Skip to main content
เข้าสู่ระบบ
|
สมัครสมาชิก
หมวดหมู่:
- ทั้งหมด -
ดัชนีสิ่งมีชีวิต
พิมพ์คำที่ต้องการค้นหา:
กลุ่มอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม
Home
Article
Species Index
Webboard
Documents
Quizzes
หน้าแรก
»
บอร์ดพูดคุย
»
Plant : พืช
»
การถ่ายภาพไมโคร
เลือกหมวดหมู่
All Category : ทั้งหมด
Bird : นก
Crustacean : ปูและกุ้ง
Environment : สิ่งแวดล้อม
Fish : ปลา
Fungi : เห็ดรา
Herp : เลื้อยคลานและครึ่งบกครึ่งน้ำ
Insect : แมลง
Mammal : เลี้ยงลูกด้วยนม
Mollusk : หอย
Other Arthropods : สัตว์ขาข้ออื่นๆ
Plant : พืช
Travel : ท่องเที่ยว
Others : อื่นๆ
การถ่ายภาพไมโคร
เขียนโดย lepton
Authenticated user
เมื่อ 11 มีนาคม 2554
ใครถ่ายเป็นสอนหน่อยสิครับ เพราะเวลาจะถ่ายภาพพวกดอกไม้ที่อยู่ตามต้น หรือลูกไม้เล็ก ๆ ที่มีแค่ลูก 2 ลูก (บนต้นไม้) มันจะเบลอ (กล้องออโต้) เอาพื้นหลังเป็นภาพแทนอะครับ
ใครก็ได้สอนที
‹ ต้นอะไรครับ(ที่ภูทับเบิก)
มันต้นอะไรครับ ›
Plant : พืช
ล็อกอิน
หรือ
ลงทะเบียน
เพื่อแสดงความคิดเห็น
อ่าน 4880 ครั้ง
Comments
ความเห็นที่ 1
เขียนโดย Due_n
Authenticated user
เมื่อ 11 มีนาคม 2554
ไม่ทราบว่าใช้กล้องประเภทไหนครับ? ถ้ากล้องคอมแพ็ค ก็กดปุ่มมาโคร (มักจะเป็นภาพดอกไม้) ครับ
ล็อกอิน
หรือ
ลงทะเบียน
เพื่อแสดงความคิดเห็น
ความเห็นที่ 2
เขียนโดย GreenEyes
Authenticated user
เมื่อ 11 มีนาคม 2554
เอาเป็นว่าสิ่งที่ต้องคำนึงคือ
กล้องมีระยะที่มันโฟกัสได้ ใกล้ไปจะโฟกัสไม่ได้
ถ้าเป็นคอมแพค ให้ปรับเป็นโหมดมาโครก่อน สัญลักษณ์คือ รูปดอกไม้ กดแล้วหน้าจอน่าจะมีสัญลักษณ์นั้นขึ้น
การโฟกัสต้องพึ่งสภาพแสงเป็นสำคัญ ไม่ใช่ว่าเรามองเห็นชัดจะแปลว่ากล้องมองเห็นชัด ถ้าแสงสลัวๆ หรือย้อนแสง จะทำให้กล้องไม่สามารถจับเป้าได้ครับ
สามข้อนี้เพื่อให้โฟกัสได้ ส่วนเรื่องการถ่าย ให้ศึกษาความสัมพันธ์ของสามสิ่ง Speed F และ ISO
ล็อกอิน
หรือ
ลงทะเบียน
เพื่อแสดงความคิดเห็น
ความเห็นที่ 2.1
เขียนโดย chao
Authenticated user
เมื่อ 12 มีนาคม 2554
หุหุ ตัวจริง มาเอง
คือตอนนี้ผมก็เล็งๆ มาโคร ไว้เหมือนกันครับ
ขอถามต่อในนี้เลยแล้วกันว่า
พี่ตาเขียวพอมี มาโคร ตัวไหนแนะนำบ้างครับ
(งบไม่สูงมากนะครับ ><)
จุดประสงค์ที่จะนำมาใช้ไม่มีนะครับแหะๆ (หรือจำเป็น)--> เท่าที่นึกออก ก็ถ่ายทั่วๆไป ที่มันขึ้นกับแต่ละสถานการณ์ที่จำเป็นครับ
ล็อกอิน
หรือ
ลงทะเบียน
เพื่อแสดงความคิดเห็น
ความเห็นที่ 3
เขียนโดย Drider
Authenticated user
เมื่อ 14 มีนาคม 2554
สำหรับกล้อง Compact ถ้าตัวแบบอยู่ใกล้ สามารถใช้โหมดมาโครได้เลย แต่ต้องใช้ระยะโฟกัสที่สั้น คือหน้าเลนส์อยู่ใกล้ตัวแบบนั่นเอง เพราะกล้องแบบนี้ส่วนมากแล้วสามารถถ่ายมาโครได้ที่ระยะใกล้มากถึง 1 cm ได้เลย แต่ถ้าตัวแบบอยู่ไกลจะไม่สามารถดึงซูมเพื่องให้คมชัดได้ครับ
สำหรับกล้อง DSLR ที่ไม่ได้ติดเลนส์มาโคร จะไม่สามารถแบบมาโครได้ครับ แต่ก็สามารถถ่ายแบบ Close up ได้ (ทั้งเลนส์ระยะ Normal และ Tele) เพราะมาโครจริงๆ คือการถ่ายด้วยอัตราขยาย 1:1 ซึ่งเลนส์สามารถถ่ายได้ด้วยอัตราขนาดนั้นคือเลนส์มาโครเท่านั้น ส่วนเลนส์อื่นที่เขียนว่ามาโครได้นั้น จะเป็นอัตราขยายสูงสุดที่ 1:2 ครับ
พูดถึงเลนส์ Normal หรือ Tele ถ้าตัวแบบไม่เล็กมากก็สามารถถ่ายได้ ด้วยการหมุนซูมให้สุด โดยที่ให้หน้าเลนส์อยู่ในระยะใกล้สุดเท่าที่จะโฟกัสได้ (เลนส์บางตัวจะเข้าโหมดมาโครทันที่เมื่อทำอย่างนี้ เช่น 24-105 f4 L is) ถ้าใช้ f สูงแล้วไม่มีแฟลชช่วย จะทำให้ต้องใช้ s ต่ำซึ่งยากที่จะถือด้วยมือได้ ต้องใช้ขาตั้งช่วย (ในกรณีที่ถ่ายตัวแบบที่ไม่เคลื่อนไหว หรือสภาพลมที่นิ่ง) อาจจะต้องดัน iso ช่วยบ้าง เพื่อให้ s ไม่ต่ำจนเกินไป แต่ถ้ามีแฟลชช่วยก็ง่ายขึ้นมากครับ สามารถวัดแสงให้ Under ได้เล็กน้อย แล้วใช้แฟลชเป็นแสงรอง จะสามารถเก็บ Background ได้ด้วย (หมายถึง BG ที่อยู่ไกลจากตัวแบบนะครับ ถ้า BG อยู้ใกล้ตัวแบบจนแสงแฟลชไปถึง สามารถใช้ s สูง+แสงแฟลชเป็นแสงหลักได้ครับ) หรือถ้าไม่ต้องการ BG จะใช้ s สูง iso ต่ำ แล้วใช้แฟลชเป็นหลักไปเลยก็จะได้ภาพหลังดำมาแทนครับ
ส่วนถ้าเป็นเลนส์มาโคร จะซูมไม่ได้เนื่องจากเป็นเลนส์ Fix ไม่มีวงแหวนซูม แต่ก็สามารถทำงานได้คล้ายๆ การซูม ซึ่งเป็นการเพิ่มอัตราขยายนั่นเอง การถ่ายมาโครด้วยเลนส์นี้มีจุดเด่นที่อัตราขยายนี่แหละครับ ที่จะได้สูงถึง 1:1 สามารถเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า ใช้ f ได้สูงได้ถึง 32 แต่ค่อนข้างจะจำเป็นที่ต้องมีแฟลชครับ เพราะยิ่ง f สูงเท่าไร ความต้องการแสงก็ยิ่งมากเท่านั้น การถ่ายตัวแบบที่ไม่ใหญ่มากนั้นทำงานได้โดยใช้ออโตโฟกัส AF ได้ แต่ถ้าตัวแบบเล็กก็ควรใช้แมนนวลโฟกัส MF จะแม่นยำกว่ามาก แต่ทั้งนี้ผู้ถ่ายต้องมีความเคยชินหน่อยนะครับ นอกนั้นก็ใช้หลักการวัดแสงเหมือนปกติครับ จะใช้แฟลชเป็นแสงหลัก หรือแสงรอง ก็ตามที่ต้องการครับ ซึ่งอยู่ที่เราเองว่าต้องการภาพแบบไหน เพื่อให้ทุกอย่างสมพันธ์กัน ทั้ง s, f, iso ปริมาณ และทิศทางของแสง แต่ต้องคำนึงไว้ว่า s ต้องสูงพอที่จะทำให้ภาพไม่สั่นไหวได้นะครับ ถึงแม่จะมีแสงจากแฟลชมาช่วยแล้วก็ตาม ซึ่ง s ปกติที่ใช้แล้วไม่สั่นไหว คิดกันง่ายๆ ตามระยะของเลนส์ครับ เช่น เราใช้ช่วงซูม 100 ก็ใช้ s 1/100 อาจจะไม่ตรง 100% เพราะขึ้นอยู่กับความนิ่งของผู้ถ่ายเป็นสำคัญครับ
ขอแนะนำเลนส์มาโครไว้สักหน่อยครับ สำหรับกล้องทุกค่าย เลนส์ค่ายน่าใช้ และดีที่สุดแล้วครับ และแนะนำระยะ 100 เนื่องจากใช้งานได้หลากหลายกว่า และระยะโฟกัสไม่น้อยจนเกินไป ทำให้การเข้าใกล้แมลง หรือสัตว์เล็กๆ ไม่มากเกินไปจนทำให้พวกเขาหนีกันซะก่อน สำหรับ Canon ผมคิดว่า 100 Macro ธรรมดาก็เพียงพอแล้ว (ผมก็ใช้ตัวนี้มานานมาก) ด้วยราคาประมาณ 17000 ก็ไม่หนักเกินไป แต่ถ้ามีงบจะเล่น 100 Macro L ก็ได้ครับ เพิ่มมาอีกประมาณ 10000 กว่าบาท ได้ระบบกันสั่น IS มา และคุณภาพของชิ้นเลนส์ที่สูงขึ้น ก็นับว่าโอเคครับ ส่วน Nikon ตอนนี้ไม่มีตัวเลือกมากนัก Macro 105 Nano ตัวตัวเลือกเดียว ราคาพอๆ กับ L แต่คุณภาพก็ดีมากเช่นกัน ตัวที่ไม่ใช่ Nano เลิกผลิตไปนานแล้วครับ แต่ยังพอหาได้บ้างในตลาดมือสอง
ล็อกอิน
หรือ
ลงทะเบียน
เพื่อแสดงความคิดเห็น
ความเห็นที่ 4
เขียนโดย whelp
Authenticated user
เมื่อ 14 มีนาคม 2554
คุณพี่ drider ร่ายยาวเชียวค่ะ....^^
ล็อกอิน
หรือ
ลงทะเบียน
เพื่อแสดงความคิดเห็น
ความเห็นที่ 5
เขียนโดย GreenEyes
Authenticated user
เมื่อ 14 มีนาคม 2554
เลนส์หรอ เลนส์มาโคร เอาจริงๆแล้ว ถูกๆไม่มี
ระยะใกล้ๆ ถ่ายยากหน่อย ไม่อยากแนะนำ ยิ่งใกล้ยิ่งมีปัญหากับแสงด้วย
CANON EF 50/2.5 Macro 12,800B
CANON EFS 60/2.8 Macro 17,800B
SIGMA 50mm F2.8 EX DG MACRO 13,200B
ระยะกลางๆ กำลังเหมาะ
CANON EF 100/2.8 USM Macro 19,800B
CANON EF 100/2.8L IS USM Macro 35,900B
SIGMA 105mm F2.8 EX DG MACRO 14,900 19,000 16,400B ไม่แน่ไม่นอน ลองหาดู
TONIKA AF 100/2.8 Macro 1:1 For Canon 13,000B
TAMRON SP AF 90mm F/2.8 Di 13,800B
ถ้าจะถ่ายแมลงปอ ระยะไกลหน่อย (เข้าใกล้ลำบาก) สำหรับแมลงปอที่ไม่ใช่แมลงปอเข็ม เน้นช่วงเทเลระดับกลางๆ (เลนส์ 100mm ถ่ายยาก)
SIGMA 70-300mm F4-5.6 APO DG MACRO 8,700B
Canon EFS 55-250 IS 8,800B
ทั้งสองตัวคุณภาพพอใช้ ไม่ได้ดีเลิศอะไรนะ
หรือ ไม่งั้น ต้องประยุกต์เอง เอามาโครฟิลเตอร์มาใช้ มันเป็นพวก wide converter (ราคา 2,xxxB) แต่มันจะมีมาโครฟิลเตอร์แปะก้นตัวนี้มา ให้ถอดมาใช้ เวลาถ่ายใช้แฟลชช่วย
เวลา่ถ่าย ให้ลองปรับซูมหลายๆแบบ โฟกัสหลายๆระยะ แล้วมาดูว่า คมที่ตรงไหน เบี้ยวที่ตรงไหน จำจุดที่ดีไว้ แล้วใช้ตรงนั้น (มันไม่ได้คมไปทุกช่วง)
แต่ปกติผมจะแนะนำให้ซื้อแฟลชก่อนเลนส์ ถ้าเดินกลางคืน หรือถ่ายในที่ร่มบ่อยๆ
แฟลชจีน 3xxx-4xxxB wireless อีก 1xxxB เคยถามให้ปิ่นที่ MBK
ตัวผมเองใช้ 100macro ของ canon แฟลช canon กับ wireless จีน
ล็อกอิน
หรือ
ลงทะเบียน
เพื่อแสดงความคิดเห็น
ความเห็นที่ 6
เขียนโดย chao
Authenticated user
เมื่อ 14 มีนาคม 2554
ขอบคุณมากๆครับ ^^
ได้คำแนะนำดีๆ เยอะเลย
แฟลชตอนนี้ใช้ของเก่าอยู่ครับน่าจะเป็นของจีน ของพ่อ แหะๆ จิ๊กมาๆ 55+
ล็อกอิน
หรือ
ลงทะเบียน
เพื่อแสดงความคิดเห็น
ความเห็นที่ 7
เขียนโดย GreenEyes
Authenticated user
เมื่อ 15 มีนาคม 2554
ู^
แฟลชตัวแรกของผมก็แฟลชโบราณๆ ของพานา เอามาแมนนวลได้ สุดท้ายตกน้ำพังที่น้ำหนาว
ล็อกอิน
หรือ
ลงทะเบียน
เพื่อแสดงความคิดเห็น
Comments
ความเห็นที่ 1
ความเห็นที่ 2
- กล้องมีระยะที่มันโฟกัสได้ ใกล้ไปจะโฟกัสไม่ได้
- ถ้าเป็นคอมแพค ให้ปรับเป็นโหมดมาโครก่อน สัญลักษณ์คือ รูปดอกไม้ กดแล้วหน้าจอน่าจะมีสัญลักษณ์นั้นขึ้น
- การโฟกัสต้องพึ่งสภาพแสงเป็นสำคัญ ไม่ใช่ว่าเรามองเห็นชัดจะแปลว่ากล้องมองเห็นชัด ถ้าแสงสลัวๆ หรือย้อนแสง จะทำให้กล้องไม่สามารถจับเป้าได้ครับ
สามข้อนี้เพื่อให้โฟกัสได้ ส่วนเรื่องการถ่าย ให้ศึกษาความสัมพันธ์ของสามสิ่ง Speed F และ ISOความเห็นที่ 2.1
คือตอนนี้ผมก็เล็งๆ มาโคร ไว้เหมือนกันครับ
ขอถามต่อในนี้เลยแล้วกันว่า
พี่ตาเขียวพอมี มาโคร ตัวไหนแนะนำบ้างครับ
(งบไม่สูงมากนะครับ ><)
จุดประสงค์ที่จะนำมาใช้ไม่มีนะครับแหะๆ (หรือจำเป็น)--> เท่าที่นึกออก ก็ถ่ายทั่วๆไป ที่มันขึ้นกับแต่ละสถานการณ์ที่จำเป็นครับ
ความเห็นที่ 3
สำหรับกล้อง DSLR ที่ไม่ได้ติดเลนส์มาโคร จะไม่สามารถแบบมาโครได้ครับ แต่ก็สามารถถ่ายแบบ Close up ได้ (ทั้งเลนส์ระยะ Normal และ Tele) เพราะมาโครจริงๆ คือการถ่ายด้วยอัตราขยาย 1:1 ซึ่งเลนส์สามารถถ่ายได้ด้วยอัตราขนาดนั้นคือเลนส์มาโครเท่านั้น ส่วนเลนส์อื่นที่เขียนว่ามาโครได้นั้น จะเป็นอัตราขยายสูงสุดที่ 1:2 ครับ
พูดถึงเลนส์ Normal หรือ Tele ถ้าตัวแบบไม่เล็กมากก็สามารถถ่ายได้ ด้วยการหมุนซูมให้สุด โดยที่ให้หน้าเลนส์อยู่ในระยะใกล้สุดเท่าที่จะโฟกัสได้ (เลนส์บางตัวจะเข้าโหมดมาโครทันที่เมื่อทำอย่างนี้ เช่น 24-105 f4 L is) ถ้าใช้ f สูงแล้วไม่มีแฟลชช่วย จะทำให้ต้องใช้ s ต่ำซึ่งยากที่จะถือด้วยมือได้ ต้องใช้ขาตั้งช่วย (ในกรณีที่ถ่ายตัวแบบที่ไม่เคลื่อนไหว หรือสภาพลมที่นิ่ง) อาจจะต้องดัน iso ช่วยบ้าง เพื่อให้ s ไม่ต่ำจนเกินไป แต่ถ้ามีแฟลชช่วยก็ง่ายขึ้นมากครับ สามารถวัดแสงให้ Under ได้เล็กน้อย แล้วใช้แฟลชเป็นแสงรอง จะสามารถเก็บ Background ได้ด้วย (หมายถึง BG ที่อยู่ไกลจากตัวแบบนะครับ ถ้า BG อยู้ใกล้ตัวแบบจนแสงแฟลชไปถึง สามารถใช้ s สูง+แสงแฟลชเป็นแสงหลักได้ครับ) หรือถ้าไม่ต้องการ BG จะใช้ s สูง iso ต่ำ แล้วใช้แฟลชเป็นหลักไปเลยก็จะได้ภาพหลังดำมาแทนครับ
ส่วนถ้าเป็นเลนส์มาโคร จะซูมไม่ได้เนื่องจากเป็นเลนส์ Fix ไม่มีวงแหวนซูม แต่ก็สามารถทำงานได้คล้ายๆ การซูม ซึ่งเป็นการเพิ่มอัตราขยายนั่นเอง การถ่ายมาโครด้วยเลนส์นี้มีจุดเด่นที่อัตราขยายนี่แหละครับ ที่จะได้สูงถึง 1:1 สามารถเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า ใช้ f ได้สูงได้ถึง 32 แต่ค่อนข้างจะจำเป็นที่ต้องมีแฟลชครับ เพราะยิ่ง f สูงเท่าไร ความต้องการแสงก็ยิ่งมากเท่านั้น การถ่ายตัวแบบที่ไม่ใหญ่มากนั้นทำงานได้โดยใช้ออโตโฟกัส AF ได้ แต่ถ้าตัวแบบเล็กก็ควรใช้แมนนวลโฟกัส MF จะแม่นยำกว่ามาก แต่ทั้งนี้ผู้ถ่ายต้องมีความเคยชินหน่อยนะครับ นอกนั้นก็ใช้หลักการวัดแสงเหมือนปกติครับ จะใช้แฟลชเป็นแสงหลัก หรือแสงรอง ก็ตามที่ต้องการครับ ซึ่งอยู่ที่เราเองว่าต้องการภาพแบบไหน เพื่อให้ทุกอย่างสมพันธ์กัน ทั้ง s, f, iso ปริมาณ และทิศทางของแสง แต่ต้องคำนึงไว้ว่า s ต้องสูงพอที่จะทำให้ภาพไม่สั่นไหวได้นะครับ ถึงแม่จะมีแสงจากแฟลชมาช่วยแล้วก็ตาม ซึ่ง s ปกติที่ใช้แล้วไม่สั่นไหว คิดกันง่ายๆ ตามระยะของเลนส์ครับ เช่น เราใช้ช่วงซูม 100 ก็ใช้ s 1/100 อาจจะไม่ตรง 100% เพราะขึ้นอยู่กับความนิ่งของผู้ถ่ายเป็นสำคัญครับ
ขอแนะนำเลนส์มาโครไว้สักหน่อยครับ สำหรับกล้องทุกค่าย เลนส์ค่ายน่าใช้ และดีที่สุดแล้วครับ และแนะนำระยะ 100 เนื่องจากใช้งานได้หลากหลายกว่า และระยะโฟกัสไม่น้อยจนเกินไป ทำให้การเข้าใกล้แมลง หรือสัตว์เล็กๆ ไม่มากเกินไปจนทำให้พวกเขาหนีกันซะก่อน สำหรับ Canon ผมคิดว่า 100 Macro ธรรมดาก็เพียงพอแล้ว (ผมก็ใช้ตัวนี้มานานมาก) ด้วยราคาประมาณ 17000 ก็ไม่หนักเกินไป แต่ถ้ามีงบจะเล่น 100 Macro L ก็ได้ครับ เพิ่มมาอีกประมาณ 10000 กว่าบาท ได้ระบบกันสั่น IS มา และคุณภาพของชิ้นเลนส์ที่สูงขึ้น ก็นับว่าโอเคครับ ส่วน Nikon ตอนนี้ไม่มีตัวเลือกมากนัก Macro 105 Nano ตัวตัวเลือกเดียว ราคาพอๆ กับ L แต่คุณภาพก็ดีมากเช่นกัน ตัวที่ไม่ใช่ Nano เลิกผลิตไปนานแล้วครับ แต่ยังพอหาได้บ้างในตลาดมือสอง
ความเห็นที่ 4
คุณพี่ drider ร่ายยาวเชียวค่ะ....^^
ความเห็นที่ 5
ระยะใกล้ๆ ถ่ายยากหน่อย ไม่อยากแนะนำ ยิ่งใกล้ยิ่งมีปัญหากับแสงด้วย
CANON EF 50/2.5 Macro 12,800B
CANON EFS 60/2.8 Macro 17,800B
SIGMA 50mm F2.8 EX DG MACRO 13,200B
ระยะกลางๆ กำลังเหมาะ
CANON EF 100/2.8 USM Macro 19,800B
CANON EF 100/2.8L IS USM Macro 35,900B
SIGMA 105mm F2.8 EX DG MACRO 14,900 19,000 16,400B ไม่แน่ไม่นอน ลองหาดู
TONIKA AF 100/2.8 Macro 1:1 For Canon 13,000B
TAMRON SP AF 90mm F/2.8 Di 13,800B
ถ้าจะถ่ายแมลงปอ ระยะไกลหน่อย (เข้าใกล้ลำบาก) สำหรับแมลงปอที่ไม่ใช่แมลงปอเข็ม เน้นช่วงเทเลระดับกลางๆ (เลนส์ 100mm ถ่ายยาก)
SIGMA 70-300mm F4-5.6 APO DG MACRO 8,700B
Canon EFS 55-250 IS 8,800B
ทั้งสองตัวคุณภาพพอใช้ ไม่ได้ดีเลิศอะไรนะ
หรือ ไม่งั้น ต้องประยุกต์เอง เอามาโครฟิลเตอร์มาใช้ มันเป็นพวก wide converter (ราคา 2,xxxB) แต่มันจะมีมาโครฟิลเตอร์แปะก้นตัวนี้มา ให้ถอดมาใช้ เวลาถ่ายใช้แฟลชช่วย
เวลา่ถ่าย ให้ลองปรับซูมหลายๆแบบ โฟกัสหลายๆระยะ แล้วมาดูว่า คมที่ตรงไหน เบี้ยวที่ตรงไหน จำจุดที่ดีไว้ แล้วใช้ตรงนั้น (มันไม่ได้คมไปทุกช่วง)
แต่ปกติผมจะแนะนำให้ซื้อแฟลชก่อนเลนส์ ถ้าเดินกลางคืน หรือถ่ายในที่ร่มบ่อยๆ
แฟลชจีน 3xxx-4xxxB wireless อีก 1xxxB เคยถามให้ปิ่นที่ MBK
ตัวผมเองใช้ 100macro ของ canon แฟลช canon กับ wireless จีน
ความเห็นที่ 6
ได้คำแนะนำดีๆ เยอะเลย
แฟลชตอนนี้ใช้ของเก่าอยู่ครับน่าจะเป็นของจีน ของพ่อ แหะๆ จิ๊กมาๆ 55+
ความเห็นที่ 7
แฟลชตัวแรกของผมก็แฟลชโบราณๆ ของพานา เอามาแมนนวลได้ สุดท้ายตกน้ำพังที่น้ำหนาว