กระทู้-08687 : เสียงเล่าจากป่าลึก สุสานช้าง เรื่องจริงหรือตำนาน

Home » Board » เลี้ยงลูกด้วยนม

เสียงเล่าจากป่าลึก สุสานช้าง เรื่องจริงหรือตำนาน

ข่าว รายงาน เรื่องน่าอ่าน เสียงเล่าจากป่าลึก สุสานช้าง เรื่องจริงหรือตำนาน หลังจาก ข่าว การล้มของช้างพร้อมกันทีเดียว 6 ตัวก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ  นานา จึงเกิดเสียงเล่าลือเรื่อง สุสานช้าง ในตำนานพรานป่าลอยวนเวียนอยู่วงสนทนา อยากรู้ว่า สุสานช้าง มีจริงหรือไม่ที่นี่มีคำตอบ
electron approve [ 13 พ.ย. 2550 16:22:23 ]
ความคิดเห็นที่: 1
ข่าวการล้มของช้างพร้อมกันทีเดียว 6 ตัว ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเครือหวาย ในท้องที่บ้านคลองพลู หมู่ 4 ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เขตติดต่อตำบลหนองบอน อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ  นานา โดยเฉพาะช้างโขลงใหญ่ขนาดนี้ที่นอนตายเอาหัวชนกัน ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศไทย

          แม้ว่าล่าสุดจะมีข้อสรุปในเบื้องต้นว่า ช้างน่าจะตายเพราะกินหญ้าที่มียาฆ่าแมลง เนื่องจากพิสูจน์พบว่ามีองค์ประกอบของสารเคมีทางการเกษตรกลุ่มยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ตกค้างอยู่ในเศษอาหารของซากช้างทั้ง 6 ตัว  แต่ก็ยังมีคำถามที่ยังคาใจว่า...ทำไมต้องมานอนตายเอาหัวชนกัน!

เสียงเล่าลือเรื่อง สุสานช้าง ในตำนานพรานป่าจึงยังลอยวนเวียนอยู่ในวงสนทนาที่ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด ว่ากันว่าในป่ามีสุสานช้างอยู่ที่ไหนสักแห่ง ซึ่ง ใครๆ  ต่างพยายามค้นหา เพราะนั่นหมายถึงขุมทรัพย์อันมหาศาล
electron approve [ 13 พ.ย. 2550 16:24:56 ]
MammalsPics_reply_53312.jpg
ความคิดเห็นที่: 2
ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ.2540 หรือที่นักอ่านโดยทั่วไปรู้จักกันในนาม "พนมเทียน" เจ้าของนวนิยายผจญภัยอันลือลั่นเรื่อง "เพชรพระอุมา" ในวัย 76 ปี ให้ความเห็นในฐานะผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องพงไพร เคยใช้ชีวิตอยู่ในป่าอยู่นาน 30-40 ปี ว่า

          สาเหตุที่ช้าง 6 ตัวตายรวมกันที่ป่าเครือหวาย จังหวัดจันทบุรี อาจจะเป็นเพราะเกิดโรคระบาด หรือเกิดวิปริตทางธรรมชาติ อย่างในอดีตที่ผ่านมา ก็เคยมีแล้วที่ช้างที่หนีอันตรายจากภูเขาไฟระเบิดถึงกับไปตายร่วมกันเป็นจำนวนมาก

          ส่วนเรื่อง "สุสานช้าง" นั้นเป็นเพียงเรื่องตำนานที่เล่าขานต่อๆ  กันมาว่า ช้างเวลาที่จะตายก็ต้องไปตายที่สุสานช้าง  แต่เท่าที่สอบถามจากบรรพบุรุษซึ่ง เป็นนักเดินป่าย้อนหลังไป 100 กว่าปี ก็ยังไม่เคยมีใครพบสุสานช้างเลย

          ผมคิดว่าเรื่องสุสานช้างนั้นไม่มี ช้างนึกจะตายที่ไหนก็ตายที่นั่น ผมเองก็เคยตามหาสุสานช้างอยู่หลายปี ตลอดชีวิตการเดินป่า 40-50 ปี กระทั่งเคยไปค้นหาตามถ้ำโบราณกับชาวต่างชาติที่สนใจเรื่องสุสานช้าง ไม่เคยพบเลย พบ แต่หลักฐานของมนุษย์ถ้ำ

          เจ้าของนวนิยายผจญภัยในป่า ผู้สร้าง รพินทร์ ไพรวัลย์ ให้เป็นจอมพรานผู้ยิ่งใหญ่ ย้อนเหตุการณ์เมื่อครั้งที่ยังเข้าป่าว่า

          "ตอนผมเข้าป่าอายุ 24 ปี เห็นช้างอยู่กันเป็นฝูงเป็นโขลง ซึ่ง จะว่าไปแล้วช้างเป็นสัตว์ที่ไว้ใจไม่ได้ เป็นสัตว์ดุร้าย หากใครมีเหตุที่ต้องเผชิญหน้ากับช้าง ต้องเลือกระหว่าง "วิ่งหนี หรือไม่ก็ยอมให้ช้างเหยียบตาย"

           ถ้าไปทำร้ายช้างเมื่อไหร่ มีความผิดเมื่อนั้น  แต่ช้างเหยียบคนตาย ช้างไม่มีความผิด  และไม่ถูกตามล่า อย่างดีก็ถูกไล่ให้ไปอยู่ในป่า เพราะมีกฎหมายคุ้มครองตั้ง แต่ พ.ศ.2504-2505 เป็นพระราชบัญญัติสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า ให้สิทธิสัตว์ป่าไว้มากเหลือเกิน ซึ่ง ก่อนหน้านั้นผมกับเพื่อนก็ยังเข้าไปในป่าไปล่าสัตว์กันมาก กฎหมายดังกล่าวจึงออกมาเพราะคนนิยมเข้าป่าล่าสัตว์กันเป็นจำนวนมาก

          นักประพันธ์เพชรน้ำเอกของนวนิยายท่องไพร "เพชรพระอุมา" เล่าว่า ความที่ชีวิตวัยหนุ่มที่เข้าป่าล่าสัตว์อยู่บ่อยครั้ง ได้พบเห็น และมีประสบการณ์ที่โชกโชนเกี่ยวกับสัตว์ป่าต่างๆ  นานา รวมทั้งได้เห็นความดุร้ายของช้างมาแล้ว ผมล่าสัตว์ป่ามาแล้วแทบทุกชนิด  แต่มีอยู่ชนิดเดียวที่ผมไม่ล่า คือ ช้าง เพราะเคยตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่า ผมจะไม่ทำร้ายช้าง  และช้างก็อย่ามาทำร้ายผม

          ในชีวิตเดินป่าของผมไม่เคยทำบาปกับช้างแม้ แต่ครั้งเดียว  แต่เคยเห็นช้างทำร้ายคนจนตายมาแล้วหลายครั้ง แถวป่าจังหวัดทางภาคใต้ก็เคย ที่ห้วยขาแข้งก็เคย แล้วยังมีทางแถบลุ่มน้ำสาละวินในเขตประเทศพม่าอีก

          เจ้าของนามปากกา "พนมเทียน" ย้ำอีกว่า ตนเองเป็นคนที่รักการเดินป่า รักการยิงปืน  และไม่มีเจตนาไปฆ่าสัตว์ให้หมดสิ้นไปจากป่า มีอาวุธไว้แค่ป้องกันตัว

          ในป่าไม่สามารถจะหาอาหารอะไรได้ อย่างดีก็เอาข้าวสารกับเกลือเข้าไป จะมีที่ล่าสัตว์จริงๆ  ก็คือ พวกกวาง เก้ง ขอจากป่าวันหนึ่งอย่างมากก็ตัวหนึ่งเพื่อใช้เป็นอาหาร ไม่ใช่ยิงทิ้งยิงขว้าง ผมไม่ล่าช้าง ไม่ทำร้ายช้าง ก็เพราะช้างเป็นสัตว์ใหญ่  ถ้าเกิดไปล่าสักตัว ป่าเสียหมด มันเน่าเหม็น  และอีกประการคือ ล้มมาก็ไม่ได้เอาเนื้อไปทำประโยชน์

          การล่าช้างเพื่อจะเอางามาขาย ผมเห็นว่าบาปมากเกินไป สัตว์พวกนี้อายุมากกว่าพวกที่จะไปล่าเสียอีก ช้างบางตัวอยู่มา 70-80 ปีแล้ว  แต่ผมอายุแค่ 20 กว่าปีจะไปฆ่าช้างพวกนั้น มันไม่ถูกต้อง จึงตั้งจิตกับตัวเองว่า เรื่องล่าช้างจะไม่แตะต้อง ช้างกับผมไม่เคยที่จะเป็นอันตรายต่อกัน
electron approve [ 13 พ.ย. 2550 16:25:23 ]
MammalsPics_reply_53313.jpg
ความคิดเห็นที่: 3
ฉัตรชัยย้อนเหตุการณ์คราวคับขันที่ต้องเผชิญหน้ากับช้างป่าอย่างจังๆ  ว่า




          มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมประจันหน้ากับช้างพลายตัวใหญ่มาก ระยะห่างเพียงแค่ 20 เมตร ช้างตัวนั้นม้วนงวงใช้ขาเตะดิน พร้อมที่จะเข้ามาทำร้ายผมทุกวินาที ผมเองก็เตรียมตัวอยู่เหมือนกัน ในมือมีปืนไรเฟิลพร้อมที่จะระเบิดกระสุนได้ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้ผมเคยตั้งจิตอธิษฐานว่าจะไม่ทำร้ายช้าง พอถึงนาทีวิกฤต ผมก็เลยลองตั้งจิตอธิษฐานอีกครั้งว่า  ถ้าเราไม่เคยมีบาปมีกรรมต่อกัน ขอให้หลีกทางให้ผม เพราะตอนนั้นผมหนีไปไหนไม่ได้เลย เนื่องจากสองข้างทางที่ผมยืนอยู่เป็นเหวลึก หากหนีก็ตกเหวตาย สักพักเป็นเพราะแรงอธิษฐานหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ช้างก็หันหลังกลับ หลีกไปอีกทาง ผมก็เลยรอดตายมาได้

          ฉัตรชัยบอกต่ออีกว่า ทุกวันนี้ที่สัตว์ป่าได้รับการปกป้องคุ้มครองชีวิตมากขึ้น ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณ นพ.บุญส่ง เลขะกุล

          ท่านเป็นอาของผมเอง ท่านเข้าไปใช้ชีวิตอยู่กับป่าจนกระทั่งมีความคิดที่จะคุ้มครองชีวิตสัตว์ป่า ก็เลยลุ้นให้รัฐบาลออกพระราชบัญญัติสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า ก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายดังกล่าวออกมา เราก็มีพระราชบัญญัติคุ้มครองช้างป่าอยู่ก่อนแล้วตั้ง แต่สมัยรัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 คือ เมื่อก่อนใครยิงช้างป่าตาย จะถูกปรับตัวละ 80 บาท ถือว่าเป็นค่าปรับที่สูงมาก ปัจจุบันมีโทษทั้งจำทั้งปรับ

          ความที่มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าอย่างเข้มงวดมากขึ้น คนล่าช้างไม่ได้ ทำให้อัตราการล่าช้างลดน้อยลงไปอย่างมาก  แต่ ถ้าพูดสภาพความเป็นอยู่ของช้างก็ไม่ได้มีชีวิตที่อยู่ดีมีสุขกับป่าเขาเหมือน แต่ก่อนสักเท่าไหร่ เพราะป่าในเมืองไทย ซึ่ง ก็คือบ้านของช้างถูกทำลายลงไปเรื่อยๆ  เมื่อช้างไม่มีอาหารเพียงพอ ก็จะออกจากป่า เราจึงได้ข่าวการบุกรุกไร่สับปะรด ไร่กล้วย ไร่อ้อย ของชาวบ้าน

          ผมว่าการที่มีกฎหมายคุ้มครองช้างเป็นเรื่องที่ดี เพราะคนไม่สามารถล่าช้างป่าแบบตรงๆ  ได้  แต่ก็ต้องหาวิธีที่จะไม่ให้ช้างต้องอยู่อย่างอดๆ  อยากๆ  จนต้องออกจากป่ามาหาอาหาร นั่นก็คือ ต้องมีป่าให้ช้างอยู่  และสร้างแหล่งอาหารให้ช้าง ปลูกกล้วย สับปะรด ทิ้งไว้ในป่า

          การตายหมู่ของช้างทั้ง 6 ตัวในครั้งนี้ น่าจะเป็นการสร้างความสำนึกให้เกิดแก่คนไทยทุกคน ให้หันมาช่วยกันดูแลใส่ใจคุณภาพชีวิตของช้าง สัตว์คู่บ้านคู่เมือง ซึ่ง  ถ้าไม่กล่าวถึงช้างเผือกที่ถือเป็นสัตว์คู่บารมีพระมหากษัตริย์ไทยนับ แต่โบราณ ช้างในปัจจุบันยังทำหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรี เป็นสิ่งดึงดูดการท่องเที่ยวไทย  และอื่นๆ  อีกมากมาย ควรที่เราจะช่วยกันดูแล

          โดยเฉพาะการปลูกป่า ปลูกอาหารให้ช้าง เพราะเมื่อมีอาหารเพียงพอ ปัญหาบุกรุกทำลายพืชไร่ของชาวบ้าน รวมทั้งปัญหาช้างขอทานก็น่าจะหมดไป
electron approve [ 13 พ.ย. 2550 16:26:23 ]
MammalsPics_reply_53314.jpg
ความคิดเห็นที่: 4
เรื่องประกอบ "สุสานช้างไม่มีจริง"

           นายพิสิษฐ์ ณ พัทลุง อดีตผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ให้ความเห็นว่า ผมว่าสุสานช้างไม่มี น่าจะเป็นเรื่องเล่า เหมือนกับเรื่องเสือสมิง ที่กล่าวถึงในนิยายหลายเรื่องว่าเป็นสัตว์ที่มีวิญญาณสิง ซึ่ง เป็นเรื่องปกติของนิยาย  และ ถ้าจะพูดในทางวิทยาศาสตร์ ก็ไม่เคยมีข้อพิสูจน์ว่ามีสุสานช้าง ผมว่าน่าจะนำหลักการมาจากเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่เขียนภาพบนผนังถ้ำ เป็นลายเส้นของมนุษย์ดึกดำบรรพ์ที่ไล่ช้างไปตกหน้าผาที่เดียวหลายๆ  ตัว เป็นการสันนิษฐานว่ามีการไล่ต้อนช้างให้ตกไปจากที่สูง  แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นสุสานช้าง

           การตายของช้างก็จะเป็นการตายตามปกติเหมือนสัตว์ทั่วไป  ถ้าเป็นป่าที่สมบูรณ์จะไม่มีซากให้เหลือเน่านัก เพราะว่าพอช้างตาย สัตว์ที่กินซากก็จะมากิน แม้ แต่กระดูกที่เหลือเม่นก็จะมากิน ส่วนกระดูกที่เหลือจากเม่นกินชิ้นเล็กๆ  ก็จะแมลงมากินต่ออีก เพราะฉะนั้นในบริเวณพื้นที่ป่าสมบูรณ์จะไม่พบซากสัตว์เน่าเหม็น

           การที่พบช้างตายร่วมกัน 6 ตัว เอาหัวมาชนกัน ลักษณะอย่างนี้น่าจะโดนล่า ผมเชื่อว่าอาจจะถูกยิงพร้อมกัน  และตายจำนวนหนึ่ง อีกจำนวนหนึ่งบาดเจ็บแล้วหนีไปได้ เพราะมีการล่าเอาเนื้อ เอาหนัง เอาจู๋ เอากระดูก  แต่ ถ้างายังอยู่ เป็นเรื่องแปลก  และหากถูกสารพิษคงไม่มาตายรวมกัน

           อย่าลืมว่าคนที่กินงวงช้าง กินจู๋ช้าง กินเนื้อช้าง มีไม่น้อย ผมเชื่อว่าช้างคงจะไม่หมดไปจากประเทศไทย ในอดีตป่าเมืองไทยมันเชื่อมต่อกัน  แต่ปัจจุบันป่าถูกทำลายเหลือเป็นหย่อมๆ  เส้นทางของช้างถูกตัดขาดไปด้วย เพราะคนบุกรุกพื้นป่าทำลายแหล่งน้ำของช้าง ทำให้ช้างต้องออกมาบุกรุกพื้นที่ของชาวบ้าน ซึ่ง ช้างไม่รู้หรอกว่ากล้วย อ้อยเป็นของใคร

            ถ้าจะไม่ให้ช้างหมดไปจากเมืองไทย ทางอุทยานแห่งชาติต้องเข้ามาจัดการ ผมอยากเห็นป่าที่ใกล้กันมีการจัดพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันระหว่างป่าต่อป่า ไม่จำเป็นต้องเชื่อมเป็นพื้นที่ใหญ่โต เพียงแค่ให้ช้างมีเส้นทางของมันที่สามารถจะย้ายจากป่าหนึ่งไปอีกป่าหนึ่งโดยปลอดภัย โอกาสที่ช้างจะสูญพันธุ์จะน้อยลง

           เรื่องประกอบ "คืนช้างสู่ป่าแก้ปัญหาวิกฤตช้างไทย"

           มูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประชากรช้างว่า ปัจจุบันช้างเอเชียมีการกระจายพันธุ์ใน 13 ประเทศ โดยพบในประเทศไทยประมาณ 5,000 ตัว เป็นช้างป่าประมาณ 2,000 ตัว  และช้างเลี้ยงอีกประมาณ 3,000 เชือก ปัจจุบันประชากรช้างป่ากำลังลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วจากปัญหาการถูกล่า และผืนป่าซึ่ง เป็นถิ่นอาศัยถูกทำลายลง ช้างเลี้ยงจำนวนมากต้องประสบปัญหาตกงานกลายเป็นช้างเร่ร่อน และช้างขอทานในเมืองใหญ่ หรือถูกใช้งานลักลอบลากไม้ผิดกฎหมาย

           เป็นที่มาของโครงการช่วยเหลือช้าง ซึ่ง หนึ่งในนั้นคือ โครงการคืนช้างสู่ธรรมชาติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาช้างไทย โดยเฉพาะปัญหาช้างลักลอบลากไม้ผิดกฎหมาย และปัญหาช้างเร่ร่อน

           การนำช้างเลี้ยงกลับไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเพื่อฟื้นฟูประชากรช้างป่าเป็นแนวทางในการช่วยป้องกันไม่ให้ช้างสูญพันธุ์ไปจากป่า ในเวลาเดียวกันยังช่วยแก้ปัญหาช้างเลี้ยงที่ไม่มีงานทำ ซึ่ง เป็นผลกระทบจากการที่รัฐบาลเข้มงวดกับการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า โดยมีการยกเลิกสัมปทานป่าไม้ในปี 2533-2534  และได้ประกาศให้งานชักลากไม้ในป่า เป็นอาชีพผิดกฎหมาย ทำให้ช้างลากไม้ทั้งหมดกลายเป็นช้างที่ทำงานผิดกฎหมายนับ แต่นั้นเป็นต้นมา

           การดำเนินโครงการคืนช้างสู่ธรรมชาติ ยังได้รับการสนับสนุนจากกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ได้รับความสนใจ และความร่วมมือจากนานาชาติ  และบุคคลสำคัญในระดับชาติอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดอีกด้วย


http://hilight.kapook.com/view/17263
electron approve [ 13 พ.ย. 2550 16:27:41 ]
MammalsPics_reply_53330.jpg
ความคิดเห็นที่: 5
 ถ้าพรานล่าช้างเพื่อเอาเนื้อช้างมาทำประโยชน์ก็จะแปลกประหลาดอย่างมากหละครับ  เพราะเนื้อช้างจะหยาบ และเหนียวมากๆ  นึกภาพคนกินยางในของมอเตอร์ไซค์ประมาณนั้นเลยทีเดียว

ที่ช้างตายแล้วเอาหัวชนกันเพราะเป็นช้างครอบครัวเดียวกันหรือเปล่าครับ? หรือเป็นพฤติกรรมที่คล้ายๆ กับคนหรือเปล่าที่พ่อแม่ที่มีความรัก และห่วงหาอาธรณ์มักจะนอนกอดลูกๆ ? (สังเกตจากข่าวบ่อยๆ เวลาคู่รักพร้อมใจกันตาย เช่น กินยาพิษฆ่าตัวตายก็จะเอาร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งสัมผัสกัน)

เท่าที่ทราบช้างเป็นสัตว์ที่มีความจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดีมาก สามารถจดจำญาติๆ  พ่อ แม่ พี่ น้อง ของมัน(ที่แยกจากกัน)ได้แม้นเวลาล่วงเลยไปนานนับสิบๆ ปี
...แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 2550 18:08:08
สุวรรณภูมิ approve [ 13 พ.ย. 2550 17:17:05 ]
ความคิดเห็นที่: 6
เรื่องการตายของช้างมันหดหู่สหรับทุกคน  แต่บางคนที่เจอเจ้ายักษ์ไล่บดขยี้กองเงินเขาเข้า ก็ใช้วิธีรุนแรงกับมัน ที่เคยได้ยินเขาจะใส่ยาเบื่อให้ช้างกินจนอาการออกก็จะใช้ไรเพิลยิงเข้าหูช้าง การตายแบบนี้มันเหนือธรรมชาติลิขิตแน่นอน มี แต่หมานุษย์เท่านั้นที่ทำได้
Fisher approve [ 13 พ.ย. 2550 20:25:18 ]
ความคิดเห็นที่: 7
มีข้าวกินเพราะควาย มีแผ่นดินไทยก็เพราะช้าง องค์นเรศวรสร้างบนหลังพลายพัธกอ...
นกกินเปี้ยว approve [ 13 พ.ย. 2550 20:34:07 ]
ความคิดเห็นที่: 8
เท่าที่รู้มาการหากินของช้าง จะมีการเคลื่อนย้ายบริเวณไปเรื่อยๆ  ในรอบ 1 ปีจะวนกลับมาที่เดิม ซึ่ง ในปีถัดไปพื้นที่เดิมที่เคยหากินก็อาจโดนบุกรุกกลายเป็นไร่สับปะรดไปเสียแล้ว หวานคอช้างละทีนี้ อร่อยกว่าของกินในป่าอีก ติดใจละทีนี้กลับมากินอีกเรื่อยๆ  

การเอาสับปะรดเข้าไปปลูกในป่า ผมไม่เห็นด้วย เป็นการทำให้ระบบนิเวศดั้งเดิมแปดเปื้อน  และอาจเกิดปัญหาอื่นๆ  ที่ไม่คาดคิดตามมาอีกไม่รู้จบ ทางที่ดีทำไมไม่แปลงวิกฤติให้เป็นโอกาส ไหนๆ  มันก็ชอบออกมากินของในไร่ชาวบ้านอยู่แล้ว ทางการ หรือองค์กรอนุรักษ์ใดๆ ก็แล้ว แต่ที่มีเงินทุนพอก็เหมาซื้อผลผลิตชาวบ้านไว้เป็นรายปีไปเลย แล้วเปิดเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้ผู้สนใจไปชมช้างป่าที่ออกมากินสับปะรดใกล้ๆ ได้ประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย

ได้อ่านเรื่องเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ใน ATG เล่มล่าสุด ทางเขต ฯ  มีการร่วมกันกำหนดเขตป่าโดยออกไปปักเขตร่วมกับชาวบ้านที่มีที่ดินติดกับป่า และเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ซึ่ง ลดปัญหาเรื่องแนวเขตป่าไปได้มาก ซึ่ง น่าจะดำเนินการแบบนี้ในทุกป่าโดยด่วน  และหลังจากนั้นใครก็ตามจะไม่สามารถอ้างได้อีกว่าทำกินอยู่มาก่อนทางการประกาศเป็นเขตอนุรักษ์
หอยงวงท่อ approve [ 14 พ.ย. 2550 15:28:21 ]
ความคิดเห็นที่: 9
น่าคิด
electron approve [ 15 พ.ย. 2550 20:00:42 ]
ความคิดเห็นที่: 10
ในกรณีช้างที่ประจวบ ผมเข้าใจว่าช้างเข้าไปทำลายพืชผลทางการเกษตร  แต่ผมคิดว่าช้างใช้พื้นที่ตรงนั้นมาก่อนนะ แล้วทำไมต้องวางเรือใบด้วย...เนี่ยช้างเจ็บนะเรามีวิธีแก้ปั
phython approve [ 26 พ.ย. 2550 20:33:35 ]
tee_cmu@hotmail.com

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org