ปู่ระอา..ที่ป่าละอู
เขียนโดย kroolek Authenticated user เมื่อ 6 มีนาคม 2554
เสาร์ที่แล้วไม่ได้พาเธอไป เพราะติดไปแคมป์กับเด็กๆ เสาร์นี้บอกว่าถ้าไม่พาไป...มึง..ตาย เลยบอกว่าปู่ระอา...เธอไม่เก็ตเลยแถมได้ยินไปอีกแบบว่า กูระอา เล่นเอาเธอกะฟัดกะเฟียดไปยกใหญ่ เลยบอกว่าป่าละอูไง....ไปมั้ย หนึ่งปีแล้วนะที่ไม่ได้ไปเยือน
เธอยิ้มออกได้ "ไปไปไป....แต่แวะเอ้าท์เลตด้วยนะ (ร้านค้าเครื่องแต่งกายประเภทนำเข้าบ้าง ส่งออกบ้างที่ท่ายาง)
กะว่าจะวิ่งรถสายใหม่ หนองหญ้าปล้อง-ยางชุม-หนองพลับ เลี้ยวขวาไปห้วยสัตว์ใหญ่และป่าละอู เลยต้องขับอ้อมตามถนนใหญ่ไปแวะละลายทรัพย์ที่เอ้าท์เลตก่อนเข้าป่า..สบายใจ
ถึงป่าละอูที่ลานจอดรถ สัตว์ป่าตัวแรกที่ออกมาทักและต้อนรับคือพญากระรอกดำ
เธอยิ้มออกได้ "ไปไปไป....แต่แวะเอ้าท์เลตด้วยนะ (ร้านค้าเครื่องแต่งกายประเภทนำเข้าบ้าง ส่งออกบ้างที่ท่ายาง)
กะว่าจะวิ่งรถสายใหม่ หนองหญ้าปล้อง-ยางชุม-หนองพลับ เลี้ยวขวาไปห้วยสัตว์ใหญ่และป่าละอู เลยต้องขับอ้อมตามถนนใหญ่ไปแวะละลายทรัพย์ที่เอ้าท์เลตก่อนเข้าป่า..สบายใจ
ถึงป่าละอูที่ลานจอดรถ สัตว์ป่าตัวแรกที่ออกมาทักและต้อนรับคือพญากระรอกดำ
Comments
ความเห็นที่ 1
ความเห็นที่ 2
ความเห็นที่ 3
ความเห็นที่ 3.1
ดีใจ เจ้าสันหลังม่วงออกมาบินกันแล้ว ^^
ความเห็นที่ 4
ความเห็นที่ 4.1
ความเห็นที่ 5
ความเห็นที่ 5.1
ขออนุญาตเอาไปลงใน SI นะครับ ครูเล็ก
ตัวเมีย นานๆ จะเห็นมันเกาะสักทีนึง
ความเห็นที่ 5.1.1
ความเห็นที่ 5.2
พญากระรอกดำกินลูกเม็ก (Macaranga tanarius (L.) Mull.Arg.) ด้วยเหรอครับ (ตามภาพเปิดกระทู้) ผมเคยเห็นแต่นกกิน
ความเห็นที่ 5.2.1
พญากระรอกดำกำลังกินลูกของต้นที่เห็นนั่นแหละ แต่ไม่รู้ต้นอะไรเหมือนกัน
ความเห็นที่ 5.3
เคยเห็นแต่ตัวผู้เกาะ
ความเห็นที่ 6
ความเห็นที่ 6.1
ความเห็นที่ 7
ความเห็นที่ 7.1
แต่ไม่ใช่ปูคีรีขันธ์ D. khirikhan เพราะรายนั้นจะกระดองโค้งนูนกว่า และดูเรียบมันกว่าทุกชนิด มีอีกตัวที่อาจจะเป็นไปได้คือปูหัวหิน D. huahin แต่ผมดูจากภาพแล้วนึกถึงตัวสวนผึ้งมากกว่า
ความเห็นที่ 7.1.1
ความเห็นที่ 7.1.1.1
ความเห็นที่ 8
ความเห็นที่ 9
ความเห็นที่ 10
ความเห็นที่ 10.1
ส่วนลูกอ๊อดเป็นของกบเขาสูง (Clinotarsus alticolus)
ความเห็นที่ 10.1.1
ความเห็นที่ 11
ความเห็นที่ 11.1
http://www.siamensis.org/species_index#5906--Species:%20Devario%20regina
ความเห็นที่ 11.1.1
ความเห็นที่ 11.1.2
ความเห็นที่ 12
ความเห็นที่ 12.1
นกเด้าลมหลังเทา(Motacilla cinerea)
ความเห็นที่ 12.1.1
ความเห็นที่ 13
ความเห็นที่ 13.1
http://www.tourtamoan.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3131#54686
ความเห็นที่ 13.1.1
ความเห็นที่ 14
ความเห็นที่ 14.1
ความเห็นที่ 14.1.1
ลิงป่าโดยแท้ที่มีสัญชาตญาณดิบตามธรรมชาติแม้จ้องหน้าก็บ่เคืองแค้น เพราะเขาฉลาดพอที่ไม่อยากมีเรื่องโดยไม่จำเป็น แต่ผู้ใดอยากหาเรื่องก็มิใช่เรื่องยาก เป็นต้นว่าอาจทำท่าทีรักสัตว์แบบผิดกาละ โดยพยายามเข้าไปแตะเนื้อต้องตัวสมาชิกในฝูงหรือลูกเล็กเด็กแดง ซึ่งเท่าที่ทราบจากพรานเขาว่าลิงเสนนี่แหละเหี้ยมสุด (โม้ เปล่าหว่า)... ไอ้กระผมก็ไม่กล้าลองเพราะไม่ชอบแสดงกริยารักสัตว์หรืออยากทำให้คนอื่นเห็น ว่าเรารักสัตว์จากการแสดงกริยาดังกล่าว เพราะมักเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ผู้ที่รักสัตว์แบบครึ่งๆ กลางๆ อยากหาเขามาเลี้ยงซะนี่ ก็ต้องเอามาจากป่าแทบทั้งนั้น... เพียงแต่เมื่อลับตาก็ต้องแกล้งกันมั่ง เช่น เขกกบาล หรือจับดีดหู ฮ่าๆๆๆ
แต่ลิงเลี้ยงรวมทั้งลิงกึ่งธรรมชาติ โดยเฉพาะฝูงลิงแสมที่อยู่ในชุมชน หรือชุมชนเข้าไปแย่งที่เขา ต้องระวังให้จงหนัก เพราะอยู่ใกล้มนุษย์หรือโตขึ้นมากับมนุษษ์จึงรู้สันดานกันและกันเป็นอย่างดี ลิงเหล่านี้เขามีวิธีประเมินสถานการณ์แล้วรู้ด้วยว่ามนุษย์ตนใดกลัวหรือขาด ความยำเกรงพวกเขาหรือไม่เพียงใด ดังนั้นหากตะบะไม่แก่กล้าพอก็อย่าไปจ้องหน้าเขานานๆ แกล้งซื่อบื้อทำไม่รู้ไม่ชี้เสียดีกว่า... แต่เมื่อต้องเผชิญกับลิงเหล่านี้จะปลอดภัยกว่าหากมองผ่านๆ กวาดสายตาให้ทั่วเพื่อหาทางหนีทีไล่ คอยระวังเฉพาะตัวที่ดุซึ่งมักเป็นตัวผู้วัยรุ่นหรือตัวเต็มวัย... พวกทีมช่วยเหลือสัตว์ป่าบาดเจ็บรู้เรื่องนี้ดี จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะไม่อยากโด่งดังโดยไม่จำเป็น เช่น เข้าไปช่วยเหลือลิงเจ็บแล้วถูกลิงหมู่รุม กัดตูดขาด หากเป็นข่าวแบบนี้ก็งามหน้าเลยหละ ฮ่าๆๆๆๆ สังคมแทนที่จะสงสารคนที่ทุ่มเทไปช่วยกลับจะไปสงสารลิงแทน
แต่ในชะนีแล้วหากจ้องหน้านิ่งไว้กลับเป็นการดี เพราะจะเป็นนัยของการป้องปรามให้พวกมันชั่งใจไม่กล้าเข้าจู่โจมทันที
นอกจากนี้การยักคิ้วหลิ่วตา (ถ้าคนทำคงเป็นนัยเจ้าชู้กะล่อนทองกันทั้งหญิงชาย) แต่ในลิงมักทำพร้อมกับการยกคาง ค้อมตัวลงในท่าเตรียมพร้อมกระโจนเข้าหาพร้อมคำรามเบาๆ โดยมากจะพบในลิงที่อายุน้อยกำลังห้าวจัด ขณะที่ตัวเต็มวัยจะแสดงออกแค่การแยกเขี้ยวค้างไว้เท่านั้นเพราะมั่นใจในพละ กำลังและประสบการณ์ การตักเตือนข่มขู่อีกรูปแบบหนึ่งคืออ้าปากกว้างคล้ายหาวนอนจนมองเห็นฟัน เขี้ยวด้านบน....สำหรับมนุษย์จะไม่ใช้วิธีนี้เพราะกลัวฝ่ายตรงข้ามเห็นฟัน หลอ! แต่ก็เข้าท่าเหมือนกันนะ เพราะแทนที่จะเป็นการข่มขู่ แต่กลับทำให้ศัตรูหายเคืองชั่วขณะ เพราะกลั้นหัวเราไม่อยู่กับคุณหลอ
แต่กระผมทิ้งท้ายไว้สักหน่อยเพื่อความปลอดภัย หากผู้ใดไปลองตามที่ว่ามาแล้วมิได้เป็นเช่นนั้น แถมยังถูกกัดตูดขาด ถูกทึ้งเกษาที่มีน้อยอยู่แล้วจนแหว่งวิ่นไปอีก ฯลฯ ก็ขอออกตัวว่าวานรแต่ละชีวิตมีความเป็นปัจเจกบุคคลสูงยิ่งนักไม่ต่างจากวานร มนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ กล่าวคือ 100 ตัว นิสัยต่างกันไปร้อยตัว เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนตัวต่างก็ผิดแผกกันไป... พฤติกรรมวานรที่กล่าวมาจึงเป็นเพียงภาพลวง เฮ้ย! ภาพรวมเท่านั้นจึงอย่าไปไปเหมาหมด ... สรุปก็คือ ฮ่าๆๆๆ ตัวใครตัวมันครับ ผลเป็นไงมาเล่าให้ฟังมั่งนะครับ
ความเห็นที่ 15
ความเห็นที่ 15.1
ความเห็นที่ 16
ความเห็นที่ 16.1
ความเห็นที่ 16.1.1
ความเห็นที่ 16.2
แต่กับค่างนี่ไม่ยักระแวงแฮะ รู้สึกไว้ใจมากกว่า แต่ก็ไม่เข้าใกล้ถ้าไม่จำเป็นเหมือนกัน
ความเห็นที่ 16.3
การบำบัดแบบนี้ดูเหมือนจะไม่มีผู้ใดกล้าลอง ขนาด มล จันทร์ลา ที่ว่าแน่ เคยโดนก้นขวดช้างจากมือหวานใจ เปรี้ยง! ลงหางคิ้งข้างหนึ่ง จนมีหมายเลขก้นขวดติดตรึงใจตรงขอบขมับมาทุกวันนี้ ไม่เชื่อหากเจอตัวเป็นๆ ก็ลองใช้ศิลปะตะล่อมถามดู แต่อย่าไปเผลอจับพี่ท่านขูดหาหมายเลขที่ว่าไปแทงหวยหละ ... ผมก็ได้แนะนำการบำบัดให้ตามแบบที่ว่ามานั่นแหละครับ คือต้องปรับศูนย์ใหม่โดยให้โดนอีกข้าง ฮ่าๆๆๆๆ แต่ท่านไม่ยักคล้อยตามแฮะ (หน้าตาแบบนี้ ตรูก็ฉลาดเหมียนกันว๊อย)... สงสัยติดสุขกับเสียศูนย์+สูญเสียไปแล้วก็เป็นได้
ความเห็นที่ 17
(กะล่อน) พ้องเสียง ไม่พ้องรูป
ความเห็นที่ 17.1
ความเห็นที่ 18