ความคิดเห็นที่: 1
แรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายปลอมแปลงเอกสารทางราชการ
นายแนบ(นายหนึ่ง) แรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย อายุ 20 ปี สูงประมาณ 164 ซม. หนักประมาณ 51 กก. เพศชาย รูปร่างตัวเล็ก มีรอยสักที่ต้นแขนทั้งสองข้าง ตรงหน้าอกด้านขวามีรอยสักเป็นรูปมังกรมีปีกเกาะบนแก้วไวน์แดง นายแนบได้ใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาวุฒิการศึกษา ในชื่อ นายวรรณภพ เพียงแก้ว ที่อยู่ 11 หมู่ 3 ตำบลวังแสง อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม เพื่อแอบอ้างว่าตนเป็นคนไทย และเป็นแก๊งขโมยบัตรประจำตัวประชาชนของคนไทยเพื่อปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชน แล้วขายให้กับแรงงานต่างด้าวทั้งผิดกฎหมาย และถูกกฎหมาย นายแนบจะนำบัตรที่ได้มาให้กับเพื่อนร่วมแก๊งที่เปิดร้านถ่ายเอกสารอยู่แถวเดอะมอล์บางกะปิไปปรับเปลี่ยนรูปใหม่ให้ตรงกับรูปใบหน้าของลูกค้า และปรับเปลี่ยนวันออกบัตร วันหมดอายุบัตร แล้วนำไปให้ลูกค้าตามที่สั่ง โดยนายแนบได้ให้นางจอง วงศ์สิม หรือชื่อเล่น สา มีความสัมพันธ์กับนายแนบคือ พี่สะใภ้ ให้เปิดบัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชีนางจอง วงศ์สิม สาขา เซ็นทรัลวงศ์สว่าง ให้กับนายแนบเพื่อใช้ในการเก็บเงินที่ได้จากการขายบัตรประจำตัวประชาชนปลอมให้กับแรงงานต่างด้าว จนมีฐานะทางบ้านร่ำรวย
น.ส.วี แรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวมีบัตรอนุญาติทำงานสีเขียว หมดอายุเดือนมิถุนายน 2551 และหนังสือเดินทางผ่านการพิสูจน์สัญชาติ ทำงานอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ อายุประมาณ 23 26 ปี เบอร์โทรศัพท์ 089-4577502 ดีเทค จดทะเบียนในชื่อ ขวัญเรือน ดอกพิกุล อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดย น.ส.วีเป็นแก๊งขโมยบัตรประจำตัวประชาชนของคนไทยเพื่อปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชน แล้วขายให้กับแรงงานต่างด้าวทั้งผิดกฎหมาย และถูกกฎหมาย โดยมีหนึ่งในผู้เสียหายซึ่ง เป็นเจ้าของบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อนางสุมิตรา สมบุญ ที่อยู่ 12 หมู่ที่ 5 แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ซึ่ง คุณสุมิตรา สมบุญ ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้สถานีตำรวจภาษีเจริญ ในเดือนตุลาคม 2550 เพื่อเป็นหลักฐานไว้หากเกิดความเสียหายแก่ตนเอง และ นางอมรรัตน์ จังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงบุคคลอื่นๆ ที่ไม่ทราบว่าบัตรของตนถูกขโมยโดยแก๊งขโมยบัตรแก๊งนี้ และแก๊งนี้ยังมีผู้ร่วมขบวนการโดยมีร้านถ่ายเอกสารรับทำบัตรประจำตัวประชาชน เปลี่ยนรูป ,เปลี่ยนวันออกบัตร , เปลี่ยนวันบัตรหมดอายุบัตร ฯ ลฯ ตั้งอยู่แถวเดอะมอล์บางกะปิ
ปัจจุบันนายแนบทำงานอยู่กับนายเอกพี่ชายโดยมีคนไทยที่ให้ที่พักพิงปิดบังซ่อนเนแรงงานเถื่อนเหล่านี้ ที่ทำงานของนายเอกจะมีคนงานชาวลาว และชาวไทยโดยนายเอกปลอมแปลงเอกสารทางราชการเพื่อแอบอ้างว่าตนเองเป็นคนไทย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่บ้านของภรรยานายเอกที่อยู่ในซอยปานทิพย์ ถ.วงศ์สว่าง บางซื่อ กรุงเทพฯ ไม่พบตัว แต่อย่างใดคาดว่าแรงงานเถื่อนพวกนี้ไหวตัวทัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบหาเบาะแสต่อไปเพื่อจะจับกลุ่มแรงงานเถื่อนเหล่านี้มาลงโทษตามกฎหมายบ้านเมืองของเรา บ้านที่อยู่ในซอยปานทิพย์ ถ.วงศ์สว่าง เป็นที่อยู่ของแรงงานต่างด้าวชาวลาวพวกนี้ ยังมีภรรยา และลูกสาวของนายเอกอยู่ในซอยนี้คาดนายเอก และกลุ่มแรงงานต่างด้าวพวกนี้จะต้องหลบหนีไปไม่ไกล โดยทางตำรวจได้สอบปากคำพี่สาวนางจอง วงศ์สิม ว่ารู้จักนางจอง วงศ์สิม ไหม แต่ทางพี่สาวของนางจอง วงศ์สิม ได้ให้การว่าไม่รู้จักนางจอง วงศ์สิม แต่อย่างใด ไม่ทราบว่าเป็นใคร ซึ่ง จริงๆ แล้วเป็นน้องสาวของตัวเองแท้ๆ กลับให้การว่าไม่รู้จัก และบ้านก็อยู่ใกล้กัน บอกว่าไม่รู้จักกัน ทำงานก็ทำด้วยกัน ซึ่ง เป็นพฤติการช่วยกันปิดบังซ่อนเร้นกลัวคนอื่นรู้ว่าน้องเขยเป็นต่างด้าวสัญชาติลาวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย และมีส่วนช่วยในการปลอมแปลงบัตรประจำตัวปลอม นายแนบหลังจากทำงานอยู่ในจังหวักสมุทรปราการกับพี่สาวของนางจอง วงศ์สิม ในตำบลบางปู สมุทรปราการ ในเดือนกันยายน ถึง เดือนพฤศจิกายน 2550 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการทราบว่ามีแรงงานเถื่อนเข้ามาทำงานก่อสร้างในพื้นที่ตำบลบางปู สมุทรปราการ นายแนบจึงได้หนีกลับมาทำงานกลับนายเอกพี่ชาย และนางจองพี่สะใภ้ ที่บางซ่อน ต่อมาทางตำรวจได้เข้าไปค้นบ้านแล้วไม่พบเพราะกลุ่มแรงงานเถื่อนนี้ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ทำงานในเขตบางซ่อน ทางตำรวจต้องการตัวนายแนบอย่างมากเพื่อจะขยายผลจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิด กลุ่มแรงงานเถื่อนนี้มีคนไทยซึ่ง เป็นญาติทางภรรยาคอยช่วยเหลือหาที่หลบซ่อนตัวให้ ซึ่ง ถ้าใครมีเบาะแสโปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ 24 ชม. ทางตำรวจมีรางวัลสำหรับผู้แจ้งเบาะแส 20 % หลังสิ้นสุดคดี คนไทยเราต้องช่วยกันอย่าปล่อยคนลาวลอยนวล เข้ามาประเทศของเราแทนที่จะปฏิบัติตนเป็นคนดี และกลับเข้ามาเพื่อก่อความวุ่นวายให้กลับสังคมไทย
ทางพี่สาวของนางจอง กระทำการข่มขู่ข้าพเจ้า และกระทำการสาระพัดให้ข้าพเจ้าเลิกร้องเรียน โดยได้มาแจ้งแก่ทางมหาวิทยาลัยของข้าพเจ้ากะจะให้อาจารย์ทำโทษข้าพเจ้าซึ่ง เรื่องนี้เป็นคดีอาญาที่กลุ่มของพวกเขาเป็นผู้กระทำผิดกันเอง อาจารย์จึงไม่ว่าอะไรแก่ข้าพเจ้า และได้มาข่มขู่ข้าพเจ้าถึงหอพัก ข้าพเจ้าจึงแจ้งยังเจ้าของหอพักทราบแล้ว และข้าพเจ้าได้แจ้งความไว้หากข้าพเจ้าเป็นไรไป พี่สาวของนางจองซึ่ง เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างร้อนตัวอย่างเห็นได้ชัด ถ้าไม่ผิดก็ไม่เห็นว่าจะมีผลกระทบใดเกิดขึ้นกับตัวพี่สาวของนางจองเลย แต่กลับมาแจ้งความกล่าวหาว่าข้าพเจ้าหมิ่นประมาทเขา ข้าพเจ้าก็ไม่สนใจ แต่ ถ้าตำรวจเขาสืบ และจับได้ว่ามีส่วนรู้เห็น และสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มแรงงานเถื่อนนี้ ข้าพเจ้า และญาติพี่น้องของข้าพเจ้า จะฟ้องกลับอย่างแน่นอน โดยเด็ดขาด และในเรื่องนี้ชาวซอยเพชรเกษม 110 ถ.เพชรเกษม และคนในตลาดแสงศิริ ต่างก็เป็นที่ทราบกันดีว่าพี่สาวของนางจองว่าจ้างแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาทำงานจริง และเป็นพวกที่นายเอกน้องเขยจัดหามาให้กลับพี่ของภรรยา เมื่อวันศุกร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2551 นางจองได้โทรมาหาข้าพเจ้า และแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมาแกล้งถามถึงเบาะแสพวกแรงงานต่างด้าวพวกนี้ว่าทราบไหมว่าทำงานอยู่ที่ไหน อย่างไร และบอกว่าพี่ได้ให้คนของพี่ไปสืบแล้วก็ไม่เห็นมี ข้าพเจ้าทราบตั้ง แต่ต้นที่โทรเข้ามาแล้วเพราะฟังจากน้ำเสียงที่พูดจะเป็นน้ำเสียงสั่นๆ และไม่ได้บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากที่ใด และวันจันทร์ ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2551 ได้โทรมาอีกบอกว่าพี่ได้ไปตรวจดูแล้วไม่เห็นมีเลย และสอบสวนนายเอกแล้วก็มีบัตรประจำตัวคนไทย พูดไทยชัด และเป็นคนมหาสารคาม ไม่ใช่คนลาว แล้วบอกกับข้าพเจ้าว่าให้ตั้งใจเรียนซะอย่ามายุ่งเรื่องพวกนี้จะดีกว่า พวกเขาก็เป็นคนไทย ทางพี่สาวเขาก็จะหาทนายมาฟ้อง เขาก็ไม่ยอมเหมือนกัน พี่ว่าให้น้องหยุดซะ ข้าพเจ้าจึงได้ถามกลับไปว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานไหน ทางนางจองที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็ตอบไม่ได้ ได้ แต่พูดว่าเป็นเจ้าหน้าที่นี้แหละ อย่างเดียว ข้าพเจ้ายังแอบขำไอ้พวกขี้แพ้ชวนตี ทำอะไรไม่ได้เลยใช้แผนนี้กับข้าพเจ้า กลัวว่าผัวจะถูกจับ มีผัวเป็นคนลาวที่กระทำการปลอมแปลงเอกสารทางราชการมีความผิด จำคุกไม่เกิน 6 ปี ปรับไม่เกิน 50000 บาท พวกนี้ก็ยังทำงานอยู่ด้วยกัน แต่จะระวังตัวมากขึ้น นาเอกก็จะมีนางจอง นายแนบ ลูกชายของนางจองกับสามีเก่า และคนไทยคนลาว ทำงานอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าทำงานอยู่แถวไหน ทราบ แต่ที่อยู่ 244/?? ซ.ปานทิพย์ ถ.วงศ์สว่าง บางซื่อ กรุงเทพฯ พวกนี้เดินทางเข้าออกประเทศไทยเหมือนเป็นเจ้าของประเทศไทยโดยไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง เรื่องยาบ้าเป็นเรื่องง่ายสำหรับกลุ่มนี้ไปเลย กล้าปลอมแปลงเอกสารทางราชการแล้วข่นยาบ้าเข้ามาขายให้กับคนงานก็เป็นเรื่องหมูๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เห็นจะใส่ใจเรื่องนี้เลยปล่อยให้อยู่ในซอยนั้นเป็น 5 - 6 ปี มีลูกสาว 5 ขวบได้1คน โดยไม่ทราบว่ามีแรงงานเถื่อนทั้งนั้นที่อยู่ในซอยปานทิพย์ ถ.วงศ์สว่าง บางซื่อ กทม. แต่กลับไม่ทราบไม่มีรายละเอียดใดๆ เลย ยาบ้าระบาดเพราะคนต่างด้าวทั้งนั้นที่ขนเข้ามากัน ถ้าไม่ควบคุมแรงงานเถื่อนเหล่านี้ ยาบ้าก็จะเข้ามามากขึ้น และคนที่รวยมีสุขสบายไม่ใช่คนไทยหลอก แต่จะเป็นแรงงานกลุ่มนี้ต่างหากที่รวยอยู่ดีกินดีกัน เราคนไทยเราต้องร่วมแรงร่วมใจกันต่อต้าน และขจัดปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวเราเอง มีเบาะแสต่างด้าวผิดกฎหมายแจ้ง 191 หรือ 1178 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขจัดต่างด้าวเถื่อน และลดการระบาดของยาบ้าลงไปจนหมดสิ้นจากประเทศไทย
คลิกตรงนี้เพื่อดูรูปนายแนบ http://www.torakhong.org/kratoo.php?t=14050
ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาว
[ 23 ก.พ. 2551 15:25:43 ]