ระเบียบใหม่กรมอุทฯ ห้ามจำหน่ายรวมทั้งนักท่องเที่ยวห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่อุทยาน

ระเบียบใหม่จากรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยฯ ออกมาเมื่อไม่กี่วัน ห้ามพื้นที่ ที่ขึ้นสังกัดกรมอุทยานฯ จำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งนักท่องเที่ยรวมทั้งเจ้าหน้าที่ห้ามดื่มในพื้นที่
ถ้าเขตไหนฝ่าฝืนหัวหน้าเขตต้องรับผิดชอบ ตอนนี้โดนไปแล้วหนึ่งเขตคืออุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดนย้ายพร้อมทั้งสอบวินัย หลายหน่วยงานไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะรายได้
ส่วนหนึ่งก็มาจากการจำหน่ายของพวกนี้ และอีกส่วนหนึ่งนักท่องเที่ยวส่วนมากเค้าเข้าไปพักผ่อนก็ต้องมีสิ่งเหล่านี้ อุทยานต่าง ๆ อยู่ได้ก็เพราะสิ่งเหล่านี้ วันนี้ผมพึ่งกลับจากอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว บ้านพักที่เค้าจองเอาไว้ เมื่อเค้าเข้าไปแล้วเจ้าหน้าที่แจ้งว่าห้ามดื่ม ถ้ามีเครื่องดื่มติดตัวมา เจ้าหน้าที่ขอเก็บไว้ก่อน แค่นั้นแหล่ะครับ เค้ายกเลิกบ้านพักหมดเลย
อุทยานดัง ๆ หลายแห่ง โดยเฉพาะอุทยานทางทะเลตายแน่ อยากให้พี่น้องช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยครับ ผมไม่เห็นด้วยคนหนึ่ง ตอนนี้ ททท. ต้องทำงานหนักแน่ ชาวต่างชาติทีไหนจะเข้าไปเที่ยวเมื่อห้ามดื่ม ผมก็ไม่เข้าไปเที่ยว

Comments

ความเห็นที่ 1

คนออกคำสั่งมันเอาอะไรคิดวะ ผมคิดเหมือน อาจารย์หมี กับพี่มล ไม่ได้สนับสนุนกับการดื่มในเขตอุทยาน (ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบดื่ม) แต่ชาวบ้านร้านค้าที่อยู่ในเขตอุทฯ คงได้รับผลกระทบเต็มๆ ทีพลุ ประทัด ปืน ดันเจือก ! ปล่อยให้จุดให้ยิงกันอยู่ได้ บ้าหรือเปล่า กินในเขตอุทฯก็กำหนดขอบเขตซิครับ เขตไหนกินได้ เขตไหนกินไม่ได้แบ่งให้ชัดเจน (ยกตัวอย่างอุทยานแห่งชาติเกาะสิมิลัน เขานั่งกินบนเรือ ไปจับเขาได้หรือเปล่า) ฮ่วย ออกกฎมั่วๆแบบนี้ตูก็ออกได้ฟะ ไม่ต้องเป็น รมต.(รกเมืองตายห่า)หรอก

ความเห็นที่ 2

ไม่รู้จะพูดไงดี
คิดจะจัดการระบบแต่จัดการไม่เป็น





ความเห็นที่ 3

ผมคนไม่ดื่มสุราของมึนเมา "เห็นด้วย" ครับ อยากกินเหล้า กินผับกินบาร์กินที่บ้านครับ มาอุทยานแห่งชาติเค้าให้มาดิ่มด่ำธรรมชาติ มิใช่ร่ำสุรา คนดื่มแล้วดีมีมาก ดื่มแล้วห่วยก็เยอะ ก็ต้องซวยตามๆกันไป เหมือนกฏอีกมากมายบนโลกใบนี้ที่คนไม่ดีไม่กี่คนทำให้คนดีเดือดร้อนไปกันหมด  และพวกเราก็ต้องปฏิบัติตาม

กฏออกใหม่ๆไม่พอใจกันเป็นธรรมดาครับ เดี๋ยวคนดีๆรู้ว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีพวกขี้เหล้าไปเมากวนใจแล้ว เ้ค้าก็กลับไปเที่ยวอุทยานกันต่อเองครับ

ความเห็นที่ 4

ดื่มอย่างมีสติ และ มีความรับผิดชอบ 
ประโยคนี้ยังใช่ได้ดี

ความเห็นที่ 5

ธรรมชาติมันจะปรับเข้าสู่สมดุลเอง... อีกไม่เกิน 1-2 ปี จะแกล้งๆ ลืมกัน แล้วกลับมาเหมือนเดิม... ตอนนี้ก็โหนกระแสความดีแบบเห็นด้วยกันไปเถอะ แต่ผมคนหนึ่งแหละที่ไม่ห้อยตาม อิ อิ มีใครกล้าเดิมพันเปล่าหนอเนี่ย

ความเห็นที่ 6

มล จันทร์ลา ได้รับผลกระทบสูงสุด รองลงมาคือหมอก๊ง 555

จริง ๆ แล้วผมว่าไม่มึความจำเป็นเลยในข้อห้ามตรง ประโยชน์จากการห้ามดื่มนี่เพื่ออะไรครับ? คนไม่กินเหล้าสร้างปัญหาให้ก็ไม่น้อย ในทางกลับกัน คนกินเหล้าสร้างประโยชน์ให้อุทยานก็มาก

ต้องเข้าใจถึงแบบแผนของการท่องเที่ยว หลักการของการท่องเที่ยวให้มากพอ ต้องเข้าใจว่าอุทยานแห่งชาติมีไว้ทำไม?



ความเห็นที่ 6.1

ท่านขรัวเองต่างหากครับที่ได้รับผลกระทบทางตรง เห็นเข้าเขตไหนกระติกไม่ยอมห่างกายแม่แต่ปีนเขาตามปูเจ้าฟ้าก็ยังไม่ทิ้งกระติก คู่กาย ต่อไปเข้าเขตไหนแค่เจ้าหน้าที่ยึดกระติก ขรัวท่านก็หมดแรงเดินแล้วหล่ะครับ ร้านค้าที่ตั้งอยู่ตามอุทยานต่าง ๆ ตายอย่างเขียดครับงานนี้

ความเห็นที่ 6.1.1

อย่างผมสบายเลยครับพี่มล เขาเขียวขึ้นสำนักนายก ไม่ได้ขึ้นกับกระทรวงทรัพย์ฯ ก็กินได้เหมือนเดิม อิอิ

ความเห็นที่ 6.1.2

จริง ๆ แล้วเลิกก็ดีเหมือนกันน่ะครับ ผมเกรงว่าเจ้าหน้าที่กรมอุทฯ จะมีเมียโดยประมาทน่ะครับ 555

ความเห็นที่ 6.1.2.1

กระผมว่าท่านขรัวสบายใจได้เลยครับ.... ทั้งที่เจตนาประมาท ทั้งเลินเล่อ งกๆ เงิ่นๆ ก็แล้ว แต่มาปูนนี้แล้วก็ยังไม่สำมะเร็จ แถมยังไม่เคยลืมที่จะเก๊กหล่อต่อหน้าน้องฮักมาตลอดแม้ว่าจะเมาหนักเพียงใด แต่พอแอ๋กะเราท่านเอาซะเต็มเหนี่ยว! ไม่หลงเหลือมาดพระเอกเล้ย ไผหว่า!.... ขบ แค่นี้พอหละ พล่ามมากประเดี๋ยวจะเข้าตัว เหอๆๆๆๆๆๆ

ความเห็นที่ 6.1.2.1.1

ระวังจะได้เป็นเขยต่างชาติโดยประมาทน่ะครับ 555 หรือว่าเป็นไปแล้ว? เอื้อกกกก

ความเห็นที่ 6.2

ผมไม่ได้รับผลกระทบครับ อิ อิ ... คืนนี้มีทีม มอ. มาเยือนด้วย และกึ่มได้ที่เต็มทีแล้ว เพราะไม่ได้มีที่พำนักในอุทยานฯ ครับ แต่แอ๋กันในที่พำนักกับทีมงานและอาสาสมัครข้างนอกเขตฯ... แต่อีกไม่นาน ขี้เมาที่เฝ้าหน่วยพิทักษ์ฯ ทั่วประเทศที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย (อย่างท่านประธานฯ เป็นต้น เหอๆๆๆๆ) ประเภทรักษ์ลำเนาไพร เขาต้องเลือกแล้วหละ ถ้าหากไปเข้มงวดกับเขา ว่าจะกินแบบ หลบๆ ซ่อนๆ ในหน่วย หรือจะออกมาอยู่ข้างนอกดี

น้องปลวกเติบโตแหงๆ ทั้งบ้านพักรับรองนักท่องเที่ยวและหน่วยฯ.... เพราะคนไม่เมาไม่ค่อยอยากไปอยู่หรอกที่แบบนั้น   ยกเว้นคนที่เคยเมามาก่อนแล้วต้องหยุด คนแบบนี้จะเข้าใจ และเรียนรู้ถึงวิธีจัดการกับขี้เมามาซ่าส์ อย่างมีศิลปะ!!!!!

ความเห็นที่ 7

ส่วนหนึ่งเห็นด้วย เพราะผมเกลียดคนเมาเป็นที่สุด

พูดยังไงดีละ ในสายตาผมไม่วาจะ  เพื่อน พี่ น้อง ญาติ หรือใครที่น่านับถือทั้งหลาย พอเมาเมื่อไร เขาก็ไม่ใช่คนนั้นอีกแล้ว และมักทำอะไรที่ไม่ควร น่ารำคาญ หรือชักจะเล้ำ ไม่ว่าจะพฤติกรรมหรือวาจา โดยที่คนทำไม่รู้ตัวว่าคนอื่นเขารู้สึกอย่างไร โดยที่ผมเองต้องทำใจยอมรับเพราะมันเมาอยู่ คึกอยู่ พูดไปก็ไม่รู้ตัว ทะเลาะกันเปล่าๆ ทั้งที่จริงๆอยากจะถีบไปไกลๆ (ยังไม่รวมถึงพวกเมาเหมือนหมา) น้อยมากที่กินแล้วไม่กรึ่ม ไม่คึก มีสติครบร้อย

ส่วนใน อช เท่าที่สัมผัส พอมีเหล้า ปัญหาต่างๆก็เพิ่มขึ้นตามมา เสียงดัง คุกคาม ทะเลาะวิวาท ขยะเรี่ยราด โดย จนท ก็ไม่เห็นจะกล้าทำอะไร หรือเกิดอุบัติเหตุกับคนอื่นๆ

แน่นอนว่าในใจ เหล้าน่ะ ไม่อยากเห็น มันรำคาญตา ไม่มีน่ะดีแล้ว

แต่ส่วนหนึ่ง มองภาพใหญ่ๆคนเราละกิเลสไม่ได้ ก็มีมุมหนึ่งที่อยากให้มีการจัดโซน เช่นโซนขอบๆ แบ่งเป็น 20% ที่อนุโลมให้ดื่มได้ เพื่อรายได้เข้า อช ยกตัวอย่างเช่น อช แก่งกระจาน  ให้ที่เขื่อน แบ่ง 1 ใน 5 ของพื้นที่ที่ดื่มได้ แต่ห้ามเอาเหล้าขึ้นไปบ้านกร่าง พะเนินทุ่ง เป็นต้น


ปล ผมไม่อยากให้เกิดความคิดเช่นว่า คนกินเหล้าเอาเงินเข้า อช มากกว่าคนไม่กินเหล้า

ความเห็นที่ 8

ผมก็ดื่ม แต่ถ้าจะห้าม ผมก็จะปฏิบัติตาม และถ้าผมแหกกฏทำผิด ผมก็จะรับผิดชอบในสิ่งที่ผมกระทำ

รายได้หลักของร้านค้าในอุทยานฯ ได้จากการขายเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์จริงหรือครับ ?

ความเห็นที่ 8.1

ในความคิดของผมคนเดียวนะครับ ส่วนหนึ่งมันเป็นผลพวงจากแอลกอฮอล์ครับ น้ำแข็ง โซดา มิกเซอร์อื่นๆ ราคาในอุทยาน สูงกว่าราคาทั่วไป 20 ถึง 150 % แต่นักท่องเที่ยวก็เต็มใจที่จะซื้อ แต่รายได้อื่นๆ ก็มีส่วนช่วยส่งเสริม เช่นอาหาร กับแกล้ม ขนมขบเคี้ยว ของฝากของชำร่วย อย่างผมเวลาไปเที่ยว ขากลับพอกรึ่มๆหน่อย ซื้อแหลกเลยครับ ไอ้นั่นก็อยากได้ไอ้นี่ก็อยากเอา ถึงบ้านแล้วเอามาทำอะไรหว่า แต่ก็เหมือนคุณไอ้ลูกทุ่งแหละครับ มันอยู่ที่ทำอะไรไปแล้วรับผิดชอบนั่นแหละ ถูกต้องที่สุด ส่วนพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในเขตอุทยาน เขาก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องที่จะให้ความรู้กับนักท่องที่ยวด้วยเช่นกัน แต่มีหน่วยงานของส่วนราชการไหนเคยให้ความรู้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ไหมครับ เคยไปให้ข้อมูลหรือความรู้กับเขาไหม แล้วความเป็นอยู่ของคนเหล่านี้ล่ะ ผมเข้าใจคนที่ต้องการไปท่องเที่ยวแล้ว ต้องการที่จะอยู่กับธรรมชาติจริงๆ แต่เมืองไทยระบบการจัดการยังทำไม่ได้หรอกครับ ถ้ายังเปลียนทัศนคติสบายๆสไตร์ไทยแลนด์ไม่ได้

ความเห็นที่ 9

รู้สึกว่ากฏนี้ออกมาให้ปฏิบัติได้ยาก เห็นด้วยกับเรื่องแบ่งโซนของคุณกรีนอายมากกว่า

ข่าวว่าร้านค้าอุทยานเอาเหล้าไปฝากไว้ที่บ้านพี่หม่อม เพราะขายไม่ได้แล้ว น่าสงสารพี่หม่อมจริงๆ

ความเห็นที่ 10

ตอนนี้พี่หม่อมน่าจะเมาแอ๋ที่ร้านไก่ย่างหน้าป้ายเขตฯแล้วล่ะครับ ไม่งั้นก็ยึดศาลารอรถประจำทางเป็นที่เติมไฟ

ความเห็นที่ 11

อ่อ..นักวิจัยก็ระวังด้วยนะครับ เพราะจะไม่มีอะไรดองตัวอย่างในพื้นที่ แล้วห้ามเป็นแผล เพราะไม่มีอะไรล้างแผลและฆ่าเชื้อแบบสะดวกๆ แล้วต่อไปเจ้าพรุจะโบกรถเบียร์ขึ้นดอยไปอีกหรือเปล่าเนี่ย

ความเห็นที่ 11.1

อันนี้ไม่ใช่ตัณหา เอ๊ยปัญหาค่ะ เราเปลี่ยนมาดองด้วยฟอร์มาลิน หรือไม่ก็งดทำวิจัยในพื้นที่อช.  (ุถ้าให้เจ๋งกว่านั้น ก็เขี่ยตัวอย่างออกมานอกอช. แล้วค่อยจัดการ) ... ประเด็นเดิมเป็นเรื่องห้้ามกินเหล้านี่นา ไหงมันเริ่มเพี้ยนๆ ซะแล้ว

ความเห็นที่ 11.2

สงสัยต้องเปลี่ยนไปเป็นล้างแผลและดื่มฟอร์มาลีนแทน - -*
(ใครเคยกินบ้างเนี้ยะ? ฮ่าๆๆ แบบว่าเวลาพกไปไม่ยอมเขียนไว้ข้างขวดน้ำมันก็ใสๆ เหมือนน้ำเปล่า 55+)

ความเห็นที่ 11.3

เค้าไม่ได้ห้ามเครื่องดองแอลกอฮอล์ครับ เราก็เปลี่ยนเครื่องดองให้เป็นเครื่องดื่มได้ ฮา

ความเห็นที่ 12

เวลาเจ้านายไปตรวจงานแล้วพักในนั้น คงต้องเอาน้ำชามาให้ดื่มแทน ไหนๆสีคล้ายๆกัน

ความเห็นที่ 13

ประกาศ พรรคพวก เพื่อนฝูง พี่ น้อง ญาติโก โหติกา บุคคลที่เคารพและนับถือ ห้ามแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเยียน พบปะ มลจันทร์ลา โดยเด็ดขาด ฮือ ๆ ตรูทำไงดีว้อย 

ความเห็นที่ 13.1

ดื่มที่เขตไม่ได้ ให้ไปดื่มที่บ้านทะเลนอกเลยครับ 555

ความเห็นที่ 13.2

ไม่เป็นไรครับ ท่านประธานชมรมอ้ายฮัก ไม่ให้กินเหล้าเบียร์ เราก็กินยาธาตุน้ำแดง หรือไม่ก็ยาแก้ไอ กินเยอะหน่อยก็มีมึนเหมือกันนะครับ 555

ความเห็นที่ 14

พี่มล เริ่มลงแดงแล้วนี่หว่าเนี๊ย....

ความเห็นที่ 15

กลับมาดื่มที่บ้านเรา..เซกา..ดื่มได้ตลอดชาติ..ไม่มีเงินก็ดื่มได้แต่ต้องทำตัวเป็นเทพ..นะพี่มล
ดีๆครับมีคำสังห้ามดื่มในเขต..จะได้เหลือเงินเก็บ แต่งเมียกะเค้าบ้าง..

ความเห็นที่ 15.1

yes ชอบสองประโยคหลัง เหอ เหอ 

ความเห็นที่ 15.2

ไม่มีเงินก็ดื่มได้แต่ต้องทำตัวเป็นเทพ... เนี่ยหมายถึงต้องหมักเหล้ากินเองกระมัง

ความเห็นที่ 15.2.1

เป่ลาหรอกครับ.".เทพ"..ที่อยู่รัฐเซกาบ้านเกิดพี่มล...จัง...หน่ะหมายความมีงานเลี้ยงงานบุญที่ไหน..ทุกหมู่ทุกตำบลถึงหมด แปรงร่างตีสนินแบเนียนๆ..ไม่ต้องทำงาน 30 วันมีให้กินให้ดื่มตาลอด..
.....แต่ต้องเป็นเทพซกมกหน้าด้าน"ลักษณทำตัวขี้เมาทั้งวันไม่ทำงานแกล้งสติไม่ดีแต่งตัวโคตรๆ..ปัจจุบันมี2.3. กลุ่มแล้วแบ่งสายกันหากิน..ทับเส้นกันละก้อมึงเอ้ย..อยากรู้ข้อมูลละเอียดถามพี่มลดูมีพวกๆในกลุ่มเทพ..เซกา

ความเห็นที่ 15.2.1.1

อ๋อ เข้าใจแล้วครับ...

Technical term ฮ้อง.... ตู้ดดด ตะ ละ ลูด ตู้ด ตู้ดดดด จนตูดขาด.... คุณสมบัตินี้ติดตัวท่านประธานฯ มาตั้งแต่เป็นสัมภเวสีแล้วครับ

ความเห็นที่ 16


อยากให้ห้ามนำปลาหมึกแห้งเข้าไปในอุทยานด้วยครับ
ไปนอนเต๊นท์แล้วเต๊นท์ข้างๆเล่นย่างปลาหมึกตอน4ทุ่ม ลองนึกดูสิ ได้กลิ่นแล้วมันอยากขนาดไหน

นอนไปสูดกลิ่นไปหอมชะมัดเลย angel

ความเห็นที่ 16.1

cool ผมก็เคยเจอกรณีนี้เหมือนกัน อาศัยกินทาโร่ในเต็นท์แก้หิวไปแทน ฮ่าๆๆๆ

ความเห็นที่ 17

 ให้คนไม่เคยเมามาจัดการปัญหาของขี้เมามันจะไปได้เรื่องอะไร