ขอความคิดเห็นเรื่องนกพิราบ กับสังคมมนุษย์
เขียนโดย Corwin Authenticated user เมื่อ 17 มิถุนายน 2555
ขอความกรุณา ในการชี้แนะด้วยขอรับ
ในปัจจุบันนกพิราบได้ปรับตัวมาอยู่ร่วมกับสังคมมนุษย์ ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก มีทั้งมุมมองว่าอยู่ร่วมกันได้และไม่ได้
แต่ข้อเท็จจริงนกพิราบเป็นนกต่างถิ่น และมีผลกระทบในเรื่องความขัดแย้งกับเกษตรกร และนกท้องถิ่นเดิม
การที่นกพิราบนอนอยู่ในเมืองบนอาคารสูง ทำให้มีผู้ล่าน้อย แต่ด้วยปริมาณที่มากทำให้เกิดการหมักหมมของมูล
จนเกิดเชื้อโรคที่นำมาสู่มนุษย์ได้ จึงมีเรื่องที่อยากจะขอความคิดเห็นดังนี้ขอรับ
1.ในมุมมองของหลายๆท่าน ยังมีปัญหาอะไรที่เกิดจากนกพิราบอีกไหม เราอยู่ร่วมกันได้ไหม
2.หากจะมีการแก้ปัญหาควรที่จะใช้วิธีการไหนดี จึงจะดีที่สุด
2.1กำจัด
2.2ทำหมัน(วิธีนี้อยากถามว่ามีวิธีการทำหมันอย่างอื่นนอกจากผ่าตัดไหม และมีค่าใช้จ่ายสูงไหม)
3.มีความคิดเห็นแบบอื่นอีกไหม
ขอขอบคุณในคำตอบและความคิดเห็นล่วงหน้าด้วยขอรับ
ในปัจจุบันนกพิราบได้ปรับตัวมาอยู่ร่วมกับสังคมมนุษย์ ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก มีทั้งมุมมองว่าอยู่ร่วมกันได้และไม่ได้
แต่ข้อเท็จจริงนกพิราบเป็นนกต่างถิ่น และมีผลกระทบในเรื่องความขัดแย้งกับเกษตรกร และนกท้องถิ่นเดิม
การที่นกพิราบนอนอยู่ในเมืองบนอาคารสูง ทำให้มีผู้ล่าน้อย แต่ด้วยปริมาณที่มากทำให้เกิดการหมักหมมของมูล
จนเกิดเชื้อโรคที่นำมาสู่มนุษย์ได้ จึงมีเรื่องที่อยากจะขอความคิดเห็นดังนี้ขอรับ
1.ในมุมมองของหลายๆท่าน ยังมีปัญหาอะไรที่เกิดจากนกพิราบอีกไหม เราอยู่ร่วมกันได้ไหม
2.หากจะมีการแก้ปัญหาควรที่จะใช้วิธีการไหนดี จึงจะดีที่สุด
2.1กำจัด
2.2ทำหมัน(วิธีนี้อยากถามว่ามีวิธีการทำหมันอย่างอื่นนอกจากผ่าตัดไหม และมีค่าใช้จ่ายสูงไหม)
3.มีความคิดเห็นแบบอื่นอีกไหม
ขอขอบคุณในคำตอบและความคิดเห็นล่วงหน้าด้วยขอรับ
Comments
ความเห็นที่ 1
ความเห็นที่ 1.1
ความเห็นที่ 2
ความเห็นที่ 3
ความเห็นที่ 4
เรื่องที่คุณสืบลากปืนออกไปยิงนกยูงอินเดียที่ท่านพบในห้วยขาแข้ง ....
ไม่รู้เท็จจริงแค่ไหน
แต่ผมเห็นด้วย
ความเห็นที่ 5
สนับสนุนวิธ๊ที่หนึ่งอีกหนึ่งเสียง
และอาจรวมความไปถึงกรณีสุนัขจรจัดด้วย
ไม่ใช่เฉพาะในชุมชนเมืองเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มประชากรของสุนัขจรจัดและควรได้รับการจัดการ
แต่โดยเฉพาะในพื้นที่อนุรักษ์และพื้นที่โดยรอบยิ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและควรได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วน
ความเห็นที่ 6
ความเห็นที่ 6.1
เดี๋ยวเหมือนกรณีของ canetoad อีก
ถ้าสามารถฝึกนกนักล่าได้ ต้องใช้จำนวนเท่าไหร่จึงจะสามารถควบคุมอัตราการแพร่ประชากรของนกเป้าหมายได้?
น่าคิดขอรับ
ความเห็นที่ 6.2
ความเห็นที่ 7
ความเห็นที่ 7.1
ความเห็นที่ 7.1.1
ความเห็นที่ 7.2
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าการขยายตัวของเมืองและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ตลอดจนการที่บางคนชอบโปรยอาหารให้มัน เป็นปัจจัยที่ทำให้มันเพิ่มจำนวนขึ้นครับ
จริงๆแล้วมันก็กินได้นะ โดยเฉพาะนกพิราบต่างจังหวัด ผิวพรรณค่อนข้างสะอาด ส่วนนกใน กทม.มักมอมแมมเลอะเทอะ
ความเห็นที่ 7.2.1
ความเห็นที่ 7.2.1.1
ความเห็นที่ 7.2.2
ความเห็นที่ 8
ความเห็นที่ 9
ความเห็นที่ 10
มันใช้ได้จริงหรือเปล่าครับ
ความเห็นที่ 10.1
ความเห็นที่ 11
แล้วพอดีว่า มีคนให้อาหาร บวกกับ มันปรับตัวอยู่ในเมืองที่ธรรมชาติเสื่อมๆของคนได้
ทีนี้ จำนวนมันก็เพิ่มขึ้นตามปริมาณอาหารที่คนให้
ถ้าคนไม่ให้อาหาร ก็จบ
แก้ที่คน น่าจะตรงประเด็นกว่า ถ้าไม่มีใครให้อาหารมันเลยสักปีนึง ปัญหาน่าจะคลี่คลาย ? ... รึไม่ ?
ปัญหาเดียวกับผักตบชวา พอดีมันทนอยู่ในน้ำเสียๆได้ พอดีน้ำเสียมีธาุตุอาหารเยอะ พอดีคนนี่เองทำน้ำเสียธาตุอาหารเยอะคอยป้อนให้มัน ดังนั้น เก็บยังไง ก็ไม่หมด
ความเห็นที่ 12
คิดว่าน่าจะใช้ได้ผลดี แต่เสียวว่าวันไหนเมาๆ จะไปท้าวแขนโดนเหล็กเสียบซะเองไหมหนอ
ความเห็นที่ 13
ความเห็นที่ 14
http://www2.g-pra.com/webboard/show.php?Category=general_talktalk_decode...
ความเห็นที่ 15
ผมว่ากระทู้นี้น่าสนใจนะครับ ถกปัญหากันไปเรื่อยๆเราอาจจะปิ๊งไอเดียเก๋ๆออกมาก็ได้ :D
ความเห็นที่ 15.1
ความเห็นที่ 15.1.1
เคยใช้ที่บึงบอระเพ็ด
ได้ผลในระยะแรก สามารถกำจัดได้เกือบหมด ส่วนที่รอดก็อพยพหนีไป
แต่ไปได้ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับพฤติกรรมระวังภัยมากขึ้น ล่ายากขึ้น
หลายๆ รอบเข้าทั้งผู้ล่าและเหยื่อต้องพัฒนาชั้นเชิงและฝีมืออยู่ตลอดเวลา
เลยกลายเป็นเกมหนูจับแมว ที่ไม่มีวันจบ ห้ามเหนื่อย ห้ามพัก
เราหยุดเมื่อไหร่อพยพกลับเข้ามาเต็มสถานี
ความเห็นที่ 15.2
*เหยี่ยวที่ใช้ก็ต้องเลือกสายพันธุ์ที่ฆ่าได้จริงๆ ไม่ใช่แค่ไปบินขู่เฉยๆ รวมทั้งต้องไม่มีปัญหาด้าน พรบ.ด้วย เท่าที่ทราบตอนนี้ก็มี เหยี่ยวแฮรีส เหยี่ยวเซเกอร์ฟัลคอน หรือลูกผสมเซเกอร์/เพเรกริน ฯลฯ
ความเห็นที่ 15.3
ผมก็ไม่ได้คิดว่า การงดอาหารจะทำให้มันหมดไปครับ แต่อย่างน้อยน่าจะระงับการเพิ่มจำนวนของมันได้ เพราะเมื่ออาหารหายากขึ้น ร่างกายของมันก็มีพลังงานสะสมลดลง ระบบสืบพันธุ์ก็น่าจะลดประสิทธิภาพลงด้วย
ความเห็นที่ 16
สมัยก่อนที่บ้านในสวน ใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มีนกพิราบมาอาศัยอยู่มากมาย
สร้างความรำคาญให้กระผมและครอบครัว สุดท้ายทนกับมันไม่ไหว เลยลากลูกซองออกมายิง
แต่แล้วด้วยมือปืนฝีมือห่วยขั้นเทพ จึงหมดกระสุนไปหลายกล่องแต่ไม่มีนกบาดเจ็บซักตัว
บางครั้งพอเห็นเราแบกปืนไปก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แถมหัวเราะถากถาง พากินซุบซิบว่าไม่ต้องหนีหรอกไอ้นี่ มันยิงไม่เคยถูก (พวกเราคิดเสียว่าเป็นเสียงประทัดก็แล้วกันมันมาจุดประทัดใส่พวกเราสามสี่ลูกเดี๋ยวมันก็กลับ) บางครั้งยิงไม่ถูกมันก็ยักคิ้วแล้วมองด้วยสายตาเย้ยหยัน ในที่สุดจึงยกบ้านให้พวกมันไป
แต่แล้ววันหนึ่ง คุณแม่ได้ตำราผีบอกมา! ใช้ถุงกระสอบพลาสติก ผู้เชือกแล้วห้อยไว้ที่ชายคาบ้าน พวกเราจึงช่วยกันนำถุงอาหารสุนัขที่ไม่ได้ใช้ ผู้ไว้รอบบ้าน กลายเป็นบ้านที่มีแต่เสียงดนตรีเพราะเวลาลมพัด "ซวบซาบ" ตลอดทั้งวันเพราะบ้านอยู่ใกล้ทะเล แต่แล้วตำราผีบอกก็แสดงอิทธิฤทธิ์ พวกนกพิราบพากันทิ้งบ้านหนีกันอุตลุดเราเลยไม่เคยพบพวกมันมากวนใจอีกเลย ตอนนี้ถุงพลาสติกก็พวกันเปื่อยขาดหลุดหายไปตามกาลเวลา พวกเราจึงยึดบ้านคืนได้อย่างสงบ โดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อแต่อย่างใด นับว่าเป็นการบุกยึดอย่างละมุนละม่อมที่สุด^^
ปล.ไม่รู้ว่าใช้ได้กับเฉพาะนกแถบชนบทเท่านั้นหรือไม่ และไม่แน่ใจว่าจะมีเหตุผลอื่นอีกหรือไม่ที่ทำให้พวกมันพากันทิ้งบ้านผมไป
หรือจะใช้วิธีตามลิงค์นี้http://www.youtube.com/watch?v=NX8Wo_UnK1Eแต่โหดร้ายไปหน่อย เว็ปมาสเตอร์โปรดพิจารณา
ความเห็นที่ 17
เมื่อครั้งที่ยังเลี้ยงหมาประมาณแปดตัว ก็จะวางอาหารเม็ดไว้รอบบ้าน
ก็ปรากฎว่าสุนัขไม่ค่อยอ้วน แต่พิราบอ้วนเอาๆ และเพิ่มจำนวนมากขึ้น
คุณพ่อบ้านก็ชอบไปนั่งทานอาหารเช้าในสวน และมีอาหารไปให้นกเขา
ที่บินไปมา อาศัยอยู่ในสวน นกเขาก็โดนพิราบจิกไล่ด้วย
สุดท้ายทนพิราบไม่ไหว พอออกไปไล่ มันชอบบินหนีไปเกาะหลังคาบ้าน
แล้วก้มลงมาหัวเราะเยาะ เหมือนกับบอกว่า ตามมาจิ ๆๆๆๆๆ
แล้วไอเดียก็พุ่ง ลองดูสักทีเป็นไรไป ว่าแล้วก็เอาไม้รวกยาว
ปลายผูกถุงก๊อบแก๊บไว้ให้แน่น พอเห็นพิราบร่อนลงพื้น
ก็ออกไปเอาไม้รวกไล่ เสียงลมปะทะกับถุงก๊อบแก๊บ ก็ทำให้พิราบตกใจ
พอบินขึ้นเกาะหลังคา ก็ไล่ต่ออีก (บ้านชั้นเดียว)
ทำอย่างนี้ (ไม่ต้องทำอย่างอื่นแล้ว) อยู่ประมาณหนึ่งสัปดาห์
พร้อมกับเก็บอาหารหมาให้เรียบร้อย พิราบก็หมดไปจากบริเวณบ้านค่ะ
จากประสบการณ์นี้ ทำให้คิดเอาเองว่า
1. ต้องเก็บอาหารให้มิดชิด
2. พิราบกลัวคน (555) และกลัวเสียงที่ไม่มีจังหวะแน่นอน
3. พิราบกลัวตาย
สรุปเห็นด้วยกับคุณนายแมลงค่ะว่า เสียงถุง+ลมช่วยไล่พิราบได้
ความเห็นที่ 18
เป็นกระทู้ที่ดีนะเนี่ย
ความเห็นที่ 19
ในตัวเมืองไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนกพิราป..แต่พอตกเย็นพลบค่ำ
สายไฟในเมือง บริเวณแยกตลาดสด เต็มไปด้วยนกเอี้ยง
ส่งเสียงเจี้ยวจ๊าว แถมมูลอีกเป็นระยะๆ ผู้คนสัญจรตามฟุตบาธ
ต้องคอยหลบมูล ใครเผลอก็กลางหัว จุดประทัดไล่ ใช้แผ่นซีดีแขวน
สักพักก็เหมือนเดิม คล้ายๆแยกสีลมที่นกอีแอ่นมาเกาะสายไฟถ่ายมูลเต็มไปหมด
ทั้งเสียง ทั้งมูล.........ปวดหัวดี
ความเห็นที่ 20
ทีนกแอ่นรังขาวมาอยู่ในบ้าน ไม่เห็นมีใครบ่นเลย อิ อิ
ความเห็นที่ 20.1
ความเห็นที่ 21
อันนั้นก็ถือว่าเป็นมาตรการที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน
หากในวันหนึ่งสถานการณ์เรื่องนกพิราบ รุนแรงขึ้นจนเกินความรับได้ของเรา และจำเป็นต้องมีวิธีการในการหาทางออก เราจะได้ช่วยเหลือกันได้ทันท่วงที เพราะเราได้เคยคิดกันมาแล้ว
เพียงแต่กำลังคิดถึงมาตรการที่เบาลงกว่านี้ ว่ามีความเป็นไปได้ไหม ผลลัพธ์ในการลดจำนวนจะใกล้เคียงกับวิธีแรกไหม งบประมาณจะบานปลายไหม
จึงเขียนมาขอความรู้และทรรศนะจากหลายท่านขอรับ และขอขอบคุณในทุกความคิดเห็นขอรับ
ใครมีอะไรจะเพิ่มเติมต่อก็เรียนเชิญด้วยขอรับ
ความเห็นที่ 21.1
ความเห็นที่ 22
ความเห็นที่ 22.1