มีวิธีดูแบบเบื้องต้นอย่างง่ายครับ ให้ดูที่ขนเก็บเกสร ซึ่งเป็นแผงขนแข็ง ถ้าอยู่ที่ tibia ของขาคู่สุดท้าย จะเป็นผึ้ง Apis คือผึ้งธรรมดา แต่ถ้าขนแข็ง scopa อยู่ที่ใต้ส่วนท้องเป็นแผงๆ ซ้อนกัน อันนั้นจะเป็นผึ้งกัดใบ พวก Megachilid ครับ
ลักษณะการกัดใบ อย่างกับทำ photoshop
ผึ้ง Apis จะมีขาแบบพิเศษครับ เรียกว่า ขาเก็บละอองเกสร (carrying leg) คือที่บริเวณ tibia และ basitarsus ขยายออกและมีขนแข็งปกคลุมครับ เรียก pollen basket จะเป็นบริเวณที่เก็บเกสรจากดอกไม้ครับ เครดิตภาพ http://cyberbee.msu.edu/biology/
Comments
ความเห็นที่ 1
มีวิธีดูแบบเบื้องต้นอย่างง่ายครับ ให้ดูที่ขนเก็บเกสร ซึ่งเป็นแผงขนแข็ง ถ้าอยู่ที่ tibia ของขาคู่สุดท้าย จะเป็นผึ้ง Apis คือผึ้งธรรมดา แต่ถ้าขนแข็ง scopa อยู่ที่ใต้ส่วนท้องเป็นแผงๆ ซ้อนกัน อันนั้นจะเป็นผึ้งกัดใบ พวก Megachilid ครับ
ความเห็นที่ 2
ความเห็นที่ 3
ความเห็นที่ 4
นอกจากสร้างปลอกใบไม้แบบเปลือยแล้ว ผ้งกัดใบบางชนิดอาจนำใบไม้มาอัดเป็นชั้นๆภายในโพรงต้นไม้ หรือตามสภาพที่มีรู ที่พบบ่อยๆคือในรูอิฐมอญ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเพราะมีขนาดพอดี หรือบางชนิดสามารถสร้างปลอกดินได้เช่นเดียวกับหมาร่า แต่อย่างไรก็ยังจะใช้ใบไม้อัดเป็นชั้นายในอยู่ดีครับ ส่วนรอยแผลบนใบไม้ที่แหว่งเพราะผ้งกัดใบอาจจะสังเกตได้จาก แผลที่ค่อนข้างเป็นวงกลม ในขณะที่หนอนผีเสื้อจะเป็นรอยหยัก มีขนาดและรูปร่างไม่แน่นอน
เครดิตภาพ http://buginfo.com/article.cfm?id=103
ความเห็นที่ 4.1
ลักษณะการกัดใบ อย่างกับทำ photoshop
ความเห็นที่ 4.1.1
ความเห็นที่ 4.1.1.1
ความเห็นที่ 5
ผึ้ง Apis จะมีขาแบบพิเศษครับ เรียกว่า ขาเก็บละอองเกสร (carrying leg) คือที่บริเวณ tibia และ basitarsus ขยายออกและมีขนแข็งปกคลุมครับ เรียก pollen basket จะเป็นบริเวณที่เก็บเกสรจากดอกไม้ครับ
เครดิตภาพ http://cyberbee.msu.edu/biology/
ความเห็นที่ 6
เครดิตภาพ http://www.discoverlife.org/ และ http://www.greatsunflower.org/megachile
ความเห็นที่ 7
ความเห็นที่ 8
ความเห็นที่ 9
ความเห็นที่ 9.1