เก็บตก งานประชุมวิชาการโลกด้านบรรพชีวินวิทยา ฯ 2011
เขียนโดย waterpanda Authenticated user เมื่อ 4 ธันวาคม 2554
การประชุมวิชาการโลกด้านบรรพชีวินวิทยาและลำดับชั้นหิน 2011 ว่า มีนักวิจัยทั่วโลกเข้าร่วมประชุมจาก 33 ประเทศ จำนวน 180 คน และนักวิจัยชาวไทยอีก 80 คน เป็นการสร้างเครือข่ายและเป็นเวทีระดับโลกของนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์และธรณีวิทยาจากทวีปต่างๆ ได้มีโอกาสได้นำเสนอผลงานวิจัยการค้นพบองค์ความรู้ใหม่ๆ และเพื่อส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องบรรพชีวินวิทยาสู่นักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไป ให้มีความเข้าใจและเล็งเห็นคุณค่าของทรัพยากรทางด้านฟอสซิลซากดึกดำบรรพ์มากยิ่งขึ้น
"งานประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในระดับอาเซียน โดยจังหวัดนครราชสีมาเป็นสถานที่จัดงาน เพราะเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านทรัพยากรดึกดำบรรพ์ที่โดดเด่นทั้งพืชและสัตว์ สำหรับด้านพืชเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยไม้กลายเป็นหินจากพื้นที่ที่เคยเป็นลำน้ำโบราณ ทั้งพืชกลุ่มสนในยุคของไดโนเสาร์ พืชมีดอกในยุคของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งมีหลากหลายชนิด" ผศ.ดร.ประเทืองเผย
ส่วนฟอสซิลสัตว์ นครราชสีมาเป็นแหล่งที่มีกระดูกช้างดึกดำบรรพ์มากที่สุดในโลกอยู่ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ มีมากถึง 8 สกุลจาก 43 สกุลทั่วโลก และยังเป็นจังหวัดเดียวของประเทศไทยที่มีซากดึกดำบรรพ์ครบทั้ง 3 ยุค ตั้งแต่ยุคสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ยุคไดโนเสาร์ครองโลก และยุคสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด เช่น ช้าง แรด เสือ ฮิปโป กล่าวได้ว่า โคราชคือมหัศจรรย์ดินแดนฟอสซิลแห่งสยาม
"งานประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในระดับอาเซียน โดยจังหวัดนครราชสีมาเป็นสถานที่จัดงาน เพราะเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านทรัพยากรดึกดำบรรพ์ที่โดดเด่นทั้งพืชและสัตว์ สำหรับด้านพืชเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยไม้กลายเป็นหินจากพื้นที่ที่เคยเป็นลำน้ำโบราณ ทั้งพืชกลุ่มสนในยุคของไดโนเสาร์ พืชมีดอกในยุคของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งมีหลากหลายชนิด" ผศ.ดร.ประเทืองเผย
ส่วนฟอสซิลสัตว์ นครราชสีมาเป็นแหล่งที่มีกระดูกช้างดึกดำบรรพ์มากที่สุดในโลกอยู่ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ มีมากถึง 8 สกุลจาก 43 สกุลทั่วโลก และยังเป็นจังหวัดเดียวของประเทศไทยที่มีซากดึกดำบรรพ์ครบทั้ง 3 ยุค ตั้งแต่ยุคสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ยุคไดโนเสาร์ครองโลก และยุคสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด เช่น ช้าง แรด เสือ ฮิปโป กล่าวได้ว่า โคราชคือมหัศจรรย์ดินแดนฟอสซิลแห่งสยาม
![บรรยากาศวันเปิด](http://siamensis.org/sites/default/files/web_2690_1.jpg?1323014847)
![1 ใน 12 ชนิดใหม่](http://siamensis.org/sites/default/files/web_2704_1.jpg?1323014889)
![](http://siamensis.org/sites/default/files/web_2714_1.jpg?1323014954)
![ปลาจากเลบานอน](http://siamensis.org/sites/default/files/web_2835_1.jpg?1323014979)
![Nematonotus](http://siamensis.org/sites/default/files/web_2722_1.jpg?1323015021)
![Pycnodonte](http://siamensis.org/sites/default/files/webg_2720_2.jpg?1323015055)
![Cyclobatis](http://siamensis.org/sites/default/files/web_2747_0.jpg?1323015088)
![ปลาโรนัน](http://siamensis.org/sites/default/files/web_2728_0.jpg?1323015123)
![ของครูนกก็มา](http://siamensis.org/sites/default/files/web_2837_0.jpg?1323015229)
Comments
ความเห็นที่ 1
ความเห็นที่ 2
ความเห็นที่ 3
เจ้าซากดึกดำบรรพ์ ของ Cyclobatis นี่ทำให้นึกถึง กระเบนสัญชาติอเมริกาใต้ในปัจจุบัน ในสกุล Paratrygon และ Heliotrygon เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่จริงๆ
ความเห็นที่ 4
ความเห็นที่ 5
ความเห็นที่ 6