กระทู้-08111 : เอาอะไรมาให้ทายเล่น ภาคสอง

Home » Board » อื่นๆ

เอาอะไรมาให้ทายเล่น ภาคสอง

ด้วยว่าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ กระผมเลยเอาอะไรมาให้ท่านๆ  ทั้งหลายได้ทายเล่นกันอีกสักอย่างขอรับ ลองดูนะขอรับว่าเป็นอะไร ไว้วันจันทร์กระผมจะมาเฉลยขอรับ ใบ้ให้นิดนึงขอรับ ว่าเป็น "สสาร"
หอยทากชรา approve [ 04 ส.ค. 2550 17:32:00 ]
ความคิดเห็นที่: 1
ตัวอารายอีกล่ะที่นี้ อาจารย์ หนักก่าหอยกล้วยหอมอีก จิ้งเหลนเฒ่าเหงแล้วเครียด หุหุ
oldskink approve [ 04 ส.ค. 2550 18:53:47 ]
ความคิดเห็นที่: 2
จากประสบการณ์ เราเคยเห็นแว้ว แถมจากคำใบ้พี่ท่าน เรารู้แน่มิมีผิดเพี้ยน ด้วยเราเล็งจักเล่าเรื่องนี้ในอีกมิกี่เพลา  แต่ท่านเล่าไปเสียก่อนก็ดีแล้ว มันคือก้อนนิ่วของกุ้งเต้น




















ซะที่ไหนกันเล่า
หุหุ เรารู้แล้วล่ะว่าสสารก้อนนี้คืออะไร เราใบ้ให้ไหม .... แบ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ
ampelisciphotis approve [ 04 ส.ค. 2550 19:01:00 ]
ความคิดเห็นที่: 3
ใกล้เคียงแล้ว ampelisciphotis น้องท่าน พยายามอีกสักนิด หึ หึ
หอยทากชรา approve [ 04 ส.ค. 2550 19:05:26 ]
ความคิดเห็นที่: 4
"สสาร" หรือ "มวลสาร" ขอชัดๆ  อีกทีครับ อิอิ
คนนั้น approve [ 04 ส.ค. 2550 19:51:24 ]
ความคิดเห็นที่: 5
อ่อ สิ่งนี้อยากมีไว้ที่บ้านสักอัน สักวันจะหาให้ได้ใหญ่กว่านี้
coneman approve [ 04 ส.ค. 2550 23:45:26 ]
ความคิดเห็นที่: 6
มวลสาร เอ๊ย สสาร ขอรับ ขืนเป็นมวลสาร เดี๋ยวก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งศักสิทธิ์เสียนี่ ใบ้เพิ่มให้อีกหน่อยขอรับ เป็นของทะเลขอรับ
หอยทากชรา approve [ 05 ส.ค. 2550 08:20:52 ]
ความคิดเห็นที่: 7
ไข่มุก........บักเอบ......แม่น..บ่....เดาเอา
konong approve [ 05 ส.ค. 2550 13:24:43 ]
ความคิดเห็นที่: 8
.....................น่าจะเป็น ไข่ที่รู้แล้วขำแน่เลย..................
โง่เขลาเบาปัญญา approve [ 05 ส.ค. 2550 13:58:39 ]
ความคิดเห็นที่: 9
ช่ายครับเคยออกในรายการแฟนพันธุ์แท้

มุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากหอยมือเสือ (Family Tridacnidae)

มีตำนานเชื่อมโยงทั้ง ตะวันออกลาง  และตะวันออกไกล ทั้งที่ค้นพบในอุษาเคนย์
Pearl of Lao Tze or Pearl of Allah

http://en.wikipedia.org/wiki/Pearl_of_Lao_Tzu
หนานโตน approve [ 05 ส.ค. 2550 20:38:12 ]
OthersPics_reply_38608.jpg
ความคิดเห็นที่: 10
เอาล่ะขอรับ ก็ทายกันถูกแล้วล่ะขอรับ  ถ้าเยี่ยงนั้นกระก็ใคร่ขอเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อยสำหรับเจ้าไข่มุกเม็ดนี้นะขอรับ

   ไข่มุก (Pearls)
    โดยนัยแห่งความหมายที่ไขขานไว้ แต่ปางบรรพ์ ไข่มุก หรือ PEARL ,มีที่มาจากภาษาละติน คือคำว่า  PILULA ที่แปลว่าลูกบอล  ตั้ง แต่โบราณกาล คนรู้จักไข่มุกในชื่อของ มาร์กาไรต์ (MARGARTITE) ซึ่ง มาจากภาษากรีกว่า MARGARTITAFERA มีความหมาย เน้นเด่นชัด คือ หอยที่มีมุกฝังอยู่  
    ไข่มุกนี้นอกจากจะนิยมทำเป็นเครื่องประดับของผู้หญิง เช่น สร้อยคอ ทำหัวแหวน ต่างหู เครื่องประดับเสื้อ สร้อยข้อมือ  และอื่นๆ  อีกมากมายขอรับ   แต่สำหรับผู้ชายแล้ว กระผมเองก็ยังนึกไม่ออกว่ามันจักเอามาทำเครื่องประดับใดได้บ้าง เท่าที่นึกออกก็ แต่เพียงเข็มกลัดเน็คไท นอกจากจะใช้เป็นเครื่องประดับกายแล้ว คนที่มีสตางค์มากๆ  หรือมหาเศรษฐี เข้าทำนองพระยาโชฎึก อันนี้เป็นตำแหน่งของมหาเศรษฐีสมัยก่อนขอรับ มิใช่หมายความว่าชอบโชว์อะไรตอนดึกๆ  แล้วได้เป็นพระยา ซึ่ง  ถ้าไม่รวย อภิมหารวยจริงไม่มีทางได้ตำแหน่งนี้ ก็ยังเอาไข่มุก ไปทำตุ๊กตา ตุ๊กตุ่น หรือ เครื่องใช้ ก็มี อย่างเช่น ตุ๊กตาไข่มุกซึ่ง กษัตริย์อินเดียพระองค์หนึ่งได้พระราชทานให้แก่สุลต่านอับดุลอาซิลในคราวฉลองการเข้าสุหนัดของพระโอรสเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19 ตุ๊กตาตัวนี้ทำด้วยไข่มุกขนาดใหญ่เม็ดเดียว กางเกงทำด้วยกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงิน ผ้าโพกศีรษะประดับด้วยเพชร และทับทิม ตุ๊กตาตัวนี้นั่งอยู่ในปราสาททองสูง 7 นิ้ว นอกจากนั้นพระองค์ยังได้รับตุ๊กตาไข่มุกอีกตัวหนึ่งเป็นรูปเด็กรับใช้สูง 3 นิ้วฟุต เฉพาะตัวกางเกงของตุ๊กตาเป็นไข่มุกซึ่ง มีลักษณะพิเศษแยกเป็นสองง่าม นอกนั้นประดับด้วยเพชรพลอยอย่างงดงาม ว่ากันว่าตุ๊กตาตัวที่นั่งอยู่ในปราสาทนั้นเป็นตุ๊กตาไข่มุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะนี้เก็บรักษาไว้ที่ Topkapi Sarayi Museum ในกรุงอิสตันบลู
    สำหรับไข่มุกที่ทำเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้น เห็นจะได้แก่ไข่มุกที่มีชื่อว่า "ไข่มุกแห่งเอเชีย หรือ Pearl of Asia" ซึ่ง ทำเป็นช่อผลไม้สำหรับประดับเสื้อของสตรี ไข่มุกเม็ดนี้เป็นไข่มุกธรรมชาติรูปหยดน้ำยาว 3 นิ้ว โดยประมาณ กว้าง 2 นิ้ว โดยประมาณ พบโดยประดาน้ำชาวเปอร์เซียเมื่อปี ค.ศ. 1628 ไข่มุกเม็ดนี้มีประวัติส่วนตัวที่พิลึกพิลั่นมิธรรมดา ด้วยว่ากันว่า จักรพรรดิราชวงศ์โมกุล ทรงพระนามว่า ชาว์ชะฮาน แห่งอินเดีย ได้ทรงซื้อไปจากนักประดาน้ำคนนั้น เพื่อเอาไปทำเครื่องประดับ  และพระราชทานแด่ มุมทัช ผู้เป็นพระมเหสีสุดที่รักของพระองค์ นอกจากนั้นพระองค์ยังได้ทรงสร้าง ทัชมาฮาล อันมีชื่อเสียงของโลกพระราชทานแด่พระมเหสีองค์นี้อีกด้วย ในศตวรรษต่อมา ไข่มุกเม็ดนี้ก็ได้ถูกขนานนามว่า "ไข่มุกแห่งเอเชีย"  และตกทอดไปอยู่ในบัญชีทรัพย์สินส่วนพระองค์ของจักรพรรดิจีนราชวงศ์แมนจู ผู้ทรงพระนามว่า เซียนลุง เมื่อจักรพรรดิพระองค์นี้เสด็จสวรรคต ในปี ค.ศ. 1799 ไข่มุกเม็ดนี้ถูกฝังไว้ในฮวงซุ้ยขององค์พระจักรพรรดิ เรื่องราวต่อมาเป็นเยี่ยงไรมิปรากฏ  แต่อีก18 ปี ต่อมา ไข่มุกเม็ดนี้ก็ตกไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืมเงินของสภาแคธอลิกแห่งฮ่องกง เมื่อสภาแคธอลิกไม่สามารถหาเงินมาใช้ได้ หลักประกันเม็ดนี้ก็หลุด  และถูกนำไปขายในกรุงปารีส เมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เล็กน้อยนี่เองขอรับ โดยมีผู้ที่ไม่ประสงค์จะออกตาม ด้วยจักเกรงว่าองค์พระจักรพรรดิจะมาทวงคืนหรืออย่างไรมิทราบได้ รับซื้อไปในราคาขณะนั้น 50,000 ดอลลาร์  
    ในศตวรรษที่ 18 มีสุภาพสตรีชาวอินเดียได้นำเอาไข่มุกมาร้อยเป็นพรมปูพื้นผืนหนึ่งกว้าง 6 ฟุต ยาว 10 ฟุต โดยใช้ไข่มุกธรรมชาติล้วนๆ  เป็นจำนวนหลายล้านเม็ด พรมผืนนี้ใช้ปูในห้อง แต่งตัวของสุภาพสตรีผู้มีชื่อเสียงนางหนึ่งของอินเดียในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 ปัจจุบัน พรมผืนนี้เก็บรักษาอยู่ในวัง Gaekwer ที่เมืองบาโรดาในอินเดีย แถมต้องจัดคนเฝ้าทั้งกลางวันกลางคืนเพราะว่ามันมีมูลค่ามหาศาลเหลือเกิน คงกลัวหายกระมัง อย่าได้ดูเบาเจียวขอรับ
หอยทากชรา approve [ 06 ส.ค. 2550 08:24:40 ]
ความคิดเห็นที่: 11
น่าจักเอามาใช้ทำตุ้มหูนาเจ้าคะ ฤาจักเอามาสลักแลปลุกเสกเป็นฉิ่งฉักดิ๋ฉิทธิ์ดี หึหึ (ยังพิมพ์มิพลาด)
ampelisciphotis approve [ 06 ส.ค. 2550 08:28:03 ]
OthersPics_reply_38610.jpg
ความคิดเห็นที่: 12
ในบรรดาไข่มุกที่ยังมิได้ตก แต่งนั้น  และเชื่อว่าเป็นไข่มุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ “Pearl of Allah” โดยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 9.45 นิ้ว หนัก 6.4 กก.หรือ 128,000 Pearl Grains มูลค่าล่าสุดเมื่อปี
ค.ศ.2006 ถูกตีราคาไว้ที่ 61,850,000 ดอลลาร์อเมริกัน
    สำหรับประวัติของไข่มุกเม็ดนี้นั้น ว่ากันว่าเป็นไข่มุกที่ได้จากท้องทะเลโดยประดาน้ำชาวมุสลิมในประเทศฟิลิปปินส์ที่ชายทะเลของเกาะปาลาวัน เมื่อปีค.ศ. 1934 โดยที่นักประดาน้ำคนพบนั้นได้ดำน้ำลงไป  แต่จะหาอะไรนั้นกระผมมิสามารถทราบได้ขอรับ  แต่นับว่าเป็นคราเคราะห์ของกระทาชายนายนั้นที่โดยหอยมือเสือ (Tridacna gigas) หนีบเขน (ตามประวัติเขาว่าไว้อย่างนั้น จริงเท็จเยี่ยงไร จุ่งไปถามเจ้าตัวเองเถิด)  ทำให้จมน้ำตาย เมื่อนำศพขึ้นมาบนฝั่ง ว่ากันว่า (อีกแล้ว) เจ้าหอยตัวนี้ยังหนีบติดแขนเจ้าของขึ้นมาด้วย ต่อมาก็มีหัวหน้าทางศาสนามุสลิม คงเข้าทำนอง ประมุขเกาะ หรือหัวหน้าเกาะกระมัง มาชันสูตรพลิกศพเพื่อเป็นพยานรู้เห็นในการตายตามธรรมเนียมศาสนา ซึ่ง การชันสูตรศพนี้ก็ต้องมีค่าธรรมเนียมเช่นเดียวกับค่าธรรมเนียมทั้งหลาย ท่านหัวหน้าก็เลยออกปากขอหอยตัวนั้นแทนค่าธรรมเนียม  ซึ่ง ญาติพี่น้องก็ยกให้โดยไม่ติดใจ เมื่อหัวหน้าท่านแกะหอยออกก็พบไข่มุกเม็ดขนาดยักษ์เม็ดหนึ่งอยู่ข้างใน   และก็ช่างบังเอิญหรืออะไรก็แล้ว แต่ ไข่มุกเม็ดนี้มีรูปร่างเหมือนหน้าคนที่โพกหัวซึ่ง ก็คล้ายๆ  ชาวอิสลามโดยทั่วไปที่โพกผ้า จึงได้ตั้งชื่อว่า “ไข่มุกของพระอัลลาห์ หรือ Pearl of Allah”  ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง  Mr. Wilbur Dowell Cobb ขอเรียกสั้นๆ  ว่า Cobb แล้วกันนะขอรับ กำลังทำการสำรวจโบราณวัตถุอยู่ในฟิลิปปินส์ เมื่อได้ยินข่าวนี้จึงรีบไปเจรจาติดต่อขอซื้อ ก็ได้รับการปฏิเสธทำนองว่า ไข่มุกเม็ดนี้แลกมากับชีวิตคนคนนึง อีกทั้งยังเป็นของที่ผู้คนนับถือคงจะขายมิได้ดอก มิว่าจักให้ราคาสักเท่าใดก็ตาม Mr. Cobb จึ่งได้หน้าหงายเงิบกลับมา อีก 2 ปีต่อมา Mr. Cobb ซึ่ง ก็ยังทำการสำรวจมิสำเร็จเสร็จสิ้นเสียที  อาจจะนับว่าเป็นคราวที่โชคดีจักมาเยือน Mr. Cobb กระมัง ที่เผอิญให้ตะแกก็ได้รับคำร้องขอจาหัวหน้ามุสลิมเจ้าของไข่มุก ให้ไปช่วยรักษาลูกชายของเขา ซึ่ง เป็นไข้มาลาเรีย อาการเพียบหนักมากแล้ว ด้วยว่าให้กินยาใดๆ  ก็ไม่ได้ผล  แต่ตะแกมียาที่เพิ่งค้นพบใหม่ๆ  สำหรับสู้กับโรคนี้ ยังผลให้ลูกชายหัวหน้าท่าน หายจากโรคร้าย มิต้องไปอยู่กับพระเจ้าก่อนวัยอันควร ทำเอาผู้เป็นพ่อรู้สึกสำนึกในบุญคุณครั้งนี้มาก อีก 1 เดือนต่อมา ตะแกก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมรับประทานอาหารที่บ้านของหัวหน้ามุสลิมนั้น  และหัวหน้าท่านก็ได้ออกปากยกไข่มุกเม็ดนี้ให้แก่เขาฟรีๆ  ในฐานะที่เป็นผู้ชุบชีวิตลูกขายแก ซึ่ง  Mr. Cobb ก็คงจะอิดออดพอเป็นพิธี  และสุดท้ายก็รับเอาไว้ (ด้วยความยินดียิ่ง)  และเมื่อกลับไปอเมริกา ก็จัดส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจดู ก็ได้รับการรับรองว่า เป็นไข่มุกแท้ มีอายุราว 350 ปี ส่วนหอยนั้นมีอายุราว 450 ปี (อันนี้ก็ว่ามาตามที่ “เขาว่ากันว่า” อีกทีนะขอรับ) จนถึงปี ค.ศ.1980 ทายาทของคอปป์ได้ขายไข่มุกเม็ดนี้แก่ร้านจิวเวอรี่ที่เบเวอร์รี่ฮิลล์ เป็นเงิน 200,000 ดอลลาร์ ในขณะที่มูลค่าล่าสุดเมื่อ ปี ค.ศ.2006 ถูกตีราคาไว้ที่ 61,850,000 ดอลลาร์อเมริกัน เองขอรับ ต่อมา ก็ได้มีชาวจีน ( ถ้าจำไม่ผิด) มาติดต่อขอดูไข่มุกเม็ดนี้ เมื่อได้เห็นไข่มุกถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปิติออกมา บอกว่า เป็นไข่มุกในตำนานของตระกูลตนแน่แท้เจียว โดยพวกเขาอ้างว่า เป็นทายาทสืบเชื้อสายมาจากเล่าจื๊อ  และมีเรื่องเล่ากล่าวขานมาในอดีตว่า เล่าจื๊อเคยมาที่ริมฝั่งทะเล และโยนไข่มุกลงไปในทะเล พร้อมทั้งพยากรณ์เอาไว้ว่า สักวันหนึ่งจักต้องมีผู้พบไข่มุกเม็ดนี้  และพวกเขาก็ยังบอกอีกว่า รูปหน้าบนไข่มุกนั้น ช่างเหมือนท่านเล่าจื๊อเสียนี่กระไร ไข่มุกเม็ดนี้จึงได้รับชื่อใหม่อีกชื่อหนึ่งก็คือ "ไข่มุกของเล่าจื๊อ หรือ Pearl of Lao-Tzu”  ขอรับ

 เอารูปท่านเล่าจื๊อกะไข่มุกมาเทียบกัน ก็พินิจกันดูเองเถิดขอรับว่า เหมือนหรือไม่อย่างไร

  ถ้าท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมก็มาร่วมเสริมเติม แต่งให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นกันนะขอรับ
หอยทากชรา approve [ 06 ส.ค. 2550 08:35:38 ]
ความคิดเห็นที่: 13
......จำได้ว่าเคยเป็นคำถามในรายการเเฟนพันธ์เเท้ด้วยครับ........ขอโทษครับขออเเก้หน่อยครับผมพิมพ์..เเฟนพันธุ์เเท้...ผิดครับ
วิโรจน์ approve [ 06 ส.ค. 2550 11:20:24 ]
ความคิดเห็นที่: 14
ประวัติไข่มุก
pae [ 16 ก.ย. 2550 09:42:00 ]
etime-pae@hotmail.com

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org