าวครับ "ไม่ช้าไปหรอกครับพี่ สำหรับคนที่ยังไม่อ่าน" ^_^
aqueous_andaman approve [ 23 ก.ค. 2550 18:53:22 ]
ความคิดเห็นที่: 6
ผมคิดว่ามาถึงจุดนี้แล้ว ระดับ คุณประธานมูลนิธิ น่าจะชี้แจงถึงเหตุผลที่แท้จริงในการปิดไปเลย เพื่อศักดิ์ศรีของตน

หรือ ถ้าจะอ้าง ก็ควรหาข้ออ้างที่ฟังดูดีกว่านี้  และฟังแล้วดูตัวประธานเองไม่ silly แบบนี้ มาตอบกับสังคมได้นะ

เหอๆ  ไหนๆ  ก็จะปิดตัวละ ขอให้โอกาสนี้เป็นจุดจบของพวกผีบุญหากินกับโบส ไปด้วยเลยละกัน
...แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 2550 01:22:23
B-Herp approve [ 24 ก.ค. 2550 01:12:38 ]
ความคิดเห็นที่: 7
ไม่มีใครพาท่านไปหาทางตันหรอกครับ
นอกจากตัวท่านเอง
จุ่มพรวด [ 24 ก.ค. 2550 09:50:11 ]
ความคิดเห็นที่: 8
Ofice may temporary closed, but Accredibility is closed Forever!!
waterpanda [ 25 ก.ค. 2550 22:57:25 ]
ความคิดเห็นที่: 9
หนทางสุดท้าย....
ยังไงเขาก็ยังเป็นประธานค่ะ เปิดดำเนินการมาใหม่ยังไงเขาก็เป็นประธาน
Formica approve [ 26 ก.ค. 2550 16:59:00 ]
ความคิดเห็นที่: 10
ทุเรศคนๆ นี้มานานแล้ว  กลิ่นไม่ดีมาตลอด

สัตว์เลี้ยงคน ไม่ใช่คนเลี้ยงสัตว์
พูดอีกก็ถูกอีก [ 05 ส.ค. 2550 22:49:52 ]
hatepisit@derajchan.com
ความคิดเห็นที่: 11
เห็นด้วยคับ สัตว์เลี้ยงคน ไม่ใช่คนเลี้ยงสัตว์
              สัตว์รักคน ไม่ใช่ คนรักสัตว์
              สัตว์เจ็บตายเพราะคน ไม่ใช่คนเจ็บตายเพราะสัตว์
              สัตว์ไม่เคยลืมคุณคน  แต่คนมักลืมคุณสัตว์
วิษณุ [ 27 ม.ค. 2551 19:51:09 ]
vissanu10@yahoo.com

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org