กระทู้-08664 : ปลาแม่น้ำชี-ตลาดเช้ามหาสารคาม

Home » Board » ปลา

ปลาแม่น้ำชี-ตลาดเช้ามหาสารคาม

ตลาดเช้าเมืองสารคามมีปลาน้ำจืดมากมายเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:01:52 ]
FishesPics_reply_51757.jpg
ความคิดเห็นที่: 1
หมกปลาหมู คุณ Phupania ซื้อมาฝาก เทียบจากหนังสือคู่มือปลาน้ำจืดของ ดร.ชวลิต วิทยานนท์ น่าจะเป็นปลาหมูข้างลาย
หนามที่ใต้ตา คงจะเป็นที่มาของชื่อปลาหมู
...แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 2550 10:10:52
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:09:13 ]
FishesPics_reply_51758.jpg
ความคิดเห็นที่: 2
นี่ของเช้าเมื่อวานนี้ ปลาหลากหลายน่าตื่นตาตื่นใจ  แหล่งโปรตีนราคาถูกของชาวบ้าน
ปลาตอง (ปลาสลาด)ตัวละ ๑๐ บาท
ปลาเนื้ออ่อน ตัวละ๒๐ บาท  แต่เนื้ออร่อยสมชื่อสมราคาจริงๆ
ปลาตองเอามาทำลาบอร่อยมากๆ
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:20:28 ]
FishesPics_reply_51759.jpg
ความคิดเห็นที่: 3
ปลาแปบชนิดไหนครับ
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:23:41 ]
FishesPics_reply_51760.jpg
ความคิดเห็นที่: 4
สังกะวาดชนิดไหนครับ
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:25:13 ]
FishesPics_reply_51764.jpg
ความคิดเห็นที่: 5
ปลาหมออะไรครับ
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:29:31 ]
FishesPics_reply_51765.jpg
ความคิดเห็นที่: 6
ปลาปีกไก่
เนื้ออร่อยมาก น้องๆ ปลาเนื้ออ่อนเลย เนื้อร่อน นิ่ม ลอกออกจากก้างกลางง่าย ไม่มีก้างฝอย
ที่สำคัญราคาถูก ขายรวมกับปลาเล็กปลาน้อยอื่นๆ  ๓ ขีด ๒๐ บาท
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:34:20 ]
FishesPics_reply_51766.jpg
ความคิดเห็นที่: 7
ตัวนี้แขยงข้างลายรึเปล่าครับ ?
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:36:34 ]
FishesPics_reply_51767.jpg
ความคิดเห็นที่: 8
แขยงชนิดไหนครับ?
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:38:27 ]
FishesPics_reply_51768.jpg
ความคิดเห็นที่: 9
ปลาอะไรไม่รู้ ?
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:39:39 ]
FishesPics_reply_51769.jpg
ความคิดเห็นที่: 10
ด้านข้างของตัวเมื่อกี้ครับ
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:40:55 ]
FishesPics_reply_51770.jpg
ความคิดเห็นที่: 11
แขยงหิน
แถวอีสานเรียก ปลาขี้เหี่ย แปลว่าขี้แตก มีผู้รู้ท่านใดทราบที่มาของชื่อนี้บ้าง ?
เนื้อแข็ง  แต่ก็อร่อยไปอีกแบบ
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:45:31 ]
FishesPics_reply_51771.jpg
ความคิดเห็นที่: 12
ตะเพียนทอง
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:46:27 ]
ความคิดเห็นที่: 13
#9#10 ผมว่ามันคือปลาคังมากกว่าครับ
#7 แถวบ้านเรียก แขยงใบข้าว
Fisher approve [ 08 พ.ย. 2550 10:58:27 ]
ความคิดเห็นที่: 14
สมัยอยู่ราชบุรี คำขวัญจังหวัดลงท้ายด้วย "ย่านยี่สกปลาดี"   แต่ไม่เคยเห็นมีปลายี่สกขายในตลาด ไม่ค่อยได้มีโอกาสกินปลาน้ำจืดไทยแท้เพราะในตลาดมี แต่ปลานิล
ปลาพื้นเมืองก็มี แต่ ปลาช่อน ปลาดุก ปลาหมอ ซึ่ง ก็เป็นปลาพื้นๆ  ที่เจอทุกตลาด อยู่แล้ว
ย้ายมาอยู่มหาสารคามเลยเป็นโอกาสดีได้รู้จักปลาไทยหลากหลายชนิด ได้จับต้องตัวเป็นๆ  
และลิ้มรสชาติอันโอชะ
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 10:58:36 ]
ความคิดเห็นที่: 15
โถ ตัวเล็กตัวน้อยจับกินหมด
Amphidromus approve [ 08 พ.ย. 2550 11:44:56 ]
ความคิดเห็นที่: 16
ปลาตัวเล็กๆ   แต่โตเต็มวัยแล้วนะครับ คุณ Amphidromus ต้องลอง ซิมเบิ่ง หมกปลาซิว แซบอีหลี
หอยงวงท่อ approve [ 08 พ.ย. 2550 12:19:08 ]
ความคิดเห็นที่: 17
#11 เท่าทีรู้  ถ้าโดนยักละก้อเจ็บปวดจนขี้แตก คล้ายๆ  กับปลาทะเลตัวหนึ่ง (ตัวคล้ายๆ  หิน จำชื่อไม่ได้แล้ว) ชาวบ้านบอก  ถ้าเหยียบโดนเงี่ยงเข้าละก็ "เห็นคว้า (ฟ้า) เท่าใบมะขาม -ออกสำเนียงใต้"
สุรชิต approve [ 08 พ.ย. 2550 13:52:33 ]
ความคิดเห็นที่: 18
ส่วนปลาหมอกลม #5 น่าจะเป็นหมอช้างเหยียบ หรือชาวอีสานเรียก ปลาก่า
สุรชิต approve [ 08 พ.ย. 2550 13:55:33 ]
ความคิดเห็นที่: 19
คห.3 คงเป็น  Paralaubuca typus
คห.4 Laides longibarbis
คห.5 Pristolepis fasciatus
คห.8 คาดว่าจะใช่เจ้า Mystus rhegma
ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้ Login
วินครับผม [ 08 พ.ย. 2550 20:53:07 ]
ความคิดเห็นที่: 20
เห็นภาพเปิดกระทู้ กับ ใน ความเห็นที่ ๑ แล้ว  นึกถึงแอ็บปลาที่บ้านอ่ะครับ  หิวเลย :)~~

เมื่อก่อนเคยเลี้ยงปลาหมูขาว  มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พลาด  จับขึ้นจากอ่างตอนเปลี่ยนน้ำ  มือไปโดนหนามใต้ตายักเอา  เจ็บเอาเรื่องเหมือนกันครับผม
ตะพากหน้าแดง [ 08 พ.ย. 2550 22:08:03 ]
ความคิดเห็นที่: 21
ขอบคุณ คุณ Fisher คุณสุรชิต คุณวินครับผม ที่เข้ามาช่วย identify ปลา และให้ความรู้

คุณตะพากหน้าแดง คราวหลังระวังหน่อยนะครับ
หอยงวงท่อ approve [ 09 พ.ย. 2550 09:28:13 ]
FishesPics_reply_52078.jpg
ความคิดเห็นที่: 22
ขอบคุณครับที่พาไปเที่ยวชมตลาด ภาพแรก ผมนึกถึงเจ้าตัวที่ผมเลี้ยงอยู่เหมือนกันครับ
JJ approve [ 09 พ.ย. 2550 09:42:05 ]
ความคิดเห็นที่: 23
สมัยก่อนปลาในแม่น้ำแม่กลองมีมากมายจริงๆ  เราใช้วิธีการจับปลาด้วยวิธีการต่างๆ  เช่นวางเบ็ดราวขวางแม่น้ำ การลากเชือก  ชะนาง  แห  ตกเบ็ด  ฯ ลฯ  ปลาที่ได้ก็มีหลากหลาย เช่น ปลากด ปลากา ปลาค้าว ปลาตะเพียน ฯ ลฯ  แม้ แต่ตะพาบน้ำก็ยังจับได้ง่ายๆ   หน้าน้ำ น้ำจะไหลเอ่อไปตามลำคลองที่ระบายน้ำเข้าสู่ไร่นาก็วางลอบดักไซ ปลาเล็กปลาน้อยมากมายทำน้ำปลาไว้กินน้ำปลาที่ได้จะหอมอร่อยมากทีเดียวปลาใหญ่หน่อยก็ทำปลาย่างรมควัน เก็บไว้กินได้นานๆ    ปัจจุบันนี้ลองถามเพื่อนที่เคยหาปลาด้วยกันเขาบอกว่าไม่มีใครหาปลากันแล้ว  ปลาลดน้อยลงจนหากินได้ยาก  น้ำเสียจากโรงงานก็ทำลายไปไม่ใช่น้อยพอเขาปล่อยน้ำเสียมาจะพบว่าปลาตายลอยเป็นแพเลยทีเดียวขาวไปทั้งแม่น้ำ  ตอนเด็กยังเคยลงไปจับปลาที่ยังไม่ตายกับเขาอยู่เลยหนำซ้ำเรือดูดทรายก็มาดูดทรายไปจนหมด  ทุกวันนี้หาดทรายที่เคยทอดยาวขาวสะอาดก็หมดไปสถานที่ที่เราเคยวิ่งเล่น ออกกำลังกาย และพักผ่อนก็หมดไปด้วย  ลำน้ำบริเวณนั้นกลายเป็นจุดอันตรายไม่มีใครกล้าลงเล่นน้ำอีกเพราะไม่รู้ลึกตื้นหรือกระแสน้ำวนบริเวณใด คนจมน้ำตายก็บ่อยครั้ง  ท่าน้ำ แต่ละแห่งที่เคยใช้ก็หายไปเดี๋ยวนี้มี แต่ความรกเรื้อ  สมัยก่อนเราเคยช้อนปลาทรงเครื่องขายตัวขนาดก้านไม้ขีดราคาตัวละ 2 บาทซึ่ง นับว่าแพงทีเดียวกับกาลเวลาเมื่อ 30 กว่าปีก่อน  ทุกวันนี้เพื่อนบอกว่าคงไม่มีแล้วละ  ถามหาปลาผึ้งที่มีมากมายทำน้ำปลาได้อร่อยเพื่อนก็บอกว่าไม่ค่อยมีหรอก  ซ้ำเพื่อนยังบอกไม่ต้องถามมันหมดแล้วแทบจะไม่มีปลาอะไรเหลือถึงมีก็หายากมี แต่ต้องซื้อปลาตลาดกิน
...แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 2550 12:50:26
ลำพะเนียง approve [ 09 พ.ย. 2550 10:39:13 ]
ความคิดเห็นที่: 24
# 22 ปลาหมูชนิดไหนครับคุ ณJJ?
# 23 ขอบพระคุณอาจารย์ลำพะเนียงที่มาเล่าความหลังครั้งแม่น้ำแม่กลองยังดี แม่ผมก็เล่าให้ฟังถึงความสนุกสนานครั้งยังเด็ก ปลาชุกชุมจริงๆ  หน้าน้ำหลากเอาเบ็ดเกี่ยวเม็ดข้าวสุกหย่อนลงใต้ถุนบ้านปลาแทบจะกินเบ็ดทันทีที่หย่อนเลย ในคลองหลังบ้านพื้นท้องน้ำเป็นทรายขาวสะอาด มีหอยกาบ หอยทราย หลายชนิดให้เลือกเก็บกินได้ไม่รู้จักหมด ทุ่งเขางูห่างจากเมืองไปไม่ไกลผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังถึงงานแข่งเรือที่แสนสนุก
แต่บรรยากาศแบบนี้หายไปพร้อมกับการเกิดขึ้นของเขื่อนที่ต้นแม่น้ำ  และติดตามกระหน่ำซ้ำเติมด้วยน้ำเสียจากโรงงานน้ำตาลที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตในแม่กลองในปี 2513
ความอุดมสมบูรณ์ในอดีตหมดไป คลองหลังบ้านยายกลายเป็นโคลนเลน และตื้นเขินลงทุกวันหอยกาบ หอยทรายไม่มีแล้ว

ปลาประจำจังหวัดไม่ค่อยพบในตลาด

ตะพาบม่านลายกลายเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เพราะไม่มีหาดทรายให้วางไข่

ฯ ลฯ

ขอวิงวอนให้ทุกๆ คน ช่วยกันป้องกันไม่ให้เหตุการณ์อันน่าหดหู่ใจเช่นนี้เกิดกับลุ่มน้ำอื่นๆ อีกเลย
หอยงวงท่อ approve [ 09 พ.ย. 2550 13:02:30 ]
ความคิดเห็นที่: 25
ตอบ ความคิดเห็นที่ 24
     จากภาพ # 22 น่าจะเป็น Syncrossus helodes ครับ
แถวอุบลเรียก ปลาหมูข้างลาย หรือ ปลาหมูลาย
botia approve [ 09 พ.ย. 2550 15:22:15 ]
ความคิดเห็นที่: 26
ขอบคุณ คุณ botia นะครับที่มาช่วยเสริม ใช่ครับ อย่างที่คุณ botia บอกไว้ครับคุณ หอยงวงท่อ คุณ ลำพะเนียง เล่าเรื่องได้เห็นภาพจังครับ สำหรับผมคนที่เกิดใน กรุงเทพฯ   แต่ด้วยโรงเรียนสมัยเด็กๆ นั้นติด กับที่รกร้าง และก็เป็นป่าช้าเก่า คนเลยไม่ค่อยกล้าเข้าไป  แต่ผมกับเพื่อนชอบมุดรั้วแอบเข้าไป มีเรื่องขำๆ ให้นึกถึงอยู่เสมอเช่น ไปเก็บไข่งูเห่า ทำเอาคุณครูวงแตก เพราะกลัวว่าแม่จะมาตามเอาไข่คืนผลที่ได้ก็ขาลายครับ
JJ approve [ 09 พ.ย. 2550 15:31:30 ]
ความคิดเห็นที่: 27
การสูญหายไปของทรัพยากรที่ แต่ละท่านได้บอกมาไม่ได้เกิดจากการสร้างเขื่อน  ไม่ได้เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ได้เกิดจากการใช้สารเคมีทางการเกษตร หรือจากสาเหตุอืนๆ ครับ
สาเหตุที่เกิดขึ้นมาจากการไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม  ต่อสิ่งแวดล้อมใน และนอกชุมชน ของชาวบ้าน และของผู้ประกอบการที่ต้องการการเอารัดเอาเปรียบในสังคมโดยมีการสนับสนุนจากผู้มีอิทธิพลทางการเมืองครับ เรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องรองครับ
ช้าง [ 09 พ.ย. 2550 16:10:22 ]
ความคิดเห็นที่: 28
ลืมไป ในคห27 ไม่ได้ว่าใครโดยเฉพาะนะครับ ว่ารวมทั้งประเทศ ผมสมัยเด็กก็เคยตกปลาในแม่น้ำเจ้าพระยา หย่อนเบ็ด 2-3 นาทีก็ได้ปลาแล้ว แต่มาช่วงหลังประมาณปี 2512-2513 เริ่มได้ปลา และมีการย้ายบ้านก็เลยทิ้งหายไปเสียดายมากครับ
ช้าง [ 09 พ.ย. 2550 16:31:57 ]
FishesPics_reply_52778.jpg
ความคิดเห็นที่: 29
มีภาพบรรยากาศเก่าๆ  ของแม่น้ำแม่กลองช่วงที่ไหลผ่านแถวบ้านมาฝาก  ภาพนี้ถ่ายไว้นานแล้วประมาณปี 2514  นานจนบุคคลในภาพจะจำตัวเองได้หรือเปล่าก็ไม่รู้  ในหน้าแล้งจะเห็นหาดทรายทอดตัวยาวไกล  น้ำในแม่น้ำ ไม่ได้แห้งขอด แต่ยังคงไหลให้คนสองฝั่งใช้สอย  บริเวณกลางน้ำก็จะมีร่องน้ำลึกที่กว้างพอที่เรือแพจะสัญจรไปมา ได้สะดวก

เย็นย่ำแดดอ่อนแสงก็จะมากมายไปด้วยผู้คน  บางคนก็สนุกสนานกับกิจกรรมหลากหลายบนหาดทราย  บางคนก็ลง อาบน้ำ  บางคนก็หาปลา ฯ ลฯ

ทุกวันนี้ไม่มีสภาพเช่นนี้อีกแล้ว  เฮ้อ..เสียดายจัง
ลำพะเนียง approve [ 12 พ.ย. 2550 00:13:32 ]
FishesPics_reply_52818.jpg
ความคิดเห็นที่: 30
ในปัจจุบันท่าน้ำซึ่ง เป็นทางลงไปสู่แม่น้ำมีสภาพไม่ต่างกันคือรกไม่เห็นทางเดิน  จากตลิ่งสูงไปยังริมน้ำมีต้นไม้ขึ้น ปิดทางลงจนหมด   และจากริมฝั่งที่เคยลาดเอียงลงไป เรื่อยๆ จนถึงหาดทรายกลายสภาพเป็นแหล่งน้ำลึกแม้ริมฝั่ง น้ำก็ท่วมศีรษะจนทำให้ไม่มีใครอยากลงไป
...แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 2550 03:34:29
ลำพะเนียง approve [ 12 พ.ย. 2550 03:24:05 ]
ความคิดเห็นที่: 31
คห.29  เล็งแล้วเล็งอีกก็ดูไม่ออกว่าคนไหนคือคุณลำพะเนียง

ทุกสรรพสิ่งในโลกต้องมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ดับไปนะฮะ  

เคยอ่านพบที่ไหนก็จำไม่ได้  มีคนเขียนว่า  เมืองไทยโชคดีกว่าเมืองอื่นที่ธรรมชาติประทานความงามของทุกสรรพสิ่งมาประเดไว้ที่เมืองเรามากมาย   แต่ธรรมชาติก็ยุติธรรมพอที่จะส่งคนไทยมาอยู่แถวนี้  เพราะคนไทยเป็นนักทำลายความงดงามของธรรมชาติที่เก่งที่สุด
mim4042 approve [ 12 พ.ย. 2550 11:11:25 ]
ความคิดเห็นที่: 32
คุณพี่ลำ​พะ​เนียง(จริงๆ คงต้องเรียกว่าคุณลุงหละ) เริ่มคิดถึงความหลังแล้ว รูปที #29 มีอายุมากกว่าผมอีก
สุวรรณภูมิ approve [ 12 พ.ย. 2550 14:30:46 ]
ความคิดเห็นที่: 33
ทำไมก็ไม่รู้ครับ กลุ่มปลาหมูปลาการ่าปลาค้อเห็นแล้วกินไม่ลงจริงๆ

#3 ดูแล้วเหมือนเป็นปลาที่ติดข่ายทั้งนั้นเลย
ไอ้ลูกทุ่ง approve [ 12 พ.ย. 2550 22:02:36 ]
ความคิดเห็นที่: 34
ตัวตนในปัจจุบันไม่มีเค้าเดิมหลงเหลือบ้างเลยหรือครับคุณมิ้ม  อิ  อิ

งั้นจบดีกว่านะครับคุณสุวรรณภูมิเดี๋ยวใครๆ  จะว่าผู้ชรา   หุ หุ
ลำพะเนียง approve [ 12 พ.ย. 2550 23:16:40 ]
FishesPics_reply_53229.jpg
ความคิดเห็นที่: 35
หล่อไม่เบานะครับ..อ.ลำพะเนียง
tavon approve [ 13 พ.ย. 2550 10:50:37 ]
ความคิดเห็นที่: 36
ย้อนอดีตไปเป็นสิบปี ดูดีกว่าหรืออย่างไรครับท่าน
Fisher approve [ 13 พ.ย. 2550 12:52:56 ]
ความคิดเห็นที่: 37
น่าสงสัยขอรับคุณ tavon


ไม่ได้ตั้งใจแปะภาพบุคคล แต่อย่างใด   เพียง แต่ต้องการให้เห็นสภาพแวดล้อมในอดีตกับปัจจุบัน เท่านั้น    แต่มันหาภาพไม่ได้จริงๆ   ขออภัยครับ
ลำพะเนียง approve [ 13 พ.ย. 2550 22:37:50 ]
ความคิดเห็นที่: 38
ขอบคุณ คุณ botia #22

#27 ขอแก้ต่างแทนชาวบ้านครับคุณช้าง สิ่งเลวร้ายต่างๆ  ในโลกนี้ล้วนเกิดจากความเห็นแก่ตัว ชอบเอารัดเอาเปรียบธรรมชาติ และคนที่ด้อยกว่าของพวกพ่อค้าชั่ว นายทุนเลว นักการเมืองชั่วช้า  โดยระบบทุนนิยม และแฝงมาในรูปการพัฒนาชนบท ลำพังชาวบ้านาดำๆ จะไปมีปัญญาทำอะไรครับ แค่ไปทำคอกเลี้ยงเป็ดเล็กๆ ริมทะเลยังโดนคนของทางการมาไล่  แต่ต่อมานักการเมืองท้องถิ่นเอาไม้มาปักจองที่ในทะเลเป็นร้อยเป็นพันไร่ไม่เห็นมีใครโผล่หัวมาไล่  และปัจจุบันมันก็ได้กลายเป็นบ้านเรือน ห้องแถว ห้องเช่าไปหมดแล้ว นี่ยกตัวอย่างเหตุการณ์จริงที่เกิดกับย่าผมเองนะที่ ต.บางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี ปัจจุบันไม่มีแล้วทราย มี่ แต่ขี้เลนขี้โคลน ต้องขุดดินลงไปสักหน่อยจึงจะเจอทราย

#29 อาจารย์ลำพะเนียงครับ ตะพาบที่อาจารย์เคยเล่าว่าฝังตัวอยู่ตามหาดทรายแถวบ้าน หลังมันเป็นลายๆ  หรือเปล่าครับ มันชุกชุมแค่ไหนครับ อยากให้อาจารย์ช่วยเล่าถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังที่เกิดไม่ทันเห็นความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินไทยอย่างผมฟังหน่อยครับ

#31 คนไทย แต่ดั้งเดิมมีภูมิปัญญาในการรักษาธรรมชาติครับ เช่น ความเชื่อที่ว่าต้นไม้ใหญ่มีรุกขเทวดาอยู่ แม่น้ำมีพระแม่คงคา ในนามีพระแม่โพสพ ฯ ลฯ  ชาวบ้านจะให้ความเคารพ ไม่ลบหลู่ทำลาย  
แต่ความเชื่อดังกล่าวค่อยๆ  ถูกทำลายโดยระบบทุนนิยม ที่เห็นเงินเป็นพระเจ้า ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
หอยงวงท่อ approve [ 14 พ.ย. 2550 11:13:26 ]
ความคิดเห็นที่: 39
ตะพาบน้ำนั้นพบเห็นได้บ่อยๆ  ครับ  เวลาเดินเล่นหรือเดินเก็บหอยทราย หอยกาบในน้ำซึ่ง เป็นน้ำตื้นๆ  เท้าของเรา ก็มักจะไปเหยียบถูกตะพาบน้ำที่ฝังตัวอยู่ในทรายเป็นประจำการจับตะพาบก็คือเหยียบไว้ให้แน่นแล้วก็ค่อยๆ  ใช้มือ ทั้งสองข้างจับขึ้นมา ขนาดของตัวตะพาบน้ำก็ประมาณจานข้าวอาจเล็กหรือใหญ่กว่านั้นก็มี ซึ่ง ก็มีสองอย่างคือมี ลวดลาย และไม่มีลวดลายส่วนจะมีกี่ชนิดนั้นคงไม่รู้ตอนนั้นก็คงรู้ว่านั่นคือตะพาบน้ำ  มีลายหรือไม่มีลายเท่านั้น บางครั้งตะพาบน้ำก็จะติดเบ็ดราวที่เราวางขวางแม่น้ำ การวางเบ็ดราวนั้นจะใช้หินถ่วงไว้จึงทำให้เบ็ดติดพื้นล่าง ตะพาบน้ำไม่ได้กินเบ็ด แต่จะคลานหรือว่ายมาติดเบ็ด  ตะพาบน้ำที่จับได้นั้นจะไม่มีใครกินหรืออาจมีคนกินบ้างก็ น้อยมาก  ส่วนใหญ่จับได้ก็ปล่อยลงน้ำไปเหมือนเดิม   ครั้งหนึ่งเราเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานก็ต้องตกใจที่เห็น หัวของตัวอะไรโผล่พรวดขึ้นมาข้างๆ  เมื่อเพ่งมองก็รู้ว่าเป็นตะพาบน้ำตัวขนาดใหญ่ทีเดียวสักครู่ก็ดำน้ำหายไป  แหมทำเอาตกอกตกใจ  การขึ้นมาวางไข่บนหาดทรายก็มีคนพบเห็นกันบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยนัก  เพราะช่วงที่มันขึ้นมา วางไข่ก็คงเลือกเวลาที่ปลอดคนจริงๆ   ในชีวิตของผมก็เคยกินตะพาบน้ำเพียงครั้งเดียวเพราะคนข้างบ้านเขาทำ แล้วเอามาให้ลองกินดูหลังจากนั้นก็ไม่เคยกินอีกเลย  ก็อย่างที่บอกนั่นแหละครับส่วนใหญ่เราก็กินกุ้ง หอย ปู ปลา ที่มีอย่างอุดมสมบูรณ์จึงไม่แสวงหาเมนูเด็ดมากิน   แต่ก็อาจเป็นอาหารจานพิเศษของบางคนที่ชอบได้เหมือนกัน หากเขาพบมัน
...แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 2550 04:10:55
ลำพะเนียง approve [ 15 พ.ย. 2550 02:18:18 ]
ความคิดเห็นที่: 40
คุณยายก็เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนที่หน้าประตูระบายน้ำคลองระพีพัฒน์(ปทุมธานี)จะมีปลาชุกชุมมากขนาดหลังเกยกันเลย พวกปลาพวง(มักเรียกว่าปลาบ้า) ปลาน้ำเงิน ปลาเทโพ ปลาสวาย ปลากด ปลากราย ปลากระทิง ปลาหลด ปลาหมู ปลาแขยง ปลาแปบ ปลาตะโกก และตะเพียน ฝูงปลาซ่าปลาซิว ฯ ลฯ  ปลากระโห้ตัวโตๆ แม้กระทั่งปลากระ​เบนน้ำจืดตัวใหญ่ที่เรียกว่าปลาราหูก็มีให้พบได้บ่อยครั้ง

ส่วนตะพาบม่านลายตัวโตๆ คุณยายไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีตัวหรือไม่ ที่เคยเห็นเองก็เป็นขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือ(เห็นครั้งเดียวเป็นชนิดที่หลังไม่มีลาย) ที่ยังพอเห็นบ้างก็เป็นเต่าตัวดำๆ  ปีนี้ตัวโตๆ ขึ้นมาเดินเล่นให้เห็นแค่ 3 ตัว (รูปที่เคย post ไว้ ) ในกระทู้ กระทู้​ - 08646 : ​เส้นทางสุขใจ​...​พา​เที่ยวรอบบ้าน​(อีกครั้ง) ส่วนตามบ่อในท้องร่องหากวางเบ็ดมักจะได้ ปลาไหล ปลากระสง ปลาช่อน ปลาดุก ปลาจี๊ด ปลาสลาด ปลาหมอ (หลายปีมานี้ไม่เคยเห็นตัวปลาจี๊ดที่ท้องร่องแม้ แต่ตัวเดียว)
...แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 2550 09:07:38
สุวรรณภูมิ approve [ 15 พ.ย. 2550 08:43:27 ]
ความคิดเห็นที่: 41
ขอบคุณ อาจารย์ลำพะเนียง  และคุณสุวรรณภูมิที่มาเล่าเรื่องราวอดีตที่อุดมสมบูรณ์ของลุ่มน้ำแม่กลอง และเจ้าพระยาให้ฟังครับ ขอบคุณมากครับ
หอยงวงท่อ approve [ 15 พ.ย. 2550 11:58:19 ]
ความคิดเห็นที่: 42
ปลากระเบนน้ำจืดก็เคยพบเช่นกันครับ  แล้วหางปลากระเบนก็เห็นเหน็บไว้ตามผนังกุฏิในวัด  พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนนั้นต้องมาเป็นเด็กวัดเพื่อเรียนหนังสือหางกระเบนก็คืออุปกรณ์ปราบเซียน  เด็กวัดในสมัยก่อนจึงกลัว นักกลัวหนา

อ้อ..อีกความเชื่อหนึ่งก็คือตะพาบน้ำอาจคล้ายเต่าจึงไม่มีใครชอบกิน และตะพาบตัวลายๆ  หรือม่านลายเขายิ่งไม่กิน เขาบอกกินไม่ได้  เขาบอกว่าหากเป็นโรคภัยไข้เจ็บเมื่อกินเข้าไปโรคนั้นมันจะแสดงอาการทันที  ก็คงแสลงนั่นแหละ ครับ

ลืมบอกไปว่าผู้คนสองฝั่งแม่กลองบริเวณนั้นส่วนใหญ่มีเชื้อสายรามัญซึ่ง มีความเชื่อเกี่ยวกับเต่าเขาเรียกเต่าว่า "มะอาซะ" ซึ่ง แปลว่า "ตัวเหม็น"  เขาจะไม่ให้เต่าเข้าบ้านหรือจะไม่ข้องแวะกับเต่าเลย  เขาจึงไม่กินเต่า และอาจ เหมารวมไปถึงตะพาบน้ำ   เมื่อไม่มีใครพากินก็เลยไม่มีใครกินไปเลยก็เป็นได้
...แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 2550 15:28:04
ลำพะเนียง approve [ 17 พ.ย. 2550 13:45:29 ]
ความคิดเห็นที่: 43
คนมอญในปทุมธานีก็คล้ายๆ กันครับ เท่าที่จำได้คนแก่ๆ ชาวมอญเมื่อเขาเห็นเต่าเขาจะเรียกว่า"เต่าเน่า" ผมอาจจะจำผิด...เพราะช่วงนั้นยังเด็กอาจจะจับความคลาดเคลื่อน สมัยเด็กๆ เคยถูกคนสูงอายุชาวมอญห้ามเอานิ้วชี้เต่าด้วย ยิ่ง ถ้าเด็กๆ จะเข้าไปเล่นแกก็จะส่งเสียงดังเลย ตะโกนว่าเต่าเน่า เต่าเน่า... ก็เห็นเต่ามันโผล่จากน้ำยังไม่ตายซักหน่อย

​ยังจำได้เลยว่าช่วงเสาร์-อาทิตย์ไปตกปลาแถวๆ หัวถนนติวานนท์ แถบๆ นั้นกลายเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา(สะพานปทุมธานี)ในปัจจุบัน  เจอแกทีไรแกชอบชวนกินข้าว(เจี๊ยะ​เปิง)ทุกที บ้านแกมีมะม่วงพราหมณ์ (พราหมณ์เฉยๆ  คาดว่าเป็นคนละต้นกับพราหมณ์ขายเมีย)ด้วยเดี๋ยวนี้คงโดนโค่นทิ้งไปแล้ว  ถ้าสุกได้ที่แกจะให้เป็นลาภปากด้วย (เวลาสุกจะมีรสหวานน่ากิน และมีผิวเหลืองๆ มีจุดประดำๆ เล็กๆ ทั่วทั้งลูก) งูเหลือม และเสือปลายังมีให้เห็ฯ ตัวบ้างก่อนที่จะสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ มีอยู่ครั้งหนึ่งได้วิชาตกปลาดุกด้วยสบู่ซันไลต์จากแกมาด้วย บางครั้งได้ฟังเรื่องนรก-สวรรค์จากแกจนน่าเบื่อ
...แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 2550 10:59:35
สุวรรณภูมิ approve [ 18 พ.ย. 2550 06:40:17 ]
ความคิดเห็นที่: 44
สมัยก่อนพวกเราใช้สบู่ดาวเทียมซึ่ง เป็นสบู่ก้อนสีเหลืองๆ  มีลักษณะเหนียวไม่เปื่อยยุ่ยง่ายเมื่อถูกน้ำ  ตัดเป็นสี่เหลี่ยม ลูกบาศก์เล็กๆ  เป็นเหยื่อเกี่ยวเบ็ดโดยเฉพาะเบ็ดราวที่วางขวางลำน้ำ  ปลาที่ได้จะเป็นพวกปลากดล้วนๆ  เลยครับ
ลำพะเนียง approve [ 18 พ.ย. 2550 12:14:39 ]
ความคิดเห็นที่: 45
ช่างคล้ายกันจังเลย...
สุวรรณภูมิ approve [ 18 พ.ย. 2550 12:30:21 ]
ความคิดเห็นที่: 46
เป็นคำคล้องจองที่พูดเล่นกันบ่อยๆ  คุณสุวรรณภูมิลองแปลดูนะครับ

เจี๊ยะเปิง - เซิงบ๊อก  เจี๊ยะมะก๊อก - เซิงดั๊ด


แล้วลองแปลประโยคนี้ดูนะครับ
1. เจี๊ยะเปิงมัวแนม
2. อาลาเกลิง
ลำพะเนียง approve [ 18 พ.ย. 2550 13:53:41 ]
ความคิดเห็นที่: 47
กินข้าว-สูบบุหรี่ กินมะก๊อก(คงกินมะกอกอ๊ะม้างงงงงงงงงงงงงงง)  โอ๊ยยยยยยยยยย เจอกระทู้นี้ มะรึนมึนมึน อีกแล้ว

เดาเอานะครับ เพราะตอนนี้ไม่รู้จะถามใคร
1. เจี๊ยะ​เปิงมัวแนม -> กินข้าวหรือยัง?
2. อาลา​เกลิง(เสียงคุ้นๆ  แต่ไม่แน่ใจ) น่าจะเป็น อาลอเกลิง -> ไปไหนมา?
สุวรรณภูมิ approve [ 18 พ.ย. 2550 16:17:52 ]
ความคิดเห็นที่: 48
มีมอญปทุมธานีแท้ๆ คนหนึ่งกำลังแอบฟังสองท่านคุยกัน
mim4042 approve [ 18 พ.ย. 2550 17:36:09 ]
ความคิดเห็นที่: 49
อะจา mim4042 เตาะฮ์ หม่อน ปะทุม เรา?
สุวรรณภูมิ approve [ 18 พ.ย. 2550 18:29:38 ]
ความคิดเห็นที่: 50
เยี่ยมจริงๆ  ครับคุณสุวรรณภูมิ

เจี๊ยะเปิง - เซิงบ๊อก = กินข้าว - สูบบุหรี่,  เจี๊ยะมะก๊อก - เซิงดั๊ด = กินมะกอก - ดื่มน้ำ  

สองประโยคนั้นก็ถูกแล้วครับ  ภาษาพูดกับภาษาเขียนอาจสะกดยากนิด

อะจา mim4042 เตาะฮ์ หม่อน ปะทุม เรา? =  อาจารย์มิ้มเป็นมอญปทุม ฯ  หรือ ?
ลำพะเนียง approve [ 19 พ.ย. 2550 01:23:19 ]
ความคิดเห็นที่: 51
ตอบคุณสุวรรณภูมิเป็นภาษาไทยนะฮะ  เป็นมอญปทุม   แต่ไม่รู้ภาษามอญเลย  ดีว่าคุณลำพะเนียงแปลให้ เกิดทันได้ฟังญาติผู้ใหญ่พูดกันนิดๆ หน่อยๆ   เคยเรียนครั้งหนึ่งก็เรียน แต่ไวยากรณ์เราเลยงงไปหมด
mim4042 approve [ 19 พ.ย. 2550 10:23:04 ]
ความคิดเห็นที่: 52
เจี๊ยะ​เปิง​ - ​เซิงบ๊อก​  ​เจี๊ยะมะก๊อก​ - ​เซิงดั๊ด ตอนแรกกะว่าจะแปล เป็น กินข้าว-สูบบุหรี่  กินบ๊ะหมี่-สูบบ้อง ซะแล้วววววววววววววววววว

ภาษามอญผมก็ไม่ได้เรียนครับ ก็ได้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่เจอะเจอกันสอนให้เป็นบางคำเท่านั้น สมัยโน้นยังเด็กๆ อยู่พอจะมีบุญได้มีโอกาสเห็นเขาจุดลูกหนูในงานศพพระผู้ใหญ่ 2-3 ครั้ง เสียดายที่ยังเด็กมากความทรงจำก็เลือนลางเต็มทีครับ (ปัจจุบันมีการสืบสานประ​เพณีสงกรานต์​ และ​แข่งขันจุดลูกหนู ​เล่นสะบ้า ฯ ลฯ )
สุวรรณภูมิ approve [ 19 พ.ย. 2550 11:09:31 ]
ความคิดเห็นที่: 53
บรรยากาศ แต่เก่าก่อนน่าอภิรมย์ยิ่งนัก
หอยงวงท่อ approve [ 19 พ.ย. 2550 13:15:18 ]
ความคิดเห็นที่: 54
แถวบ้านผมก็มีการรื้อฟื้นประเพณีหลายอย่างเหมือนกันครับ  อ้อของดีๆ  ที่ติดไม้ติดมือมา แต่กาลก่อนเขาก็รวบรวม จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้วอยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร  รวมทั้งวัดวาอารามก็กลายเป็นโบราณสถานไปด้วย

จากน้ำชีสู่แม่กลองล่องไปเจ้าพระยา 3 ลุ่มน้ำเลยนะเนี่ย
ลำพะเนียง approve [ 19 พ.ย. 2550 20:41:23 ]
ความคิดเห็นที่: 55
คุณหอยงวงท่อครับรบกวนเปิดเมลอ่านสักนิด  ขอบคุณมากครับ (หรือเปิดอ่านแล้วก็ไม่รู้แฮะ)
ลำพะเนียง approve [ 19 พ.ย. 2550 22:21:15 ]
ความคิดเห็นที่: 56
ตกลง..คนแก่คุยกันซะแล้ว...ว
Fisher approve [ 20 พ.ย. 2550 16:22:43 ]
ความคิดเห็นที่: 57
กร๊ากๆ ๆ   ว่าแล้วเชียว
ลำพะเนียง approve [ 20 พ.ย. 2550 16:36:47 ]
ความคิดเห็นที่: 58
เพิ่มเติมอีกนิดก็แล้วกัน

ภาษามอญนั้นเมื่อก่อนผมฟังออกพูดได้บ้าง  ต่อมาฟังออกชักพูดไม่ได้ด้วยคิดถึงคำที่จะพูดไม่ออกเวลาจะพูด ตอนนี้ฟังแล้วบางคำก็งงเริ่มแปลไม่ออกส่วนพูดนั้นนึกคำที่จะพูดไม่ได้ไปเลย
ลำพะเนียง approve [ 20 พ.ย. 2550 16:46:32 ]
ความคิดเห็นที่: 59
ผมยังไม่แก่คร้าบ คุณ Fisher
หอยงวงท่อ approve [ 20 พ.ย. 2550 18:43:57 ]
FishesPics_reply_55399.jpg
ความคิดเห็นที่: 60
เหอะๆ ...ผมก็ยังไม่แก่คร๊าบ...  พี่ Fisher คนโน้นมั้งครับ โน่นครับคนนู๊นนนนนนนนนน
สุวรรณภูมิ approve [ 21 พ.ย. 2550 01:42:56 ]
ความคิดเห็นที่: 61
อาจารย์ลำพะเนียงครับยังไม่ได้รับเมลของอาจารย์ครับ

คนไหนคือคุณสุวรรณภูมิครับ
หอยงวงท่อ approve [ 21 พ.ย. 2550 09:13:36 ]
stumpeesuwan@yahoo.com
ความคิดเห็นที่: 62
รูป #60 คนใส่เสื้อสีชาส้มๆ ในกลุ่มนี้หน้าตาคล้ายผมที่สุด เวลาเดินไปไหนมาไหนใครๆ ก็บอกว่าหน้าคล้ายๆ ผมครับ
สุวรรณภูมิ approve [ 21 พ.ย. 2550 11:23:19 ]
ความคิดเห็นที่: 63
เอ..ผมก็ส่งถูกอยู่นาทำไมไม่ถึงล่ะ อ้อ..ผมใช้ของ yahoo นะครับตอนส่งไม่ได้ใช้ hotmail ตามที่บอก เดี๋ยวส่งใหม่ก็แล้วกันครับ
ลำพะเนียง approve [ 21 พ.ย. 2550 19:56:28 ]
ความคิดเห็นที่: 64
ปลาตัวลำดับที่ 5 เขาเรียกว่าปลาหมอตะกลับ ย่างกินอร่อย
ปลาตัวอันดับที่ 9 เขาเรียกว่าปลากดขี้ลิง มีมากในภาคกลาง ที่มากที่สุดคือแถวอำเภอนครชัยศรี
wvhdiU;d [ 15 ก.พ. 2551 13:17:13 ]
nccdp7@gmail.com

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org