ระเบียบใหม่กรมอุทฯ ห้ามจำหน่ายรวมทั้งนักท่องเที่ยวห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่อุทยาน
เขียนโดย มล จันทร์ลา Authenticated user เมื่อ 14 มกราคม 2554
ระเบียบใหม่จากรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยฯ ออกมาเมื่อไม่กี่วัน ห้ามพื้นที่ ที่ขึ้นสังกัดกรมอุทยานฯ จำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งนักท่องเที่ยรวมทั้งเจ้าหน้าที่ห้ามดื่มในพื้นที่
ถ้าเขตไหนฝ่าฝืนหัวหน้าเขตต้องรับผิดชอบ ตอนนี้โดนไปแล้วหนึ่งเขตคืออุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดนย้ายพร้อมทั้งสอบวินัย หลายหน่วยงานไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะรายได้
ส่วนหนึ่งก็มาจากการจำหน่ายของพวกนี้ และอีกส่วนหนึ่งนักท่องเที่ยวส่วนมากเค้าเข้าไปพักผ่อนก็ต้องมีสิ่งเหล่านี้ อุทยานต่าง ๆ อยู่ได้ก็เพราะสิ่งเหล่านี้ วันนี้ผมพึ่งกลับจากอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว บ้านพักที่เค้าจองเอาไว้ เมื่อเค้าเข้าไปแล้วเจ้าหน้าที่แจ้งว่าห้ามดื่ม ถ้ามีเครื่องดื่มติดตัวมา เจ้าหน้าที่ขอเก็บไว้ก่อน แค่นั้นแหล่ะครับ เค้ายกเลิกบ้านพักหมดเลย
อุทยานดัง ๆ หลายแห่ง โดยเฉพาะอุทยานทางทะเลตายแน่ อยากให้พี่น้องช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยครับ ผมไม่เห็นด้วยคนหนึ่ง ตอนนี้ ททท. ต้องทำงานหนักแน่ ชาวต่างชาติทีไหนจะเข้าไปเที่ยวเมื่อห้ามดื่ม ผมก็ไม่เข้าไปเที่ยว
ถ้าเขตไหนฝ่าฝืนหัวหน้าเขตต้องรับผิดชอบ ตอนนี้โดนไปแล้วหนึ่งเขตคืออุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดนย้ายพร้อมทั้งสอบวินัย หลายหน่วยงานไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะรายได้
ส่วนหนึ่งก็มาจากการจำหน่ายของพวกนี้ และอีกส่วนหนึ่งนักท่องเที่ยวส่วนมากเค้าเข้าไปพักผ่อนก็ต้องมีสิ่งเหล่านี้ อุทยานต่าง ๆ อยู่ได้ก็เพราะสิ่งเหล่านี้ วันนี้ผมพึ่งกลับจากอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว บ้านพักที่เค้าจองเอาไว้ เมื่อเค้าเข้าไปแล้วเจ้าหน้าที่แจ้งว่าห้ามดื่ม ถ้ามีเครื่องดื่มติดตัวมา เจ้าหน้าที่ขอเก็บไว้ก่อน แค่นั้นแหล่ะครับ เค้ายกเลิกบ้านพักหมดเลย
อุทยานดัง ๆ หลายแห่ง โดยเฉพาะอุทยานทางทะเลตายแน่ อยากให้พี่น้องช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยครับ ผมไม่เห็นด้วยคนหนึ่ง ตอนนี้ ททท. ต้องทำงานหนักแน่ ชาวต่างชาติทีไหนจะเข้าไปเที่ยวเมื่อห้ามดื่ม ผมก็ไม่เข้าไปเที่ยว
Comments
ความเห็นที่ 1
ความเห็นที่ 2
คิดจะจัดการระบบแต่จัดการไม่เป็น
ความเห็นที่ 3
กฏออกใหม่ๆไม่พอใจกันเป็นธรรมดาครับ เดี๋ยวคนดีๆรู้ว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีพวกขี้เหล้าไปเมากวนใจแล้ว เ้ค้าก็กลับไปเที่ยวอุทยานกันต่อเองครับ
ความเห็นที่ 4
ประโยคนี้ยังใช่ได้ดี
ความเห็นที่ 5
ความเห็นที่ 6
จริง ๆ แล้วผมว่าไม่มึความจำเป็นเลยในข้อห้ามตรง ประโยชน์จากการห้ามดื่มนี่เพื่ออะไรครับ? คนไม่กินเหล้าสร้างปัญหาให้ก็ไม่น้อย ในทางกลับกัน คนกินเหล้าสร้างประโยชน์ให้อุทยานก็มาก
ต้องเข้าใจถึงแบบแผนของการท่องเที่ยว หลักการของการท่องเที่ยวให้มากพอ ต้องเข้าใจว่าอุทยานแห่งชาติมีไว้ทำไม?
ความเห็นที่ 6.1
ความเห็นที่ 6.1.1
ความเห็นที่ 6.1.2
ความเห็นที่ 6.1.2.1
ความเห็นที่ 6.1.2.1.1
ความเห็นที่ 6.2
น้องปลวกเติบโตแหงๆ ทั้งบ้านพักรับรองนักท่องเที่ยวและหน่วยฯ.... เพราะคนไม่เมาไม่ค่อยอยากไปอยู่หรอกที่แบบนั้น ยกเว้นคนที่เคยเมามาก่อนแล้วต้องหยุด คนแบบนี้จะเข้าใจ และเรียนรู้ถึงวิธีจัดการกับขี้เมามาซ่าส์ อย่างมีศิลปะ!!!!!
ความเห็นที่ 7
พูดยังไงดีละ ในสายตาผมไม่วาจะ เพื่อน พี่ น้อง ญาติ หรือใครที่น่านับถือทั้งหลาย พอเมาเมื่อไร เขาก็ไม่ใช่คนนั้นอีกแล้ว และมักทำอะไรที่ไม่ควร น่ารำคาญ หรือชักจะเล้ำ ไม่ว่าจะพฤติกรรมหรือวาจา โดยที่คนทำไม่รู้ตัวว่าคนอื่นเขารู้สึกอย่างไร โดยที่ผมเองต้องทำใจยอมรับเพราะมันเมาอยู่ คึกอยู่ พูดไปก็ไม่รู้ตัว ทะเลาะกันเปล่าๆ ทั้งที่จริงๆอยากจะถีบไปไกลๆ (ยังไม่รวมถึงพวกเมาเหมือนหมา) น้อยมากที่กินแล้วไม่กรึ่ม ไม่คึก มีสติครบร้อย
ส่วนใน อช เท่าที่สัมผัส พอมีเหล้า ปัญหาต่างๆก็เพิ่มขึ้นตามมา เสียงดัง คุกคาม ทะเลาะวิวาท ขยะเรี่ยราด โดย จนท ก็ไม่เห็นจะกล้าทำอะไร หรือเกิดอุบัติเหตุกับคนอื่นๆ
แน่นอนว่าในใจ เหล้าน่ะ ไม่อยากเห็น มันรำคาญตา ไม่มีน่ะดีแล้ว
แต่ส่วนหนึ่ง มองภาพใหญ่ๆคนเราละกิเลสไม่ได้ ก็มีมุมหนึ่งที่อยากให้มีการจัดโซน เช่นโซนขอบๆ แบ่งเป็น 20% ที่อนุโลมให้ดื่มได้ เพื่อรายได้เข้า อช ยกตัวอย่างเช่น อช แก่งกระจาน ให้ที่เขื่อน แบ่ง 1 ใน 5 ของพื้นที่ที่ดื่มได้ แต่ห้ามเอาเหล้าขึ้นไปบ้านกร่าง พะเนินทุ่ง เป็นต้น
ปล ผมไม่อยากให้เกิดความคิดเช่นว่า คนกินเหล้าเอาเงินเข้า อช มากกว่าคนไม่กินเหล้า
ความเห็นที่ 8
รายได้หลักของร้านค้าในอุทยานฯ ได้จากการขายเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์จริงหรือครับ ?
ความเห็นที่ 8.1
ในความคิดของผมคนเดียวนะครับ ส่วนหนึ่งมันเป็นผลพวงจากแอลกอฮอล์ครับ น้ำแข็ง โซดา มิกเซอร์อื่นๆ ราคาในอุทยาน สูงกว่าราคาทั่วไป 20 ถึง 150 % แต่นักท่องเที่ยวก็เต็มใจที่จะซื้อ แต่รายได้อื่นๆ ก็มีส่วนช่วยส่งเสริม เช่นอาหาร กับแกล้ม ขนมขบเคี้ยว ของฝากของชำร่วย อย่างผมเวลาไปเที่ยว ขากลับพอกรึ่มๆหน่อย ซื้อแหลกเลยครับ ไอ้นั่นก็อยากได้ไอ้นี่ก็อยากเอา ถึงบ้านแล้วเอามาทำอะไรหว่า แต่ก็เหมือนคุณไอ้ลูกทุ่งแหละครับ มันอยู่ที่ทำอะไรไปแล้วรับผิดชอบนั่นแหละ ถูกต้องที่สุด ส่วนพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในเขตอุทยาน เขาก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องที่จะให้ความรู้กับนักท่องที่ยวด้วยเช่นกัน แต่มีหน่วยงานของส่วนราชการไหนเคยให้ความรู้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ไหมครับ เคยไปให้ข้อมูลหรือความรู้กับเขาไหม แล้วความเป็นอยู่ของคนเหล่านี้ล่ะ ผมเข้าใจคนที่ต้องการไปท่องเที่ยวแล้ว ต้องการที่จะอยู่กับธรรมชาติจริงๆ แต่เมืองไทยระบบการจัดการยังทำไม่ได้หรอกครับ ถ้ายังเปลียนทัศนคติสบายๆสไตร์ไทยแลนด์ไม่ได้
ความเห็นที่ 9
ข่าวว่าร้านค้าอุทยานเอาเหล้าไปฝากไว้ที่บ้านพี่หม่อม เพราะขายไม่ได้แล้ว น่าสงสารพี่หม่อมจริงๆ
ความเห็นที่ 10
ความเห็นที่ 11
ความเห็นที่ 11.1
ความเห็นที่ 11.2
(ใครเคยกินบ้างเนี้ยะ? ฮ่าๆๆ แบบว่าเวลาพกไปไม่ยอมเขียนไว้ข้างขวดน้ำมันก็ใสๆ เหมือนน้ำเปล่า 55+)
ความเห็นที่ 11.3
ความเห็นที่ 12
ความเห็นที่ 13
ความเห็นที่ 13.1
ความเห็นที่ 13.2
ความเห็นที่ 14
ความเห็นที่ 15
กลับมาดื่มที่บ้านเรา..เซกา..ดื่มได้ตลอดชาติ..ไม่มีเงินก็ดื่มได้แต่ต้องทำตัวเป็นเทพ..นะพี่มล
ดีๆครับมีคำสังห้ามดื่มในเขต..จะได้เหลือเงินเก็บ แต่งเมียกะเค้าบ้าง..
ความเห็นที่ 15.1
ความเห็นที่ 15.2
ความเห็นที่ 15.2.1
เป่ลาหรอกครับ.".เทพ"..ที่อยู่รัฐเซกาบ้านเกิดพี่มล...จัง...หน่ะหมายความมีงานเลี้ยงงานบุญที่ไหน..ทุกหมู่ทุกตำบลถึงหมด แปรงร่างตีสนินแบเนียนๆ..ไม่ต้องทำงาน 30 วันมีให้กินให้ดื่มตาลอด..
.....แต่ต้องเป็นเทพซกมกหน้าด้าน"ลักษณทำตัวขี้เมาทั้งวันไม่ทำงานแกล้งสติไม่ดีแต่งตัวโคตรๆ..ปัจจุบันมี2.3. กลุ่มแล้วแบ่งสายกันหากิน..ทับเส้นกันละก้อมึงเอ้ย..อยากรู้ข้อมูลละเอียดถามพี่มลดูมีพวกๆในกลุ่มเทพ..เซกา
ความเห็นที่ 15.2.1.1
Technical term ฮ้อง.... ตู้ดดด ตะ ละ ลูด ตู้ด ตู้ดดดด จนตูดขาด.... คุณสมบัตินี้ติดตัวท่านประธานฯ มาตั้งแต่เป็นสัมภเวสีแล้วครับ
ความเห็นที่ 16
อยากให้ห้ามนำปลาหมึกแห้งเข้าไปในอุทยานด้วยครับ
ไปนอนเต๊นท์แล้วเต๊นท์ข้างๆเล่นย่างปลาหมึกตอน4ทุ่ม ลองนึกดูสิ ได้กลิ่นแล้วมันอยากขนาดไหน
นอนไปสูดกลิ่นไปหอมชะมัดเลย
ความเห็นที่ 16.1
ความเห็นที่ 17
ให้คนไม่เคยเมามาจัดการปัญหาของขี้เมามันจะไปได้เรื่องอะไร