กระทู้-08643 : การอนุรักษ์..เรื่องที่คุยกันไม่มีวันจบ

Home » Board » สิ่งแวดล้อม

การอนุรักษ์..เรื่องที่คุยกันไม่มีวันจบ

มาดูมุมมองที่หลากหลายที่มาโยงเรื่องการอนุรักษ์
http://trekkingthai.com/board/show.php?Category=trekking&No=103894&forum=18&page=2

ลป. โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข้อมูล
knotsnake approve [ 05 พ.ย. 2550 01:44:04 ]
ความคิดเห็นที่: 1
ขอเวลาอีก 1 วันเพื่อทำการอ่านอย่างละเอียดค่ะ
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกสนุก ^ ^
ยายอ้วน approve [ 05 พ.ย. 2550 02:15:26 ]
ความคิดเห็นที่: 2
รับทราบครับลูกพี่!!!
ฉลามเสือ approve [ 05 พ.ย. 2550 02:49:10 ]
ความคิดเห็นที่: 3
เข้าไปอ่านมาแล้วครับ แบบนี้เถียงกันหลายชาติแน่นอนเพราะ แต่ละคนเข้าใจคำว่า “การอนุรักษ์” ไม่เหมือนกัน ไม่แยกประเด็นให้ชัดเจน ผมไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนให้ชื่อภาษาไทยว่า “อนุรักษ์” จากภาษาอังกฤษ “conservation” เป็นการคิดค้นคำที่ตรงประเด็นที่สุด อนุรักษ์ มาจาก “อนุ (อนู) + รักษา” ซึ่ง เลือกใช้คำได้ดีมาก

เอาคำนิยามแบบเหน่งๆ  ที่เคยเรียนมาตั้ง แต่จำความได้ก็แล้วกัน ซึ่ง  ดร. นิวัติ เรืองพานิช อดีตคณะบดีคณะวนศาสตร์ เขียนไว้ว่า

การอนุรักษ์หมายถึง “การรู้จักใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาด ให้เป็นประโยชน์ต่อมหาชนมากที่สุด  และใช้ได้เป็นเวลายาวนานที่สุด ทั้งนี้ต้องให้สูญเสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์น้อยที่สุด  และต้องกระจายการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรโดยทั่วถึงกันด้วย ฉะนั้นการอนุรักษ์จึงไม่ได้หมายถึงการเก็บรักษาทรัพยากรไว้เฉยๆ   แต่ต้องนำทรัพยากรมาใช้ประโยชน์ให้ถูกต้องตามกาละเทศะ”

อ่านความหมายแล้วแจ่มแจ้งครับว่า การอนุรักษ์นั้นคือ “การรู้จักใช้ทรัพยากร” โดยมีเป้าหมายคือ
1. เกิดประโยชน์หลากหลาย  (multiple use)
2. ใช้อย่างมีเหตุผล (rational use)
3. ใช้อย่างชาญฉลาด(wise use) กาละ และเทศะ ที่จะใช้
4. ใช้ให้ยาวนานที่สุด (sustainable use)

ที่นี้เราจะใช้ทรัพยากันยังงัยก็ขึ้นอยู่กับประเภทของทรัพยากร
1. ทรัพยากรที่ใช้แล้วไม่หมดไป
2. ทรัพยากรที่ทดแทนได้
3. ทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป

แล้วค่อยมาว่ากันไปไปทีละประเด็น เช่น การสร้างฝายต้นน้ำเป็นการอนุรักษ์หรือไม่? การถกเถียงหาเหตุผลก็ต้องแยกออกมาเป็นประเด็นตามประเภทของทรัพยากร ได้แก่
1. ทรัพยากรดิน และน้ำ (หรืออาจเป็นทรัพยากรกายภาพ)
2. ทรัพยากรชีวภาพ (ป่าไม้ สัตว์ป่า สัตว์น้ำ แมลง ฯ ลฯ )
3. ทรัพยากรมนุษย์ (คุณภาพชีวิต)
หลังจากนั้นจึงมาสรุปในภาพรวม แน่นอนครับการอนุรักษ์สิ่งหนึ่งย่อมมีการทำลายอีกสิ่งหนึ่ง อันนี้เป็นกฎของธรรมชาติ เพียง แต่ว่าสิ่งที่จะได้มา กับสิ่งที่เสียไปนั้นคุ้มค่าหรือไม่ ในส่วนที่ดีต้องทำให้ดีขึ้นกว่า ส่วนที่เสียต้องหาทางแก้ไขหรือบรรเทาลง เมื่อมีแนวทางที่ชัดเจนก็สามารถหาข้อสรุปได้ โดยไม่เกิดข้อขัดแย้ง เพียงแค่นี้แหละครับ เรื่องถกเถียงด้านการอนุรักษ์ ต้องจบแน่นอน
...แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 2550 14:05:24
สุรชิต approve [ 05 พ.ย. 2550 08:21:45 ]
ความคิดเห็นที่: 4
พี่น๊อตนี่เข้าใจเปิดประเด็นครับ...

การอนุรักษ์แค่สิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ หรือการศึกษาวิจัยเฉพาะเรื่องของนักอนุรักษ์ กับเรื่อง"การอนุรักษ์แบบยั่งยืน" อาจจะมองเหมือนคล้ายกัน  หากยึด แต่ระเบียบวิธี แนวทางปฎิบัติที่จำกัด และเป็นแบบแผนเกินไปตลอดจนทัศนะคติ และมองมุมที่แคบเกินไปของ"การอนุรักษ์"ก็จะกลายเป็น"การทำลาย"  

หากองค์ความรู้ที่สะสมมามากพอการรักษ์นกแล้วต้องฆ่างูบ้างก็อาจจะต้องทำบ้าง(ไม่ใช่เจองูก็ฆ่าๆๆๆ อย่างเดียว) หากรักษ์กล้วยไม้ป่านอกจากขยายพันธุ์แล้วนำกลับแล้วก็ยังต้องให้ความรู้แก่ชาวบ้านให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์จากป่าบ้าง หากจะห้ามซะทุกอย่างคงใช้ไม่ได้ผล การรักษาสิ่งหนึ่ง(เพื่อให้สิ่งนั้นคงอยู่ตลอดไป)แล้วอาจจะต้องสูญเสียอีกสิ่งหนึ่งบ้างหรืออีกหลายๆ สิ่งหลายชีวิตบางครั้งก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่เรียกว่า  "การอนุรักษ์แบบยั่งยืน" หากทำให้เกิดการสูญเสียสิ่งอื่นแบบไม่กลับมาก็คงจะเรียกว่าเป็น "การอนุรักษ์แบบยั่งยืน" ไม่ได้

แล้ว"การอนุรักษ์แบบยั่งยืน"คืออะไร? จะเกิดได้อย่างไร? ใครหละที่จะช่วยให้เกิดการอนุรักษ์แบบยั่งยืนได้? จุดสมดุลย์นั้นอยู่ตรงไหน?
...แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 2550 08:50:59
สุวรรณภูมิ approve [ 05 พ.ย. 2550 08:40:24 ]
ความคิดเห็นที่: 5
สำหรับผมอนุรักษ์ใช้ได้มีประโยชน์ยั่งยืน ตามหลักสมการมันจะต้องคานกันได้ ไม่ใช่อนุรักษ์แบบห้ามแตะต้องสิ่งนั้นมันก็ไกลายเป็นไม่มีประโยชน์ไป   อย่างแนวเกษตรอินทรีย์ที่เราส่งเสริมกัน ถ้าทำได้ตามกรอบแล้วก็จะดีที่สุด ก็เข้าข่ายอนุรักษ์ก็ได้ครับ
     อาทิตย์หน้าที่เมืองทอง การอนุรักษ์พลังงาน ผู้ใดพอทราบวันที่แน่นอนบ้างครับ
Fisher approve [ 05 พ.ย. 2550 08:55:14 ]
ความคิดเห็นที่: 6
เห็นด้วยกับพี่น๊อท ครับนอกจากนี้ผมยังมีมุมมองเพิ่มเติมอีก

เห็นประเด็นเรื่องงูที่คุณสุวรรณภูมิ แล้วขอพูดหน่อยว่า

กรณีเรื่องการอนุรักษ์ของคนที่เรียกตนว่านักอนุรักษ์ (บางคน) มักทำแบบแยกส่วน ยกตัวอย่าง เช่น นักวิจัยนก ก็จะรักษ์ แต่นก โดยไม่มองถึงระบบโดยรวมเลย นั่นคือปัญหา เช่น กรณีงูกินลูกนกในรัง งูฉกกัดฉีดพิษจนลูกนกตายแล้ว งูตัวนั้นสุดท้ายยังโดนสำเร็จโทษประหารด้วยน้ำมือของ พวกนักรักษ์นก

การกระทำแบบนั้น ในพื้นที่อนุรักษ์ นอกจากจะผิดกฏหมายแล้ว ยังผิดจรรยาบรรณ ของนักวิจัยเห็นๆ  

นั่นแหละคือปัญหาอีกส่วน  ก็อยู่ที่ตัวตนของคนที่เรียกตนว่า นักอนุรักษ์ เองด้วย เลยอยากย้อนถามว่า นักอนุรักษ์ พวกนี้มีความเข้าใจในสิ่งที่ท่านพยายามจะอนุรักษ์ หรือเข้าใจในเรื่องของการอนุรักษ์มากเพียงใด
B-Herp approve [ 05 พ.ย. 2550 10:04:43 ]
ความคิดเห็นที่: 7
ยังไงๆ  ผมคงไม่มีวันเชื่อไอ่ Rew หรอก หึหึ...
...แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 2550 21:22:07
snakeeater approve [ 05 พ.ย. 2550 10:07:16 ]
ความคิดเห็นที่: 8
แล้ว"การอนุรักษ์แบบยั่งยืน"คืออะไร? จะเกิดได้อย่างไร? ใครหละที่จะช่วยให้เกิดการอนุรักษ์แบบยั่งยืนได้? จุดสมดุลย์นั้นอยู่ตรงไหน?
...แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 2550 08:50:59
สุวรรณภูมิ  [ 05 พ.ย. 2550 08:40:24 ] [ IP: 125.25.145.199 ]
^
^
^
จุดนี้แหละที่เป็นปัญหาโลกแตก ซึ่ง ตามทฤษฎีแล้วเราสามารถประเมินได้  แต่..เราต้องนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาวิเคราะห์ด้วย  แต่ในความเป็นจริง เรายังไม่รู้ปัจจัยทั้งหมดที่มี และความเชื่อมโยง และเกี่ยวพันภายนอก และใน เท่านั้นเอง

ดังนั้นคนทั่วไปจึงมาใช้การวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์มาประเมินมูลค่า และความคุ้มค่า โดยยึดมูลค่าปัจจุบันที่คนกำหนด  และความเต็มใจจ่ายของผู้บริโภค(ทั้งทางตรง และอ้อม หรือแม้ แต่คาดว่าจะบริโภค) (ผมขอไม่อธิบายส่วนปลีกย่อย เอาไว้ให้คนที่มีความรู้ด้านนี้มากกว่าผมมาช่วยแล้วกัน) คราวนี้ปัญหามาอยู่ที่มูลค่านั้นๆ เกิดจากคนกำหนด ณ ขณะนั้น แล้วการตีราคาทรัพยากรทางธรรมชาติหรือการเกษตรก็มักถูกตีราคาต่ำกว่าด้านอุตสาหกรรมเสมอ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมโครงการเมกกะโปรเจคมากมายถึงผ่านฉลุย หากมองกันจริงๆ แล้ว การประเมินนี้มองข้ามต้นทุนที่แท้จริง เพราะไม่มีใครไปตีราคาให้มัน เช่น ดินที่อุดมสมบูรณ์ในที่ราบลุ่มภาคกลาง หากปลูกข้าวได้พันปีจะขายข้าวได้ ก. บาท  แต่ ถ้าสร้างโรงงานอะไรสักอย่างจะทำเงินได้มากกว่าปลูกข้าว ล้านเท่า โดยมีระยะเวลาใช้งาน 30 ปี  แต่ไม่มีการประเมินว่าสัตว์น้ำต้องสูญเสียไปเท่าไหร่เพราะไม่มีที่วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน คนในพื้นที่ได้เงินมาก  แต่ไม่สามารถยังชีพด้วยตัวเองได้ ก็ต้องไปซื้อปลา ซื้อข้าวกิน ค่าความสุขของคนก็ไม่ได้คิด(ตอนเห็นตัวเงินก็ตาโต ลืมคิดไปว่าตัวเองกำลังจะตาย) ค่าความอุดมสมบูรณ์ของดินที่สะสมมาตั้ง แต่ก่อนมีคนในโลกมันมีต้นทุนเท่าไหร่ ฯ ลฯ  แล้วพอโรงงานเสื่อมลง หรือพื้นที่ไม่เหมาะสมกับโรงงานนี้แล้วล่ะ(เพราะตัวโรงงานทำให้ไม่เหมาะสมเอง)...

(knotsnake ในร่างทรง)
นกกินเปี้ยว approve [ 05 พ.ย. 2550 10:55:09 ]
ความคิดเห็นที่: 9
การอนุรักษ์แบบยั่งยืน ก็มีความหมายไม่แตกต่างจาก การใช้อย่างยั่งยืน เพราะ..
การที่เราสนใจที่จะอนุรักษ์ มักเริ่มจากการเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นๆ
การที่เราจะเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นๆ  แสดงว่าเราเห็นประโยชน์
การที่เราเห็นประโยชน์ของสิ่งนั้นๆ เพราะเราได้ใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะใช้ประโยชน์โดยตรง จนกระทั้งแม้แค่ได้เห็น หรือมันมีส่วนเสริมกับสิ่งที่เราเห็นประโยชน์ ฯ ลฯ
เมื่อเราใช้ประโยชน์ได้ เราก็อยากใช้ไปนานๆ  ไม่ว่าจะใช้เอง หรือขายให้คนอื่นใช้ เพียง แต่ให้รู้การใช้อย่างถูกวิถี  และวิธี ดังนั้นจึงต้องมาใช้อย่างรู้คุณค่า
เมื่อเรารู้คุณค่า เราก็อยากจะอนุรักษ์ เพื่อให้มีใช้อย่างยั่งยืน
ดังนั้นคนที่อนุรักษ์สิ่งเหล่านี้ก็จะมีแนวร่วมของผู้มีส่วนได้เสียในการอนุรักษ์โดยตรง


การอนุรักษ์แบบไม่ยินยอมให้ใช้ประโยชน์ จะเกิดผลตรงข้ามได้ เพราะ...
การที่เราสนใจที่จะอนุรักษ์ เริ่มจากการเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นๆ
ที่เห็นคุณค่าอย่างแรง เพราะมันมีการใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะรู้ค่า หรือไม่รู้
ดังนั้นจึงอนุรักษ์แบบห้ามแตะต้อง
เมื่อห้ามแตะต้อง มันก็เลยไม่มีการใช้ประโยชน์
เมื่อไม่มีการใช้ประโยชน์ก็เลยไม่เห็นคุณค่า
เมื่อไม่เห็นคุณค่า ก็ไม่รู้ว่าจะอนุรักษ์ไปทำไม
สุดท้าย..ก็เหลือ แต่กลุ่มคนเล็กๆ ที่เย้วๆ ว่า ข้าคือนักอนุรักษ์ ที่ไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในการอนุรักษ์อย่างแท้จริงเลย

(knotsnake ในร่างทรง)
นกกินเปี้ยว approve [ 05 พ.ย. 2550 11:09:14 ]
ความคิดเห็นที่: 10
"การอนุรักษ์แยกส่วน" หรือ ที่บางคนเรียกว่า "อนุรักษ์เฉพาะส่วน" จริงๆ แล้วควรจะเรียกว่า"ความผิดพลาดในการอนุรักษ์" มากกว่ามังครับ

บางพื้นที่การจัดการเพื่อให้"ประชาชน"อยู่รอดก็เลือกใช้วิธีกำจัดบางสิ่งเหมือนกัน เช่น เมื่อน้ำท่วมใหญ่สัตว์มีพิษหลายชนิดเข้ามาอยู่ในบ้านคน(แค่งูก็จับได้เป็นกระสอบๆ ต่อวัน) จะห้ามไม่ให้ตีงูก็คงจะยาก ใครจะอธิบายอย่างไรชาวบ้านเขาไม่สนใจหรอกครับคำว่า"อนุรักษ์"

หากมองเฉพาะส่วนไม่มีทางทำสำเร็จครับ...
สุวรรณภูมิ approve [ 05 พ.ย. 2550 11:15:08 ]
ความคิดเห็นที่: 11
Case of Boiga vs Gurny Pitta can be considered as "trade off" ;
Boiga is least concern spp.=non threatened vs. Gurney pitta; Critical/CR= will extinct within 10 year unless(or even) manage something.
Boiga snake can be captive and translocated somewhere, killing may be last or unevitable option.
Wildlife Protection Act. 2535 have one exception for killing species in case of "protection of human sefty or property ,within reasonablity".
waterpanda [ 05 พ.ย. 2550 12:11:34 ]
ความคิดเห็นที่: 12
ดูรายการแดนสนธยาเมื่อวันศุกร์ มีหลายคนให้คำจำกัดความที่หลากหลายมุมมากครับ วันจันทร์วันนี้ก็คงจะยังมีต่อ ชื่อสารคดีตอนท้ายรายการคือ planet earth น่าจะเป็นภาคต่อของที่เคยฉาย  แต่เป็นด้านอนุรักษ์อะไรเทือกนี้

ส่วนลิงค์ trekkingthai ยังไม่ว่างเข้าไปอ่านครับ ติดไว้ก่อน
นกกินเปี้ยว approve [ 05 พ.ย. 2550 13:09:04 ]
ความคิดเห็นที่: 13
บางอย่างมันวิกฤติจริงๆ ก็อาจมีกรณีห้ามแตะต้องอยู่บ้างกระมังครับ เช่นปลาถ้ำที่มีอยู่เฉพาะถ้ำนั้นๆ  พะยูน  ถ้าจะให้ชาวบ้านจับมากินได้ในกรณีนี้พี่ๆ ในเว็บเห็นว่าอย่างไรกันบ้าง การอนุรักษ์ บางอย่างก็ต้องปิด บางอย่างก็ต้องเปิด ปัญหาอยู่ที่ว่าจะมีใครเหมาะสมในเรื่องการควบคุมดูแลสิ่งเหล่านี้ แล้วแนวทางที่แท้จริงมันคืออะไร หรือบางอย่างธรรมชาติจำเป็นต้องให้มันสูญพันธุ์  แต่มนุษย์เข้าไปเปลี่ยนวงจรมัน เป็นปัญหาโลกแตกจริงๆ
Alakazum approve [ 05 พ.ย. 2550 14:20:05 ]
ความคิดเห็นที่: 14
พื้นที่ที่มีปัญหามากๆ  และสถานะการณ์วิกฤติจริงๆ  ก็ต้องพึ่งการจัดการที่เหมาะสมกับพื้นที่หรือสถานะการณ์เข้ามาช่วย

ดังนั้น "การอนุรักษ์" จึงอยู่โดดๆ ไม่ได้
สุวรรณภูมิ approve [ 05 พ.ย. 2550 14:36:11 ]
ความคิดเห็นที่: 15
ท่านหมีน้ำขอรับ  แต่ในเคสที่ยกมานั้น งูได้คาบลูกนกแล้ว ซึ่ง ยังไงนกก็ไม่รอด  แล้วมีความจำเป็นต้องฆ่าไปไย นั่นคือกรณีงูสองชนิดที่อ้างถึง  แต่ยังมีงูอย่างน้อยอีกชนิดหนึ่งซึ่ง เป็นงูในถิ่นนั้นเช่นกัน ซึ่ง มีสถานภาพเลวร้ายกว่านกแต้วแล้วท้องดำซะอีก ปัจจุบันคือข้อมูลไม่เพียงพอจริงๆ  เพราะมันไม่ปรากฎตัวให้เห็นมากว่ายี่สิบปีแล้ว(แม้จะน้อยกว่าแต้วแล้วฯ ก่อนที่จะพบอีกครั้ง)  แต่เขตการแพร่กระจายแคบมากๆ  แล้วในฐานะผู้ล่า สัดส่วนประชากรในธรรมชาติย่อมน้อยกว่าอยู่แล้วฉะนั้นจึงไม่มีความสมเหตุสมผล แต่อย่างใดในการที่จะฆ่างูที่คาบนกแล้ว   แต่หากว่าเป็นการพยายามไล่งู หรือเอาออกจากบริเวณนั้นก่อนที่จะทำอะไรนก เช่นนั้นผมก็ว่าสมเหตุผล อ้อ..งูที่ถูกฆ่าก็ไม่ใช่งูที่จะทำอะไรคนได้หนักหนาด้วย หากเป็นกรณีงูเห่านั้น ผมก็คงยอมรับได้โดยดุษณี ดังนั้นผมจึงไม่เห็นด้วยกับ Act  2535 ในเคสนี้ครับ   แล้วการที่คนพยายามไปช่วยลูกนก มันก็เป็สาเหตุปห่งการทิ้งรังของนกด้วยเช่นกัน แบบนี้ต้องตามไปฆ่าคนที่รบกวนแถวๆ รังได้หรือเปล่าขอรับ  อ้อ..ในทางตรงกันข้าม หากผู้ถูกรุกรานเป็นงูที่มีสถานภาพเดียวกับนกแต้วแล้วฯ  ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยงูโดยการฆ่าผู้รุกรานตัวนั้นให้งูหรือเปล่า  อย่าคิดว่าไม่มีกรณีแบบนี้ มันมีจนงูบางชนิดได้สูญพันธุ์ไปแล้วขอรับ ยังดีที่ไม่ใช่ในไทย

แล้วกรณีพยายามให้นกเลี้ยงลูกเองจนโต แล้วคนคอยเฝ้าปกป้อง   ผมว่าหากเราจะเพิ่มจำนวนนกจริงๆ ก็สามารถใช้วิธีเก็บลูกมาเลี้ยงเอง จะสามารถทำจำนวนได้ง่ายกว่า เพราะลูกนกแต้วแล้วฯ เองก็ไม่ใช่นกที่เลี้ยงยาก  แต่จะยากตอนให้มันผสมพันธุ์  ดังนั้นการเก็บมาเลี้ยงต้องเลี้ยงแค่พอนกช่วยตัวเองได้ซึ่ง ความพอดีอยู่ตรงไหน ตำตอบที่ดีผมได้จากคนเลี้ยงนกเสมอ ไม่ใช่จากนักวิชาการหรือนักอนุรักษ์(คนที่อ้างถึงเลี้ยงแบบกึ่งธรรมชาติ  นกเลยนิสัยไม่เสีย) เรื่องนี้ผมก็เคยลองคุยกับคนในกรมที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการเรื่องนี้แล้ว เจ้าตัวก็บอกว่าติดที่กลุ่มที่อ้างว่านักอนุรักษ์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ยอม ผมก็จนใจขอรับ

ลป. ตอนนี้ออกจากร่างทรงแล้ว  ก่อนที่จะหายไปอีกนับเดือน
knotsnake approve [ 05 พ.ย. 2550 14:49:20 ]
ความคิดเห็นที่: 16
แล้วสำหรับ #13 นั้นไม่ผิดหรอก  แต่ตอนนี้ขอมองในองค์รวม  สำหับเคสเฉพาะ บางทีคำว่าอนุรักษ์(ในความเข้าใจของหลายๆ คน)ไม่สามารถก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวมันเหมือนกัน ละครเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่พระเอก นางเอก  และตัวร้ายครับ
knotsnake approve [ 05 พ.ย. 2550 14:52:47 ]
ความคิดเห็นที่: 17
เห็นด้วยกับพี่น้อท เรื่องงูในคห. 15  ครับ ผมเป็นพยานในเหตุการณ์ดังกล่าวได้

สิ่งที่ผมกำลังจะบอกนั้นคือ นักวิจัยหลายๆ คนที่เรียกตนว่า เป็นนักอนุรักษ์   แต่ไม่เข้าใจ หรือ bias เข้าข้างสิ่งที่ตนกำลังศึกษา แต่เพียงอย่างเดียว  แล้วคิดว่าสิ่งมีชีวิตที่ตนสนใจนั้นมีอภิสิทธิ์ เหนือสรรพชีวิตอื่นๆ  ในระบบ ซึ่ง นั่นคือการผิดพลาด และเป็นทัศนคติที่ผิดชัดเจน  และนั่นคือปัญหาโดยตรงของ ผู้ที่เรียกตัวว่า นักอนุรักษ์

สำหรับกรณีนกแต้วแร้วท้องดำ เห็นพ้องกับพี่น้อทว่าควรมองถึง ทางเลือกอื่นๆ  ด้วย เช่น  การอนุรักษ์นอกพื้นที่ (ex-situ conservation) หรือใช้การจัดการงูอย่างมีระบบ ที่มิใช่การฆ่า เช่น อาจจะใช้รั้วกันงู แบบเดียวกับที่ใช้บนเกาะกวมหรืออาจจะจับงูออกไปกักไว้ก่อนในช่วงที่นกทำรัง

 แต่มิใช่การนำมนุษย์เข้าไปเฝ้ารัง แล้วคอยฆ่า predator ทุก species ที่เข้ามาล่าลูกนกใน

ผมว่าการฆ่างูในขณะที่ลูกนกตายไปแล้ว สุดท้ายก็ตายทั้งงู ทั้งนก ซึ่ง เป็นการกระทำของนักวิจัยนก ที่เรียกตนว่านักอนุรักษ์  และเป็นการใช้อภิสิทธิ์เหนือชาวบ้านทำในพื้นที่อนุรักษ์ โดยไม่มีเหตุผลที่สมควร ซึ่ง การกระทำ เยี่ยงนี้ นอกจากจะผิดจรรยา และกฏหมายแล้ว ผมว่ามัน ยังเป็นการกระทำที่ดู silly มากๆ ด้วย

กรณีเรื่องการฆ่างูโดยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยของบุคคล จึงเป็นคนละกรณี กับการกระทำของนักวิจัยกลุ่มดังกล่าวตามที่พี่น้อทได้อธิบายมาข้างต้น

 และอีกเช่นกัน ก็เป็นคนละกรณีกับงูต้นไม้สีน้ำตาล  (Boiga irregularis) ที่อยู่ผิดที่ผิดทางจนต้องจำโทษประหารล้างเผ่าพันธุ์ตามที่นักวิจัยกลุ่มนั้น เข้าใจ/ พยายามเบี่ยงเบนประเด็น ด้วยความ bias (คห. ส่วนตัว)
B-Herp approve [ 05 พ.ย. 2550 20:57:25 ]
ความคิดเห็นที่: 18
อ่านแล้วคงคุยกันได้ยาวเยี่ยงเจ้าของกระทู้ว่าก่อนจักล่องเรือออกทะเลอันดามันไม่กี่ชั่วยาม

อันนี้เปนมุมมองเล็กๆ  ของนักอนุกรมวิธานโลกทัศน์แคบ ที่อาจจักเปนกรวดเล็กๆ  อยู่ตีนตึก

การอนุรักษ์ ทรัพยากรที่มีเพื่อให้ใช้ได้อย่างยั่งยืน มันก็เปนเรื่องที่คิดอ่านกันได้กว้างขวาง ตัวอย่างเช่น จักอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพก็มีอยู่หลายระดับ ตั้ง แต่ความหลากหลายของพันธุกรรม (genetic diversity) ความหลากหลายของชนิดพันธุ์ (species diversity) แลความหลากหลายของระบบนิเวศ (ecosystem diversity) ซึ่ง  แต่ละอย่างก็มิอาจแยกจากกันได้โดยสิ้นเชิง  แต่คนคนเดียวก็มิอาจเข้าใจได้ในทุกส่วนเปนแน่

บาทฐานที่สำคัญที่สุดของการอนุรักษ์อยู่ที่ความเข้าใจ เข้าใจในธรรมชาติของพื้นที่นั้น ณ เวลานั้นๆ  ซึ่ง ความเข้าใจก็ต้องมาจากการสิกขา แลการสิกขาก็มิจำเปนว่าจักต้องมาจากนักวิชาการเพียงอย่างเดียว  แต่อาจจักมาจากการสังเกตสังกาแลเรียนรู้ รับฟังกัน ทั้งฝ่ายเจ้าของทรัพยากร ฝ่ายราชการ สถานสิกขา แลฝ่ายอื่นๆ  ที่เกี่ยวข้อง (อันนี้ก็เป็นปัญหาโลกแตกที่สองอะนะ ด้วยว่าที่ผ่านมา ก็มิใคร่เห็นจักฟังกันสักเท่าไร หุหุ)

ในมาตรการที่ตั้งขึ้นเพื่อการอนุรักษ์ ส่วนหนึ่งก็คงมีรายละเอียดต่างกันใน แต่ละที่ ต่างกรรมต่างวาระ แลก็ควรจักต้องมีการติดตามตรวจสอบ การเปลี่ยนแปลง ด้วยว่าเรากะลังปฏิบัติกะธรรมชาติ อันเปนสิ่งที่เปลี่ยนแปลง คงมิมีมาตรการใดใช้ได้ชั่วกาลดอกหนา

แลเรื่องสำมะคันอีกประการ ความถูกต้อง ก็มิควรมาจากการโหวตจากเสียงส่วนมาก  แต่ควรมาจากความถูกต้อง จากหลักการจริงๆ  ซึ่ง ในวารปัจจุบัน ในยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร ข้อมูลยิ่งมาก หาได้ง่าย ก็ยิ่งต้องการการกลั่นกรองมากขึ้น เพราะความลวงทั้งหลายก็มาแบบซับซ้อนมากชึ้นด้วย (ข้อนี้ยิ่งโลกแตกเข้าไปใหญ่ ด้วยว่าจะตัดสินอย่างไรดีล่ะ หุหุ)

ชะรอย พี่น็อตกลับมา ประเด็นนี้ก็ยังถกกันไม่จบเปนแน่แท้เทียว
...แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 2550 22:54:49
ampelisciphotis approve [ 05 พ.ย. 2550 22:49:47 ]
ความคิดเห็นที่: 19
อ่านมาแล้ว
และอ่านความเห็นของทุกคนใน กระทู้นี้

เห็นด้วยกับหลายๆ  คน

ส่วนตัวยายอ้วน ยึดคำว่า "ความพอดี" ในการปฏิบัติค่ะ
ยายอ้วน approve [ 05 พ.ย. 2550 22:53:49 ]
ความคิดเห็นที่: 20
พี่ก็เหนเยี่ยงเดียวกันแลน้องยายอ้วนที่รักยิ่ง มิเห็นสมควรกะกระบวนการสุดโต่ง ประเภทไม่ให้ใช้ ห้ามแตะต้อง (แล้วจักมีวันเข้าใจมันไหม) เถิงอย่างไรเสียทางสายกลาง อย่างเข้าใจ (มิใช่เสียงข้างมาก) คงเปนคำตอบในการตัดสินใจแลนา

อยากฟังเสียงในโลกแห่งความจริงบ้างเจ้าค่ะ ด้วยว่าอิฉันพูดด้วยเสียงในโลกอุดมคติ อันมิอาจจักเปนจริงได้ทั้งหมดในระยะเวลาอันใกล้นี้ดอก
ampelisciphotis approve [ 05 พ.ย. 2550 23:02:04 ]
ความคิดเห็นที่: 21
เห็นด้วยกับ คห.8, 9, 13, 17 มากๆ  ครับ
หอยงวงท่อ approve [ 06 พ.ย. 2550 10:04:33 ]
Nature__reply_51119.jpg
ความคิดเห็นที่: 22
พี่น๊อตผู้ตั้งกระทู้ กับ พี่ Tony จา ออกเดินทางไปพร้อมกับสายฝนกระหน่ำ เมื่อวานนี้
นกกินเปี้ยว approve [ 06 พ.ย. 2550 16:33:22 ]
ความคิดเห็นที่: 23
คงไปนาน  คิดถึงคุณน็อตแย่เลย
mim4042 approve [ 06 พ.ย. 2550 20:24:08 ]
ความคิดเห็นที่: 24
อา...ลืมไปเลย วันนั้นนายนกกินเปี้ยวทักมาว่าพี่น๊อตออกเรือแล้ว ต้องขอโทษจริงๆ  วันนั้นวุ่นๆ  ไม่รู้ทำอะไรอยู่

อย่างไรแล้วขอให้เดินทางไปกลับโดยสวัสดิภาพ เอาอะไรเด็ดดวงมาฝากน้องๆ  มากๆ  นะครับ
ไอ้ลูกทุ่ง approve [ 06 พ.ย. 2550 22:22:58 ]
ความคิดเห็นที่: 25
แล้วเรือบ่ายหน้าไปไหนครับเนี่ย...บนเรือเขาไม่มีระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมหรือครับ?
สุวรรณภูมิ approve [ 07 พ.ย. 2550 09:02:29 ]
ความคิดเห็นที่: 26
ขึ้นเหนือไปในเขตพม่า บังคลาเทศครับ เป็นเรือ SEAFDEC

โทรศัพท์ผ่านดาวเทียมคิดค่าบริการแพงมากครับ พี่เขาว่างั้น
นกกินเปี้ยว approve [ 07 พ.ย. 2550 13:04:12 ]
ความคิดเห็นที่: 27
สำหรับผม ผมเป็นมนุษย์ที่เกิดมาทำลายล้างสิ่งรอบตัว เสพทรัพยากรของโลกไปพร้อมๆ กันกับสายเลือดร่วมเผ่าพันธุ์ ผมยังใช้พลังงาน ใช้รถ ใช้น้ำ ซื้ออุปกรณ์อิเล็คโทรนิค กินอาหารตามความอยาก ปลูกบ้าน ดูหนัง มีลูก ฯ ลฯ  ผมไม่กล้าพูดว่าผมมีแนวคิดอนุรักษ์ ใช้ทรัพยากรอย่างสมดุล ยิ่งผมทำงานเกี่ยวกับสิ่งที่มีผลกับธรรมชาติโดยตรง  และยังใช้ทรัพยากรทางอ้อม ผมจะอนุรักษ์อะไร??? ผมก็แค่สร้างสิ่งสมมติขึ้นมาเพื่อปกป้องความรู้สึกของตนเอง หลอกตัวเองว่าเราก็ยังมีดี ทั้งๆ ที่มือเราอีกข้างยังฉีกทึ้งสิ่งอื่นอยู่ ไม่ว่าจะพอดี หรือเกินพอ เรากำลังทำลายซึ่ง เป็นไปตามธรรม ตามกรรม  และตามวัฏจักร สำหรับผมคงต้องพยายามไม่หลอกตัวเองก่อนว่าเรา อนุ-รักษา แล้วนะ ความจริงต้องเป็นอย่างนี้นะ เพราะมันจริงแน่หรือ ควรจะเป็นแน่หรือ  ถ้ามันจริงคงไม่พาโลกของเรามาถึงจุดนี้ คงไม่เพิ่มจำนวนเผ่าพันธุ์มาทำลายตัวเองอย่างนี้ ผมจะยอมรับให้ได้ก่อนว่าเราเป็นผู้ทำลายตั้ง แต่เริ่มพัฒนาเซลสมองของเผ่ามนุษย์ให้รู้มากกว่าเดียรัจฉาน รับได้แล้วผมว่าน่าจะมองทุกอย่างเป็นกลางๆ ไม่สุดโต่งได้


นี่เป็นวิธีคิดของผมเท่านั้นนะครับ  
ด้วยความนับถือ
จุ่มพรวด approve [ 07 พ.ย. 2550 13:23:11 ]
ความคิดเห็นที่: 28
 ถ้าเป็นสีขาวไม่ได้ หรือเป็นสีดำไม่ดี

ก็ขอให้เป็นสีเทา...

ไอ้ลูกทุ่งเข้าใจว่าพี่น้องที่อยู่ในสยามเอ็นซิสทุกท่านคือฅนสีเทาครับ
ไอ้ลูกทุ่ง approve [ 07 พ.ย. 2550 14:00:41 ]
ความคิดเห็นที่: 29
เมื่อคืน ถ้าใครได้ดูรายการฅนค้นคน คงได้มุมมองเพิ่มขึ้นนะครับ ในตอน

พงศา ชูแนม, สืบ นาคะเสถียร แห่งต้นน้ำพะโต๊ะ

http://www.tvburabha.com/tvb/home/program_list.asp?cate=1

ในตอนหน้าก็ยังคงต่อเนื่องไปเป็นตอนที่ 2 ครับ
นกกินเปี้ยว approve [ 07 พ.ย. 2550 16:30:59 ]
ความคิดเห็นที่: 30
เห็นด้วยกับคุณจุมพรวด คห. 27 ครับ มันก็แค่ผลประโยชน์ และข้ออ้างของคน งานวิจัยหลายๆ ชิ้น ของหลายๆ องค์กร ยังได้ทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ (ที่ทำธุรกิจ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำลายป่า) ที่ให้มาเพราะสำนึก(?) หรือเพื่อสร้างภาพ ทดแทนกับการกระทำของตนที่ข่มขืนธรรมชาติลงไป

คห. 28 คนสองสีก็มีนะครับ พวกข้างนอก (ต่อหน้า) สีขาว  แต่ข้างในดำไปจนถึงแก่นหน่ะ

คนพวกนี้ น่ากลัว เป็นที่ซู๊ดครับ พี่ไอ้ลูกทุ่ง อิๆ

สำหรับเรื่องของการอนุรักษ์ ผมยังเชื่อมั่นอยู่ในโลกสีเทาใบนี้ครับ เห็นด้วยกับพี่ไอ้ลูกทุ่งครับ
B-Herp approve [ 08 พ.ย. 2550 11:10:17 ]

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org