ความคิดเห็นที่: 12
ในบรรดาไข่มุกที่ยังมิได้ตก แต่งนั้น และเชื่อว่าเป็นไข่มุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ Pearl of Allah โดยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 9.45 นิ้ว หนัก 6.4 กก.หรือ 128,000 Pearl Grains มูลค่าล่าสุดเมื่อปี
ค.ศ.2006 ถูกตีราคาไว้ที่ 61,850,000 ดอลลาร์อเมริกัน
สำหรับประวัติของไข่มุกเม็ดนี้นั้น ว่ากันว่าเป็นไข่มุกที่ได้จากท้องทะเลโดยประดาน้ำชาวมุสลิมในประเทศฟิลิปปินส์ที่ชายทะเลของเกาะปาลาวัน เมื่อปีค.ศ. 1934 โดยที่นักประดาน้ำคนพบนั้นได้ดำน้ำลงไป แต่จะหาอะไรนั้นกระผมมิสามารถทราบได้ขอรับ แต่นับว่าเป็นคราเคราะห์ของกระทาชายนายนั้นที่โดยหอยมือเสือ (Tridacna gigas) หนีบเขน (ตามประวัติเขาว่าไว้อย่างนั้น จริงเท็จเยี่ยงไร จุ่งไปถามเจ้าตัวเองเถิด) ทำให้จมน้ำตาย เมื่อนำศพขึ้นมาบนฝั่ง ว่ากันว่า (อีกแล้ว) เจ้าหอยตัวนี้ยังหนีบติดแขนเจ้าของขึ้นมาด้วย ต่อมาก็มีหัวหน้าทางศาสนามุสลิม คงเข้าทำนอง ประมุขเกาะ หรือหัวหน้าเกาะกระมัง มาชันสูตรพลิกศพเพื่อเป็นพยานรู้เห็นในการตายตามธรรมเนียมศาสนา ซึ่ง การชันสูตรศพนี้ก็ต้องมีค่าธรรมเนียมเช่นเดียวกับค่าธรรมเนียมทั้งหลาย ท่านหัวหน้าก็เลยออกปากขอหอยตัวนั้นแทนค่าธรรมเนียม ซึ่ง ญาติพี่น้องก็ยกให้โดยไม่ติดใจ เมื่อหัวหน้าท่านแกะหอยออกก็พบไข่มุกเม็ดขนาดยักษ์เม็ดหนึ่งอยู่ข้างใน และก็ช่างบังเอิญหรืออะไรก็แล้ว แต่ ไข่มุกเม็ดนี้มีรูปร่างเหมือนหน้าคนที่โพกหัวซึ่ง ก็คล้ายๆ ชาวอิสลามโดยทั่วไปที่โพกผ้า จึงได้ตั้งชื่อว่า ไข่มุกของพระอัลลาห์ หรือ Pearl of Allah ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง Mr. Wilbur Dowell Cobb ขอเรียกสั้นๆ ว่า Cobb แล้วกันนะขอรับ กำลังทำการสำรวจโบราณวัตถุอยู่ในฟิลิปปินส์ เมื่อได้ยินข่าวนี้จึงรีบไปเจรจาติดต่อขอซื้อ ก็ได้รับการปฏิเสธทำนองว่า ไข่มุกเม็ดนี้แลกมากับชีวิตคนคนนึง อีกทั้งยังเป็นของที่ผู้คนนับถือคงจะขายมิได้ดอก มิว่าจักให้ราคาสักเท่าใดก็ตาม Mr. Cobb จึ่งได้หน้าหงายเงิบกลับมา อีก 2 ปีต่อมา Mr. Cobb ซึ่ง ก็ยังทำการสำรวจมิสำเร็จเสร็จสิ้นเสียที อาจจะนับว่าเป็นคราวที่โชคดีจักมาเยือน Mr. Cobb กระมัง ที่เผอิญให้ตะแกก็ได้รับคำร้องขอจาหัวหน้ามุสลิมเจ้าของไข่มุก ให้ไปช่วยรักษาลูกชายของเขา ซึ่ง เป็นไข้มาลาเรีย อาการเพียบหนักมากแล้ว ด้วยว่าให้กินยาใดๆ ก็ไม่ได้ผล แต่ตะแกมียาที่เพิ่งค้นพบใหม่ๆ สำหรับสู้กับโรคนี้ ยังผลให้ลูกชายหัวหน้าท่าน หายจากโรคร้าย มิต้องไปอยู่กับพระเจ้าก่อนวัยอันควร ทำเอาผู้เป็นพ่อรู้สึกสำนึกในบุญคุณครั้งนี้มาก อีก 1 เดือนต่อมา ตะแกก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมรับประทานอาหารที่บ้านของหัวหน้ามุสลิมนั้น และหัวหน้าท่านก็ได้ออกปากยกไข่มุกเม็ดนี้ให้แก่เขาฟรีๆ ในฐานะที่เป็นผู้ชุบชีวิตลูกขายแก ซึ่ง Mr. Cobb ก็คงจะอิดออดพอเป็นพิธี และสุดท้ายก็รับเอาไว้ (ด้วยความยินดียิ่ง) และเมื่อกลับไปอเมริกา ก็จัดส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจดู ก็ได้รับการรับรองว่า เป็นไข่มุกแท้ มีอายุราว 350 ปี ส่วนหอยนั้นมีอายุราว 450 ปี (อันนี้ก็ว่ามาตามที่ เขาว่ากันว่า อีกทีนะขอรับ) จนถึงปี ค.ศ.1980 ทายาทของคอปป์ได้ขายไข่มุกเม็ดนี้แก่ร้านจิวเวอรี่ที่เบเวอร์รี่ฮิลล์ เป็นเงิน 200,000 ดอลลาร์ ในขณะที่มูลค่าล่าสุดเมื่อ ปี ค.ศ.2006 ถูกตีราคาไว้ที่ 61,850,000 ดอลลาร์อเมริกัน เองขอรับ ต่อมา ก็ได้มีชาวจีน ( ถ้าจำไม่ผิด) มาติดต่อขอดูไข่มุกเม็ดนี้ เมื่อได้เห็นไข่มุกถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปิติออกมา บอกว่า เป็นไข่มุกในตำนานของตระกูลตนแน่แท้เจียว โดยพวกเขาอ้างว่า เป็นทายาทสืบเชื้อสายมาจากเล่าจื๊อ และมีเรื่องเล่ากล่าวขานมาในอดีตว่า เล่าจื๊อเคยมาที่ริมฝั่งทะเล และโยนไข่มุกลงไปในทะเล พร้อมทั้งพยากรณ์เอาไว้ว่า สักวันหนึ่งจักต้องมีผู้พบไข่มุกเม็ดนี้ และพวกเขาก็ยังบอกอีกว่า รูปหน้าบนไข่มุกนั้น ช่างเหมือนท่านเล่าจื๊อเสียนี่กระไร ไข่มุกเม็ดนี้จึงได้รับชื่อใหม่อีกชื่อหนึ่งก็คือ "ไข่มุกของเล่าจื๊อ หรือ Pearl of Lao-Tzu ขอรับ
เอารูปท่านเล่าจื๊อกะไข่มุกมาเทียบกัน ก็พินิจกันดูเองเถิดขอรับว่า เหมือนหรือไม่อย่างไร
ถ้าท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมก็มาร่วมเสริมเติม แต่งให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นกันนะขอรับ
หอยทากชรา
[ 06 ส.ค. 2550 08:35:38 ]