อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ
เรื่อง/ภาพ นณณ์ ผาณิตวงศ์
ภาพใต้น้ำเบื้องหน้าคงจะตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป
ใต้น้ำจืดไม่เหมือนกับใต้ทะเล ที่นี่ไม่มีปะการังอ่อนสีสดใส
ไม่มีแอนมีโมนที่พลิ้วไหว ไม่มีฝูงปลาสีสันเหมือนลูกกวาด
ใต้น้ำแห่งนี้มี แต่ก้อนดินก้อนหิน และเศษซากใบไม้ขอนไม้ที่กำลังเน่าเปื่อยผุพังไปตามกาลเวลา
ที่นี้มี แต่ปลาสีเงินกับปลาตัวลายๆ สีพื้นๆ
แต่ลำแสงที่ส่องผ่านยอดไม้ลงมาสู่พื้นน้ำเบื้องล่างกับม่านผื่นใหญ่ที่เกิดจากฟองอากาศเล็กๆ จากชั้นน้ำตกก็สวย และเรียบง่ายจนผมตกอยู่ในภวังค์
ถ้าจะให้เปรียบเทียบใต้ท้องทะเลคงจะเหมือนแหล่งบันเทิงที่จอแจเต็มไปด้วยแสงสี
ในขณะที่ใต้น้ำตกแห่งนี้เปรียบเสมือนมุมหนึ่งของสวนสามาธารณะชานเมืองที่เงียบสงบ
ผมเลี้ยงตัวอยู่บนขอนไม้ท่อนนั้นไม่กล้าที่จะเหยียบลงไปบนพื้นกรวดเบื้องล่าง เพราะกลัวว่าฝุ่นจะฟุ้งขึ้นมา ทำให้น้ำขุ่น
กระแสน้ำที่ไม่รุนแรงนักเปิดโอกาสให้ผมโผตัวไปข้างหน้า
นอนหมอบลงบนหินแผ่นแบนด้านหน้าน้ำตกหินปูนเล็กๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะนับเป็นชั้นที่เท่าไหร่ดีของน้ำตกพาเจริญ
ไม่ได้สลักสำคัญอะไร ไม่ได้มีชื่อเรียกเป็นการส่วนตัว
แต่ก็เหมือนกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อีกหลายอย่างในชีวิตที่บางครั้งเติมเต็มให้กับชีวิตที่ดูเหมือนจะขาดอะไรไปสักอย่างอยู่เสมอ
ผมเบื่อชีวิตในเมืองกรุงฯที่ต้องดิ้นรนแข่งขัน
เมื่อมีโอกาสผมจึงไม่เคยรีรอที่จะหลีกหนีความวุ่นวายมาหา เพื่อน
ในที่ๆ ผมจะได้ใช้ชีวิตในส่วนที่ผมชอบ
เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตให้เต็ม
ปล่อยให้กระแสน้ำเย็นๆ ชะเอาความกังวล และสับสนออกไป เพื่อที่จะได้ดำเนินชีวิตต่อไปอย่างปกติสุข
ปลาค้อมาเนอร์ธตัวนั้นยังคงหากินไปตามกิจวัตรประจำวันของมัน
ปากเล็กๆ ซอกซอนคุ้ยเขี่ยไปตามซอกหิน และพื้นทราย
ตัวที่ไม่ได้หาอาหารก็เกาะพักอยู่บนขอนไม้ และรอยแตกของแผ่นหินริมน้ำตก
พวกเค้าไม่ได้สนใจใยดีกับแขกแปลกหน้าผู้มาเยือนมากนัก
ผมสุขใจที่ได้รับการยอมรับในที่แห่งนี้
ไม่จำเป็นจะต้องต้อนรับขับสู้กันด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ หรือขนมหวานเลิศรส
แค่ได้รับการยอมรับให้อยู่ ณ
ที่ตรงนั้นโดยไม่แปลกแยกผมก็ดีใจอย่างที่สุดแล้ว
ปลาตัวเล็กๆ ใสๆ มีจุดสีดำที่โคนหางว่ายผ่านม่านฟองออกมาพร้อมกับ เพื่อนๆ อีกหลายตัว
พวกเค้า คือลูกปลาพุงตัวน้อยๆ ที่จะเติบโตเป็นปลาขนาดใหญ่ที่มีเกล็ดแข็งแรงสีเขียวเหลือบทองพร้อมกับแพนหางขนาดใหญ่แสนทรงพลังที่ ทำให้ปลาชนิดนี้อาศัยหากินอยู่ในแหล่งน้ำไหลได้ดี
ผมอดไม่ได้ที่จะทึ่งกับพลังที่บรรจุอยู่ในปลาตัวเล็กๆ ข้างหน้าที่รอวันจะปะทุออกมาเป็นปลาขนาดใหญ่ที่สวยงาม
อาจจะไม่ใช้ตัวนี้ที่รอดไปจนโต แต่ผมก็หวังว่าจะเป็นเค้า
ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นถึงแม้จะจำกันไม่ได้แล้ว
แต่ผมก็หวังว่าเค้าคงยอมรับผมเหมือนในวันนี้
กุ้งน้ำตกตัวนั้นคงรำคาญผมเต็มที่แล้วที่ไปนอนขวางทางอยู่
ก้ามเล็กๆ หนีบเข้าที่ท่อนแขนของผมอย่างจัง
ไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย แต่ก็ทำเอาสะดุ้งเหมือนกัน
จะเรียกว่าเสียจริตเลยก็ว่าได้ ใต้น้ำเป็นโลกที่ผมไม่คุ้นเคย
เป็นความไม่รู้ที่ ทำให้ผมกลัว และคิดไปต่างๆ นานา
ผมคิดว่าผมแน่จริงเมื่ออยู่ในเมืองในโลกของผม
แต่ที่นี่แม้ แต่กุ้งตัวเล็กๆ ก็ ทำให้ผมสะดุ้งได้
ถ้าเมื่อกี้ไม่ใช้กุ้ง แต่เป็นปูตัวใหญ่ๆ หล่ะ คงได้เลือดแน่ๆ
ถ้ามีงูตัวใหญ่ๆ แบบในหนังเรื่อง อนาคอนด้า โผล่มาหล่ะ?
ถ้าเสือเกิดหิวน้ำขึ้นมาแล้วมาเจอผมนอนอยู่ตรงนี่หล่ะ?
หรือถ้าช้างป่าสักตัวเกิดจะข้ามแม่น้ำ แล้วผมจะไม่แย่หรือนี่?
ความแน่นอนที่สุดในป่า คือความไม่แน่นอน ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของผม
ที่นี่ผมขี้ขลาด
ผมเงยหน้าขึ้นมองเหนือผิวน้ำ กวาดสายตาไปรอบๆ ป่าดงดิบเงียบสงัด
มี แต่เสียงนกเล็กๆ กับเสียงน้ำไหล
น่าแปลกที่ผมรู้สึกสบายใจขึ้นเพียงแค่ได้มองภาพเหนือน้ำ
ในชั้นบรรยากาศที่ผมคุ้นเคย ผมลุกขึ้นยืนอย่างระมัดระวัง
ค่อยๆ กลับตัวแล้วก็ว่ายตามน้ำกลับไปหาเธอที่นั่งรอผมอยู่บนขอนไม้ท่อนใหญ่
เธอซึ่งบัดนี้กลายมาเป็นส่วนที่เติมเต็มให้กับชีวิตของผม
ผมนั่งตัวสั่นอยู่บนขอนไม้ท่อนนั้น
เธอจัดการนำผ้าเช็ดตัวออกมาให้ผมเช็ดตัวให้แห้ง
ลำแสงที่ส่องผ่านยอดไม้ลงมาช่วยอะไรไม่ได้มากนักในกรณีนี้
นิ้วที่เหี่ยวย่นบ่งบอกว่าผมใช้เวลาอยู่ในน้ำพอสมควรเลยทีเดียว
ถึงจะชอบน้ำ แต่ผมก็ยังเป็นสัตว์บก
ร่างกายของสัตว์เลือดอุ่นอย่างผมสูญเสียความร้อนในน้ำเร็วมาก
คราวหน้าถ้าจะต้องลงน้ำเย็นๆ อย่างนี้หาเว็ตสูทดำน้ำมาใส่สักตัวคงจะดีไม่น้อย
แต่แค่นี้ผมก็แปลกแยกกับคนอื่นๆ ที่มาเล่น
น้ำมากพอแล้ว ถ้าใส่เว็ทสูทคนคงมองผมเหมือนคนบ้าแน่ๆ
เมื่อหลายเดือนก่อนในช่วงหน้าฝน
ผมเดินทางมาที่น้ำตกแห่งนี้คนเดียวพร้อมกับสัมภาระในการถ่ายภาพหนักอึ้ง
ผมออกเดินเข้าไปในป่า แต่เช้า
พร้อมกับข่าวคราวว่ามีฝนตกหนักเมื่อคืนนี้
ระวังน้ำป่านะครับ
พี่เจ้าหน้าที่เตือนด้วยความหวังดี
แต่ในเมื่อผมสู้อุตสาห์ดั้นด้นมาถึงนี่แล้วจะลากลับไปเฉยๆ ก็กระไรอยู่
วันนั้นเป็นวันธรรมดาที่ไม่มีคนอื่นเลยแม้ แต่คนเดียว
ผมเดินเข้าป่าไปพร้อมกับความไม่แน่นอน และความกลัว
เป้าหมาย คือการตามหาปลาชนิดหนึ่งที่ผมได้รับคำบอกเล่ามาจากพี่คนหนึ่งที่ผมไม่รู้จักชื่อ
เป็นกันพูดคุยกันของคนสองคนที่มีความชอบเหมือนกันในการพบกันสั้นๆ ที่เราไม่มีเวลาแม้ แต่จะถามชื่อเสียงเรียงนามซึ่งกัน และกัน
น้องต้องขึ้นไปสูงๆ เลยนะถึงจะเจอ
ปลาที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าจะพบในแถบนี้
ปลาที่ เพื่อนๆ ทุกคนบอกว่าไม่มีแน่ๆ พร้อมกับหัวเราะ หึ หึ
แต่ผมก็ยืนยันว่าพี่เค้าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะโกหกผม
และผมก็ไม่เหตุผลอะไรที่จะไม่มาพิสูจน์ด้วยตัวเอง
เลือกที่จะทำแล้วเสียใจ
ดีกว่าไม่ได้ทำแล้วเสียใจ
คติประจำที่ผมใช้เป็นข้ออ้างในการทำอะไรบ้าๆ บอๆ หลายต่อหลายครั้ง
ถ้าได้ทำผมจะได้รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี ถ้าผมไม่ได้ลอง
ผมก็ไม่มีวันรู้ไปตลอดชีวิต ผมเกลียดที่จะเสียดายที่ไม่ได้ทำ
ในวันนั้นไม่มีแม้ แต่เงาของปลาที่ผมไปตามหา
ไม่มีแม้ แต่ปลาที่หน้าตาใกล้เคียงตามคำบอกเล่า
แต่ผมก็ได้ประสบการณ์ต่างๆ มากมาย
อย่างน้อยผมก็ได้เรียนรู้ว่าจิตใจของมนุษย์คนหนึ่งอ่อนไหวเพียงใดในความไม่แน่นอน
ความกลัวต่างๆ นานาผุดขึ้นมาแทบจะทุกย่างก้าว
ถ้าผมลื่นล้มขาหักผมคงจะอีกนานเลยกว่าจะมีคนรู้ว่าผมหายไป
แล้วเข้ามาช่วยเหลือ ถ้าถูกงูพิษกัดก็คงจะลากสังขานลงไปขอความชั่วเหลือไม่ได้แน่ๆ
ผมได้เรียนรู้ว่าผมไม่ได้
แน่จริง
อย่างที่ผมคิด ถึงแม้จะเพลิดเพลินกับสิ่งรอบตัว
กับความสวยงามของแมกไม้ และสายธาร
แต่ทุกวินาทีของผมในที่ๆ ไม่คุ้นเคยก็มีความกลัวแอบแฝงอยู่
ในวันนี้กับเธอ ความไม่มั่นใจต่างๆ หมดไป
เป็นความสบายใจว่าผมได้มี เพื่อนร่วมทางที่จะไม่มีวันทอดทิ้งกัน
ความเป็นไปได้ว่าผมจะหกล้มขาหัก และถูกงูกัดก็ยังมีอยู่เท่าเดิม
แต่ความกลัวแทบจะไม่มีเหลือแล้ว
ผมไม่ได้เป็นหวงตัวเองไม่ได้คิดถึงตัวเองมากนัก ผมหวงเธอมากกว่า
จิ้งเหลนห้วยตัวเล็กๆ ที่นอนผึ่งแดดอยู่ริมทาง
อึ่งตัวลายที่พลางตัวให้เหมือนกับมอสที่มันเกาะอยู่
แมลงปอเข็มสีฟ้าสดใสที่บินใบบินมาแล้วก็กลับมาเกาะอยู่ที่ปลายไม้เดิมทุกครั้ง
แมลงมุมปูที่ชักใยขวางทางเดิน
มวนสีสวยที่บินมาเกาะหากินอยู่ริมลำธาร
ลูกปลาค้อตัวลายที่หากินอยู่ในแอ่งหินใกล้ๆ ฝั่ง
เมื่อมีคนมาร่วมกันชื่นชม
ความสวยงามก็เพิ่มค่า
เมื่อเช้า
แอ่งน้ำหน้าอุทยานแห่งนี้ใสราวกับกระจกจนมองเห็นปลาใหญ่น้อยนานาพันธุ์ที่แหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ
นอกจากปลาตัวนั้นที่ผมมาตามหา
พี่โทนี่ยังฝากให้ผมตามหาปลาน้ำหมึกด้วย ผมยืนพิจารณาอยู่นาน
ที่ผมดูออก คือปลาพุง ปลาตะเพียนน้ำตก (ของที่นี่หางสีส้มอ่อนๆ ),
ปลาซิวใบไผ่ที่ผมยังไม่แน่ใจชนิด และที่ขาดไม่ได้ คือปลาหางนกยูง
ปลาต่างถิ่นที่ถูกนำมาปล่อยไว้ เพื่อกินยุง
ทั้งๆ ที่ไม่เห็นจะมีความจำเป็น เพราะปลาท้องถิ่นก็กินกันอยู่แล้ว
ไม่มีวี่แววของปลาน้ำหมึก
แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
ปลาน้ำหมึกมักจะมีปริมาณน้อยถ้าเทียบกับปลาที่ผมเห็น
ถ้าได้ดำลงไปอยู่ที่อีกฝากของผิวน้ำผมอาจจะเจอพวกเค้าก็ได้
ใกล้ๆ แค่นี้เอาไว้ก่อนก็ได้
ผมคิดในใจแล้วชักชวนเธอเดินขึ้นไปสูงๆ ตามคำบอกเล่าของพี่ชายคนนั้น
เราสองคนเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ สูงกว่าที่ผมมาคนเดียวคราวที่แล้วมาก
สูงจนผมเห็นใจ และเกรงใจเธอที่ต้องมาลำบากลำบนด้วยกัน
แต่ผมก็ยังไม่พบปลาที่ดั้นด้นมาตามหา อาจจะยังไม่สูงพอ
อาจจะไม่มีอยู่จริงก็ได้ สองความคิดที่ขัดแย้งกันผุดขึ้นมาในหัว
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างแรกหรืออย่างหลัง
ผมก็สัญญากับตัวเองไว้ แล้วว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้งแน่ๆ
ผมจะเดินไปให้ถึงตาน้ำให้หายข้องใจไปเลย
ที่แอ่งน้ำหน้าอุทยานในช่วงบ่ายคลาคล่ำไปด้วยผู้คน
ทั้งลูกเล็กเด็กแดง เล่นน้ำกันให้เจี๊ยวจ๊าวไปหมด
น้ำที่ใสๆ เมื่อเช้า ขุ่นคลั่กจนมองไม่เห็นตัวปลา
ผมไม่ได้โกรธหรือโทษใคร
แต่ทอดถอนใจนึกเสียดายที่ไม่ได้ลงไปเล่นน้ำกับปลาที่แอ่งนี้ก่อน
ที่นี่ คืออุทยานแห่งชาติที่ทุกคนมีสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของเท่าๆ กัน
ผมเลี่ยงเดินขึ้นไปที่ชั้นน้ำตกเล็กๆ ตื้นๆ
เลือกมุมที่เห็นปลาว่ายผ่านไปมามากที่สุดแล้วค่อยๆ นอนลง เพื่อกลับเข้าสู่โลกใต้น้ำอีกครั้ง
ปลาพุงตัวเล็กๆ กับปลาซิวใบไผ่ว่ายผ่านไปผ่านมา
ในขณะที่ปลาค้ออีกชนิดที่ชอบหากินในบริเวณที่น้ำไหลไม่เชี่ยวนักก็คุ้ยเขี่ยหาอาหารอยู่ตามพื้นทราย
ผมไม่รู้ตัวว่าเพลิดเพลินดูปลาอยู่นานเท่าไหร่
มารู้ตัวอีกทีเมื่อแอ่งน้ำใสๆ กลายเป็นแอ่งน้ำขุ่นจากตะกอนที่ไหลลงมาจากแอ่งชั้นบน
ผมเงยหน้าขึ้นมาพบกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งยืนอยู่บนนั้น
พี่ทำอะไรอยู่ค่ะ?
หนูน้อยถาม
ดูปลาครับ
ผมตอบยิ้มๆ น้ำขุ่นซ่ะแล้ว
ถึงแม้จะใช้เวลาไม่นานถ้าจะให้ตกตะกอนใสเหมือนเดิม
แต่ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วกระมังสำหรับวันนี้
เธออยากจะไปเที่ยวไร่กุหลาบ และไปเดินชอปปิ้งที่ตลาดริมเมย
ผมใช้เวลาอยู่ที่นี้เกินเวลาที่ผมให้สัญญาเธอไว้แล้ว
ถึงแม้จะยังไม่เจอปลาที่ผมมาตามหา
แต่ผมก็ได้เติมสิ่งที่ขาดหายไปจนเพียงพอแล้ว และที่สำคัญที่สุด
วันนี้ผมได้เรียนรู้ว่ามันอบอุ่นเพียงใดที่ได้มี เพื่อนร่วมทางเช่นเธอ
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ อยู่ในอำเภอพบพระ
จังหวัดตากได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 8
พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 มีพื้นที่ทั้งหมด 855 ตารางกิโลเมตร หรือ
534,375 ไร่ น้ำตกพาเจริญซึ่งเกิดจากลำห้วยไหลมารวมกับแหล่งน้ำซับ
แล้วไหลลงสู่ชั้นน้ำตกที่มีถึง 97 ชั้น
มีน้ำตลอดปี และจะสวยงามที่สุดในช่วงปลายฤดูฝน
ขอขอบคุณ
เธอ for the what-a-wonderful-life moment
พี่น๊อต พี่หมี พี่โทนี่ และ John Moore of
thaibugs.com for animals identification.
more survey ...