กรมอุทยานฯเร่งจับจระเข้เขาใหญ่!
เขียนโดย นณณ์ Authenticated user เมื่อ 22 ธันวาคม 2555
มีความคิดเห็นกันว่าอย่างไรบ้างครับ?
http://www.thairath.co.th/content/edu/315012
http://www.thairath.co.th/content/edu/315012
siamensis.org เป็นสังคมเครื่อข่ายความร่วมมือเกี่ยวกับการให้ข้อมูลทางด้านสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย
Independence Non-Profit Organization Since 1999
ร่วมพัฒนาเว็บไซต์โดย โอเพ่นดรีม
Comments
ความเห็นที่ 1
ข้างต้นบอกว่า จะจับตรวจสอบว่าใช้พันธุ์ไทยหรือไม่ แล้วย้ายออกนอกอุทยาน
ตอนหลังบอกว่า จระเข้เป็นเอเลี่ยนสปีชี
ผมละงง
ความเห็นที่ 2
ให้ข้อมูลแต่ในแง่น่ากัวๆๆๆๆๆ
ดูเหมือนกรมอุทยาน(หรือสื่อไทยรัฐหว่า?) กำลังพยายามปล่อยกระต่ายอยู่นะ...
http://www.mom2kids.com/img_files/pd/3/0301201.jpg
ความเห็นที่ 3
1) เคยมีหรือไม่เคยมี 2) กินสัตว์ในพื้นที่หรือไม่?
ส่วนผม(ซึ่งต้องการให้มันอยู่ต่อไป)ผมเสนอในมุมมองว่า
1) จระเข้น้ำจืดแทบจะไม่เหลือถิ่นอาศัยแล้วในธรรมชาติ หากเขาใหญ่มีศักยภาพพอให้มันดำรงชีพหรือแพร่พันธุ์ได้ ก็น่าสนับสนุนสำหรับชนิดพันธุ์ท้องถิ่นที่หายากในระดับโลกแล้วเช่นนี้ *แล้วถ้าจะเอาหลักนี้มาจับ ขอให้จับปลานิลที่อยู่ในเขตอุทยานด้วยนะครับ
2) เรื่องกระทบสัตว์ป่าในพื้นที่ มีหลักฐานว่ามันกระทบแค่ไหน ไม่ใช่แค่คำบอกเล่าที่ไร้ทั้งหลักฐานและสถิติแบบนี้ *แล้วถ้าจะเอาหลักการนี้มาจับ >ผมขอให้ห้ามรถทุกคันขึ้นอุทยานด้วย เพราะมันกระทบสัตวฺป่าเช่นกัน อย่าสองมาตรฐานครับ
http://board.trekkingthai.com/board/upload/photo/2007-01/81231_XwDkgToKj...
ความเห็นที่ 3.1
เต็มบ้านเต็มเมืองจริงๆ ไม้เว้นแม้กระทั้งแหล่งน้ำจืดเล็กๆ บนเกาะห่างไกล เช่น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
ความเห็นที่ 3.2
ความเห็นที่ 3.3
ถ้าเขาจะเอาออก ผมก็ไม่ได้ห้าม แต่ขอให้เอาปลานิลออกจากอุทยานด้วย ห้ามรถขึ้นอุทยานด้วย ไม่ใช่กับจระเข้คุณใช้มาตรฐานหนึ่ง แต่กับสัตว์อื่นๆรวมทั้งคนคุณกลับใช้อีกมาตรฐานหนึ่ง ทั้งที่มันส่งผลเท่ากัน(หรือมากกว่าด้วยซ้ำ)ต่อระบบนิเวศน์
ความเห็นที่ 4
ความเห็นที่ 5
ความเห็นที่ 6
ความเห็นที่ 7
ความเห็นที่ 8
ความเห็นที่ 8.1
ถ้าใครศึกษาเรื่องการกินอาหารของจระเข้มามากพอ จะรู้ว่ามันกินอาหารน้อยกว่าเสือดาวหรือแม้แต่หมาไนตัวหนึ่งเสียอีก
ความเห็นที่ 9
ความเห็นที่ 10
ความเห็นที่ 11
ปิดเขาใหญ่เถอะครับ รับรอง ระบบมันจะดีขึ้น
ความเห็นที่ 11.1
ความเห็นที่ 12
http://www.siamensis.org/article/36751
ความเห็นที่ 13
สรุปว่ามันผู้ที่คิดเรื่องนี้มันบ้า ฝรั่งตกใจแล้วทิ้งกล้องถึงกลับต้องเอาสัตว์ออกจากป่าเลยหรือ กลัวนากหมด ไม่น่าจะโง่กว่าสัตว์เลยนะ มันรู้ว่าต้องทำไง ถึงจะอยู่รอดน่ะ แล้วถ้าฝรั่งไปเที่ยวเขาเขียว ไปทุ่งใหญ่ แล้วเสือกตกใจ ไม่ต้องจับสัตว์ออกจากป่ากันอิบอ๋ายเลยหรือ สัตว์ก็มีวัตรจักรของชีวิตมัน ไม่ต้องบอกเลยเว้ยเฮ้ย ว่ามันต้องทำอย่างไร มันฉลาดกว่าไอ้คนที่คิดเรื่องนี้อีก ถ้าบอกมาตรงๆว่าจะทำอะไรง่ายกว่ามั้ง ชอบคิดดแทนสัตว์ (ไม่เป็นสัตว์ไปเลยวะ) ขอโทษพี่น้องแรงไปนิด
ความเห็นที่ 14
ทำเหมือนคนเขาไม่รู้ ป๊หน้ากฤษฎีกาควบคุมพื้นที่เขาใหญ่บังคับใช้ จะทำอะไรต้องรีบทำใช่ไหม แล้วก็อ้างโน่นอ้างนี่จะสร้างอะไรล่ะทีนี้ ชอบคิดว่าคนอื่นโง่ตลอด ไอ้เวร รีสอร์ตยังไม่พอไม่ใช่หรือ ผากล้วยไม้ทำเลดีนะ รีบๆสร้างล่ะเดี๋ยวไม่ทัน
ความเห็นที่ 15
ดูไม่ต่างอะไรกับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคน ควันรถ และขยะ
ไม่มีการจัดการกับพวกส่งเสียงดังรบกวนสัตว์ในเวลาคืน
แต่คนออกมาเดินส่องสัตว์กลับโดนจัดการแทน เจริญเลยขอรับ.
ความเห็นที่ 15.1
น้องด้วงคิดเหมือนพี่ไหมจระเข้สองตัว มันจะกินสัตว์หมดอุทยานเลยหรือ พี่อยากรู้ไอ้คนที่คิด มันเอาอะไรมาคิด ต่อไห้มีจระเข้อีกร้อยตัว มันก็กินปลานิลหรือซัคเกอร์หลังอุทยานไม่หมดหรอก แล้วสัตว์แก่สัตว์เจ็บมันก็เป๊นไปโดยธรรมชาติของมัน อยู่แล้ว แต่ที่อยากรู้คือไอ้หัวแดงนี่คือใคร ทำไมถึงมีอิธิพล มากขนาดนี้ หรือว่ามีติ๊บเยอะ
ความเห็นที่ 15.2
ความเห็นที่ 16
ความเห็นที่ 16.1
ความเห็นที่ 17
เรามีเพื่อนที่เป็นชาวต่างชาติก็เยอะลองถามเขาไหมว่าคิดไงกับเรื่องนี้
ความเห็นที่ 18
ความเห็นที่ 19
ความเห็นที่ 20
ความเห็นที่ 20.1
ความเห็นที่ 21
ความเห็นที่ 22
ถ้าไม่ให้เขาอยู่ป่า จะให้เขาไปอยู่ในวัดแบบตัวนี้ไหม