กระทู้-08076 : แมงดาอะไรครับ

Home » Board » อื่นๆ

แมงดาอะไรครับ

คนขายบอกว่าเป็น แมงดาน้ำจืด   (จริงหรอ)
electron approve [ 29 ก.ค. 2550 22:17:59 ]
OthersPics_reply_37587.jpg
ความคิดเห็นที่: 1
หน้าตาทำไมเหมือนแมงดาทะเลจังเลยครับ
- อาศัยอยู่แถวไหนครับ  ผมไม่เคยเจอในธรรมชาติเลย
- ดูยังไงว่าเป็นตัวผู้ รึตัวเมียครับ
- ใครมีข้อมูลของเจ้าตัวนี้บอกมาเยอะๆ เลยนะครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ..............
electron approve [ 29 ก.ค. 2550 22:27:04 ]
ความคิดเห็นที่: 2
มันคือแมงดาทะเลครับ
- พบอาศัยได้ทั่วไปทั้งอ่าวไทย และอันดามัน ชอบพื้นทรายปนเลน
- ตัวเล็กๆ  ดูยากพอควรนะครับ (ตัวผู้อยู่บน เหอๆๆ ...)
- ทราบคราวๆ  แค่นี้หละครับ ไม่ได้เรียน invertebrates ด้วยสิ
aqueous_andaman approve [ 29 ก.ค. 2550 22:47:22 ]
ความคิดเห็นที่: 3
โดนที่ใหนหลอกขายมาล่ะครับเนี่ย ตอนเดินซันเดย์เคยเห็นอยู่ร้านสองร้านที่หลอกขายอย่างงี้  แต่ไม่ได้ไปมาหลายเดือนแล้ว

ตัวผู้ขอบที่ด้านหน้ากระดองจะเว้าขึ้นครับ เวลาเกาะเมีย เอ้ย! ตัวเมียจะได้ไม่หลุด ส่วนตัวเมียขอบก็โค้งตรงเป็นปกติ
นกกินเปี้ยว approve [ 29 ก.ค. 2550 22:53:06 ]
ความคิดเห็นที่: 4
ผมก็ว่า แมงดาทะเลนั่นแหละครับ   แต่คนขายก็นั่งยัน นอนยัน ยืนยัน  ว่าเป็นน้ำจืด   ก็เลยเอามาให้ผู้รู้ช่วยชี้แนะดีกว่า  เห็นมันไม่แพงด้วย ตัวละ20  เพื่อแลกกะความรู้เพิ่มขึ้น
electron approve [ 29 ก.ค. 2550 23:08:00 ]
ความคิดเห็นที่: 5
แมงดาทะเลสามารถทนความเค็มต่ำมากได้ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นครับ สำหรับชนิดนั้นไม่กล้าฟันธง เนื่องจากห่างมานานเลยไม่สามารถระบุชนิดจากภาพที่เห็นนี้  แต่ภ้าได้ภาพหางชัดๆ จะฟันธงได้เลย
knotsnake approve [ 29 ก.ค. 2550 23:18:29 ]
ความคิดเห็นที่: 6
เอาไว้เลี้ยงหรือคะ  -*- !
แล้วงี้ ถ้าเข้าใจผิดคิดว่ามันอยู่น้ำจืดมันมิตายหรือค่ะ
Trichoptera approve [ 29 ก.ค. 2550 23:23:17 ]
ความคิดเห็นที่: 7
ที่เขาขายที่ซันเดย์ก็คงมีคนหลงเชื่อเอาไปเลี้ยงอยู่บ่อยๆ นั่นแหละครับ เคยมีคนถามในเว็บบอร์ดอยู่บ้างเหมือนกัน

นอจากแมงดาทะเล ก็มีปูก้ามดาบ แล้วก็ปูแสมด้วย ที่เขาว่า เลี้ยงให้มันกินขี้ปลาในน้ำจืดน่ะ พวกนี้อยู่นานๆ  ไปจะสูญเสียเกลือแร่ตายเอา แถมปูพวกนี้ในธรรมชาติไม่ได้หากินใต้น้ำอีก ถึงแม้ว่าปูแสมบางชนิดจะทนทานมีความสามารถในการปรับตัวอยู่ในน้ำความเค็มต่ำๆ ได้  แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะลอกคราบในสภาพน้ำจืดได้หรือไม่
...แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 2550 23:32:25
นกกินเปี้ยว approve [ 29 ก.ค. 2550 23:31:28 ]
ความคิดเห็นที่: 8
^
^
เข้ามานอนยันอีกทีครับ  "เสริมหน่อย บ้างครั้งก็มีพวกปูเสฉวนมาขายด้วย"   ร้านใกล้ๆ  ทางออกอะดิ

(พวกนี้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ฉ.ห.)  ไม่อนุรักษ์ยังเอามาขาย แนะนำผิดๆ  อีก  ฮ้อยย...  -_-
aqueous_andaman approve [ 29 ก.ค. 2550 23:37:40 ]
ความคิดเห็นที่: 9
หากเราเอามาเลี้ยงแล้วปรับความเค็มสัก 10 ppt ก็พอจะเลี้ยงได้เรื่อยๆ แล้วล่ะ  แต่ต้องปรับความเค็มเพิ่มไปเรื่อยๆ จน ใกล้เคียง 30 ppt เพื่อความอยู่รอดระยะยาว
knotsnake approve [ 29 ก.ค. 2550 23:51:07 ]
OthersPics_reply_37601.jpg
ความคิดเห็นที่: 10
ถ่ายมาใหม่ครับ  เผื่อคุณ knotsnake จะระบุชนิดมันได้
electron approve [ 30 ก.ค. 2550 00:30:19 ]
OthersPics_reply_37602.jpg
ความคิดเห็นที่: 11
อีกรูป
electron approve [ 30 ก.ค. 2550 00:33:09 ]
ความคิดเห็นที่: 12
อ้าว..!!!   หางขาดซะแล้ว       (น่าจะเป็นแมงดาหางกลมครับ เมาๆ )
aqueous_andaman approve [ 30 ก.ค. 2550 00:42:19 ]
ความคิดเห็นที่: 13
หางไม่ได้ขาดครับ  ตอนจับถ่ายมันดิ้นครับ
electron approve [ 30 ก.ค. 2550 00:45:07 ]
ความคิดเห็นที่: 14
อ้อ..  ครับผม  
แมงดามีสองสายพันธุ์ " ถ้าจำไม่ผิด" ก็ที่บอกข้างต้นไป เหอๆ  ไม่ได้เรียนวิชาสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (สังเกตจากหาง)
-   ถ้าหางกลม ไม่มีสัน เป็นสายพันธุ์ที่รับทานไม่ได้ครับ (กลมเหมือนดินสอ)
-   ถ้าหางเป็นเหลี่ยม ลองจับดูจะเป็นเหลี่ยม (ไม่กลมเหมือนดินสอ)  เป็นพันธุ์ที่รับทานได้
 แต่เรื่องทานได้ หรือไม่ได้นั้นอยู่ที่ตัวบุคคล คนนั้นอีกหละครับ "บางท่านแพ้ จะเป็นจะตาย"

ปล. เรื่องสายพันธุ์รอพี่น็อตมาตอบดีกว่า อิๆ   (ผมรู้เบื้องต้นเท่านี้หละครับ) ความรู้เท่าหางอึ่ง
aqueous_andaman approve [ 30 ก.ค. 2550 00:53:39 ]
ความคิดเห็นที่: 15
เมื่อก่อนเคยทำงานวิจัยเกี่ยวกับแมงดาทะเล พบว่าทั่วโลกมีทั้งหมด 4 ชนิด อยู่ในน่านน้ำไทย 2 ชนิด คือแมงดาถ้วยหรือแมงดาไฟ Carcinoscorpius rotundicauda  และแมงดาจาน Tachypleus gigas
บางรายงาน (จำ paper ไม่ได้) ได้กล่าวถึงการเกิดพิษในแมงดาทะเลเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสรีรวิทยา ซึ่ง เป็นได้ทั้ง 2 ชนิด ที่ชาวบ้านเรียกว่า เห-รา ลักษณะโดยสรุป คือตัวจะเป็นขน ตาสีแดงๆ  (จำได้เท่านี้ครับ)

โอกาสที่จะเกิดเห-ราในแมงดาถ้วย (หางกลม ตัวเล็ก หนามยาว) มีมากกว่า แมงดาจาน (หางเหลี่ยม ตัวใหญ่ หนามสั้น) เราจึงเข้าใจกันว่าแมงดาจานกินได้ ส่วนแมงดาถ้วยนั้นกินไม่ได้ ซึ่ง ก็ไม่ถูกต้องเสียทั้งหมด
ดังนั้นผู้ที่นิยมบริโภคแมงดาทะเลจึงพึงระวังไม่ควรกินแมงดาจานที่มีรูปร่างลักษณะประหลาดแตกต่างจากที่เคยเห็น เพราะอาจเป็น เห-รา ก็ได้ แม้ว่าโอกาสที่เกิดจะน้อยนิดก็ตาม

ส่วนแมงดาถ้วยนั้นที่จริงแล้วก็กินได้  ถ้าไม่เป็น เห-รา  แต่ผมคิดว่าอย่าไปกินมันเลยเป็นการดีที่สุด

สุดท้าย..ควรหลีกเลี่ยงบริโภคส่วนที่เป็นทางเดินอาหารของแมงดาทะเล (ถึงจะเป็นแมงดาจานก็ตามที) เพราะเป็นส่วนที่สะสมพิษมากที่สุด  และควรงดกินแมงดาทะเลในช่วง กพ.-มิย. เพราะเป็นช่วงที่มีรายงานการเกิดพิษมากขอรับ จ้าวนาย..
...แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 2550 03:16:33
kasoop approve [ 30 ก.ค. 2550 01:51:03 ]
ความคิดเห็นที่: 16
ร้านลุงในตำนานนั่นเอง
Revenge approve [ 30 ก.ค. 2550 02:55:33 ]
ความคิดเห็นที่: 17
จำได้ และลุงคนไหน  

แล้วตกลงมันเลี้ยงในน้ำจืดได้ปะครับ หรือว่าไม่ได้
ice approve [ 30 ก.ค. 2550 10:34:41 ]
ice_quick@hotmail.com
ความคิดเห็นที่: 18
เชิญท่านผู้มีอุปการะคุณ เลือกชม และซื้อสินค้าในเครือลุงในตำนานได้ตามอัธยาศัย

    1ปูก้ามดาบน้ำจืด
    2ปลาตีนน้ำจืด
    3 ปูลมน้ำจืด
    4 ปูเสฉวนน้ำจืด
    5 กุ้งดีดขันน้ำจืด
    6ปลาบู่มหามงคลสะท้านไตรภพ
    7 แมงดาทะเลน้ำจืดตัวผู้(ที่ชาวประมงเขาไม่เอากัน)
   
พิเศษ Coming soon
     ปลาหมึกกล้วยน้ำจืด ปลาทูน้ำจืด  และของทะเลน้ำจืดอีกมากมาย เร็วๆ นี้ ที่ เจเจ.
เคยอุดหนุนมาแระ [ 30 ก.ค. 2550 14:35:55 ]
ความคิดเห็นที่: 19
คำถามของคุณ ice ผมตอบตั้ง แต่ คห.5  และ 9 แล้วครับ นอกจากนี้ยังมายืนยันข้อมูลคุณ kasoop  และฟันธงชนิดเป็นแมงดาถ้วย  Carcinoscorpius rotundicauda ครับ แล้วก็เสริมข้อมูลอีกสักนิด

พิษของแมงดาถ้วยเกิดจากการสะสมพิษจากอาหารที่มันกินเข้าไป  แต่ไม่แน่ใจว่ามีการดัดแปลงเพิ่มเติมด้วยหรือไม่ ลักษณะของพิษเลยเป็นเอกลักษณ์  ถ้าจำไม่ผิดเขาเรียกว่า Carcinotoxin (ผู้รู้ช่วยตรวจสอบด้วยครับ)  และสามารถสะสมได้ตลอดชีวิต ไม่สามารถทำลายได้ด้วยวิธีการใดๆ ที่มนุษย์มีความรู้ในปัจจุบัน  ส่วนในแมงดาจาน Tachypleus gigas นั้น ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันสะสมพิษได้นานแค่ไหน  แต่จะมีปัญหาในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล แล้วพิษของมันเป็นพิษชนิดเดียวกันหรือไม่ ต้องรบกวนช่วยชี้แนะด้วย
knotsnake approve [ 30 ก.ค. 2550 15:08:33 ]
ความคิดเห็นที่: 20
ชื่อพิษจะถูกตั้งตามชื่อสกุลของแมงดาถ้วยเจ้าของพิษเลยครับ
เช่นเดียวกับพิษของปลาปักเป้า (อยู่ในวงศ์ Tetrodontidae  ---> Tetrodotoxin)
...แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 2550 17:31:12
kasoop approve [ 30 ก.ค. 2550 17:27:37 ]
ความคิดเห็นที่: 21
ร้านลุงขี้โม้แน่เลย
keng_exotic approve [ 30 ก.ค. 2550 17:41:01 ]
ความคิดเห็นที่: 22
ผมเรียกร้าน "ลุงทะเลจืด" บางทีเอาปลาทองใส่ลงไปด้วยนะ ประมาณว่าจืดชัวร์!!!!  บางครั้งบอกเป็นแมงดาตะนาวศรีก็มี ......  พอมีการโวยวายในเว็บใหญ่ๆ ก็เงียบเลิกขายไปพักหนึ่งสักพักก็มาใหม่
นณณ์ approve [ 30 ก.ค. 2550 23:25:48 ]
ความคิดเห็นที่: 23
จิงๆ น่าเอามาเลี้ยงตู้ทะเลแล้วลองเพาะดูอ่ะครับ เคยดูสารคดีในต่างประเทศเขาเพาะแมงดาจานเป็นธุรกิจใหญ่โตเพราะราคามันสูง และในธรรมชาติมีไม่พอกับความต้องการของมนุษย์
Alakazum approve [ 31 ก.ค. 2550 02:25:24 ]
ความคิดเห็นที่: 24
อืม.... เรื่องปักเป้านี่เท่าที่กระผมพอทราบ ชื่อระดับวงศ์นี่เขาตั้งตามจำนวนฟันในปากหรือป่าวอ่ะครับ เช่น  
      Tetraodontidae น่าจะมาจาก tetra = 4 + odontos =ฟัน แปลว่า ผู้มีฟัน 4 ซี่
      Triodontidae น่าจะมาจาก tri = 3 + odontos =ฟัน  แปลว่า ผู้มีฟัน 3 ซี่  และ
      Diodontidae น่าจะมาจาก Di = 2 + odontos =ฟัน  แปลว่า ผู้มีฟัน 2 ซี่
มิทราบว่าใช่หรือไม่อย่างไร  แต่กระผมว่ามิน่าจะมาจากพิษของมันอ่ะขอรับ จริงเท็จอย่างไร คงต้องรบกวนเซียนปลามาช่วยชี้แจงแถลงไขด้วยขอรับ จักเป็นพระคุณยิ่ง

  ส่วนแมงดาทะเลที่เอามาให้ดูนั้น ไอ้กระผมก็คิดว่า เป็นแมงดาหางกลม (Carcinoscorpius rotundicauda) อย่างที่ท่านอื่นๆ  บอกแหละขอรับ เจ้าแมงดาชนิดนี้ชาวบ้านเรียก เหรา อ่านว่า เห-รา ห้ามอ่านว่า เหรา ต้องอ่านแยกกัน ที่มีชื่อเยี่ยงด้วย ด้วยว่า เจ้า เหรา นั้นเป็นสัตว์หิมพานต์ชนิดหนึ่ง เกิดการการผสมกันระหว่างพ่อซึ่ง เป็นมังกร กะแม่ที่เป็นพญานาค  แต่เรื่องว่าจะมาเจอกันได้เยี่ยงไรนั้น เกล้ากระผมมิอาจทราบได้จริงๆ  ขอรับ ด้วยความที่เป็นสายนาค จึ่งมีเตโชธาตุ (ธาตุไฟ) ในตัว ซึ่ง ก็สอดคล้องกับพิษของมันที่คนกินเข้าไป หมายถึงแมงดาหางกลม  มิใช่กินตัวเหราในป่าหิมพานต์ขอรับ ก็จะมีอาการคล้ายๆ  กับโดนไฟ (สุมทรวงหรือไม่ อันนี้ไม่รู้) เข้า ก็เลยเรียกไอ้เจ้าแมงดาหางกลมว่า แมงดาไฟ หรือ เหรา ขอรับ

  อ้อ ลืมบอกไป เจ้าตัวที่เห็นในภาพนี่น่าจะตัวเมียขอรับ (เท่าที่จะพอมองออก) เพราะว่า  ถ้าเป็นแมงดาตัวผู้ขาเดินมันจะอ้วน พองออกคล้ายๆ  กับกล้ามของผู้ชาย  แต่ ถ้าตัวเมีย ขาเดินจะเรียวเล็กเท่ากันหมดขอรับ  และดูเหมือนในภาพจักเป็นเยี่ยงนั้น
หอยทากชรา approve [ 31 ก.ค. 2550 07:54:16 ]
ความคิดเห็นที่: 25
เรียนลุงหอยทากครับ..
ชื่อวงศ์ของปลาปักเป้านั้น ผมคิดว่าคงเป็นเพราะการได้ใช้ลักษณะฟันอันเป็นเอกลักษณ์มาใช้แสดงความเป็นตัวตนของมันเป็นขั้นต้น ส่วนการเรียกชื่อพิษที่พบในตัวของมัน ก็คงเอาชื่อของมันมาใช้เรียกเป็นลำดับต่อมาครับ

                     ลักษณะฟัน-->เอามาตั้งชื่อกลุ่มปลา-->เอาชื่อกลุ่มปลามาตั้งชื่อพิษ

ส่วนชื่อ และการจัดกลุ่มอันควรของชื่อปลา และพิษนั้น ก็คงเป็น "คน" นี่ล่ะครับ ที่เป็นผู้กำหนด+เรียก ส่วนตัวปลานั้นไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย ได้ แต่หากินเลี้ยงตัวไปตามประสาปลา
kasoop approve [ 31 ก.ค. 2550 09:22:12 ]
ความคิดเห็นที่: 26
ขอบคุณ คุณ kasoop ที่มาให้ความรู้เพิ่มเติมขอรับ
หอยทากชรา approve [ 31 ก.ค. 2550 12:19:24 ]
ความคิดเห็นที่: 27
กลับบ้านไปสองวัน มีเรื่องน่าสนใจเพิ่มขึ้นเยอะเลย
สัตว์มีพิษในทะเลหลายชนิด หาได้มีต่อมพิษไม่  แต่สะสมเอาจากอาหารที่มันกินไปนั่นแหละ พอดีสมัยเรียนเคยทำรายงานเรื่องพิษจากแพลงก์ตอนพืช จึ่งได้เอามาเล่าสู่กันฟัง เผื่อจักไปลองหามากินแลสะสมพิษกันเล่นๆ  ดูนะเจ้าคะ วันนี้เอาแค่เรื่องพิษอัมพาตก่อน

Brevetoxin : Mode of action Na+ chanel activator
ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีอย่างน้อย 9 ชนิดที่สร้างจาก Gymnodinium breve ทำให้เกิดการเพิ่มของ Na+  และลดปริมาณสารสื่อประสาท acetylcholine ในปลา และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมักจะตายเนื่องจากระบบหายใจล้มเหลว พิษชนิดนี้ไม่เสียสภาพเพราะความร้อนหรือความเย็น ละลายได้ดีในไขมัน  และสามารถทำลายเนื้อเยื่อไขมันของ synaptostome
...แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 2550 21:25:39
ampelisciphotis approve [ 31 ก.ค. 2550 20:52:47 ]
ความคิดเห็นที่: 28
Ciguatoxin : Mode of action Na+ chanel activator
สร้างจาก dinoflagellates Gambierdiscus toxicus, Ostreopsis siamensis และ Prorocentrum lima มีความแรงกว่า brevetoxin ประมาณร้อยเท่า ละลายได้ดีในไขมัน ทำให้เกิด repetitive synaptic stimulation
ampelisciphotis approve [ 31 ก.ค. 2550 20:53:42 ]
ความคิดเห็นที่: 29
Saxitoxin: Mode of action  Na+ chanel blocker
เป็นพิษพวกพิษอัมพาต ซึ่ง พิษในกลุ่มนี้รวมถึง neosaxitoxin  และ gonyautoxin มักพบใน dinoflagellates สกุล Alexandrium, Gonyaulax, Protogonyaulax, Pyrodinium  และ Gymnodinium พิษชนิดนี้ไม่เสียสภาพเพราะความร้อนหรือความเย็น ละลายได้ในน้ำ ส่งผลในการ block Na+ chanel ทำให้ระงับการส่งกระแสประสาท ทำให้สิ้นสติ กล้ามเนื้อเรียบหยุดการทำงาน และทำให้เป็นอัมพาต ในคนมักพบการเกิดระบบหายใจล้มเหลว
พิษอันนี้เจอในปลาปักเป้า ด้วยนะเจ้าคะ ขอบอก มิได้เจอ แต่ Tetrodotoxin อย่างเดียว แลทั้งสองพิษก็อยู่ในหมู่พิษอัมพาต (psp: paralytic shellfish poisoning)
จากการศึกษาโดยขรัวตา David Berkowitz จากองค์การอาหารแลยาจากสหปาลีรัฐอเมริกา ตะแกบอกว่า ต้นตอของพิษในปลาปักเป้านั้นมาจากแบคทีเรีย ด้วยว่าปลาปักเป้าในระบบเลี้ยงหาได้สร้างพิษไม่ แบคทีเรียที่สร้างพิษได้ อันอยู่ในวงศ์  Vibrionaceaeไม่ว่าจักเป็น Pseudomonas sp.แล Photobacterium phosphoreum เปนต้น

ส่วนในสัตว์ประเภทอื่นที่มีพิษชนิดนี้ Tetrodotoxin อันมีแมงดา ปลานกแก้ว ปลาหมึกสายวงฟ้า ปูใบ้ หนอนตัวแบน หอยทาก เพรียงหัวหอม เปนอาทิ แลสัตว์บกก็มีกับเขาเหมือนกันคือกบ Harlequin frogs (Atelopus spp.), Costa Rican frog (Atelopus chiriquiensis) ตัวกระท่าง(หรือเปล่าคะพี่น็อต) California newt Taricha spp. แลซาลาแมนเดอร์ลางชนิด เวลาไปจับกบเก็บกิ้งก่าก็อย่าไปเลียมันเข้าล่ะเจ้าค่ะ
...แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 2550 21:42:12
ampelisciphotis approve [ 31 ก.ค. 2550 20:55:27 ]
ความคิดเห็นที่: 30
จะจบแล้วเจ้าค่ะ อย่าเพ่อเบื่อนะเจ้าคะ ว่า แต่พี่ท่านลุงหอย เคยคิดอ่านจักทำเมนูเย็นตาโฟกู้ชาติ ลองเอามาขยับขยายกันมั่งสิเจ้าคะ จักได้ไปลองทำให้ครึกครื้น หุหุ
Pfiesteria toxin: Mode of action Neurotoxicity
สร้างจาก dinoflagellate Pfiesteria piscicida ที่ทำให้ปลาตาย และทำให้เกิดอาการทางระบบประสาทในคน กระบวนการออกฤทธิ์ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด  แต่ทำให้ระบบประสาทไม่ทำงาน, ตับหลั่งเอนไซม์ออกมามาก, หลั่งฟอสฟอรัส และยับยั้งระบบภูมิคุ้มกัน แต่พิษชนิดนี้ส่งผลเพียงเล็กน้อยต่อ copepod Acartia tonsa หรือ rotifer Brachionus plicatilis
อันเจ้า Pfiesteria เนี่ยเป็นแพลงก์ตอนพืชที่มีรูปร่างระหว่างการเจริญเติบโตถึง 12 แบบ จนทำให้นักวิทยาศาสตร์ยุคก่อนงุนงงสงสัยเปนเวลานาน ไว้อิฉันจักเอามาเล่าในวารอันสมควรเจ้าค่ะ

รายละเอียดเรื่องพิษจาก
Toxic marine phytoplankton, zooplankton grazers and pelagic food web
Jeffeson T. Turner and Patricia  A. Tester   Limnol. Oceanogr. 1997: 1203-1214
http://www.chm.bris.ac.uk/motm/ttx/ttx.htm
ampelisciphotis approve [ 31 ก.ค. 2550 21:32:19 ]
ความคิดเห็นที่: 31
ครับ   ขอโทษทีครับผมไม่อ่านให้ซะก่อน T-T  อิอิอิ
ice [ 01 ส.ค. 2550 16:37:30 ]
ice_quick@hotmail.com
ความคิดเห็นที่: 32
น่าจับลุงไปถ่วงน้ำ สาธุ
conti approve [ 02 ส.ค. 2550 15:04:55 ]
ความคิดเห็นที่: 33
โหดร้ายยยยย อิอิอิ  ที่ไหนละครับจะได้ไปช่วยจับด้วย
ice approve [ 02 ส.ค. 2550 15:31:06 ]
ice_quick@hotmail.com
ความคิดเห็นที่: 34
เดี๋ยวไปจับเอง จริงๆ มันมีหลายร้านแหละ ลองสังเกตุปลาชายเลนเขตประจวบสิครับไม่ก็ใกล้ๆ กรุงเทพ ปูก้ามดาบสุดสวยหายไปไหนหมด ใครช่วงชี้แจงทีครับ อ่อไปอยู่ในกระบะใส่น้ำจืดในเจเจนี้เอง อุหว่ะ มีรอบนึง กระผมก็ไม่ได้สังเกตุอะไรมากมายหรอกนะครับ ก็ไปเห็นเจอปลาเท้า(ปลาตีนนนน) อยู่ในตู้น้ำจืดสนิทสูงขนาด10นิ้ว เนื่องจากปลาตีนเป็นปลาที่มีนิสัยอยู่พ้นน้ำโดยที่ผมไม่ทราบว่าเนื่องจากสาเหตุใดเพราะไม่เคยศึกษา เจ้าปลาตีนหลายตัวในตู้จึงเอาหน้าเผยอ ออกมาพ้นน้ำเพื่อจะให้ตัวพ้นน้ำเป็นบางส่วน ผมหล่ะเเหม่ทรมารสัตว์จริงๆ  


ส่วนกระทู้นี้สาวโพสอะไรหน้าสนใจไปหมดเลยครับ ส่วนลุงๆ โพสอ่านไม่คล่องตาเลยครับ คิคิ (พิมพ์ผิดเยอะก็ขอโทษด้วยเป็นโรคพิมพ์ผิดมา แต่เกิด เฮ้ย!!!)
...แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 2550 00:29:27
ฉลามเสือ approve [ 06 ส.ค. 2550 00:29:04 ]
ความคิดเห็นที่: 35
เพื่อนผมไปลองถามตาลุงแก่มาแล้ว เค้าบอกว่าเป็นแมงดาน้ำจึด เพื่อนผมเลยขอลองชิมน้ำในกะลามังแก บอกแกว่า ถ้าจึดจิงจะซื้อหมดกะลามังเลย  สรุปว่า เค็มหง่ะ ตาลุงไม่คุยด้วยเลย เหอๆๆๆ
POP [ 17 ส.ค. 2550 00:17:41 ]
ความคิดเห็นที่: 36
กรั่กๆ  ดัดหลังคนแก่
นกกินเปี้ยว approve [ 17 ส.ค. 2550 17:02:33 ]
ความคิดเห็นที่: 37
เจ๋งมาก น้อง POP นับถือๆ
ampelisciphotis approve [ 18 ส.ค. 2550 00:07:06 ]
ความคิดเห็นที่: 38
บางครามีปลาทองอยู่ด้วย ก็จะบอกว่าปลาทองเป็นปลาที่ทนเค็มจนน่าทึ่งชนิดหนึ่ง
knotsnake approve [ 18 ส.ค. 2550 02:24:03 ]

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org