ความคิดเห็นที่: 1

 และแล้วก็ได้เจอ

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:16:03 ]

ความคิดเห็นที่: 2

 แต่ไม่ใช่ปูแดงเป้าหมาย กระนั้นก็บินดีที่ได้เจอปูอื่น เพราะตั้งใจมาดูปูทุกชนิดที่อาศัยอยู่ที่นั้นอยู่แล้ว ในภาพนี้มีหอยยอดหักชนิดเดียวกับที่พบที่อ่าวยนด้วย

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:16:20 ]

ความคิดเห็นที่: 3

บางตัวกำลังกินอะไรอยู่ไม่รู้  แต่ตกใจหนีเลยทิ้งอาหารลอยหายไป ดูไม่ทัน

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:16:48 ]

ความคิดเห็นที่: 4

อืม.. ก็เลยงง ว่าตกลงที่ภูเขาแถบบ้านพี่ชายในเมืองพังงานี่มีปูแดง หรือเคยมีอยู่เปล่า

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:17:15 ]

ความคิดเห็นที่: 5

มีอีกชนิดหนึ่งที่ยังไม่ได้ถ่ายรูปในสภาพธรรมชาติ  มาถ่ายเอาทีหลัง

เป็นปูลำห้วยชนิด Salangathelphusa brevicarinata

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:17:53 ]

ความคิดเห็นที่: 6

ดอกอะไรครับนี่ ขึ้นอยู่ริมลำธาร คุ้นๆ เหมือนเคยเห็น หรือเคยมีใครโพสต์

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:18:29 ]

ความคิดเห็นที่: 7

ซูมดอกบาน

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:18:45 ]

ความคิดเห็นที่: 8

ริมลำธารเจอพกนี้เยอะ เลยขึ้นฝั่งไปเป็นทางดิน แล้วก็ต่อด้วยสวนยาง

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:19:00 ]

ความคิดเห็นที่: 9

กนกนารีที่นี่ดูใหญ่แข็งแรงดี

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:19:49 ]

ความคิดเห็นที่: 10

เฟินรากดำที่ขึ้นอยู่บนหิน เห็นแล้วก้ถ่ายรูปไว้อย่างเดียวเช่นเดิม

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:20:13 ]

ความคิดเห็นที่: 11

ย้ายไปอีกแห่งหนึ่ง แถวนี้อยู่ในร่มไผ่ น่าจะเป็นลำธารเดียวกัน ปูก็เจอพวกออกสีส้มเหมือนเดิม แล้วก็มาเจอหอยยอดหักอยู่เยอะเลย

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:20:35 ]

ความคิดเห็นที่: 12

แถวนี้ลองช้อนสวิงดูตามรากไผ่ ก็พบกุ้ง 2 กลุ่มคือพวก Macrobrachium อย่างตัวนี้ แล้วก็กลุ่ม Cariidae ที่ตัวไม่เล็กมากนัก กำลังอุ้มไข่ที่ท้อง

ปลาที่บริเวณนี้เจอก็ซิวใบไผ่ ส่วนจุดแรกนั้นเจอ แต่ปลาก้าง

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:21:11 ]

ความคิดเห็นที่: 13

คราวนี้บุกลึกเข้าไปอีก ทางลำบากมากขึ้น ไม่ค่อยมีคนไทยอาศัยอยู่นัก มี แต่พม่าเป็นลูกจ้างทำสวนยางอาศัยอยู่ตามขนำ บางคนกำลังซักผ้า โดยใช้วิธีดั้งเดิม ซึ่ง ไม่ก่อมลภาวะ คือเอาผ้ามาม้วนเป็นก้อน แล้วก็ทุบอยู่ในลำธาร

ขึ้นไปถึงสวนยางบนสันเขา เพื่อจะลงไปสำรวจในร่องลำธารข้างล่างอีกที ก็ได้เจอกิ้งก่าตัวนี้

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:21:34 ]

ความคิดเห็นที่: 14

กลัวเห็นไม่ชัด ครอปภาพหน้าตามาให้ดูอีกที

กิ้งก่าแก้วใช่ใหมครับ

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:22:03 ]

ความคิดเห็นที่: 15

แล้วก็ลงมาถึงร่องลำธาร บางช่วงเป็นขอบดินปนหินกรวด บางช่วงลำธารก็ตัดผ่านชั้นหิน ทำให้ร่องค่อนข้างแคบ

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:22:27 ]

ความคิดเห็นที่: 16

สภาพร่องลำธาร

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:23:04 ]

ความคิดเห็นที่: 17

เห็ดสีแดงแจ๋ (หนังสือเห็ดอยู่อีกห้องนึง ตั้ง แต่ย้ายห้องทำงานเลยไม่ได้เปิดดูเห็ดเลย)

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:23:30 ]

ความคิดเห็นที่: 18

แถวนี้ก็มีความหลากหลายของปลาน้อยจริง

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:23:54 ]

ความคิดเห็นที่: 19

ปลาค้อชนิดใหนครับ

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:24:25 ]

ความคิดเห็นที่: 20

ซิวใบไผ่ ก็คงเป็น Devario regina เหมือนกันทุกช่วงลำธารที่เจอ

ตรงส่วนที่ใกล้กลุ่มขนำของพม่ายังเจอปลาเยอะกว่าอีก ที่เห็นก็มีพวกตะเพียนน้ำตก กับปลาอีกอง

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:24:51 ]

ความคิดเห็นที่: 21

 แต่บริเวณนี้เจอปูสีเทา

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:25:15 ]

ความคิดเห็นที่: 22

ปูที่เจอๆ มาทั้งปูแดง  และปูตัวเล็กที่เจออ่าวยน รวมทั้งปูที่ในกระทู้นี้ที่โพสต์ไปแล้วล้วนอยู่ในวงศ์ Gecarcinucidae (ยกเว้นปูลำห้วย)  แต่เอกสารที่มีอยู่ตอนนี้ ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นปูชนิดใด (เอกสารของปูวงศ์นี้ยังไม่ค่อยมี)

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:25:43 ]

ความคิดเห็นที่: 23

ตัวนี้สีค่อนข้างขาวเป็นสีเหลืองอ่อน  ถ้าขาสีเข้ม แล้วอดนอนอีกนิด คงได้เป็นปูแพนด้าแล้ว

หมายเหตุ ปูแพนด้า มาจากชื่ออังกฤษของปูเจ้าฟ้าที่เรียกว่า Panda crab อยู่ในวงศ์ Gecarcinucidae เช่นเดียวกับปูตัวนี้  และอาจจะเป็นสกุลเดียวกันคือ Phricotelphusa  แต่ตอนนี้ยังไม่กล้ายืนยัน

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:26:21 ]

ความคิดเห็นที่: 24

อีกชนิดที่พบในช่วงลำธารส่วนนี้ ได้ตัวอย่างที่ไม่เต็มวัย และเป็นตัวเมียมา ส่วนตัวเต็มวัยเจออยู่ในรูๆ  หนึ่ง พอเจอคนก็กลับลงรูไป

จากตัวอย่างที่ได้มา นำมาเปรียบเทียบกับตัวอย่างที่มี คิดว่าเป็นปูน้ำตกชนิด Demanietta renongensis (แร่นองเอ็นซิส) ซึ่ง เคยพบที่จ.กระบี่ ในอ.อ่าวลึก ติดกับจ.พังงา

...แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 2550 22:04:49

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:27:05 ]

ความคิดเห็นที่: 25

ภาพนี้เป็นภาพชัดๆ  ของปูตัวเดียวกัน

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:27:22 ]

ความคิดเห็นที่: 26

จะเอ๋! ดูเจ้าปูตัวนี้ คงนึกว่าปูทั้งตัวเศษใบไม้ปิดมิด

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:28:03 ]

ความคิดเห็นที่: 27

ของฝากเจ้าแม่แมลงน้ำ

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:28:40 ]

ความคิดเห็นที่: 28

เป็นพวกที่อยู่ที่ผิวน้ำ

ภาพนี้จับให้ดูด้านท้อง  แต่ภาพไม่ชัด

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:29:11 ]

ความคิดเห็นที่: 29

หอยทากเป็นๆ ก็เจอ คิดว่าเป็น Dyakia salangana (ประชากรเวียนซ้ายล้วน เวียนขวาหายาก)

...แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 2550 13:48:24

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:29:38 ]

ความคิดเห็นที่: 30

กิ้งก่าเขานี่ใช่ตัวหนามยาวหรือเปล่าครับ มันนิ่งไม่ยอมหนีไปใหนเลย  แต่ก็ถ่ายไปหลายภาพ ดีสุดได้แค่นี้แหละครับ มีปัญหาเรื่องแฟลช+โฟกัส

...แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 2550 22:06:12

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:30:15 ]

ความคิดเห็นที่: 31

หุบในส่วนที่อยู่ระหว่างส่วนที่สูงของภูเขา สามารถเก็บความชื้นไว้ได้สูง

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:30:42 ]

ความคิดเห็นที่: 32

ในส่วนนี้จึงพบเฟินก้านดำอยู่ชุกชุม ซึ่ง เป็นตัวชี้วัดความชื้นได้เป็นอย่างดี

...แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 2550 21:31:33

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:31:11 ]

ความคิดเห็นที่: 33

ขนาด Tree fern ยังมีเลย น่าจะใช่มหาสดำนะ (เลยขึ้นไปบนสันเขาก็คือสวนยางน่ะแหละ)

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:32:04 ]

ความคิดเห็นที่: 34

เสร็จจากทริปร่องลำธารกลางสวนยาง ในวันรุ่งขึ้นได้แวะไปหาหอยทากจิ๋วที่เชิงเขาอยู่พักหนึ่งด้วย  แต่คงไว้โพสต์ทีหลังอีกกระทู้หนึ่ง

...แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 2550 21:53:23

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:35:08 ]

ความคิดเห็นที่: 35

แถมภาพปูชนิดเดียวกับที่พบที่พังงานี้

 แต่เป็นภาพปูจากอ.อ่าวลึก จ.กระบี่

ตัวแรกปูลำห้วย Salangathelphusa brevicarinata

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:35:40 ]

ความคิดเห็นที่: 36

ภาพด้านหลัง

ที่ไม่ได้โพสต์ตอนที่ได้ถ่ายภาพมาใหม่ๆ เมื่อเดือนมิ.ย. เนื่องจากได้ถ่ายภาพมา แต่ปู 2 ชนิดนี้แค่นั้นเอง เลยกว่าจะมีโอกาสโพสต์ก็ตรงที่กระทู้นี้มีปู 2 ชนิดนี้มาเกี่ยวข้องพอดี

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:36:00 ]

ความคิดเห็นที่: 37

ปูน้ำตกชนิด Demanietta renongensis

...แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 2550 21:36:39

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:36:15 ]

ความคิดเห็นที่: 38

ภาพเบื้องหลัง

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:37:00 ]

ความคิดเห็นที่: 39

 ถ้าใครยังจำปูคีรีขันธ์ที่เคยมีคนโพสต์ในนี้ จะเห็นว่ามันดูคล้ายๆ กัน ปู 2 ชนิดนี้อยู่ในสกลุเดียวกัน ลักษณะภายนอกที่พอจะใช้สังเกตความแตกต่างได้คือสีสัน ซึ่ง ต้องระมัดระวังเรื่องความแปรผันของสีที่อาจเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ

สีที่ก้ามของปูคีรีขันธ์ที่สังเกตพบจะออกเป็นสีเหลืองถึงเหลืองอมส้ม ไล่ลงเป็นสีขาวทางด้านล่าง ส่วนเจ้าตัวนี้ด้านบนออกสีน้ำเงินเทา แล้วไล่ขาวลงไปด้านล่าง

Demanietta renongensis


Demanietta khirihan

ขอยืมภาพจากเว็บดูนกไทย โดยคุณ PJ นะครับ
www.doonokthai.com

...แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 2550 22:50:04

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:38:39 ]

ความคิดเห็นที่: 40

ปูที่สีออกส้มกับสีเทา อาจจะเป็นปูชนิดเดียวกัน  แต่ที่สีสันใน แต่ละช่วงลำธาร (คิดว่าเป็นลำธารสายเดียวกัน หรือไปรวมเป็นสายเดียวกัน) แตกต่างกันไป อาจจะเป็นเพราะสีแบบหนึ่ง ช่วยให้อยู่รอดได้ในสภาพแบบหนึ่ง เช่นสีส้มอาจจะกลมกลืนกับเม็ดกรวดซี่งเป็นสีแดง อย่างที่พบปะปนกับดินแดงนั่นแหละ ทำให้ผู้ล่าเห็นมันได้ยากกว่าสีอื่น จึงทำให้มีสีส้มแพร่ขยายพันธุ์อยู่ในบริเวณนั้น ส่วนสีเทาอาจจะอยู่รอดได้ดีในสภาพแสงน้อยของร่องลำธารระหว่างเขาสูง ที่แสงส่องลงไปได้น้อย สีเทาอาจจะทำให้ศัตรูเห็นมันได้ยากกว่าสีอื่น

นี่เป็นข้อสันนิษฐานของผมครับ

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 21:49:56 ]

ความคิดเห็นที่: 41

ปลาค้อคงจะเป็น Schistura robertsi เป็นปลาค้อชนิดที่พบอยู่ตามต้นน้ำลำธารเล็กๆ เสียส่วนใหญ่ เจอตั้ง แต่ระดับความสูง 1900 เมตรที่ช่องเย็น จังหวัดกำแพงเพชร ไปยั๊นระดับน้ำทะเลแถวภาคใต้นู้นแล

ส่วนปลาซิวใบไผ่เป็นใบไผ่เล็กครีบเขียว/เหลืองนะครับ Danio kerri ครับ เป็นชนิดที่พบทางใต้ ข้อมูลเหนือสุดของผมคือที่ รอpต่อจังหวัด ชุมพรกับประจวบฯ   ชนิดที่พบที่ภูเก็ตก็น่าจะเป็นชนิดเดียวกัน พวกนี้ตัวไม่ใหญ่มากนะ ไม่เหมือน Devario

...แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 2550 22:09:27

นณณ์ [ 11 ก.ย. 2550 22:08:12 ]

ความคิดเห็นที่: 42

อืม แสดงว่าที่ตัวใหญ่เหมือน Devario regina   แต่ไม่ได้ตักดูคงเป็นปลาซิวอื่นด้วย

...แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 2550 22:39:08

นกกินเปี้ยว [ 11 ก.ย. 2550 22:10:43 ]

ความคิดเห็นที่: 43

ของฝากเป็นน้องด้วงที่อยู่ในน้ำ
อยู่ในวงศ์ Gyrinidae
พวกด้วงสี่ตาน่ะค่ะ

เอ๊... ธงจะหักป่าวหนอ

ยายอ้วน [ 11 ก.ย. 2550 22:35:49 ]

ความคิดเห็นที่: 44

#๖-๗ วงศ์ Myrsinaceae พิลังกาสา  Ardisia sp.

หนานโตน [ 11 ก.ย. 2550 23:57:19 ]

ความคิดเห็นที่: 45

อ่า แหะ  ความคิดเห็นที่: 27   และ 28
หนูก็ว่าเป็นด้วงสี่ตาเหมือนกันค่ะ

Trichoptera [ 11 ก.ย. 2550 23:58:41 ]

ความคิดเห็นที่: 46

สงสัยหอยจะประสพอุบัติเหตุครั้งใหญ่ แต่รอดตายมาได้นะ

Amphidromus [ 12 ก.ย. 2550 07:39:07 ]

ความคิดเห็นที่: 47

ที่ภูเก็ต หอยก็ยอดหักเหมือนกัน ประมาณว่าอยู่ในที่น้ำไหลน่ะ
ไปเมื่อไรอีกอะท่าน หมายนี้น่าสนใจ เผื่อจักตามไปดูกุ้งเต้นแลเหาไม้บ้าง

ampelisciphotis [ 12 ก.ย. 2550 08:47:49 ]

ความคิดเห็นที่: 48

ท่านนกกินเปี้ยว เป็นไปได้หรือไม่ว่าหอยใน คห. 29 อาจจะเป็นสกุล Ryossota ได้หรือไม่  เท่าที่พอมีชื่อในหัวบ้างก็เป็น R. lamarckiana เคยมีรายงานว่าพบแถวทางภาคใต้ ที่ว่าเยี่ยงนี้ด้วยว่าขอบปากมันบานออก ผิดกับ Dyakia salangana ที่ข้าน้อยได้แถวๆ  นี้ที่ปากมันไม่บานออก แล้วก็เปลือกมันมีลายแถบสีน้ำตาลแดงพาดวนรอบ เอ... หรือว่าเป็นเพราะมันเจออุบัติเหตุหนัก สีเลยซีด  แต่คงต้องบอกท่านไว้ก่อนว่าหอยแดนใต้มิใคร่สันทัดเท่าใค คงต้องรบกวนท่าน amphi มาช่วยแล้ว ด้วยว่าท่านจึ่งเป็นเอตทัคคะด้านนี้จริงๆ  ผิดพลาดอย่างไรขออภัยไว้ล่วงหน้าขอรับ
    อ้อ.. ลืมบอกไป เอาเปลือก Dyakia แถวๆ  ตะวันออกมาให้ยลเล่นขอรับ

...แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 2550 09:17:26

หอยทากชรา [ 12 ก.ย. 2550 09:16:15 ]

ความคิดเห็นที่: 49

ขอบคุณครับสำหรับความรู้

JJ [ 12 ก.ย. 2550 10:29:41 ]

ความคิดเห็นที่: 50

ลองดูภาพเพิ่มเติมครับ ลายเส้นสีแดง หรือสีเข้ม ของตัวที่ผมถ่ายมามันอาจจะไม่ชัด เพราะยังมีตัวอยู่กระมังครับ ไม่แน่ใจเหมือนกัน  แต่เปลือกตัวนี้ในช่วงที่ยังตัวเล็กกว่านี้ เยินมากๆ

นกกินเปี้ยว [ 12 ก.ย. 2550 10:33:15 ]

ความคิดเห็นที่: 51

ด้านเปิดเปลือก ดูเหมือนเปลือกจะเคยแตกด้วย

...แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 2550 10:34:17

นกกินเปี้ยว [ 12 ก.ย. 2550 10:33:50 ]

ความคิดเห็นที่: 52

ขอบคุณมากท่านนกกินเปี้ยว ดูท่าทางมันจักสมบุกสมบันมามิใช่น้อย รอดมาได้นี่ก็เก่งแฮะ  ถ้าเป็นไปได้คงต้องรบกวนท่านสืบเสาะดูต่อขอรับว่า หอยเวียนซ้ายที่เป็น ground snail ในบ้านเรามีกี่ชนิด  ด้วยกระผมก็ไม่มีข้อมูลเท่าใด ได้ผลอย่างไรมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะขอรับ ข้อมูลที่ได้จักยังประโยชน์แก่ลูกเด็กเล็กแดงมิน้อย

หอยทากชรา [ 12 ก.ย. 2550 11:37:01 ]

ความคิดเห็นที่: 53

เผื่อลูกเด็กเล็กแดงอยากจักอ่านที่อาจารย์สมศักดิ์เขียนเรื่องหอยเวียนซ้ายในกระทู้เก่าๆ  หนา

http://www.siamensis.org/webboard/webboarddetail.php?board_id=7730

ลางทีทำเรื่องอนุกรมวิธานแล้วมันมีรายละเอียดเยอะ ดูๆ  ไปก็เปนวงกลม เริ่มต้นจากการที่เราพยายามจักจำแนกสิ่งมีชีวิต แล้วศึกษารายละเอียดด้านนิเวศบ้าง ด้านสรีระบ้าง ด้านพฤติกรรมบ้าง เพื่อที่สุดท้ายข้อมูลทั้งหมด ก็นำมาเพื่อใช้ช่วยในการจำแนกกลุ่มสิ่งมีชีวิตอีกทีหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ ทุกรายละเอียด จุ่งเปนสิ่งน่าเรียนรู้ แลมิควรละเลย

วันนี้กระทู้วิชาการเยอะ ข้อมูลล้นกบาล ชักเพี้ยนวุ้ย

ampelisciphotis [ 12 ก.ย. 2550 13:46:40 ]

ความคิดเห็นที่: 54

เพิ่มเติม
ข้อมูลเกียวกับปูในพื้นที่จ.พังงา จากที่มีการทำบัญชีไว้  และมีการรายงานเพิ่มเติมภายหลัง

วงศ์ Gecarcinucidae
ปูแดง, ปูไม่แดงในกระทู้อ่าวยน  และปูไม่ทราบชนิดที่พบจากพังงาในกระทู้นี้ เท่าที่พบยังไม่เห็นว่ามันมีการขุดรู ทุกตัวที่พบจะเดินอยู่ในน้ำ หลบซ่อนอยู่ใต้ก้อนหิน หรือเศษใบไม้ ท่อนไม้
* ปูวงศ์นี้มีลักษณะของ gonopod (กาเจี้ยวปู) คล้ายคลึงกันมาก ทำให้การจำแนกทำได้ยาก (ลักษณะบรรยาย  ถ้าไม่มีตัวอย่างปูชนิดที่ตรงกับในบรรยายลักษณะมาเปรียบเทียบ ก็ยากที่จะเข้าใจสำหรับวงศ์นี้)

Phricotelphusa deharvengi  > เป็นปูเฉพาะถิ่นของถ้ำพุงช้าง จ.พังงา
>ไว้ต้องหาเวลาไปดูให้ได้ ในนี้จะมีน้ำไหลผ่าน แถมยังมีปลาถ้ำด้วย

Phricotelphusa limula > ภูเก็ต, พังงา
>ปูแดงที่ถ่ายภาพมาจากอ่าวยนนั่นเอง

Thaksinthelphusa yongchindaratae > พังงา, นครศรีฯ


วงศ์ปูนา และปูลำห้วย Parathelphusidae

Salangathelphusa brevicarinata > ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง พัทลุง นครศรีฯ  สุราษฯ  
> จากการศึกษาของอ.พิมลพรรณ ม.อ.หาดใหญ่ พบว่าปูลักษณะคล้ายกับชนิดนี้ที่พบในจ.นครศรีฯ   และพัทลุง คล้ายกับปูชนิด Salangathelphusa anophrys มากกว่า ซึ่ง ปูชนิดหลังไม่มีในบัญชีชนิดปูของศ.ดร.ไพบูลย์

Sayamia sexpunctatum > นครนายก, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, จันทบุรี, ปราจีนฯ , เพชรบุรี, ภาคใต้เกือบทุกจังหวัด เว้นภูเก็ต ระนอง
> สกุลนี้คือปูนานั่นเอง  แต่มีขนาดเล็กกว่าปูนาบางกอก (S. bangkokensis)


วงศ์ปูป่า และปูน้ำตก Potamidae

Demanietta renongensis > ตรัง, กระบี่, สุราษฯ , ภูเก็ต, พังงา, ระนอง, ชุมพร, ประจวบฯ  
> เป็นปูน้ำตกที่พบขุดหลุมอยู่ริมตลิ่งลำธาร หรือในโพรงไม้

...แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 2550 15:15:33

นกกินเปี้ยว [ 12 ก.ย. 2550 15:10:51 ]

ความคิดเห็นที่: 55

เอ่อ สงสัยนิดหนึ่งน่ะ หอยสกุล Dyakia เนี่ย character ของเปลือกมันมีทั้งเหลี่ยม และไม่เหลี่ยมเลยฤาเจ้าคะ วานบอก

ampelisciphotis [ 12 ก.ย. 2550 19:10:22 ]

ความคิดเห็นที่: 56

ตามมาดูคร้าบบบ ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ   และความรู้เรื่องปู และหอยทากครับ

Due_n [ 12 ก.ย. 2550 21:54:02 ]

ความคิดเห็นที่: 57

ปลาถ้ำ กับปลานอกถ้ำที่อาศัยอยู่ในถ้ำไม่เหมือนกันนะคุณนกกินเปี้ยว  ถ้าเจอปลาถ้ำแถวนั้นๆ จริงๆ  โอกาศที่จะเป็นชนิดใหม่ก็แทบจะ ร้อยละร้อยหล่ะครับ

นณณ์ [ 12 ก.ย. 2550 23:10:01 ]

ความคิดเห็นที่: 58

#13   #14   ม่ะเคยเห็นมันเปลี่ยนเป็นสีแบบนี้ซักครั้งเลย!

electron [ 13 ก.ย. 2550 00:46:55 ]

ความคิดเห็นที่: 59

จะไปพิสูจน์กับผมใหมล่ะพี่ เมื่อไหร่บอก

นกกินเปี้ยว [ 13 ก.ย. 2550 08:44:29 ]

ความคิดเห็นที่: 60

เอ่อ ท่านหอยทากอาวุโส เจ้า Ryssota larmarkiana (สะกดถูกหรือปล่าวไม่รู้) เนี่ยมันเวียนซ้ายด้วยเหรอครับ จำไม่ได้จริงๆ   ข้าน้อยยังคงว่าเป็น Dyakia อยู่

Amphidromus [ 13 ก.ย. 2550 16:48:05 ]

ความคิดเห็นที่: 61

จริงๆ  แล้วที่ post ถามนี่ก็ด้วยส่วนตัวแล้ว อยากจะกระตุ้นให้มีการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อมายืนยันในสิ่งที่ตัวคนให้คำตอบ แต่ละคนได้ให้ว่า  แต่อยากให้มีอะไรเพิ่มเติมมากกว่าแค่ว่า มาให้ชื่อวิทยาศาสตร์แล้วจากไป อยากจะให้มีการอรรถาธิบายสิ่งใดบ้างเพิ่มเพื่อให้ลูกเด็กเล็กแดงที่ยังไม่มีความรู้พื้นฐานมากนักที่เข้ามาอ่าน มาใช้ทรัพยากรข้อมูลที่นี้ได้มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ  เพิ่มขึ้นมาบ้าง กระผมมิอยากให้เกิดระบบที่ว่า "จำ" แล้ว "เอาไปใช้" ตัวอย่างเช่น  ถ้าสมมติว่ากระผมนี้ไปได้เปลือกหอยทากพื้นดิน (ground snails) เวียนซ้ายมาเปลือกหนึ่ง ขนาดค่อนข้างใหญ่พอควร  และบังเอิญเคยอ่านหรือได้ข้อมูลว่า Dyakia salangana นั้นเวียนซ้ายทั้งประชากร เพราะฉะนั้นแล้วไซร้เปลือกที่กระผมเก็บได้ต้องเป็น D. salangana แน่นอน อย่างนั้นฤา  แต่ ถ้าเรามาช่วยกัน  แต่งเติมลักษณะอื่นๆ  ที่เด่นเพิ่มเข้าไป มันจักไม่ยังประโยชน์เพิ่มขึ้นกว่านี้ฤา
    ที่ว่า Ryssota lamarckiana เวียนขวานั้นก็ถูกต้องของท่าน amphidromus ขอรับ  แต่กระผมก็มีคำถามเล่นๆ  ขอรับว่า เราจะมิมีโอกาสที่จักเจอ R. lamarckiana เวียนซ้ายบ้างเลยฤาขอรับ  แต่จริงๆ   แล้วรูปที่นำมา post นั้นกระผมก็ว่าเป็น Dyakia นั่นแหละขอรับ  แต่อยากให้คนที่ post  และid มาช่วยอรรถาธิบาย characters อื่นๆ  ประกอบบ้างก็แค่นั้นแหละขอรับ คือที่สุดของที่สุดแล้ว กระผมอยากจะกระตุ้นให้คนอ่านนั้น เกิดความสงสัยเวลาที่มีความเห็นไม่ตรงกัน แล้วก็ทำการสืบเสาะค้นคว้าเพิ่มเติม ไม่อยากให้เชื่อทั้ง 100 %แค่นั้นเองขอรับแถมท้ายด้วยรูป R. lamarckiana ให้ดูขอรับ

    ภาพจาก http://www.conchology.be/es/availableshells/shellsforsaledetails.php?uniquenumber=377280#f

หอยทากชรา [ 13 ก.ย. 2550 18:03:59 ]

ความคิดเห็นที่: 62

lamarckiana  อ่านคล้ายรามเกียรติ์จัง

tavon [ 13 ก.ย. 2550 19:05:19 ]

ความคิดเห็นที่: 63

พูดตรงๆ  ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง เพราะใช้การจดจำเอาจากเปลือกที่เคยเก็บแล้วถามมา หรือจากภาพที่ได้รับการระบุชนิดให้ครับ ก็หวังพึ่งเหล่าท่านๆ ที่รู้เรื่องนี่แหละ

นกกินเปี้ยว [ 13 ก.ย. 2550 19:23:01 ]

ความคิดเห็นที่: 64

ก็เห็นด้วย อยู่กับคุณหอยทากอาวุโส  แต่ทว่าด้วยส่วนตัวแล้วไม่น่าจะมี slangana ที่เวียนขวาได้ ดูอย่าง Euhadra ซ้ายขวาต่างกันก็ต่าง species กัน ใน Camaena ในพวก Clausilids ก็มี เปลือกคล้ายกัน เวียนต่างกัน ก็เป็นคนละชนิดกัน ซึ่ง ทั้งหลายทั้งปวงนี้จะเอามาเทียบกับ Achatinella, Partula, Amphidromus หรือ Liggus ที่พบได้ทั้งซ้าย และขวาได้ยาก

Amphidromus [ 13 ก.ย. 2550 19:43:51 ]

ความคิดเห็นที่: 65

จริงๆ  เรื่องเวียนซ้ายเวียนขวา ที่ผมไม่อธิบายเพราะในวงเล็บ ตัวหนังสือสีน้ำเงินก็เป็นลิงค์ที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นอยู่แล้วครับ

นกกินเปี้ยว [ 13 ก.ย. 2550 20:43:09 ]

ความคิดเห็นที่: 66

ท่าน tavon เจ้าขา lamarckiana  เหมือนรามเกียรติ์ จริงๆ  ด้วยแล  แต่น่าจักมาจากชื่อของ Jean-Baptiste Lamarck  ฤาไม่หนอ คนที่คิดทฤษฎีวิวัฒนาการในห้วงเวลาใกล้ๆ  กับท่าน ชาร์ล ดาร์วิน (หรือที่อิฉันแอบเรียกว่าท่านชาร์ล ถวิล เหมือนที่คนสมัยก่อนเรียกฝรั่งเปนชื่อไทย John Crawfurd - ยอนกะลาฟัด เอ... แล้วชื่อ ampelisciphotis หากเรียกด้วยสำเนียงไทย จักเปนอย่างไรหว่า ... อำไพละไฟติด แหงๆ  เลย)

อิฉันชอบบรรยากาศในเว็บนี้ ด้วยว่าตะละคนก็แจกของส่องตะเกียงกันสุดชีวิต อิฉันจักได้มีภูมิรู้เรื่องอื่นนอกจากกุ้งเต้นแลแมงสาบทะเลบ้าง

ว่า แต่หอยบก fam ใดเวียนซ้ายอีกบ้างฤานี่ อยากรู้ไว้ต่อหางอึ่งเหมือนกัน

...แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 2550 21:35:23

ampelisciphotis [ 13 ก.ย. 2550 21:34:04 ]

ความคิดเห็นที่: 67

Lamarck ทฤษฏีวิวัฒนาการไม่เหมือนกับของดาร์วินนะครับ ของLamarck จะประมาณว่า พ่อแม่เป็นอย่างไรก็จะให้กำเนิดลูกที่เป็นอย่างนั้น (ดังนั้น ถ้าพ่อเกิดไปขาขาดขึ้นมา ลูกก็จะออกมาไม่มีขา???)   แต่ของดาร์วินคือลูกที่แข็งแรงมีความเด่นที่สุดจึงจะรอดชีวิต มันต่างกันอยู่พอควร  ถ้าคนที่คิดทฤษฏีวิวัฒนาการได้ใกล้เคียงกับดาร์วินในระยะเวลาเดียวกันจริงๆ  คือ Alfred Russel Wallace ครับ

อ่ะแฮ่ม ใครรู้จัก Wallace Line บ้างเอ่ย???

นณณ์ [ 13 ก.ย. 2550 23:34:08 ]

ความคิดเห็นที่: 68

อาจจะเป็น Clausiliidae ไม่ทั้งหมด  แต่ส่วนใหญ่  แต่ยังมีหอยน้ำจืดอีก  แต่นึกไม่ออก รอท่านหอยทากอาวุโสแล้วกัน

Amphidromus [ 14 ก.ย. 2550 09:04:48 ]

ความคิดเห็นที่: 69

Wallace Line - เส้นแบ่งเขตภูมิสัตว์เอเชียกับออสซี่หรือป่าวหนอ

tavon [ 14 ก.ย. 2550 16:35:16 ]

ความคิดเห็นที่: 70

 ถ้าจำไม่ผิด
จะหมายถึงเส้นสมมติ ที่ใช้แบ่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับ ออสเตรเลีย ออกจากกัน
โดยใช้ลักษณะของสัตว์ที่พบแตกต่างกันในสองพื้นที่

ยายอ้วน [ 14 ก.ย. 2550 21:26:04 ]

ความคิดเห็นที่: 71

แม่นแล้วครับ  ถ้าใช่หมู่เกาะของประเทศอินโดนีเซียเป็นเกณฑ์ ก็แบ่งตรงเกาะบาหลี กับลอมบอก ครับ

นณณ์ [ 14 ก.ย. 2550 22:12:57 ]

ความคิดเห็นที่: 72

#30 ก็ละม้ายคล้ายเขาหนามยาวน่ะ  แต่ฟันธงไม่ได้ เพราะประชากรกิ้งก่าเขาหนามทางระนอง พังงา ภูเก็ต มีตัวปัญหาอยู่  และมีแนวโน้มเป็นชนิดใหม่ โดยมีลักษณะร่วมระหว่างเขาหนามสั้น(Acanthosaura crucigera) และเขาหนามยาว(A. armata) ในหนังสือบางเล่มเลยติด cf. ไว้ซะเลย

knotsnake [ 15 ก.ย. 2550 22:56:06 ]

ความคิดเห็นที่: 73

ขอโทษที่เข้ามายุ่งครับ สําหรับบางท่านที่สงสัยว่าหอยบางอย่างอาจไม่มีเวียนซ้ายนั้น ลองเข้าไปชมลิงค์เหล่านี้เล่นๆ ครับประเทืองความรู้ดี เป็นcollectionส่วนตัวของคุณหมอท่านหนึ่งซึ่ง อุทิศตน และครอบครัวรักษาคนยากคนจนจํานวนมากที่เอธิโอเปียหลายปีโดยไม่เอาค่าแรง เขาสนใจหอยเวียนกลับทางเป็นพิเศษหน่ะครับ
เป็นของที่เงินก็ซื้อหาไม่ได้ และประเมินคุณค่าได้สูงยิ่ง ผมว่าแกได้มาด้วยบุญกับกุศลครับ

http://www.jaxshells.org/reverse1.htm

ผมว่าในธรรมชาติมันมีอะไรที่เกินกว่าความเข้าใจของคนเราอีกเยอะเลยครับ อะไรก็เป็นไปได้มังครับ อ้อ ข้างล่างของหน้าเดียวกันนี้ก็ยังมีอีกสองลิงค์หนะครับ ลองคลิกดูที sinistral กันทั้งน้าน!

จอม [ 28 พ.ย. 2550 03:10:38 ]