ขอถามคำถามเกี่ยวกับความคิดเห็นหน่อย

สมมุตินะครับ ว่าถ้ามีคนไทยซักคน สนใจสิ่งมีชีวิตรอบๆตัว ศึกษาด้วยตัวเองจนสามารถขยายพันธ์ สิ่งมีชีวิตหายากได้ ภายในอพาทเมนต์ของตัวเอง  ได้สักฝูงนึง แบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน  เกิดอยู่มาวันนึง ซวย มีเจ้าหน้าที่มาค้นเจอ

   นายคนนี้จะประสพชะตากรรมอย่างไร แล้วถ้าคุณเป็นเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจคุณจะทำอย่างไร

Comments

ความเห็นที่ 1

หายากแล้วผิดกฏหมายหรือเปล่าครับ? ถ้าไม่ผิดก็ไม่เห็นจะเป็นไร ถ้าผิดก็ต้องว่าไปตามกฏหมาย แต่ก็จะขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้่ง และหวังว่าสัตว์ที่โดนยึดไปจะได้รับการดูแลอย่างดีเหมือนที่เคยอยู่กับเจ้าของเดิม   

ความเห็นที่ 2

ถ้ากรณีผิดกฏหมายด้วย  ผมว่ารัฐก็น่าจะให้ทุนเขาทำวิจัยต่อไปเลยจะดีกว่ารึเปล่า

ความเห็นที่ 2.1

เคยมีกรณีใกล้เคียงกันมาเป็นตัวอย่างครับ

จนท.เคยจับกุมชายคนหนึ่งซึ่งครอบครองไก่ฟ้าพญาลอเป็นจำนวนมากโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ที่มีมากเพราะเขาเพาะเลี้ยงได้มาก ดังนั้นหลังจากมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย(ตามดุลยพินิจของผู้พิจารณา) ไก่ฟ้าของกลางเหล่านั้นก็ให้ชายคนนั้นเป็นคนดูแลต่อไป

 

สำหรับกรณีของ จขกท.นั้น ผมเชื่อว่าไม่มีใครตอบได้ เพราะไม่มีบริบทประกอบการพิจารณา หากมีข้อมูลเพียงเท่านี้ก็คงตอบได้อย่างมากคือก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายครับ ส่วนชะตากรรมหลังจากนั้นก็ไม่ทราบจริงๆ ทางออกตามกฎหมายบ้านเราแคบมากครับ เพราะเอาไปขยายช่องโหว่ซะกว้างเลย

ความเห็นที่ 3

สงสัยต้องดูก่อนว่าคุณเป็นใคร

ความเห็นที่ 4

ถามความคิดเห็นเฉยๆครับ แค่อยากทราบว่ารัฐเราตีความการบังคับใช้กฏหมาย อย่างไร ใครได้ประโยชน์บ้างจากการบังคับใช้กฏหมาย  คงยังไม่มีใครทำได้หรอกครับกรณีการเพาะขยายพันธ์สัตว์ใกล้สูญพันธ์ ขนาด จนท.ของรัฐเองมีทั้งทุนอุปกรณืสนับสนุนก็ยังมีสัตว์หลายชนิดสูญพันธ์ไป

ความเห็นที่ 5

สมมุติถ้าทำได้จริง สามารถเพาะพันธ์ กรูปรี ได้ฝูงนึง จะเป็นไปได้มั๊ยว่า นายคนนี้จะได้รับการยกย่องแทนการถูกดำเนินคดี

ความเห็นที่ 6

^

^

คิดหนัก  แต่ถ้าเป็นจริง ก็ต้องดำเนินตามกฏหมาย แต่คิดว่าคงไม่ได้รับโทษร้ายแรงขนาดนั้น

หลังจากนั้น ก็คงมีการสนับสนุนให้บุคคลดังกล่าว เพาะเลี้ยงกรูปรีต่อไป

 

-- แต่กว่าจะได้เป็นฝูง ผมว่าเจอตัวเดียว หรือไม่แค่ซาก หรือเขา ก็เป็นข่าวก่อนแล้วหละ คงไม่มีโอกาสได้เพาะ

ความเห็นที่ 7

กฏหมายตีความผิดที่เจตนาหรือพฤติกรรม?  

ความเห็นที่ 7.1

อาจจะดูทั้งสองมิติครับ แล้วค่อยชั่งน้ำหนัก การดำเนินคดีตามกฎหมายนั้นมีโทษหลายระดับ ถ้าคิดว่าเราแน่จริงแล้ว และสิ่งที่ทำเป็นประโยชน์จริงๆ เขาก็ยินดีพิจารณาส่วนนี้ร่วมด้วยครับ

ความเห็นที่ 8

ในกรณีนี้ ผมว่าน่าจะมีการ ติดต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงเลยครับ (อย่างรัฐมนตรี,อธิบดีกรมฯ ถ้าติดต่อเจ้าหน้าที่ระดับล่างอาจซวย ถูกฉกฉวยไปเป็นผลงานในการจับกุมก็ได้) ว่าสามารถ ที่จะเพาะพันธุ์ สัตว์หายากได้สำเร็จ และชี้ให้เห็นถึงเจตนาของเราและผลประโยชนที่ประเทศชาติจะได้รับ และเข้ามาช่วยเหลือ ในด้านต่างๆ (เป็นแค่ความคิดเห็นของผมนะครับ) เดี๋ยวนี้ผู้บริหารระดับสูงของประเทศสัมผัสตัวเป็นๆได้ง่ายกว่าแต่ก่อน

ความเห็นที่ 9

คือผมเชื่อลึกๆ นะครับ ว่าเราคงไม่สามารถรักษาพื้นที่ป่าสมบูรณ์ไว้เป็นที่ขยายพันธ์สัตว์ ให้มีพื้นที่เท่าเดิมคงอยู่ตลอดไปได้ มีแต่จะลดลง ลดมากหรือน้อยแค่นั้น คงต้องใช้วิธีเพิ่มจำนวนหรืออนุรักษ์ด้วยการเพาะเลี้ยงช่วยหนะครับ

ถ้าทำให้การเพาะเลี้ยงไปด้วยกันได้กับการรักษาพื้นที่ป่า  ผมว่าจะช่วยได้เยอะเลย

ความเห็นที่ 10

เมื่อคืนวันที่ 24 ก.ค. มล จันทร์ลา ได้ดู TV ช่อง  5 รายการเสาร์ 5 รายการเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่รักงู และเพาะเลี้ยง จนสามารถผสมพันธุ์งูเหลือมได้ลายแปลก ๆ ออกมา เค้าตั้งชื่อลานนี้ว่าลายลูกปัด ชื่อบ้านของเขา ชื่อบ้าน งูยิ้ม ยังไงพี่น้องชาว siam ก็ลองไปดูย้อนหลังนะครับ อาจจะมีคำตอบ หรือประเด็นใหม่ ๆ เกิดขึ้น

ความเห็นที่ 10.1

นั่นผมก็รู้จักครับ ก็ต่อสู้กับการปฏิบัติของ จนท. พอสมควร (ที่จริงไม่ได้มีปัญหาด้านกฎหมายเลย) ก็ก้าวมาถึงวันนี้

ความเห็นที่ 11

แล้วปัญหาเกิดจากอะไรครับ เกิดจากการที่ จนท. เอาตัวหนังสือ กม. มาอ้างว่าต้องปฏิบัติตามหน้าที่ที่เขียนไว้รึเปล่าครับ  ถ้าใช่ นี้คงเป็นปัญหาด้านการบังคับใช้ กม.ของ จนท.ไทย (ปัญหาของคน) ครับ  เขาคงจะดูกันแต่ตัวหนังสือ ไม่ได้ดูเจตนาที่เขียน กม.ข้อนั้นขึ้นมาว่าเขียนขึ้นมาเพื่อเจตนาอะไรแน่ๆ ตกลงโทษตัวคนใช้ กม. ไม่ได้โทษตัว กม.

ถ้าเป็นอย่างงี้ก็ไม่ต้องแก้ กม.แก้ตัวคนบังคับใช้กฏหมายแทน

ความเห็นที่ 12

ปัญหามัยเกิดจาก ปากท้องของคนทำงาน พอมีช่องทาง (อันนี้เกิดจากผู้บังคับบัญชา) ทำแล้วแบ่งกูมั่งนะ เดียวไฟเขียวให้ อีกอย่างเกิดจากความอยากได้ของคน ต้องการอวดมั่งอวดมี (นี่หายากสุดๆ) พ่อค้าแม่ค้าก็เอามาขายเพื่อจะได้เงิน สรุปมันพัวพันไปทุกอย่าง นั่นสิแล้วปัญหามันเกิดตรงไหน

ความเห็นที่ 13

ที่จริงปัญหาอยู่ที่ทั้งตัวกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมายครับ อย่างไรก็ตามกฎหมายก็มาจากคน คนที่มาจัดการเรื่องกฎหมายนั้น ต้องมีความรู้ทั้งด้านกฎหมาย เข้าใจเกี่ยวกับทรัพยากร และรู้ซึ้งด้านจิตวิทยา ถึงจะออกกฎหมายได้แหล่ม จะว่าไปแล้วกฎหมายไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลยถ้าไม่มีใครคิดล้างผลาญทรัพยากร