กระทู้-08486 : สัตว์ในป่าหิมพานต์

Home » Board » อื่นๆ

สัตว์ในป่าหิมพานต์

ขอเปิดกระทู้นี้เลยนะคะ
เห็นว่ามีคนสนใจ
ยายอ้วนก็รอ ร้อ รอ ให้คุณพี่หอยทากชรามาทั้งใหม่ ก็ไม่มาซักที
เลยตั้งไว้ก่อนเลยค่ะ

พี่หอยทากชรามาไวไว นะคะ
ยายอ้วน approve [ 13 ต.ค. 2550 01:08:46 ]
ความคิดเห็นที่: 1
สงสัยเจ้าแม่กุ้งเต้นจะมา มาม่า ซะก่อนมั้ง

ปูเสื่อนอนรออยู่นะขอรับ ก่อนออกทะเลอีกไม่กี่วันนี้แล้ว
knotsnake approve [ 13 ต.ค. 2550 01:20:39 ]
OthersPics_reply_46413.jpg
ความคิดเห็นที่: 2
ยายอ้วนขอเริ่มที่กินรีก่อนเลยนะคะ
ส่วนท่านใดที่ต้องการเพิ่มเติมความรู้ทั้งเรื่องกินรี หรือสัตว์ตัวอื่นๆ  เชิญโพสต์ได้ตามอัธยาศัยค่ะ


ในภาพเป็นภาพของรางวัลกินรี (คนข้างๆ  ยายอ้วนก็ได้กะเค้ามาตัวนึง)

กินรี และกินนร เป็นสัตว์ในป่าหิมพาน ร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ ท่อนล่างเป็นนก มีปีกบินได้ อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ เชิงเขาไกรลาศ

ในศาสนาพุทธ กินรี ได้ปรากฎอยู่ในทศชาติชาดก
คือสุวรรณสามชาดก กล่าวคือ เมื่อพระโพธิสัตว์ได้กำเนิดมาเป็นสุวรรณสาม
ยามที่นางปาริกาฤษิณีมารดา  และ ทุกูลฤษีบิดาต้องออกไปหาผลไม้ในป่า
ก็ต้องปล่อยให้สุวรรณสามนอนอยู่บนศาลา

เมื่อบิดา-มารดา ลับตาไป เหล่ากินรี ที่ซ่อนตัวอยู่ตามพุ่มไม้บนเขาสูง
(คงเป็นเขาไกรลาศอย่างในตำนาน: อันนี้ยายอ้วนสัณนิษฐานเอาเอง)
ก็อุ้มเอาสุวรรณสามขึ้นไปที่อาศรมของตน แล้วดูแลเลี้ยงดูเป็นอย่างดี
ทั้งให้นม ป้อนอาหาร อาบน้ำด้วยน้ำที่ใสสะอาด  ประดับดอกไม้ประแป้งให้
ก่อนจะนำมาคืนไว้ที่ศาลาดังเดิมก่อนที่บิดา มารดาจะกลับจากหาผลไม้


นอกจากนี้ กินรี ยังปรากฎเป็นตัวเอกในวรรณคดีไทยเรื่อง "พระสุธน มโนราห์"
เรื่องราวความรักต่างสายพันธุ์ระหว่างมนุษย์ "พระสุธน"
และนางกินรี "มโนราห์" ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายกว่าจะได้ครองรักกันอย่างมีความสุข
...แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 2550 01:34:42
ยายอ้วน approve [ 13 ต.ค. 2550 01:31:22 ]
ความคิดเห็นที่: 3
ท้าวความเดิมสักหน่อยเด้อ

ที่มาจาก:
                 อิสานบ้านเฮา>>ผักแขยง3ยอด>>แล้วต่อด้วยพิณหัวหงส์กะหัวพญาค>>ประวัติหัวหงส์หัวพญานาค>>ลงเอ่ยที่สัตว์ในตำนาน>>ที่ป่าหิมพานต์


         ok ครับรอชมต่อพี่น้อง!
electron approve [ 13 ต.ค. 2550 02:51:21 ]
ความคิดเห็นที่: 4
หมายความว่า   กินรี กะ มโนราห์ ตัวเดียวกันใช่รึป่าว คุณยายอ้วน
electron approve [ 13 ต.ค. 2550 02:57:52 ]
ความคิดเห็นที่: 5
ก่อนอื่นต้องขออภัยคุณยายอ้วนก่อน ด้วยว่า net ที่ทำงานถึงถูกแทงจำหน่ายไปหลายวันแล้วขอรับ ใช้ไม่ได้เลย ต้องมาแอบๆ  ใช้ข้างนอก เลยทำอะไรมิได้ ตอนนี้มันพอทำงานได้ ก็มาว่าต่อกันเลยขอรับ เดี๋ยวมันจะเจ๊งอีก
   ถ้าจะเท้าความสักนิดนึง สัตว์หิมพานต์นั้น จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้มี แต่บ้านเรา หลายๆ  ประเทศก็มีเช่น อินเดีย แถมยังมีตัวประหลาดๆ  กว่าเราอีก  แต่ของเรานั้นอาจจะเรียกได้ว่าสวยที่สุดด้วยว่าเราเอาลายไทยมาใส่ในตัวสัตว์ทำให้มีความอ่อนช้อยงดงามตามอย่างไทย  ถ้าจะว่าไปในอดีต ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็จะรู้จักสัตว์หิมพานต์จากวัด ก็เห็นจากภาพที่วาดตามผนังโบสถ์ วิหาร ซึ่ง เป็นภาพเขียนชาดก อันมีภาพป่าหิมพานต์ และสัตว์หิมพานต์ใส่ไว้ด้วยนั่นเอง  แต่ถึงกระนั้นภาพสัตว์หินพานต์ก็ยังมีจำนวนน้อยหรือมีเท่าที่กล่าวไว้ในวรรณคดีเท่านั้น ครั้นต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ ความคิดเรื่องสัตว์หินพานต์จึงได้ขยายกว้างขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้เกิดจากความจำเป็นที่จักต้องหาสัตว์แปลกประหลาดมาใช้ในกระบวนแห่พระบรมศพให้มากขึ้น กล่าวคือ  แต่เดิมนั้นทำ แต่พอจำนวนเจ้านายที่อุ้มผ้าไตรในกระบวนแห่ ครั้นภายหลังเปลี่ยนเป็นทำบุษบกวางไตรบนหลังรูปสัตว์นั้นๆ  แทน ทำให้ต้องเพิ่มรูปสัตว์ขึ้น ซึ่ง การที่เพิ่มนั้นจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่ ต่างก็เป็นเหตุให้นายช่างสมัยนั้นต้องคิดรูปสัตว์ให้แปลกใหม่ขึ้นไปอีก จึงได้จับเอาโน่นมาผสมนี่ รูปสัตว์แปลกๆ  จึ่งได้มีมากขึ้น แลอาลักษณ์ก็ต้องคิดชื่อสัตว์นั้นขึ้นมาใหม่ ซึ่ง  ถ้าจะว่าไปแล้ว บรรดาสัตว์ที่เรียกว่า "สัตว์หิมพานต์" นั้นอาจจะแยกออกได้เป็น 4 จำพวกคือ
  1.  เป็นสัตว์ตรงๆ
  2.  ลอกอย่างเขามา
  3. คิดขึ้นมาจากคำ
  4. ผสมเอาเองตามใจชอบ
หอยทากชรา approve [ 13 ต.ค. 2550 06:21:31 ]
OthersPics_reply_46434.jpg
ความคิดเห็นที่: 6
อย่างที่กล่าวมาแล้วในตอนต้นขอรับว่า สัตว์หิมพานต์นั้นมีเพิ่มมากขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่ง ประมาณกันว่าน่าจะเป็นในรัชสมัยของรัชกาลที่ 3  และ 4 เท่าที่มีบันทึกเป็นรูปภาพในสมุด เป็นภาพร่าง มีถึง 78 ตัว กระผมใคร่ขอนำเสนอรูปแลลักษณะของสัตว์พวกนี้เป็นปฐม แล้วจักค่อยขยายความตัวที่น่าสนใจอย่างพิศดารต่อไปเท่าที่ภูมิของกระผมจะมีขอรับ อ้อ ภาพประกอบได้มาจาก himmapan.com ซึ่ง เป็นภาพลายเส้น  ถ้าท่านใดสนใจก็เข้าไปติดตามเพิ่มเติมได้นะขอรัล ขอเริ่มจาก
 
      กิเลนไทย ลักษณะคล้ายสิงห์ เป็นกีบคู่ มีเขา 1 คู่ ไม่มีกิ่ง ตามลำตัวเป็นเกล็ด พื้นสีน้ำเงิน เกล็ดสีม่วง
หอยทากชรา approve [ 13 ต.ค. 2550 06:34:45 ]
OthersPics_reply_46435.jpg
ความคิดเห็นที่: 7
ตัวต่อมา กิเลนจีน พื้นสีเขียวคราม เท้าเป็นกีบเดี่ยว เขามีกิ่งเหมือนกวาง ตัวเป็นเกล็ด
หอยทากชรา approve [ 13 ต.ค. 2550 06:36:16 ]
OthersPics_reply_46436.jpg
ความคิดเห็นที่: 8
กิเลนปีก เจ้าตัวนี้ดูแปลกตากว่ากิเลนก่อนนห้า คือ ไม่มีเขา มีปีกคล้ายนก เท้าเป็นกรงเล็บ ซึ่ง ต่างจากสองชนิดก่อนหน้าที่เท้าเป็นกีบขอรับ
หอยทากชรา approve [ 13 ต.ค. 2550 06:39:31 ]
OthersPics_reply_46437.jpg
ความคิดเห็นที่: 9
กิหมี เจ้าตัวนี้ว่ากันว่าพื้นตัวสีเหลือง รูปร่างน่าจะเป็นสุนัข  แต่มีเคราแลขนคอเป็นพวง (อันนี้ไม่มีรูปประกอบขอรับ หนังสือที่มีอีกเล่มก็มีคนยืมไป ไว้หาภาพได้จักนำมาให้ชมกันขอรับ ขอผลัดไปก่อน)
   กบิลปักษา เป็นสัตว์ผมระหว่างลิง (กบิล) ห้ามพิมพ์ผิดเป็นสระ อึ นะขอรับ  และนก โดยมีหัว และตัวเป็นลิง มีปีก  และหางนก พื้นตัวดำ
หอยทากชรา approve [ 13 ต.ค. 2550 06:47:05 ]
OthersPics_reply_46438.jpg
ความคิดเห็นที่: 10
กรินทร์ปักษา สัตว์ผสมระหว่างช้าง กับนก ตัวเป็นช้าง ปีก และหางเป็นนก
หอยทากชรา approve [ 13 ต.ค. 2550 06:49:46 ]
OthersPics_reply_46439.jpg
ความคิดเห็นที่: 11
กาฬสีหะ ลางแห่งก็เรียก กาละสีหะ เป็นสิงห์หรือราชสีห์ชนิดหนึ่ง ตัวสีดำ น่าจะเรียกชื่อตามสีตัว เพราะ กาฬะ แปลว่า สีดำ
  แค่นี้ก่อนนะขอรับ net ทุรยศนักแล้ว ไว้มีเวลาจักมาใส่เพิ่มเติมขอรับ
...แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 2550 06:55:50
หอยทากชรา approve [ 13 ต.ค. 2550 06:54:23 ]
ความคิดเห็นที่: 12
#6 Ghilenus siamensis
#7 Ghilenus oligolepis
#8 Phasainoghilenoides acornis

ขออภัย ยังหาชื่อผู้ describe กับปี ไม่ได้ ใครทราบช่วยแจ้งด้วยเถิด
knotsnake approve [ 13 ต.ค. 2550 10:09:33 ]
ความคิดเห็นที่: 13
10#-  Birdia paraelephantipes
11#- Singha nox
Mb. approve [ 13 ต.ค. 2550 10:28:13 ]
ความคิดเห็นที่: 14
กินร กินรี น่าจะมีต้นแบบมาจากพวกนกน้ำ เช่น หงส์?..ส่วนครุฑน่าจะมีต้นแบบจากนกล่าเหยื่อ
แล้ว ม้านิลมังกร นี่เป็นพวกเดียวกับกิเลนหรือเปล่า? คล้ายกันมากเหมือนกันนะ หุห
ตัวในรูป 10 ยังมีอีกตัวที่คล้ายๆ กัน  แต่ไปทางนกมากกว่า คือนกหัสดีลิงค์

ส่วนตัวเหรา(ตัวเป็นจระเข้ หัวเป็นนาค)น่าจะมาจากเหี้ยชัวร์
...แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 2550 12:23:36
snakeeater approve [ 13 ต.ค. 2550 12:12:25 ]
ความคิดเห็นที่: 15
เห็นภาพในคห.7  แล้วนึกถึงม้านิลมังกร ของคุณสุดสาคร  ลูกชายพระอภัยมณีกับนางเงือก
mim4042 approve [ 13 ต.ค. 2550 13:22:36 ]
ความคิดเห็นที่: 16
 ถ้าจะตรวจสอบว่า #7 เป็นชนิดเดียวกับม้านิลมังกรหรือไม่นั้น คงต้องนับเกล็ดแนวเฉียงลำตัวน่ะขอรับ  แต่ ถ้าจำไม่ผิด ม้านิลมังกรจะมีเกล็ดที่โค้งมนแบบ cycloid  แต่ก็อาจกลายพันธุ์มาจาก G. olidolepis ยังไงคงต้องนับเกล็ดเปรียชบเทียบจะดีกว่า
...แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 2550 15:38:29
knotsnake approve [ 13 ต.ค. 2550 15:34:34 ]
ความคิดเห็นที่: 17
ม้านิลมังกร หางเป็นปลามิใช่ฤๅขอรับ
electron approve [ 13 ต.ค. 2550 15:50:57 ]
ความคิดเห็นที่: 18
อืม..เนอะ
knotsnake approve [ 13 ต.ค. 2550 16:10:56 ]
ความคิดเห็นที่: 19
กระผมให้หลากใจนักขอรับ วานผู้รู้ช่วยไขให้กระผมผู้เขลาได้ลุถึงพุทธิปัญญาอันประเสริฐเถิด อันว่าเหล่ากินนร แล นกอรหัน ฮั่นแตกต่างกันเยี่ยงไรขอรับ
กวิวัฏ approve [ 13 ต.ค. 2550 19:17:14 ]
ความคิดเห็นที่: 20
แสดงว่ากวีในอดีต..เยี่ยมยุทธเอาเรื่อง ผสมพันธุ์กันได้นัวเนียเลย..กลังคิดมันผสมพันธุ์กันยังไงเนี๊ยะครับ
ที่เหลืออยู่ในสวนสัตว์ ตัวผสมเสร็จ คงเหลือรอดมาจากหิมพานต์แน่ๆ เลย ที่แปลกเห็นแล้วทึ่งอีกอย่างคืลูกขงพระเจ้าห้าพระองค์ เคยลงทุนซื้อมาแงะเอาเมล็ดมาปลูก  .. แต่ไม่ขึ้น เสียตังค์ไป
Fisher approve [ 13 ต.ค. 2550 19:58:47 ]
ความคิดเห็นที่: 21
พี่ลุงหอย เอาเรื่องครุฑมาด้วยสิเจ้าคะ เผื่อเยี่ยงไร ให้คนในนี้ช่วยกันตัดสินผลการแข่งขัน

ชีวิตบนเส้นตายเปนทุกข์อย่างยิ่ง
ampelisciphotis [ 13 ต.ค. 2550 22:21:21 ]
ความคิดเห็นที่: 22
ตอบคุณ electron ในคห. 4 ก่อนนะคะ

กินรีในป่าหิมพานต์มีหลายตัวค่ะ

ในเรื่องของนางกินรีที่ชื่อมโนราห์นั้น
นางเป็นธิดาคนสุดท้องในบรรดา ธิดาทั้ง 7 องค์
ของท้าวประทุม นางจันทกินรี เจ้าเมืองกินนรที่เขาไกรลาศ
ยายอ้วน approve [ 13 ต.ค. 2550 22:34:52 ]
ความคิดเห็นที่: 23
ตั้ง แต่อ่านมาเพิ่งมีการกล่าวถึง"เขาไกรลาศ"อันเป็นที่สถิตย์ของ"ศิวะมหาเทพ" ส่วนนี้ก็น่าจะได้กล่าวถึง"หิมวันต์" หรือ "หิมพานต์" ได้ว่าอยู่บริเวณเชิงเขาไกรลาศนั่นเอง...  

หากโยงเข้าพุทธศาสนาคงต้องอ้างอิง"พระมหาชาติ" หรือ "เวสสันดรชาดก" ของทางพระพุทธศาสนาซึ่ง ได้กล่าวถึงไว้ใน"กัณฑ์หิมพานต์"คงจะมีเรื่องราว และเอกสารหลั่งไหลตามมาได้อีกมิใช่น้อย)

ว่ากันว่า"ผู้มีฤทธิ์"สามารถเข้าไปสู่ป่าหิมพานต์ได้โดยปลอดภัยจากสัตว์ต่างๆ เหล่านั้น   สำหรับ"ผู้ที่ฝึกตนมาดีแล้ว"อาจจะเข้าป่าหิมพานต์โดยใช้"ญาณ" เพื่อเข้าสู่มิติที่ซ้อนทับ(ผู้รู้บางท่านว่า "หิมพานต์" อยู่ใกล้ๆ กับยอด​เขา​เอเวอเรสต์บนเทือกเขาหิมาลัย(Himalaya)  แต่อยู่คนละมิติกัน) ในทางวิทยาศาสตร์อาจจะได้ลากเข้าสู่ปรากฎการณ์ความพลิกผันแห่งการณ์เวลา "Time Slip" ซึ่ง พาไปสู่ประตูแห่งมิติกาลเวลา อันจะพาเราไปเยี่ยมชม"ป่าหิมวันต์" ได้เหมือนกัน(เปิดทางไว้...เผื่อมีใครมาเปิดประเด็นเพิ่ม)

ใน"มหากาพย์รามายณะ" ที่ฤาษีวาลมิกิ​ ​ แต่งขึ้น​เป็น​ภาษาสันกฤต​ ​เมื่อประมาณ 2,400 ปีก่อนหน้านี้อาจจะกล่าวได้ว่าได้กล่าวหลายสิ่งอันเป็นประโยชน์ และหลายสิ่งที่เหมือนจะเหนือธรรมชาติไว้หลายเรื่อง เช่น ความรู้ทางด้านธรรมชาติ สมุนไพร การฝากกล่องดวงใจ การฝากถ่ายตัวอ่อน ตาทิพย์ การพยากรณ์  และการทำให้สัตว์ชนิดหนึ่งออกลูกเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งได้ ขนาดการกำเนิดแบบพรหมจรรย์ (parthenogenesis)ก็ยังถูกกล่าวไว้   ทั้งยังมีสัตว์แปลกๆ อันเป็นแรงจูงใจในการสร้างสัตว์ตัดต่อพันธุ์กรรมในอีกหลายพันปีต่อมา การเหาะเหิรเดินอากาศ  อาวุธมหาประลัยที่ใช้เพื่อสันติ และล้างโลก ​​แม้น แต่การหยุดเวลาก็มีกล่าวไว้ ฯ ลฯ  หากศึกษา และมีผู้ชี้แนะที่ดีแล้วนับว่าได้ความรู้ที่เป็นดัง"ทิพยสมบัติ"เห็นจะจริงเป็นมั่นเหมาะ

แต่ที่โชคดีกว่านั้น "Siamensis" ก็มีกระทู้พาเที่ยวป่าหิมพานต์(อย่างปลอดภัย)ด้วยเช่นกัน
...แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 2550 04:36:38
สุวรรณภูมิ approve [ 14 ต.ค. 2550 03:38:19 ]
OthersPics_reply_46536.jpg
ความคิดเห็นที่: 24
เห็นด้วยกับที่ท่านสุวรรณภูมิบอกแหละขอรับ ว่าจริงๆ  แล้วคนโบรารอาจจะมีจิตนาการหรือไม่ก็อาจจะรู้ (ก็ได้) จึ่งได้บอกกล่าวเล่าขานมาในรูปของนิทาน หรือปกรณ์ อย่างเช่น ในรามเกียรติ์ตอนกำเนิดองคตนั้น ตอนที่พระอาจารย์ทศกรรณ์ย้ายตัวอ่อนขององคตจากท้องนางมณโฑไปใส่ไว้ในท้องแพะนี่เป็นเรื่องพวกการถ่ายฝากตัวอ่อนหรือป่าวหว่า หรือว่าเรือสำเภายนต์ในเรื่องพระอภัยมณีนี่ก็อาจจะเป็นต้นแบบของเรือบินในปัจจุบัน  ถ้าจะว่ากันไปแล้วนักวิทยาศาสตร์เองก็อาจจะกำลังเดินตามฝันที่นักวรรณคดีได้ แต่งแต้มเรื่องราวเอาไว้ก็ได้ เช่น เรื่องการมีมนุษย์ต่างดาวบนดาวอังคารนำไปสู่การบุกเบิกสำรวจอวกาศ เป็นต้นขอรับ เรื่องเหล่านี้น่าสนใจเป็นยิ่งนักไว้ค่อยมาเล่าสู่กันฟังในวาระอื่นเถิด
  สำหรับคำถามของท่าน กวิวัฏ ที่ว่า ตัวกินนร กับตัวอรหัน นั้นต่างกันอย่างไร กระผมคงบอกได้แค่ว่า กินนรนั้น เป็นครึ่งคนครึ่งนก  ถ้าตัวเมียก็เรียกว่ากินนรี ที่มาของคำนี้เองก็ยังไม่ชัดเจน ด้วยว่าแม้ แต่ปราชญ์ท่านหนึ่งของไทย ก็ทรงมีพระราชวินิจฉัยไว้ว่า น่าจะมาจากคำว่า กึง ที่เป็นว่า ตัวอะไรก็ไม่รู้ เว้นเรื่องที่มาของคำไว้เสียเถิด มาว่ากันต่อ ว่ากันว่ากินนรเองก็มีหลายกลุ่ม เช่นกินนรทั่วๆ  ไป  และเทพกินนร ซึ่ง กลุ่มนี้ถือว่าเป็นกินนรชั้นสูง  ถ้าในภาพวาดหรือรูปปั้นมักจะถือพระขรรค์ไว้ในมือ กินนรมีท่อนบนเป็นคน ท่อนล่างเป็นนก มีมือ มีปีก นัยว่าถอดปีกได้ อย่างในเรื่องมโนราห์ไงขอรับ ส่วนตัวอรหัน อ่านว่า ออ-ระ-หัน  เจ้าตัวนี้ไม่มี ต เต่าการันต์ ส่วน พระอรหันต์ อ่านว่า อะ-ระ-หัน ซึ่ง ส่วนใหญ่ออกเสียงกันผิดขอรับ เจ้าสัตว์ตัวนี้ก็ครึ่งคนครึ่งนกเหมือนกัน แต่เพียง แต่ว่า เจ้าตัวนี้หน้าเป็นคนตัวเป็นนกขอรับ มี variation หรือไม่ก็ species พอสมควร อย่างในภาพก็เป็นแบบนึงที่วัดพระแก้วก็เป็นอีกแบบนึง ภาพที่เอามาให้ดูมาจาก www.skn.ac.th/skl/project/animal/h9.htm  ขอรับ
 ส่วนเรื่องม้านิลมังกรนั้น นัยว่าสุนทรภู่ท่านได้ไอเดียมาจากการเอาม้าอาหรับมาผสมกับมังกรจีนอะไรทำนองนี้ รายละเอียดไว้ค้นเอกสารเจอจักนำมาเล่าสู่กันฟังต่อไปขอรับ
 มาต่อเรื่องสัตว์หิมพานต์กันต่อดีกว่าขอรับ กระผมจักพยายามนำเสนอเจ้าตัวที่มีอยู่ในสมุดลายเส้นไทยจำนวน 78 ตัว ให้ได้มากที่สุดนะขอรับ  แต่คงไม่ครบทุกตัว เอาเท่าที่มี และท่านใดมีมาเพิ่ม ช่วยๆ  กันเติม แต่งต่อไปขอรับ
หอยทากชรา approve [ 14 ต.ค. 2550 07:08:54 ]
OthersPics_reply_46537.jpg
ความคิดเห็นที่: 25
ต่อนะขอรับ เริ่มด้วย นกกาเวก  หรือ การวิก เป็นนกที่ได้ชื่อว่าเสียงไพเราะจับใจกว่าสัตว์ทั้งหลาย ตามเรื่องบุราณกล่าวไว้ว่า เสียงของนกการเวกนั้นแม้ แต่สัตว์ด้วยกันยังนิยมชมชอบ ลักษณะทั่วไปของนกการเวก ได้แก่
      -  มีหัว และเท้าเหมือนครุฑ
      -  มีปีกอยู่สองข้างของตะโพก หรือบางที่ก็วาดให้ปีกอยู่ที่ไหล่
      -  ขนหางมีลักษณะคล้ายใบมะขาม และยาวอย่างนกยูง
หอยทากชรา approve [ 14 ต.ค. 2550 07:25:34 ]
OthersPics_reply_46538.jpg
ความคิดเห็นที่: 26
ตัวต่อมากุมภีนิมิต เป็นครึ่งเทพครึ่งจระเข้ พื้นตัวสีขาว เท้า และหางสีม่วงแก่ ท่อนบนเป็นเทพท่อนล่าง และหางเป็นจระเข้ ไม่แน่ใจว่าจะ classify อยู่ใน class ใดดี ต้องรอผู้รู้มาบอกขอรับ
หอยทากชรา approve [ 14 ต.ค. 2550 07:28:00 ]
OthersPics_reply_46539.jpg
ความคิดเห็นที่: 27
ตามด้วย เกสรสิงหะ หรือกาสรสิงหะ เป็นสัตว์ผสม ระหว่างราชสีห์ กับสัตว์ประเภทวัวควาย กาสรสิงหะมีผิวกายสีนกเขา (สีเทา) ร่างเป็นแบบสิงห์  แต่มีเท้าเป็นกีบเหมือนเท้าควาย ไม่ได้เป็นเล็บต่างจากไกสรราชสีห์
หอยทากชรา approve [ 14 ต.ค. 2550 07:31:55 ]
OthersPics_reply_46540.jpg
ความคิดเห็นที่: 28
ไกสรนาคา เป็นสัตว์ผสมระหว่างสิงห์กับนาค พื้นสีน้ำเงินอ่อน ตัวเป็นสิงห์ หัว และหางเป็นนาค มีเกล็ดทั้งตัว
หอยทากชรา approve [ 14 ต.ค. 2550 07:33:58 ]
OthersPics_reply_46541.jpg
ความคิดเห็นที่: 29
ไกรสรปักษา  เป็นสัตว์ผสมระหว่างสิงห์กับนก.กายสีเขียวอ่อน (สีตองอ่อน) หัวเป็นเหมือนพญาอินทรี ตัวเป็นดั่งราชสีห์ แต่มีเกล็ดคลุม และปีกเหมือนนกอีกด้วย สรุปง่ายๆ  ว่า ตัวเป็นสิงห์ แต่มีเกล็ด หัว และปีกเป็นนกขอรับ
หอยทากชรา approve [ 14 ต.ค. 2550 07:35:53 ]
OthersPics_reply_46542.jpg
ความคิดเห็นที่: 30
ไกรสรจำแลง พื้นสีม่วงอ่อน มีหัวแบบมังกร  และมีร่างเป็นราชสีห์ (สิงโต) จิตรกรบางท่านเรียกไกรสรจำแลงว่า "ไกรสรมังกร" ซึ่ง มีความหมาย ตรงตัวว่ามังกรสิงห์ ตรงตามตัวเลยขอรับ
   แค่นี้ก่อนนะขอรับ ไว้มีเวลาจักมาเพิ่มเติมต่อ
...แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 2550 07:38:26
หอยทากชรา approve [ 14 ต.ค. 2550 07:37:41 ]
ความคิดเห็นที่: 31
#24 คิดเหมือนผมเลย เรื่ององคต คือสิ่งมีชีวิตตัวแรกที่ทำ Embryo Transfer !
#29 สายพันธุ์เดียวกับกริฟฟินหรือเปล่า :)
...แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 2550 13:24:04
snakeeater approve [ 14 ต.ค. 2550 13:21:15 ]
ความคิดเห็นที่: 32
แล้วอย่างไซเรนอ่ะคับ ถือว่าเป็นกินนรีหรือป่าว แล้วประเทศห่างกันขนาดนี้ทำไมถึงมีอะไรคล้ายกันได้ทั้งที่เมื่อก่อนก็ยังไม่เคยเดินทางไปมาซะหน่อย
winpa [ 14 ต.ค. 2550 13:28:38 ]
ความคิดเห็นที่: 33
 ถ้าจำไม่ผิด สัตว์ที่อยู่ในสวนขวัญของพระอิศวรบนเขาไกรลาสล้วนเป็นเพศเมียทั้งหมดใช่ไหมครับ?
Mb. approve [ 14 ต.ค. 2550 13:39:23 ]
ความคิดเห็นที่: 34
สนุกมากเลยครับพี่หอยทากชราพาเที่ยวป่าหิมพานต์
หอยงวงท่อ approve [ 14 ต.ค. 2550 17:04:47 ]
ความคิดเห็นที่: 35
มาอ่านเพียงอย่างเดียวเลยครับ รูปสวยมากเลยขอบคุณครับ
JJ approve [ 14 ต.ค. 2550 18:12:02 ]
ความคิดเห็นที่: 36
ขอบคุณ คุณยายอ้วนมากๆ ขอรับ
electron approve [ 14 ต.ค. 2550 20:54:32 ]
ความคิดเห็นที่: 37
วันก่อนกลับบ้าน อ่านนิทานให้หลานฟัง เจอะเรื่อง การกำเนิดแบบพรหมจรรย์ (parthenogenesis) ในเรื่องสุวรรณสาม (หนึ่งในสิบชาติก่อนจะมาเป็นพระพุทธเจ้า) ว่าสุวรรณสามก็ถือกำเนิดมาโดยกระบวนการนี้เช่นกัน (อธิบายแล้วหลานตูจาเข้าใจไหมหว่า)

ว่า แต่รวบรวมรายชื่อสัตว์หิมพานต์ได้แล้ว นิมนต์ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์มีกระดูกสันหลังมาทำคีย์จำแนกดีไหม เผื่อลูกเด็กเล็กแดงจักเอาไปใช้ได้บ้าง เหอๆๆๆๆๆ
ampelisciphotis approve [ 15 ต.ค. 2550 00:21:53 ]
ความคิดเห็นที่: 38
เขียนกันสัก paper ก็ดีนะครับเนี๊ย เหอ เหอ
นณณ์ approve [ 15 ต.ค. 2550 11:36:05 ]
ความคิดเห็นที่: 39
ผมให้ข้อสรุปดังนี้ สิงห์ เป็นสัตว์ที่มั่วมากครับ
ผสมได้ทุกเหล่าพันธุ์
madmang approve [ 15 ต.ค. 2550 18:22:00 ]
ความคิดเห็นที่: 40
งั้นก็หมายความว่า การกำเนิดของพระเยซูคริสต์ นั้น คือการกำเนิดแบบพรหมจรรย์ (parthenogenesis)
ด้วยใช่หรือเปล่าคะ
ยายอ้วน approve [ 15 ต.ค. 2550 21:02:50 ]
ความคิดเห็นที่: 41
ตอบคำถามคุณยายอ้วน(จาก #40) การกำ​เนิดของพระ​เยซูคริสต์​มิได้เรียกว่าการถือกำเนิดแบบพรหมจรรย์(parthenogenesis) ครับ

ด้วยภูมิปัญญาในปัจจุบันคงจะต้องเรียกว่าเป็น "การถือกำเนิดของพระศาสดา"​ (The Nativity of Jesus)​ มากกว่า กระมัง

สำหรับศาสดาในพระพุทธศาสนา การประสูติขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นการถือกำเนิดของมหาบุรุษผู้ที่ประกอบมหาบุญบารมีกำเนิดมาพร้อมแสงสว่างอันโอฬารจนหาประมาณมิ​ได้  การถือกำเนิด​ในภพภูมิ​ที่​ทำประ​โยชน์สูงสูด แก่ เทพ อินทร์ พรหม สัตว์ มนุษย์ อมนุษย์ เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน หากจักจำแนกด้วยภูมิปัญญาในกาลปัจจุบันอาจจะกล่าวได้ว่าเป็น"การถือกำเนิดของพระศาสดาผู้ชี้ทางสว่างเพื่อหลุดพ้นจากกฎแห่งกรรม"
...แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 2550 08:43:05
สุวรรณภูมิ approve [ 16 ต.ค. 2550 08:38:01 ]
ความคิดเห็นที่: 42
อย่าง #๓๗ - ๓๘ ว่า

แล้วเสร็จคงได้รับรางวัลใหญ่

.

.

.

.

ระดับ Ig-Nobel Prize
หนานโตน approve [ 16 ต.ค. 2550 16:58:56 ]
ความคิดเห็นที่: 43
โอ้ว นึกว่ารางวัล Micty Price (มิกตี้ไพรซ์- ไม้ตีพริก)
ampelisciphotis approve [ 16 ต.ค. 2550 22:55:17 ]
OthersPics_reply_46881.jpg
ความคิดเห็นที่: 44
เว้นว่างไปเสียหลายเพลา มายลสัตว์หิมพานต์กันต่อขอรับ เริ่มจาก
   ไกสรคาวี เป็นสัตว์ผสมระหว่างสิงห์กับวัว โดยมีช่วงหัวเป็นวัว มีร่างกายเป็นสิงห์  แต่ก็มีจิตกรบางท่านวาดให้มีม้ามาผสมเพิ่ม กล่าวคือ หัวเป็นวัวมีเขา ตัวเป็นสิงห์  และมีหางเป็นม้า อืม... ผสมข้าม 3 species เจียว อย่าได้ดูเบา
หอยทากชรา approve [ 18 ต.ค. 2550 20:10:39 ]
OthersPics_reply_46883.jpg
ความคิดเห็นที่: 45
ราชสีห์ หรือสิงห์ ซึ่ง ในป่าหิมพานต์นั้นมี 4 ชนิด ได้แก่ ไกสรสีหะ ติณสีหรือติณราชสีห์ กาฬสีหะ  และ บัณฑุสีหะหรือบัณฑุสุรมฤคินทร์ มาดูทีละตัวกันดีกว่าขอรับ
    ไกสรสีหะ มีริมฝีปาก หาง  และเท้าเป็นสีแดง ตั้ง แต่ศีรษะลงไปตลอดถึงหลัง มีลายสีแดงพาด 3 แถว  และวนรอบๆ  ตะโพก 3 รอบ ที่ต้นคอมีขนคลุมลงมาตั้ง แต่บ่ามีสีเหลืองเหมือนผ้ากำพล ส่วนร่างกายที่เหลือนอกจากนี้เป็นสีขาวทั้งหมด กินเนื้อเป็นอาหาร
หอยทากชรา approve [ 18 ต.ค. 2550 20:22:08 ]
OthersPics_reply_46885.jpg
ความคิดเห็นที่: 46
ตัวต่อมา ติณสีหะหรือติณราชสีห์ ร่างกายมีสีแดงเหมือนดั่งขานกพิราบ  และมีขนาดเท่ากับวัวหนุ่ม กินหญ้าเป็นอาหาร ลักษณะเด่นอีกประการของสิงห์ชนิดนี้ คือมีเท้าเป็นกีบแบบกีบม้า
หอยทากชรา approve [ 18 ต.ค. 2550 20:25:06 ]
OthersPics_reply_46886.jpg
ความคิดเห็นที่: 47
บัณฑุสีหะหรือบัณฑุราชสีห์ หรือบัณฑุสุรมฤคินทร์ [url][/url]มีผิวกายสีเหลือง และ เป็นสัตว์กินเนื้อ  และใหญ่เท่ากับวัวหนุ่ม
   ส่วนกาฬสีหะ เคยนำมาให้ยลแล้วคงมิกล่าวซ้ำ อ้อ ลืมบอกไปขอรับ 4 สิงห์นี้จัดว่าเป็นสิงห์แท้ ส่วนสิงห์อื่นที่นำเสนอก่อนหน้าเป็นพวกสิงห์ผสมขอรับ
หอยทากชรา approve [ 18 ต.ค. 2550 20:28:59 ]
OthersPics_reply_46887.jpg
ความคิดเห็นที่: 48
ปิดท้ายวันนี้ด้วย คชปักษา พื้นสีขาว และหางเป็นนกคล้ายหงส์ ลำตัวท่อนอก และแขนคล้ายครุฑ หัวมีงวง และงาแบบช้าง

  ไว้มีเวลาจักนำสัตว์ตัวอื่นๆ  มาให้ยลขอรับ
หอยทากชรา approve [ 18 ต.ค. 2550 20:36:21 ]
ความคิดเห็นที่: 49
คุณหอยทากชราพูดให้ฟังรู้สึกเป็นงง งง ได้ดูรูปประกอบด้วยค่อยเข้าใจหน่อย  ว่า แต่ป่าหิมพานต์นี่หน้าตาเป็นอย่างไรนะขอรับมีภาพประกอบบ้างไหม  ขอบคุณครับ
ลำพะเนียง approve [ 19 ต.ค. 2550 10:46:42 ]
ความคิดเห็นที่: 50
จิตรกรรมฝาผนัง "วัดสุทัศน์เทพวราราม" น่าจะใช้อ้างอิง"ป่าหิมพานต์" ได้ไหมครับ?
(หากกล่าวถึงงานจิตกรรมก็คงจะต้องเพิ่มตำราของอาจารย์​โชติ​ ​กัลยาณมิตร​ ก็เหมาะก็ควรยกไว้ในที่นี้ด้วยอีกเล่ม )

เท่าที่ค้นหาข้อมูลได้ มีคัมภีร์ และตำรามากมายได้กล่าวถึงเขาไกรลาศ ชมพูทวีป  และป่าหิมพานต์ ที่สำคัญๆ  มีดังนี้ (เพื่อเป็นแนวทางศึกษาเพิ่มเติมต่อไป)

ปหาราทสูตร
อรรถกถาฉัททันตชาดก
อรรถกถากุณาลชาดก
อรรถกถาเวสันดรชาดก
อรรถกถาโปตลิยสูตร
คัมภีร์โลกบัญญัติ
คัมภีร์โลกุปปัตติ
อรุณวดีสูตร
คัมภีร์สารัตถสังคหะ
ไตรภูมิพระร่วง หรือนามเดิมว่า "เตภูมิกถา"​ ​หรือ "​ไตรภูมิกถา" ก็เป็นตำราอันสำคัญยิ่ง
Study of Sources of Tribhum Praruang by Dr.Niyada Lausoonthorn

ู(อาจจะหยิบยกมาไม่ครบถ้วนกระบวนความ ด้วยเหตุอ่อนพรรษาแลความรู้ยังบกพร่องอยู่มาก)

เมื่อ... ธรรม ศาสตร์ แลศิลป์ มารวมเป็นหนึ่งเดียว หากกาลอันเหมาะอันควรมาเถิง​เครื่องเตือนสติเหล่านี้จักมีผู้รู้สภาวะธรรม​ได้​มาอรรถาธิบายขยายความให้ทราบยิ่งๆ ขึ้น ​ในกาลต่อไป
...แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 2550 15:15:10
สุวรรณภูมิ approve [ 19 ต.ค. 2550 12:31:29 ]
ความคิดเห็นที่: 51
ผมกำลังทำวิจัยวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับป่าหิมพานต์อยู่ครับ

ศึกษามานานพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นภาพที่ชัดเจน หรือข้อความที่ระบุสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ หรือบรรยากาศที่แน่นอนของป่าหิมพานต์ หากใครพอจะอธิบายได้ รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ จะขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
Hydrogen [ 22 ต.ค. 2550 04:59:40 ]
ความคิดเห็นที่: 52
ด้วยสงสัยว่าคุณ Hydrogen ได้พิจารณาไตรภูมิกถาแล้วรึยังครับ?
สุวรรณภูมิ approve [ 22 ต.ค. 2550 13:28:51 ]
ความคิดเห็นที่: 53
กระผมก็เห็นด้วยกับท่านสุวรรณภูมิขอรับ ลองทัศนาไตรภูมิกถาดู กระผมว่าน่าจะพอเห็นภาพได้ในระดับนึงนะขอรับ อ่านๆ  แล้วก็มีเรื่องน่าสนใจหรือเอามาเกี่ยวโยงกันได้พอสมควร อันนี้หมายรวมถึงเทวปกรณ์อย่างอื่น ด้วยนะขอรับ เช่น องค์อัมรินทร์ กับไทซากุเทน  และมหาเทพซีอุส อาจจะมีความเกี่ยวข้องกันก็ได้ ด้วยว่าต่างก็อยู่บนยอดเขาเหมือนกัน โดย ท่านองค์อัมรินทร์เราอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์  ซึ่ง ตามไตรภูมิก็ว่ามีความสูงเท่ากับยอดเขาพระสุเมรุ มี 33 องค์ โดยมีหัวหน้าชื่อท้าวมัฆวาน มีเมือง 33 เมืองด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้สวรรค์ชั้นนี้จึ่งเรียกว่า ตาวติงสาภูมิหรือ ดาวดึงส์ ซึ่ง แปลว่า 33 ส่วนท่านไทซากุเทนเอง บ้างก็ว่ามี 33 องค์ บ้างก็ว่ามี 33 ชื่อ มีวิมานอยู่บนยอดเขาเช่นกัน ส่วนท่านมหาเทพซีอุสเองก็มีวินานอยู่บนยอดเขาโอลิมปัส อันเป็นที่มาของชื่อกีฬาโอลิมปิค  และทั้งสามองค์ต่างก็ใช้วชิระ หรือสายฟ้า เป็นเทพศาสตราวุธเหมือนกันอีกด้วย อืม... น่าสนใจหาข้อมูลต่อยิ่งนัก
  ว่า แต่ว่าเบื่อเรื่องสัตว์หิมพานต์หรือยังขอรับ  ถ้ายังจักได้มานำเสนอต่อ ด้วยว่าตกหน้าไปแล้ว จะตั้งกระทู้ใหม่ หรือว่าเยี่ยงไรขอความเห็นท่านๆ  ด้วยขอรับ จักได้น้อมสนอง
...แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 2550 22:05:01
หอยทากชรา approve [ 22 ต.ค. 2550 20:11:26 ]
ความคิดเห็นที่: 54
สำหรับผู้สนใจ...นะครับไตรภูมิกถา ​อธิบายลักษณะ​ ​ป่าหิมพานต์​ ​ชมพูทวีปเก็บ​ความ​ได้​ดังนี้
(ต้นฉบับอันจารไว้ในใบลานถูกเก็บรักษาไว้อยู่ที่หอสมุดแห่งชาตินะครับ ทั้งที่จารด้วยอักษรขอม และเป็นอักษรจารในสมัยอยุธยา เป็นสำนวนเก่างดงามยิ่งนัก)
สุวรรณภูมิ approve [ 22 ต.ค. 2550 22:02:58 ]
ความคิดเห็นที่: 55
เรียนคุณ Hydrogen

ลองเข้าไปในเวบไซด์ที่พี่หอยทากชรานำภาพมาให้ดูค่ะ
จะมีคำอธิบายเกี่ยวกับป่าหิมพานต์
หรือค้นหาในเน็ตก็พอจะช่วยได้

แต่ ถ้าจะได้ดีจริงๆ  
ลองไปค้นวรรณกรรมที่มีต้นเรื่อง หรือราก มาจากอินเดียที่มีเรื่องป่าหิมพานต์ดูนะคะ
ยายอ้วน approve [ 25 ต.ค. 2550 02:34:40 ]
ความคิดเห็นที่: 56
ขอความเห็นคุณยายอ้วนหน่อยขอรับ ด้วยว่าเป็นโต้โผเรื่องเนี้  เห็นควรจะ post ภาพสัตว์ต่อไป หรือว่าพอแค่นี้ดี ด้วยว่ากระทู้ตกหน้าแหล่ว หรือว่าขึ้นกระทู้ใหม่ ด้วยว่า ข้อมูลที่มีนั้น มีบางส่วนที่ต่างไปจากใน web ที่ใช้อ้างอิงรูปน่ะขอรับ
หอยทากชรา approve [ 25 ต.ค. 2550 08:08:25 ]
ความคิดเห็นที่: 57
ขึ้นกระทู้ใหม่เถอะครับคุณหอยทากชรา  แหมกำลังติดตามอยู่เลย
ลำพะเนียง approve [ 25 ต.ค. 2550 10:15:17 ]
ความคิดเห็นที่: 58
เปิดกระทู้ใหม่ก็ดีเหมือนกันครับ
สุวรรณภูมิ approve [ 25 ต.ค. 2550 13:11:43 ]
ความคิดเห็นที่: 59
อืม............นะครับ                    
เนดี้ [ 26 พ.ย. 2550 19:11:02 ]
ความคิดเห็นที่: 60
ดีจังครับบอดนี้ ยิ่งอ่านยิ่งชอบ
atom m.3 [ 12 ธ.ค. 2550 21:25:22 ]
jadedragon1992@hotmail.com
ความคิดเห็นที่: 61
llllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllllสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
fddd [ 23 ม.ค. 2551 12:37:41 ]
eee@hotmail.com
ความคิดเห็นที่: 62
กล่าวมาว่ามีสัตว์เทะทั้ง4ปกครองดินแดนหมิพานต์(ไม่มีรูปนะ) 1.ทิศอุดรผู้ปกป้องสัตว์เทพตระกูลนก 2.ทิสทักสินผู้ปกครองคือสัตว์เทะตระกูลนาก(ก.หรือค.จำไม่ได้)  3.ทิศบรูพาผู้ปกครองสัตว์เทพตระกูลไม้ 4.ทิศประจิมผุ้ปกครองคือสัตว์เทะตรักูลแมว
จัน [ 13 เม.ย. 2551 21:05:30 ]
northtyly@hotmail.com
ความคิดเห็นที่: 63
อยากเห็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ตัวจริงจังเลยค่ะ    ถ้ามีช่วยถ่ายภาพมาให้ดูด้วยนะคะ
นักปราชญ์ [ 19 เม.ย. 2551 14:16:00 ]
ความคิดเห็นที่: 64
สัตว์ในป่าหิมพานต์สุดยอด
yoyo [ 14 มิ.ย. 2551 12:03:05 ]

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org