ความคิดเห็นที่: 1

ขอข้อมูล รวมถึงสถานะเจ้าตัวนี้หน่อยครับ

ลอเก๊าะ ดูวอ [ 24 ต.ค. 2550 14:42:54 ]

ความคิดเห็นที่: 2

แบ อยู่แถวไหนหรอคับมีกดดำด้วย

Alakazum [ 24 ต.ค. 2550 14:48:39 ]

ความคิดเห็นที่: 3

อ่อ อยู่หาดใหญ่ครับ เมื่อคืนไปตกปลา เจอกดดำ ตัวแบบเนี่ย ตัวซัก3 ฟุตได้ เอาเบ็ดเล็กไปพอ เห็นตัว เจอหน้าแบ มันดิ้นเบ็ดหลุดเลย ตกใจเหมือนกันว่านี้มันมรกตดำนี่นา มีได้ไง

ลอเก๊าะ ดูวอ [ 24 ต.ค. 2550 14:51:49 ]

ความคิดเห็นที่: 4

คลองอู่ตะเภาครับ

ลอเก๊าะ ดูวอ [ 24 ต.ค. 2550 14:52:21 ]

ความคิดเห็นที่: 5

รู้ แต่ว่าดุมากครับ อยู่กับใครเค้าไม่ได้เลย

นณณ์ [ 24 ต.ค. 2550 15:19:16 ]

ความคิดเห็นที่: 6

สวัสดีค่ะ

แหะ เนื้อมันอร่อยมั้ยค่ะ

...แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 2550 15:46:37

Trichoptera [ 24 ต.ค. 2550 15:46:17 ]

ความคิดเห็นที่: 7

กดหม้อ สวยครับ เลี้ยงตัวเดียวเชื่องดี ขนาด 3-4 กิโลได้ครับ บางที่เรียกมรกตดำ ผมได้มาจาก คลองหลวง สิบกว่าตัวได้ครับ

Fisher [ 24 ต.ค. 2550 15:59:35 ]

ความคิดเห็นที่: 8

อยากได้จังเลยครับ คุณ Fisher ขอสักตัวได้ป่าวครับ แฮ่ๆ

ลอเก๊าะ ดูวอ [ 24 ต.ค. 2550 16:19:20 ]

ความคิดเห็นที่: 9

อยากทราบว่า แท้จริงแล้วทางใต้นี่เจอเจ้ากดดำเป็นปกติหรือไม่ครับ

Plateen [ 24 ต.ค. 2550 20:27:07 ]

ความคิดเห็นที่: 10

เจ้าตัวในภาพนี่เป็นตัวที่ตกได้หรือมีที่มาจากคลองอู่ตะเภา หรือ เจ้าตัวที่คลองอู่ตะเภามันคล้ายๆ  ครับ

Plateen [ 24 ต.ค. 2550 20:29:48 ]

ความคิดเห็นที่: 11

ใหญ๋ จัง ฮู้!  ( อีสานหัดพูดใต้ เหอๆ )



เพาะเป็นปลาสวยงามน่าจะเข้าท่า

electron [ 24 ต.ค. 2550 21:39:59 ]

ความคิดเห็นที่: 12

น่าน.... คุณแมลงหนอนปลอกน้ำเริ่มมีอากาศเหมือนยายอ้วนเข้าแล้ว

ถามเหมือนกันค่ะ เนื้อมันอร่อยหรือเปล่าคะ

ยายอ้วน [ 24 ต.ค. 2550 23:37:32 ]

ความคิดเห็นที่: 13

ต้องลวกจิ้มแบบกดคัง

knotsnake [ 24 ต.ค. 2550 23:44:30 ]

ความคิดเห็นที่: 14

เป็นตาแซ่บ

ยายอ้วน [ 25 ต.ค. 2550 02:40:47 ]

ความคิดเห็นที่: 15

ไม่ใช่ตัวในภาพครับ แค่ยกตัวอย่างครับ แต่เป็นกดดำอ่ะครับตกได้  แต่มันก้อหลุดไปครับ

ลอเก๊าะ ดูวอ [ 25 ต.ค. 2550 10:43:46 ]

ความคิดเห็นที่: 16

ผมว่าสับเป็นชิ้นๆ ชุบแป้งทอดทำผัดคื่นฉ่ายดีกว่านะ เอิ๊กๆ

ฉลามเสือ [ 25 ต.ค. 2550 21:10:09 ]

ความคิดเห็นที่: 17

เห็นด้วยกับพี่ฉลามเสือ

deathberry [ 25 ต.ค. 2550 21:23:54 ]

ความคิดเห็นที่: 18

ชาวแมลงน้ำนี่ช่างเสาะของกินเหมือนกันเลยเน๊อะ อิอิอิ

กวิวัฏ [ 25 ต.ค. 2550 22:03:11 ]

ความคิดเห็นที่: 19

คลำดูมาหลายเที่ยวแล้วครับ  ..เพาะหนะไม่ยากหรอก  แต่กลัวขายไม่ได้มากกว่า ในธรรมชาติ บางพื้นที่ชุมเหมือนกดเหลืองเลย นั่งดูชาวบ้นเอาเบ็ดตกยังได้ตั้งหลายตัว เลี้ยงเป็นปลาเนื้อก็โตช้ากว่า ปลาคัง  และกดเหลือง เลยเลี้ยงมันเป็นเพื่อนเล่นของลูกไปครับ
  ปีหน้า ถ้าปลาแค้น่าจะพอมีไข่ได้รอมา 2 ปีแล้ว ผมว่าสวยกว่า มรกตดำ อีก  ถ้าต่างประเทศตอบรับก็จะดีได้มีส่งออกตัวใหม่ เพิ่มอีก

Fisher [ 26 ต.ค. 2550 07:39:00 ]

ความคิดเห็นที่: 20

ปลาแค้ ปัญหาของมันคือเลี้ยงให้รอดในที่เลี้ยงได้ยากกว่ากดดำครับ

นณณ์ [ 26 ต.ค. 2550 11:13:37 ]

ความคิดเห็นที่: 21

ผมเก็บอยู่เลี้ยงอยู่กับเจ้ายักษ์เรดเทลในบ่อปลาคราฟ ครับ อืม.. แต่ ถ้าผู้เลี้ยงนำไปเลี้ยงยาก ก็คงหาคนเลี้ยงยากเหมือนกัน ระบบกรองดีๆ  ก็น่าจะเลี้ยงได้นะครับ ลูกปลาเราสามารถหัดให้กินอาหารได้ครับ ส่วนใหญ๋ปลาป่ามักจะตายเนื่องจากเหงือกติดเชื้อรา เพราะร่างกายอ่อนแอ เนื่องจากไม่ยอมแตะอาหาร ครับ

Fisher [ 26 ต.ค. 2550 12:06:59 ]

ความคิดเห็นที่: 22

แล้ว เรดเทลกับกดคังตัวไหนใหญ่กว่ากันค่ะ ตอนมันใหญ่สุดๆ อ่ะค่ะ

มาติกา [ 26 ต.ค. 2550 23:58:43 ]

ความคิดเห็นที่: 23

ผมเดาว่ากดคังนะครับ  แต่ในบ้านเรามันคงไม่มีโอกาสได้โตเท่าในธรรมชาติของเรดเทลน่ะครับ

Alakazum [ 27 ต.ค. 2550 15:01:45 ]

ความคิดเห็นที่: 24

ยังไม่ทราบว่าเรดเทล มันจะโตได้เท่าใดซิครับ  แต่กดคังที่ทะเลสาบเขมร  แต่ละตัวขนาด เกือบ 60-70 โล  แต่คิดว่าน่าจะมีที่ใหญ่กว่านี้อีก

Fisher [ 27 ต.ค. 2550 22:56:54 ]

ความคิดเห็นที่: 25

้"กดคัง"ในบ้านเราตัวโตๆ ก็ยังมีอยู่ครับ เคยได้ตัวแถบๆ ละแวกอยุธยา ปทุมธานี ที่อยุธยาชาวบ้านเคยวางเบ็ดราวได้ตัวโตกว่า 80 โล... (เวลาเอาไปขายก็จับมัดเชือกร้อยกับลำไม้ไผ่แบกขึ้นรถสองแถวไปขายที่ตลาดสดเจ้าพรหม)

สุวรรณภูมิ [ 29 ต.ค. 2550 10:45:16 ]

ความคิดเห็นที่: 26

โห ใหญ่จังครับ 80 โลแหนะ

ลอเก๊าะ ดูวอ [ 29 ต.ค. 2550 17:58:53 ]

ความคิดเห็นที่: 27

แถบๆ ที่ผมกล่าวถึงนอกจากมี"ปลาคัง" ตัวโตๆ แล้ว ยังสามารถงมกุ้งแม่น้ำ และปลาด้วยมือเปล่าได้  นอกจากนี้ในแม่น้ำยังมีหอยทราย และหอยขวานตัวโตๆ ที่ไม่ต้องเสียตังค์หาซื้อ  ( ถ้าโชคดีก็จะงมได้ไหที่ใส่ขวดเหล้าขาวซ่อนไว้ด้วย...แรกๆ คลำเจอขอบไหก็ตกใจเหมือนกันนึกว่าเจอไอ้เข้ตัวเขื่องๆ )  ปัจจุบันนี้โอกาสที่จะงมกุ้งจับปลาด้วยมือเปล่าทำได้น้อยลงมาก หอยทรายหอยขวานก็ต้องใช้เวลางมนานกว่าเดิมครับ

...แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 2550 22:45:59

สุวรรณภูมิ [ 29 ต.ค. 2550 22:41:51 ]

ความคิดเห็นที่: 28

บรรยากาศ คงดีจังเลยน่ะครับ มีบ้านอยู่ริมคลองเนี่ยมันเป็นอะไรที่สบายจิตใจดีจริง บ้านผมมี แต่ทหาร และระเบิด ออกไปไหนก้อหวั่นๆ

ลอเก๊าะ ดูวอ [ 29 ต.ค. 2550 22:46:35 ]

ความคิดเห็นที่: 29

อยู่แถบไหนของหาดใหญ่ครับนี่ ช่วงที่ระเบิดตูมๆ ที่สนามบินนั่นผมเองก็หวิดไปเหมือนกัน

สุวรรณภูมิ [ 29 ต.ค. 2550 23:05:32 ]

ความคิดเห็นที่: 30

บ้านเดิมอยู่ ระแงะครับ นราฯ  ตอนนี้มาทำงานหาดใหญ่ครับ

ลอเก๊าะ ดูวอ [ 29 ต.ค. 2550 23:22:27 ]

ความคิดเห็นที่: 31

รู้จัก"อู่ญี่ปุ่น" ไหมครับ?

สุวรรณภูมิ [ 29 ต.ค. 2550 23:26:51 ]

ความคิดเห็นที่: 32

ที่หาดใหญ่หรอครับ

ลอเก๊าะ ดูวอ [ 30 ต.ค. 2550 00:39:44 ]

ความคิดเห็นที่: 33

​คนสมัย​ใหม่​ที่นั่น​จะ​ไม่​ค่อยรู้จักครับ​ ​ผู้​ใหญ่​ใน​หาด​ใหญ่​(บางคน)​รวม​ทั้ง​รถรับจ้างบางคน​ยัง​ไม่​รู้จักเลย :)

แล้ว​คุณลอเก๊าะ​​ ​​ดูวอ​ ​พอ​จะ​ทราบไหมครับว่า​ไก่ทอดเดชาร้านไหน​เป็น​ร้านดั้งเดิมของหาด​ใหญ่​ :)
เคยไปชิม​ ​บักกู​​​เต๋​ ​ชาชัก​ ​โรตีทอดกรอบ​(แผ่น​ใหญ่​ยักษ์) ​ไข่ฟก​ ​แถวๆ ​สะพานป๋าสาวๆ ​จะ​ชอบพา​ไปกินไอติมไข่​แข็ง​(ไอติม​ใส่​ไข่ดิบ​...​อย่าคิดมากหละ) ​ตอนดึกๆ ​ร้านอาหารบางร้านมีหนัง​(ตะลุง)​ให้​ดู​ด้วย​ใช่​ป่าว​?  ​ ถ้า​จำ​ไม่​ผิดเมื่อ​ไม่​กี่ปีนี้มีร้านอาหาร​ใหญ่ๆ ​เปิด​ใหม่​บน​เขา​คอหงส์​ด้วย​?

ไม่​ได้​กลับไปหาด​ใหญ่​เกือบๆ ​ 2 ​ปี​ได้​แล้ว​ครับ​ ​ครั้งล่าสุดก็หอบไก่ทอดเดชาขึ้นไปกินบนเครื่อง​ด้วย​ 2 ​ห่อ​ใหญ่ๆ

ผู้พิทักษ์มนตรา [ 30 ต.ค. 2550 09:04:04 ]

ความคิดเห็นที่: 34

มันอยู่แถวไหนหละครับ ผมเกิดที่ รพ.มิชชั่น  บ้านก็อยู่ข้างโรงหนังคิงส์ ตอนนั้นพ่อขายของพวกอาหารแห้งชื่อร้านศรีไทยครับ   แต่ก็ไม่รู้จักอู่ญี่ปุ่นใช่อู่ต่อเรือหรือเปล่า

Fisher [ 30 ต.ค. 2550 15:43:54 ]

ความคิดเห็นที่: 35

ไก่ทอดเดชาเดิมเท่าที่ผมทราบ ขายอยู่แถวๆ  โรงเรียนแสงทองครับแถวๆ นั้นเค้าทำเป้นสวนสาธารณะ ให้เด็กมาเล่นบอล เยื้องๆ  โรงเรียนศรีนครอ่ะครับ ส่วนชาชักนี่ มีทั่วไปครับ แต่เดิมๆ นี่ร้านกู ครับ ชื่อร้าน กู จริงๆ ครับ ส่วนไอติมใส่ไข่นี่ตอนนี้มีหลายร้านแล้วครับ ซอยหน้ารร.แสงทอง ก้อมีครับ แล้วเขต 8ก้อมี ยังมีอีกครับ  แต่นึกไม่ออกแล้ว นิหอบไก่ไปกินบนเครื่องด้วยหรอครับ อิอิ สุดๆ ไปเลย ขอบคุณครับ ตรีมอกาเซะ วาลัยกุมซาลาม

ลอเก๊าะ ดูวอ [ 30 ต.ค. 2550 16:59:15 ]

ความคิดเห็นที่: 36

ขอโทษน่ะครับ ไม่ทราบจริงๆ อู่ญี่ปุ่นเนี่ย อยู่ตรงไหน

ลอเก๊าะ ดูวอ [ 30 ต.ค. 2550 17:02:23 ]

ความคิดเห็นที่: 37

เคยฟังครูที่นั่นเล่าให้ฟังว่าเป็นอู่ต่อเรือของญี่ปุ่นหรือไงนี่หละครับ(หรือเป็นอู่รถ???) ตอนที่ยกขึ้นมาหาดใหญ่ในสมัยก่อนโน้น ตรงวงเวียนน้ำพุรู้สึกว่ามีไก่ทอดเดชาสาขา 3 หรือเปล่า?(หรือ ไก่ทอดเดชาสาขา 4 ??? หรือว่ามี 2 สาขาที่อยู่ใกล้กัน???)

...แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 2550 20:29:52

สุวรรณภูมิ [ 30 ต.ค. 2550 17:58:03 ]

ความคิดเห็นที่: 38

ผมวิ่งเล่นแถวนวงเวียนบ่อยๆ ครับ หรือไม่ดีหน่อยไปนั่งตักนางเงือกเล่นครับ ไม่ค่อยมีที่เล่นพ่อมักพาไปเล่นแถวนนั้นครับ  ถ้าเป็นอู่ต่อเรือ คงเป็นแถวสงขลามากกว่า  ก่อนที่จะมีสะพานเปรมพ่อเคยเล่าให้ฟังมาบ้างเหมือนกัน  พอดีพ่อก็รุ่นสงครามโลก เหมือนกัน.. แต่เดี๋ยวนี้ไม่พูดกันแล้ว..เขาหยิ่งพูดด้วยก็ไม่พูดกับเรา..เลยเบื่อไม่พูดด้วยเลย

Fisher [ 31 ต.ค. 2550 13:24:42 ]

ความคิดเห็นที่: 39

คุณพี่ Fisher ไปนั่งตักนางเงือกเฉยๆ ใช่ปะ? เคยเห็นผู้หญิงอกเล็กๆ ไปจับๆ คลำๆ นมนางเงือกเหมือนกันครับ

ที่หาดใหญ่ผมมีครูที่ถ่ายทอดประสิทธิ์ประสาธน์วิชาดนตรีให้หลายคน "ครูสาย จันทรพัฒน์" ท่านเป็นที่เคารพรักของศิษย์ทุกคนท่านเล่นดนตรีได้หลายชนิด และเป็นที่เคารพรักของศิษย์ทุกคน  วันขึ้นปีใหม่(ปีหนึ่ง)ท่านร้องเพลง"นกขมิ้น"ที่ริมอ่างน้ำ(แถวๆ ควนมดแดง)ให้ศิษย์ฟัง(แน่หละ...หนึ่งในนั้นต้องเป็นผมแน่ๆ   ) บางวันท่านก็เอา"ส้มจุก"มาให้ชิมด้วยครับ

คุณพี่ Fisher ทำไมจึงไม่คุยกับคุณพ่อครับ? นี่ผมก็นั่งคุยกับคนอายุมากๆ ทุกวันเลย(คุณปู่) มีเรื่องเล่ามากมายไม่จบไม่สิ้นน่าสนใจดีครับ(เช่น วิธีการจับจระเข้ในสมัยก่อนโน้น)

...แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 2550 14:16:15

สุวรรณภูมิ [ 31 ต.ค. 2550 14:09:43 ]

ความคิดเห็นที่: 40

คุณสุวรรณภูมิถ่ายทอดให้ฟังบ้างซิฮะ  น่าสนใจจังเรื่องจับจระเข้  (จระเข้ชื่อไอ้ด่างเกยชัยหรือเปล่า)

mim4042 [ 31 ต.ค. 2550 15:33:54 ]

ความคิดเห็นที่: 41

ไอ้ด่างเกยชัย คนหลังสวนเคยเล่าให้ฟัง
ค่ะ  แต่ก็จำไม่ค่อยจะได้

ยายอ้วน [ 01 พ.ย. 2550 03:28:03 ]

ความคิดเห็นที่: 42

เรื่อง"ไอ้ด่างเกยชัย" ผมเองก็เกิดไม่ทันครับ (คุณพ่อเคยเล่าให้ฟัง 2 ครั้ง)
ไว้คุณปู่แกอารมณ์ดีๆ จะให้แกเล่าให้ฟังอีกครั้ง

เรื่อง"อู่ญี่ปุ่น" สงสัยจะไม่มีใครเล่าให้ฟังต่อจากคุณพี่"ผู้​พิทักษ์มนตรา" ใครมีโอกาศไปเที่ยวหาดใหญ่ลองสอบถามดูนะครับ

สุวรรณภูมิ [ 01 พ.ย. 2550 08:00:44 ]

ความคิดเห็นที่: 43

แล้วปัจจุบัน ครูสายอยู่ที่ไหนครับรู้ไหมครับตอนนี้  ให้ทายครับ
พ่อไม่คุยด้วยแล้วครับ พ่อเป็นทหารญี่ปุ่นที่เหลืออยู่หลังสงครามโลกครับ ก็อาศัยทำสวยยาง  และค้าขายเนื่องจากพ่อเก่งพูดได้ ภาษาไทย จีนฮกเกี้ยน  จีนกลาง  ยาวี อังกฤษ เคยเล่าให้ฟังว่าเป็นทหารแผนที่
ผมชอบปลา เพราะพ่อนี่แหละครับ สอนให้ตกปลาทุกวัน  และเพื่อนพ่อในมาเลย์มาเยื่ยมทีก็จะมีปลาแปลกมาฝากเสมอ เหตุที่ไม่คุยกันเพราะพ่อผมไปทำงานใต้ดิน เลยคุยไม่ได้ครับ

Fisher [ 01 พ.ย. 2550 08:07:13 ]

ความคิดเห็นที่: 44

หมายเหตุ  ใต้ดินหมายถึง โดนฝังใต้ดินหละครับ  ท่านเสียไปตั้ง แต่ปี 2532 แล้วครับ

Fisher [ 01 พ.ย. 2550 08:09:13 ]

ความคิดเห็นที่: 45

ล่าสุดที่พบครูสายท่านอยู่ที่ ม.หาดใหญ่ครับ ท่านสอนดนตรีให้เจ้าหน้าที่แถวๆ คณะแพทย์ฯ  และที่ชมรมฯ  ตอนนี้ไม่ทราบเหมือนกันครับ คุณพี่ Fisher(จริงๆ ต้องเรียกคุณลุง Fisher หละ)พบท่านที่ไหนครับ?

สมัยสงครามโลกคุณพ่อผมท่านยังไม่เกิดเลยครับ...ที่บ้าน(ของคุณพ่อ) ก็มีคันเบ็ด และรอกอยู่ 5-6 ชุดครับ หลายตัวเหมือนกันที่ซื้อจากหาดใหญ่ (บางตัวออกไปซื้อทางด่านปาดังฯ ) ​Shakespeare 3 ตัว เพื่อนแกขอไปแล้ว 1 ชุด(รอก Shakespear 035 พร้อมคันยี่ห้อเดียวกันขนาด 5 ฟุต UL จำรุ่นไม่ได้แล้วปลายใสๆ โค้งเป็นวงกลมปลายชนด้ามได้)

...แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 2550 13:11:09

สุวรรณภูมิ [ 01 พ.ย. 2550 13:09:31 ]

ความคิดเห็นที่: 46

คุณพ่อคุณ Fisher ท่านคงหลับสบายแล้วล่ะค่ะ
อ้อ... แล้วทำไมท่านไม่กลับไปญี่ปุ่นคะ
หรือว่าเพราะหลงเสน่ห์สาวไทย

ที่หลังสวนเห็นสะพานข้ามแม่น้ำหลังสวน เป็นสะพานสำหรับรางรถไฟ
สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกเช่นกัน สวยงามมากค่ะ
ดูแล้วขลังดี  แต่คุณตากล้องของยายอ้วนเค้าไม่ได้ถ่ายไว้

เห็นชาวบ้านมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับทหารญี่ปุ่นที่มาอยู่แถวหลังสวนด้วย
แต่ยายอ้วนความจำสั้น เดี๋ยวไปถามผู้รู้แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ

ยายอ้วน [ 01 พ.ย. 2550 13:11:02 ]

ความคิดเห็นที่: 47

ครับผม มีทหารเหลือในไทยเป็นร้อยคนครับอีกหนึ่งคนอยู่เชียงรายเพื่อนซี้เป็นลูกน้องพ่อครับเป็นเจ้าของที่เลี้ยงปลาแหละครับ มีแถวภูเก็ตอีกคนที่ไปหาบ่อยมากๆ   และก็ปาดังเลยครับ เหตุไม่กลับเนื่องจากพี่ชาย ยังอยู่ในท้องแม่ซิครับ ... แต่กลับไปหลังจากนั้นอีกเกือบ 10 ปีครับ
คุณครูสาย ลูกๆ ย้ายมาทำงานที่กรุงเทพฯ  หมดครับเหลือ  และท่านก็สอนเยาวชนเด็กเล็กส่งประกวดระดับประเทศ เห็นว่าได้รางวัลมาด้วย  ท่านเล่าให้ฟังว่ามันระเบิดกันทุกวันตายกันเยอะ แลูกๆ เลยขนท่านมาพักแถวนครชัยศรี ยังมีข่าวที่ลงหนังสือพิมพ์เอามาให้ดูจุดที่โดนระเบิด เป็นที่ครูสอนเด็กๆ เล่นดนตรีด้วย ในวันเสาร์อาทิตย์  ถ้าครูอยู่คงมีเด็กตายกันแหละครับ มีโอกาสไปเยี่ยมแม่ยายก็แวะไปหาคุยเป็นเพื่ออนท่านครับ นั่งฟังครูสีไวโอลิน หรือซอ ทั้งวัน สอนลูกชายผมสีไม่รู้เป็นอย่างไรบ้างเหมือนกัน  แต่ช่วง 2 เดือนนี้ไม่เห็นท่านแล้วสงสัยย้ายไปอยู่กับลูกๆ ที่ กทม.แล้วครับ

Fisher [ 02 พ.ย. 2550 11:11:25 ]

ความคิดเห็นที่: 48

ลูกศิษย์ครูมีเยอะครับ...ที่ได้รางวัลก็มากมายหลายรุ่นหลายหลายคน สมัยที่เรียน ม.ปลายผมอยู่ที่ภาคกลาง แต่ไม่สามารถประกวดได้เพราะต้องย้ายที่เรียนบ่อยมาก คุณครูที่นั่นเลยคัดมือ 2 ไปประกวด(ซอด้วง)คว้ารางวัลที่ 2 กลับมาให้ผมช้ำใจเล่นด้วย(นี่ ถ้าผมประกวดจะตกรอบแรกรึเปล่าก็ไม่รู้) ม. 4-5-6 เรียนถึง 5 โรงเรียนบางช่วงต้องเรียนกับ นักศึกษานอกโรงเรียน กลางวันเรียนที่นึงตอนเย็นต้องเรียนภาคค่ำแล้วโอนหน่วยมาภาคปกติด้วยก็มี... ย้ายตามผู้ปกครองซึ่ง รับราชการครับ

สุวรรณภูมิ [ 02 พ.ย. 2550 12:06:38 ]