เถาวัลย์

Comments

ความเห็นที่ 1

อ่านแล้วสบายใจขึ้นเยอะครับ เชื่อมั่นในฝีมือนักวิชาการของกรมฯครับ ขอให้ทำด้วยความรอบคอบและถูกต้องตามหลักวิชาการ และความเข้าใจที่มีอยู่ในปัจจุบันครับ ข่าวที่ออกมาถ้ามีรายละเอียดเช่นนี้ก็คงไม่กังวลกันเหมือนในช่วงที่ผ่านมา แล้วจะช่วยเผยแพร่ข้อมูลชุดนี้ให้ครับ

ขอให้พยายามสื่อสารข้อมูลในส่วนวิชาการเหล่านี้ออกไปให้มาก อย่าให้เกิดเป็นกรณีเหมือน ฝายดี แล้วแห่สร้างกันไปทั่วนะครับ ตอนนี้มันออกไปว่า เถาวัลย์เลว น่ากลัวๆมาก ว่าจะกลายเป็นกิจกรรม สางเถาวัลย์ไปทั่วประเทศ  

แล้วจะขอเข้าไปเยี่ยมชมด้วยตา และถ้าเกิดความศรัทธาจะช่วยสางครับ 

ขอบคุณน้องหนกที่เอามาฝากเน้อ

ปล. ภาพนกกินปลีหางยาวเขียวกินดอกโคมญี่ปุ่น มันไม้ต่างถิ่นนะครับ!  

ความเห็นที่ 1.1

นกกินปลีหางยาวเขียว เนี่ยผมคุ้นๆ ว่าเจอที่ไปเจอที่ดอยอินฯ เปล่าหว่า... จะหน้าแตกเปล่าเนี่ยเพราะไม่ได้เช็คตำราเล้ย

ความเห็นที่ 2

ดีใจจัง ที่ไม่ปิดหู ปิดตา ปิดความคิด ถาง ๆๆๆๆๆๆๆ

ความเห็นที่ 3

???

ความเห็นที่ 4

มุ่งสู่โลกในอุดมคติร่วมกันครับ เพียงแค่คิดก็ยอดแล้ว หากทำให้เห็นผลก็ย่อมเป็นยอดมนุษย์ อันที่จริงอย่าอยากเป็นยอดมนุษย์กันเลย เอาแค่ให้รู้ว่ากิจกรรมถางเถาวัลย์นั้น จะทำให้สัตว์ป่าใดหายไปมากน้อยเพียงใด หรือมีสัตว์ใดเพิ่มมากขึ้นบ้าง แต่มันคงตกใจกันน่าดูหละ ว่าจู่ๆ เถาวัลย์ก็เหี่ยวเฉา+แห้งลง แล้วเอาข้อมูลที่แท้จริงช่วยมาเล่าสู่กันฟัง เพราะหากเอาข้อมูลเท็จมาตีแผ่เพื่อเอาใจฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ย่อมย้อนกลับมาสังหารตัวเองในภายภาคหน้า... เอาใจช่วยครับ

ผมมองว่า แรงกดดันคงสูงครับ ไม่เฉพาะจากภายนอกหรอกครับ แต่จากภายในองค์กรท่านเองอาจมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะเป็นการกระทำในสิ่งที่แตกต่างจากระบบเดิมๆ

ในใจผมอยากเดิมพัน จริงๆ ว่าไม่ค่อยจะมีประโยชน์นัก (ติดต่อกันในทางลับก็ได้ครับ).... สู้เอางบนี้ไปเสาะหาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เขาทำงานกันจริงๆ แล้วส่งเสริมหรือเชิดชูเขา ให้มีกำลังใจสู้ต่อไปซะจะดีกว่า อิ อิ! แอ๋กันทั้งนั้นแหละแต่จริงใจ และคบได้แน่นอน... แต่มนุษย์พันธุ์นี้ต้องไปง้อเขาหน่อยเพราะคนที่ทำจริงหนะ เขาไม่ค่อยสนสิ่งเหล่านี้หรอก เพราะเขารู้ตัวดีที่สุดว่าทำสิ่งใดอยู่ แล้วแถมยังเบื่อสื่ออีก อิ อิ

...กระผม ว่ามีหลายโครงการเหลือเกินที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนชอบทำตามๆ กัน เพราะลอกเลียนกันง่าย เช่นการปลูกป่า แค่คนโด่งคนดัง หรือ super star มาปลูกนี่ก็ได้ทำความดีแล้ว เข้าใจหละนั่นเป็นส่งเสริมให้ผู้ที่คลั่งไคล้ หรือแฟนคลับอยากทำตาม ... แต่พวกเราควรสอนสังคมเมืองมากกว่านั้นครับ ว่าแค่นี้ยังไม่พอหรอก แต่เขาเองควรจะหาเวลากลับมาดูต้นไม้ที่เขาปลูก หรือ ฝายที่เขาทำด้วย โดยไม่มีสื่อ!... ถ้ามาจริงย่อมเห็นความเจ็บปวด ข้อแรกคือกว่าจะมาถึงก็เหนื่อยเพราะไม่ได้ติดต่อผู้ใดไว้ และไม่มีฝ่ายบริการ สองคือจะเห็นสิ่งที่เขาทำนั้นหรือต้นไม่ที่ปลูกความล้มเหลวเสียส่วนใหญ่ หรือฝายที่ทำนั้นมิได้ก่อประโยชน์อันใด หรือคนที่สนับสนุนการทำฝายแบบไม่ลืมหูลืมตาก็ควรมาดูด้วย! (ฝายหลายที่มีประโยชน์ครับ แต่หลายที่มากกว่าที่ผลาญงบ อิ อิ) แต่หากไม่ล้มเหลวเขาก็จะได้ชื่นชม และเข้าใจและเคารพเทิดทูน+นอบน้อมต่อธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ...

แต่คงยากพอสมควร เพราะคนเหล่านั้นอยากมาไวไปไว แล้วคุ้มฉิบห้าย!

ความเห็นที่ 5

มารับข้อมูลครับผม

ความเห็นที่ 6

เมื่อมีเถาวัลย์นรก ก็ระดมไปช่วยกันถาง แล้วต้นต่อมันมาได้อย่างไร ถางไปแล้วเมื่อไหร่มันจะกลับมา ไม่เห็นมีใครออกมาบอกเลย มีแต่บอกว่าคนโน้น คนนี้ เขาไปดูแล้วตะลึง แต่ไม่ยักมีใครให้เหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็นได้ขนาดนี้มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ถางหรือขุด ผมเห็นด้วยครับ แต่ที่อยากเห็น คือไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้อีก ขนาดช้าง หรือกระทิงยังระอา ที่จะเข้าไปหากิน อะไรเป็นต้นเหตุ แก้ปลายเหตุ แล้วก็อยากให้แก้ที่ต้นเหตุด้วยครับ บ้านเราชอบฮือฮา ที่่พอเกิดอะไรขึ้นแล้วแก้ที่ปลายเหตุทุกที(ส่วนใหญ่)

ความเห็นที่ 7

ที่แย่ที่สุดคือ การคิดไปว่าช้างจะสะดุดเถาวัลย์ ติดเถาวัลย์ หรือเข้าไปหาอาหารไม่ได้ในที่ที่มีเถาวัลย์อยู่  แต่จริงๆแล้ว เถาวัลย์เป็นอาหารช้าง และก็ไม่ยากเลยที่ช้างจะดึงลงมากิน ส่วนตัวแล้วคิดว่าเถาวัลย์มีประโยชน์มากมาย ไม่ร้ายอย่างที่คิด  อีกอย่างคือ ช้างมีเส้นทางเดินหากินในป่าที่เรียก ด่านช้าง และอาศัยเส้นทางนี้เป็นหลัก ระบบนิเวศมีการทดแทนตามธรรมชาติ  

ความเห็นที่ 8

"ช้างสะดุดเถาวัลย์" สะดุดตรงนี้แหล่ะครับ ช้างนะครับไม่ใช่เด็กหัดเดิน no