ความคิดเห็นที่: 1

ตื่นแล้ว

ยายอ้วน [ 07 ต.ค. 2550 21:50:35 ]

ความคิดเห็นที่: 2

ไม่นอนแล้วก็ได้ >

ยายอ้วน [ 07 ต.ค. 2550 21:52:24 ]

ความคิดเห็นที่: 3

 แต่ก็ยังง่วงอยู่เลย ทำยังไงดีน้า - " -

ยายอ้วน [ 07 ต.ค. 2550 21:53:09 ]

ความคิดเห็นที่: 4

หนีเข้าโพรงดีกว่า

ยายอ้วน [ 07 ต.ค. 2550 21:53:41 ]

ความคิดเห็นที่: 5

หน้าตรงไม่สวมหมวก เห็นฟันสีส้มๆ  แดงๆ  น่ารักดีเนอะ

...แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 2550 21:54:55

ยายอ้วน [ 07 ต.ค. 2550 21:54:42 ]

ความคิดเห็นที่: 6

เอารูปนกเค้าตัวเล็กมาฝากอีกตัว
นกเค้าอะไรคะ

ยายอ้วนคิดว่าน่าจะเป็นนกเค้าแคระ  แต่ไม่ชัวร์ค่ะ

ยายอ้วน [ 07 ต.ค. 2550 21:55:56 ]

ความคิดเห็นที่: 7

ภาพสุดท้าย กับนกเค้า เห็นชัดขึ้นหน่อย
รบกวนเซียนนกมาชี้แจงแถลงไขหน่อยนะคะ

ยายอ้วน [ 07 ต.ค. 2550 21:56:45 ]

ความคิดเห็นที่: 8

เขาขอเพียงอิ่มท้องอย่างเดียวจริงๆ หรือนี่

ลำพะเนียง [ 07 ต.ค. 2550 22:30:32 ]

ความคิดเห็นที่: 9

น่ารักสุดๆ  ไม่รู้ว่าจะเชื่องเหมือนหนูหรือเปล่า


ว่า แต่พี่ยายอ้วนไม่กินมั่งเหรอครับ :P

...แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 2550 00:55:54

Mb. [ 08 ต.ค. 2550 00:34:14 ]

ความคิดเห็นที่: 10

น่าสงสารจังเลย   เค้าไม่มีอะไรจะกินกันแล้วหรือ??  หรือว่าอยากลองของแปลก...

aqueous_andaman [ 08 ต.ค. 2550 02:04:35 ]

ความคิดเห็นที่: 11

ชาวบ้านคงต้องเจตนาขุดขึ้นมาจริงๆ หละครับ...เพราะโดยปกติมันขุดรูทำรังอยู่ค่อนข้างลึกพอสมควร คนบางกลุ่มก็ยังมีความเชื่อว่าการกินเนื้ออ้นก็เหมือนกับกินยาสมุนไพรบำรุงร่างกาย บ้านคุณยายผมปลูกไผ่ไว้เป็นกอๆ รอบๆ บ้านเป็นรั้วเพื่อกันลมตอนเด็กๆ ก็ยังพอมีเรื่องราวของ"อ้น"มาทำรังให้เห็นเหมือนกัน  เมื่อ 2 ปีที่แล้วยังพบว่ามีพังพอนพลัดมาติดกรงดักหนู 2 ตัว  อ้นที่ถูกจับจากธรรมชาติเพื่อเลี้ยงเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงมี ส่วนมากจะผ่านกระบวนการสร้างความเจ็บปวดให้สัตว์เป็นเบื้องต้นที่เห็นบ่อยๆ คือโดนถอดฟันคู่หน้าออก

ใกล้ๆ กรุงเทพฯ ยังพบหลงเหลือในธรรมชาติอยู่บ้างเพราะชาวบ้านเคยเล่าให้ฟังว่าเคยเห็นหนูประหลาดตัวค่อนข้างใหญ่ผิดปกติวิ่งฝ่ากองไฟที่เขาเผาป่าหญ้าออกมา ชาวบ้านจะจับกิน แต่เห็นว่าหนูตัวนั้นดุมาก(เพราะขู่ฝ่อๆ ตลอดเวลาที่จะเข้าไปจับ) เรื่องนี้พอจะบ่งบอกอะไรได้หลายอย่างเหมือนกัน โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ได้เป็นการกินเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้โดยปกติ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรู้ที่ถดถอย  และความเชื่อที่ผิดๆ ในการกิน

เอารูปมาเผื่อคนชอบทำอาหารจากสิ่งรอบๆ ตัว 1 จานเล็กๆ ครับ

...แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 2550 09:10:48

สุวรรณภูมิ [ 08 ต.ค. 2550 09:08:59 ]

ความคิดเห็นที่: 12

เอ๊ะ ใครเล่าให้ฟังเนาะ(คุ้นๆ  ว่าจะเป็นพี่ง่วยอุ้มผาง)ว่ากะเหรี่ยงเนี่ยจะจับอ้นไว้ให้ลูกจูงเล่น เป็นของเล่นมีชีวิตประจำบ้านโดยจะทุบฟันหน้าให้หักก่อน น่าสงสารจัง

ไอ้ลูกทุ่ง [ 08 ต.ค. 2550 10:13:26 ]

ความคิดเห็นที่: 13

#6-7 นกเค้ามองตัวเองนั่นแหละ

สำหรับเรื่องอ้น..ผมจะมองอีกมุม คือ  ถ้าเป็นการหากินของคนตามปกติก็ไม่ว่าอะไร เพราะปกติคนที่อยู่ป่าๆ จริงๆ เขาไม่ได้มุ่งเน้นว่าจะกิน แต่อ้อ  แต่จะหาของกินผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ  เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ  แต่พวกกินตามความเชื่อก็จะอันตรายมากกว่า เพราะจะเน้นหาเฉพาะชนิด  และมีความถี่ในการกินซ้ำๆ สูง(เหมือนคนแถวนี้ ที่กินซ้ำๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ดีนะ..ไม่กินเมนูที่มีโปรตีนพิเศษในถ้วยกาแฟซ้ำๆ )จนพาลไปถึงการล่ามาขายคนกลุ่มนี้

สำหรับลูกอ้นกำพร้า..ที่จริงวัยนี้ก็พอเอาตัวเองรอดได้แล้ว ก็แล้ว แต่คนเลี้ยงเขาแล้วกัน

knotsnake [ 08 ต.ค. 2550 10:13:27 ]

ความคิดเห็นที่: 14

ครับพี่น๊อต...ความเชื่อผิดๆ นี่น่ากลัวมากครับ การกินเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้โดยปกติไม่น่ากลัวเท่าการกินด้วยความเชื่อที่ผิดๆ

สุวรรณภูมิ [ 08 ต.ค. 2550 10:34:19 ]

ความคิดเห็นที่: 15

ตัวอ้นนี่  ที่สุโขทัยเรียกว่า หนูภูเขา

mim4042 [ 08 ต.ค. 2550 10:49:47 ]

ความคิดเห็นที่: 16

คคห.6+7 นกเค้าแคระครับจาก Birds Guide ตาสีเหลืองชัดเจนครับ

อรรถ [ 08 ต.ค. 2550 12:00:15 ]

ความคิดเห็นที่: 17

เอ๋....นก ลืมไปหมดแล้ว  แต่น่าจะเป็นเค้าแมวนะครับ

เสือหัวดำ [ 08 ต.ค. 2550 12:59:43 ]

ความคิดเห็นที่: 18

ผมว่า "นกเค้าโมง" นะ

tavon [ 08 ต.ค. 2550 13:39:59 ]

ความคิดเห็นที่: 19

เหตุผล คือ "นกเค้าโมงมีขนคลุมบริเวณท้อง และต้นขาเป็นลายขวาง
ส่วนนกเค้าแคระมีขนคลุมบริเวณต้นขาเป็นรูปหยดน้ำ"

tavon [ 08 ต.ค. 2550 13:46:52 ]

ความคิดเห็นที่: 20

นกแบบนี้แถวบ้านพอมีคล้ายครับโตประมาณนกเขา  แต่ตามันสีไม่เหมือนแบบนี้

Fisher [ 08 ต.ค. 2550 13:47:32 ]

ความคิดเห็นที่: 21

อาหารของคุณสุวรรณภูมินี่ยายอ้วนขอบายค่ะ
แค่เห็นฟันก็กลัวแล้ว

ยายอ้วน [ 08 ต.ค. 2550 16:01:16 ]

ความคิดเห็นที่: 22

เหอๆๆๆ   ถ้าอย่างนั้น แสดงว่า ถ้ายายอ้วนจักขบฉันอ้นเปนอาหาร ก็ต้องถอนฟันก่อน

หากกินพอเปนอาหารดำรงชีพ ก็พอมีเหตุผลต้นปลายให้เข้าใจ ด้วยว่าเยี่ยงนั้นก็คงมิล้างผลาญอะไรมากมาย ดังที่คาลิล ยิบรานเคยกล่าวไว้ว่า

เมื่อเธอฆ่าสัตว์ จงกล่าวแก่มันในดวงใจว่า
อานุภาพเดียวกับที่ประหารเธอ จะประหารเราด้วย
และเราเองด้วยจะถูกกลืนไป
เพราะกฎเกณฑ์อันนำเธอมาสู่อุ้งมือเรานั้น
จะนำเราไปสู่อุ้งหัตถ์อันทรงอานุภาพกว่าด้วย
เลือดของเธอ และเลือดของเรานั้นมิใช่อื่นใด
ต่างก็เป็นน้ำหล่อเลี้ยงพฤกษาแห่งสวรรค์

ตอนนี้กำลังเข้า mode หลังพิงฝา เลยออกแนวอุดมคติอยู่สักหน่อยแลนา

ampelisciphotis [ 08 ต.ค. 2550 17:20:55 ]

ความคิดเห็นที่: 23

อ้นใหญ่หรือเปล่าไม่แน่ใจครับ
ที่เด่นคือมีหน้าแดง และใส่หมวกสีน้ำตาล

ผมเคยเลี้ยง แต่อ้นเล็ก
มันน่ารักดีครับ ไม่กัด เลี้ยงไว้ในถังไม้ เคยแอบเอาใส่กระเป๋าไปโรงเรียนด้วย
ตั้ง แต่อยู่ป.6 สุดท้ายมันแทะถังออกมา โดนหมากัด ร้องไห้อยู่หลายวัน
ได้มาเพราะเค้าเอาแม่ไปกินเช่นเดียวกัน สุดท้ายมันไม่โดยคนกิน
แต่ก็ตายด้วยคมเขี้ยวหมา

ถ้าเดินตามป่าไผ่เวลาไปทำงานนี่ต้องมองดูพื้นดีๆ
เพราะชาวบ้านเค้าชอบขุดอ้น บางทีเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ
จะตกหลุมอ้นเอา อิอิ

อ่อ ทางเหนือเรียกอ้นว่าตุ่นครับ
อีกหลายท้องที่อย่างที่กาญ ก็เรียกอ้นว่าตุ่น

ถ้าเค้าพูดถึงตุ่นต้องถามดีๆ  ว่าไอ้ตัวที่อยู่ตามกอไผ่ตาหยีๆ  สีส้มๆ
หรือตาตี่ๆ  ขนมันๆ สีดำๆ  
บางทีเค้าเรียกเหมือนกันครับหรือบางทีก็เรียกสลับกัน
เรียกอ้นว่าตุ่น เรียกตุ่นว่าอ้น

ปีย์ [ 08 ต.ค. 2550 19:53:53 ]

ความคิดเห็นที่: 24

ตรงใจผมเลยครับคุณ ampelisciphotis พอเห็นการฆ่ากันแบบนี้ ผมก็นึกถึงกลอนท่อนนี้ทุกที กำลังจะเอามาฝากพอดี

When you kill a beast say to him in your heart:

"By the same power that slays you, I too am slain;
and I too shall be consumed.

"For the law that delivered you into my hand
shall deliver me into a mightier hand.

"Your blood and my blood is naught
but the sap that feeds the tree of heaven."

อาจารย์ระวี ภาวิไล ถอดความไว้ได้คงความหมายสมบูรณ์มาก

ถือโอกาสเอาอีกท่อน จากอีกเล่ม (Sand and Foam)  แต่คนเขียนคนเดียวกัน (Kahlil Gibran) มาฝากก็แล้วกันครับ

They say to me,
"A bird in the hand is worth ten in the bush."

But I say,
"A bird and a feather in the bush is worth more than ten birds in the hand."

Your seeking after that feather is life with winged feet; nay,
it is life itself.

natee [ 09 ต.ค. 2550 00:56:58 ]

ความคิดเห็นที่: 25

อ้นในกระทู้คงจะเป็นอ้นใหญ่มังครับ
รูปที่อยู่ในจานเอามาประกอบใน #11ชัดๆ  เผื่อผู้รู้จะช่วยมาจำแนกชนิดว่าเป็นหนูหรืออ้นชนิดไหน It's stewed rat head

...แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 2550 03:45:51

สุวรรณภูมิ [ 09 ต.ค. 2550 02:24:10 ]

ความคิดเห็นที่: 26

อ้น(เรียกตามตำราหมอบุญส่ง) หรือ ตุ่น (เรียกตามชาวบ้านส่วนใหญ่) ในประเทศไทย รายงานไว้ 3 ชนิด
แต่รูปถ่ายที่เห็นอยู่นี้ไม่มีความสามารถที่จะระบุชนิดได้ในขณะนี้ เลยใคร่ขอลองทำกุญแจ(ไขควง) มาช่วยกันลองพิจารณากัน

1ก.พื้นผิวของปุ่มฝ่าเท้าเรียบ ใบหูถูกปกคลุมด้วยขนจนมองไม่เห็น HB 147-265 มม.
สูตรนม1+1+2                                                                                                                         > อ้นเล็ก

1ข.พื้นผิวของปุ่มฝ่าเท้ามีปุ่มวงกลมเล็กๆ  ใบหูปรากฏให้เห็น            ---------------------------------------(2)

2ก.ปุ่มบนฝ่าเท้าเชื่อมต่อกัน HB 280-480 มม. สูตรนม 1+1+3                                                 > อ้นใหญ่
2ข.ปุ่มบนฝ่าเท้าไม่ได้เชื่อมต่อกัน HB 256-350 มม.                                                                 >อ้นกลาง

แต่ให้เดาคิดว่า น่าจะเป็น     อ้นกลาง    Hoary Bamboo Rat   (Rhizomys  pruinosus Blyth, 1851.)

ส่วนนกนั้น สนับสนุน ว่าเป็น เค้าโมงหรือเค้าแมว (เรียกได้ทั้งสองชื่อครับ)

...แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 2550 12:20:15

วรานุส [ 09 ต.ค. 2550 12:18:54 ]

ความคิดเห็นที่: 27

เริ่มสนุก
ขอบคุณคุณวรานุสมากๆ  ครับ
วันหลังรบกวนคุณยายอ้วนถ่ายฝ่าตีน
หรือบอกขนาดความยาวลำตัวด้วยนะครับ

พอกลับไปดูตำราอีกที คิดว่าอ้นกลางหรือเปล่าน้า....
รูปที่สองของคุณยายอ้วนเกือบเห็นฝ่าตีนน้องอ้นแล้ว
ดันเอาไปเกาหัวอีก อิอิ

ปีย์ [ 10 ต.ค. 2550 14:05:55 ]

ความคิดเห็นที่: 28

ยายอ้วนจะลงใต้ ไปหลังสวนช่วงสิ้นเดือนนี้ค่ะ
ไม่แน่ ถ้าพอมีเวลา จะไปถ่ายรูปน้องอ้นมาให้ดูอีกนะคะ

ยายอ้วน [ 11 ต.ค. 2550 00:53:07 ]