:: ถามเรื่องระบบนิเวศใต้น้ำหน่อยครับ
เขียนโดย GreenEyes Authenticated user เมื่อ 16 กันยายน 2555
ยังคงสนใจทำตู้ไม้น้ำสวยๆอยู่ และทดลองไปเรื่อย
จากการสังเกต ระบบใต้น้ำของบ่อต่างๆรอบบ้าน ทำให้เกิดคำถาม
บ่อหมายเลข 1 น้ำลึก หนึ่งเมตรกว่าๆ พื้นน้ำเริ่มจากดินในกระถาง ปัจจุบันเป็นซากทับถมไปเรือ่ย ตามธรรมชาติ มีบัว สาหร่ายพุงชะโด ปลา กุ้ง หอย น้ำใสสะอาดดี แสงส่องไม่ถึงก้น เพราะปากบ่อแคบ และถูกบังจากอะไรๆด้านบน
พื้นน้ำปัจจุบันเต็มไปด้วย "รา" (คิดว่างั้นนะ)
บ่อหมายเลข 2 น้ำตื้น คืบเดียว เป็นบ่อดิน พืชน้ำมีสาหร่ายฉัตร อเมซอนแคะ อเมซอนบ้านๆ อเมซอนด่าง น้ำตาเทียน มอส บ่อนี้ เดี๋ยวงามเดี๋ยวล่ม แสงรำไร ช่วงนี้ร่มไปหน่อย แดดมันเปลี่ยนทิศ สัตว์อื่นๆคล้ายบ่อหมายเลข 1
พื้นน้ำปัจจุบัน ตะไคร่และๆและรา
เชื่อว่าหลายคนในบอร์ดน่าจะมีตู้ไม้น้ำกันหลายคน เลยอยากชวนมาตั้งข้อสงสัยกัน หรือเผื่อมีใครทราบชัดเจน ผมก็จะได้ถึงบางอ้อซะที
คำถาม
ปัจจัยอะไร ที่ทำให้เกิด รา หรือ ตะไคร่และๆเหล่านี้ครับ ไม่ชอบครับ T T เมื่อก่อนมันจะเป็นตะไคร่เขียวๆฟู ผมชอบมาก
ที่สำคัญ ตะไคร่นี่ทำให้ไม้น้ำผลโทรมด้วย มันคลุมไปหมด ส่วนรานี่ ไม่รู้ส่งผลอะไรบ้าง
จากการสังเกต ระบบใต้น้ำของบ่อต่างๆรอบบ้าน ทำให้เกิดคำถาม
บ่อหมายเลข 1 น้ำลึก หนึ่งเมตรกว่าๆ พื้นน้ำเริ่มจากดินในกระถาง ปัจจุบันเป็นซากทับถมไปเรือ่ย ตามธรรมชาติ มีบัว สาหร่ายพุงชะโด ปลา กุ้ง หอย น้ำใสสะอาดดี แสงส่องไม่ถึงก้น เพราะปากบ่อแคบ และถูกบังจากอะไรๆด้านบน
พื้นน้ำปัจจุบันเต็มไปด้วย "รา" (คิดว่างั้นนะ)
บ่อหมายเลข 2 น้ำตื้น คืบเดียว เป็นบ่อดิน พืชน้ำมีสาหร่ายฉัตร อเมซอนแคะ อเมซอนบ้านๆ อเมซอนด่าง น้ำตาเทียน มอส บ่อนี้ เดี๋ยวงามเดี๋ยวล่ม แสงรำไร ช่วงนี้ร่มไปหน่อย แดดมันเปลี่ยนทิศ สัตว์อื่นๆคล้ายบ่อหมายเลข 1
พื้นน้ำปัจจุบัน ตะไคร่และๆและรา
เชื่อว่าหลายคนในบอร์ดน่าจะมีตู้ไม้น้ำกันหลายคน เลยอยากชวนมาตั้งข้อสงสัยกัน หรือเผื่อมีใครทราบชัดเจน ผมก็จะได้ถึงบางอ้อซะที
คำถาม
ปัจจัยอะไร ที่ทำให้เกิด รา หรือ ตะไคร่และๆเหล่านี้ครับ ไม่ชอบครับ T T เมื่อก่อนมันจะเป็นตะไคร่เขียวๆฟู ผมชอบมาก
ที่สำคัญ ตะไคร่นี่ทำให้ไม้น้ำผลโทรมด้วย มันคลุมไปหมด ส่วนรานี่ ไม่รู้ส่งผลอะไรบ้าง
Comments
ความเห็นที่ 1
เข้ามารอฟังอธิบายเป็นวิทยศาสตร์ครับ
ปล. แอบแหวะ
ความเห็นที่ 2
แต่ไม่มีราขึ้น !!?? ทำไม ????
แล้วทำไมบ่อผม มีราขึ้น ????
ความเห็นที่ 2.1
รามีอยู่ทุกที่ แล้วราก็มีความหลากหลายมากมาย เพราะฉะนั้นเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าบ่อน้ำในป่าไม่มีรา มันอาจเป็นราที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอยู่ก็ได้ แล้วกลุ่มพวกเห็ดรานี่ส่วนมากจะดำรงชีพแบบผู้ย่อยสลายทั้งนั้น ถามว่าแล้วทำไมมันเยอะ มันก็เหมือนต้นไม้ ถ้าไปเจอที่ที่เหมาะสม (เช่น แสงน้อย, มีออกซิเจนต่ำมากหรืออาจไม่มีเลยด้วยซ้ำ) มีมีอาหารมากๆ (ในที่นี้ก็คือเศษซากของพรรณไม้น้ำที่ทับถมอยู่) มันก็เพิ่มอยู่ดีมีสุขเพิ่มพูนประชากรจนเห็นขาวโพลนไปหมด ทำให้คุณเจ้าของบ่อตกใจว่าบ่อฉันเป็นไปอย่างนี้ได้อย่างไรกัน จริงแล้วผมไม่ใช่นักเห็ดราวิทยา เลยให้คำตอบเกี่ยวกับถึงปัจจับแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับราชนิดนี้ไม่ได้ คุณลองเอาตัวอย่างไปให้ผู้ชำนาญการด้านราน้ำตรวจดูว่ามันคืออะไรชนิดไหน ชอบอยู่อย่างไร คุณก็จะได้คำตอบเองว่าอะไรที่ทำให้มันเพิ่มได้มาก
ส่วนเจ้าสาหร่ายเขียวๆ ฟู ที่มันขึ้นมาแย่งที่ต้นไม้น้ำ อย่างที่คุณนณณ์บอก มันเป็นกึ่งพืชกี่งแบคทีเรีย ผู้ชำนาญการสาหร่ายน้ำและนักบักเตรีวิทยาต่างแก่งแย่งกันครอบครองเป็นเจ้าของเจ้าสิ่งมีชีวิตที่ว่านี้ พวกมันจะต่างจากราครับ ไม่ต้องมีเศษซากใบไม้ฉันก็อยู่ได้ขอให้ในน้ำนั้นต้องมีธาตุไนโตรเจนสูงๆ แล้วก็มีแสงแดดส่องถึง มันก็แตกหน่อแพร่พันธุ์กันเกษมสำราญ ทีนี้มันมีส่วนหนึ่งที่เป็นพืช พอมันเติบโดเยอะๆ มันก็จะไปแย่งทรัพยากรที่พืชต้องใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสารไนโตรเจน แสงแดด กาซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใช้ในการสังเคราะห์แสง ออกซิเจนเพื่อการหายใจ มันแย่งทรัพยากรได้เก่งกว่า เพราะร่างมันเล็กดูดซิมสิ่งเหล่านี้ได้จากน้ำโดยตรง ในขณะที่ต้นไม้น้ำต้องอาศัยการลำเลียงไปปรุงที่ใบ มันเลยรบชนะต้นไม้น้ำ ถ้าเลี้ยงตู้ไม้น้ำ พวกนี้จะเป็นพวกเีีดียวกับที่เขาเรียกว่าสาหร่ายขนแมว ขึ้นตู้ไหน ก็ล้างได้เลย ต้นไม้โทรมหมด
คิดว่าคำตอบของผมเป็นแค่แนวทางนะครับ ผมไม่สามารถตอบในระดับลึกๆ ได้
สุดท้าย ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าวิธีกำจัดราขาวอย่างง่ายๆ ก็คือเอาอาหารมันออกไปซะ (เศษซากใบไม้สะสมพื้นบ่อ เอาออกไปทำปุ๋ยหมักซะ) ราไม่มีอาหารกินมันก็อยู่ไม่ได้เหมือนกันแหละครับ
ความเห็นที่ 2.1.1
เจ้าบ่อหมายเลข 1 นี่คงปล่อยไปตามวิถีของมัน ผมจะดูอย่างเดียว
ส่วนบ่อหมายเลข 2 นี่เป็นบ่อที่ผมเซตขึ้นมา จะพยายามลดซากอินทรีย์ในบ่อครับ ทีแรกผมตั้งใจใส่ใบไม้แห้งลงไปทับถม เพราะทดลองกับตู้ทราย(ไม่มีราขึ้น)แล้วอเมซอนแคระงามมากๆ ใบยาวกว่าที่ผมปลูกที่ทำงานผมด้วยดินแพงๆซะอีก
แต่สภาพคงดันไปเหมาะกับราพวกนี้พอดี
ความเห็นที่ 3
ส่วนเรื่องเดี๋ยวบานเดี๋ยวล่ม น่าจะอยู่ที่แร่ธาตุในดิน ในพื้นที่ปิดแบบนี้แร่ธาตุถูกพืชใช้หมดเร็วมาก เหมือนอ่างบัวที่บ้าน ถ้าไม่ใส่ปุ๋ยบัวยุบเร็วมาก แม้นว่าเลี้ยงปลาใส่อาหารแล้วก็ไม่พอ มัน recycling ธาตุให้ตัวเองไม่ทัน ต้องคอยเติมปุ๋ยอ่ะ ไม่งั้นมันก็ล่มเป็นจังหวะอย่างนั้นครับ
ประมาณนี้ครับ
ความเห็นที่ 4
ความเห็นที่ 5
อย่างที่นณณ์บอกไว้ครับ คือเปิดช่องแสงให้เพียงพอ แล้วรื้อพวกที่ไม่ต้องการออก รวมทั้งพืชที่โดนครอบงำไปแล้วด้วย ให้เหลือพอเป็นเชื้อไว้ไม่ต้องมาก เมื่อแสงมากพอ มันจะโตเร็วมากจากระบบหลังการรื้อนี้ เพราะที่บ้านผมโดยรวมก็น่าจะคล้ายๆกัน เพียงแต่มันได้รับแสงเพียงพอ(แต่ช่วงนี้คงแค่พอประมาณเพราะฝนตกไม่พักเลย) เลยยังไม่เจอพวกไม่ชอบแสง หรือไม่ใช้ออกซิเจนในการย่อยสลายที่ระดับชั้นผิวตะกอน (แต่ถ้าคุ้ยเมื่อไหร่ ลูกอ๊อดปาดน่าจะน็อค)
แอ่งเล็กแอ่งน้อยในป่า แม้มีการทับถมของใบไม้ แต่มักเป็นใบไม้แห้งซึ่งมีแทนนินเป็นตัวช่วยไม่ให้แบคทีเรียงี่เง่าทำงานได้ แล้วแอ่งที่เห็นน่าจะได้รับแสงเพียงพอ หรืออาจขังต่อเนื่องไม่นานมากนัก หรือมีการถ่ายเทได้บ้าง เช่น ฝนตกน้ำไหลมาไล่น้ำเก่าไป ฯลฯ
ความเห็นที่ 6
ถ้าเป็นเพราะแสง แก้ยากแฮะ
จะลองใช้แทนนิน โดยการหมักใบไม้แล้วเอาน้ำไปเป่าอากาศ แล้วเทลงบ่อหมายเลข 2 ดูครับ
ความเห็นที่ 7
ความเห็นที่ 7.1
จะลองใส่สาหร่ายพุงชะโดไปลอยเพิ่มอีกคร้งครับ จะพยามเอาแสงกลับมาด้วย (หาวิธีก่อน)
คิดว่าปัญหาคือแดดไม่พอจริงๆ เพราะจะว่าไปผมใส่พุงชะโดไปหลายรอบแล้ว มันค่อยๆตายหมด
ความเห็นที่ 8
ความเห็นที่ 8.1
ความเห็นที่ 9
ความเห็นที่ 9.1
ความเห็นที่ 10
ความเห็นที่ 10.1
ปล เท่าทีลองมา สาหร่ายฉัตร ปลูกในที่แสงน้อยได้ระดับนึงทีเดียว
ความเห็นที่ 11